關於 fate stay night myself ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

#Night听心电图

他的梦想很小，只是要领养一个孩子。但由于很坚持，结果他改变了当地孩子的命运.....

梦想不必伟大，心跳必须炙热。

“About 5 years back, when it was my father’s birthday, I went to an orphanage to distribute sweets...that’s when I saw Avnish for the first time.
He was 5 months old, lying on a bed in a corner. No one was paying any attention to him. I couldn’t help myself, so I went and picked him up- he laughed, and we just clicked. I asked the warden what was going to happen to these kids, he said that all but Avnish would get adopted because Avnish was ‘Paagal’, had Down Syndrome and was going to die in a few years anyway.
When I went home that night, I couldn’t stop thinking about him. About how he’d be alone the whole night, and was just left to die.
So I went back to the orphanage and asked if they’d let me adopt Avnish. They laughed and said that a bachelor, younger than 30 had no right to adopt.
I didn’t know what to do, but I knew I couldn’t give up. I started visiting the orphanage often, and spending time with Avnish. I even started asking about his medical condition and documentation to make sure he was being treated right. But every time I asked, the warden was dodgy.
They even shifted Avneesh to an orphanage in Bhopal, because they were tired of me snooping. I didn’t relent- I wanted to be there for Avnish.
I drove down every weekend to meet him and even researched on adoption laws in India. Everyday I’d write letters to ministers and public figures to help me.
I even got in touch with the child welfare council, but they said that they didn’t have any record on Avnish.
That didn’t sit well with me. I realised that there were many more undocumented kids at the orphanage. Something was fishy - a lot of these kids were disappearing and I suspected they were victims of child trafficking and organ selling.
I didn’t want Avnish or any other kid to have that fate. So I started going to the police, and filing petitions to bring the truth out.
I began getting calls from people, telling me to ‘stay out’ of the matter or something would happen to me.
Finally my breakthrough came when the Welfare Minister responded and said that she’d help me. That expedited everything, and soon that orphanage was exposed and banned.
After 11 months, I was finally given Avnish’s custody and all the other kids were saved, and sent to a better home.
It was the happiest moment of my life. I lived alone, so I baby-proofed my house, spent nights understanding how to change diapers and how to take care of Down Syndrome babies.
And the day Avnish came home, it was like sunshine walked into my life. I wouldn’t be spending another night, worrying about him -- because he was right next to me.
Today, it’s been a few years and now Avnish even goes to playschool! He calls me both mumma and papa, because mostly he sees mom’s coming to pick their kids up at school. When I go to work, he stays at daycare and at night we play and read. He’s the best thing that’s happened to me, he’s my world, he’s my son and together, we’re going to make this life, a special one.”

เผื่อใครพลาดไปเมื่อเช้าครับ :)

1
ไม่ค่อยชอบความรู้สึกแบบนี้สักเท่าไร ความเจ็บปวดที่ไม่จำเป็น การที่มีใครสักคนพาตัวเขาเข้ามาอยู่ในความทรงจำของเราแล้วเดินออกไป ทิ้งที่ว่างที่ไม่เคยมีเอาไว้โหวงๆ แบบนั้น แล้วต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่งเพื่อถมทับช่องว่างนั้นให้กลับมาเป็นปกติ เหมือนไม่เคยมีความทรงจำส่วนนี้เกิดขึ้น ซึ่งที่จริงมันก็จะยังคงซุกตัวอยู่ใต้ดินที่กลบทับมันไว้นั่นเอง

2
เมื่อวานนี้หลังจากเปิดเจอภาพแมวน้อยสีขาวเทาตัวหนึ่งในเฟซบุ๊ก ผมกับชิงชิงรีบขับรถไปที่ฟาร์มแมว เสน่ห์ของมันทำให้เราหลงรักได้ภายในไม่กี่นาที ตั้งแต่เห็นรูปและเห็นตัวจริง เรานั่งเล่นกับมันเป็นชั่วโมง ผมคิดว่าจะอุ้มกลับบ้านแน่นอน ส่วนชิงชิงคิดว่ายังไม่อยากได้ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อน คือชอบแต่ไม่อยากมีแมวเพิ่ม และคิดว่าการอุ้มกลับบ้านไปหมายถึงการใช้เวลาร่วมกันอีก 15 ปีของเราทั้งสองฝ่าย ลูกแมวกับพวกเรา

3
คำพูดของชิงชิงว่า "สองตัวกำลังดีแล้ว" ทำให้ผมฉุกคิด อธิบายเป็นเหตุผลยากอยู่เหมือนกัน แต่ต้มมัดกับเหนียวมูนนั้นดู "กำลังดี" สำหรับพวกเราจริงๆ ทว่าเรื่องพวกนี้ก็คิดได้หลายแบบ เจ้าตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเป็นสีและลักษณะที่เราอยากได้มาเนิ่นนาน ถ้ามี-ก็ดูเหมือนจะครบถ้วนสมบูรณ์แบบ ผมคิดว่ามันน่ารักเสียจนเราอดคิดไม่ได้ว่าความรักที่เคยมีให้ต้มมัดกับเหนียวมูนจะต้องถูกแบ่งไปให้เจ้า "เปียกปูน" หรือเปล่า (ใช่, เราตั้งชื่อมันตั้งแต่สตาร์ทรถไปที่ฟาร์มแมวแล้ว)

4
ผมค่อนข้างชัดเจนว่าจะพาเปียกปูนกลับบ้านแน่นอน ชิงชิงลังเลใจค่อนไปทางไม่อยากได้ (แต่ก็อยากได้) หลังจากใช้เวลาเล่นกับลูกแมวเจ้าเสน่ห์เกือบสองชั่วโมง เราเดินผละมันมาด้วยข้อตกลงว่าจะใช้เวลาหนึ่งคืนในการตัดสินใจ บอกเจ้าของฟาร์มว่า "จะส่งข่าวมาพรุ่งนี้เช้านะครับ"

5
เวลาผ่านมาหนึ่งชั่วโมง เจ้าของไลน์มาบอกว่าจะมีอีกคนหนึ่งเข้าไปดูลูกแมวตัวเดียวกัน พวกเราสองคนใช้เวลาถกกันแบบกระชับว่าตกลงแล้วเราต้องการให้แมวตัวนี้มาอยู่ในชีวิตของเราหรือไม่ เข็มนาฬิกาเดินไปเรื่อยๆ ระหว่างที่ลังเล คนคนนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ลูกแมวในฝันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ

6
สุดท้ายเราตัดสินใจว่าเราจะรับเจ้าเปียกปูนเข้ามาอยู่ในบ้าน จึงโทรหา และส่งข้อความไปว่า "สรุปว่ารับ" แต่เจ้าของส่งข่าวกลับมาว่าคงต้องให้คนที่กำลังเดินทางไปได้ดูลูกแมวก่อน เพราะเขากำลังจะไปถึงแล้ว

7
คนนี้มีโอกาสซื้อสูงมาก-นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าของฟาร์มบอกกับเรา การซื้อแมวมีหลายเงื่อนไข เช่น รับใบเพ็ดดีกรีไหม ถ้าไม่รับราคาก็จะลดลง ราคาที่เราคุยไว้คือราคาในเงื่อนไขที่ต่ำที่สุด ผมแอบคิดว่า คนอื่นอาจรับลูกแมวไปในราคาที่สูงกว่านี้ และถ้าคิดแบบใจเขาใจเรา หากเขาขายได้ราคาดีกว่านี้ เขาก็คงอยากขายอีกคนหนึ่ง

8
เราทั้งคู่อ้อนวอนทางโทรศัพท์ แต่ไม่เป็นผล ผมพยายามแจกแจงวิธีคิดและตรรกะว่า เราไปก่อนและตัดสินใจก่อน แต่ก็เข้าใจว่าเราตัดสินใจช้าเกินไป และอีกคนก็กำลังเดินทางไปแล้ว เรื่องแบบนี้อยู่ที่จะมองมุมไหน ใช้ไม้บรรทัดใคร ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ผมมองเห็นความเป็นมนุษย์ของทุกฝ่าย เพราะทุกฝ่ายมีโอกาสคิดว่า "ฉันทำถูกต้อง" ด้วยกันทั้งสิ้น

9
วางโทรศัพท์ ผมรู้ตั้งแต่วินาทีนั้นว่าเปียกปูนคงมีทางของชีวิตไปอีกทางแล้ว ทางที่ไม่มีพวกเราอยู่ในนั้น แต่ก็แอบหวังลึกๆ ว่าอาจมีปาฏิหาริย์ ทั้งที่บอกกับชิงชิงว่า "เราไม่เห็นเหตุผลว่าคนนั้นจะไม่เอากลับบ้านเลย"

10
เรื่องเงียบหายไปหลายชั่วโมง กลับบ้านมาชิงชิงเช็ดตาให้ลูกๆ ทั้งสองตัว พวกเราอุ้มขึ้นมาเล่นด้วยบนเตียง แปลกดีที่มีความรู้สึกทั้งรักและทั้งเศร้า เหมือนเรานอกใจลูกๆ ไปดูแมวตัวใหม่ ขณะเดียวกันก็เสียดายที่จะได้เพื่อนใหม่มาให้ลูกๆ สองตัวก็พอ หรือสามตัวก็สนุกดี สับสน ซับซ้อน ไม่รู้อะไรเกิดขึ้นในใจบ้าง

11
ผมหลับสนิท ตื่นมากลางดึกพบว่าคนข้างๆ นอนไม่หลับ กระทั่งเช้าจึงได้อ่านข้อความในไลน์จากเจ้าของฟาร์มว่าเขาขายลูกแมวให้กับคนที่ไปดูทีหลังเราไปแล้วเรียบร้อย เจ้าแมวน้อยน่ารักตัวนั้นไม่ได้ชื่อเปียกปูนอีกต่อไป

12
ผมแค่คิดว่า เราไม่น่าไปดูลูกแมวเลย ไม่น่าไปนั่งเล่นกับมันเลย "อีกไม่กี่วันก็ลืม" ผมบอกชิงชิง ทั้งที่รู้ว่ามันก็คงเป็นเรื่องหนึ่งที่จะจำได้เสมอๆ ชิงชิงเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับ แล้วลงไปนอนกอดลูกๆ กลางดึก แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร

13
ผมอุ้มเหนียวมูนขึ้นไปนอนเล่นด้วยกันบนเตียง ลงมาข้างล่างเช้านี้ ต้มมัดขึ้นมาเดินป้วนเปี้ยนหน้าคอมพ์เหมือนเคย หน้าตาลุงๆ ของมันทำให้ผมยิ้มออกมาพร้อมความเศร้าที่ฟุ้งอวลอยู่ในใจ

14
ผมบอกชิงชิงว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุปัจจัยทั้งนั้น ที่เราไม่ได้เปียกปูนมาก็เพราะว่าเราลังเลเอง และที่เราลังเลก็อาจเป็นเพราะว่าชิงชิงไม่ได้อยากได้แมวตัวที่สาม หากไม่ลังเลเรื่องยากๆ แบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น และการที่ลังเลก็อาจเป็นคำตอบก็ได้ว่า ณ ตอนนี้เราควรมีแค่ต้มมัดกับเหนียวมูน

15
ผมทำใจได้เร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ความเสียดายมาพร้อมความเสียใจ แค่คิดว่าไม่น่าวิ่งไปให้แมวน้อยคว้านบางส่วนของหัวใจออกไปจากร่างเลยจริงๆ หากเย็นเมื่อวานนี้พวกเราอยู่บ้านกัน วันนี้คงไม่ต้องรู้สึกว่ามีอะไรหายไป ทั้งที่สิ่งนั้นยังไม่มีอยู่ในชีวิตเราด้วยซ้ำ

16
จินตนาการในอนาคตก่อร่างขึ้นในใจเราอย่างรวดเร็ว เมื่อพบสัมพันธ์ใหม่ มันงอกงามเติบโตไปไกลกว่าความจริงตรงหน้ามากมายมหาศาล และเมื่อมันสิ้นสุดลงหรือหายวับไปกับตา จินตนาการสวยงามเหล่านั้นก็ถูกควักคว้านหายไปจนทำให้ใจว่างโหวง เจ็บทั้งที่ไม่ควรเจ็บ

17
จึงเป็นเรื่องประหลาด, บ้านของเราเหมือนเดิมทุกอย่าง แมวที่รักสองตัวยังเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในบ้าน แต่กลับเหมือนมีบางอย่างแหว่งหาย ใช้เวลาอีกสักพักแผลจึงสมาน ช่องว่างจึงถูกเติมเต็ม

18
ผมลบรูปลูกแมวตัวนั้นออกจากโทรศัพท์ทีละรูป เหมือนพิธีกรรมเพื่อลบความทรงจำ เราทำได้เพียงเท่านั้นเพื่อให้ตัวเองสบายใจ แต่โชคร้ายที่ความทรงจำไม่มีปุ่ม delete

19
จึงไม่มีรูปลูกแมวน้อยตัวนั้นในสเตตัสนี้ เพราะผมไม่อยากจดจำ แต่ภาพของมันยังแจ่มชัด

20
บางเหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงเพื่อให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น หลังจากคิดทบทวนอะไรต่อมิอะไรหลายรอบ ผมเข้าใจตัวเองว่าผมมิได้ไม่รักต้มมัดกับเหนียวมูน แค่อยากมีแมวหน้าบากสีเทาขาวสักตัว ซึ่งเป็นแมวในฝันของผมกับชิงชิงมาตลอด ส่วนชิงชิงอาจเข้าใจว่าการยืนอยู่ตรงกลางระหว่างความรู้สึกตัวเองที่ไม่ต้องการแมวเพิ่มกับความรู้สึกของคนรักที่อยากมีแมวอีกตัวหนึ่งนั้น เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ไม่ง่ายเลย

21
นับตั้งแต่ขับรถไปที่ฟาร์ม กระทั่งวางโทรศัพท์อย่างหมดหวังจากเจ้าของฟาร์ม ผมไม่เคยมีแม้วินาทีเลยที่เปลี่ยนใจว่าจะไม่รับเจ้าเปียกปูนกลับบ้าน แต่ชิงชิงบอกว่าเวลามันกระชั้นเกินกว่าจะตัดสินใจได้อย่างชัดเจน

22
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีมิติของความรักมากมายอยู่ในนั้น ตื่นเต้นกับรักใหม่ จินตนาการสวยงามถึงความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ความกระอักกระอ่วนกับความสัมพันธ์เก่าที่เรามีอยู่ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่ผมเห็นชัดเจนคือ ความรักคือการตัดสินใจร่วมกันของเราสองคน แม้เสียดายและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มีส่วนหนึ่งของเหตุการณ์นี้ที่เป็นเรื่องสวยงาม นั่นคือ ความเห็นอกเห็นใจกัน และพยายามสลับรองเท้ากันใส่ของพวกเราสองคน-ผมกับชิงชิง กระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลานาน ไม่ฉับไวเพียงพอ ทำให้เราพลาดลูกแมวในฝัน แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครตัดสินใจไปโดยไม่นึกถึงความคิดจิตใจของอีกฝ่าย

23
เมื่อสับสนก็สับสนด้วยกัน รักคือสองหัวใจ และมันอาจไม่ลงตัวในบางหน แต่มันจะมีทางออกในที่สุด

24
"เสียใจหรือเปล่า" ชิงชิงถามผม ผมตอบว่า "ก็เสียใจอยู่แล้ว แต่ไม่เป็นไร ก็ move on" อันที่จริงในใจผมก็แปลกใจว่ามันมีสองความรู้สึกระคนกัน อีกใจหนึ่งก็ไม่เจ็บปวดมากนัก อาจเพราะมีคนคนหนึ่งถามผมว่า "เสียใจหรือเปล่า" นี่เองแหละ

25
ผมกำลังนั่งเขียนสเตตัสนี้โดยมีต้มมัดนอนอยู่ข้างหลัง เหนียวมูนก็หลบไปนอนในที่ประจำของมัน แมวผูกพันกับเราไหม ผมไม่แน่ใจ มันผูกพันกับเราบางเวลา แต่ใจคนเรานี่แหละที่ผูกกับอะไรได้ง่ายดายเหลือเกินและแกะออกยากเย็น

26
ภาพเจ้าเปียกปูนก็ยังไม่หายไปจากความคิด อ้อ แมวตัวนี้ไม่ได้ชื่อเปียกปูนแล้วสินะ ชะตากรรมเป็นเรื่องแปลก เปลี่ยนนิดเดียวก็เปลี่ยนชีวิต ชีวิตเจ้าแมวน้อยตัวนั้นก็เปลี่ยนทิศทางไปภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง

27
ส่วนชีวิตของพวกเราอาจไม่ถึงขั้นเปลี่ยนทิศ แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรไม่น้อยจากความเสียใจและเสียดายในครั้งนี้

28
ผมไม่ค่อยชอบความเจ็บปวดที่ไม่จำเป็น ซึ่งก็คงไม่มีใครชอบ แต่เรามักจะหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ ถ้าไม่เจอก็ไม่ต้องเจ็บ แต่เรามักจะต้องเจอก่อนจึงจะคิดแบบนั้นได้ นี่แหละหนาชีวิต

29
สิ่งที่ดีที่สุดคือเรามีความรักอยู่รอบตัวเรา ชิงชิง ต้มมัด เหนียวมูน อย่างน้อยที่สุดก็เป็นรักที่เรายินดีมอบให้ รักที่เกิดจากความผูกพัน

30
ชิงชิงบอกผมว่า เราไม่ต้องครอบครองทุกสิ่งที่เราชอบก็ได้ ผมว่าคนเรามีคำปลอบใจให้ตัวเองได้หลายร้อยหลายพันวิธี แต่เราหลอกตัวเองไม่ได้หรอกว่าเราเสียดาย เสียใจ เมื่อไม่ได้อยู่กับสิ่งที่เราอยากใช้เวลาด้วย ก็แค่ไม่หลอกตัวเอง เดินหน้าต่อไปโดยไม่ต้องมีสิ่งที่เราชอบสิ่งนั้น เพื่อพบ "ความสมบูรณ์" หรือ "ความสวยงาม" ของชีวิตในแบบอื่นซึ่งรอเราอยู่ในวันพรุ่งนี้

31
ลูกแมวบางตัว คนบางคนอาจผ่านเข้ามาในชีวิตเราเพื่อบอกความลับข้อนี้ของชีวิตให้เราฟัง "ไม่ต้องมีฉัน ชีวิตเธอก็สวยงามได้อีกแบบหนึ่ง"

32
ผมหันมองต้มมัด เหนียวมูน และช่องว่างของเปียกปูนที่ไม่มีใครเห็น เราทำได้แค่เพียงใช้ชีวิตอยู่กับความเสียดายสักพัก ไม่นานนักคงจางหาย เป็นแค่อีกหนึ่งเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

33
มีแค่บางคนเท่านั้นที่ผ่านเข้ามาแล้วอยู่กับเราไปตลอด และคนคนนั้นนั่นเองที่จะทำให้เรารับมือกับเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วผ่านไปได้โดยไม่บอบช้ำเกินไปนัก

34
ความเสียใจมักทำให้เราเห็นความรักชัดขึ้น

35
ต้มมัดกระโดดขึ้นมาบนคีย์บอร์ดอีกแล้ว
1
I don't like feeling like this. The pain that someone brings him into our memories and leave a space that I never had. It takes a while to fill the gap. Back to normal as if there was never a memory. This part is actually going to be tucked in the underground.

2
Yesterday, after opening a grey white cat on Facebook, I drove to the cat farm. It made us in love it in a few minutes since I saw the real one. We sat with it for hours. I think I will carry you home. I don't want it. I don't want it. It's a complicated feeling. But I don't want to have more cats and think that carrying it home means spending 15 more years together. Both of our kittens with us.

3
The words of Ching " two of them are good " makes me think about the reason too. But it's a sticky moon looks " good " for us. But these things can think of many types in front of them are in front of color. And the way we want to come for a long time. If we have - it seems to be perfect. I think it's so cute that we can't help but think that the love that I used to boil with sticky moon will be shared to "wet" ( Yes, we named it since the car started to the cat farm)

4
I'm pretty clear that I'm going to take you home for sure. I don't want it (but I want it). After spending almost two hours of time playing with a charming kitten, we walk with a deal that it will take a night in Decision to tell the farm owner, " I will send news tomorrow morning

5
An hour ago, the owner said another one went to see the same kitten. Both of us spent the time debating whether we wanted this cat to be in our lives or not. Keep walking while hesitating. That person is slowly moving closer to our dream kitten.

6
Finally, we decided that we would take a wet plaster in the house, so I called and texted "so I received" but the owner sent me the news that he would have to let the person who was traveling to see the kitten first because he was about to get there. So I am.

7
This person has a high chance to buy - that's what the farm owner says to us. There are many conditions such as getting a degree card. If you don't accept the price will be reduced. The price we talk about is the lowest price in the lowest conditions. I secretly. I think that other people have cuddle kittens at a higher price. And if you think like my heart. If they sell better price, they would want to sell another one.

8
We both beg on the phone, but no result. I tried to explain how to think and logic that we went first and decided first. But I understand that we decided too late and the other one is on the way. This kind of thing to look at. Who do you use. This event makes me see the humanity of everyone because everyone has a chance to think that "I do right" together.

9
Put down the phone. I knew that moment I was wet. There would be another way of life. The way without us in it, but I secretly hope that there may be a miracle when I said, " we don't see the reason that person won't take it home

10
Quiet story for many hours. Come home to win the eyes for both of our kids. We carry them in bed. It's strange that I feel love and sad like we cheated on our kids to see new cats. Meanwhile, it's a pity to get new friends for two kids. The body is enough or three of them are fun. Confused, complicated. I don't know what happens in

11
I slept tight. Woke up in the middle of the night and found that the person next to me couldn't sleep until morning, so I read a message in line from the farm owner that he sold the kitten to the person who went to see it later. That cute kitten is no

12
I just thought we shouldn't have seen kittens. I shouldn't have gone to sit with him. "I forgot" I told you that it would be one thing to remember. I told you that I couldn't sleep last night and went down to sleep and hug my kids. Late night but don't understand what that feeling is

13
I carry sticky moon up to sleep in bed this morning. Boiled up and walk around the computer as usual. His uncle's face makes me smile with the sadness that is in my heart.

14
I told you that everything that happens, there are factors that we didn't get wet because we hesitated. And the reason we hesitated, it may be because I didn't want a third cat. If it doesn't hesitate. This kind of difficult things wouldn't happen and hesitation. It may be the answer that we should only have boiled and sticky moon.

15
I can get over it faster than before. Pity comes with regret. Just thought I shouldn't have run for the little cat to grab some of the heart out of the body. If yesterday evening, we were home today, we wouldn't have to feel anything missing even if that. Not even in our lives yet.

16
Future imagination quickly build up in our hearts. When we find a new relationship, it grows beyond the truth in front of us. And when it ends or disappears cuddle baht with the eyes, those beautiful imagination is gone. It makes my heart free. Hurt. Even if it shouldn't hurt

17
So it's weird, our house is the same. Two beloved cats still walk around in the house, but it seems like something is gone. It takes a while, so the wound is filled.

18
I deleted that kitten from my phone one by one to delete memories. We can only make myself feel comfortable but unfortunately, there is no delete button.

19
So I don't have a picture to grow that little cat in this cuddle status because I don't want to remember, but the picture of it is clear.

20
Some events happen just to understand ourselves more. After thinking about many times. I understand myself that I don't love with sticky moon. I just want to have a cat in front of my dream cat with Ching. I have always won. I may understand that standing in the middle of your feelings that I don't want to add more cats and the feeling of having another cat is not easy to decide.

21
Since I drove to the farm until I put down my phone from the farm owner, I never had a second I changed my mind that I wouldn't take the cement home, but Ching said that time was too much to make a clear decision.

22
All the stories that happen, there are many dimensions of love in it. Excited with new love, beautiful imagination, new relationships, disconcerning with old relationships we have and more. But what I see clearly is love is a decision. Together we are sorry and sad about this event. There is a beautiful thing. That is compassion and trying to swap shoes on both of us - me and I may not take long enough to miss Lou. Dream cat, but at least nobody decides without thinking about the mind of the other.

23
When confusing, we are confused. Love is two hearts and it may not fit sometimes, but there will be a solution eventually.

24
"Are you sad Ching asked me," I'm sad, but it's okay, move on In fact, I'm surprised that there are two feelings. The other heart is not too painful. Maybe because someone asked me " Are you sad

25
I'm writing these cuddle status with a boil in the back. Sticky moon. I go away to sleep in its regular place. Is the cat bonded with me? I'm not sure. It's connected to us some time, but our heart is easy to tie to anything. So much and it's hard to unpack.

26
The picture of the cement hasn't disappeared from the idea. Oh, this cat is not the name is wet anymore. Fate is strange. It has changed a little bit and changed his life. The little cat's life has changed the direction in less than two hours.

27
As for our lives may not change direction, but we have learned less from regret and regret this time.

28
I don't like unnecessary pain that no one likes, but we often avoid it. If we don't have to hurt, but we often have to find it before we can think so that. This is thick

29
The best thing is that we have love around us. At least it's the love that we are happy to give to love caused by the bond.

30
Ching Ching told me that we don't have to possess everything we like. I think we have hundreds of consolation for themselves. But we can't fool ourselves that I'm sad when we don't live with what we want to spend time with. Just. Don't fool yourself. Move on without what we like. To find " fullness " or " beauty " of life in other ways that awaits us tomorrow.

31
Some kittens may come through our lives to tell us this secret of life. "no need me. Your life can be beautiful"

32
I look at the sticky moon and the gap that no one can see. Just live with a pity for a while. It won't be a while. It's just another story.

33
Only some people come through and stay with us all the time and that person who will make us deal with the past story without being too traumatized.

34
Regret always makes us see love clearer.

35
Boiled, tied up on keyboard again.Translated

王儲一番話，就引來成千上萬的迴響～看來這次最受關注的選區還會是柔佛吧？

PANDANGAN IKHLAS SAYA UNTUK RAKYAT JOHOR YANG SAYA SAYANGI

Hanya pandangan peribadi saya untuk rakyat Johor.

Assalamualaikum W.B.T. Saya ingin mengambil kesempatan ini untuk berkongsi pandangan dan pesanan saya kepada rakyat Johor yang saya kasihi sekalian. Saya memberi nasihat dan berkongsi pendapat saya bukan sebagai ahli politik yang perlukan undian, tetapi ia datang dari hati saya sebagai seorang anak Raja yang berkhidmat kepada rakyatnya. Taat setia saya adalah kepada Sultan saya, negeri Johor dan rakyat saya. DYMM Sultan Johor dan saya saling berkongsi pandangan dan inisiatif apa yang terbaik buat masa hadapan negeri Johor. Bukan sahaja dalam segi pentadbiran kerajaan tetapi untuk memperbaikinya dan menjadi kuasa ekonomi dalam negara, menangani mentaliti ektrimis, menaiktaraf sistem pendidikan dan sistem kesihatan.

Dengan senario politik yang berlaku sekarang dalam negara, tidak kiralah parti yang memerintah atau parti pembangkang, rakyat perlu pandai menilai apa yang terbaik untuk negeri kita dan negara. Dalam situasi politik, rakyat hanya dengar apa yang disampaikan oleh ahli politik di dalam ucapan mereka atau di media sosial. Tetapi yang tahu situasi sebenar adalah DYMM Sultan Johor dan saya sendiri. Apa sahaja rahsia sulit dan agenda mereka kami tahu. Semua maklum bahawa ahli politik ini apabila inginkan sesuatu, mereka akan menabur janji-janji manis. Saya bukan ahli politik tetapi saya juga ada agenda saya sendiri dan agenda saya adalah untuk kedaulatan negeri Johor dan kesejahteraan rakyat Johor.

Semua maklum bahawa UMNO dilahirkan di negeri Johor, di dalam istana negeri Johor. Saya tahu buat masa ini rakyat semua berkecil hati terhadap kepimpinan negara dan saya faham. Bagi pandangan saya, UMNO perlu lebih aset daripada liabiliti. Ia bermakna UMNO perlu bertukar cara pentadbiran dan pemikiran serta polisi terutama sekali sistem hirarki. Kita perlu lebih aset iaitu orang-orang muda yang ingin berkhidmat kepada negara dan berkongsi pengetahuan mereka yang berpotensi.

Saya juga tidak akan lupa siapa yang merosakkan UMNO, yang menjadi peneraju dan melahirkan kroni-kroni, melahirkan korupsi, melahirkan proksi dan juga siapa yang cuba menarik kuasa-kuasa Diraja termasuklah cuba untuk membubarkan Askar Timbalan Setia Negeri Johor (JMF) yang kami semua sayangi. Kedaulatan negeri Johor jangan dipersoalkan. Kami telah wujud dari tahun 1885 sehingga kerajaan persekutuan juga belajar protokol, pentadbiran dan perlembagaan daripada kami. Kami adalah negeri pertama yang mempunyai perlembagaan sendiri dan ia menjadi contoh kepada negara. Kadangkala kita tidak boleh menyalahkan sesebuah organisasi atau parti oleh kerana hanya seorang yang bermasalah.

