Tropicana แบรนด์น้ำส้มพร้อมดื่ม รายแรกของโลก /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า เมื่อ 70 กว่าปีก่อน เรายังไม่สามารถหาซื้อน้ำส้มพร้อมดื่มที่มียี่ห้อในตลาดทั่วไปได้
เพราะน้ำส้มสมัยก่อนจะนิยมขายแบบเข้มข้น ที่ต้องเอามาผสมน้ำอีกทีถึงจะดื่มได้
จนกระทั่ง Tropicana เป็นผู้คิดค้น “น้ำส้มพร้อมดื่ม” บรรจุกล่องขึ้นมา
เรื่องราวนี้มีความเป็นมาอย่างไร และใครเป็นเจ้าของ Tropicana ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Tropicana เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้ จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ก่อตั้งขึ้นในปี 1947 หรือ 74 ปีที่แล้ว โดยคุณ Anthony T. Rossi
คุณ Rossi เป็นชาวอิตาลี ที่อพยพมาอยู่สหรัฐฯ ตอนอายุเพียง 21 ปี โดยช่วงแรก เขาอาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ทำงานเป็นคนขับรถแท็กซี่และขายของชำ
ต่อมา เขาย้ายไปอยู่รัฐฟลอริดา เนื่องจากมีอากาศอบอุ่นคล้ายกับบ้านเกิดในอิตาลี และหันมาทำธุรกิจร้านอาหาร แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไร
อย่างไรก็ตาม คุณ Rossi ได้เล็งเห็นว่า รัฐฟลอริดามีชื่อเสียงเรื่องผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้มและมะนาว จึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัทชื่อว่า Fruit Industries เพื่อขายผลไม้บรรจุกล่อง
ในระหว่างที่ธุรกิจขายผลไม้ กำลังไปได้สวย
คุณ Rossi ก็พบว่า มีส้มผลเล็ก ๆ เหลืออยู่จำนวนมาก เพราะไม่ถึงเกณฑ์ที่จะไปบรรจุในกล่องได้ ซึ่งเขาไม่ต้องการทิ้งไปเฉย ๆ จึงลองนำมาผลิตเป็นน้ำส้มแบบเข้มข้น ขายเสริมรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
ต้องบอกก่อนว่า น้ำส้มที่วางขายตามร้านค้าทั่วไปในสมัยก่อน จะนิยมทำเป็นน้ำผลไม้เข้มข้นที่ยัง “ไม่พร้อมดื่มในทันที” เพราะต้องนำมาผสมน้ำให้เจือจางก่อนบริโภค โดยมีผู้นำตลาด คือ แบรนด์ Minute Maid
ส่วนน้ำส้มคั้นธรรมชาติ จะถูกจำหน่ายในพื้นที่จำกัดเท่านั้น ไม่มีแบรนด์ที่แพร่หลายในวงกว้าง เพราะเก็บเอาไว้ได้เพียงไม่กี่วัน
ซึ่งตรงจุดนี้ คุณ Rossi มองว่า หากสามารถพัฒนา “น้ำส้มคั้นแบบพร้อมดื่ม” ที่เก็บไว้นานได้ มันก็น่าจะมีตลาดที่ใหญ่มากรอคอยอยู่
จนในปี 1954 เขาก็ศึกษากระบวนการพาสเจอไรซ์น้ำส้มคั้น และนำมาลองใช้ได้สำเร็จ ทำให้ยืดอายุการเก็บรักษาไว้ได้นานถึง 3 เดือน โดยที่รสชาติยังคงเดิม
ทำให้บริษัทของเขา เป็นเจ้าแรกของตลาด ที่วางขายน้ำส้มพร้อมดื่มบรรจุกล่อง ตามชั้นสินค้าของร้านทั่วไปได้ โดยใช้ชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์ว่า “Tropicana Pure Premium”
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการออกแบบตัวการ์ตูนบนกล่องน้ำส้ม เป็นเด็กผู้หญิงถือถาดส้มบนศีรษะ ชื่อว่า Tropic-Ana ซึ่งทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้ น้ำส้ม Tropicana Pure Premium ทำยอดขายถล่มทลาย จนบริษัทมุ่งเน้นธุรกิจน้ำส้มเป็นหลัก และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Tropicana Products, Inc.
