ผู้สนับสนุน..
จากหุ่นยนต์ Star Wars ที่ถูกหมางเมิน สู่หุ่นยนต์สำรวจของ NASA และเป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านในปัจจุบัน
ใครจะไปคิดว่าหุ่นยนต์ตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อ mse-6droid ซึ่งแทบไม่มีบทในเรื่อง Star Wars
จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับ คุณ Colin Angle ที่เป็นทั้ง CEO และ Co-founder
ปิ๊งไอเดียนำมาสร้างเป็น หุ่นยนต์ต้นแบบสำรวจอวกาศของ NASA, หุ่นยนต์ทางทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกา และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของบริษัทไอโรบอท ที่ปัจจุบันมียอดขายถึง 30 ล้านเครื่อง ในระยะเวลา 30 ปี
ที่น่าสนใจ คือ หากไม่มีวิสัยทัศน์รวมถึงมุมมองของชายที่ชื่อว่า Colin Angle
บริษัทไอโรบอท อาจไม่สามารถขึ้นแท่น ครองอันดับหนึ่งของหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านในอเมริกาอย่างทุกวันนี้ได้
เรื่องราวแรงบันดาลใจ รวมทั้งวิสัยทัศน์นี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนที่จะก่อตั้งบริษัทไอโรบอทในปี 1990 นั้น คุณ Colin Angle ในวัย 46 ปี
ได้จบการศึกษาระดับปริญญาโท ที่ MIT ในคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
รวมทั้งได้ทำงานในห้องปฎิบัตการ Artificial Intelligence
ก่อนที่จะได้มาพบจุดเปลี่ยนและแรงบันดาลใจที่สำคัญ
จากภาพยนตร์ที่ล้ำสมัยที่สุดในยุคนั้น อย่างเรื่อง Star Wars
ขณะที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับหุ่นยนต์ที่มีบทเด่น เช่น C-3PO
ที่รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่เราคุ้นเคย หรือ R2-D2 หุ่นยนต์ช่างซ่อมยอดนิยม
แต่สิ่งที่คุณ Colin Angle มองเห็นและตื่นเต้นเป็นอย่างมากนั้น กลับไม่ใช่หุ่นยนต์สุดล้ำ
แต่เป็นเพียงหุ่นยนต์นำทางธรรมดา mse-6droid ที่มีรูปร่างไม่โดดเด่น
เพราะสำหรับเค้านั้น หุ่นยนต์ที่ดีอาจจะไม่ต้องมีรูปร่างสุดล้ำ
คล้ายกับมนุษย์เหมือนในจินตนาการของเรา หรือในหนังภาพยนต์ที่เราคุ้นเคย
แต่หุ่นยนต์ที่ดีในมุมมองของเค้านั้น ต้องสามารถทำงานได้จริง
และสิ่งที่สำคัญที่สุดเลย คือ เค้ามั่นใจว่าสามารถสร้างหุ่นยนต์อย่าง mse-6droid ขึ้นมาได้จริง ๆ
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของไอโรบอท
หลังจากนั้น ในปี 1991 ไอโรบอทได้สร้าง Genghis หุ่นยนต์ตัวแรก ที่มีความสามารถในการสำรวจอวกาศ และหุ่นยนต์ตัวนี้ ยังเป็นแรงบันดาลใจรวมทั้งเป็นต้นแบบในการสร้างหุ่นยนต์สำรวจอวกาศของ NASA อีกด้วย
หลังจากนั้น 10 ปี ในปี 2001 Packbot หุ่นยนต์สำรวจของไอโรบอทก็ได้ถูกใช้งานใน กองทัพสหรัฐอเมริกา U.S. Forces เพื่อใช้ในการช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์การก่อการร้ายที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และอีกครั้งที่วิสัยทัศน์ของคุณ Colin ทำให้ไอโรบอทเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการพลิกธุรกิจจากผู้ผลิตหุ่นยนต์สำรวจอวกาศ และหุ่นยนต์ทางการทหาร ไปสู่ผู้ผลิตหุ่นยนต์ที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งในปี 2002 ไอโรบอทก็ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเป็นครั้งแรก ในชื่อ Roomba
iRobot ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนในปัจจุบันหุ่นยนต์ของไอโรบอทนั้น มีทั้งหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba, หุ่นยนต์ถูพื้น Braava, หุ่นยนต์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ Mirra และหุ่นยนต์ตัดหญ้า Terra
เมื่อสินค้ามีมากขึ้น ลูกค้าชื่นชอบ ก็ทำให้ผลประกอบการเติบโตขึ้นทุกปี
เป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างดีว่า วิสัยทัศน์ของคุณ Colin ที่มีต่อไอโรบอทนั้น ไม่ใช่แค่ความฝันธรรมดา
เพราะสามารถพาแรงบันดาลใจของเขาจากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars
มาประยุกต์ใช้ในโลกแห่งความจริงได้อย่างเหลือเชื่อ สะท้อนได้จากยอดขายรวมทั่วโลก
รายได้รวมของไอโรบอท ณ ปัจจุบันอยู่ที่
ปี 2017 รายได้ 2.89 หมื่นล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 3.57 หมื่นล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 3.97 หมื่นล้านบาท
เวลานี้ไอโรบอทขยายฐานลูกค้าไปทั่วโลก และเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2011 โดยมีบริษัท TH Robotics Co., Ltd. เป็นผู้นำเข้าแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกคำว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะในประเทศไทย แต่ที่น่าสนใจก็ คือ เวลานี้เทรนด์เติบโตของตลาด Smart Home ในไทยกำลังค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
จนทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะเริ่มเป็นที่สนใจในตลาดไทย
และตอบโจทย์คนหลาย ๆ กลุ่ม ที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเอง
ตลอดจนสถานการณ์บ้านเมืองต่าง ๆ ที่ทำให้ไอโรบอทพยายามปรับตัวอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหามลภาวะ PM2.5 ที่คนไทยได้รับผลกระทบเต็ม ๆ
แต่ฝุ่นภายในบ้าน ไอโรบอทก็ยังคอยจัดการทำความสะอาดให้ เพราะฝุ่นที่ลอยในอากาศจะตกลงสู่พื้นเมื่อเราไม่อยู่บ้าน
หรือแม้กระทั้งสถานการณ์ปัจจุบันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19
ที่ทำให้ใครหลายคนต้อง Work from home อยู่บ้านมากขึ้น
บ้านสกปรกเร็วขึ้น แต่ไม่ต้องห่วง เพราะสามารถปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ iRobot ที่จะช่วยดูแลเรื่องความสะอาดได้
นอกเหนือจากนั้น iRobot Thailand ยังมีบริการ รับ-ส่ง หุ่นยนต์และอะไหล่ เพื่ออำนวยความสะดวก
และสนับสนุนให้ทุกคนไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น
แล้วตอนนี้หุ่นยนต์ไอโรบอทของคุณ Colin Angle พัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว ?
สำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวว่าเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ฉลาดที่สุดในโลกตอนนี้ ไม่ใช่เพียงเดินดูดฝุ่นได้เท่านั้นแต่ต้องเดินได้ฉลาดทั่วถึงทุกพื้นที่ เข้าใจพื้นที่ที่ทำงาน นั่นคือ Roomba s9+ ด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าขั้นสุดและระบบประมวลผลที่รวดเร็ว ซับซ้อน คุณ Colin จึงเคลมว่านี่คือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ดีที่สุดและฉลาดที่สุดเท่าที่เค้าเคยคิดค้นมา ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถในการทำงานโดยนำข้อดีของหลาย ๆ รุ่นมาพัฒนารวมอยู่ในเครื่องเดียว
ให้จินตนาการไปถึงการทำความสะอาดโดยหุ่นยนต์ ที่มีแท่นกำจัดขยะอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องเทฝุ่นทิ้งเองเป็นเดือน ๆ รวมถึงการให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างองศาของแปรงปัดข้างที่ออกแบบมาให้เอียง 26 องศา พร้อมเทคโนโลยี Perfect Edge เพื่อเข้าซอกมุมได้ดีที่สุด อีกทั้งยังมากับระบบเพิ่มแรงดูดอัตโนมัติเมื่อขึ้นพรม ด้วยแรงดูดที่มากขึ้นถึง 40 เท่า
นอกจากนี้ยังสามารถยกระดับการทำความสะอาดบ้านแบบแทคทีม โดยเมื่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานเสร็จ หุ่นยนต์ถูพื้นรุ่นล่าสุดอย่าง Braava jet m6 ก็จะออกมาถูต่อเองโดยอัตโนมัติ และเหมาะมากสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้เพราะด้วยระบบ Allergens lock ที่จะล๊อคฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ไม่ให้หลุดรอดออกจากตัวเครื่อง พร้อมตอบโจทย์ลูกค้า Smart Home ด้วยการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชั่น iRobot Home และสั่งการด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Amazon Alexa
ด้วยเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ คงจะไม่เกินจริงหากเราจะกล่าวว่าไอโรบอท roomba ของคุณ Colin Angle นั้น คือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ดีที่สุดในโลกอย่างแท้จริง
จากเรื่องนี้เราจะเห็นได้ว่าวิสัยทัศน์ที่ดีอาจจะไม่ใช่วิสัยทัศน์ที่ฟังแล้วดูตื่นเต้น หรือล้ำหน้าที่สุด
แต่อาจจะเป็นวิสัยทัศน์ที่สามารถทำได้จริง และลงมือทำให้ถึงที่สุด
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.irobotthailand.com/ หรือสอบถามข้อมูลที่ Line@: @irobotthailand
References
-https://finance.yahoo.com/quote/IRBT
-https://www.irobotweb.com/…/Fi…/Company/Colin-Angle-Bio.pdf…
-https://www.businessinsider.com/colin-angle-irobot-ceo-2014…
-https://www.irobot.com/about-ir…/company-information/history
-https://en.wikipedia.org/wiki/IRobot
-https://www.irobot.com/about-ir…/company-information/history
-https://en.wikipedia.org/wiki/PackBot
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過147萬的網紅Kento Bento,也在其Youtube影片中提到,Our Merch: https://standard.tv/kentobento Our Patreon: https://patreon.com/kentobento Nebula: https://watchnebula.com/kentobento Twitter: https://tw...
「home assistant history」的推薦目錄:
- 關於home assistant history 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於home assistant history 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於home assistant history 在 喬寶寶 Qbobo Facebook 的最讚貼文
- 關於home assistant history 在 Kento Bento Youtube 的最佳貼文
- 關於home assistant history 在 Kento Bento Youtube 的精選貼文
- 關於home assistant history 在 pennyccw Youtube 的最佳解答
- 關於home assistant history 在 bokub/ha-history-stats: Statistics about your Home Assistant ... 的評價
- 關於home assistant history 在 History Graph - Home Assistant 中文网 的評價
- 關於home assistant history 在 Lovelace: custom history graph - Home Assistant Community ... 的評價
- 關於home assistant history 在 Component breaks Home Assistant history - githubmemory 的評價
- 關於home assistant history 在 In the next version of Home Assistant, history will be FAST ⚡️ 的評價
home assistant history 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
Salt Bae โรยเกลือจน IPO / โดย ลงทุนแมน
มกราคมปีที่ผ่านมา
มีวิดีโอความยาว 36 วินาทีของผู้ชายแล่เนื้อ
พร้อมทั้งปรุงรสด้วยการโรยเกลือ ให้ไปกระทบแขน...
Continue ReadingSalt Bae Sprinkle salt until IPO / by investing man
January last year
There is a 36 second video of men carving meat
And seasoned with salt sprinkle to hit the arm.
Before The Salt Tablets Spread and fall into a piece of meat in style.
Such videos are shared online worldwide
30 million views in a long time
His video became viral " how do you have a salt sprinkle?"
How interesting is this salt man's history
Invest man will tell you about it
Nusret Gökçe aka salt before anyone else or salt bae
He is a Turkish who happens to be in a poor family, has a father as a miner.
Gökçe's childhood life is pretty tough. His family has financial problems.
So he only had a chance to study in elementary school.
When I didn't continue studying, he had to start looking for a job.
He was only 13 years old, internship as a kitchen washing boy in turkey. His Hometown Works 18 hours a day.
And then he became an assistant in the meat shed.
Like this is the lowest point of life
.. but at this point, I made a dream for gökçe..
From being around in the kitchen all day, making him love the atmosphere of cuddle restaurants. Love cooking and making him inspired to have his own restaurant.
After knowing what he liked, he didn't wait.
Gökçe took his storage for about 2 hundred thousand baht. Departure to Argentina with a dream of owning a restaurant.
At Buenos Aires, Argentina Gökçe aims to learn as much about the meat industry, including using various kinds of vegetables.
From studying and loving what he likes, his dreams come true at 27 years old.
Gökçe flew home to Turkish with the skills collected from Argentina. He opened his first restaurant called Nusr-et steakhouse.
