It’s ya boi Armin yee haw 😎. Lemme know in the comment who do you ship Armin with 🙌
Kind feel comfy cosplay him cause u’all know Armin ss4 has such a baby boy face, which fits my face feature lol 😂🥰
Armin Arlert - Attack on titan ss4
CN: Yuji Koi
#armin #arminarlert #armincosplay #arminss4 #arminedit #arminarlertedit #attackontitancosplay #attackontitan #shingekinokyojin #shingekinokyojincosplay #shingekinokyojinedit #shingekinokyojinseason4 #yujikoi #yujihannah #yujikoicosplayer #crossplay #babyboy #attackontitanseason4
同時也有97部Youtube影片,追蹤數超過37萬的網紅Ray Mak,也在其Youtube影片中提到,?SHEET MUSIC & Mp3 ▸ http://www.makhonkit.com ?LEARN MY SONGS ▸ https://tinyurl.com/RayMak-flowkey ?Listen on Spotify ▸ https://sptfy.com/raymak ?Lis...
「attack on titan comment」的推薦目錄:
- 關於attack on titan comment 在 Facebook 的精選貼文
- 關於attack on titan comment 在 Guardian TV [Mother I'm Rolling] Facebook 的最佳解答
- 關於attack on titan comment 在 โอตาคุบริโภคมาม่า Facebook 的最佳解答
- 關於attack on titan comment 在 Ray Mak Youtube 的最讚貼文
- 關於attack on titan comment 在 MAZK TV Youtube 的精選貼文
- 關於attack on titan comment 在 Kathie Violin 黃品舒 Youtube 的最讚貼文
- 關於attack on titan comment 在 Attack On Titan Season 2 - Pinterest 的評價
- 關於attack on titan comment 在 Attack on Titan - Home | Facebook 的評價
- 關於attack on titan comment 在 Eren Yeager Hairstyle Tutorial (updated) - Attack On Titan ... 的評價
attack on titan comment 在 Guardian TV [Mother I'm Rolling] Facebook 的最佳解答
Attack on Titan ตะลุยเนื้อเรื่องยาวๆ เกม PS4 มีเพียบ ใครอยากดูเกมไหนบอกได้เลยครับ !!!
กด Like กด Share และ Comment พูดคุยกันได้ ..จะรักมากมายครับโผมมมม
FB : Panupon Ruangchaichat
attack on titan comment 在 โอตาคุบริโภคมาม่า Facebook 的最佳解答
บทความอาจจะยาว แต่ยอดเยี่ยมมากครับ
ขอสรุปสั้นๆใน1บรรทัดว่า
[รสนิยมของสิ่งที่คุณชอบ ขึ้นอยู่กับว่าคุณโตมากับอะไร]
//----------------------------------
ทีนี้ขอพูดความเห็นตัวเองยาวๆมั่ง
เรื่องเดียวกันนี้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำไม
ผลงาน [วัฒนธรรมไทยๆ] ถึงไปต่างชาติได้ลำบาก
เช่น โขนดั้งเดิมของแท้
ซึ่งผู้ที่เข้าถึงการเสพนั้นได้จะต้องมี
- ความชอบในศิลปะละครเวที
- ความรู้เรื่องภาษากายในรำไทย
- ความรู้เรื่องรามเกียรติ
- ความรู้ในการแยกตัวละครจากหัวโขน
- ความอดทนในการดูลิงรำ30นาทีเพื่อบอกรักยักษ์
และอื่นๆ
เหลือพูดง่ายๆเลยก็คือ มันเป็นศิลปะที่
คุณต้องได้รับการศึกษาเฉพาะด้านมา
ถึงจะเข้าใจได้
ซึ่งแค่เรื่อง ความชอบในศิลปะละครเวที อย่างเดียว
ที่แม้แต่ในประเทศอื่นๆก็เป็นกลุ่มน้อยแล้ว
ยังต้องพอจะมีความรู้ที่แม้แต่คนไทยจำนวนมากก็ยังมีปัญหาในการเข้าถึง
//--------------
แต่ในกรณีของวัฒนธรรมมังงะญี่ปุ่น
สาเหตุหนึ่งที่งานญี่ปุ่นพอจะมีจุดยืนในระดับนานาชาติทั่วโลก
มาจากการที่ผลงานหลายๆเรื่องที่ดัง
มี [ความเข้าถึงได้ง่าย] มาก่อนการ [ความเป็นญี่ปุ่น]
คุณไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้เรื่องวัฒนธรรมญี่ปุ่น
คุณก็สามารถสนุกกับ Dragonball ได้
มนุษย์ชาติไหนๆก็สามารถเข้าใจได้ว่า
การถูกยักษ์กินใน Attack on Titan นี่น่ากลัวยังไง
คุณไม่ต้องเป็นคนญี่ปุ่นด้วยซ้ำ
ก็เข้าใจความทุกข์ทรมานที่ซูบารุใน Re:Zero ต้องมาผจญได้
และเพราะการที่วัฒนธรรมมังงะได้มีการเผยแพร่สู่โลกมาเป็นหลายๆสิบปีแล้ว
คนที่เสพมันตั้งแต่เด็กเมื่อ20-30ปีก่อน ก็มากลายเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้
ทำให้มันเป็นสื่อที่ค่อนข้างจะได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในปัจจุบัน
---
และปัจจัยที่สำคัญอีกเรื่อง คือในเรื่องของจำนวนผลงาน
ถ้าคุณได้ไปอยู่ญี่ปุ่น คุณจะรู้ได้ว่า ผลงานที่เราเห็นและรู้จักกันในปัจจุบัน
เป็นแค่เศษเสี้ยวของปลายยอดน้ำแข็งที่วางทับกันบนศพของคนที่ไม่ได้เกิด
เพราะความเข้มแข็งของอุตสาหกรรม
ทำให้มีคนที่อยากจะเดินเข้ามางานสายนี้ไม่ขาด
แล้วคนที่ประสบความสำเร็จก็ร่ำรวยกันมหาศาล
พอมีการแข่งขันกันสูงมาก จำนวนผลงานที่ดีก็เลยมีมากตาม
//-----------------------
ทีนี้ ถ้าจะถามผมว่า ทำยังไงถึงจะให้ผลงานของไทยไปอินเตอร์ได้?