ในเวลาต่อมา เมื่อมีความต้องการซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะจากรัฐอื่น ทำให้ Tropicana ต้องเจอความท้าทายในด้านการขนส่งสินค้า
ช่วงแรก บริษัทใช้บริการขนส่งทางรถบรรทุก แต่พอเริ่มมีปริมาณคำสั่งซื้อจากเมืองที่อยู่ห่างไกล จึงเริ่มส่งสินค้าทางเรือด้วย
แต่ในปี 1971 บริษัทก็ตัดสินใจลงทุนระบบขนส่งแบบที่ไม่มีเจ้าไหนเคยทำมาก่อน นั่นคือ การซื้อขบวนรถไฟขนส่งสินค้าหลายร้อยตู้ และบริหารจัดการการเดินรถด้วยตัวเอง
ซึ่งทำให้กระจายสินค้าได้รวดเร็วขึ้น และยิ่งส่งสินค้าทีละมาก ๆ ก็ยิ่งมีต้นทุนต่อหน่วยถูกลง โดยผู้คนในวงการตั้งชื่อเล่นให้กับขบวนรถไฟของ Tropicana ว่า The Great White Juice Train
นอกจากนั้น Tropicana ยังขึ้นชื่อว่าเป็น บริษัทน้ำส้มพร้อมดื่มรายแรกที่สร้างโรงงานผลิตขวดพลาสติก เพื่อบรรจุผลิตภัณฑ์ของตัวเองอีกด้วย
ซึ่งนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ Tropicana คิดค้นขึ้นนั้น ได้เป็นต้นแบบการทำธุรกิจให้กับผู้เล่นรายอื่นในตลาด จนอุตสาหกรรมน้ำผลไม้พร้อมดื่ม เติบโตมาถึงทุกวันนี้
แล้วปัจจุบันใครเป็นเจ้าของ Tropicana ?
หลังจากน้ำส้ม Tropicana ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก็มีผู้สนใจในตัวแบรนด์มาเทกโอเวอร์บริษัท จนเจ้าของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงแทบทุก 10 ปี เลยก็ว่าได้
ปี 1969 บริษัท Tropicana Products จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เป็นบริษัทมหาชน
ปี 1978 คุณ Rossi ผู้ก่อตั้งตกลงขายกิจการให้กับ Beatrice Foods บริษัทอาหารสัญชาติอเมริกัน
ปี 1988 แบรนด์ Tropicana ถูกขายต่อให้กับ Seagram’s บริษัทเครื่องดื่มสัญชาติแคนาดา
ปี 1998 แบรนด์ Tropicana ถูกขายต่อให้กับ PepsiCo บริษัทอาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Lay’s และ Pepsi
ภายใต้การบริหารของ PepsiCo ก็ช่วยส่งเสริมให้ Tropicana กลายเป็นผู้นำตลาดน้ำส้มพร้อมดื่มของสหรัฐอเมริกา โดยครองส่วนแบ่งตลาด 33% นำหน้าคู่แข่งอย่าง Minute Maid ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือของ Coca-Cola ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 24%
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา
PepsiCo ก็ตัดสินใจขาย Tropicana และแบรนด์เครื่องดื่มอื่น ๆ ให้กับ PAI Partners บริษัทเอกชนจากฝรั่งเศส ในราคา 1.1 แสนล้านบาท
โดย PepsiCo และ PAI Partners ไปก่อตั้งบริษัทใหม่ร่วมกันในลักษณะกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ซึ่ง PepsiCo จะยังถือหุ้นในบริษัทใหม่อยู่ 39%
จากเรื่องราวนี้จะเห็นได้ว่า
หากจะเอาตัวรอด และประสบความสำเร็จในธุรกิจได้
มันก็ต้องพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้นตลอดเวลา
เหมือนกรณีของน้ำส้ม Tropicana
ที่ตอนแรกขายน้ำส้มเข้มข้น แบบเดียวกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด
แต่พวกเขาก็ไม่หยุดคิดต่อไปข้างหน้าว่า
จะทำอย่างไร ให้ลูกค้าได้ดื่มน้ำส้มราวกับเพิ่งคั้นใหม่สด ๆ
จะทำอย่างไร ให้ลูกค้าในเมืองห่างไกล ได้ดื่มน้ำส้มอร่อย ๆ อย่างทั่วถึง
ซึ่งการแก้โจทย์เหล่านั้น ทำให้ Tropicana เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดื่มน้ำผลไม้ของผู้บริโภค นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-http://www.fundinguniverse.com/company-histories/tropicana-products-inc-history/
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Tropicana_Products
-https://www.cnbc.com/2021/08/03/pepsico-to-sell-tropicana-and-other-juice-brands-for-3point3-billion.html
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過26萬的網紅เชื่อชัย,也在其Youtube影片中提到,#เชื่อชัย #SpokeDark : วันนี้พี่ชัยจะมาแนะนำโปรโมชั่นพิเศษในงาน Legally Beauty 20th Anniversary of Beauty Hall ที่จัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีของแผนก ...
cola คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
กรณีศึกษา เมื่อ JOOX กับ Coke ร่วมมือกันสร้างแคมเปญดนตรี บนโลกดิจิทัล
JOOX X ลงทุนแมน
คงจะปฏิเสธไม่ได้...ว่าภายในเวลา 5 ปีกว่าๆ ที่ JOOX เข้ามาทำธุรกิจเมืองไทย
JOOX ได้กลายมาเป็นผู้นำในวงการ Music Streaming ไทย ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนแมส ทุกระดับ และทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงยังสร้างสีสันมากมายในวงการดนตรีอย่างต่อเนื่อง และยังครองความเป็นอันดับ 1 ในตลาดปัจจุบัน
แล้วอะไรที่ทำให้ JOOX ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ?
