ลงทุนแมน X บ้านปู
หุ้นกู้ ‘บ้านปู’ เรทติ้ง A+ ดอกเบี้ย [2.90-4.00]% ต่อปี
โอกาสลงทุนกับผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ฯให้กับผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 3 รุ่น เสนอขายผ่านสถาบันการเงิน 4 แห่ง ซึ่งจะประกาศวันจองซื้อเร็วๆ นี้ โดยหุ้นกู้แต่ละรุ่น มีอัตราดอกเบี้ยตามรายละเอียดดังนี้
อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [2.90-3.10]% ต่อปี
อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [3.20-3.50]% ต่อปี และ
อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [3.70-4.00]% ต่อปี
บ้านปูและหุ้นกู้ฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และมีศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคต
บ้านปูก่อตั้งขึ้นในปี 2526 และ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2532 ปัจจุบัน บ้านปูได้เข้าดำเนินธุรกิจด้านพลังงานครบวงจรครอบคลุม 10 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
บ้านปูเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์สิ่งแวดล้อมโลก ผ่านกลยุทธ์ Greener & Smarter ที่มุ่งสู่การใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยเพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจพลังงานในปัจจุบันสู่พลังงานสะอาดแห่งโลกอนาคต โดยมีเป้าหมายในการสร้างพลังงานที่ยั่งยืนให้กับโลก และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
แผนธุรกิจ 5 ปีนับจากปี 2564-2568 ของบ้านปู จะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานสะอาดในอนาคตได้รวดเร็วและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และต่อยอดจากธุรกิจพลังงานในปัจจุบันที่บ้านปูมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว โดยสร้างการเติบโตจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้
กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ประกอบด้วย ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การตลาด การค้า โลจิสติกส์ การจัดหาเชื้อเพลิง และสายส่ง โดยบ้านปูจะมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับห่วงโซ่คุณค่าหรือ Value Chain ของบ้านปู โดยมุ่งเน้นไปที่ก๊าซธรรมชาติที่เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดมากขึ้นและมีความต้องการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น
กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน ครอบคลุมโรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป และจากพลังงานหมุนเวียน โดยบ้านปูจะมุ่งเน้นการลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และขยายการลงทุนไปสู่ตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูง เช่นในสหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ประกอบด้วยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและทุ่นลอยน้ำ ธุรกิจจัดเก็บพลังงาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจพัฒนาชุมชนอัจฉริยะ และธุรกิจแพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้า โดยบ้านปูจะมุ่งเน้นไปที่การขยายระบบนิเวศของธุรกิจพลังงานที่เป็นธุรกิจเดิมของบ้านปู และต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นเทรนด์พลังงานแห่งอนาคต เพื่อเร่งสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งการพัฒนาโซลูชันและขยายการให้บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ายุค New Normal อย่างต่อเนื่อง
จากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตลอดจนการเล็งเห็นถึงความสำคัญของพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บ้านปูได้ตั้งเป้าขยายการผลิตพลังงานไฟฟ้าในหลายรูปแบบเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมายกำลังการผลิต 6,100 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2564 บ้านปูได้เข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 2 แห่ง ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ประเทศออสเตรเลีย มีกำลังการผลิตรวม 166.8 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับผู้รับซื้อที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในกลุ่มน่าลงทุน สะท้อนถึงกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะยาว ดันกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนแตะ 1,073 เมกะวัตต์
โดยบ้านปู มีพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนเจตนารมณ์ในการสร้างความมั่นคงในการส่งมอบกระแสไฟฟ้า เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน เศรษฐกิจ และสังคม ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การสร้างสมดุลระหว่างปริมาณการผลิตและความต้องการใช้พลังงาน รวมทั้งสร้างรากฐานสู่การใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในอนาคต
ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) หรือ ESG ที่เป็นรูปธรรมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านปู ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำด้านความยั่งยืนจากองค์กรชั้นนำทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เช่น การได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7, การคว้าตำแหน่ง “Gold Class” ในกลุ่มอุตสาหกรรม Coal & Consumable Fuels จากการประกาศผลรางวัล SAM Sustainability Award 2021 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7, ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับ A (ตามเกณฑ์วัด AAA ถึง CCC) ในการประเมินความยั่งยืน ESG Rating จาก MSCI ปี 2562, ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment) หรือ THSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ได้รับการจัดอันดับดำเนินธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาลในระดับดีเลิศ จากผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2563 และตอกย้ำความยั่งยืนระดับนานาชาติด้วย รางวัล Asia’s Best SDG Reporting ระดับ Silver เป็นครั้งแรกจากเวที Asia Sustainability Reporting Awards (ASRA) ครั้งที่ 6 ประจำปี 2020 ซึ่งเป็นรางวัลระดับนานาชาติสำหรับการจัดทำรายงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร
ด้านผลประกอบการของบ้านปู ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 51 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 1,543 ล้านบาท) โดยมีรายได้จากการขายจำนวน 736 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 22,269 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 102 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 936 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 29,336 ล้านบาท) และ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 9,628 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 301,728 ล้านบาท) มีหนี้สินรวมจำนวน 6,781 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 212,510 ล้านบาท) ซึ่งฐานะการเงินดังกล่าวนี้แสดงถึงการเติบโตได้แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมไม่เอื้ออำนวย และยังมีความแข็งแกร่งทางการเงินที่สามารถรองรับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
โดยบ้านปูอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ผู้ที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ฯ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สูงระดับ A+ โดยทริสเรทติ้ง ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นกู้อย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน สามารถจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ติดต่อสอบถามผ่านสถาบันการเงิน 4 แห่งนี้ได้เลย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ยกเว้นสาขาไมโคร โทร. 1333
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777
บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขาย) โทร. 02-165-5555
และด้วยสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อผ่านระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือกรณีจองซื้อผ่านบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) สามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านทางโทรศัพท์บันทึกเสียงโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาของสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง ถือเป็นความสะดวกให้กับผู้ลงทุนในยุค new normal ที่แท้จริง
คำเตือน:
1.โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายหุ้นกู้ที่เสนอขาย และไม่ได้รับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้
หมายเหตุ:
บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ การจัดสรรหุ้นกู้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
esg awards 在 元大期貨招財鈴-方昭齡 Facebook 的最讚貼文
歐洲600ESG期貨正式上架啦!🥳
🎖元大期獨家上市歐洲600ESG期貨
跟上全球永續投資風潮🌍
繼獲得國際大獎
🌟《The Asset》ESG Corporate Awards金獎後🌟
成為全台首家推出歐洲600ESG期貨的期貨商
顯示公司對ESG議題的重視與實質投入🏅
未來將持續提供多元商品滿足交易人需求
#元大期貨 #ESG #新商品上市
esg awards 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
CKPower ตอกย้ำความสำเร็จ คว้า 4 รางวัล
ก้าวสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน
CKPower x ลงทุนแมน
ปี 2563 ถือเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จสำหรับ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ผ่านโรงไฟฟ้า 3 ประเภท ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ โรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
จากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ทำให้ CKPower ได้รับรางวัลในหลายด้าน ซึ่งการันตีถึงการบริหารจัดการธุรกิจบนความยั่งยืน ด้วยการคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ได้เป็นอย่างดี
CKPower ได้รับรางวัลในด้านใดบ้าง?
สำหรับรางวัลแรก CKPower ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ “Thailand Sustainability Investment (THSI)” ประจำปี 2563 จาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
โดยรายชื่อหุ้นยั่งยืนนั้น จะคัดเลือกจากบริษัทที่เข้าร่วมตอบแบบประเมินความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยคำถาม 19 หมวด ครอบคลุม 3 มิติ ได้แก่ มิติเศรษฐกิจ (รวมบรรษัทภิบาล), มิติสังคม และมิติสิ่งแวดล้อม ซึ่งการที่บริษัทจะได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อนี้ได้ จะต้องมีคะแนนผ่านร้อยละ 50 ในแต่ละมิติ
และยังต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด เช่น การประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล (CGR), ผลประกอบการด้านกำไรสุทธิและส่วนของผู้ถือหุ้น, การกำกับดูแลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของบริษัท และการไม่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เป็นต้น โดยมีคณะทำงานเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืนเป็นผู้กลั่นกรองให้มีความโปร่งใสตลอดกระบวนการ