ผมขอตอบสั้นๆก่อนว่า [ช่างหัวตลาดไทย]
เพราะจะประสบความสำเร็จในไทยหรือเปล่า
มันก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินเลยว่าจะประสบความสำเร็จในนานาชาติหรือไม่
ถ้าอยากจะให้ประสบความสำเร็จในระดับอินเตอร์
คุณก็ควรจะเน้นไปที่ตลาดนั้นเลย
ในกรณีของผลงานระดับเล็กอย่างมังงะหรือภาพประกอบ
จริงๆแล้วยุคนี้นะเป็นยุคที่คุณสามารถเผยแพร่ผลงานของตัวเอง
ได้ง่ายกว่าสมัยก่อนๆที่คุณต้องพึ่งโรงพิมพ์หรือบริษัทใหญ่
ใครๆก็สามารถเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จักได้
แล้วสมมุติว่าเรามีคนที่สร้างผลงานอยู่ 1หมื่นคน
แล้วแนะให้เขาทำงานที่เน้นไปที่ตลาดนานาชาติแต่แรก
อาจจะมีสักคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ
(ซึ่งจริงๆแล้วก็มีคนไทยที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากอยู่)
ต่อให้มันเป็นความสำเร็จ1คน
ในกองซากศพของคนที่ไม่ได้เกิดอีก9999คน
มันก็พูดได้ว่า งานไทยได้โกอินเตอร์แล้ว
//-----------
หมายเหตุ
ใครไปดู Liberty Leading the People
แล้วคิดว่ากาก
กรุณาไปเข้าคอร์สปรับทัศนคติโดยด่วน
(1) Amazon ... คุณ Josh H. McDermott อาจารย์ภาควิชาสมองและวิทยาศาสตร์การรับรู้เดินทางไปป่าอเมซอน ประเทศโบลิเวีย เพื่อทำการศึกษาอย่างหนึ่งครับ
เขาเดินทางไปพบชาวบ้านในหมู่บ้าน Tsimane ซึ่งอยู่ห่างไกลจากโลกภายนอก ซึ่งแปลว่าไม่มีเคเบิ้ลทีวี ไม่มีอินเตอร์เน็ต และไม่มีเทเลอร์ สวิฟต์หรือ BNK 48
เขาขอให้ชาวบ้านฟังเสียงดนตรีสองแบบ แบบแรกคือ consonant chord ซึ่งมีท่วงทำนองสอดคล้องกันเหมือนเพลงส่วนใหญ่ที่ชาวตะวันตกหรือเราๆฟังอย่างคุ้กกี้เสี่ยงทาย ฯลฯ
กับดนตรีแบบที่เรียกว่า dissonant chord ที่ทำนองไม่ได้เล่นแบบรื่นหูสอดคล้องกัน คนส่วนใหญ่ฟังแล้วก็อาจจะบ่นว่าหนวกหู ฟังแล้วไม่สบายใจ
หลังจากฟังแต่ละแบบจบ เขาให้ชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นเลือกว่าดนตรีที่ได้ยินนั้นฟังแล้ว ‘มีความสุข / ชอบ พึงพอใจ (pleasant)’ หรือ ฟังแล้วไม่ชอบ
ซึ่งถ้ามาถามเราหรือคนเอเชีย คนตะวันตก คนส่วนใหญ่ก็น่าจะบอกว่าดนตรีแบบ consonant chord ที่หล่อหลอมเรามาตั้งแต่เล็กมีความไพเราะ รื่นหู มากกว่า
แต่ผลลัพธ์ปรากฎว่า ชาวบ้านในหมู่บ้าน Tsimane ฟังแล้ว บอกว่าความรู้สึกชอบดนตรีแบบ consonant chord กับ dissonant chord พอๆกัน
ซึ่งทีมวิจัยก็ยังไม่แน่ใจว่า เอ๊ะ ชาวบ้านเข้าใจการวิจัยจริงมั้ยนะ
เลยให้ทำการทดสอบอีกชิ้นที่ให้ฟังเสียงหัวเราะ กับ เสียงโอดครวญ แล้วให้ตอบแบบเดิม ซึ่งพอเป็นเสียงแบบนี้ชาวบ้านตอบออกมาได้เหมือนเราๆคือพอใจกับเสียงหัวเราะ และไม่ได้พึงพอใจกับเสียงโอดครวญ
งานวิจัยชิ้นนี้กำลังบอกว่ารสนิยมความชอบทางดนตรี ไม่ได้ขึ้นกับว่าสมองของเราถูกสร้างมา(innate)ให้ชอบเพลงแนวไหนเท่านั้น
แต่ยังขึ้นกับวัฒนธรรมรอบตัวเราด้วย เช่น ชนชาวเราโตมากับท่วงทำนองเพลงแบบ consonant chord เป็นส่วนใหญ่ ก็มีโอกาสที่ชนชาวเราก็จะชอบเพลงที่มีดนตรีทำนองนี้มากกว่า
ในขณะที่ชนชาวเผ่าในอเมซอนไม่ได้มีเทเลอร์ สวิฟต์หรือ BNK 48 พวกเขาไม่ได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีแบบไหนเป็นพิเศษ ดังนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าดนตรีสอบแบบนี้มีความไพเราะต่างกันมาก
*** สามารถเลือกอ่านต่อใน Blog ที่อ่านง่าย สบายตา พร้อมเปิดดูคลิปเปรียบเทียบ chord ได้ที่ลิงค์นี้จ้า https://medium.com/…/รสนิยมกับคนไทย-ไม่ชอบหนังดี-e31f4a843e… ***
(2) รสนิยม
รสนิยมทางศิลปะ เช่น ชอบฟังเพลงหรือชอบดูหนัง มาจากไหน ?