Saya tidak lupa pada tahun 1992 ketika saya kecil dahulu dan nakal di sekolah, cikgu akan bercakap kepada saya, “Awak jangan main-main, awak tu kerabat diraja. Jika saya mengadu kepada Mahathir, habis awak.” Begitu juga dengan kisah Prebet Adam dimana Almarhum Sultan Iskandar iaitu datuk saya yang tidak ada peluang untuk mempertegakkan diri kerana ketika zaman itu tiada kemudahan internet, semua media dikawal oleh kerajaan.

Media mengeluarkan kenyataan kononnya prebet Adam mengamuk apabila mendapat tahu adik beliau dibunuh oleh Sultan Johor ketika itu. Sedangkan Prebet Adam tiada adik lelaki dan hanya ada adik perempuan yang meninggal dunia ketika berumur 2 tahun dalam tragedi rumah terbakar. Saya juga ada berjumpa dengan seorang individu berasal dari Kedah pada tahun lepas. Beliau yang bercerita kepada saya yang beliau berjumpa dengan Prebet Adam dan Prebet Adam menceritakan bagaimana dia dipaksa sepanjang 10 hari di dalam bilik sel yang gelap oleh anggota polis untuk mengaku yang Sultan Johor membunuh adiknya. Inilah yang sanggup dilakukan oleh kepimpinan tertinggi kerajaan ketika itu demi mendapatkan kuasa sepenuhya di dalam negara.

Rakyat jangan mudah tertipu dengan individu lidah bercabang dua seperti ular. Buat masa ini individu tersebut bukan ingin selamatkan negara tetapi apa yang dia sedang lakukan sekarang adalah kerana takut apa akan terjadi kepada anak-anaknya pada masa akan datang. Sedangkan orang yang paling kaya di dalam dunia pun belum pasti mampu untuk melahirkan tiga orang anak yang ‘billionaire’. Nasihat saya kepada rakyat Johor, jikalau kita tidak suka sesuatu dengan kerajaan, laungkan suara kita untuk pastikan mereka tahu apa yang kita inginkan. Anda semua mempunyai DYMM Sultan Johor dan saya di mana kami boleh sampaikan suara rakyat kepada kerajaan yang memerintah dan kepimpinan tertinggi dalam negara. Jangan sesekali anda sangka yang kami tiada inisiatif untuk memperbaiki sistem yang berada didalam kerajaan.

Tuan-tuan dan puan-puan yang saya hormati. Jikalau anda mahu berperang atau mahukan pertembungan antara kerajaan negeri Johor dan kerajaan persekutuan ia tidak akan mendatangkan apa-apa faedah. Jikalau kami mampu melahirkan ramai lagi anak muda yang ada potensi, sanggup berkhidmat kepada negara dan kami boleh pastikan yang dia mampu mewakili kerajaan, kita boleh mengubah segala-galanya daripada dalam.

DYMM Sultan Johor dan saya mempunyai agenda dan perancangan tersendiri. Agenda utama kami adalah untuk negeri Johor tetapi apa cara untuk kami sampai ke Putrajaya, kami tidak boleh kongsikan kepada anda semua. Ia adalah sulit dan rahsia. Saya bukan ingin menyokong mana-mana parti politik tetapi untuk mengubah nasib negara dan memperbaiki sistem, bukan untuk menjatuhkan kerajaan. Kita perlu mengubahnya daripada dalam.

Jadi, saya dan negara-negara jiran kami berpandangan, jika kapal ini telah berjalan dengan baik selama berpuluh tahun dan mempunyai masalah oleh kerana nakhodanya yang bermasalah, tidak perlu tukar kepada enjin yang baharu. Duduk di dalam kapal yang sama, dan membimbing nakhoda tersebut dan beritahu ke mana kita mahu pergi. Cukup ini sahajalah yang dapat saya kongsikan bersama rakyat. Tetapi rakyat Johor perlu percaya kepada visi DYMM Sultan Johor dan saya sendiri. Tidak perlu banyak perkara untuk dijadikan contoh. Cukup satu perkara kecil sahaja yang boleh saya beritahu anda semua untuk dijadikan sebagai contoh.

Apa yang anda lihat dengan apa yang saya lakukan dalam pentadbiran Persatuan Bolasepak Malaysia (FAM) adalah sama apa yang kami akan lakukan di pentadbiran peringkat tertinggi. Bola sepak hanyalah minat saya. Pada 30hb Jun 2016, saya ada mengeluarkan satu kenyataan dalam laman rasmi JOHOR Southern Tigers yang mengatakan kami akan memusnahkan apa yang anda bina dan kami akan bina yang lebih baik. Ia adalah satu pembayang apa yang ingin saya lakukan kepada sistem pentadbiran FAM ketika itu. Saya tidak kongsikan perkara ini kepada ramai pihak tetapi hari ini saya akan kongsikan kepada semua. Misi saya ketika menyertai FAM adalah untuk memperbaiki dan mempertingkatkan struktur sedia ada. Ia juga untuk menukar struktur perlembagaan dalam FAM bagi memastikan kuasa Presiden FAM dan Persatuan Bolasepak adalah terhad. Mereka hanya menjaga Jawatankuasa Tatatertib, pengadil dan pasukan kebangsaan. FAM juga tidak lagi memberi arahan dan terlibat dengan apa yang berlaku kepada pasukan, kelab, kewangan dan pentadbiran liga. Apa yang saya lakukan adalah saya mengubah perlembagaan di mana kami melabur kepada FAM, melabur kepada semua pasukan dan kami menjaga kepentingan Malaysian Football League (MFL). Ini adalah sebab mengapa saya keluar daripada FAM kerana kuasa tiada kepada Persatuan Bolasepak sama seperti di negara-negara luar. Kuasa berada pada badan berkecuali yang menguruskan liga seperti LaLiga (Sepanyol), Seria A (Itali), English Premier League (England), Bundesliga (Jerman) dan sekarang di Malaysia adalah MFL. Tetapi jangan salah tafsir dengan menganggap Presiden FAM sebagai proksi. Beliau bukan proksi tetapi adalah individu yang layak dan boleh bekerjasama dengan MFL. Ini diibaratkan seperti latihan saya sebelum agenda saya yang lebih besar di peringkat tertinggi melibatkan pentadbiran sistem negeri dan kerajaan.

