แสนสิริ เสนอขายหุ้นกู้ เรทติ้ง BBB+ ดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี
แสนสิริ x ลงทุนแมน
หากพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย
หนึ่งในนั้นที่หลายคนนึกถึงก็คือ แสนสิริ
แสนสิริ ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำตลาดที่อยู่อาศัย จากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ
ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญกว่า 37 ปี ภายใต้แบรนด์ที่แข็งแกร่งและเข้าถึงลูกค้าในทุกระดับราคา
จนได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าในการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน”
จากการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย
ล่าสุด แสนสิริ กำลังจะเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ในรูปแบบ หุ้นกู้ เรทติ้ง BBB+ ดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี ให้กับผู้ลงทุน
แล้วหุ้นกู้ของแสนสิริ มีรายละเอียดเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนหน้านี้ แสนสิริเคยเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 3,600 ล้านบาท เมื่อช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา
ซึ่งก็มีนักลงทุนให้ความสนใจในการลงทุนสูงเกือบ 4,000 ล้านบาท
สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนให้ความสนใจในหุ้นกู้แสนสิริไม่น้อย
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีให้กับแสนสิริ นั่นเอง
ในช่วงเวลานี้ แม้จะมีการระบาดของโควิด 19
แต่ผลการดำเนินงานของแสนสิริยังคงแข็งแกร่ง
อาทิ
- ยอดขายรอบ 7 เดือน ล่าสุดรวม 20,600 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 70% จากเป้าหมายยอดขาย 31,000 ล้านบาท
- ผลงานการโอนที่โดดเด่นในช่วง 7 เดือน โดยมียอดโอนไปแล้วถึง 18,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 60% จากเป้าหมายยอดโอน 31,000 ล้านบาท
- สภาพคล่องในมือกว่า 17,000 ล้านบาท
- มี Secured Revenue ไปแล้วถึง 83% ของเป้ารายได้ 27,600 ล้านบาท
ตอกย้ำความเชื่อมั่นและสะท้อนความแข็งแกร่งในทุกสภาวะเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ แสนสิริยังพร้อมเดินหน้าลุยต่อในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
โดยมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท
ด้วยแผนความพร้อมในการปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
ที่น่าสนใจคือ กลยุทธ์ธุรกิจของแสนสิริ ในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างกลยุทธ์ “Speed to Market” การมองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวในทุกสถานการณ์
และการเลือกพัฒนาโครงการที่มีขนาดไม่ใหญ่ กระจายในหลายทำเล เพื่อให้เป็นสินค้าที่เหมาะสมกับตลาด
และสร้างเงินสดกลับคืนมาได้เร็ว
ไม่เพียงให้ความสำคัญในด้านการเดินหน้าธุรกิจ
แสนสิริ ยังมองเห็นความสำคัญของการบริหารเงินทุน อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ แสนสิริจึงได้เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน
เพื่อสร้างเสถียรภาพในการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้ง การบริหารเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
โดยความน่าสนใจของหุ้นกู้แสนสิริในครั้งนี้ ก็คือ
- เป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
- หุ้นกู้มีอายุ 3 ปี 6 เดือน
- หุ้นกู้มีอัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี โดยจะจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
ซึ่งทริสเรทติ้ง ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้แสนสิริในครั้งนี้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564)
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้แสนสิริสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท
ซึ่งจะเสนอขายระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2564
และด้วยสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อผ่านระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ หรือสามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านทางโทรศัพท์บันทึกเสียงโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขา (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการของแต่ละผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้) โดยผ่าน 10 สถาบันการเงินชั้นนำ ประกอบด้วย
6 ธนาคารพาณิชย์ ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333
(โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bualuang mBanking ได้อีก 1 ช่องทาง)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111
(โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai ได้อีก 1 ช่องทาง)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2888-8888 ต่อ 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest
(ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2777-6784
(โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easy ได้อีก 1 ช่องทาง)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2626-7777
(โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 1428 กด #4 (เปิดจองซื้อเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น)
4 บริษัทหลักทรัพย์ ได้แก่
- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
(รวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขาย) โทร. 0-2165-5555 (สามารถจองซื้อผ่านทางโทรศัพท์บันทึกเสียงได้)
- บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด โทร. 0-2695-5000 (สามารถจองซื้อผ่านทางโทรศัพท์บันทึกเสียงได้)
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 0-2680-4004 (สามารถจองซื้อผ่านทางโทรศัพท์บันทึกเสียงได้)
- บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด โทร. 0-2625-2442
คำเตือน:
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน
การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過5萬的網紅mathuniver,也在其Youtube影片中提到,บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK) ยื่นแบบแสดงรายการต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขาย #หุ้นกู้ ขอ...
