Functional programming ชื่อไทยคือ “การโปรแกรมเชิงฟังก์ชั่น” ชื่อย่อ FP เป็นแนวคิดหนึ่งของการเขียนโปรแกรม (programming paradigm) ชื่อขึ้นต้นด้วย functional แต่ไม่ได้มีดีแค่ประกาศ function ปุ๊บเสร็จ แล้วเรียกใช้ มันมีเบื้องลึกมากกว่านั้นแน่ๆ
🤔 มันจะต่างจากการเขียนโปรแกรมทีละสเตป ตามลำดับก่อนหลัง มีการวนลูป ที่เน้นแก้ state ของโปรแกรมเป็นหลัก
แต่แนวทาง functional programming จะไม่แก้ state ของโปรแกรมเลย ไม่มีการวนลูบ (ใช้ recursion แทน)
ซึ่งแนวคิดก็ต้องเน้นสร้างฟังก์ชั่นนั่นแหละ แต่หลักสำคัญต้องออกแบบให้หลีกเลี่ยง side-effect (ผลข้างเคียง) ที่จะเกิดต่อ function ตัวเอง และตัวอื่น โดยมีหลักยึด 2 อย่างใหญ่คือ
👉 1) function ที่สร้างขึ้นมา เมื่อมีอินพุตค่าเดิมส่งไปหา (เป็นค่าอากิวเมนต์) ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม function จะรีเทิร์นค่าออกมาเหมือนเดิมทุกครั้ง ...(ไอเดียมาจากฟังก์ชั่นในทางคณิตศาสตร์เลยครับ)
เช่น
func(1); // เรียกครั้งที่ 1 ก็จะได้ค่ารีเทิร์นออกมาเป็น 30
func(1); // เรียกครั้งที่ 2 ก็จะได้ค่ารีเทิร์นออกมาเป็น 30 เหมือนเดิม
func(1); // เรียกครั้งที่ 3 ก็จะได้ค่ารีเทิร์นออกมาเป็น 30 เหมือนเดิม
👉 2) function ต้องไม่ไปเปลี่ยนแปลงค่าของตัวแปรจำพวก global variable หรือ static variable หรือตัวแปรที่อยู่ข้างนอก function ...เพื่อไม่ให้ function อื่นได้รับผลกระทบ
ถ้า function ที่เราประกาศไว้ มีคุณสมบัติ 2 อย่างที่ว่านี้ ก็จะเรียกว่า pure function (ฟังก์ชั่นบริสุทธ์แท้ๆ) 👌
สำหรับอีกคุณลักษณะหนึ่งที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ
👉 3) First-class function และ Higher-order function
คำว่า first-class function มาจาก "first class citizen" ที่หมายถึง "พลเมืองชั้นหนึ่ง" ดังนั้น first-class function จะหมายถึง ฟังก์ชั่นเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งจริงๆ เลยนะ
คุณสมบัตินี้ function จะถูกมองเป็นข้อมูลประเภทหนึ่ง ไม่ต่างจากข้อมูลตัวเลข สตริง บูลีน ด้วยเหตุนี้จึงสามารถนำ function ไปกำหนดค่าให้กับตัวแปรยังได้เลย เช่น
x = function(){ .....}
ส่วนคุณสมบัติ Higher-order function:
คุณสมบัตินี้หมายถึง เราสามารถใช้ function ส่งไปเป็นค่าอากิวเมนต์แก่ function ตัวอื่น หรือ function จะรีเทิร์นออกมาจาก function ตัวอื่นออกมาก็ได้ด้วย เช่น
- ส่ง function_A เป็นค่าอากิวเมนต์ไปให้ function_X(function_A);
- จากนั้น function_X() ก็จะสร้าง function_Y แล้วรีเทิร์นมันออกมาได้
😜 ===ประโยชน์ functional programming===
🔥 เอาไปเขียนโปรแกรมโดยไม่มีการวนลูป เช่น ไม่ต้องมานั่งเขียน for … หรือ while… วนลูป เพื่อเข้าถึงข้อมูลโครงสร้างพวก array , list ฯลฯ เป็นต้น
🔥 การทำ currying หมายถึงทำให้ฟังก์ชั่น จากเดิมที่มี parameter หลายตัวให้เหลือแค่ตัวเดียว ด้วยการส่งผลลัพธ์เป็น function ที่รับ Parameter ที่เหลือ ...ใช้เทคนิค closure