คำตอบก็น่าจะเป็นจุดเด่นที่เราเห็นได้ชัดเจนอย่าง การนำเสนอคอนเทนต์ ที่ตอบโจทย์ความชอบของคนไทยอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น เพลงที่มีให้เลือกฟังหลากหลาย โดยเฉพาะเพลงไทย ที่มีทุกเพลง ทุกแนว รวมถึงเพลงสากล อินดี้ หรือแม้กระทั่ง K-POP รวมถึง Exclusive Content ที่หาฟังได้เฉพาะใน JOOX
นอกจากนี้ หากเปิดเข้าไปดู App ของ JOOX ก็จะเห็นว่า นอกจากจะฟังเพลงได้ ผู้ใช้ JOOX ยังสามารถเข้าไปร้องคาราโอเกะ การ Duet กับศิลปินคนโปรด
การ Live คอนเสิร์ต และการ Interact กับศิลปินหลากหลายค่าย รวมถึงการฟัง Podcast วิทยุออนไลน์ และ JOOX BUZZ การสร้าง VDO สั้นๆ ไว้แชร์ความ
ครีเอทกันได้อีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนที่ชอบดนตรีแบบครบถ้วน ทำให้ปัจจุบัน JOOX เป็น Music Community ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นอกจากการเป็น Community ที่ตอบโจทย์แล้ว JOOX เองยังโดดเด่นในเรื่องการทำ Marketing Campaign ให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ มากมาย
และในความเคลื่อนไหวล่าสุด คือ JOOX จับมือกับ Coke สร้างประสบการณ์ฟังเพลงเหนือระดับ
กับแคมเปญระดับภูมิภาคที่ใช้ชื่อว่า ‘เปิดจังหวะซ่าในตัวคุณ’ Coca-Cola…Turn Up Your Rhythm
แล้วดีลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
แฟนคลับของ JOOX และ Coke จะได้ประโยชน์อะไรจากดีลนี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่า JOOX เป็นหนึ่งในธุรกิจของ Tencent บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศจีน และติดท็อป 10 แบรนด์ที่มูลค่าสูงที่สุดของโลก
โดยธุรกิจส่วนใหญ่ของ Tencent คือ เกมและแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์
ไลฟ์สไตล์ในออนไลน์ ที่เปิดบริการในหลายๆ ประเทศทั่วโลก
ก็เลยทำให้ JOOX จากที่เปิดตัวในฮ่องกงในปีพ.ศ. 2557
ก็ขยายธุรกิจไปยังหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ไทย เมียนมาร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย
ซึ่งในแต่ละพื้นที่ที่ให้บริการก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง
เคล็ดลับความสำเร็จก็คือ หาก JOOX ไปทำธุรกิจในประเทศไหน
ก็จะเน้นให้บริการผลงานเพลงยอดนิยมของประเทศนั้นๆ ตั้งแต่เพลงฮิตในอดีตจนถึงปัจจุบัน
จนถึงร่วมมือกับศิลปินในประเทศนั้นๆ จัดคอนเสิร์ต หรือสร้างผลงานเพลงร่วมกัน หรือที่เรียกกันว่า JOOX Original นั่นเอง
สรุปคือ กลยุทธ์ของ JOOX พยายามกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมทางดนตรี
และไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละประเทศนั่นเอง
Coke แบรนด์น้ำอัดลมอันดับหนึ่งในโลก รวมถึงในเมืองไทย
ที่วางตำแหน่งตัวเองเป็นแบรนด์ที่มอบความสดชื่นและความสุขให้แก่ลูกค้าด้วยแคมเปญการตลาดที่หลากหลาย
มาในปีนี้ จากแนวคิดที่ Coke ต้องการเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านเสียงดนตรี เพราะเชื่อว่าเสียงเพลงและดนตรีมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อน ครอบครัว คนรัก จึงออกแคมเปญ ‘Coca-Cola…Turn Up Your Rhythm เปิดจังหวะซ่าในตัวคุณ’ เพื่อปลุกจังหวะ ปลุกความซ่าให้กับทุกคนผ่านประสบการณ์สุดพิเศษด้านดนตรีและเสียงเพลง ที่จะช่วยเพิ่มเติมให้ช่วงเวลาว่างหรือแสนน่าเบื่อของวันได้กลับมามีชีวิตชีวากันอีกครั้ง
แล้ว JOOX กับ Coke จะร่วมมือทำอะไรกัน ?
การร่วมมือในครั้งนี้เป็นแคมเปญชื่อ ‘เปิดจังหวะซ่าในตัวคุณ’ Coca-Cola…Turn Up Your Rhythm
ที่ Coke ร่วมทำแคมเปญกับ JOOX ใน 3 ประเทศคือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
โดยจะขอขยายความแคมเปญที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ฟัง รูปแบบแคมเปญนี้ก็คือ
แค่เราดื่ม Coke แล้วสแกน QR Code ที่ติดอยู่ตรงฉลากข้างขวด
จากนั้นก็ลุ้นรับสิทธิ์ฟัง JOOX VIP 7 วัน ที่นอกจากได้คุณภาพเสียงระดับสูงก็จะได้ใช้ครบทุกฟังก์ชัน
โดยจะแจกฟรีถึง 2.8 ล้านโค้ด โดย 1 ไอดี จะได้ 1 สิทธิ์
ที่น่าสนใจคือ แคมเปญนี้มีโชคถึง 2 ชั้น
เพราะคนที่ได้รับ JOOX VIP ไปแล้ว
ก็ยังสามารถมาลุ้นรอบสองด้วยการใส่ QR Code ลุ้นรับของรางวัลทุกสัปดาห์จำนวน 14,000 รางวัล
ไม่ว่าจะเป็น iPhone 12 Pro, Headphone, Marshall Acton 2 Speaker เป็นต้น
โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2564
แน่นอนแคมเปญนี้คนที่ได้ประโยชน์สูงสุด คือ ผู้บริโภคคนไทยทั่วประเทศ
แล้ว JOOX กับ Coke สะท้อนความแข็งแกร่งอะไรให้เห็น ผ่านความร่วมมือในแคมเปญนี้?
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น JOOX เป็นบริษัทในเครือของ Tencent
มีความเชี่ยวชาญในการทำ Music Marketing ด้วยการมีสารพัดฟังก์ชันที่นอกจากฟังเพลง ก็ยังมีคาราโอเกะ และสามารถร้องประสานเสียงกับศิลปิน
หรือสร้างคลิปวีดีโอสั้นๆ ฟัง Podcast รับชมคอนเสิร์ต
จนถึงมีกิจกรรมพิเศษกับศิลปินต่างๆ ที่ Exclusive เฉพาะใน JOOX
ที่น่าสนใจ สารพัดฟังก์ชันมากมายเหล่านี้ เป็นอะไรที่ถูกใจคอเพลง คอเอนเตอร์เทนเมนต์ ก็เลยทำให้ JOOX ได้รับความนิยมจากผู้คนในวงกว้างและทุกระดับชั้น
ส่วนอีกข้อคือ JOOX มี 2 สิ่งสำคัญที่อยู่ในมือ นั่นคือ เทคโนโลยี + ข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้จำนวนมาก
โดยสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ มาวิเคราะห์สร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ คอนเทนต์ที่โดนใจ
รวมไปถึงการนำข้อมูลเหล่านี้ มาช่วยซัพพอร์ตพาร์ทเนอร์ สร้างสรรค์แคมเปญดีๆ ออกสู่สาธารณะ
ด้านของ Coke เองก็มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้บริโภค ไปพร้อมๆ กับเชื่อมโยงความผูกพันของผู้คนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างช่วงเวลาพิเศษ
หัวใจสำคัญของการทำการตลาดของ Coke คือ ‘การทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้บริโภค และตอบโจทย์ความต้องการนั้นอย่างลงตัว มีการพัฒนาตลอดเวลาเพื่อปรับตามความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา’ ภายใต้ความเชื่อที่ว่า Coke ต้องไปอยู่ในพื้นที่ที่ผู้บริโภคอยู่ และหาทางสร้างปฏิสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมและเข้าถึงแบรนด์ได้มากที่สุด เพื่อมอบความแปลกใหม่ สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ และรักษาความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค
ซึ่งในแคมเปญนี้ Coke ก็เชื่อว่า บทเพลง คือ หนึ่งในตัวกลางสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภค รวมถึงเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้บริโภคเข้ากับเพื่อน ครอบครัว คนรัก โดย Coke จะมาเติมเต็มความมีชีวิตชีวาและปลุกความซ่าไปพร้อมๆ กับการพักผ่อนขณะเพลิดเพลินกับเสียงเพลง
แคมเปญนี้จึงยิ่งสะท้อนให้เห็นหัวใจสำคัญทางการตลาดและความเชื่อของ Coke ได้เป็นอย่างดี
การร่วมมือกันของ 2 แบรนด์นี้ จึงนับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเลยทีเดียว
เมื่อ ณ วันนี้หลายคนมักตั้งคำถามว่าดีลความร่วมมือที่ดีทางธุรกิจ จะต้องเป็นแบบไหน ?
คำตอบ คือ ต้องได้ประโยชน์ทั้ง 3 ฝ่าย
นั่นคือทั้ง 2 แบรนด์ที่ร่วมมือกัน และคนสุดท้ายก็คือ ผู้บริโภค
เหมือนอย่าง JOOX กับ Coke นอกจากสร้างแบรนด์ผ่านแคมเปญนี้แล้ว
ก็ยังทำให้ผู้บริโภคคนไทยมีความสุข...กับเสียงเพลง นั่นเอง..