คำตอบที่เราเรียนรู้มาจนถึงปัจจุบันพอสรุปได้ว่า รสนิยมส่วนหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เราอยู่ในท้องแม่ตามแนวคิด Brain wiring (สมองมีผังวงจรที่ถูกวางไว้แล้ว)ที่สมองของเราสร้างมาให้เราชอบหรือไม่ชอบอะไรอยู่ก่อนแล้ว
เช่น สมองของคุณถูกออกแบบมาให้มีแนวโน้มจะชอบ BNK 48 และรำคาญเพลงแจ๊ส , ตลกในหนังทุกเรื่องของเป็นเอกแต่ไม่ฮากับมุกทั้งหลายของหนังพจน์ อานนท์ ฯลฯ
ในขณะที่สมองของบางคนมีความสุขกับเพลงแจ๊ส แต่ฟัง BNK 48 กี่รอบก็รู้สึกรำคาญ รวมถึงฮากรามค้างทุกเรื่องในหนังพจน์แต่ไม่เคยตลกกับมุกของเป็นเอกเลย
แต่นอกจาก ‘ถูกกำหนดมาแล้ว’ งานวิจัยที่ถ่อไปถึงอเมซอนของคุณ Josh H. McDermott ก็ยืนยันร่วมกับงานวิจัยที่อีกหลายชิ้นที่มีสมมติฐานเกี่ยวกับ ‘รสนิยมหรือความชอบในทางศิลปะ เช่น ดนตรี ฯลฯ’ ว่า
รสนิยมสามารถถูกสร้างขึ้นมาได้ด้วยจากประสบการณ์และวัฒนธรรม
เช่น
สมมตินะครับว่าสมองของคุณถูกกำหนดมาแล้วให้เป็นคนมีรสนิยมชอบเพลงฮิปฮอป
แต่ไม่ใช่ว่าว่าเกิดมาเราจะรู้ว่าเราชอบเพลงฮิปฮอปเลยนะครับ เพราะถ้าชาตินี้คุณฟังแต่ป๊อบกับลูกทุ่งตั้งแต่ทารกโดยไม่มีฮิปฮอปมาเข้าหูก็คงยากมากที่จะรู้แจ้งว่าชอบฮิปฮอป จนกว่า ‘สมอง’ ของเราจะได้เสพฮิปฮอป
แต่ต่อให้ได้ฟังก็เถอะ บางคนได้ฟังเพลงฮิปฮอปแค่ครั้งเดียวอาจไปคลิกกับสมองที่มีแนวโน้มจะชอบอยู่แล้วก็กลายเป็นชนชาวฮิปฮอปเลย แต่สมองก็ไม่ได้มีสูตรตายตัวแบบนั้น เพราะหลายคนที่แม้ ‘สมองจะถูกวางผังมาให้ชอบฮิปฮอป’ ก็ไม่ใช่ว่าฟังครั้งเดียวจะชอบเสมอไปเพราะมัน ‘ไม่คุ้นเคย’ จนกว่าจะฟังบ่อยๆหลายๆรอบจึงเริ่มเข้าถึง เริ่มชอบ และ กลายเป็นแฟนเพลงฮิปฮอป
ดังนั้นรสนิยมจะเกิดขึ้นมาได้ ก็ต้องอาศัยประสบการณ์หรือวัฒนธรรมที่เราโตมาด้วย
ประเด็นคือแล้วใครละสร้างวัฒนธรรม?