Tuan-tuan dan puan-puan, saya datang dari keluarga dan hidup di dunia yang anda tidak boleh lihat dan dunia itu dikawal rapi. Anda lihat bagaimana pergerakan sesuatu rejim dan organisasi sulit mengawal dunia. Kami juga mempunyai sistem yang sama tetapi kami organisasi yang berbeza. Jika anda lihat bagaimana organisasi sulit mengawal negara-negara besar daripada sebuah tanah kecil di Timur Tengah dan inilah yang kami lakukan disini untuk mengawal takdir sesebuah negara. Ia telah dilakukan sejak zaman nenek moyang saya dan kami akan meneruskannya untuk rakyat bagi ‘restore the order’ apabila ia terkeluar daripada ‘order’ tersebut. Itulah tanggungjawab kami dan ia akan sentiasa menjadi tugas kami.

Sekarang ini, di dalam negara situasi politik agak berkucar kacir. Tetapi ia tidak semestinya adalah pengakhiran dunia (kiamat). Inilah masanya untuk ‘restore the order’ dan melaksanakannya kepada sistem yang telah dirosakkan oleh individu yang berumur 93 tahun ingin menjadi Perdana Menteri sekarang ini. Jangan tertipu, buka mata anda, gunakan akal fikiran dan ikut bayangan yang akan saya berikan kerana saya tahu apa yang anda tidak tahu. Anda perlu percaya kepada saya kerana saya tahu apa yang ingin saya lakukan. Inilah masanya untuk bumi selatan mengawal sesetengah situasi dan memulihkan semula ‘order’ yang telah dirosakkan oleh individu yang tamakkan kuasa dan duit. Jangan mudah terpengaruh dan percaya dengan apa yang anda dengar semalam di Pasir Gudang. Negeri Johor tidak akan pernah lupa kepada individu yang ingin membubarkan Angkatan Setia Negeri Johor (JMF) yang telah wujud sejak 1886 dan berangan mahu menarik kuasa Sultan Johor yang memerintah serta memperkecilkan perlembagaan negeri Johor yang telah wujud sebelum adanya negara bernama Malaysia.

Ingatlah wahai rakyat Johor yang saya kasihi sekalian. Bersatu kita teguh bercerai kita roboh. Selagi rakyat Johor bersatu bersama-sama dengan kepimpinan DYMM Sultan Johor termasuk saya, pelbagai perkara yang kita mahukan boleh dicapai untuk masa hadapan anak cucu cicit kita. Jangan kita berpecah belah dan mudah dipermainkan dengan anasir-anasir luar yang mahu menghancurkan kedaulatan negeri ini. Lihatlah apa yang telah saya lakukan terhadap bola sepak. Bola sepak ini hanyalah latihan. Ia ibarat saya ke ‘driving range’ sebelum pertandingan golf sebenar.

Jangan tukar kapal jika enjin masih berfungsi dengan baik. Jangan menukar nakhoda kapal tetapi benarkan sultan saya dan saya membimbing nakhoda tersebut demi anda.
Ubah dan pertingkatkan apa yang perlu diubah dan apa yang perlu dipertingkatkan untuk negeri dan negara yang tercinta.

DYAM Mejar Jeneral Tunku Ismail Ibni Sultan Ibrahim, Tunku Mahkota Johor

————

MY HONEST OPINION FOR MY BELOVED PEOPLE OF JOHOR

Just my personal opinion Johorean

Assalamualaikum and peace be upon you. I would like to take this opportunity to send a message and express my views to the beloved people of Johor. I’m giving my advice and sharing my views not as a politician, but rather a message from my heart as a young prince serving his people. My loyalty is to my Sultan, the state of Johor and to my fellow Johorean. HM The Sultan of Johor and I have shared our views and initiatives for what is best for the state of Johor in the future. All aspects have been taken into consideration which not only covers the governance of Johor, but also the blueprint to make Johor an economic powerhouse in this country. Along with this, we’ve also addressed issues to tackle extremism as well as upgrading the educational system and healthcare.

With the political senario that is currently happening in our country, regardless whether or not it’s the ruling government or the opposition, the people must be smart in evaluating what is best for our state and country. Currently, the people are only hearing what the politicians are saying through their speeches or reading articles circulating on social media. The ones who know the real situation is HM The Sultan of Johor and myself. We know their secrets and agendas. Everyone is well aware that when a politician wants something, they will make sweet promises. I am not a politician but I too have my own agenda, and my agenda is to ensure the sovereignty and the welfare of the state of Johor.

Everyone knows that UMNO was formed in Johor. In a Johor’s state palace to be exact. I know the people are discouraged by the leadership of the country and I understand. In my view, UMNO needs to have more assets than liabilities. It means UMNO needs to revamp the way it governs, change the way it thinks and it's policy. One important factor in my opinion is the current party’s hierarchy system. We need more assets in the form of young talents who are ready to serve the country and share their knowledge and replace the old guards with those who have these potential.

I will never forget those who damaged UMNO. The forerunner who gave birth to cronyism, those who gave birth to corruption and proxies, those who wanted to strip away the power of the royal institution and those who attempted to disband our beloved Johor Military Force (JMF). Do not question the sovereignty of Johor. We have been established since 1885. In the early days of the formation of Malaysia, the central government learnt protocols, adopted the structure of governance as well as the constitution from us. We were the first state to have our very own constitution and has been a model to other countries. We should not blame the whole organisation or party because of one problematic individual.

I won't forget the year 1992. Back then I was a small and naughty kid in school. My teachers will say, "Do not play a fool, you are royalty, if I were to report you to Mahathir, you are done for ". Same goes for the story of Private Adam, where my late grandfather, Almarhum Sultan Iskandar was not given a chance to defend himself. Back then we did not have the luxury of the internet and all media were controled by the government.