#JOOXTH #JOOXเปิดจังหวะซ่า #เปิดจังหวะซ่า #CokeUplift #CocaColaTH
cola คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
บริษัทเครื่องสำอาง ใหญ่สุดในเกาหลีใต้ กำลังเปลี่ยนมือ /โดย ลงทุนแมน
หลายคนน่าจะรู้จักบริษัทเครื่องสำอางเกาหลียักษ์ใหญ่ที่ชื่อว่า “Amorepacific”
ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Etude, Innisfree, Laneige, HERA และ Sulwhasoo
Amorepacific ถือเป็นบริษัทเครื่องสำอางเกาหลีที่ทำรายได้มากที่สุดมาอย่างยาวนาน
แต่เมื่อไม่นานมานี้ กลับมีอีกบริษัทที่ทำธุรกิจเครื่องสำอางเหมือนกัน
แถมมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด และกำลังจะทำรายได้แซงหน้า Amorepacific
แล้วบริษัทที่ว่านี้ คือบริษัทอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อุตสาหกรรมเครื่องสำอางเกาหลีเติบโตอย่างก้าวกระโดดตาม “Korean Wave”
หรือกระแสความนิยมผลิตภัณฑ์เกาหลี ที่เราเห็นในซีรีส์, เพลง หรือรายการบันเทิง
ที่คอยช่วยแพร่กระจายวัฒนธรรม รวมถึงผลิตภัณฑ์ของเกาหลีออกไปทั่วโลก
แล้วที่บอกว่าเติบโตแบบก้าวกระโดด
มันก้าวกระโดดขนาดไหน ?
ปี 2010 ผลิตภัณฑ์ความงามเกาหลีมีมูลค่าตลาด 268,000 ล้านบาท
ปี 2018 ผลิตภัณฑ์ความงามเกาหลีมีมูลค่าตลาด 522,000 ล้านบาท
คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 8.7% ต่อปี
ซึ่งลูกค้าหลักมาจากชาวเอเชีย โดยเฉพาะคนจีน หรือสำหรับผู้ที่เคยไปเที่ยวเกาหลี
คงพอคุ้นเคยกับภาพชาวต่างชาติตามร้านเครื่องสำอางในย่านเมียงดงเป็นอย่างดี
ปัจจุบัน มีบริษัทเครื่องสำอางใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ 2 บริษัท
บริษัทแรก คือ Amorepacific
ก่อตั้งในปี 1945 โดยคุณซอซองฮวาน
ปัจจุบันบริหารงานโดยทายาทรุ่นที่ 2 ชื่อคุณซอคยองเบ
บริษัทนี้ มีผลงานที่เรียกได้ว่าปฏิวัติการแต่งหน้าไปทั่วโลก
นั่นคือการคิดค้น “Cushion” ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์รองพื้นแบบใหม่ที่พกพาสะดวกและใช้ง่าย
นี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บริษัทมียอดขายในตลาดความงามเกาหลีเป็นอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน
ถึงขนาดที่ว่าในปี 2016 ซอคยองเบ เจ้าของบริษัท Amorepacific ขึ้นแท่นเป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศเกาหลีใต้ เลยทีเดียว
แต่เมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้มีบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางเกาหลีอีกราย
ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด นั่นก็คือ LG Household & Health Care หรือ LG H&H
LG H&H เดิมใช้ชื่อว่า Lucky Chemical Industrial Corp
ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1947 โดยคุณคูอินเฮว คนเดียวกับที่ก่อตั้งอาณาจักร LG
ในปี 1995 เปลี่ยนชื่อเป็น LG Chemical
ก่อนที่ภายหลังบริษัท LG Chemical ก็ได้แยกธุรกิจแบรนด์เครื่องสำอาง
ออกมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2001 ชื่อ “LG H&H”
โดยมี CEO คนปัจจุบันคือ คุณชาซอกยง
ซึ่งก็ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ที่น่าสนใจก็คือ แบรนด์เครื่องสำอางส่วนใหญ่ของทั้ง 2 บริษัทมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเดียวกันแทบทั้งหมด
เราลองมาดูตัวอย่างแบรนด์ของ Amorepacific ชนกับ LG H&H ที่แบ่งกลุ่มตามระดับราคากัน
กลุ่มเครื่องสำอาง Luxury
Amorepacific : Sulwhasoo และ HERA
LG H&H : The History of Whoo, O HUI และ SU:M37
กลุ่มเครื่องสำอาง Premium
Amorepacific : Laneige, IPOE และ eSpoir
LG H&H : VDL และ belif
กลุ่มเครื่องสำอาง Mass
Amorepacific : Innisfree, Etude และ Mamonde
LG H&H : The Face Shop
ตรงนี้ เราพอจะเห็นได้ว่า Amorepacific มีแบรนด์ในกลุ่ม Mass มากกว่า
ในขณะที่แบรนด์ Mass ของ LG H&H เป็นการซื้อกิจการ The Face Shop เข้ามา
ซึ่งแบรนด์ที่ทางบริษัทเป็นผู้คิดค้นเอง จะโฟกัสไปที่ลูกค้ากลุ่ม Luxury มากกว่า
แล้วอะไร เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทั้ง 2 บริษัท ?