***
(3) ครอบครัว , นายทุน และกระทรวงวัฒนธรรม
ถ้าโตมากับพ่อแม่ที่บังคับให้ฟังแต่เพลงคลาสสิค ไม่ยอมให้ฟังเพลงอื่นๆเลย แม้สมองจะมีแนวโน้มชอบฮิปฮอปแต่โอกาสที่คุณจะเป็นชนชาวฮิปฮอปก็น้อยลง (ยกเว้นออกมาได้ยินนอกบ้าน)
ถ้าโตมากับกระทรวงวัฒนธรรมในประเทศที่ส่งเสริมแต่เพลงคลาสสิค บังคับให้โรงเรียนสอนแต่เพลงคลาสสิค ยัดเยียดแต่เพลงคลาสสิกกล่อมหูประชาชน แล้วสั่งแบนการฟังเพลงฮิปฮอปเพราะมองว่าเป็นวัฒนธรรมที่หยาบคาย โอกาสที่คุณจะค้นพบฮิปฮอปก็น้อยลงไปใหญ่
ถ้านายทุนที่ทำธุรกิจดนตรีในบ้านคุณ ไม่ชอบความเสี่ยงและเน้นแต่กำไรก้อนโตจึงไม่สนับสนุนศิลปินฮิปฮอปให้มีผลงาน โอกาสที่คุณจะฮิปฮอปก็น้อยลงเช่นกัน
หรือว่าง่ายๆถ้าโตมาในบ้านเมืองที่มีแนวคิด ‘คับแคบ’ หรือมีทางเลือกในการเสพน้อย
คุณก็จะมีรสนิยมแบบ ‘แคบๆ’ เพราะสมองของคุณไม่มีโอกาสได้หล่อหลอมหรือทดลองเสพวัฒนธรรมที่หลากหลาย
คุณจึงไม่ค้นพบความชอบหรือสนใจแบบอื่นๆ
และรสนิยมบางอย่างก็อาจถูกซุกไว้ซอกหลืบของสมองคุณไปจนตาย
(เหมือนเรื่องจริงของ ปาร์กยอนมี หญิงเกาหลีเหนือที่หากไม่ได้หนีออกนอกประเทศ คงไม่ซาบซึ้งหรือค้นพบแนวคิดเรื่องความรักแบบหนัง Titanic เพราะเธอโตมากับประสบการไม่เคยเสพสื่ออย่างอื่นเลยนอกจากรัฐ พอตอนดู Titanic ครั้งแรกในชีวิตเธอบอกว่ามหัศจรรย์ เธอไม่เคยเข้าใจความรักหรือรสนิยมอะไรแบบนี้มาก่อนเลย)
***
(4) คนไทยไม่ชอบหนังรางวัล
“อยากให้มีหนังรางวัลอ๊อดสะก้าเข้าฉาย ก็ไปอุดหนุนกันเยอะๆซิ เค้าจะได้ไม่ขาดทุน”
“อยากให้มีหนังเสียงซาวแทร็คเข้าฉาย เวลาฉายก็ไปดูกันเยอะๆซิ เค้าจะได้กล้าเอาเข้ามาอีก”
แนวคิดอุปสงค์-อุปทานแบบนี้ ถูกต้องครับและผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็รู้แล้วก็เห็นด้วยอย่างแน่นอนครับว่า โรงหนังทำธุรกิจ ดังนั้นคนทำธุรกิจย่อมไม่มีใครอยากเจ๊ง และยิ่งถ้าได้กำไรก็จะยิ่งทำให้เขาอยากทำแบบนั้นต่อ
แต่ด้วยคำพูดแบบข้างต้น สิบปีก่อนตอนเล่นพันทิปผมก็เคยได้ยิน ผ่านมาปัจจุบัน เราก็ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ผมก็ยังได้ยินคำบ่นในวงการหนังที่มีโรงให้กับหนังรางวัล/หนังซาวแทร็คน้อย หรือคำบ่นในวงการคนดูละครที่วนเวียนอยู่กับละครไม่กี่แนว
ปัญหาอยู่ตรงไหน ?
ถ้าเชื่อตามสมมติฐานข้างต้นก็คงเป็นเพราะคนดูไง
คนไม่ไปดูกันเยอะๆเขาก็ไม่กล้าลงทุน
แต่หากจะโทษคนดู ผมก็สงสัยว่าจะมีคนดูเยอะๆได้ยังไงในเมื่อเวลามีหนังชิงรางวัลหรือหนังซาวแทร็คเข้า ก็มักได้รับเกียรติให้ฉายแค่ไม่กี่รอบแถมเป็นรอบประหลาดๆเช่น
- ภาคตะวันออกทั้งภาคฉายแค่ที่พัทยา
- ฉายวันละ 2 รอบคือ รอบบ่ายสาม (ที่คนยังไม่เลิกเรียนกับไม่เลิกงาน) กับ รอบสามทุ่ม (ที่เป็นเวลาห้างปิดและเข้าบ้านนอน)
ดังนั้นการจะแสดงพลังสนับสนุนหนังซาวแทร็คหรือหนังอ๊อดสะก้า คนรักหนังกลุ่มนี้ต้องดิ้นรน กระเสือกกระสนเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อการดูหนังหนึ่งเรื่องในขณะที่อยากดู Star wars ไม่ต้องพยายามอะไรมากขนาดนั้น มันต้องพยายามมากเหลือเกิน
ซึ่งเมื่อเราไม่อยากโดดงานไปดูหนัง ไม่อยากเสียค่าน้ำมันเพื่อเดินทางข้ามจังหวัดไปดูหนัง ไม่อยากเสียเวลากับคนในบ้านเพราะจะต้องไปดูรอบดึกๆที่ควรอยู่บ้านกับครอบครัวแล้วพักผ่อน ฯลฯ ก็ทำให้ ‘รายได้’ของหนังเรื่องนั้นๆน้อย แล้วก็นำไปสู่บทสรุปว่า
“คนไทยหรือคนต่างจังหวัดยังไม่พร้อมกับหนังแบบนี้”
