CLASH LOUDNESS การจากลา การเดินทาง และการเติบโต
ฟังอัลบั้ม LOUDNESS
Youtube: https://zurl.co/09xn
JOOX: https://zurl.co/bhLw
Spotify: https://zurl.co/DnfI
iTunes: https://zurl.co/QI0g
2554 CLASH ประกาศยุติบทบาทของวง ช็อคแฟนเพลงไปทั่วประเทศ พร้อมอำลาแฟนเพลงอย่างยิ่งใหญ่กับคอนเสิร์ต CLASH Rebirth the Final Concert และส่งอัลบั้มสุดท้าย Nine Miss U 2 เป็นของดูต่างหน้า ที่เป็นการบอกกับแฟน ๆ ถึงอนาคตของสมาชิกในวงว่าแต่ละคนจะเดินเส้นทางไหนต่อไป ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแนวเพลงของแต่ละคนเริ่มแตกต่างกันอย่างชัดเจนในตอนนั้น
แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงกับวงการเพลงเป็นอย่างมากวงดนตรีและนักร้องในช่วงยุคปลาย 90's และในยุค 2000 เริ่มกลับมามีกระแสมากขึ้นอีกครั้งและในที่สุดปี 2561 CLASH ก็สร้างเซอร์ไพรส์แฟนเพลงด้วยการกลับมารวมวงกันอีกครั้งพร้อมจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 7 ปี CLASH AWAKE Concert พร้อมปล่อยหนังสั้น(ดูได้ที่: https://zurl.co/raOp) ที่ชวนแฟน ๆ มาระลึกถึงเพลงฮิตในวันวาน ก่อนที่จะไปพบการกลับมาอย่างเต็มรูปแบบ นับตั้งแต่ปี 61 - ปีนี้ CLASH ออกซิงเกิ้ลพิเศษมาแล้วทั้งหมด 4 เพลง ใจเย็นเย็น ,อยู่ตรงนี้เสมอ, Lonely และ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ซึ่ง 4 เพลงพาเราให้กลับไปคิดถึงเมโลดี้หวาน ๆ เรื่องราวความรักในแบบ CLASH เสียดสีการเมืองแบบเจ็บ ๆ คัน ๆ แต่ในทางกลับกันก็สัมผัสได้ถึงทิศทางที่เริ่มเปลี่ยนไปและดนตรีที่พัฒนาขึ้น
แต่ใครจะคิดว่าปล่อยซิงเกิลมาตั้ง 4 เพลงนับตั้งแต่กลับมารวมวงผ่านมา 2 ปี CLASH จะออกอัลบั้มใหม่โดยในอัลบั้มเพลงจะเป็นเพลงใหม่ทั้งหมดถึง 10 เพลงด้วยกัน !
CLASH LOUDNESS กับ 10 เพลงที่ให้ความรู้สึกคิดถึงวันเก่าผสมปนเปไปกับความแปลกใหม่ และการทดลองวิชาจากการเดินทางที่สมาชิกแต่ละคนไปเก็บเกี่ยวมาตลอด 7 ปี ในอัลบั้มนี้มีการเรียง Track ที่ค่อนข้างต่างออกไปจากอัลบั้มทั้งหมดที่ CLASH เคยทำมา(ไม่นับ Nine Miss U 2 ที่เป็น Side Project ไปครึ่งอัลบั้ม)
ปกติแล้ว CLASH จะมีการวาง Track ที่ค่อนข้างชัดเจนในแต่ละอัลบั้มโดย Track 1-3 ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงฮิตเกือบทั้งหมด และจะถูกใช้เป็นซิงเกิ้ล 1 2 3 อยู่เสมอๆ ซึ่ง Track แรกจะทำหน้าที่บอกธีมในอัลบั้มนั้นๆ ตามแบบสากล ในขณะที่ Track 6 ,7 จะเป็นหมัดเด็ดประจำอัลบั้ม ส่วน Track 9-11 จะเป็น Track ที่พูดถึงความฝันและการเดินทางส่วน Track 5 หรือ Track กลางอัลบั้มจะเป็นเพลงเสียดสี เพลงสะท้อนสังคม
แม้ Track แรก "เสียงแห่งความหวัง" ที่ยังคงเป็นเพลงเร็วเหมือนอัลบั้มก่อน ๆ แต่ดีกรีของเพลง เนื้อหาต่าง ๆ มันมีกลิ่นอายเหมือน Track ที่ 9-11 ของอัลบั้มที่ผ่าน ๆ มา ที่มักจะเป็นเพลงเร็วเน้นพูดถึงความฝัน การต่อสู้ เหมือน ฝันเดียวที่ต้องการ, กล่อม, Here We Go