จุดที่ทำให้ LG H&H เติบโตแบบก้าวกระโดด
และ Amorepacific เริ่มไม่เติบโต เริ่มต้นขึ้นในปี 2016
สมัยนั้น รัฐบาลเกาหลีเริ่มแบนการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ของชาวจีน
ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามเกาหลีในประเทศที่มีคนจีนเป็นลูกค้าหลัก
จึงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งทั้ง 2 บริษัทนี้ เลือกที่จะรับมือด้วยแนวทางที่ต่างกันออกไป
แม้ Amorepacific จะมีหน้าร้านที่ประเทศจีนเยอะ
แต่บริษัทกลับเลือกที่จะไปเจาะฐานลูกค้าในประเทศอื่น ๆ แทน
ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา ประเทศในยุโรป รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่สำหรับ LG H&H ยังคงเลือกสู้ในตลาดจีนต่อไป
โดยเริ่มการส่งสินค้าออกไปขายในห้างสรรพสินค้าที่จีนทันที
ในขณะเดียวกัน ก็ได้เน้นลูกค้าชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูง
สอดคล้องกับแบรนด์กลุ่ม Luxury ที่มีอยู่
ซึ่งกลับกลายเป็นว่า สินค้ากลุ่ม Luxury ของ LG H&H
โดยเฉพาะแบรนด์ “The History of Whoo” สามารถครองใจชาวจีนได้อย่างขาดลอย
เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Sulwhasoo ของ Amorepacific ที่มีมาก่อนเสียอีก
จากกลยุทธ์ทางธุรกิจในครั้งนั้น
ก็ได้ทำให้ LG H&H ก้าวมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Amorepacific จนถึงปัจจุบัน
สะท้อนให้เห็นจาก ผลการดำเนินงานเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม
บริษัท Amorepacific Group
ปี 2016 รายได้ 195,611 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 30,559 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 142,839 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 4,043 ล้านบาท
รายได้หดตัวลงเฉลี่ย -7.6% ต่อปี
กำไรจากการดำเนินงานหดตัวลงเฉลี่ย -40.0% ต่อปี
บริษัท LG H&H
ปี 2016 รายได้ 88,368 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 16,184 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 124,824 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 23,044 ล้านบาท
รายได้เติบโตเฉลี่ย 9.0% ต่อปี
กำไรจากการดำเนินงานเติบโตเฉลี่ย 9.2% ต่อปี
จะเห็นได้ว่าธุรกิจเครื่องสำอางของบริษัท LG H&H
เติบโตต่อเนื่องจนมีรายได้เกือบเทียบเท่ากับ Amorepacific แล้ว
ในขณะที่บริษัททำกำไรจากการดำเนินงานเป็น 5 เท่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เลยทีเดียว
นอกจาก LG H&H จะมีธุรกิจเครื่องสำอางแล้ว
บริษัทแห่งนี้ ก็ยังเป็นเจ้าของธุรกิจสินค้าภายในบ้านและเครื่องดื่ม
โดย LG H&H ยังเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย Coca-Cola เพียงรายเดียวในประเทศเกาหลีใต้
ล่าสุด LG H&H สามารถทำกำไรจากการดำเนินงาน
พลิกกลับมาเติบโตที่ 5.4% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2020
หลังจากที่ติดลบมาตลอด ตั้งแต่เผชิญกับวิกฤติโควิดในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2020
โดยเหตุผลสำคัญก็คือ กำลังซื้อเครื่องสำอางหรูของ LG H&H ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานของ Amorepacific ยังคงหดตัว ในช่วงเวลาเดียวกัน
ด้วยความที่บริษัท LG H&H มีธุรกิจเครื่องสำอางที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด
และกระจายธุรกิจอยู่ในหลายอุตสาหกรรม ที่ไม่ได้พึ่งพารายได้จากแหล่งเดียว
นั่นจึงทำให้มูลค่าบริษัทของ LG H&H เติบโตขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
โดยปัจจุบันอยู่ที่ 795,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204% ภายใน 4 ปี
สวนทางกับ Amorepacific ที่มีมูลค่าบริษัท 473,200 ล้านบาท ลดลง 55% ในช่วงเวลาเดียวกัน
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ เราก็คงสรุปได้ว่าบริษัท LG H&H
กำลังจะกลายเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางที่ทำรายได้มากที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ในตอนนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-http://weneedmorethangirls.blogspot.com/2016/06/korean-beauty-brands.html
-http://www.koreatimes.co.kr/www/tech/2020/09/694_282675.html
-https://www.apgroup.com/int/en/investors/amorepacific-group/ir-reports/quarterly-results/quarterly-results.html
-http://www.lghnh.com/global/ir/finance.jsp
-https://www.alliedmarketresearch.com/k-beauty-products-market
-https://www.statista.com/statistics/550732/beauty-and-personal-care-market-size-south-korea/
