คำว่า “พิธีรับปริญญา” ซึ่งในภาษาอังกฤษ เขียนว่า “commencement” มีความหมายว่า “การเริ่มต้น”
.
ดังนั้น การเรียนจบมหาวิทยาลัยจึงไม่ใช่จุดจบหรือเส้นชัยใดๆ แต่มันคือจุดเริ่มต้นสู่การเรียนรู้ และ การแข่งขันในโลกแห่งความเป็นจริงที่ดุเดือดต่างหาก
.
ตัวผมเองเพิ่งจะรับปริญญาในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว ในช่วงเวลานั้นผมไม่ได้รู้สึกดีใจเลย...
.
ไม่รู้สิ ! คือ ถ้าถามว่าดีใจไหม ? ใจนึงก็ดีใจนั่นแหละที่เห็นรอยยิ้มของพ่อแม่ แต่อีกใจก็รู้สึกกลัวกับชีวิตที่ต้องเผชิญหลังจากนั้น
.
ผมขอยกข้อความที่ผมโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ในวันนี้เมื่อปีที่แล้ว เพื่อรำลึกความหลังกันอีกครั้งนะครับ
.
“หลายคนอาจจะอยากเรียนจบเร็วๆ หลายคนอาจจะดีใจที่เรียนจบสักที แต่สำหรับผม ในใจลึกๆ รู้สึกว่าไม่อยากเรียนจบเลย
.
เพราะมันหมายถึงวันที่ผมต้องเดินด้วยตัวเองโดยไม่มีพ่อแม่คอยประคองได้มาถึงแล้ว
.
นั่นจึงทำให้ผมไม่อินกับการรับปริญญาเลย ผมเข้ารับพิธีรับปริญญาครั้งนี้ก็เพื่อ พ่อแม่ และ ครอบครัว (เนื่องจากตอนแรกผมตั้งใจว่าจะไม่เข้ารับพิธีรับปริญญาบัตร)
.
เพราะความรู้สึกผมมันเลยจุดนั้นมาแล้ว ผมคิดเสมอว่า ที่ผ่านมาชีวิตในมหาวิทยาลัย มันก็แค่อนุบาลชีวิต แต่ชีวิตหลังจากนี้คือ “ของจริง”
.
มันไม่ได้มีอะไรให้ผมต้องดีใจเลย การเรียนไม่ใช่จุดจบที่แท้จริง แต่มันคือจุดเริ่มต้นของชีวิตจริงต่างหาก
.
ขอบคุณพ่อแม่ ขอบคุณครูอาจารย์ทุกคน ขอบคุณพี่ๆ ในวงการสตาร์ทอัพ เพื่อนๆ และทุกคนที่ผมเคยรู้จักเคยพบเจอ ที่คอยสอนวิชาชีวิตให้แก่ผม
.
ทุกคนมีส่วนทำให้ผมแกร่งขึ้น วันนี้ผมพร้อมแล้ว ที่จะเดินไปในเส้นทางใหม่ เส้นทางที่ผมต้องต่อสู้มันด้วยตัวเอง”
.
นี่คือข้อความที่ผมโพสต์ลงไปเมื่อวันรับปริญญาบัตรปีที่แล้ว
.
ผ่านมา 1 ปี เต็มๆ สิ่งที่ผมคิดมันก็เกิดขึ้นจริงๆ การแข่งขันในสนามชีวิตแห่งนี้มันช่างดุเดือดยิ่งกว่าการแข่งขันวัดเกรดเฉลี่ยสมัยเรียนหลายเท่า
.
ตอนนั้น ถ้าสอบตกก็แค่เรียนใหม่ แต่ตอนนี้ถ้าคุณพลาดสิ่งใด นั่นหมายถึง “ชะตาชีวิต” ของคุณเลยทีเดียว
.
ตอนนั้นถ้าคุณพลาดพลั้งล้มเหลว อย่างมากก็แค่กลับบ้าน แต่ถ้าวันนี้คุณล้มเหลว การกลับบ้านคือ สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด
.
คนที่ค้นหาตัวเองเจอแล้ว ไฟในตัวคงจะกำลังลุกโชติช่วง แต่คนที่ยังไม่เจอตัวเอง อาจจะกำลังสับสนและเหนื่อยหน่อย
.
บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาจะ “ขู่” เด็กจบใหม่
.
แต่แค่อยากจะบอกให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ครั้งใหม่ และ ครั้งใหญ่ ของชีวิต
.
จำไว้ว่า มหาวิทยาลัยไม่ใช่สิ่งสุดท้ายของชีวิต แต่มหาวิทยาลัยคือหนึ่งในหลาย “กระบวนการ” ที่ทำให้เราได้รู้ว่า จะต้องทำอย่างไร ชีวิตจึงจะประสบความสำเร็จและมีความสุข
.
อย่างไรก็ตาม ผมขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ที่จบใหม่และกำลังจะเข้าพิธีรับปริญญาบัตรในปีนี้
.
ปีนี้อาจจะเป็นปีที่ค่อนข้างโหดสำหรับเด็กจบใหม่ เพราะต้องเผชิญกับสภาวะการจ้างงานที่ไม่ปกติ
.
แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ทุกคนที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงครับ
.
.
.
เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด หนังสือที่เด็กจบใหม่ทุกคนควรอ่าน เพราะมันคือเข็มทิศชีวิตชั้นดี ที่จะคอยนำทางคุณ ให้เดินไปในโลกที่ดุเดือดนี้ ได้อย่างแข็งแกร่ง
.
.
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
แต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล
