I have a special affinity to design of the 60’s. This was the era of modernism, minimal design with an eye towards the future. 60’s sports cars expressed this with smooth rolling sexy feminine curves. The sense of speed was created by a designer’s hand rather than calculated from a computer. Modern sports cars represent speed with harsh lines and angles intersected with ducts and bits of aero highlight technology but very little romance. That’s why I was pleasantly surprised when Ferrari rolled out the all new Roma. A massive departure from their cars of recent past and even their current lineup, Ferrari brought sexy back to their line up and I was excited to get my hands on one.
As I walk around this example in an electric Blue Corsa, everything about this design gets me excited. The overhanging shark nose with a very modern and minimal grill is clean and sharp. The lack of vents or ducts allows the fenders to swoop you up and around it’s narrowed waist leading to more curved haunches that culminate with it’s glorious big, round, squat and firm booty. The purity of this design reminds me of the legendary GTO of the 60’s but also a little bit of the Daytona of the 70’s as well. Either way, the history and lineage of the brand is definitely present in this design.
The interior is characterized by a “dual cockpit design” giving equal space to both driver and passenger. A touch screen display on the passenger side instantly makes the passenger a co driver as they have audio and climate controls as well as driver info like RPM and speed. The dash is made up of a curved 16’ HD screen and can be personalized in various configurations. The steering wheel is all new, with touch controls including the start/stop function. While it is a technological feat, I’m old so I prefer physical buttons that go click. There were a couple times an errant finger had me calling people I had rather not talk to. There are two rear seats in the back that I was able to shoehorn my 7 year old daughter into for a family drive. Overall the interior is a very comfortable yet minimal space in black leather and Alcantara putting the focus on the road in front of you, where it should.
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過59萬的網紅NotebookSPEC,也在其Youtube影片中提到,ถ้าคุณไม่อยากไปเดินเลือกหรือลุ้นว่าจะซื้อแล้วได้สเปคอะไร? AdminKor แนะนำทางเลือกที่น่าสนใจ เกมมิ่งพีซี Legion T5 พีซีสำเร็จรูปจากทาง Lenovo ที่จะทำให้...
「hd audio driver」的推薦目錄:
hd audio driver 在 notebookspec Facebook 的最佳貼文
ถ้าคุณไม่อยากไปเดินเลือกหรือลุ้นว่าจะซื้อแล้วได้สเปคอะไร? AdminKor แนะนำทางเลือกที่น่าสนใจ เกมมิ่งพีซี Legion T5 พีซีสำเร็จรูปจากทาง Lenovo ที่จะทำให้คุณมีคอมเล่นเกมได้ในราคาสบายกระเป๋า มาพร้อมขุมพลังซีพียู AMD Ryzen 7 พร้อมแรม 16GB และมีการ์ดจอ GeForce RTX 2060 มาให้ ใส่มาในเคสกระจกข้างใส พัดลมแสงไฟสวยๆ แต่ที่พิเศษกว่าคอมประกอบทั่วไป นั่นคือ ให้การรับประกันแบบ On-site ถึง 3 ปีเต็ม มี Windows 10 มาให้พร้อมใช้ในราคาแค่ 35,900 บาท เท่านั้น
สเปค
• ซีพียู AMD Ryzen 7 3700X: 8 core/ 16 thread, Base 3.60GHz, Boost 4.4GHz
• เมนบอร์ด AMD B550
• แรม DDR4 3200 16GB อัพเกรดเพิ่มได้อีก 3 สล็อต
• SSD Samsung M.2 NVMe PCIe 512GB ความเร็ว Read 3,xxxMB/s และ Write 2,xxxMB/s
• การ์ดจอ GeForce RTX 2060 6GB GDDR6
• ชุดฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ และพัดลมไฟสวย
• อัพเกรดง่าย ทำเองได้ ประกันไม่ขาด
• ระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมใช้
• การรับประกันแบบ Onsite อีก 3 ปี
• ราคา 35,900 บาท
ด้านหน้า: ดีไซน์เป็น 2 ชั้น ด้านนอกเป็นตะแกรงสีดำ มีขอบโค้งมนไปจรดด้านข้าง และโลโก้ Legion ไฟสีฟ้าสวยงาม ส่วนชั้นที่ 2 ด้านในเป็นตัวยึดพัดลม ซึ่งติดตั้งพัดลมเคสขนาด 120mm พร้อมไฟสีฟ้า มาให้ 2 ตัว ดูดลมเย็นจากด้านหน้าเข้าไปด้านใน
ด้านหลัง: ค่อนข้างเรียบง่าย Back I/O มีพอร์ต USB 3.2 Gen2, Type-A และ Type-C, Gigabit LAN และ Jack 3.5mm สำหรับ Audio-out รวมถึงพอร์ตแสดงผลบนการ์ดจอ HDMI และ DisplayPort ครบ
ด้านข้าง: เป็นกระจกใสเทมเปอร์ หนาพอสมควร มองเห็นภายในได้ชัดเจน ไขน็อตด้านหลัง สไลด์เปิดออกได้ง่าย รองรับการอัพเกรดด้วยตัวเอง ส่วนอีกด้านก็เปิดได้ด้วยการไขน็อตและสไลด์ออกเช่นเดียวกัน
ด้านบน: เป็นตะแกรงสีดำช่วยในการระบายคามร้อนเต็มพื้นที่ รองรับการติดตั้งพัดลมขนาด 120mm ได้อีกด้วย และมีโลโก้ Lenovo ให้เห็นชัดเจน ส่วน Front Panel ประกอบด้วยพอร์ต USB 3.2 Gen1 และ Jack 3.5mm สำหรับหูฟัง และไมโครโฟน โดยมีปุ่มเพาเวอร์อยู่ริมสุด
ภายใน: เป็นเคสในแบบ Medium-Tower ขนาด 26L กว้างขวางขนาดติดตั้งเมนบอร์ด ATX ได้พอดีๆ และ mATX จะมีพื้นที่เหลือ พร้อมจุดติดตั้ง SSD ด้านหลังเคส รองรับการอัพเกรดอุปกรณ์ได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น RAM หรือ Storage เป็นต้น จุดเด่นที่น่าสนใจคือ Legion T5 นี้ ยังมาพร้อมกับตัวล็อคการ์ดจอ สำหรับการค้ำการ์ดจอขนาดใหญ่ ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
#Lenovo #Legion
การระบายความร้อน: นอกจากระบบ Cold Front 2.0 ที่เพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ และการเพิ่มช่องทางระบายความร้อน และการอัพเกรดพัดลม ให้มีการไหลเวียนอากาศได้ดีขึ้น ด้วยพัดลมด้านหน้า 2 ตัว เป่าลมเย็นเข้า วิ่งผ่านแรมและซีพียู ที่มีฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ ช่วยในการลดความร้อน ยังมีพัดลมเคสตัวใหญ่ด้านหลัง ดูดลมออกอีกด้วย แล้ว ยังให้ฟังก์ชั่น เลือกโพรไฟล์ Thermal Mode มาให้เลือก 3 รูปแบบด้วยกันคือ Performance, Balance และ Quiet ปรับแต่งเองได้บนซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage
ซอฟต์แวร์และยูทิลิตี้: Lenovo มีซอฟต์มากมายให้ใช้งาน แต่ที่โดดเด่นคือ Lenovo Vantage เพราะครอบคลุมการใช้งานในด้านต่างๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น
#คอมเล่นเกม #PUBG #NFS #GTAV
Hardware Monitor - รายงานสถานะของ ซีพียู แรม การ์ดจอ Storage
Software Status – แจ้งการอัพเดต Windows, Driver และการเพิ่มประสิทธิภาพ
Performance & Security – แค่กด Scan Now ก็ให้คุณเช็คสถานะและประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของระบบได้ทันที
Support – ให้คำแนะนำในการจัดการระบบด้วยตัวคุณเอง เมื่อเกิดปัญหาในการใช้งานในเบื้องต้น
Lighting – เลือกปรับโพรไฟล์แสงสี RGB ได้ถึง 3 รูปแบบด้วยกัน และ Customize ตามความต้องการได้อีกด้วย
Legion T5 เกมมิ่งพีซีที่มาพร้อมประสิทธิภาพและการ Support ครบครัน จ่ายแค่ 3 หมื่นกว่าบาท ได้ซีพียูแรงระดับ 8 core/ 16 thread พร้อมการ์ดจอ RTX 2060 และแรมอีก 16GB ซึ่งประสิทธิภาพในการเล่นเกม ก็ลื่นไหลอย่างที่ได้เห็นไปในการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นทั่วไปหรือระดับ AAA ในโหมด Full-HD ปรับ Detail ของภาพแบบ High เฟรมไหลสบายตา แต่ไม่ใช่แค่เรื่องสเปคเท่านั้น เพราะ Lenovo ยังให้ Windows 10 ติดเครื่องพร้อมใช้และการรับประกัน On-site อีก 3 ปี มาอีกด้วย
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง AMD และ Lenovo ที่ส่งเกมมิ่งพีซีสเปคแรง Legion T5 มาให้ทดสอบกัน สำหรับใช้เป็นทางเลือกให้กับคอเกม ให้ได้เล่นเกมกันสมใจกันด้วยครับ ใครที่สนใจสามารถหาซื้อกันได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย Lenovo ทั่วไปเทศได้แล้ววันนี้
► อ่านรีวิวเต็ม & ดูสเปคและราคา ◄
→ https://notebookspec.com
► ค้นหาโน้ตบุ๊คเล่นเกม ◄
→ http://bit.ly/NBGaming
► ค้นหาโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุด ◄
→ https://bit.ly/NBSearch
► จัดสเปคพีซี สเปคคอมเล่นเกม ◄
→ http://bit.ly/NBSspecpc
--------------------------------------
► ติดตามเราได้ที่ ◄
Subscribe Youtube : https://www.youtube.com/c/notebookspec
Facebook : https://www.facebook.com/notebookspec
Twitter : https://twitter.com/notebookspec
Line: @NotebookSPEC
ติดต่อโฆษณา/รีวิว : [email protected]
#Review #Lenovo #Legion #Tower5i #NBS #NotebookSPEC
hd audio driver 在 2how Facebook 的最佳貼文
Review “Shure Aonic 50 หูฟังไร้สาย แบบ Full Size”
•ราคา 14,900 บาท
เมื่อเดือนที่แล้วทางมหาจักรฯ ตัวแทนจำหน่าย Shure ติดต่อมาว่าต้องการส่งหูฟัง Shure Aonic 50 มาให้
“อันนี้จะให้ถ่ายรูปหูฟังตัวนี้ใช่ไหมครับ อยากได้โทนประมาณไหน เดี๋ยวหาคนถ่ายให้ครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ ส่งมาให้พี่ใช้ฟังเพลงตามสบายค่ะ”
อืม ... ปกติพี่ก็ไม่ได้สบายอะไรขนาดนั้นนะ ยิ่งช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาดื่มด่ำกับการฟังอะไรมากมาย ล่าสุดที่ดูวนไปไม่ได้ฟัง ก็คลิปเมาคลีล่าสัตว์ที่มีน้อง ๆ เนตรนารีออกมาเต้น ตื๊ด ๆ อันนั้นก็เพลินดี “เมาคลีล่าสัตว์ เมาคลีล่าสัตว์”
“หนูส่งให้พี่ก่อน ไว้พี่สบายเมื่อไหร่ค่อยฟังก็ได้ค่ะ”
ฟังดูแปลก ๆ เนอะ
“แล้วนึกยังไงถึงส่งมาให้พี่”
“พอดีหูฟังรุ่นนี้ Adam Levine เป็น Presenter ... “
“อ่อ พี่เข้าใจแล้ว เพราะอดัมกับพี่รูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายกันมาก ถ้าไม่ได้สนิทกันจริง ๆ ก็ต้องมีทักผิดทักถูกกันบ่อย ๆ”
“ไม่ใช่ค่ะ”
...
Shure Aonic 50 เป็นหูฟังไร้สายแบบ Full Size ครอบเต็มใบหู (ถ้าเป็นคนหูใหญ่มากก็ครอบไม่เต็ม)
สัญญาณไร้สายเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5 แต่ถ้าใครอยากจะต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ช่อง Jack 3.5 มม. ก็ทำได้นะครับ มีสายมาให้ในชุด นอกจากนั้นแล้วยังต่อผ่าน USB-C เพื่อชาร์จ และรับสัญญานเสียงดิจิตอลความละเอียดสูงได้อีกด้วย
สรุปว่าเชื่อมต่อได้ 3 แบบ
•Bluetooth 5
•Phone Jack 3.5 mm
•USB-C
ขาดก็แต่ทางกระแสจิต ถ้าใครอยากได้ แนะนำให้ปรึกษาร่างทรง เทคโนโลยีนี้วิทยาการยังไปไม่ถึง
...
•หูฟังรุ่นนี้ใส่สบายหรือเปล่า?
ก่อนจะไปเรื่องสบายไม่สบาย ขอคุยเรื่องรูปร่างหน้าตาการออกแบบ และวัสดุหูฟังรุ่นนี้ก่อน Shure Aonic 50 สไตล์การออกแบบดูเรียบหรู ดูดี มีคลาส ตัวที่ได้มาเป็นโครง และหนังสีดำตัดกับสีเงินด้าน (มีหนังสีน้ำตาลให้เลือก)
วัสดุที่ใช้ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมได้ตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อได้สัมผัสยิ่งรู้สึกพรีเมี่ยมขึ้นไปอีกระดับ โดยเฉพาะหนังสังเคราะห์เกรดดี ที่ใช้หุ้มบริเวณตัวหูฟัง และใต้โครงรับด้านบน เดินตะเข็บด้ายสวยงามเหมือนเครื่องหนังชั้นดี หรือเบาะรถแพง ๆ
ตอนที่ได้มาแรก ๆ ลองสวมดูรู้สึกนุ่มในระดับนึง แต่เมื่อใช้ไปสัก 2-3 สัปดาห์ ผิวสัมผัส และความนุ่มดีขึ้นชัดเจนแบบรู้สึกได้ ส่งผลเรื่องสวมใส่สบายขณะใช้งานได้อย่างชัดเจน
Shure Aonic 50 รุ่นนี้ เป็นหูฟังที่ใส่สบาย ใช้งานขณะใส่แว่นได้อย่างไม่มีปัญหา หูฟังไม่กดขาแว่น ใส่ฟังยาว ๆ ได้ไม่เจ็บ
ส่วนวัสดุที่หุ้มบริเวณครอบหู (Ear Pad) ก็เป็นแบบเดียวกัน ให้ความสบายไม่เสียดสี หรือสร้างความรำคาญขณะใช้งาน นุ่มและผิวสัมผัสดีขนาดที่ว่าบางทีอยากหยิบมาใช้นิ้วกด ๆ เพลิน ๆ เหมือนของเล่นฟองน้ำที่เด็ก ๆ เล่น
ที่ชอบมากคือโครงด้านบนที่รับกับศรีษะนุ่มสบายดีมาก ไม่กดทับด้านบนศรีษะ ให้ความสมดุลย์ในการสวมใส่ที่ดีแม้ว่าหูฟังรุ่นนี้จะค่อนข้างเป็นหูฟังที่มีน้ำหนัก (หูฟังตัวนี้มีน้ำหนัก 334 กรัม)
รวมถึงการออกแบบให้หูฟังตัวนี้มีส่วนหูที่พับปรับมุมได้ ทำให้เวลาใช้แนบรับกับโครงศรีษะของแต่ละคนได้อย่างลงตัว ต่างจากการออกแบบที่ใช้โครงบิดตัวเพียงอย่างเดียว ถ้าทำมามีการให้ตัวไม่ดี จะกดทับสร้างความรู้สึกอึดอัดไม่สบายเวลาฟังต่อเนื่องได้
การใส่นาน ๆ ในสภาพอากาศแบบบ้านเรา ก็มีเหงื่อซึมนิด ๆ เหมือนกันนะครับ วิธีแก้คือฟังสักพักก็ขยับหูฟังเพื่อระบายซักทีนึง
แต่ถ้าฟังอยู่ในบ้าน หรือในที่อากาศเย็นก็ไม่เป็นปัญหา สามารถใส่ทำงานออฟฟิศได้ เจ้านายต่อว่า หรือเพื่อนร่วมงานนินทาเราก็ไม่ได้ยิน (เพราะอะไรเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง) ที่แปลกคือหูฟังตัวนี้ถ้าได้ลองใช้งาน แม้ขณะที่เราไม่ได้สวมใส่ เราจะนึกถึงความรู้สึกตอนสวมใส่ได้อย่างชัดเจนมาก
สรุปว่าเรื่องใส่สบาย ถือว่าสอบผ่านแบบที่ต้องยืนขี่คอปรบมือให้
ถ้าเทียบเรื่องการออกแบบกับหูฟังในระดับเดียวกันของ Sony รุ่น WH-1000XM4 ของ Sony ต้องบอกว่าคนละแนวทางอย่างชัดเจน Sony เป็นแนว Modern เส้นสายเรียบง่าย ส่วน Shure Aonic 50 จะออกไปทางหรูหรา แต่ก็ดูดีทั้งคู่อยู่ที่ความชอบของแต่ละคน
ยังมีอีกตัวนึงคือ Sennheiser Momentum 3 ตัวนั้นการออกแบบเป็นแนวคลาสสิคสไตล์
เวลาใส่ใช้งาน Sony จะดูเรียบกว่า ไม่เป็นที่สังเกตของคนรอบข้าง
ส่วนเรื่องการสวมใส่ ส่วนตัวได้มีโอกาสไปลอง Sony WH-1000XM4 ความรู้สึกคือโครงสร้างเล็ก และเบากว่า* Shure Aonic 50 อย่างรู้สึกได้ สวมใส่สบายเช่นกันครับ
* เบากว่าประมาณ 80 กรัม
...
Shure Aonic 50 เป็นหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Canceling (ANC)
ซึ่งขออธิบายวิธีการทำงานของระบบตัดเสียงของหูฟังประเภทนี้เพื่อเป็นพื้นฐานนิดนึงนะครับ
หูฟังที่มีระบบ Active Noise Canceling
จะใช้วิธีรับเสียงภายนอกเข้าไป แต่เสียงนั้นเขาไม่ได้ส่งผ่านให้เราได้ยิน แค่เปิดรับไปประมวลผล สร้างสัญญานหักล้าง แล้วค่อยปล่อยเสียงเพลงมาให้เราฟัง เหมือนเอาไปเป็นตัวเทียบเพื่อคัดแยก
แต่ด้วยความที่หูฟังดี ๆ ระบบมันทำงานเร็ว และค่อนข้างแม่นยำมาก อย่าง Shure Aonic 50 ถ้าเปิดระบบนี้เสียงรอบข้างนี่แทบจะไม่มีเลย
สำหรับ Shure Aonic 50 ขอบของหูฟังด้านขวาจะมีสวิตซ์สำหรับใช้ปรับระดับเสียงรอบข้างมาให้
•Max เงียบมาก
•Normal เงียบแต่ไม่สนิท พอฟังเสียงภายนอกได้
•Environment Mode เปิดรับเสียงภายนอกให้ได้ยินตามปกติ
(ถ้าใช้ App Shure Play จะปรับ Mode นี้ได้ 10 ระดับ)
สำหรับใช้งานปกติเปิด Normal ก็พอครับ Max เอาไว้เวลาฟังในที่เสียงรบกวนมาก ๆ เช่นเวลาเดินทางบนเครื่องบิน
และเวลาใส่ควรปรับมุมหูฟังให้แนบสนิทด้วยนะครับ จะช่วยเรื่องการฟัง และตัดเสียงรบกวน โดยเฉพาะ Shure Aonic 50 สามารถพับเป็นมุมเฉียงไปทางด้านหลังได้
...
ระบบการเข้ารหัสบีบอัดที่รองรับ
Shure Aonic 50 เป็นหูฟังที่รองรับ Codec ได้หลายรูปแบบ เป็นลำดับต้น ๆ
Qualcomm® aptX™, aptX™ HD, aptX™ Low Latency audio, Sony LDAC, AAC, and SBC
ทำให้สามารถเลือกฟังเพลงจากแหล่งกำเนิดเสียงคุณภาพสูงได้แบบไม่ต้องกังวลว่ามีเพลงดี ๆ แต่เล่นไม่ได้เพราะหูฟังไม่รองรับ
Shure Aonic 50 มีช่อง Audio Jack แบบ 2.5 มม. บนหูฟัง สามารถใช้สายที่ให้มาเสียบ แล้วนำอีกด้านของสายที่เป็น Jacl 3.5 มม. ไปเสียบกับอุปกรณ์ที่รองรับเพื่อใช้ในการรับสัญญาณเสียงได้ เผื่อว่าใครไม่อยากฟังแบบ Bluetooth
นอกจากนั้นแล้วสามารถเชื่อมต่อแบบ USB เพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์โดยตรงได้
สรุปว่าเรื่องการรองรับการเข้าหรัส และการเชื่อมต่อ Shure Aonic 50 มีมาให้ครบมาก...
ความสะดวกในการใช้งาน
Shure Aonic 50 มีระบบควบคุมการทำงานแบบตรงไปตรงมา เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ใช้ควบคุมผ่านสวิตช์บนตัวหูฟังเป็นหลัก เปิดปิด เชื่อมต่อ Bluetooth เบาค่อย หรือเลื่อนเพลงหน้าหลัง ก็กด ๆ เอา ระบบ Active Noise Canceling ก็ใช้สวิตช์ที่แยกมาต่างหาก
แรก ๆ ก็สับสนบ้างครับ แต่พอชินและจับจุดได้ โดยใช้ปลายนิ้วสัมผัสเพื่อหาปุ่มกลาง (ปุ่มกลางจะมีส่วนที่นูนยื่นออกมามากกว่าปุ่มอื่น) เราก็จะเลือกสั่งงานได้โดยไม่ยาก
แต่ถ้าเทียบกับหูฟังในระดับเดียวกันอย่าง Sony WH-1000XM4 หรือ Sennheiser Momentum 3 ตัว Shure Aonic 50 วิธีการควบคุมการทำงานจะไม่หวือหวาเท่า อย่างของ Sony แม้ว่าจะมีปุ่มไม่มาก แต่จะใช้ระบบสัมผัสที่อีกด้านของหูฟังสั่งงาน หรืออย่าง Momentum 3 ของ Senheiser ก็มีตัวตรวจจับ การใช้งาน เช่น ถ้าเราถอดวาง เพลงจะหยุดให้เอง หรือถ้าพับเก็บหูฟังก็จะปิด ซึ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
Shure Aonic 50 มี App สำหรับควบคุมชื่อว่า Shure Play สามารถปรับตั้งฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในการทำงานของหูฟังได้ อย่างเช่นเลือกระบบ Active Noice Canceling ที่พูดถึงก่อนหน้า รวมถึงสามารถ ดึงเพลงจาก iTunes และ Apple Music มาใช้งานได้ แต่ตอนนี้ต้องขอยอมรับว่าบน iOS ยังหาวิธีดึงเพลงมาไม่ได้เลยครับ ทำตามขั้นตอนที่แจ้งไว้ทุกอย่าง แต่หาเพลงไม่เจอ อาจเป็นเพราะตอนเด็ก ๆ เคยเดินเตะปลั๊กตู้เพลงหยอดเหรียญที่กำลังเล่นอยู่ก็เป็นได้
ถ้าทำได้ก็คงจะดีเพราะว่าสามารถ EQ เสียงผ่านทาง App ได้เลย อีกอย่างคือเรื่องของ Firmware เราสามารถ Update ได้ผ่านทาง App ที่ว่า ใครซื้อมาลองตรวจสอบดูครับ เพราะ Firmware ตัวล่าสุดปรับปรุงเสียงไมโครโฟนที่ติดมาให้ดีขึ้น
ที่มีไมโครโฟนเพราะหูฟังตัวนี้สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ด้วยครับ แต่เท่าที่ลองดูเสียงที่ได้จากไมโครโฟน คุยโทรศัพท์พอไหว แต่ยังไม่ถึงกับเอาไปลงเสียงร้องหรือบรรยายได้คุณภาพดี ๆ เหมือนไมโครโฟนที่ทำมาโดยเฉพาะ
...ฟังเพลงเพราะหรือเปล่า?
ตัวเลข 50 ที่ต่อท้ายชื่อ ชื่อ Shure Aonic ไม่ได้ใส่ไว้ให้ดูเล่น ๆ แต่มีที่มาที่ไปจาก Driver หูฟังขนาด 50 มม. ถือว่าใหญ่มากเลยนะครับ เพราะโดยปกติที่เห็นก็ราว ๆ 40 มม.
ขนาด Driver ที่ใหญ่มีส่วนช่วยในการทำงานให้เสียงออกมาดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขนาดไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเรื่องคุณลักษณะของเสียงเสมอไป เพราะมีเรื่องของการออกแบบ และการปรับแต่งตัวหูฟังประกอบด้วย ต้องลองฟังเสียงจริง ๆ ดูอีกทีนะครับ
ช่วงที่ได้มาตอนแรก ๆ Shure Aonic 50 เสียงจะอั้น ๆ หน่อยครับ เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ เสียงที่ถูกขับออกมาจะเป็นประกายเฉิดฉายมาก เพราะฉะนั้นถ้าไปลองที่ร้านควรลองตัวที่ใช้เป็นตัวอย่างนั่นแหละครับ ถ้าลองของใหม่เลยอาจจะไม่ได้รับฟังสิ่งที่เป็นได้อย่างเต็มที่ และอีกอย่างของใหม่ ๆเวลาใส่จะดูแน่น ๆ ไม่ค่อยนิ่มโอบรับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะรู้สึกถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
ส่วนตัวใช้ไปราว ๆ 2-3 สัปดาห์ ใช้งานทุกวันวันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็พอจะเข้าที่เข้าทางครับ
เสียงที่ได้จาก Shure Aonic 50 จะเป็นแนวที่เน้นความไพเราะเสนาะหู และความสุนทรีย์ในการฟัง ฟังเพลงได้หลายแนว และฟังยาว ๆ ได้ไม่ล้า (ฟังนาน ๆ อย่าลืมขยับหูฟังบ้างนะครับ)
แนวทางของเสียงที่รับรู้ได้อย่างแรก คือ เบสที่ไม่ถึงกับลงลึกมาก แต่มาแบบกระชับ รับได้ทุกลูก จะมาห่าง ๆ หรือรัว ๆ ถี่ ๆ จัดการได้หมด ไม่มีบวม ไม่มีซ้อนทับให้จังหวะสะดุด
เพลงที่คิดว่าลองฟังแล้วโดดเด่นจับอาการเบื้องต้นได้ง่ายก็อย่าง “Don’t Start Now” ของ Dua Lipa เสียงเดินเบสมาเป็นลูกชัดเจน หยุดเป็นหยุด ไม่มีบวมค้าง เสียงนักร้องที่ปล่อยลอยก็มี Space ให้ไปต่อ ไม่อั้น ๆ ทึบ ๆ ไปไม่สุด ซึ่ง เพลงแนว Pop Dance มักจะแต่งเสียงส่วนใหญ่มาในลักษณะนี้
ลงตัวกับแนวเพลง K-Pop สามารถฟังด้วย Shure Aonic 50 สนุก ไม่ว่าจะเป็น 2NE1, BTS, Blackpink, 2PM etc.
เพลงที่อยากให้เตรียมไปลองฟังเพื่อพิจารณา คือ เพลง “Dance Monkey” ของ Tone and I เสียงร้อง และดนตรีของเพลงนี้ น่าจะพอช่วยให้เห็นคุณลักษณะของเสียงที่หูฟังตัวนี้ขับออกมาได้ชัดพอสมควร
นอกจากแนว Pop Dance แล้ว เพลง Pop ใส ๆ อย่าง “She Will Be Loved” ของ Maroon 5 ที่เน้นเสียงร้องโหน ๆ ของ Adam Levine ก็ฟังได้สบายหู เสียงที่ลากขึ้นลงราบรื่นต่อเนื่อง
แต่หูฟังคลาสนี้ถ้าเพลงร้อง และบันทึกเสียงมาไม่ดี จะฟังไม่สนุกนะครับ เพราะมันจะค่อนข้างขี้ฟ้องหน่อย
เพลงต่อมาที่คิดว่าน่าใช้ลองฟังก็ “1973” เสียงแหบเล็ก ๆ ของ Jame Blunt เข้ากันได้ดีกับทำนองของเบส และเครื่องเคาะที่เป็น Backgroud ได้อย่างพอเหมาะ ส่วนตัวได้ลองฟังเพลงนี้เทียบกับหูฟังหลายรุ่น ส่วนใหญ่เสียงร้องจะค่อนข้างจมไปกับดนตรี และเสียงเบสจะบวม ๆ นัว ๆ ไม่กระชับ แยกชิ้นดนตรีและเสียงร้องได้ไม่ชัดเจน ผิดกับที่ฟังจาก Shure Aonic 50 ได้อรรสกว่ามาก
ทีนี้ลองเปลี่ยนมาฟังเพลงแนว Jazz บ้าง เสียงร้องของ Lyn Stanley ในเพลง “All or Nothing at All” (feat. Cristian Jacob) ดูเหมือน Shure Aonic 50 จะเข้ากันได้ดีกับเพลงแนวนี้มาก ไพเราะ ฟังเพลิน ความถี่ในช่วงเสียงร้องชัดเจน เสถียรต่อเนื่องทุกถ้อยคำ และช่วงที่ปล่อยเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นออกมาโซโล คุณลักษณะเสียงของเครื่องดนตรีต่าง ๆ ถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจน ยังแอบคิดอยู่ว่าถ้านักดนตรีที่มีความชำนาญ มาฟังคงจะสนุกมาก
แต่ที่ชอบเป็นการส่วนตัว คือ เอา Shure Aonic 50 มาฟังเพลงแนว Acustic Folk หรือ Country Folk อย่างของ James Taylor , John Denver หรือ Simon Gafunkel ที่บันทึกเสียงดั้งเดิมแนวต้นฉบับ เสียงที่ได้รักษาบรรยากาศ และ Sound แบบยุคนั้นได้ดีมาก โดยที่คงไว้ซึ่งรายละเอียดของเสียงร้อง และดนตรี
เช่น เพลง “Bridge Over Troubled Water” ของ Simon & Garfunkel นอกจากเสียงร้องที่หวานโดดเด่นของ Art Garfunkel ก็ยังรู้สึกเพลินไปกับเสียงเปียโน ที่รับรู้ได้ถึงน้ำหนักนิ้วที่เคาะลงบนคีย์ หนัก เบา แทบจะทั้งเพลง (แต่เพลงนี้ส่วนตัวไม่ชอบช่วงท้าย ๆ ที่กระหึ่ม ๆ ฟังดูรก ๆ )
“Rhymes and Reasons” ของ John Denver เวอร์ชั่นที่ใช้ฟังจะได้อารมณ์แบบการบันทึกเสียงในยุคนั้น เสียงกีตาร์ในช่วงแรกฟรุ้งฟริ้งมาก เสียงร้องเพลงนี้ชัดแต่ไม่ถึงกับกระโดดออกมามาก เพดานเสียงมีอั้น ๆ หน่อย เหมือนตอนบันทึกมาต้องการให้เป็นแบบนี้
ซึ่งถ้าฟังเทียบกับ “Follow Me” อีกเพลงของ John Denver เพลง “Follow Me” ดูจะได้ความไพเราะใสกังวาลตามแบบฉบับเนื้อเสียงของ John Denver มากกว่า
ส่วนเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกเฉิดฉายมากน่าจะเป็นเพลงของ James Taylor อย่าง “Carolina in My Mind” หรือ “You’ve got a friend” ฉบับ Remaster เสียงกีตาร์ เสียงร้อง เสียงประสาน ฟังแล้วได้รู้สึกถึงความสามารถของศิลปินระดับตำนาน การเรียบเรียง การบันทึกเสียง มีความเคลียร์ใสและมีมิติมาก เสียงกีตาร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ James Taylor ถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจนจากหูฟังตัวนี้
แนวเดี่ยวเปียโน ก็ฟังจากหูฟังตัวนี้ได้อย่างออกอรรถรสเช่นกันครับ ลองเปิด Album ของ Keith Jarrett นี่เหมือนมานั่งเล่นให้ฟังตรงหน้าโซฟาที่บ้าน
หรือถ้าใครอยากได้ความรู้สึกเหมือนมีเปียโนเล่นบนเวที และนักร้องมาร้องอยู่ข้าง ๆ เราในผับ ลองฟัง “Don’t Smoke in Bed” ของ Nina Simone เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ มายืนร้องข้าง ๆ โต๊ะ ชัดเจนจนน่าตกใจว่าเพลงจบจะต้องเตรียมตังค์ยื่นทิปให้หรือเปล่า
...
เรื่อง Soundstage สำหรับ Shure Aonic 50 มีมิติของเสียง ตำแหน่งเครื่องดนตรีแยกได้ชัด แต่ก็ยังพยายามรักษาความกลมกลืนเอาไว้ ไม่แข่งกันดัง หรือชัดจริงแต่ไปคนละทิศคนละทาง
เสียงที่ได้มีความกว้างความลึกเป็นพื้นที่เต็มวง แต่ไม่ถึงกับกว้างสุดลูกหูลูกตา
เมื่อลองเปิดเพลงที่บันทึกจากคอนเสิร์ท ก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศ แต่ฟังแบบบันทึกเสียงในสตูดิโอมาดี ๆ ดูจะแสดงประสิทธิภาพของหูฟังตัวนี้ได้ชัดเจนกว่า
ใครที่ไม่เคยฟังหูฟังที่ให้ Soundstage มาก่อน จะรู้สึกตื่นตาตื่นใจเหมือนเปิดไปอีกโลกหนึ่งในการฟัง และพอกลับไปฟังแบบธรรมดาก็จะรู้สึกไปสนุกแล้ว
…
Shure Aonic 50 ใช้เล่นเกมส์ได้หรือเปล่า
ใช้เล่น PUBG Mobile การต่อแบบไร้สายจะมี Delay นิด ๆ ตามลักษณะที่เป็นหูฟัง Bluetooth มีขาดเป็นช่วงสั้น ๆ บ้างนาน ๆ ที
แต่ถ้าการเล่นเกมส์คือจุดประสงค์หลักและต้องการใช้หูฟังตัวนี้จริง ๆ ให้ใช้สายเชื่อมต่อ Jack 3.5 มม. ที่ให้มาต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้เล่นเกมส์ น่าจะลงตัวกว่า เพราะว่าเวลาเล่นเกมส์ ความต่อเนื่อง และการตอบสนองเหตุการณ์เป็นเรื่องสำคัญ การใช้สายสัญญานต่อโดยตรงตอบโจทย์ในเรื่องความต่อเนื่องของสัญญาณมากกว่า
ส่วนเรื่องของเสียงที่ได้ยิน กินขาดเรื่องรายละเอียด เสียงเท้าหนักเบารับรู้ได้ ตำแหน่งศัตรูค่อนข้างแม่น ที่ดีมาก ๆ คือเสียงปืนเวลายิงต่อเนื่องไม่แตกพร่าแผดเสียงแสบแก้วหู ดังจริงแต่นุ่ม ใช้ตัวนี้กินไก่บ่อยมาก
ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมส์จริงจัง ราคาหูฟังตัวนี้ค่อนข้างสูงเกินความจำเป็น เหมาะกับการซื้อมาฟังเพลงมากกว่า
….
สรุป
Shure Aonic 50 เป็นหูฟังที่ดูดีมีคลาสทั้งการออกแบบ และซุ่มเสียง มันจะค่อนไปทางหรูหรา เวลาฟังเหมือนนั่งฟังเพลงในคลับ ลอบบี้เลาจน์ หรือบนโซฟานุ่ม ๆ ที่บ้าน แม้ว่าเราจะนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ ระหว่างเดินทางบนรถไฟฟ้า หรือบนเครื่องบิน ที่บรรยากาศรอบข้างไม่เอื้อต่อการฟังเพลงก็ตาม
Shure Aonic 50 รองรับการฟังเพลงได้กว้างหลากหลายแนว ทั้งแนว Pop สมัยใหม่ เพลงอคูสติก โซล แจ๊ส ฟังค์ ร็อค แดนซ์ คอนเสิร์ท คลาสสิค ฯลฯ เน้นฟังเพลงเพื่อความไพเราะปล่อยอารมณ์
หมายเหตุ : ลักษณะเสียงของหูฟังตัวนี้มีตึบ ๆ แต่ไม่ตึ้ม ๆ ถ้าชอบแบบเบสลึก ๆ ให้ลองเทียบกับ Sony WH-1000XM4 ตัวนั้นมาแบบตูม ๆ ฟังเพลงเร็ว ๆ ใจสั่นระรัวตามจังหวะ อันนี้ก็แล้วแต่ชอบ
...
ในเรื่องของระบบ Active Noise Canceling ลดเสียงรบกวนได้ดี ไม่อุดอู้อับทึบเกินไป เมื่อเปิดระบบนี้เสียงที่ได้ยินยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ค่อนข้างมาก นั่งฟังเพลงในบรรยากาศรอบข้างที่มีเสียงรบกวนได้สบาย ๆ ฟังนาน ๆ ไม่รู้สึกอึน ๆ ถ้าใครเคยใช้หูฟังประเภทตัดเสียงรบกวนมาคงจะเข้าใจ ถ้าทำมาไม่ดี เสียงจะอับทึบ และเสียงพูดเสียงร้องขาดความถี่ที่ควรจะมี ให้เสียงไม่ครบออกมาคล้ายหุ่นยนต์
(ถ้าเสียงรอบข้างไม่ดังมากเปิดแค่ Normal ก็พอครับ)
แต่ด้วยขนาด น้ำหนัก และการพับเก็บ การพาไปไหนมาไหนด้วยต้องมีพื้นที่จัดเก็บ แม้ว่า Shure Aonic จะให้กระเป๋าทรงกลม Semi-Hard Case มาด้วย แต่ก็ยังดูใหญ่พอสมควร ใช้ใส่ไว้ในเป้สะพายหลังน่าจะลงตัวสุด
...
สุดท้ายสำหรับการเลือกหูฟังมาใช้งาน คือต้องไปลองด้วยตัวเองครับ รสนิยม และความชอบในการฟังเพลงของแต่ละคนแตกต่างกัน ดีสำหรับคนนึง แต่อาจไม่ลงตัวสำหรับแนวเพลงที่เราฟัง หรือลักษณะเสียงที่เราชอบก็ได้
ที่เขียนมาก็เพื่อให้ได้ทำความรู้จัก Shure Aonic 50 เป็นแนวทางในเบื้องต้น รับรู้ถึงการมีอยู่ของหูฟังรุ่นนี้ ถ้ากำลังมองหาหูฟังไร้สายที่ค่อนข้างครบเครื่อง ลองใส่ตัวนี้เพิ่มเข้าไปในรายการทดลองฟังเสียงดูอีกตัวนะครับ
#Mahajak #Shure #Mahajaklife #AONIC50 #SHUREThailand #2how
https://www.mahajak.com/th/aonic-50.html
hd audio driver 在 NotebookSPEC Youtube 的最讚貼文
ถ้าคุณไม่อยากไปเดินเลือกหรือลุ้นว่าจะซื้อแล้วได้สเปคอะไร? AdminKor แนะนำทางเลือกที่น่าสนใจ เกมมิ่งพีซี Legion T5 พีซีสำเร็จรูปจากทาง Lenovo ที่จะทำให้คุณมีคอมเล่นเกมได้ในราคาสบายกระเป๋า มาพร้อมขุมพลังซีพียู AMD Ryzen 7 พร้อมแรม 16GB และมีการ์ดจอ GeForce RTX 2060 มาให้ ใส่มาในเคสกระจกข้างใส พัดลมแสงไฟสวยๆ แต่ที่พิเศษกว่าคอมประกอบทั่วไป นั่นคือ ให้การรับประกันแบบ On-site ถึง 3 ปีเต็ม มี Windows 10 มาให้พร้อมใช้ในราคาแค่ 35,900 บาท เท่านั้น
0:00 - Lenovo Legion Tower 5i
1:20 - สเปค
3:10 - การออกแบบ
4:35 - การติดตั้งภายในเคส
5:55 - ซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage
10:09 - ทดสอบ
13:30 - สรุปการใช้งาน
สเปค
• ซีพียู AMD Ryzen 7 3700X: 8 core/ 16 thread, Base 3.60GHz, Boost 4.4GHz
• เมนบอร์ด AMD B550
• แรม DDR4 3200 16GB อัพเกรดเพิ่มได้อีก 3 สล็อต
• SSD Samsung M.2 NVMe PCIe 512GB ความเร็ว Read 3,xxxMB/s และ Write 2,xxxMB/s
• การ์ดจอ GeForce RTX 2060 6GB GDDR6
• ชุดฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ และพัดลมไฟสวย
• อัพเกรดง่าย ทำเองได้ ประกันไม่ขาด
• ระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมใช้
• การรับประกันแบบ Onsite อีก 3 ปี
• ราคา 35,900 บาท
ด้านหน้า: ดีไซน์เป็น 2 ชั้น ด้านนอกเป็นตะแกรงสีดำ มีขอบโค้งมนไปจรดด้านข้าง และโลโก้ Legion ไฟสีฟ้าสวยงาม ส่วนชั้นที่ 2 ด้านในเป็นตัวยึดพัดลม ซึ่งติดตั้งพัดลมเคสขนาด 120mm พร้อมไฟสีฟ้า มาให้ 2 ตัว ดูดลมเย็นจากด้านหน้าเข้าไปด้านใน
ด้านหลัง: ค่อนข้างเรียบง่าย Back I/O มีพอร์ต USB 3.2 Gen2, Type-A และ Type-C, Gigabit LAN และ Jack 3.5mm สำหรับ Audio-out รวมถึงพอร์ตแสดงผลบนการ์ดจอ HDMI และ DisplayPort ครบ
ด้านข้าง: เป็นกระจกใสเทมเปอร์ หนาพอสมควร มองเห็นภายในได้ชัดเจน ไขน็อตด้านหลัง สไลด์เปิดออกได้ง่าย รองรับการอัพเกรดด้วยตัวเอง ส่วนอีกด้านก็เปิดได้ด้วยการไขน็อตและสไลด์ออกเช่นเดียวกัน
ด้านบน: เป็นตะแกรงสีดำช่วยในการระบายคามร้อนเต็มพื้นที่ รองรับการติดตั้งพัดลมขนาด 120mm ได้อีกด้วย และมีโลโก้ Lenovo ให้เห็นชัดเจน ส่วน Front Panel ประกอบด้วยพอร์ต USB 3.2 Gen1 และ Jack 3.5mm สำหรับหูฟัง และไมโครโฟน โดยมีปุ่มเพาเวอร์อยู่ริมสุด
ภายใน: เป็นเคสในแบบ Medium-Tower ขนาด 26L กว้างขวางขนาดติดตั้งเมนบอร์ด ATX ได้พอดีๆ และ mATX จะมีพื้นที่เหลือ พร้อมจุดติดตั้ง SSD ด้านหลังเคส รองรับการอัพเกรดอุปกรณ์ได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น RAM หรือ Storage เป็นต้น จุดเด่นที่น่าสนใจคือ Legion T5 นี้ ยังมาพร้อมกับตัวล็อคการ์ดจอ สำหรับการค้ำการ์ดจอขนาดใหญ่ ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
#Lenovo #Legion
การระบายความร้อน: นอกจากระบบ Cold Front 2.0 ที่เพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ และการเพิ่มช่องทางระบายความร้อน และการอัพเกรดพัดลม ให้มีการไหลเวียนอากาศได้ดีขึ้น ด้วยพัดลมด้านหน้า 2 ตัว เป่าลมเย็นเข้า วิ่งผ่านแรมและซีพียู ที่มีฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ ช่วยในการลดความร้อน ยังมีพัดลมเคสตัวใหญ่ด้านหลัง ดูดลมออกอีกด้วย แล้ว ยังให้ฟังก์ชั่น เลือกโพรไฟล์ Thermal Mode มาให้เลือก 3 รูปแบบด้วยกันคือ Performance, Balance และ Quiet ปรับแต่งเองได้บนซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage
ซอฟต์แวร์และยูทิลิตี้: Lenovo มีซอฟต์มากมายให้ใช้งาน แต่ที่โดดเด่นคือ Lenovo Vantage เพราะครอบคลุมการใช้งานในด้านต่างๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น
#คอมเล่นเกม #PUBG #NFS #GTAV
Hardware Monitor - รายงานสถานะของ ซีพียู แรม การ์ดจอ Storage
Software Status – แจ้งการอัพเดต Windows, Driver และการเพิ่มประสิทธิภาพ
Performance & Security – แค่กด Scan Now ก็ให้คุณเช็คสถานะและประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของระบบได้ทันที
Support – ให้คำแนะนำในการจัดการระบบด้วยตัวคุณเอง เมื่อเกิดปัญหาในการใช้งานในเบื้องต้น
Lighting – เลือกปรับโพรไฟล์แสงสี RGB ได้ถึง 3 รูปแบบด้วยกัน และ Customize ตามความต้องการได้อีกด้วย
Legion T5 เกมมิ่งพีซีที่มาพร้อมประสิทธิภาพและการ Support ครบครัน จ่ายแค่ 3 หมื่นกว่าบาท ได้ซีพียูแรงระดับ 8 core/ 16 thread พร้อมการ์ดจอ RTX 2060 และแรมอีก 16GB ซึ่งประสิทธิภาพในการเล่นเกม ก็ลื่นไหลอย่างที่ได้เห็นไปในการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นทั่วไปหรือระดับ AAA ในโหมด Full-HD ปรับ Detail ของภาพแบบ High เฟรมไหลสบายตา แต่ไม่ใช่แค่เรื่องสเปคเท่านั้น เพราะ Lenovo ยังให้ Windows 10 ติดเครื่องพร้อมใช้และการรับประกัน On-site อีก 3 ปี มาอีกด้วย
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง AMD และ Lenovo ที่ส่งเกมมิ่งพีซีสเปคแรง Legion T5 มาให้ทดสอบกัน สำหรับใช้เป็นทางเลือกให้กับคอเกม ให้ได้เล่นเกมกันสมใจกันด้วยครับ ใครที่สนใจสามารถหาซื้อกันได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย Lenovo ทั่วไปเทศได้แล้ววันนี้
► อ่านรีวิวเต็ม & ดูสเปคและราคา ◄
→ https://notebookspec.com
► ค้นหาโน้ตบุ๊คเล่นเกม ◄
→ http://bit.ly/NBGaming
► ค้นหาโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุด ◄
→ https://bit.ly/NBSearch
► จัดสเปคพีซี สเปคคอมเล่นเกม ◄
→ http://bit.ly/NBSspecpc
--------------------------------------
► ติดตามเราได้ที่ ◄
Subscribe Youtube : https://www.youtube.com/c/notebookspec
Facebook : https://www.facebook.com/notebookspec
Twitter : https://twitter.com/notebookspec
Line: @NotebookSPEC
ติดต่อโฆษณา/รีวิว : [email protected]
#Review #Lenovo #Legion #Tower5i #NBS #NotebookSPEC
hd audio driver 在 Tokyo Ramen Guy(Gadget & Music) Youtube 的最讚貼文
【明日発売】iPhone12で使えてコスパ神の超高評価イヤホンが大進化!Noble AudioのFALCON2レビュー!良かったところや残念ポイントを包み隠さず教えちゃうぞ!【ファルコン2】
__________________________________________
【関連商品】
↓↓↓Amazon MUSIC HD試し聴き↓↓↓
https://amzn.to/2v4OdKb
↓↓↓Amazonギフトチャージはコチラ↓↓↓
https://amzn.to/326QkcZ
↓↓↓Apple Music「日本のトップ100」はコチラ↓↓↓
https://apple.co/33hIGPj
↓↓↓iHerbもちょっと安く買えまっせ↓↓↓
https://iherb.co/iM4qC5rD
Noble audio FALCON 2【NOB-FALCON2】 Bluetooth ワイヤレス イヤホン 防水 IPX7 マイク付き 完全ワイヤレスイヤホン フルワイヤレス (ブラック)
https://amzn.to/2HHbCrp
Apple(アップル) / Apple MagSafe充電器
https://amzn.to/2T6nvJI
AmazonのAppleページ
https://amzn.to/31k39RB
__________________________________________
【チャプター】
00:00 本編予告
00:15 NobleAudioのFALCON2説明
01:08 NobleAudioのFALCON2開封
03:49 NobleAudioのFALCON2試聴
05:51 NobleAudioのFALCON2を使った感想と購入ポイント
07:53 NobleAudioのFALCON2の残念ポイント
09:16 エンディング
__________________________________________
【SGRT3rdメンバーシップ Segotify】
⬇︎⬇︎⬇︎ご登録はコチラ⬇︎⬇︎⬇︎
https://bit.ly/2uGH3vQ
__________________________________________
【Twitter】
https://twitter.com/SGRT_the_3rd
【Facebook】
http://on.fb.me/19XokLu
【Instagram】
https://www.instagram.com/sgrt3rd/
__________________________________________
BGM:DOVA-SYNDROMEさん
http://dova-s.jp
※各製品リンクURLはアソシエイトプログラムを使用しています
#Falcon2 #完全ワイヤレスイヤホン #レビュー
hd audio driver 在 Adam Lobo TV Youtube 的精選貼文
You've asked again so i have gladly answered!
Here is Ask Lobo V5
Congratulations Priscilla Yee winning this video's giveaway for the most unique question! DM you soon
Best Accessories For Google Pixel 2 XL (Tronsmart Presto USB C Power Bank)
https://www.youtube.com/watch?v=ilTY4Fi-d0U
Get the Tronsmart Presto 10,400 mAh Powerbank Here
https://amzn.to/2AVgtPx
Samsung Galaxy S9+ vs Google Pixel 2 X: Video Comparison:
https://www.youtube.com/watch?v=bxhkWpmrb9k&t=124s
[Audio & Video Clips Featured]
Childish Gambino - This Is America
https://www.youtube.com/watch?v=VYOjWnS4cMY
Fist Of Pain - Seek Your Bliss:
https://www.youtube.com/watch?v=7kTCXZg6U-g
Dragon Red - Di Hari Raya
https://www.youtube.com/watch?v=h-8oZeYRfOw
My YouTube Gear 2017: http://bit.ly/2so8Hrr
My Desk Setup 2016: http://bit.ly/2kn80us
Support Adam Lobo TV :-
Donate to the channel: http://paypal.me/adamlobo
Become a monthly contributor on Patreon: https://www.patreon.com/adamlobo
Instagram: https://www.instagram.com/adamlob0/
Twitter: https://twitter.com/adam_lobo
Facebook: www.fb.com/adamlobotv
Snapchat: @adamlob0
Adam Lobo TV: www.adamlobo.tv
Adam Lobo Official Profile Website: www.adamlobo.com
Dragon Red Band Official Website: www.dragonred.com
Fist Of Pain Band Facebook Page: https://www.facebook.com/fistofbandmalaysia/