เกิดเป็นวงจรสืบสานจากรุ่นพ่อไปจนถึงรุ่นเหลนโหลน
***
(5) เครื่องวัดรสนิยม
สมมตินะครับ มีอุปกรณ์วิเศษเรียกว่า ‘เครื่องวัดรสนิยม’ คือไม่ได้วัดว่ารสนิยมดีหรือแย่นะครับ แต่วัดปริมาณว่ารสนิยมแบบไหนเป็นที่นิยมมากกว่ากัน
ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารสนิยมของคนที่ชอบหนังตลาดดูง่ายย่อมมีมากกว่าหนังนอกกระแสหรือหนังชิงรางวัลที่เข้าถึงยาก
เพราะ ‘ภาพยนตร์’ สำหรับคนส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องความบันเทิง คลายเครียดจากเวลางาน การดูหนังเป็นกิจกรรมที่ใช้ร่วมกันยามว่างของครอบครัว
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม้แต่เมืองนอก สัดส่วนของหนังรางวัลที่เข้าฉายโรงจึงน้อยกว่าหนังตลาด ดูอย่างล่าสุดก็ได้ครับที่อเมริกา
หนังดราม่าเข้าชิงออสการ์แบบ Phantom Thread ที่เห็นโปสเตอร์ก็อาจจะง่วงแล้ว มีเข้าฉาย 896 โรง และแม้จะเป็นหนังที่ดูง่ายขึ้นมาอย่าง Ladybird ก็เข้าฉายแค่ไม่กี่ร้อยโรงจนขยับไปขึ้นไปเป็น 1,194 โรง
หรือแม้แต่หนังที่เป็นดราม่าบ้านเราตอนนี้ The Shape of Water ก็เริ่มจาก 726 โรงแล้วพอรู้ว่าเข้าชิงออสการ์สูงถึงสิบสามสาขาก็ได้โรงเพิ่มเป็น 1,854 โรง
ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันหนังแอคชั่นภาคต่อ Maze Runner: The Death Cure แผ่ไพศาลไปทั่วอเมริกาด้วยจำนวน 3,786 โรง
ดังนั้นแม้คอหนังจะอยากให้มีโรงสำหรับฉายหนังรางวัลมากกว่านี้ แต่ถ้าไม่โลกสวยจนเกินไปก็คงต้องยอมรับความจริงว่าคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่โรงหนังจะเพิ่มโรงให้หนังดราม่าช่างตัดเสื้อ Phantom Thread เป็น 3500 โรงพอๆกับหนังแอคชั่นหลงเขา(วงกต) Maze Runner
การจะไปเรียกร้องให้ช่วยฉายหนังชิงรางวัลให้มีจำนวนโรงฉายพอๆกับหนังแอคชั่นทำเงิน หรือเรียกร้องให้เอา Phantom Thread มาฉายที่โรงเมเจ้อในห้างโลตัสอำเภอหนองตะกรุม ฯลฯ คงเป็นการเรียกร้องที่ไม่ดูความเป็นจริงนักว่า ‘ปริมาณรสนิยม’ ของหนังบางแบบมันมีน้อยจริงๆ
ต่อให้เมืองนอกก็เถอะ หนังนอกกระแสหลายเรื่องก็ไม่ได้เข้าทั้งประเทศ
แต่ที่ว่าปริมาณรสนิยมน้อยจนไม่คุ้ม ไม่ฉาย , มันน้อยขนาดไหนละ
เพราะถ้าน้อยในระดับ The Shape of Water ซึ่งเป็นหนังที่ไม่ได้ดูยากหรือง่วงมาก แถมรู้แล้วว่าเข้าชิงออสการ์ถล่มทลายแต่กลับเข้าฉายบ้านเราไม่ถึงสิบโรง ตอนแรกที่เข้าฉายก็แค่สองจังหวัดคือกรุงเทพกับเชียงใหม่ และกระทั่งในกรุงเทพที่มีโรงหนังประมาณ 320 โรงแต่ฉายแค่ 3 โรง
เมื่อความน้อยในบ้านเราที่น้อยอยู่แล้ว ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ
ผมคิดว่า อันนี้ควรตั้งคำถามละว่าเกิดอะไรขึ้น
***
(6) คนไทยไม่ชอบ(ละคร)หนังดี
เวลาถกกันเรื่องรสนิยม มักจะมีดราม่าตามมาเมื่อเรายกว่ารสนิยมแบบไหนดี แบบไหนห่วย แต่ที่ผมกำลังจะเขียนถึงตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคุณภาพของรสนิยมว่าดีหรือห่วยนะครับ
แต่กำลังพูดถึง ‘ปริมาณ’
เราอาจต้องยอมรับว่ารสนิยมสาธารณ์ของประเทศเราหรือความชอบของคนส่วนใหญ่ในประเทศสำหรับหนังแนวชิงรางวัล , ชอบหนังซาวแทร็ค , ชอบละครหรือซีรี่ส์ในสไตล์ฝรั่งที่ต้องคิดมากมีสาระสอดแทรก ฯลฯ อาจจะมีปริมาณคนชอบในสัดส่วนที่น้อยกว่า หนังแอคชั่น หนังตลก หนังผี หรือ ละครผัวเมียตบตี ละครสะท้อนรักชาติสมัยอยุธยา ฯลฯ
คือน้อยกว่าหนะไม่แปลก แต่น้อยกว่าที่อื่นมาก
เพราะรสนิยมของคนชอบหนังอาร์ต , หนังเจ้ย , หนังชิงรางวัลอ๊อดสะก้า , ซีรี่ส์ซับซ้อนแบบ Lost , ซีรี่เน้นเนื้อหาสาระ ฯลฯ ในต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น , อเมริกา , ฝรั่งเศส ฯลฯ ก็มี‘ปริมาณคนชอบ’ น้อยกว่า หนังไมเคิล เบย์ , หนังสตาร์ วอส์ ฯลฯ นั่นแหละครับ
เพียงแต่สัดส่วนของรสนิยมที่ชอบน้อยกว่าของเขายังพอประคองให้มีการเข้าถึงประชาชนชนจำนวนมาก ในบ้านเรามันน้อยกว่ามากๆๆๆๆๆๆ น้อยกว่าประเทศที่มีความแข็งแกร่งและหลากหลายทางรสนิยมด้านศิลปะเช่น ภาพยนตร์ , ดนตรี ฯลฯ
จนทำให้ ‘ความน้อย’ ของบ้านเราไม่คุ้มที่นายทุนจะสร้างงานออกมาหรือเพิ่มปริมาณให้เข้าถึงคนในประเทศแต่ไปกระจุกอยู่แต่ที่ศูนย์กลางคือกรุงเทพหรือเชียงใหม่
ซึ่งที่มาของความน้อยทางรสนิยมจะบอกว่าเป็นสมองอย่างเดียวก็คงไม่ได้ คือคงไม่ใช่เพราะคนไทยเกิดมาปุ๊บก็มีสมองที่ไม่อยากดูหนังออสการ์เกือบทั้งประเทศ
แต่มันอาจอธิบายได้ด้วย ‘วัฒนธรรม’ และ ‘โอกาสการเข้าถึงงานศิลปะ เช่น หนัง , ดนตรี ฯลฯ’ ที่มีมาตลอด
ปัญหาของเรา คือเราต่างจากชนเผ่าอเมซอนที่ไม่มีอะไรมาหล่อหลอมก็เลยชอบดนตรีทั้งสองแบบ แต่เราถูกหล่อหลอมมาตลอด เพียงแต่วัฒนธรรมที่หล่อหลอมมันไม่หลากหลาย มันมีเบ้าหลอมแบบละครเน้นดราม่าหรือหนังตลกหนังผีที่หล่อหลอมรสนิยมแบบนี้มายาวนานจนแทบไม่มีทางเลือกอื่นเลย
ตัวอย่างง่ายๆครับ เช่น เด็กชายมนัส
สมองของนายมนัสอาจจะถูกออกแบบให้ชอบหนังสไตล์เจ้ย-อภิชาติพงศ์ แต่มนัสอยู่ต่างจังหวัดที่ห่างไกลจากความเจริญ บ้านยากจน เลิกเรียนก็ต้องไปช่วยพ่อกรีดยาง ยามว่างก็ได้ดูแต่ทีวี อาจจะเคยดูหนังเจ้ยหนึ่งครั้งที่เอามาฉายเคเบิ้ล แล้วเวลาดูที่บ้านก็ไม่มีสมาธิดูเท่าไหร่นัก ภาพก็ไม่ชัดในจอเล็กๆแถมโดนเซ็นเซอร์
ดูครั้งแรก มนัสก็งงๆว่าจะเสียเวลาดูหนังที่แช่ภาพถ่ายต้นหญ้านานๆทำไม เดินไปหน้าบ้านก็เห็นต้นหญ้าเหมือนกัน
ดังนั้นเมื่อโตขึ้นโอกาสที่มนัสจะนั่งรถสองแถวเข้าจังหวัด เพื่อไปสนับสนุนหนังเจ้ยในเมือง ก็ย่อมน้อยลง แต่ถ้าตั้งแต่เล็ก มนัสมีโอกาสได้ดูหนังที่หลากหลาย ได้ดูหนังบ่อยๆก็อาจชอบหนังแนวนี้ได้ แล้วก็อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งพลังที่ชอบหนังแบบเจ้ย แล้วพอหนังชิงรางวัลเข้าฉายก็ไปช่วยให้โรงหนังอยู่รอด
แต่เมื่อโอกาสในการเสพสื่อน้อย
เมื่อตัวเลือกให้เสพนั้นไม่หลากหลาย
ต่อให้วันหนึ่งนายทุนใจป้ำ ประกาศฉายหนังอ๊อดสะก้าทั่วประเทศแบ่งโรงกับหนังแอคชั่นอย่างละครึ่ง ก็คงเจ๊งอยู่ดี
เพราะรสนิยมสาธารณ์ในบ้านเราไม่มากพอที่จะทำให้ธุรกิจอยู่ต่อได้
มันกลายเป็นปัญหาแบบงูกินหาง
***
(7) ทางออก
เวลาที่คนเสนอแนวทางให้หนังดีๆหรือหนังนอกกระแสอยู่รอด ด้วยการยกโมเดล ‘โหมโรง’ ที่จุดกระแสจากพันทิปจนประสบความสำเร็จ
เดิมผมก็เชื่อว่าเป็นตัวอย่างที่ดี แต่จนถึงทุกวันนี้ ผมคิดว่ามันแปลกที่เราต้องพยายามแบบนี้กับหนังแทบทุกเรื่อง เช่น อยากดู The Shape of water ก็ช่วยกันจุดกระแสให้โรงหนังเพิ่มโรง ช่วยกันล่ารายชื่อให้โรงหนังฉายมากขึ้น ฯลฯ
คือใช้กับหนังที่ดูยากมากหรือนอกกระแสจริงๆอะไรแบบนั้นก็โอเค แต่ถ้าจะต้องทำแบบนี้กันแทบทุกเรื่องนั้นน่าเป็นห่วง
และวิธีการแบบนี้ผมคิดว่ามันใช้ได้แค่ครั้งคราวเพราะจำนวนคนไปดูคือไปเพราะ ‘กระแส’ มากกว่าจะไปเพราะอยากไปดูหนังแนวนี้ดังนั้นพอมีหนังดราม่าดีๆแต่ไม่ได้จุดกระแสรักชาติแบบโหมโรงก็ล้มเหลวเหมืิอนเดิม
