關於 fake penalty ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

Facebook เผลอแบนกรุ๊ปที่สวมบทบาทเป็นกลุ่มทหารอาสาสมัครใน Fallout 76 เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกลุ่มทหารในชีวิตจริง
.
Bobby ผู้ก่อตั้ง "Free States Militia" หรือกรุ๊ป Facebook แหล่งรวมผู้เล่น Fallout 76 หลายคนที่สวมบทบาทเป็นทหารอาสาสมัครใน Appalachia รายงานว่ากรุ๊ปดังกล่าวถูก FB แบน ไม่ให้ผู้ก่อตั้งกับ Admin สามารถเข้าถึงกรุ๊ปดังกล่าว รวมถึงข้อมูลเนื้อหา Lore ทั้งหมดที่บันทึกไว้โดนลบออกทั้งหมด และเจ้าตัวถูกระงับบัญชี FB อีกด้วย
.
โดย Bobby กล่าวว่าการแบนครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้า เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Bobby ไม่สามารถเข้า Log in ผ่าน FB ได้ ทำให้เขาลองคุยกับสมาชิก Admin ผ่าน PlayStation Network ซึ่งต่อมาค้นพบว่ากรุ๊ป Free States Militia ถูก FB แบนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Facebook มีการประกาศร่างนโยบายใหม่ว่าจะเริ่มทำการแบน "กรุ๊ปทหารอาสาสมัคร" ในชีวิตจริง เพื่อให้แพลตฟอร์ม Facebook เป็นสถานที่ที่ปลอดภัย และไม่ใช่เป็นแหล่งรวมการแสดงความเกลียดชัง แม้ FB ยังไม่เปิดเผยสาเหตุการแบนกรุ๊ป Free States Militia แต่มีความเป็นไปได้สูงมากที่ AI ของ FB เข้าใจผิดคิดว่าเป็นกลุ่มทหารอาสาสมัครในชีวิตจริง
.
ล่าสุด ฝ่ายโฆษกของ Facebook ออกมากล่าวขอโทษต่อความผิดพลาดครั้งนี้ ซึ่ง FB กล่าวแถลงการณ์ต่อ Kotaku ว่าความผิดพลาดดังกล่าว เกิดขึ้นเป็นเพราะ AI เข้าใจผิดคิดว่า Free States Militia เป็นกลุ่มทหารอาสาสมัครในชีวิตจริง รวมถึงทีมงานได้ตั้งบทลงโทษไว้ว่า หากพบกลุ่มมีการเชื่อมต่อกับองค์กรที่เป็นอันตราย พวกเขามีสิทธิ์ที่จะลบกลุ่มและปิดใช้โปรไฟล์ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มดังกล่าวได้ทันที
.
Bobby ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับแถลงการณ์ของ Facebook ณ ตอนนี้
.
ที่มา: https://www.pcgamer.com/facebook-accidentally-banned-a-fal…/
.
https://kotaku.com/facebook-accidently-bans-fake-fallout-76…
.
#ข่าวเกม #GamingDose #Fallout76
Facebook accidentally banned the group that played a role as a volunteer group in Fallout 76 because it was misunderstood as a real life military group.
.
Bobby, the founder of ′′ Free States Militia ′′ or Facebook Group, the source of many Fallout 76 players who played a role as soldiers. Volunteer in Appalachia reported that the group was banned by FB from the founders with Admin could access them, including Lore Content Information. All recorded, all deleted and the suspended FB account.
.
Bobby says this ban is happening without early notice because this incident happened after Bobby couldn't log in via FB. He tried talking to admin members via PlayStation Network, and then discovered that the Free States Militia group was FB banned. It's already done.
.
In the past September, Facebook announced a new policy to start banning real-life ′′ volunteer military group ′′ to make Facebook platforms a safe place and not a source of hate. Even FB hasn't revealed the cause of banning group. Free States Militia but there is a very high possibility FB AI misunderstood as a real life volunteer group.
.
Recently, Facebook's spokesman said sorry for this mistake FB statement to Kotaku that the mistake occurred because AI misunderstood. Free States Militia is a real life volunteer group, and the team has penalty that if the group is connected to the organization. Dangerous. They have the right to remove groups and disable profiles immediately related to them.
.
Bobby hasn't been commenting on Facebook's statement yet.
.
Source: https://www.pcgamer.com/facebook-accidentally-banned-a-fallout-76-militia-roleplay-group/
.
https://kotaku.com/facebook-accidently-bans-fake-fallout-76-militia-group-1845274593
.
#ข่าวเกม #GamingDose #Fallout76Translated