The name of nusr-et steakhouse is a name of nusret to play with the word et that means meat is a small steak shop with 8 tables and 10 employees.
But I can't believe that it's a good day. Dean night. Cuddle young businesses in the 10 richest people in Turkish like Mr. Ferit Şhenk with property worth over 67,200 million baht. Come to eat steak at this shop..
Şhenk is the president of the doạạạạạạạạạạạạạạạạạạạạạạạạ
Whether it's garanti bank, the largest bank in turkey, including Porsche, Audi and Volkswagen Dealers, and owns franchise, many luxury restaurants.
With the impression of gökçe's taste and style
Mr. Şhenk decided to invest in gökçe's steak shop with a common goal to expand the steak shop around the world.
According to this investment, gökçe can quickly expand his steak shop business.
Within Just 7 years, he owns over 13 meat carve factories and restaurants in turkey, United Arab Emirates and the United States and 600 employees.
Gökçe became a high-end steak chef in Dubai. A Billionaire land.
There are plenty of meat shops around the world, but nusr-et steakhouse is unique.
With the point of selling experience, taste the unique meat menu, this shop becomes Muhammad Bin's favorite restaurant. Waiting for the almaktum, the city of Dubai.
Gökçe has an interesting way of presenting his menu. Even though he has cuddle restaurants, no matter which branch he goes, he will walk to present his way to make meat in his form since carve, chopping, sprinkle salt in front of customers. Every table
Until January last year
He decided to take a video of meat carve and sprinkle salt on a steak dish that no one like and unbelievable that this himself makes people around the world know him as salt bae.
At this point, the more it makes him loud.
Stars all over the world are interested and taste the experience at gökçe's shop, whether it's DJ Khaled, Drake, including Leonardo Dicaprio.
He currently has up to 13.5 million instagram followers and is growing fast.
.. so fast that his business will ipo..
Ferit Şhenk Billionaire, President of the do√uş holding, sees growth opportunities in steak shops and luxury restaurants.
So he plans to separate the group of the do√restaurant entertainment & management to register to the stock exchange by 2019 with salt bae's shop and famous Japanese restaurants like zuma included.
Ending with Mr. Gökçe interview
He was asked how life is now compared to before.
Gökçe replied, " my life hasn't changed. I used to wash dishes 18 hours a day. Now I'm still working 18 hours a day.."
This sentence can mean
Although his salt sprinkle is the creativity of the year that makes people around the world know.
But the passion in the deep heart of a man sprinkle salt may just do what he loves most and he is happy with it..
----------------------
Reference
-https://www.therichest.com/world-entertainment/15-things-you-didnt-know-about-salt-bae/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Doğuş_Group
-https://www.cnbc.com/2018/01/26/this-is-how-salt-bae-became-the-most-famous-butcher-on-instagram-in-the-world.html
-https://www.bustle.com/p/how-did-salt-bae-start-the-origins-of-this-meme-are-pretty-tasty-31231
-https://brandinside.asia/salt-bae-ipo-steakhouse/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Salt_BaeTranslated
home assistant history 在 喬寶寶 Qbobo Facebook 的最讚貼文
Love is everywhere❤️
[#WrittenBySimon] From Gill Paul to Qbobo: Prime act of an Indian Hongkonger
Gill Mohindepaul Singh may not be a familiar name to most Hongkongers but how about Qbobo (literally cute baby in Cantonese)?
We got to know him through TVB.
Many Hongkongers were amazed by this hunky Indian’s versatile, hilarious dance and juggling and most importantly, his almost irreproachable Cantonese. He shot to fame shortly after his maiden appearance in the reality TV show Minutes To Fame in 2005. That was how he earned his affectionate stage name “Qbobo”.
Qbobo was born to a Hong Kong Indian family in 1969. Before making his first splash into the entertainment industry, he worked as an assistant officer at the Correctional Services Department for more than 16 years.
In the next decade, as one of TVB’s most beloved actors, he appeared in more than 40 TV dramas, in particular sitcoms, and in a dozen comedy and action movies as well.
But his growing cult following among locals, including South Asians, didn’t help when his wife, who had been living in Hong Kong for more than 20 years, was denied a Hong Kong passport in 2012.
His wife originally planned to apply for the travel document for easier trips to Scotland where her younger son was attending school and receiving treatment for spine problems.
The Immigration Department didn’t bother with any explanation for the flat refusal, citing “confidentiality”.