🔥 หรือจะทำ function Composition (เอาฟังก์ชั่นมาประกอบกัน)
🔥 หรือจะเอาไปใช้เขียนโปรแกรมแบบ parallel computing (โปรแกรมคู่ขนาน)
🔥 หรือจะเขียนโปรแกรมแบบ asynchronous โดยที่โค้ดหลักไม่ต้องรอการประมวลผลฝั่ง I/O ให้แล้วเสร็จ โค้ดหลักสามารถข้ามไปยังบรรทัดถัดไปก่อนได้เลย
🔥 Testability — ผลพลอยได้ก็คือ เอาแนวคิดนี้ไปใช้ทำ test function ได้ง่าย โดยแต่ละการ test จะเป็นอิสระต่อกัน เมื่อใช้วิธีการเดิมในการทดสอบ 10 ครั้ง ก็ควรได้ผลเหมือนเดิม 10 ครั้ง เป็นต้น
++++ 🤔 ++++++
เมื่อเปรียบเทียบกับแนวคิด OOP (โปรแกรมเชิงวัตถุ object-oriented programming)
ถ้าโจทย์ปัญหาเป็น parallel computing หรือ asynchronous การใช้แนวคิด functional programming ดูแล้วคล่องแคล่วปราดเปรียวไม่ยุ่งยาก
เนื่องจากแนวคิด functional programming ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก เขียนโปรแกรมก็จะกระชับ ง่าย...ง๊าย เมื่อเทียบกับ OOP ที่โค้ดจะเยอะกว่า เพราะมี class มากมาย ยิ่งถ้า inheritance โดยให้มีการสืบทอดสมาชิกหลายชั้น ก็จะสับสนตาลาย มึนงงได้ คงต้องพึ่ง IDE ให้เป็นพี่เลี้ยงช่วยแนะนำว่ามีสมาชิกอะไรที่สืบทอดมา
แต่จุดเด่นเรื่อง OOP จะมีความเป็น Modularity ที่สูง โค้ดที่เขียนเป็นอ็อบเจ็กต์แต่ละตัวจะเป็นอิสระต่อกัน เนื่องจากข้อมูลหรือ state ซึ่งอยู่ภายในตัวอ็อบเจ็กต์เอง จะมีเป็นของใครของมัน ขณะเดียวกันแต่ละอ็อบเจ็กต์จะปฏิสัมพันธ์กันได้ สามารถเอาอ็อบเจ็กต์ที่มีอยู่แล้วมา reuse ใช้ได้ง่าย รวมทั้งถอดเข้าถอดออกขณะโปรแกรม run time
แล้วแต่สถานการณ์ว่าจะใช้แนวทางเขียนโปรแกรมแบบไหน
แต่ก็ยอมรับว่าบางทีเขียนแบบ functional programming ก็ยากต่อการทำความเข้าใจ เพราะโค้ดมันสั้นกระชับเกิ๊น
ยิ่งหลายภาษาโปรแกรมมิ่งสมัยใหม่ในปัจจุบันนี้ มีการแทรกแนวคิด functional programming เข้ามา นอกเหนือจากแนวคิด OOP เช่น JavaScript, Python, Java, C#, Swift, Kotlin แต่ก็อาจประยุกต์แนวคิดนี้ได้ไม่ 100% มากนัก
จะไม่เหมือนบ้างภาษาเช่น Haskell ที่มาพร้อมกับ immutable data structure หมายถึงข้อมูลที่ไม่สามารถแก้ไขค่าได้เลย จึงทำให้ function กลายเป็น functional programming แท้ๆ (pure function)
✍ สรุป แนวคิดนี้ไม่ได้เรื่องใหม่มีมานานก่อนบางคน ...อุ้แว ...อุ้แวเกิดเสียอีก แต่ตอนโน่นแนวคิดนี้ยังไม่ดังเปรี้ยงเหมือน OOP คนที่เขียนภาษา JavaScript รวมไปถึง Node.js ย่อมใช้หลักการนี้อย่างไม่รู้ตัว ยิ่งภาษาสมัยใหม่หลายตัวก็ยอมรับแนวคิด functional programming เข้ามาในภาษาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีนี้ถือว่าแปลกมาก
--------
เขียนโดย โปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過12萬的網紅一二三渡辺,也在其Youtube影片中提到,今日はじめて来てくれました、 堺市ウォーカー見て、堺市で一番あのカレーを食べに、 来てみると、ライダーズカフェだった・・・ かなり驚いたそうです、 グルメとライダーズカフェ、 よろしく、 ライダーズカフェMACHⅢ 大阪府堺市美原区北余部469-6 TEL&FAX072-361ー...
first-class function 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的精選貼文
Functional programming ชื่อไทยคือ “การโปรแกรมเชิงฟังก์ชั่น” ชื่อย่อ FP เป็นแนวคิดหนึ่งของการเขียนโปรแกรม (programming paradigm) ชื่อขึ้นต้นด้วย functional แต่ไม่ได้มีดีแค่ประกาศ function ปุ๊บเสร็จ แล้วเรียกใช้ มันมีเบื้องลึกมากกว่านั้นแน่ๆ
🤔 มันจะต่างจากการเขียนโปรแกรมทีละสเตป ตามลำดับก่อนหลัง มีการวนลูป ที่เน้นแก้ state ของโปรแกรมเป็นหลัก
แต่แนวทาง functional programming จะไม่แก้ state ของโปรแกรมเลย ไม่มีการวนลูบ (ใช้ recursion แทน)
ซึ่งแนวคิดก็ต้องเน้นสร้างฟังก์ชั่นนั่นแหละ แต่หลักสำคัญต้องออกแบบให้หลีกเลี่ยง side-effect (ผลข้างเคียง) ที่จะเกิดต่อ function ตัวเอง และตัวอื่น โดยมีหลักยึด 2 อย่างใหญ่คือ
👉 1) function ที่สร้างขึ้นมา เมื่อมีอินพุตค่าเดิมส่งไปหา (เป็นค่าอากิวเมนต์) ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม function จะรีเทิร์นค่าออกมาเหมือนเดิมทุกครั้ง ...(ไอเดียมาจากฟังก์ชั่นในทางคณิตศาสตร์เลยครับ)
เช่น
func(1); // เรียกครั้งที่ 1 ก็จะได้ค่ารีเทิร์นออกมาเป็น 30
func(1); // เรียกครั้งที่ 2 ก็จะได้ค่ารีเทิร์นออกมาเป็น 30 เหมือนเดิม
func(1); // เรียกครั้งที่ 3 ก็จะได้ค่ารีเทิร์นออกมาเป็น 30 เหมือนเดิม
👉 2) function ต้องไม่ไปเปลี่ยนแปลงค่าของตัวแปรจำพวก global variable หรือ static variable หรือตัวแปรที่อยู่ข้างนอก function ...เพื่อไม่ให้ function อื่นได้รับผลกระทบ
ถ้า function ที่เราประกาศไว้ มีคุณสมบัติ 2 อย่างที่ว่านี้ ก็จะเรียกว่า pure function (ฟังก์ชั่นบริสุทธ์แท้ๆ) 👌
สำหรับอีกคุณลักษณะหนึ่งที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ
👉 3) First-class function และ Higher-order function
คำว่า first-class function มาจาก "first class citizen" ที่หมายถึง "พลเมืองชั้นหนึ่ง" ดังนั้น first-class function จะหมายถึง ฟังก์ชั่นเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งจริงๆ เลยนะ
คุณสมบัตินี้ function จะถูกมองเป็นข้อมูลประเภทหนึ่ง ไม่ต่างจากข้อมูลตัวเลข สตริง บูลีน ด้วยเหตุนี้จึงสามารถนำ function ไปกำหนดค่าให้กับตัวแปรยังได้เลย เช่น
x = function(){ .....}
ส่วนคุณสมบัติ Higher-order function:
คุณสมบัตินี้หมายถึง เราสามารถใช้ function ส่งไปเป็นค่าอากิวเมนต์แก่ function ตัวอื่น หรือ function จะรีเทิร์นออกมาจาก function ตัวอื่นออกมาก็ได้ด้วย เช่น
- ส่ง function_A เป็นค่าอากิวเมนต์ไปให้ function_X(function_A);
- จากนั้น function_X() ก็จะสร้าง function_Y แล้วรีเทิร์นมันออกมาได้
😜 ===ประโยชน์ functional programming===
🔥 เอาไปเขียนโปรแกรมโดยไม่มีการวนลูป เช่น ไม่ต้องมานั่งเขียน for … หรือ while… วนลูป เพื่อเข้าถึงข้อมูลโครงสร้างพวก array , list ฯลฯ เป็นต้น
🔥 การทำ currying หมายถึงทำให้ฟังก์ชั่น จากเดิมที่มี parameter หลายตัวให้เหลือแค่ตัวเดียว ด้วยการส่งผลลัพธ์เป็น function ที่รับ Parameter ที่เหลือ ...ใช้เทคนิค closure
🔥 หรือจะทำ function Composition (เอาฟังก์ชั่นมาประกอบกัน)
🔥 หรือจะเอาไปใช้เขียนโปรแกรมแบบ parallel computing (โปรแกรมคู่ขนาน)
🔥 หรือจะเขียนโปรแกรมแบบ asynchronous โดยที่โค้ดหลักไม่ต้องรอการประมวลผลฝั่ง I/O ให้แล้วเสร็จ โค้ดหลักสามารถข้ามไปยังบรรทัดถัดไปก่อนได้เลย
🔥 Testability — ผลพลอยได้ก็คือ เอาแนวคิดนี้ไปใช้ทำ test function ได้ง่าย โดยแต่ละการ test จะเป็นอิสระต่อกัน เมื่อใช้วิธีการเดิมในการทดสอบ 10 ครั้ง ก็ควรได้ผลเหมือนเดิม 10 ครั้ง เป็นต้น
++++ 🤔 ++++++
เมื่อเปรียบเทียบกับแนวคิด OOP (โปรแกรมเชิงวัตถุ object-oriented programming)
ถ้าโจทย์ปัญหาเป็น parallel computing หรือ asynchronous การใช้แนวคิด functional programming ดูแล้วคล่องแคล่วปราดเปรียวไม่ยุ่งยาก
เนื่องจากแนวคิด functional programming ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก เขียนโปรแกรมก็จะกระชับ ง่าย...ง๊าย เมื่อเทียบกับ OOP ที่โค้ดจะเยอะกว่า เพราะมี class มากมาย ยิ่งถ้า inheritance โดยให้มีการสืบทอดสมาชิกหลายชั้น ก็จะสับสนตาลาย มึนงงได้ คงต้องพึ่ง IDE ให้เป็นพี่เลี้ยงช่วยแนะนำว่ามีสมาชิกอะไรที่สืบทอดมา
แต่จุดเด่นเรื่อง OOP จะมีความเป็น Modularity ที่สูง โค้ดที่เขียนเป็นอ็อบเจ็กต์แต่ละตัวจะเป็นอิสระต่อกัน เนื่องจากข้อมูลหรือ state ซึ่งอยู่ภายในตัวอ็อบเจ็กต์เอง จะมีเป็นของใครของมัน ขณะเดียวกันแต่ละอ็อบเจ็กต์จะปฏิสัมพันธ์กันได้ สามารถเอาอ็อบเจ็กต์ที่มีอยู่แล้วมา reuse ใช้ได้ง่าย รวมทั้งถอดเข้าถอดออกขณะโปรแกรม run time
แล้วแต่สถานการณ์ว่าจะใช้แนวทางเขียนโปรแกรมแบบไหน
แต่ก็ยอมรับว่าบางทีเขียนแบบ functional programming ก็ยากต่อการทำความเข้าใจ เพราะโค้ดมันสั้นกระชับเกิ๊น
ยิ่งหลายภาษาโปรแกรมมิ่งสมัยใหม่ในปัจจุบันนี้ มีการแทรกแนวคิด functional programming เข้ามา นอกเหนือจากแนวคิด OOP เช่น JavaScript, Python, Java, C#, Swift, Kotlin แต่ก็อาจประยุกต์แนวคิดนี้ได้ไม่ 100% มากนัก
จะไม่เหมือนบ้างภาษาเช่น Haskell ที่มาพร้อมกับ immutable data structure หมายถึงข้อมูลที่ไม่สามารถแก้ไขค่าได้เลย จึงทำให้ function กลายเป็น functional programming แท้ๆ (pure function)
✍ สรุป แนวคิดนี้ไม่ได้เรื่องใหม่มีมานานก่อนบางคน ...อุ้แว ...อุ้แวเกิดเสียอีก แต่ตอนโน่นแนวคิดนี้ยังไม่ดังเปรี้ยงเหมือน OOP คนที่เขียนภาษา JavaScript รวมไปถึง Node.js ย่อมใช้หลักการนี้อย่างไม่รู้ตัว ยิ่งภาษาสมัยใหม่หลายตัวก็ยอมรับแนวคิด functional programming เข้ามาในภาษาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีนี้ถือว่าแปลกมาก
--------
เขียนโดย โปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
first-class function 在 CheckCheckCin Facebook 的最讚貼文
【人人也想排毒】你有試下這些方法嗎?
#減肥瘦身是一輩子的使命
#大部分人總試過一至兩種
#星期六放鬆身心
五花八門排毒法
說起排毒,每個人總有自己一套方法,再上網看看,排毒方法更是五花八門,再稀奇的也有,有些則聲稱有醫學理論根據,其實很多時都是希望藉著「排毒」這個詞,來讓減肥瘦身相對輕鬆及合理化,事實又是否如此?你有否試過以下的排毒法呢?
1/ 酵素排毒法
酵素又稱為酶,是一種蛋白質。人體本身已有數千種酵素的存在,進食時也要靠酵素來消化分解,因此近年流行吃酵素以作「排毒」,有稱可幫助消化、排便及減重。其實不少相關產品中都添加以纖維及促瀉成分,自然會令進食者增加排便以達至減磅的效果,但同時有可能出現嚴重腹瀉的症狀,因此在沒有醫生的處方下還是不應胡亂以酵素減肥。
2/ 斷食排毒法
這又稱為「辟穀」,本來是道家的修練方式,以氣功配合,讓身體休養生息,現在多為人所認識的辟穀是蔬果汁斷食法或喝水斷食法,有人會每5天斷食2天,只靠流質及水分維持身體所需,讓腸胃休息及增加排便。還是同一句,中醫講求飲食均衡,寧可每餐吃少一點,清淡一點,也比斷食更好,也別過量飲用生冷果汁耗傷脾胃。
3/ 炭丸排毒法
炭丸是一種黑色藥丸,以活性炭製造,在泰國很流行食用以作排毒,聲稱可清除體內毒素。其實在醫學上炭丸的確有用途,當有人急性中毒時,醫生會處方炭丸以減少腸胃黏膜吸收,減低毒素吸收,又或是可在吃錯東西後盡快食用,以減低吸收不潔食物,而非大家以為在大吃大喝或吃熱氣食物後吃炭丸能有助「排毒」。不正確地進食炭丸其實會影響胃部功能,出現胃痛、便秘等症狀,甚至會阻礙營養吸收。
4/ 飲油排毒法
曾經有女星表示自己在11天內只喝油排毒,身體比之前更健康。首先只偏重於一種食品已經不健康,而且過量攝取油脂,即使是天然油分,也會為心血管帶來嚴重的負擔,並沒有醫學根據,千萬不要亂試。
5/ 洗腸排毒法
市面上亦有不少浣腸中心進行洗腸/灌腸排毒法,主要是將與體溫相近的純淨水,灌入結腸以軟化大便再排出,藉著清洗腸道以排出積貯的食物殘渣及宿便以作排毒,達至美容及減肥之效。其實西方有長久的洗腸歷史,而中醫古藉也有提到以蜂蜜或豬膽汁灌腸通便,但在香港,中醫不會採用灌腸這種方法 。除了一般的純水灌腸外,更有較進取的咖啡灌腸,有時更會配合喝油作為一個排毒療程。洗腸在香港雖然是認可的醫學療程,主要用於有嚴重便秘問題的患者身上,但一般坊間的洗腸療程卻沒有法例規管,大家採用前還是先諮詢醫生意見更穩妥。
6/ 無花果排毒法
無花果被認為能抗氧化而且擁有能幫助消化的酶,在中醫理論中無花果則有潤腸通便之效,因此被公認為排毒功效一流的食物。方法是在午餐前吃一個新鮮無花果,晚餐前再吃兩個,也加入菜色中如沙律內或Energy bowl內。中醫主張對症下藥,無花果雖好,但也要配合體質食用,由於其功效為滋陰潤燥,適合陰虛體質人士,身體有濕人士則不宜吃過多。
All kinds of detoxification methods
When it comes to detoxification, everyone has their own methods. If you check on the web, they become even more varied- some can be odd, others claim to have scientific basis. A lot of times, people use the term detox to make weight loss simpler and more justified. Have you trird the below methods?
