เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง! ดันยอดขายเครื่องดื่มผสมวิตามินเติบโตต่อเนื่อง!!
ชอบทานหวานแต่ก็อยากรักสุขภาพ ทำอย่างไรให้บรรลุความต้องการทั้งสองอย่างได้ คนรักสุขภาพ ที่ไม่อยากจำเจอยู่กับอาหารคลีนเพียงอย่างเดียว หนึ่งตัวเลือกที่กำลังมาแรงหนีไม่พ้น “เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ” อย่างกลุ่มเครื่องดื่มประเภทฟังก์ชันนัล ดริงก์ หรือเครื่องดื่มที่เติมส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อเติมเต็มประโยชน์ให้กับร่างกาย เช่น คอลลาเจน วิตามิน กรดอะมิโน
.
“เครื่องดื่มผสมวิตามิน” กลายเป็นเครื่องดื่มที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ในกลุ่มตลาดฟังก์ชันนัล ดริงก์ ในขณะที่เครื่องดื่มอื่นๆ กลับมีรายได้ลดลง
ซึ่งในปี 2563 ตลาดเครื่องดื่มวิตามิน มีมูลค่าทั้งสิ้น 1,375 ล้านบาท เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีมูลค่าทั้งสิ้น 933 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่า 47%
.
เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก และรับรู้มาเสมอว่า วิตามิน โดยเฉพาะวิตามินซี อร่อย ทานง่าย มีประโยชน์ และที่สำคัญปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้คนเลือกดื่มเครื่องดื่มวิตามิน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
.
ซึ่งแบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำหลายแบรนด์ก็ได้เริ่มลงมาผลิต และทำธุรกิจในกลุ่มนี้ด้วย เช่น สิงห์ ผลิตเครื่องดื่ม “B-ing”, โอสถสภา ผลิต C-vitt กับ อะมิโนโอเค, กระทิงแดง ผลิต “แมนซั่ม” รวมถึงยังมีแบรนด์เครื่องดื่มผสมวิตามินเกิดใหม่อีกมาก
.
เมื่อดูในส่วนของส่วนแบ่งตลาด หรือรายได้ที่แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องดื่มผสมวิตามิน จะพบว่า อันดับ 1 คือ C-vitt ของโอสถสภา 70.7%, Double C ของหนองคายเพาเวอร์ดริ๊งก์ 19.0%, Vit A Day ของเจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ 7.8%, Woody C+ Lock ของคาราบาวกรุ๊ป 1.5% และอื่นๆ อีก 1.0%
.
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีน้ำดื่มผสมวิตามิน ที่รสชาติ และสีไม่แตกต่างจากน้ำเปล่า แต่สามารถทดแทนน้ำเปล่าได้ และมีวิตามินที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เครื่องดื่มผสมวิตามินประเภทนี้ มีโอกาสแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำดื่มได้
.
และความน่าสนใจนี้ อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ เริ่มหันมาทำธุรกิจเครื่องดื่มนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากวิตามินไม่ได้มีต้นทุนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับราคาในการขายที่สามารถเพิ่มได้อีกเท่าตัว
เมื่อคู่แข่งเริ่มมากขึ้น ความท้าทายของบริษัทที่ทำธุรกิจเครื่องดื่มผสมวิตามินยิ่งมีมากขึ้น ก็คือ จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกดื่มเครื่องดื่มวิตามิน ทดแทนการดื่มน้ำเปล่าได้ ที่สำคัญจะทำอย่างไรเพื่อให้แบรนด์ของตนเอง กลายเป็นอันดับหนึ่งในใจ และเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้บริโภค
(ที่มา : Forbes, osotspa)
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#เครื่องดื่มผสมวิตามิน #เทรนด์รักสุขภาพ #เครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์
「c-vitt กับ vit a day」的推薦目錄:
c-vitt กับ vit a day 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
เครื่องดื่ม ผสมวิตามิน กำลังมาแรง /โดย ลงทุนแมน
เราควรดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 8 แก้วต่อวัน
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่หลายคนพยายามทำให้ได้
แต่รู้ไหมว่า มุมมองของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มมันมากกว่านั้น
เพราะคำว่า 8 แก้วต่อวัน ถือเป็นข้อจำกัด และเป็นความท้าทายไปในตัว
ท้าทายที่ว่าบริษัทจะทำอย่างไร ให้แบรนด์สินค้าของพวกเขา
กลายเป็น หนึ่งในตัวเลือกของผู้บริโภค
โดยเฉพาะเครื่องดื่มบรรจุขวด ที่ถูกวางเรียงกันบนร้านสะดวกซื้อ หรือซูเปอร์มาร์เก็ต
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา
จะมีการแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างผู้ผลิตเครื่องดื่ม ตั้งแต่แบรนด์น้ำเปล่า น้ำอัดลม ชา กาแฟ
แต่ถ้าถามว่าตอนนี้ เครื่องดื่มไหนที่กำลังเติบโตอย่างโดดเด่นที่สุด
คำตอบก็คือ เครื่องดื่มวิตามินซี
แล้วธุรกิจกลุ่มนี้มีมูลค่าขนาดไหน
แนวโน้มในอนาคตน่าจะเป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เครื่องดื่มวิตามินซี ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มประเภทฟังก์ชันนัล ดริงก์
หรือ เครื่องดื่มที่เติมส่วนผสมอื่นๆ เพื่อให้เราได้รับประโยชน์เพิ่มเติม
ตัวอย่างอื่นของเครื่องดื่มในกลุ่มนี้ก็คือ เครื่องดื่มที่ผสม คอลลาเจน แอลคานีทีน กรดอะมิโน
ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายบริษัทที่ลงมาทำธุรกิจกลุ่มนี้ ยกตัวอย่างเช่น
บี-อิ้ง จากสิงห์
อะมิโนโอเค จากโออิชิ
เปปทีน จากโอสถสภา
บิวติ ดริ้งค์ จากเซ็ปเป้
แมนซั่ม จากเครือกระทิงแดง
สำหรับปี 2562 ตลาดฟังก์ชันนัล ดริงก์ มีมูลค่ารวมกันประมาณ 8,000 ล้านบาท
ในขณะที่ปัจจุบันเครื่องดื่มวิตามินซี ถือเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มนี้
แล้วเครื่องดื่มวิตามินซี เติบโตดีขนาดไหน?
หากเราอ้างอิงรายได้ช่วง 4 เดือนแรก
ปี 2562 ตลาดฟังก์ชันนัล ดริงก์ มีมูลค่า 2,718 ล้านบาท
ปี 2563 ตลาดฟังก์ชันนัล ดริงก์ มีมูลค่า 2,993 ล้านบาท
ตลาดฟังก์ชันนัล ดริงก์ เติบโต 10%
ปี 2562 ตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี มีมูลค่า 933 ล้านบาท
ปี 2563 ตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี มีมูลค่า 1,375 ล้านบาท
ตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี เติบโต 47%
และอีกความหมายหนึ่งก็คือ
เครื่องดื่มอื่นๆ ในกลุ่มฟังก์ชันนัล ดริงก์ มีรายได้ลดลง
แต่เครื่องดื่มวิตามินซี กลับโตระเบิด
จนล่าสุดครองส่วนแบ่งจากฟังก์ชันนัล ดริงก์ ไปแล้วกว่า 40%
แล้วถ้าเรามาดูเฉพาะส่วนแบ่งรายได้ผู้ผลิตเครื่องดื่มวิตามินซี
จะเป็นของแบรนด์อะไรบ้าง?
C-vitt ของโอสถสภา 70.7%
Double C ของหนองคายเพาเวอร์ดริ๊งก์ 19.0%
Vit A Day ของเจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ 7.8%
Woody C+ Lock ของคาราบาวกรุ๊ป 1.5%
และอื่นๆ อีก 1.0%
จะเห็นได้ว่าตลาดนี้จริงๆ แล้วมีผู้เล่นระดับบิ๊กเนมอย่าง โอสถสภา ที่ทำธุรกิจมาก่อน
และตลาดที่หอมหวานนี้ก็คงไปเตะจมูก คาราบาวกรุ๊ป ที่ไปจับมือกับคุณวู้ดดี้
สร้างแบรนด์เครื่องดื่ม วิตามินซี Woody C+ Lock เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา..
แล้วทำไมเครื่องดื่ม วิตามินซี ถึงกลายเป็นเครื่องดื่มที่กำลังเติบโต?
เรื่องนี้ก็อาจเป็นเพราะความคุ้นเคยของเรา กับ วิตามินซี ที่มีมาตั้งแต่เด็ก
เวลาไปหาหมอ คุณหมอบางท่านก็มักจะแจกวิตามินซี
เวลาเราเรียนในห้องเรียน เราก็รับรู้มาตลอดว่าวิตามินซี ดีต่อร่างกาย
เมื่อรวมกับเทรนด์การรักษาสุขภาพที่กำลังเติบโต
สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เครื่องดื่มวิตามินซี เข้าถึงเราได้ง่ายกว่า
เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นที่ตั้งชื่อมาจากสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกัน เช่น เปปทีน หรือ อะมิโน
ที่น่าสนใจ นอกเหนือจากเครื่องดื่มวิตามินซี ขวดเล็กๆ แล้ว
ตอนนี้ เราก็เริ่มได้เห็น “น้ำดื่ม” ขนาดประมาณครึ่งลิตร
ที่เพิ่มส่วนผสมวิตามินเข้าไป เช่น ยันฮี วิตามิน วอเตอร์
และน้ำดื่มวิตามินบี วิตามินซี ของ Vit A Day
เรื่องนี้ก็ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
น่าสนใจแรกก็คือ ด้วยปริมาตรครึ่งลิตร
รสชาติไม่แตกต่างจากน้ำเปล่า
สามารถแก้กระหาย และทดแทนการดื่มน้ำเปล่าได้
เท่ากับว่าน้ำดื่มวิตามินซี มีโอกาสที่จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดได้เช่นกัน
ซึ่งตลาดน้ำดื่มปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 45,300 ล้านบาท
ใหญ่กว่ามูลค่าฟังก์ชันนัล ดริงก์ ถึง 8 เท่า
จากเหตุผลทั้งหมดนี้ก็อาจส่งผลให้ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดให้ความสนใจ
และหันเข้าหาธุรกิจน้ำดื่มผสมวิตามินในอนาคต
เพราะการผสมวิตามินเข้าไปมีต้นทุนเพิ่มไม่มาก เมื่อเทียบกับราคาขายที่เพิ่มขึ้นได้ถึงเท่าตัว..
สำหรับแบรนด์ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดน้ำดื่มเรียงจากใหญ่ไปเล็กก็คือ
สิงห์ คริสตัล เนสท์เล่ น้ำทิพย์
นี่ยังไม่นับรวมน้ำแร่อย่าง มิเนเร่ เพอร์ร่า ออรา มองต์เฟลอ ที่มีโอกาสเข้ามาเล่นในตลาดนี้ได้เช่นกัน
ซึ่งในเวลานี้ก็เชื่อได้ว่าทุกเจ้าก็คงต่างศึกษาว่าจะเติม “วิตามิน” เข้าไปในน้ำของตนเอง เพื่องอกเป็นแบรนด์ใหม่ได้อย่างไร “ให้เร็วที่สุด”
เพราะใครที่ทำช้า ก็คงต้องพลาดโอกาสที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งในรอบหลายปี
แต่สิ่งที่ยังเป็นเรื่องน่าสงสัยก็คือ
เทรนด์เครื่องดื่มผสมวิตามินที่เกิดขึ้น
จะเป็นเรื่อง “ชั่วคราว” หรือ “ถาวร”
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องสงสัยก็คือ
ตลาดที่ร้อนแรง จะดึงดูดผู้เล่นมากมาย เข้ามาแข่งขัน นับต่อจากนี้..
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman