Blue Zone สถานที่ๆคนอาศัยอยู่อายุยืนกันทุกคน
แนว Blue Zone คือแนวเขตพื้นที่ๆ ผู้คนที่อาศัยอยู่มีอายุเฉลี่ยที่มากกว่า 90 ปี และมีไม่น้อยที่อายุขัยทะลุเกิน 100 ปีขึ้นไป เป็นพื้นที่ๆคนในพื้นที่มีโรคประจำตัวเช่น ความดันโลหิต ไขมันในเลือด หรือโรคเรื้อรังต่างๆถือว่าต่ำกว่าพื้นที่อื่นๆของโลก ผมนำข้อมูลมาจากหนังสือเรื่อง Super Fuel ของ Dr.Macola ลองอ่านกันดูนะครับ
พื้นที่ Blue Zone ที่ระบุมีไว้ 5 สถานที่ดังนี้คือ
1.) เกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น
2.) เกาะซาร์ดิเนีย (Sardinia) ประเทศอิตาลี
3.) โลมา ลินดา (Loma Linda) รัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
4.) แหลมนิโคยา (Nicoya Peninsula) ประเทศคอสตาริกา
5.) อิคาเรีย (Ikaria) ประเทศกรีซ
ก่อนจะไปสู่ประเด็นอื่นๆ สิ่งที่ 5 คนในสังคมนี้มีเหมือนกันคือ พวกเขาไม่ค่อยสูบบุหรี่ มีกิจกรรมทางร่างกายค่อนข้างเยอะ ให้ความสำคัญกับครอบครัวและสังคมเป็นลำดับแรกๆ และสิ่งสุดคือ อาหารที่พวกเขากิน เขากินโปรตีนกันไม่มากในแต่ละวัน และที่สำคัญคือโปรตีนส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากเนื้อสัตว์ครับ
โอกินาว่า (Okinawa) ทำไมคนที่นี่ถึงอายุเกิน 100 ปี
จากข้อมูลปี ค.ศ.2017 เกาะโอกินาวาแห่งญี่ปุ่นมีอัตราส่วนคนที่อายุเกิน 100 ปี ถึง 39.5 ต่อ 100,000 คน โดยผู้ชายมีอายุขัยเฉลี่ย 84 ปี และผู้หญิงมีอายุขัยเฉลี่ยพุ่งไปถึง 90 ปี (ค่าเฉลี่ยของโลกคือ 6.2:100,000)
โดยเมื่อเราไปลงดูอาหารของคนโอกินาวา จะพบว่าเป็นกลุ่มคนที่ทานพืชผักเยอะมาก โดยเฉพาะสารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตนั้นมาจากพืชผักถึงราวๆ 80% (อีก 20% มาจากข้าว) โดยพืชผักที่ว่านั้นก็คือ มันเทศ (sweet potato) และกลุ่มพวกถั่วต่างๆ (legume) ซึ่งคาร์โบไฮเดรตพวกนี้มีใยอาหาร (fiber) ในสัดส่วนที่สูงทำให้อิ่มท้อง นอกจากนี้ยังมีสาร Anthocyanin ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีจำนวนมากครับ และเป็นผลจากพื้นที่ของเกาะโอกินาวาที่อยู่ในเขตกึ่งเขตร้อน (Subtropical) จึงส่งผลให้ปลูกมันเทศได้เกือบจะตลอดทั้งปีมาเป็นหลายศตวรรษแล้วครับ
ความแตกต่างที่สำคัญอย่างต่อมาของอาหารคนโอกินาวา คือ ปริมาณของเนื้อสัตว์ที่กินต่อวันนั้นถือว่าค่อนข้างน้อย (ในอดีตนั้นน้อยจนมาถึง 1% ของสัดส่วนพลังงานทั้งหมด และได้โปรตีนจากผักเกือบทั้งหมด จนอาจจะเรียกได้ว่าคนโอกินาวาเป็นมังสวิรัตก็ได้ครับ) และถ้าจะกินเนื้อสัตว์จริงๆ เช่น เนื้อหมู ก็จะเป็นหมูที่เลี้ยงไว้ตามทุ่ง (free range) หมูที่กินหญ้าตามธรรมชาติเป็นอาหาร ไม่ได้เป็นหมูที่อยู่ตามในระบบโรงเลี้ยงกินอาหารเม็ดจากโรงงานอุตสาหกรรม (ซึ่งเนื้อหมูที่เลี้ยงแบบตามทุ่ง จะมีสัดส่วนของกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่สูงกว่า คือ มีไขมันดีมากกว่าโปรตีนทั่วไป)
เหนือขึ้นไปอีก ด้วยความที่อยู่ใกล้ทะเล คนโอกินาวาจึงกินสาหร่ายทะเล (seaweed) ที่เรียกว่า คมบุ Kombu เยอะมาก ซึ่งสาหร่ายทะเลเหล่านี้มีใยอาหารสูงมาก รวมถึง กรดไขมันโอเมก้า-3 คือ EPA และ DHA ในสัดส่วนที่สูงเช่นเดียวกัน ซึ่งเราไม่สามารถได้ง่ายๆตามอาหารทั่วไป