ใกล้บ้านมากๆ คือจลาจลก็แรง เผาคอนโดที่กำลังสร้าง ทุบกระจกร้านค้า ขโมยของ อยากรู้ว่าประท้วงแล้วทำไมต้องทำขนาดนี้...

คือตอนแรกก็เริ่มกันสงบๆ

แต่ต้นเรื่องก็น่าหดหู่มากจริงๆ ดูคลิปแล้วเศร้ามาก

สรุปข่าวร้อนสะเทือนอเมริกา
#ผมหายใจไม่ออก

—————
⚫️ ใครคือ "จอร์จ ฟลอยด์"
:
1- "จอร์จ ฟลอยด์" (George Floyd) เป็นหนุ่มแอฟริกัน-อเมริกัน อายุ 46 ปี เขาเป็นคุณพ่อลูกสอง เกิดและโตที่รัฐเท็กซัส เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส เอแอนด์ไอ โดยเขาเป็นนักกีฬาฟุตบอลและนักบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยด้วย

2- ในปี 2007 ฟลอยด์ถูกจับในข้อหาปล้นทรัพย์ และในปี 2009 เขาถูกตัดสินจำคุก 5 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาในปี 2014 ฟลอยด์ก็ย้ายจากเท็กซัสมาอยู่ที่เมืองมินนีแอโพลีส รัฐมินนิโซตา เพื่อหางานทำและเริ่มต้นชีวิตใหม่

3- ฟลอยด์ทำงานถึง 2 อย่างในเวลาเดียวกัน ทั้งขับรถบรรทุกและเป็นการ์ดของบาร์แห่งหนึ่ง ด้วยความสูง 200 ซม. ทำให้คนที่นี่เรียกเขาว่า "บิ๊กฟลอยด์" แต่เมื่อโควิด-19 ระบาด บาร์และธุรกิจหลายอย่างต้องหยุดชะงัก ฟลอยด์ก็พลอยตกงานไปด้วย

—————
⚫️ การตายของจอร์จ ฟลอยด์
:
4- คืนวันที่ 25 พ.ค. 2020 พนักงานร้านโชห่วยแห่งหนึ่งโทรแจ้งตำรวจ หลังสงสัยว่าฟลอยด์พยายามจะซื้อของในร้านด้วยแบงค์ 20 ดอลลาร์ปลอม

5- ตำรวจ 4 นายมาถึงที่เกิดเหตุและจับฟลอยด์ใส่กุญแจมือ แล้วผลักเขาให้นอนคว่ำหน้าลงกับพื้น ก่อนที่นายตำรวจร่างใหญ่คนหนึ่งจะใช้เข่ากดลงบนคอของเขาและทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ใบหน้าซีกหนึ่งของฟลอยด์ถูกกดจนแนบลงไปบนพื้นถนน

6- ระหว่างนั้นฟลอยด์พยายามร้องบอกตำรวจด้วยความสุภาพว่า "คุณตำรวจครับ ผมหายใจไม่ออก ผมปวดท้อง ปวดคอ ปวดไปหมดทุกอย่าง ขอน้ำดื่มหน่อยครับ ได้โปรด ได้โปรด อย่าฆ่าผม"

7- ตำรวจคนนั้นสั่งให้ฟลอยด์ลุกขึ้นและเดินไปขึ้นรถตำรวจ ทั้งที่เขายังใช้เข่ากดลงบนคอของฟลอยด์อยู่

8- คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มหยุดดูเหตุการณ์ และหลายคนถ่ายคลิปเอาไว้ พวกเขาพยายามบอกตำรวจว่าฟลอยด์กำลังจะตาย เลิกกดคอเขาไว้ได้แล้ว และเขาก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไรเลย

9- แต่ตำรวจก็ไม่ฟัง ยังคงใช้เข่ากดคอฟลอยด์อยู่อย่างนั้นนานถึง 8 นาที สุดท้ายฟลอยด์ตะโกนเรียกแม่ออกมา (แม่ของเขาเสียชีวิตเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว) ว่า “แม่ครับ ผมหายใจไม่ออก” (Mama, I can’t breathe) ก่อนจะหมดสติไป ฟลอยด์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่พบว่าเขาเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนถึงโรงพยาบาลแล้ว
.
** มีคลิปสั้น ๆ ในคอมเมนต์

—————
⚫️ สี่ตำรวจถูกไล่ออก
:
10- คลิปที่ตำรวจกดเข่าลงบนคอฟลอยด์จนเขาหมดสติกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ตำรวจพยายามอ้างว่าฟลอยด์ขัดขืนการจับกุม แต่ต่อมาก็มีอีกคลิปโผล่มาเป็นพยานให้ฟลอยด์ ว่าเขาไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไรเลย ที่สำคัญตำรวจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฟลอยด์ทำผิดจริงหรือไม่

11- เหตุดังกล่าวทำให้คนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคนดำหรือคนขาวไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยมองว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ และปฏิบัติกับฟลอยด์ราวกับเขาไม่ใช่คน

12- ประเด็นการเหยียดสีผิวถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างดุเดือด เพราะเป็นที่ตั้งข้อสังเกตกันมานานแล้วว่า ตำรวจปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนดำรุนแรงกว่าคนขาวหรือไม่

13- วันที่ 27 พ.ค. ตำรวจทั้งสี่นายที่ทำการจับกุมฟลอยด์ถูกไล่ออกทั้งหมด ได้แก่

- เดเร็ค (Derek Chauvin) อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นคนที่ใช้เข่ากดคอฟลอยด์

- เจ อเล็กซานเดอร์ (J. Alexander Kueng) อายุ 34 ปี

- เถา เต้า (Tou Thao) ตำรวจอเมริกันเชื้อสายเอเชีย (ม้ง)

- โธมัส เลน (Thomas Lane)

—————
⚫️ "ผมหายใจไม่ออก" ประโยคนี้มีประวัติ
:
14- ประโยค "ผมหายใจไม่ออก" (I can't breathe) ที่ฟลอยด์พร่ำพูดก่อนตาย ยังกลายเป็นคำที่ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากรู้สึกเจ็บปวด เพราะย้อนไปในปี 2014 "เอริค การ์เนอร์" (Eric Garner) ซึ่งเป็นชายผิวดำถูกแจ้งจับข้อหาขายบุหรี่หนีภาษีที่นิวยอร์ก และตำรวจผิวขาวจับกุมเขาด้วยการล็อกคอไว้กับพื้น

15- การ์เนอร์พร่ำบอกตำรวจว่า "ผมหายใจไม่ออก" ถึง 11 ครั้ง แต่ตำรวจก็ไม่ยอมปล่อย จนการ์เนอร์ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต โดยตำรวจที่ก่อเหตุก็ไม่โดนลงโทษใด ๆ แถมยังได้เป็นตำรวจต่อด้วย

16- เมื่อเกิดเหตุฟลอยด์ซ้ำรอยขึ้นมาอีก คำนี้ก็จุดประกายความเจ็บปวดในวันนั้นขึ้นมาอีกครั้ง และผู้ประท้วงได้นำคำนี้มาใช้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับฟลอยด์และคนดำทุกคน

—————
⚫️ การประท้วงบานปลาย
:
17- อย่างไรก็ตาม แค่การไล่ตำรวจทั้ง 4 นายออกยังไม่เพียงพอ คนต้องการเห็น 4 คนนี้ โดยเฉพาะนายเดเร็คถูกจับดำเนินคดีข้อหาฆาตกรรมด้วย ชาวเมืองมินนีแอโพลีสนับพัน ทั้งคนดำ-คนขาว พากันออกมาประท้วงจนคุมสถานการณ์ไม่อยู่