1/ Enzyme detoxification
Enzyme is a type of protein. The human body itself has thousands of enzymes. It also relies on enzymes to digest and decompose food consumed. Therefore, in recent years, it has been popular to consume enzymes for "detoxification", which is said to help digestion, defecation and weight loss. In fact, many related products are added with fiber and diarrhea-inducing ingredients, which will naturally increase the effect of defecation in the diet to reduce weight. But at the same time these may cause symptoms of severe diarrhea, so enzymes should not be used for weight loss without medical advice.
2/ Fasting detoxification method
This is also known as "breatharianism". It was originally a Taoist practice with the combination of Qigong and letting the body rest. Nowadays it is known as juice fasting method or the drinking water fasting method. Some people will fast for 2 days every 5 days, relying on liquid and water to maintain the body's needs to let the stomach rest and promote bowel movements. As we always say, Chinese medicine emphasizes on a balanced diet. It is better to eat less and lighter at each meal than fasting. Do not drink too much cold/raw juice to harm the spleen and stomach.
3/ Charcoal tablet detoxification
Charcoal tablets are black pills made from active charcoal and are popular in Thailand for detoxification, claiming to remove toxins from the body. In fact, charcoal pills do have a purpose in medicine. When someone is acutely poisoned, the doctor will prescribe charcoal tablets to reduce the absorption of gastrointestinal mucosa, reduce the absorption of toxins. Some take this when they have eaten something wrong to reduce the absorption of unclean food. Charcoal tablets are not for consumption after excessive eating or having heat-related food to help "detoxification." Inappropriate consumption of charcoal tablets can affect stomach function, cause stomach pain, constipation and other symptoms, and even hinder nutrient absorption.
4/ Oil detoxification method
There were some actresses who said they only drank oil for 11 days to detox, and the body was healthier than before. First of all, having only one kind of food is unhealthy, and excessive intake of oil, even natural oil, will bring a serious burden to the cardiovascular system, and there is no medical basis, so do not try this.
5/ Colon cleansing detoxification
There are also many colon cleansing centers to provide colon cleansing/enema detoxification. The main purpose is to pour pure water at body temperature into the colon to soften the stool and then discharge it. Discharging accumulated food and stools by washing the intestines is supposed to achieve effect on beauty and weight loss. In fact, western countries have a long history of colon cleansing, and traditional Chinese medicine has also mentioned the use of honey or pig bile juice to clean the bowels to relieve constipation. In Hong Kong, Chinese medicine does not use enema. In addition to the general method like pure water enema, there is a more aggressive method like coffee enema, sometimes with oil drinking as a detoxification treatment. Although the colon cleansing is an approved medical treatment in Hong Kong, they are mainly used for patients with serious constipation problems. There is no law regulation in the general colon cleansing treatment. It is more secure to consult doctors before using it.
6/ Fig detoxification
Fig is considered to be an antioxidant and has enzymes that help digestion. Chinese medicine believes figs have the effect of loosening the bowels to relieve constipation, so it is recognized as the first-class food for detoxification. The method is to eat a fresh fig before lunch, eat two more before dinner, and also add to dishes such as salad or energy bowl. Chinese medicine advocates the right medicine according the symptoms. Although fig is good, but it should be consumed based on your body condition. As its effect is nourishing yin and moistening dryness, it is suitable for people with yin deficiency, and people with dampness should not eat too much.