The media reported that Private Adam apparently “ran amok” when he got news that his brother was murdered by the Sultan of Johor. Private Adam did not have a brother and only a sister who perished in a fire at home when she was 2. Last year I met an individual from Kedah who told me that he met with Private Adam who told him how he was forced for 10 straight days in a dark cell by policeman and confess that the Sultan of Johor had killed his brother. This is how low the highest government’s leadership then is willing to go to have absolute power in this nation.

I hope the people are not easily fooled by a forked tongue individual. At the moment he is not trying to save the country, he is more worried of what will happen to his children in the future. Even the wealthiest person on earth would not be able to give birth to three 'billionaires'. My advice to the people of Johor is, if you have a problem with the government then raise your voice and let them know what you want. All of you have me and the HM Sultan of Johor to convey the peoples voice to the highest leadership in the country. Never for once think that we have no initiative to fix the system within the government.

Ladies and gentlemen. If you want to fight or start a war between the Johor government and the federal government, a head on collision, it does not bring any benefits. If we can produce more young talents with potential, willing to serve the country so we can ensure he or she is capable of representing the government, we can change everything from the inside.

HM Sultan of Johor and I have agendas and plans. Our main agenda is the state of Johor, but how we reach Putrajaya, we can’t disclose to all of you as it is private and confidential. I do not any political party, but in order to change a country’s fate and improve the system, it is not by bringing down a government. We need to change it from the inside.

Our neighboring countries and I believe that if a ship has been sailing fine for many years but has an issue due to its skipper, do not fix it with a new engine. We stay on the same ship and guide the skipper to where we want to go. That’s all I’m sharing with the people. But the people of Johor must believe in the vision of HM Sultan of Johor and I. I do not need to show many examples. Just one small example is enough for me to illustrate for you.

What you saw with what I did with the Football Association of Malaysia (FAM) administration is similar to what we will do with the administration at the highest level. Football is only my hobby. On the 30th June 2016, I released a statement with a quote on the JOHOR Southern Tigers official page saying, “We will destroy what you have built and we will build an even better one". It hinted on what I wanted to do with the FAM administration at that time. I did not share it with many people, but today I will share it with all of you. My mission when I joined the FAM was to fix and improve the existing structure. It was also meant to change the FAM’s constitution ensuring that the powers of the FAM President and Football Association are limited. They will only look after the disciplinary committee, referees and the national teams. The FAM will no longer have the power to instruct or be involved in matters related to teams, clubs, the finances and the league’s
administration. What I did was I changed the constitution whereby instead of investing in the FAM, we invested in all the teams and we took care of the interests of Malaysian Football League (MFL), no longer the FAM. This was why I left the FAM because the power is no longer with the Football Association just like in other countries. The power is with a neutral body that manages the league just like in LaLiga (Spain), Serie A (Italy), English Premier League (England), Bundesliga (Germany) and now in Malaysia. It’s called the MFL. Don't misinterpret it by thinking that the President of the FAM is a proxy. He is not a proxy but an individual who is qualified and can work together with the MFL. Once again, the modus operandi is simply my training before partaking my bigger agenda which is the highest levels involving the state and federal administration.

Ladies and gentlemen, I come from a family and live in a world that you cannot see and that world is carefully guarded. Just look at the small state regime in the middle east and the secret societies that controls the world. We are a totally different organisation but what we do is pretty similar. That is what we are doing here, to shape the destiny of a nation from the small southern state. It has been done long ago by my fore fathers and we will keep on doing it for the people. To restore the order when the order steps out of line. That is our duty and will forever be our duty.

At the moment, the political situation in the country is a bit messy, but it is not the end of the world. This is the time to restore the orders and implement systems that have been damaged by individuals who are dreaming of becoming Prime Minister. Do not be deceived, open your eyes, use your minds and follow the clues I have given because I know things you don't know. You only have to trust me, I know what I am doing. This is the time for the South to take control of the situation that has been damaged by money and power greedy individuals and stear it in the right order. Do not be easily manipulated into believing whatever you heard last night in Pasir Gudang. Johor state will never forget that individual who tried to disband the Johor Military Force (JMF) an organisation that has stood since 1886 and that same time, dreaming of diminishing the Sultan's power, belittling our constitution that has been here since before the inception of the country called Malaysia.

To my beloved people of Johor, we must remember that United we stand, divided we fall. As long as the people of Johor are together with HM The Sultan of Johor and I, we can achieve anything for the future of our children and grandchildren. Do not be easily played by the bad influences out there who want to destroy the sovereignty of this state. Look at what I have done for football. It is merely training at driving range before the real tournament.

Don't change the boat if the engine is not broken, don't even change the skipper but allow HM The Sultan of Johor and I guide the skipper for you. Change what needs to be changed and upgrade what needs upgrading for the sake of our beloved country.

HRH Major General Tunku Ismail Ibni Sultan Ibrahim, Crown Prince of Johor

Johor Mesti Sentiasa Jadi Johor
#HarimauSelatan
#SouthernTigers
#PermataSelatan
#JewelOfTheSouth
#JDTuntukSemua
#JDTforAll

動画が良かったら、高評価ボタンのクリックお願いします！

前回のゴリオン→https://youtu.be/X6c3-66HH3U

≪動画について、ひとこと≫
冒頭のFateのボケにツッコミを入れるためだけのために課金した動画です(笑)
春に公開予定だった『劇場版「Fate/stay night [Heaven's Feel]」Ⅲ.spring song』は8月15日（土）に公開するらしいです。楽しみですね！
Fate/Zeroといえば、LiSAさんがソロ活動LiSA名義での最初のシングル曲(ちなみに、最初の曲は「Believe in myself」で、最初にリリースしたCDは「Letters to U」）としてリリースした「oath sign」が印象深いですね。MVはこちら→https://youtu.be/cXJArpzZl_I


【Twitterはこちら】
https://twitter.com/momofumofu

素材：魔王魂様・MusMus様・煉獄庭園様

#ゴリラオンライン #バカゲー #ゆっくり実況 #ヒカリナEX