ฟินันเซีย ไซรัส 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
'หุ้นกู้ EDL-Gen’ โอกาสการลงทุนในพลังงานสะอาดที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน
EDL-Gen x ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่า ไทยซื้อไฟฟ้าจากประเทศใดมากที่สุด ?
ปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในไทยกว่า 5,721 เมกะวัตต์ หรือ 12% ของกำลังการผลิตในระบบ มาจากผู้ผลิตในต่างประเทศ
โดยเกือบทั้งหมดเป็นการนำเข้าจาก สปป.ลาว ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ
สอดคล้องกับข้อมูลของธนาคารแห่ง สปป.ลาว ที่รายงานว่า ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกหลักของประเทศ
ถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่า ทำไม สปป.ลาว ผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำได้มากขนาดนั้น ?
ด้วยภูมิศาสตร์ของประเทศที่อุดมสมบูรณ์ เป็นภูเขาสูง มีแม่น้ำหลายสาย รวมถึงนโยบายของรัฐที่เปิดกว้างให้ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระในภาคเอกชนร่วมลงทุน ทำให้ สปป.ลาว ก้าวสู่การเป็นผู้นำผลิตพลังงานสะอาดในภูมิภาคอาเซียนได้
โดยหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดรายใหญ่ ที่ส่งออกไฟฟ้าให้ไทยคือ ‘บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน)’ หรือ EDL-Gen’
ธุรกิจของ EDL-Gen มีความน่าสนใจและมีบทบาทใน สปป.ลาว อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
EDL-Gen เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ที่ทำธุรกิจมายาวนานกว่า 50 ปี
โดยบริษัทฯ ได้นำมาตรฐาน ISO14001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด มาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าผ่านเขื่อนที่ให้น้ำไหลผ่านตลอดเวลา (Run-off-the-river)
ซึ่งรูปแบบของ Run-off-the-river คือปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าจะเท่ากับปริมาณน้ำที่ไหลออก โดยจะไม่มีการเปลี่ยนทิศทางน้ำหรือกักเก็บน้ำไว้เหนือเขื่อน
เพราะฉะนั้น ระดับน้ำและคุณภาพน้ำจะเป็นไปตามธรรมชาติ ทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน
จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม รวมถึงไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์น้ำในลุ่มน้ำโขง
ปัจจุบัน EDL-Gen มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,949 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว 27 โครงการ กำลังการผลิตรวม 1,683 เมกะวัตต์
แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ EDL-Gen เป็นเจ้าของ 100% จำนวน 11 โครงการ และโครงการร่วมภาคเอกชน (IPP) 16 โครงการ
ซึ่งไทยถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อไฟฟ้าจาก EDL-Gen ในสัดส่วนสูงถึง 42% ของปริมาณการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด
แล้วฐานะการเงินของ EDL-Gen เป็นอย่างไร ?