-https://companiesmarketcap.com/amorepacific/marketcap/
-https://companiesmarketcap.com/ls-household-health-care/marketcap/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Amorepacific_Corporation
-https://en.wikipedia.org/wiki/LG_Household_%26_Health_Care
cola คือ 在 เชื่อชัย Youtube 的精選貼文
#เชื่อชัย #SpokeDark : วันนี้พี่ชัยจะมาแนะนำโปรโมชั่นพิเศษในงาน Legally Beauty 20th Anniversary of Beauty Hall ที่จัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีของแผนก Beauty Hall บิวตี้ ฮอลล์ ในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งได้ร่วมมือกับแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกกว่า 19 แบรนด์ เพื่อคัดสรรสกินแคร์ เมคอัพ และน้ำหอม ที่เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมจากแต่ละแบรนด์ มาจัดทำเป็นเซ็ทของขวัญรวมกันในราคาที่ดีที่สุดแห่งปี โดยลดสูงสุดถึง 53% ซึ่งมีด้วยกัน 4 เซ็ท ดังนี้
เซ็ท LOVE ME TRENDY เหมาะสำหรับคนที่ชอบอัปเดตเทรนด์การแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลา ราคาเซ็ทละ 7,792 บาท จากราคาปกติ 16,750 บาท (ลดไป 8,958 บาท) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 20 ชิ้น ได้แก่
- เซรั่ม Shiseido Ultimune Power Infusing Concentrate 15ml. ราคา 1,300 บาท
- น้ำตบ IPSA The Time Reset Aqua 200ml. ราคา 1,750 บาท
- แป้งฝุ่น Laura Mercier Translucent Powder 29g. ราคา 1,690 บาท
- โฟมล้างหน้า Cle De Peau Beaute Softening Cleansing Foam 110 ml. ราคา 2,300 บาท
- ลิปสติก DOLCE & GABBANA BEAUTY Dolcissimo Color Shade 3 Rosebud 5ml. ราคา 1,400 บาท
- บลัชออน Nars Orgasm Blush 4.8g ราคา 1,300 บาท
- คอนซีลเลอร์ Nars Radiant Creamy Concealer Custard 1.4 ml.
- ลิปสติก Nars Velvet Matte Lip Pencil Mini 1.8g
- พัฟฟ์ Laura Mercier Velour Puff 7.6x7.6 cm.
- น้ำตบ Shiseido Treatment Softener lotion 75 ml.
- มอยส์เจอร์ไรเซอร์ IPSA Metabolizer 30ml.
- ครีมบำรุงเข้มข้น IPSA Targeted Effects G 7g.
- โลชั่นบำรุงผิว Cle De Peau Beaute Hydro Softening Lotion 30ml.
- น้ำหอม DOLCE & GABBANA BEAUTY Light Blue EDT Miniature 4.5 ml.
- น้ำหอม DOLCE & GABBANA BEAUTY Peony Eau de Parfum 1 ml.
- ไพรเมอร์ Laura Mercier Foundation Primer 15ml.
- มาสก์ Shiseido WASO Purifying Peel Off Mask 7ml.
- มาสก์ Shiseido WASO Beauty Sleeping Mask 5ml.
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว Cle De Peau Beaute Gentle Cleansing Milk 8ml.
เซ็ท GALS ON THE GO เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางบ่อย ชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ ราคาเซ็ทละ 7,520 บาท จากราคาปกติ 16,030 บาท (ลดไป 8,510 บาท) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 10 ชิ้น ได้แก่
- เซรั่ม Lancome New Advanced Genifique Serum 30ml. ราคา 3,200 บาท
- น้ำตบ Biotherm Life Plankton Essence 75ml. ราคา 1,600 บาท
- โทนเนอร์ Kiehl’s Calendula Herbal-Extract Toner Alcohol-Free 250ml. ราคา 1,500 บาท
- ออยล์ทำความสะอาดหน้า Shu Uemura Ultimat8 Cleansing Oil 150ml. ราคา 1,550 บาท
- ลิปสติก YSL BEAUTY YSL Slim Matte Lipstick สี No.9 6ml. ราคา 1,550 บาท
- เซรั่ม Lancome BEX Double Essence 2018 30 ml.
- โฟมล้างหน้า Kiehl’s Calendula Foaming Wash 30ml.
- มาสก์ Kiehl’s Calendula & Aloe Soothing Hydration Masque 14ml.
- ครีมบำรุงผิวหน้า Shu Uemura Ultimat8 sublime beauty oil in Cream 13ml.
- โลชั่นบำรุงผิวหน้า Biotherm Blue Therapy Cosmetic Water 30ml.
เซ็ท ME & NATURE เหมาะสำหรับคนที่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ราคาเซ็ทละ 8,070 บาท จากราคาปกติ 13,310 บาท (ลดไป 5,240 บาท) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 8 ชิ้น ได้แก่
- พรีเซรั่ม L’occitane Immortelle Reset Oil-inSerum 50ml. ราคา 4,080 บาท
- ออยล์ทำความสะอาดหน้า THREE Cleansing Oil 185 ml ราคา 1,900 บาท
- ครีมบำรุงผิวหน้า Clarins Extra Firming Day Cream 50ml. ราคา 3,800 บาท
- โลชั่นบำรุงผิวหน้า THREE Treatment Lotion 30ml.
- ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรกลางคืน Clarins Extra Firming Night Cream 50ml.
- ครีมบำรุงผิวหน้า Clarins Extra Firming Essence 15ml.
- ครีมบำรุงผิวหน้า L’occitane Immortelle Precious Cream 8ml.