18- ผู้ประท้วงพากันไปที่บ้านของเดเร็ค จนตำรวจต้องรีบยกกำลังไปรักษาความปลอดภัย ในขณะที่ผู้ประท้วงอีกส่วนไปที่สถานีตำรวจ ขว้างปาก้อนหินใส่ พ่นสีเป็นข้อความประจาน และจุดไฟเผาอาคารร้างใกล้สถานี

19- นอกจากนี้ยังมีมิจฉาชีพฉวยโอกาสนี้ออกมาปล้นร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า จนเกิดจลาจลไปทั้งเมือง ตำรวจต้องระงับเหตุด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ผู้ว่าการรัฐรีบประกาศไม่ให้ชาวเมืองออกจากบ้าน

20- ส่วนในโลกออนไลน์ก็เกิดแฮชแท็กต่าง ๆ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ฟลอยด์ อาทิ #JusticeForGeorgeFloyd (ความยุติธรรมเพื่อจอร์จ ฟลอยด์), #icantbreathe (ผมหายใจไม่ออก) และ #BlackLivesMatter (ชีวิตคนดำก็มีค่า)

21- ล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ "โดนัลด์ ทรัมป์" ได้ออกมาทวีตยืนยันว่า เขาได้สั่งการให้เอฟบีไอและกระทรวงยุติธรรมเข้าไปสืบสวนคดีนี้แล้ว และจอร์จ ฟลอยด์ จะต้องได้รับความยุติธรรม

22- ในขณะเดียวกันผู้คนจำนวนมากก็พากันไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อวางดอกไม้ ภาพวาด และจุดเทียนไว้อาลัยให้กับฟลอยด์

23- เพื่อนสมัยเรียน เพื่อนร่วมทีมกีฬา และเพื่อนร่วมงานของฟลอยด์พูดตรงกันว่า ฟลอยด์เป็นคนสุภาพ เงียบขรึม แม้จะตัวสูงใหญ่แต่เป็นคนอ่อนโยนจนได้รับฉายาว่า “Gentle Giant” (ยักษ์ผู้อ่อนโยน)

—————
⚫️ ถูกตั้งข้อหา-เมียขอหย่า
:
24- ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ค. เดเร็คถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไม่เจตนา ส่วนอีก 3 คนที่ถูกไล่ออกพร้อมกันยังอยู่ระหว่างสอบสวน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแจ้งข้อหาเดเร็คแล้ว แต่การประท้วงซึ่งบานปลายไปแล้วก็ยังไม่มีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ

25- วันเดียวกับที่เดเร็คถูกตั้งข้อหา ภรรยาของเขาซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายลาววัย 46 และเป็นอดีตนางงาม "มิสซิส มินนิโซตา 2018" ก็ขอหย่าจากเขา พร้อมแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของฟลอยด์ ซึ่งเดเร็คกับภรรยาคนปัจจุบันไม่มีลูกด้วยกัน
Summary of hot news rocks America
#ผมหายใจไม่ออก

—————
⚫️ who is ′′ George Floyd ′′
:
1-′′ George Floyd ′′ (George Floyd) is a 46 year old African-American man. He is a father of two born and grown up in Texas. He has studied at University of Texas A & A. He is a. Football players and university basketball players too

2-In 2007, Floyd was arrested for robbery and in 2009 he was sentenced to 5 years in prison. When the penalty came out in 2014, Floyd moved from Tate. Gas comes to Minneapolis, Minnesota to find a job and start a new life.

3-Floyd works 2 things at the same time, both truck and bar card at 200 cm height. Make people call him ′′ Big Floyd ′′ but when COVID-19 went viral bar and many businesses had to pause. Floyd also lost his job.

—————
⚫️ death of George Floyd
:
4-night of 25 ph. 2020 A sucker called the police after wondering if Floyd was trying to shop in the store with a fake $ 20 bank.