#男 #女 #我狀態OK #便秘
first-class function 在 一二三渡辺 Youtube 的最佳解答
今日はじめて来てくれました、
堺市ウォーカー見て、堺市で一番あのカレーを食べに、
来てみると、ライダーズカフェだった・・・
かなり驚いたそうです、
グルメとライダーズカフェ、
よろしく、
ライダーズカフェMACHⅢ
大阪府堺市美原区北余部469-6
TEL&FAX072-361ー3171
http://www.h4.dion.ne.jp/~maltuha/index.html
Kawasaki and GPZ900R (Gapezet moxa cautery are) are the motorcycles, and new generation sports Zarah of the Kawasaki (Kawasaki Heavy Industries) marketed in 1984. A pet name of Ninja (ninja) was named to the North America specification.
Outline
Because it was not possible to hope, and weight was too large, the performance gain more than this ruined the movement though GPz1100 that had been manufactured till then adopted four air cooling cylinder engine with the tradition since Z-1.
To achieve loading sports with brilliant under the power performance and the one class of GPz1100 or more, GPZ900R was developed. At that time, the engine demonstrated 115ps by the displacement of 908cc in the first generation of water-cooled designed quite newly, and was a performance of the first class. Moreover, the body that supported it adopted a diamond frame that used the engine as a stress member instead of abolishing the down tube made of high-tension steel (high-tensile steel) assumed to be a RIDGID conclusion without having the mule mount, and contributed to the small size and lightening. Moreover, the adoption of 16-inch wheel will be able to be called a novel point with full Cowling who suppresses the air resistance at that time.
A light sports car more than GPz110 0 was born in all respects such as the speed, acceleration, and cornering though some maximum speed of GPZ900R marked 250Km/h, and was inferior to that of GPz1100 by the horsepower as the result.
* The engine power is dropped to 108ps.
* The dry weight increases to 234kg.
* The Ann meter is abolished according to meter panel design change.
* Design change of rearview mirror
* Material change of seat sponge
* Design change in step mule
* Dumas switch change (designing and winker push cancellation making)
* Wheel design and size change (F:2.50-16 → 3.00-17,R:3.00-18 → 3.50-18)
* Change in size of tire (F:120/80-16 → 120/70-17,R:130/80-18 → 150/70-18)
* Brake..caliper..change..do..jar..oppose..jar..do..jar..do..jar.
* Change in brake rotor (F:280 φ → 300 φ,R:270 φ → 250 φ)
* Change (38 φ → 41 φ) AVDS (front fork sinking prevention function) abolition of
front fork
* Change of length of silencer (Become about 30mm longer).
* Coloring change ebony × pearl Cosmic gray and ebony × fire cracker red engine
This engine hit as real water-cooled engine at the first generation has the structure not seen so much in the other companies that doesn't use the stud bolt, and cools the sleeve directly by a wet liner. In addition, the thing to adopt "Side cam chain" method is the feature one in the cam chain because suction is made more straight and it improves efficiency laid out to the left end.
The approval or disapproval comes from there is a dislike of strength and lubrication shortage a little, and burning into first when the output improves of this part of the crank in the place in which it divides though combining ..digging.. and the crank shaft try the waist under by the crank web and assume the suppressed structure with one-place's of the journal cap, and try a primary gear of the first deceleration to control the width of the engine. The RIDGID mount that the mount is done directly by the frame without the mule is scheduled, and it averts and because F measures were necessary, the first balancer driven by the output from the crank shaft is built into at first this engine.
The cylinder head looks very large from the left side the valve scissors corner is might large, large-scale, and with the cam chain tunnel especially when seeing from the present level. The inside of this head is locker arm type DOHC of one cam two valve drive, and "Cageri" is caused easily from defective lubrication, and it is enumerated in one of the weak points between slippers sides of this camshaft and the locker arm.
The point that derived type's engine built one age afterwards from develop the point and afterwards exactly became "Mainspring" abundant might be value to the special mention from which it extends for 20 years to be near afterwards and this cars are produced though it was an engine with a lot of weak points like this.
It is off-the-beaten-path that the racing machine based on this engine was developed in parallel with GPZ900R though Kawasaki was not able to turn on the actual combat because it stopped the race activity in 1983.