ปี 2561 สินทรัพย์ 75,149 ล้านบาท รายได้ 5,964 ล้านบาท
ปี 2562 สินทรัพย์ 78,825 ล้านบาท รายได้ 5,292 ล้านบาท
ปี 2563 สินทรัพย์ 82,313 ล้านบาท รายได้ 5,698 ล้านบาท
สำหรับการเติบโตของ EDL-Gen หลังจากนี้ บริษัทฯ จะเปิดให้เอกชนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าร่วมลงทุน
เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,435 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 42 โครงการ ภายในปี 2572
แบ่งเป็นโครงการที่ลงทุนและพัฒนาเอง 18 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 974 เมกะวัตต์
และโครงการร่วมทุน 24 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนถือหุ้นรวม 1,461 เมกะวัตต์
สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในอาเซียนที่ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของภาพรวมเศรษฐกิจและวิชั่นของ EDL-Gen ที่จะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่มั่นคงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
และขับเคลื่อน สปป.ลาว ให้พัฒนาสู่การเป็นผู้นำการผลิตพลังงานสะอาดของภูมิภาค
ตามเทรนด์ Green Energy ที่เป็นเมกะเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ
หลายปีที่ผ่านมา ไทยได้พึ่งพิงพลังงานไฟฟ้าจาก สปป.ลาว เป็นจำนวนมาก
จากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศปี 2561-2580 (PDP 2018) ก็ระบุว่า ประเทศไทยสามารถรับซื้อ ไฟฟ้าจากต่างประเทศได้อีก 3,500 เมกะวัตต์ โดยจะเป็นการซื้อจาก สปป.ลาว ในปริมาณกว่า 3,000 เมกะวัตต์
เร็ว ๆ นี้ EDL-Gen เตรียมเสนอขายหุ้นกู้มูลค่ารวมไม่เกิน 6,000 ล้านบาท จำนวนหน่วยที่เสนอขายไม่เกิน 6 ล้านหน่วย
ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 หรือมีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.90% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปี 2564
โดยหุ้นกู้และผู้ออกหุ้นกู้ EDL-Gen ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “BBB-” และแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564
หุ้นกู้จะถูกเสนอขายแก่นักลงทุนสถาบัน และ/หรือ นักลงทุนรายใหญ่ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100 หน่วย
ที่บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), และ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จํากัด (มหาชน) จองซื้อประมาณวันที่ 5, 6, 7 กรกฎาคม 2564
โดยมี บริษัท ทวิน ไพน์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาการเงินชั้นนำในการระดมทุนให้กลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย (CLMVT) เป็นที่ปรึกษาในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของ EDL-Gen ครั้งนี้
สำหรับนักลงทุนที่สนใจหุ้นกู้ EDL-Gen สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.edlgen.com.la
คำเตือน
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
References
- EDL-Gen’s Presentation
- https://www.facebook.com/thematterco/posts/2054511904764201/
- https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=80&Itemid=116
- https://thaipublica.org/2021/04/edl-gen-supports-lao-to-become-asean-clean-energy-leader/
ฟินันเซีย ไซรัส 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
TTA x ลงทุนแมน
TTA เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ดอกเบี้ย 5% ต่อปี เปิดจองซื้อ 23 - 25 มีนาคม 2564
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA กำลังจะเสนอขายหุ้นกู้
ครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 และจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 23 ถึง 25 มีนาคม 2564
หุ้นกู้ของ TTA ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต "Negative" และจะจ่ายอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี
TTA เป็นเจ้าของธุรกิจอะไรบ้าง
และบริษัทจะนำเงินที่ได้ ไปทำอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
กลุ่มโทรีเซน เริ่มเปิดบริการที่ฮ่องกง โดยดำเนินธุรกิจด้านการขนส่งทางเรือแก่บริษัทนอร์เวย์มาตั้งแต่ ปี 2447 ต่อมา 2480 เข้ามาเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นตัวแทนสายการเดินเรือ หรือว่า Ship Agency และให้บริการด้านพิธีการศุลกากรด้วย
จนกระทั่งในปี 2526 ได้จัดตั้งเป็นบริษัท โทรีเซนไทย ออฟชอร์ จำกัด ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด ในปี 2529
หลังจากนั้น บริษัทก็ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์สำเร็จในปี 2538 และเริ่มขยายพอร์ตการลงทุนไปในธุรกิจอื่น