ผมจึงคิดว่า สิ่งที่จะยั่งยืนมากกว่าและช่วยสนับสนุนโรงหนังได้มากกว่าคือการสร้าง ‘รสนิยมสาธารณ์’
คือมีจำนวนคนที่อยากเดินทางไปดูหนังแบบนี้จริงๆมากขึ้น มีคนที่พร้อมติดตามละครดีๆจริงๆมากขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ใครมาจุดกระแส
แต่รสนิยมจะเกิดขึ้นจนมี ‘จำนวนคน’ ไปอุดหนุนโรงหนังหรืออุดหนุนนายทุนที่ทำละครให้สร้างงานเหล่านั้นได้อย่างไร ในเมื่อคนรุ่นเก่าก็ไม่ได้ชอบหนังแนวนี้อยู่แล้ว
และคนรุ่นใหม่ก็ไม่มีโอกาสได้เสพเพื่อ ‘สร้างรสนิยม’ ใหม่ๆเลย ตราบใดที่
- นายทุนไม่ให้ทุนคนทำละครหลากหลายแนวเพราะมองแต่กำไรที่มากอย่างเดียว ไม่ยอมเจียดกำไรให้น้อยลงเพื่อสร้างงานที่เป็นรสนิยมใหม่ๆ
- ค่ายหนังไม่อยากเอาหนังนอกกระแสเข้าโรงเพราะคำนวณจากค่า VPF ค่าโน่นนั่นนี่ก็ไม่คุ้ม
- โรงหนังไม่อยากฉาย หักค่าโน่นนั่นนี่มากเกินไป หรือจัดรอบให้แบบทำบุญทำทาน คือบ่ายสามกับสามทุ่มก็ไม่มีคนดู
- รัฐบาลไม่กระตุ้นหรือสนับสนุนงานศิลปะที่หลากหลาย
และข้อสำคัญ มันก็ไม่มีทางเกิด หากประชาชนไม่สนับสนุนเวลามีงานเหล่านี้ออกมา
มันจึงไม่ใช่แค่เรียกร้องที่ ‘คนดู’ กับ ‘คนทำหนัง’
แต่การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นก็ต้องเรียกร้องในระดับรัฐและนายทุน เพราะพวกเขาเหล่านั้นคือส่วนสำคัญในการสร้าง ‘วัฒนธรรม’ และก็จะนำไปสู่รสนิยมซึ่งจะช่วยเหลือกันและกันให้ยั่งยืน
================================
ประกาศถึงเพื่อนผู้อ่าน 0.1%
================================
เพื่อนๆผู้อ่านสามารถให้กำลังใจเพจที่ท่านชอบด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อเป็นแรงใจให้คนเขียนเพจให้มีแรงเขียนต่อไป … แต่ เดี๋ยวก่อน … ถ้าไม่อยากเสียเงินก็ยังได้ เพียงแค่
พิมพ์คอมเม้นต์ หรือ กด Like หรือ กด share สเตตัสนั้นๆแบบให้มีเนื้อหาติดไปด้วย
เพื่อให้สเตตัสนั้นๆเข้าถึงคนอ่านมากขึ้น เพราะพี่มาร์คแห่งเฟซบุ้คได้ควบคุมให้สเตตัสของเพจเข้าถึงคนอ่านน้อยลง จนกว่าจะจ่ายเงิน ยิ่งจ่ายยิ่งมีคนเห็นเยอะ
จึงเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธากด like / share หรือ comment ลงในเพจ หรือถ้าท่านมีความศรัทธาในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้จะพิมพ์สาธุ99ตอบทุกครั้งก็ยังดีจ้า (เอาวะ สู้กับพลังเงินและอัลกอริธึ่มของพี่มาร์ค อะไรก็เอา)
======
คนอ่าน 0.1% คืออะไร ? อ่านคำตอบได้ที่นี่จ้า
https://www.facebook.com/…/a.2860538783…/10155467030323318/…
attack on titan comment 在 Ray Mak Youtube 的最讚貼文
?SHEET MUSIC & Mp3 ▸ http://www.makhonkit.com
?LEARN MY SONGS ▸ https://tinyurl.com/RayMak-flowkey
?Listen on Spotify ▸ https://sptfy.com/raymak
?Listen on Apple Music ▸ https://music.apple.com/sg/artist/ray-mak/1498802526
?Full Song List ▸ http://www.redefiningpiano.com
Talk to me :
? Instagram ▸ http://instagram.com/makhonkit
? Facebook ▸ http://facebook.com/raymakpiano
? Twitter ▸ http://twitter.com/makhonkit
Linked Horizon (Attack on Titan) - Shinzou Wo Sasageyo Piano by Ray Mak
Linked Horizon 進撃の巨人 - 心臓を捧げよ
This song was requested by many many many many many fans during my Livestreams. I had to do it. For my fans. Love you all. Hope you guys like it. Please Share, Comment, or at least Like.