5-4 cops arrived at the scene and put Floyd in handcuffs and pushed him to lie down on the floor before one big cop took a knee to his neck and left his body weight. Floyd's face was pressed to attach to the road floor.

6-Meanwhile, Floyd tried to say to the police with gentleness, ′′ Police sir, I can't breathe. I have stomach ache, neck pain, and everything. Give me a drink. Please don't kill me

7-That cop ordered Floyd to get up and go to the police car while he was on Floyd's neck.

8-The person who walked by started to stop watching the incident and many people took the clip. They tried to tell the police that Floyd was dying. Stop pressing his neck and he didn't have any poses to resist.

9-But the police don't listen. Still on the knee press Floyd. For the last 8 minutes Floyd shouts to call mom out (his mom died 18 months ago) ′′ Mom, I'm mom. Can't breathe ′′ (Mama, I can't breathe) before unconscious Floyd was taken to hospital, but found that he had died before the hospital.
.
** Short clips in the comments

—————
⚫️ Four cops fired
:
10-Clip of how police pressed his knee on Floyd's collapse. Fast becoming viral. Police tried to claim Floyd resisted arrest, but then another clip showed up to witness. Give Floyd that he doesn't have any stance against anything. Most importantly, the police don't even know if Floyd is actually doing it wrong.

11-That incident offends a lot of people, black or white people, by considering the police overload and treating Floyd as if they weren't human.

12-Racist issues were picked up wildly. It was observed for a long time whether police treated the suspects who were black or white or not.

13-27th of November .. All four cops who made Floyd's arrest are all fired.

- Derek (Derek Chauvin), 44 years old, who is a knee-pressed Floyd.

- J Alexander (J. Alexander Kueng) 34 years old

- Tao (Tou Thao) American police, Asian (Hmong)

- Thomas Lane (Thomas Lane)

—————
⚫️ ′′ I can't breathe This sentence has history.
:
14-The sentence ′′ I can't breathe ′′ (I can't breathe) that Floyd spoke before death also becomes a word that makes many Americans feel pain because back in 2014 ′′ Eric Garner ′′ ( Eric Garner) black man charged with selling cigarettes in NYC and white police arrested him by lock on the ground.

15-GarnerRam told the police that ′′ I can't breathe ′′ 11 times. But the police didn't let it go until Garner suffers and died by the police who didn't get punished. And it's also the police.

16-When Floyd repeats, this word sparks that day's pain again. And protesters have brought this word to demand justice for Floyd and all blacks.

—————
⚫️ protest escalated
:
17-However, just the 4 police extinguishment is not enough. People want to see these 4, especially Mr. Derek, charged with murder of Minneapolis, thousands of blacks - White people come out to protest and control the situation.

18-Protesters take care of Derek's house. Police are in a hurry to go to security while another protester goes to the police station. Throwing stone to paint as a text message and setting fire to the abandoned buildings near the station.

19-There are also crooks taking this opportunity to rob stores, restaurants, malls until the whole city has rioted. Police have to suspend the incident by shooting tear gas and rubber bullets. Governor. Hurry up to announce the city's not leaving home.

20-In the online world, there are many hashtags to demand justice for Floyd Weekly #JusticeForGeorgeFloyd (Justice for George Floyd), #icantbreathe (I can't breathe) and #BlackLivesMatter (Blacks are precious. )

21-Recently, US President ′′ Donald Trump ′′ has tweeted that he has ordered FBI and Justice Department to investigate this case and George Floyd will get justice.

22-Meanwhile, a lot of people are visiting the scene to place flowers, paintings and light candles for Floyd.

23-Class friends, sports teammates and colleagues of Floyd. They say that Floyd is polite and quiet. Even though they are tall, they are gentle and nickname ′′ Gentle Giant ′′ (Giant Giant Giant ′′ (Gentle)

—————
⚫️ Charged - Wives ask for divorce.
:
24-Last on 29 Nov .. Derek was charged with unintentional murder. Another 3 people who were simultaneously fired are under investigation. However, despite Derek's charge, the protest escalated doesn't seem to end easily.