ทีนี้หลายๆคนก็คงจะสงสัยว่า กินโปรตีนน้อยขนาดนี้อยู่รอดมาได้อย่างไร ต้องย้อนไปดูว่าด้วยขนาดของรูปร่างคนโอกินาวาที่ไม่ได้สูงใหญ่เป็นทุนเดิม ถ้าเทียบกับตะวันตก ทำให้การความต้องการพลังงานขั้นต่ำจึงไม่ได้สูง และขนาดกล้ามเนื้อถือว่าไม่ได้เยอะ คนโอกินาวาจึงทานอาหารด้วยพลังงานเฉลี่ยเพียงราวๆ 1,900 กิโลแคลอรีในสัดส่วนของโปรตีนที่น้อย ซึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ราวๆ 2,000 กิโลแคลอรีขึ้นไป หากสังเกตุอาหารญี่ปุ่นจะเห็นว่าส่วนใหญ่จะมาเป็นถาดหรือถ้วยเล็กๆ อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้ไม่สามารถนำไปเทียบกับคนที่ออกกำลังกายหรือเล่นกล้ามได้ แต่ใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนอาหารสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้เล่นกล้ามได้
แล้วปลาละ โอกินาวาเป็นหมู่เกาะตั้งอยู่กลางทะเล แต่ทำไมคนโอกินาวาถึงไม่ได้กินปลาเป็นอาหารหลัก ต้องมีคำถามนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะคนญี่ปุ่นเป็นชาติที่กินปลาเยอะมาก ต้องย้อนกลับไปในอดีตที่โอกินาวาคือพื้นที่ของอาณาจักรริวกิว (Ryukyu Kingdom) ซึ่งไม่ใช่วัฒนธรรมแบบคนญีปุ่นมาตั้งแต่อดีต แต่กลับได้อิทธิพลด้านอาหารมาจากอาณาจักรจีนหรือจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อมา ปลาที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะโอกินาวานั้นมีสายพันธุ์ที่ไม่หลากหลาย และด้วยอุณหภูมิที่สูงเกือบตลอดทั้งปี มีฤดูหนาวที่สั้น (และไม่ได้หนาวกว่ายอดดอยบ้านเราสักเท่าไร) การเก็บอาหารสดไว้ตั้งแต่อดีตมาจึงไม่ใช่ที่คนที่นี่ทำกัน และซาซิมิจึงไม่ใช่อาหารจานหลักนั่นเองครับ
สุดท้ายนี้ที่สำคัญ คนโอกินาวา มีวัฒนธรรมการกินที่เรียกว่า ฮารา ฮาชิ บู Hari Hachi Bu ที่หมายถึงว่า หยุดกินก่อนที่จะรู้สึกอิ่ม หรือกินให้ถึงจุดที่ไม่รู้สึกหิวอีก กินแค่ประมาณ 80% ของกระเพาะอาหารถ้าคิดง่ายๆ ถามว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากินมาถึง 80% แล้วก็ต้องบอกว่าคนโอกินาวาได้ฝึกฝนการกินแบบมีสติ (mindfulness eating) มากันหลายชั่วอายุคน ซึ่งคนแบบเราเองก็สามารถทำได้แต่ต้องฝึก
I am full ฉันอิ่มแล้ว กับ I am no longer hungry ฉันไม่หิวแล้ว
สองคนน้ำดูเหมือนจะคล้ายกัน แต่จริงๆ อาจจะไม่เหมือนกัน ผมขอฝากไว้ทิ้งท้ายครับ 😊 สำหรับอีก 4 สถานที่ขอเก็บไว้เขียนต่อในคราวต่อไปครับ
「blue zone ikaria」的推薦目錄:
- 關於blue zone ikaria 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的最佳解答
- 關於blue zone ikaria 在 The Tiny Island in Greece With the Oldest Life Expectancy in ... 的評價
- 關於blue zone ikaria 在 Blue Zones - On the Aegean island of Ikaria we found our ... 的評價
- 關於blue zone ikaria 在 8 IKARIA BLUE ZONE RECIPES ideas in 2023 - Pinterest 的評價
blue zone ikaria 在 Blue Zones - On the Aegean island of Ikaria we found our ... 的推薦與評價
On the Aegean island of Ikaria we found our fifth Blue Zone. Not only do people here reach age 100 at 3 times the rate we do in the U.S, dementia is... ... <看更多>
blue zone ikaria 在 8 IKARIA BLUE ZONE RECIPES ideas in 2023 - Pinterest 的推薦與評價
IKARIA BLUE ZONE RECIPES · When Onions Are The Star: 12 Great Greek Onion Recipes · Ikaria Longevity Greens Pie with Whole Wheat Phyllo · Ikaria Cabbage ... ... <看更多>
blue zone ikaria 在 The Tiny Island in Greece With the Oldest Life Expectancy in ... 的推薦與評價
Ikaria, a tiny island in the Aegean sea, is known as a blue zone, a special place where life expectancy is much higher than the rest of the ... ... <看更多>