- ครีมบำรุงผิวรอบดวงตา L’occitane Immortelle Precious Eye Balm 4ml.
เซ็ท BRILLIANT STAR เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสกินแคร์ เมคอัพ และน้ำหอม ราคาเซ็ทละ 6,957 บาท จากราคาปกติ 11,870 บาท (ลดไป 4,913 บาท) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 12 ชิ้น ได้แก่
- ครีมบำรุงผิวหน้า La Mer Crème de La Mer 15ml. ราคา 3,750 บาท
- เจลกันแดด Estee Lauder Perfectionist Pro Multi Defense UV Aqua Gel SPF 50 / PA++++ 8 Anti Oxidants 30ml. ราคา 2,100 บาท
- ลิปสติก M.A.C Cosmetics Matte Lipstick สี Please me ราคา 880 บาท
- บลัชออน Clinique Cheek Pop สี Cola Pop ราคา 1,000 บาท
- สเปรย์เซ็ตเมคอัพ M.A.C Cosmetics Prep+ Prime Fix+ 30 ml.
- โฟมล้างหน้า Clinique Foaming Facial soap 30ml.
- โฟมล้างหน้า La Mer The Cleansing Foam 30ml.
- มอยส์เจอร์ไรเซอร์ Clinique Moisture surge Supercharged 7ml.
- เซรั่ม Estee Lauder Micro Essence 15ml.
- เซรั่ม Estee Lauder Advanced Night Repair Serum 7ml.
- น้ำหอม Jo Malone London ขนาด 9ml. คละกลิ่น 4 กลิ่น คือ
กลิ่น Wood Sage & Sea Salt
กลิ่น Lime Basil & Mandarin
กลิ่น Peony & Blush Suede cologne
กลิ่น Oud & Bergamot
เซ็ทของขวัญพิเศษมีจำหน่ายเฉพาะแผนก Beauty Hall 4 สาขา คือ
- เดอะมอลล์ บางกะปิ
- เดอะมอลล์ บางแค
- พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
- เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
และสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ M Card Shop
Love Me Trendy
http://www.mcardshop.com/products/1350566
Brilliant Star
http://www.mcardshop.com/products/1350594
Gals On The Go
http://www.mcardshop.com/products/1350591
Me & Nature
http://www.mcardshop.com/products/1350559
ตั้งแต่ 20 ก.ย. – 31 ต.ค. 62 (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
#BeautyHall
cola คือ 在 Ketchup Jo Youtube 的最讚貼文
การทดลองหลังบ้านวันนี้ เราจะมาทดลองทำน้ำกระป๋องอัดลมให้ใส ด้วยของเพียงแค่ 2 อย่าง คือ กระดาษทราย และ Sodium Hydroxide มาดูกันว่ากระป๋องจะใสได้จริงหรือไม่!!!
**คำเตือน** การทดลองนี้ มีการใช้สารเคมีที่ไม่ควรให้สัมผัสกับผิวหนังโดยตรง เด็กๆควรมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยนะครับ
#การทดลองหลังบ้าน #cocacola #experiment
ผมลงคลิปใหม่ทุกอาทิตย์นะครับ ?
Make sure to subscribe! ◆ https://www.youtube.com/KetchupJo
ถ้าคุณชอบคลิปนี้ อย่าลืมกดติดตามนะครับ ◆ https://www.youtube.com/KetchupJo
Don't forget to follow me on Facebook, Instagram
and subscribe on Youtube
อย่าลืมติดตามผมในเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม และ ยูทูป
Facebook ► https://www.facebook.com/ketchupjow/
Instagram ► ketchup_jo
สนใจติดต่อเรื่องการลงโฆษณาหรือการร่วมงานเท่านั้น กรุณาติดต่อ
► Email: ketchupjow@gmail.com
For business or stock footage inquires ONLY contact me via
Email: ketchupjow@gmail.com
?????คำเตือน ?????
วิดีโอที่คุณกำลังชมนี้ทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์สำหรับ"ความบันเทิง”เท่านั้น
เนื้อหาต่างๆที่ทำขึ้น เพื่อให้ผู้ชมสามารถนำเอาไปต่อยอดเพื่อการเรียนรู้
โดยไม่ใช่บทสรุปหรือข้ออ้างอิงทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด
แต่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่เกิดจากการลองผิดลองถูกส่วนตัว
หากผู้ใดนำไปทดลองหรือทำตามแล้วเกิดความเสียหายใดๆ
ทาง Ketchup Jo จะไม่มีส่วนในความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
โปรดรับชมด้วยวิจารณญาณ
และให้คำแนะนำแก่บุตรหลานของท่านในการรับชม
cola คือ 在 Coca Cola ทำไมถึงขายดี !? | เบื้องหลังความสำเร็จของ ... - Facebook 的推薦與評價
Coca Cola คือ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน และขึ้นแท่นแบรนด์ที่คนรู้จักมากที่สุดในโลก และวันนี้ผมจะพามาทำความรู้จัก ที่ไปที่มา และ ... ... <看更多>