25-The same day Derek charged with his wife, a 46-year-old Laos American and a former Miss ′′ Mississin Minnesota 2018 also asked for divorce from him and sympathy. To Floyd's family, Derek and current wife, no kids together.Translated

NowThis Interview Transcript
April 18

Host: Can you tell us a little bit about what the Umbrella Protest or UmbrellaMovement is? And why is it important?

Joshua: Before the handover of HK, China promised HK to achieve universal suffrage - let every Hongkonger have one person one vote. However, since1997 until now, we have waited 19 years already. We have realised that it was a fake promise, that’s why two years ago when the Communist party of China ignored our demand, our request on having a universal suffrage, we tried to throw demonstrations, assembly and finally civil disobedience and occupying action to show our disagreement and demand on universal suffrage, and hope to let the world know that Hong Kong people wants real election.

Host: That time in 2014, was there any result came from the Umbrella Movement?

Joshua: Luckily we can let the world know that Hong Kong is not only a global financial centre, Hong Kong is a city in which many people live, and we hope to have better human rights and achieve the universal value. Unfortunately, although we have 200 thousands of people occupying the road for 79 days, Beijing still did not accept our demand.

Host: At what point did you realise that the movement was going to be huge? It’s hard to anticipate that millions of people were going to come…

Joshua: Actually before the Umbrella Movement, I didn’t expect we would occupy the road and show the persistence to voice out our demand of democracy by civil obedience and such a large scale movement. We believe that Hongkongers have created history and we let the world know our persistence. Everything is out of expectation, including the attitude of the Communist Party. However, I would like to let the people in America know that even two years ago during the Occupying Movement, we couldn’t force the government to let us regain universal suffrage. We are still committed to movements, Hong Kong is the place where we live and we love, and we will still try our best to commit to movements, despite of the price we need to pay, until we can get direct election, one person one vote.

Host: I don’t think that everyone is familiar with maybe the differences, what’s happening in Mainland China and Hong Kong. Would you be able to explain how life is different in those two places, especially for young people?

Joshua: Hong Kong is different from Mainland China, because we have rule of law, judicial independence. We can still have freedom of speech and free access to different websites, for example, people cannot visit Facebook, Youtube, Twitter and Google websites in Mainland China. Hong Kong is one of the special administrative regions under the rule of People’s Republic of China, that’s why we still have rule of law. However, the core value in Hong Kong has been eroded continuously by Beijing.

Host: Could you explain the power of the young people in this movement? It seems that a lot of political parties even now started by young people including yourself. So tell us a little bit about the power of youth in this movement.

Joshua: Most of the youth think that politics is the thing that belongs to people after graduating from universities and that 30 to 40 years old is the starting point of people to be involved in politics. However, the situation we face in Hong Kong is different - teenagers join student strikes at 13 years old, they join civil disobedience at 14, they hold slogans, wear masks and face pepper spray and tear gas at the age of 15, but they will still commit by direct actions, even in the future they may political prosecution. Actually I am now forming a political party named as Demosistō, in which “Demo” means the people, “sistō” means persistence and resistance. We hope to show the people’s resistance towards the ruler of China, so we form the party and demand for self-determination.

Host: You were saying how young people were facing pepper spray and things like that. I know that’s a fact that faced by you personally as well, can you talk about any prosecution you are currently facing?

Joshua: I am facing the inciting of unauthorised assembly, contempt of court and obstructing police officer. Some of the trials have started already, and the most serious one is inciting an unauthorised assembly, because even we enjoy freedom of speech in Hong Kong, we don’t have the rights to freely organise assembly, as we only have approximation of freedom and things seem to be moving backward. The trial of inciting an unauthorised assembly will end in June, meaning that I will know whether I am convicted or not, and the penalty after two months. The maximum penalty of that is to put into prison for five years. I don’t know what would be the trial result, but despite of the price that I need to pay, I still hope the world know that Hongkongers are still committed to fighting for democracy and self-determination. It is not easy for us, but we will try our best until we get the things that originally belong to us.