#sasageyo #aot #attackontitan
attack on titan comment 在 MAZK TV Youtube 的精選貼文
Fan Attack On Titan đâu nào !!! Hôm nay Công Xưởng Sáng Tạo Mazk sẽ chế tạo thanh kiếm Attack On Titan trong bộ cơ động ODM. Cùng đón xem nhé
-------------------------------------------------------------------
Hãy nhấn SUBSCRIBE/ĐĂNG KÝ tại https://s.creatory.vn/mazktv ngay để theo dõi những video mới nhất từ MAZK!
-------------------------------------------------------------------
Chế tạo thanh kiếm trong ATTACK ON TITAN cực "bén"| Công Xưởng Sáng Tạo Mazk #6
#CongXuongSangTao #Attackontitan #DIY #AOT #MazkPhaPhach #MazkTv #OopsMazk
-------------------------------------------------------------------
Cám ơn các bạn đã theo dõi! Đừng quên xếp hạng cho video này.
Nếu các bạn thích video này, hãy để nhấn like, share và để lại comment.
=================================
YOUTUBE CHANNEL MAZK ► : http://www.youtube.com/c/OopsMazk
? FACEBOOK FANPAGE MAZK: ► : https://www.facebook.com/mcOopsMazk
? TIKTOK MAZK ► : https://www.tiktok.com/@oops.mazk
? INSTAGRAM ► : www.instagram.com/oops.mazk
=================================
✩ Website Creatory: https://www.creatory.vn
✩ Facebook Fanpage Creatory: http://facebook.com/CreatoryVN
✩ Liên hệ hợp tác / For Business: partners@creatory.vn
=================================
© Bản quyền thuộc về Mazk TV
© Copyright by Mazk TV Channel ☞ Do not Reup
attack on titan comment 在 Kathie Violin 黃品舒 Youtube 的最讚貼文
Attack on Titan Final Violin & Piano Duet「My War / 僕の戦争」Kathie Violin x Ru’s Piano
✨加入我的會員~讓我能繼續製作更多音樂影片
✨Join Kathie's Membership to support me create music videos
✨YouTubeメンバー、こちらから入れます
https://www.youtube.com/channel/UCNO-Xg6OBU9K5LxR4JlO0Cw/join
🎻小提琴:黃品舒 Kathie Huang cosplay 莎夏·布勞斯
►Facebook: https://www.facebook.com/piinsue/
►Instagram: https://www.instagram.com/piinsue
🎹鋼琴: @Ru's Piano Ru味春捲 cosplay 米卡莎·阿卡曼
►Youtube: https://youtube.com/c/RusPiano
►Facebook: https://www.facebook.com/ruruspiano/
►Instagram: https://www.instagram.com/ruruspiano
——————
–影片製作團隊Video Credit–
小提琴改編 Violin cover & arrangement|Kathie Huang 黃品舒
鋼琴改編 Piano Instrumental arrangement|Ru’s Piano Ru味春捲
混音 Mixed & Mastering|Kathie Huang 黃品舒
攝影 & 剪輯 Photographer & Film editor|Santon Wang
文字編輯 Social media editor|Frank Hsu
——————
★關於黃品舒 About Violinist Kathie
INSTAGRAM: https://www.instagram.com/piinsue
FACEBOOK: https://www.facebook.com/piinsue/
★小提琴樂譜下載 Download Violin Sheet Music
蝦皮(台灣): https://shopee.tw/piinsue
Gumroad (Global): https://gumroad.com/piinsue#_=_
MyMusicSheet: https://www.mymusicsheet.com/kathieviolin
★抖內品舒 Donate Kathie 支持我製作更多好音樂
歐付寶(台灣): https://p.opay.tw/zoIsG
Paypal (Global): https://www.paypal.me/kathieviolin
★各式品牌合作、演出邀約、工作詢問請Email聯繫
Business contact email: piinsue@gmail.com
★更多影片 More Videos: https://reurl.cc/Obvag3
★訂閱我的頻道 Subscribe Me: https://reurl.cc/drDbZV
🔔 Subscribe & make sure to enable all push notifications!
🔔 Don’t forget to leave a comment & click "like" after watch this video.
🔔 Please Share this video on Facebook & Instagram or any social media.
★如果你喜歡我的影片,記得訂閱我並開啟小鈴鐺。
歡迎告訴我你想聽什麼音樂,你的留言和讚都是對我最大的鼓勵,讓我有動力繼續製作音樂作品,更歡迎分享我的影片:)
——————
#我的戰爭 #僕の戦争 #MyWar #進擊的巨人 #AttackonTitan #進撃の巨人 #진격의거인 #莎夏cosplay #米卡莎cosplay #SashaCosplay #MikasaCosplay #サシャCosplay #ミカサCosplay #사샤Cosplay #미카사Cosplay #Violin&PianoMedley #小提琴x鋼琴 #ピアノ&バイオリンCover #小提琴演奏 #ViolinPlay #黃品舒KathieViolincover #Ru’sPiano #Ru味春捲
attack on titan comment 在 Attack on Titan - Home | Facebook 的推薦與評價
The official page for the bone-crunching anime series "Attack on Titan" in North ... Cover Photo: Attack on Titan's photo. ... 15,663 Likes852 comments. ... <看更多>
attack on titan comment 在 Eren Yeager Hairstyle Tutorial (updated) - Attack On Titan ... 的推薦與評價
... <看更多>
attack on titan comment 在 Attack On Titan Season 2 - Pinterest 的推薦與評價
May 13, 2020 - 11.4k Likes, 233 Comments - ATTACK ON TITANFANS (@attack_on_titanfans) on Instagram: “bertholdt or marco? ... <看更多>