ซึ่งรายชื่อหุ้นยั่งยืน ก็จะถูกนำไปใช้เป็นเกณฑ์คำนวณดัชนี SETTHSI เพื่อส่งเสริมการลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล โดยมีการทบทวนทุกครึ่งปี
CKPower ยังได้รับคะแนนการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors: IOD)
เป็นการตอกย้ำว่า CKPower มีการกำกับดูแลเรื่องความโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลและสามารถตรวจสอบได้ รวมถึงให้ความสำคัญกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นไปตามหลักการใน Corporate Governance Code และสอดคล้องกับความคาดหวังและช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล ASIAN POWER AWARDS 2020 ซึ่งถือเป็นรางวัลสำคัญที่จะช่วยให้พนักงาน CKPower มีกำลังใจและแรงกระตุ้นที่จะคิดค้นโครงการและนวัตกรรมที่สามารถลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในการดำเนินกิจการ
โดยโครงการที่ได้รับรางวัล คือโครงการที่โรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น ซึ่งเดิมออกแบบให้ Gas Compressor เดินเครื่อง 2 เครื่องอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มแรงดันก๊าซก่อนเข้าห้องเผาไหม้ในเครื่องกังหันก๊าซ ทั้งในช่วงเวลาที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงและในช่วงเวลาที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ
ซึ่งในช่วงที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำนี่เอง อัตราการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้าก็ต่ำลงด้วย ก๊าซที่อัดขึ้นมาจาก Gas Compressor จึงเหลือจากการใช้งาน ทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ขับ Gas Compressor
พนักงานของ CKPower จึงคิดที่จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในส่วนนี้ลง โดยคิดโครงการและนวัตกรรม ได้ทำการศึกษา ปรับปรุง และทดลองเพื่อหยุดการใช้งาน Gas Compressor ในช่วงเวลาที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำให้เหลือเพียง 1 เครื่อง
ซึ่งจากผลการทดลองและเดินเครื่องจริง ปริมาณก๊าซจากการเดิน Gas Compressor 1 เครื่องนั้น เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าในช่วงที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าต่ำ ส่งผลให้บริษัทลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงดำเนินโครงการนี้ ตั้งแต่เดือน ตุลาคม ถึง ธันวาคมปี 2562 ได้ประมาณ 396,253 หน่วย และสามารลดค่าใช้จ่ายจากการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 1 ล้านบาท
การที่บริษัทฯ ได้รับรางวัล “การยกระดับสิ่งแวดล้อมแห่งปี” และ “โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติแห่งปีของประเทศไทย รางวัลระดับเงิน” ประจำปี 2563 ก็แสดงให้เห็นถึงการที่บริษัทให้ความสำคัญในการปรับปรุงและคิดค้นโครงการนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความตระหนักที่ชัดเจนในการช่วยกันลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในการดำเนินธุรกิจ
จากการสร้างจิตสำนึกและความร่วมมือร่วมใจกันของพนักงาน ให้เล็งเห็นถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของโลกในปัจจุบัน ผู้บริหารและพนักงานจึงมีเป้าหมายตรงกันคือการดำเนินธุรกิจที่ทุกคนในองค์กรมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อความยั่งยืนสำหรับคนรุ่นหลังต่อไป
นอกจากโครงการที่ได้รับรางวัลนี้ CKPower ยังมีอีกหลายโครงการ ทั้งที่ดำเนินการอยู่แล้ว และที่จะทำในอนาคต ซึ่งมีทั้งโครงการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่นลดการใช้น้ำ ลดการปล่อยของเสียทั่วไปและของเสียอันตราย ลดการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซ CO2 เป็นต้น
ส่วนรางวัลสุดท้าย ได้รับจากนิตยสาร IR Magazine ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำเกี่ยวกับงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ (IR) จากสหราชอาณาจักร และมีฐานผู้อ่านที่เป็น IR ทั่วโลก
ซึ่งจากการประกาศรางวัล IR Magazine Awards 2020 นั้น CKPower ได้รับรางวัลในสาขา “Best Crisis Management” ในภูมิภาค South East Asia
จากการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมและการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี สปป.ลาว โดยการให้ภาครัฐ ชุมชน และสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี พร้อมกับการบรรยายให้ความรู้ และข้อเท็จจริงของลักษณะการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ตอบแทนคืนสู่สังคม
ด้วยรางวัลทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า CKPower ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีการบริหารจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเติบโต (Growth) การสร้างผลกำไร (Profitability) และการสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งล้วนแต่เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในระยะยาวอีกด้วย
esg awards 在 Moebius Asia - Facebook 的推薦與評價
【BDO ESG Awards 2021 virtual presentation ceremony】 The virtual ceremony will broadcast live on BDO ESG Awards official website at 3pm today. Launched in. ... <看更多>