Host: That’s the age that… you know most of us got to go to college and do all these things…

Joshua: I am still a year 2 university student studying Politics…

Host: So are you scared and how do you feel about potentially having to face prison time until you are 24?

Joshua: It is not easy - my number, my address and other personal information are public on the internet, and I can’t enter Mainland China. Last year when a non-governmental organisation from Malaysia invited me to give a speech, the immigration department told me that I had to return to Hong Kong when I arrived at the Malaysia airport. The Malaysian official claimed that they rejected me to enter because I would affect their country’s relationship with Mainland China. It’s ridiculous and in no sense that my visit would affect its relationship with China. So I think it’s never an easy thing for us, to form a political party, to face trials, it’s really a long-term battle for us. However, what we concern the most is the future of Hong Kong, because we still have rule of law and judicial independence under One Country Two Systems. The problem is, after the expiry date of the Sino-British Joint Declaration in 2047, after the end of Basic Law, after the end of One Country Two Systems, will Hong Kong suddenly change to One Country One System? Will Hong Kong become a normal city in China like Guangzhou, Shenzhen and Shanghai? The new generation are worried about the rule of law and judicial independence being continuously eroded by Beijing. We still hope to maintain the uniqueness of Hong Kong which differentiates us from China.

Host: There’s been some criticism from students from Mainland China, and there’s some general criticism about street activism as an approach, do you have any comments on street activism versus political? I know you are doing both now…

Joshua: I think I will emphasis on two points. Firstly, if Hongkongers could successfully achieve democracy just through negotiations, dialogues and meetings, maybe while I was just a primary school student in around 2007 to 2008, we could have universal suffrage and choose our chief executive by one person one vote in our city. However, history has proven that negotiations and private, closed-door meetings are not effective. That’s why, from assembly to rally, and to civil disobedience and direct actions - that’s the trend for us to upgrade as progressive actions. Another point is people may criticise me as starting off from street protesting and question my reason to enter the legislature by running in the election. I can’t enter the election because the minimum age to run in the election in Hong Kong is 21, and I am just 19. People also ask why I form the political party - because I realise that the road to democracy is really a long-term battle, the challenges we have to face may come after 30 years, like what I have mentioned, after the expiry date of One Country Two Systems. That’s why we hope to ensure that Hong Kong can get the right of self-determination, we hope we can throw a referendum to decide the future of the city, no matter it’s One Country One System, to maintain the self- governance and autonomy under One Country Two Systems, or even independence. We hope to determine the future of Hong Kong through referendum instead of relying on the Communist Party.

Host: So why did you decide to move to the political sphere before you know you could even necessarily be a face of it?

Joshua: It’s not an easy decision and the price that I need to pay is high. The reason for me to commit and even form the party is that…I think that..If organising a student organisation is not able for me to be ready, to prepare for self-determination movement in the coming ten years, the only suitable form of organisation is a political party. If we claim that we need to fight in the next ten years and achieve the demand for self-determination, hoping to get the general public’s support from Hong Kong, and more importantly, the international community endorsing the right to self-determination of HongKongers, forming a political party is the only way for us to prepare for the long-term battle.

Host: Right…So you have been on this journey since you were 17…

Joshua: 14 actually…

Host: 14?

Joshua: I founded student organisation Scholarism when I was 14 years old.

Host: So throughout this journey of protest, arrests and lawsuits, what has been the most rewarding part of the process for you and why do you keep fighting?

Joshua: The most unforgettable scene of participating in social movements in the past five years is how we change the impossibles to possibles. I think it’s the most significant part that gives me the motivation to commit and continue moving forward to fight for democracy and freedom. What I mean is, two years ago, before the Umbrella Movement just started, I was arrested and had to stay in police station for 46 hours. During the period, thousands of Hongkongers went to the Cental Government Offices to support students, they were not afraid of the pepper spray and tear gas. The activist still persist on non-violent means to show their disagreement towards the government and the police. After I was released by the police, I walked out of the door of the police station, and realised that everything in the city had changed, Hong Kong had changed. In the past, people might o