ในขณะที่ Track ที่ 2 นั้นในอัลบั้มก่อน ๆ จะเป็นซิงเกิลเปิดตัว หรือ ซิงเกิล ที่ 2 ที่ใช้โปรโมทอัลบั้ม ซึ่ง Track ที่สองของทุกอัลบั้ม แทบจะเป็นเพลงฮิตของ CLASH ทั้งหมด(หนาว, ค้างคา, ใส่ร้ายป้ายสี, รักเองช้ำเอง ฯลฯ) "บอก" ในอัลบั้มนี้เองก็ดู "น่าจะ" เป็นฮุคเด็ดประจำอัลบั้มนี้ เพราะเพลงนี้คือเพลงรักที่มีความเป็นวง CLASH มากที่สุด แต่... ในอัลบั้มนี้ CLASH หยิบ Track ที่ 3 "วันนั้นของพี่ วันนี้ของน้อง" เป็นซิงเกิลที่ 2 แทน ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่บอกกับเราว่า CLASH ในวันนี้แม้จะยังมีมุมมองความรักแบบเก่า ๆ จาก 7 ปีก่อน แต่ตอนนี้เขามีมุมมองใหม่ ๆ ได้เรียนรู้โลกมากขึ้น และเติบโตขึ้นมากแล้ว "วันนั้นของพี่ วันนี้ของน้อง" feat พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ คือเพลงที่แบ่งออกเป็นสองเรื่องราวระหว่าง ความรักของพี่ หรือคนที่เจ็บมาเยอะจน move on ผ่านความเจ็บปวดไปได้ง่ายขึ้นและมองเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ที่ต้องพบเจอ กับ ความรักของน้อง ความรักในแบบ CLASH ที่การ move on ไม่ใช่เรื่องง่าย ชีวิตยังคงหมุนรอบความรัก และมันยังคงสร้างแผลครั้งใหญ่ให้เสมอ นอกจากเนื้อหาจะบอกให้เห็นถึงมุมมองที่โตขึ้นแล้ว Track นี้ยังหยิบเอาสไตล์การร้องแบบ BANKK CA$H มาปรับใช้ด้วย
10 Track จากอัลบั้มใหม่นี้มีความหลากหลายมากขึ้น มีเพลงที่ทำให้เราหายคิดถึง CLASH แบบก่อน ๆ มีเพลงที่ทำให้เรารับมือกับปัญหาด้วยความใจเย็นขึ้น แต่ก็จิกกัดและประชดสังคมไปในตัว สิ่งที่น่าสนใจในอัลบั้มนี้ คือการ Featuring กับศิลปินอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น F.Hero, พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ , BOY Lomosonic และ จุลโหฬาร ซึ่งมันทำให้ Clash ได้ก้าวออกมาทำแนวเพลงที่ต่างไปจากที่เคยทำ
แต่ในบรรดาTrack ทั้งหมด "มูเตลู" และ "ในนามแห่งความรัก" น่าจะเป็นเพลงที่ผิดคาดที่สุดในอัลบั้มนี้ ในบรรดาเพลงที่ CLASH ทำมา มูเตลู เป็นเพลงที่พอฟังแล้วรู้สึกว่าเนื้อหามันมี "ความรักแบบเด็กๆ+ความสมัยใหม่+มีความผู้หญิงหน่อย ๆ" แต่ตัวเพลงก็ยังคงมีกลิ่นอายประมาณ Thai Girls หรือ เชื่อในฉัน ในขณะที่ "ในนามแห่งความรัก" เพลงแอบมีความเพื่อชีวิตอยู่ในเนื้อหา แต่ทางด้านดนตรีแทบจะแหวกจะเพลงของ Clash ที่เคยทำมา
CLASH LOUDNESS เลยเป็นเหมือนอัลบั้มที่นอกจากจะทำให้แฟนหายคิดถึงแล้วมันยังเป็นอัลบั้มที่เป็นการทดลองหยิบเอาประสบการณ์ที่สั่งสมมาของแต่ละคนมาปรับใช้ให้อยู่ภายใต้วงที่ชื่อว่า CLASH พัฒนาทิศทาง และแนวเพลงของ CLASH ให้ไปไกลยิ่งขึ้นจากที่เคยทำมา
#จดอ #JUSTดูIT #CLASHROCKBAND #CLASHLOUDNESS