ปัจจุบัน TTA มี 5 กลุ่มธุรกิจหลัก แบ่งออกเป็น
1. กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ ภายใต้การบริหาร ของ โทรีเซน ชิปปิ้ง
ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และกำไรมากที่สุดของ TTA
ธุรกิจกลุ่มนี้ ครอบคลุมการขนส่งสินค้าทางเรือไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก
มีตั้งแต่สินค้าแห้งเทกอง เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จนไปถึงผลิตภัณฑ์ท่อต่าง ๆ
โทรีเซน ชิปปิ้ง ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งทางเรือ ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ได้แก่
-การให้เช่าเหมาลำตามราคาตลาดภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด
-บริการให้เช่าเรือตามการเซ็นสัญญารับส่งสินค้าล่วงหน้า
Baltic Dry Index หรือ BDI ซึ่งถือเป็นดัชนีสากล ซึ่งสะท้อนจากอัตราค่าระวางเรือ หรือค่าบริการสำหรับเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง
ปัจจุบัน BDI ยืนอยู่เหนือระดับ 1,800 จุด และอัตราค่าระวางเรือขึ้นไปแตะระดับมากกว่า 21,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ซึ่งถือเป็นอัตราค่าระวางสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
นั่นจึงทำให้ผู้ให้บริการอย่าง โทรีเซน ชิปปิ้ง ก็จะได้ประโยชน์
เพราะทางบริษัทสามารถเรียกเก็บค่าระวางเรือได้สูงขึ้น นั่นเอง
ทั้งนี้ ในปี 2563 โทรีเซน ชิปปิ้ง มีอัตราค่าระวางเรือ สูงกว่าค่าระวางตลาดสุทธิของเรือซุปปราแมกซ์อยู่ถึงร้อยละ 22 ขณะที่มีค่าใช้จ่ายในการเดินเรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ราว 18% และยังมีอัตราการใช้งานเรือย้อนหลัง 5 ปี เกือบ 100% แม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในปีที่ผ่านมา
ทีนี้ เรามาดูกันว่า โทรีเซน ชิปปิ้ง ซึ่ง TTA ถือหุ้นอยู่ 100% มีโครงสร้างกองเรือ อะไรบ้าง ?
โทรีเซน ชิปปิ้ง มีชื่อเสียงและประสบการณ์เชี่ยวชาญในแวดวงพาณิชย์นาวีระดับโลกมายาวนานกว่า 110 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าของกองเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองขนาดซุปราแมกซ์ และอัลตร้าแมกซ์รวมกัน 24 ลำ และถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการกองเรือซุปราแมกซ์ ขนาดใหญ่และมีผลงานระดับโลก โดยครองตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรม มีอัตราค่าระวางเรือต่อวันต่อลำเรือ หรือ TCE ติดอันดับที่ 3 ของโลก จากผลสำรวจในปี 2562 ของ Danish maritime advisors Liengaard & Roschmann
แล้วนอกจากธุรกิจขนส่งทางเรือ
TTA ยังทำธุรกิจอะไรอีกบ้าง ?
กลุ่มธุรกิจที่ 2 คือ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ภายใต้การบริหารของ เมอร์เมด มาริไทม์
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการงานวิศวกรรมใต้ทะเล ครอบคลุม งานสำรวจตรวจสอบและซ่อมบำรุงใต้ทะเล รวมถึงงานวางท่อและสายเคเบิ้ลใต้ทะเล
โดยกลุ่มลูกค้าก็จะเป็นบริษัทน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติชั้นนำ
หนึ่งในนั้นก็คือ Saudi Aramco หนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก
และนอกจากนั้นบริษัทยังมีกลุ่มธุรกิจที่ 3 คือ ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมีเพื่อการเกษตรในประเทศเวียดนาม
กลุ่มธุรกิจที่ 4 คือ ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม โดยได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการบริหาร เชนร้านอาหาร เช่น Pizza Hut และ Taco Bell ในประเทศไทย
และกลุ่มธุรกิจที่ 5 คือ กลุ่มการลงทุนอื่น ซึ่งเป็นธุรกิจอื่นที่ไม่ได้อยู่ใน 4 กลุ่มธุรกิจแรก อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ และ ธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เป็นต้น
ทีนี้ เรามาดูผลประกอบการของ TTA ย้อนหลัง
ปี 2560 รายได้ 13,360 ล้านบาท กำไร 588 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 13,946 ล้านบาท กำไร 210 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 15,428 ล้านบาท กำไร 563 ล้านบาท
ในขณะที่ปี 2563 บริษัทเผชิญกับความผันผวนจากเหตุการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19
ที่กดดันให้ดัชนีตกต่ำลงไปในช่วงครึ่งปีแรกทำให้บริษัทขาดทุน
ก่อนที่ TTA จะเริ่มฟื้นตัว และกลับมาทำกำไรได้แล้วในไตรมาสที่ 4
หากเรามาดูสัดส่วนรายได้ปี 2563 ของบริษัทจะมาจาก
ธุรกิจขนส่งทางเรือ 37%
ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง 20%
ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร 22%
ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และการลงทุนอื่น 21%
หากเราลองมาดูสถานะทางการเงินของบริษัท
TTA มีสินทรัพย์อยู่ราว 30,000 ล้านบาท
โดยที่มีสินทรัพย์เป็นเงินสดภายใต้การบริหารมากถึง 7,700 ล้านบาท
ซึ่งถ้าเราลองนำไปคำนวณโดยนำหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ หักด้วยเงินสดภายใต้การบริหาร
หารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น TTA จะมีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
เพียง 0.08 ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมาก นอกจากนี้ TTA ไม่เคยมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้และ/หรือ ดอกเบี้ย หรือผิดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้
สำหรับวัตถุประสงค์ และรายละเอียดของหุ้นกู้ TTA ที่กำลังจะเสนอขายครั้งที่ 1 ปี 2564
เพื่อชำระคืนหุ้นกู้เดิม โดย TTA จะใช้เงินทุนหมุนเวียนในกิจการในการชำระคืนหุ้นกู้ดังกล่าวไปก่อน ซึ่งแสดงถึงฐานะที่มั่นคงและสภาพคล่องที่สูงของ TTA และ/หรือเพื่อขยายธุรกิจ (ซื้อเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองเพื่อขยายกองเรือ) และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
ทั้งนี้ หุ้นกู้ TTA จะเสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่
ที่มูลค่าการจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ขึ้นไป ทวีคูณครั้งละ 10,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาทสำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่
โดยมีระยะเวลาการจองซื้อตั้งแต่ 23 ถึง 25 มีนาคม 2564
อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
โดยตราสารมีอายุ 2 ปี 6 เดือน
สำหรับหุ้นกู้ของ TTA ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ในระดับ "BBB" แนวโน้มอันดับเครดิต " Negative" โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564
ผู้ที่สนใจในตัวของบริษัท TTA สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thoresen.com หรือผู้ที่สนใจหุ้นกู้สามารถขอรับหนังสือชี้ชวน
และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด โทร 02-695-5000
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร 02-687-7549
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด โทร 02-205-7000
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร 02-658-8945
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จํากัด (มหาชน) โทร 02-351-1800
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จํากัด (มหาชน) โทร 02-658-9500
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร 02-659-8000
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จํากัด โทร 02-009-8351-6
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร 02-680-4004
บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จํากัด โทร 02-257-0720
<คำเตือนที่สำคัญ>
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดใน ขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารเป็นเพียงข้อมูลประกอบการ ตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขายและ ไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้ หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้ หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้ อื่นของบริษัท ผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ต่ำ หรือผู้ออก หุ้นกู้แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
ฟินันเซีย ไซรัส 在 mathuniver Youtube 的最佳解答
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK) ยื่นแบบแสดงรายการต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เพื่อออกและเสนอขาย #หุ้นกู้ ของบริษัท มูลค่าไม่เกิน 800 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ 2565
กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 6 - 10 มิ.ย. 62 โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
และ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
หนังสือชี้ชวน
https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=251824
เวบ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด
https://www.mk.co.th
ติดตามได้ที่
youtube :https://goo.gl/8Wm3GG
facebook fanpage : https://goo.gl/TkRM1C
หรือเข้าไปดูในเวบ
https://www.mathuniver.com
จะอับเดทเรื่อยๆครับ
donate สนับสนุน
https://goo.gl/DdcScW
TrueMoneyWallet :0639162323
https://www.paypal.me/mathuniver
#mathuniver