Qbobo told media it was a big letdown and he couldn’t understand why since many of their fellow Indians in Hong Kong who couldn’t speak fluent Cantonese could get their Hong Kong passports.
That, ultimately, forced the couple to decide to emigrate to Scotland for the sake of their children. Like all the new arrivals there, Qbobo had to be physically in Scotland for the most part of the initial years so as to qualify for residency. That forced him, very reluctantly, to bid farewell to his fans in Hong Kong.
Qbobo started a new chapter in his performing career a year later when he returned to Hong Kong. In July, with the help of stenographers, he published a book in Chinese, Made In Hong Kong, a memoir of his own life and that of other South Asians. It’s a first-person account of the living history of Hong Kong’s ethnic minorities.
“Hong Kong is my home. I’m always proud of my Hong Kong identity,” he wrote on the cover of the book.
“We also love fish balls and steamed rice rolls. We also grew up watching Bruce Lee and Stephen Chow movies. We South Asians are all made in Hong Kong. Can society count us as Hongkongers?” he asked at the end of the book.
I recently had a casual chat with Qbobo, in Cantonese of course.
==================
Shen: Many of your fans are still curious about your family. Tell us how you grew up in Hong Kong.
Qbobo: My grandfather went from India to Shanghai alone in the 1930s and worked in the British Settlement. Later, he raised his own family there. They all fled to Hong Kong after China fell to the communists in 1949.
I went to Matteo Ricci Primary School, where most of the students were locals, and very quickly learned to speak Cantonese and how to use chopsticks.
My father was rather worried that I might become too “Chinese” and decided to send me to Sir Ellis Kadoorie school (Sookunpoo), a government school for ethnic minorities, so as to mingle more with my compatriots and other South Asians.
I joined the Hong Kong Correctional Services and I started to pick up my Cantonese with the help of local colleagues. I ended up spending 16 years there.
I don’t think my childhood was anything different from other Chinese kids back then. We all played in street parks, adored Cantopop singers like Leslie Cheung, Alan Tam and Samuel Hui, watched TVB’s children show 430 Space Shuttle every afternoon, and of course went to movies for Bruce Lee, Chow Yun-fat and Stephen Chow.
Shen: But still you live in two cultures — the local one and the Indian one. How did that influence your childhood?
Qbobo: I usually ate a lot of fishballs after school and I also used chopsticks like my classmates. But at home my father always wanted us not to forget our own culture and where we were from. We spoke Punjabi, went to Sikh Temples and all family members would put on traditional clothing (long loose trousers and a long sleeved jacket for men, long trousers over dress known as Salwar Kameez and Chuni (scarf) to cover the head for women) every Sunday.
Shen: What made you give up your job to become an actor?
Qbobo: Perhaps I was born with a penchant for acting. I liked to sing Alan Tam songs so my colleagues signed me up for a TVB reality show in 2005. At the beginning, I just wanted to let people know that South Asians could also sing in Cantonese.
I entered the finals and got many show invitations and so I resigned from the Correctional Services.
I wanted to project a positive image for Indians and other South Asians in the city. Throughout history people from India contributed greatly to Hong Kong — most of the officers were Indians in the earliest days of the disciplined services, the University of Hong Kong was established with large donations from Sir Mody and other Indian businessmen, the Star Ferry was founded by an Indian Parsee merchant and we all know that CLP is owned by the Kadoorie family from Mumbai.
But the government is now under fire for taking in refugees from South Asia and granting them non-refoulement permissions. This has somehow affected how Hong Kong society sees the entire South Asian community.
Shen: Why did you want to publish the book?
Qbobo: I had the idea for years. I have always been wondering what makes a person a genuine Hongkonger. Are Hongkongers ethnic Chinese only? As a metropolis Hong Kong has residents of all races and color. Since I was born and raised here, I consider myself a Hongkonger, even though some may not agree.
Racial discrimination is everywhere in this world and the problem in Hong Kong is not that serious by comparison. I have the luck to be an actor and I hope I can do something to raise people’s awareness of the life and rights of South Asians who also live here.
Shen: Since you’ve also lived in Scotland as well, tell me which place you like more, Hong Kong or Scotland?
Qbobo: I still love Hong Kong more, it’s my home.
We emigrated because we had to plan for our kids after my wife was denied a Hong Kong passport. We tried our best to settle into society but sadly there are still some hurdles, some arise from government policies or the system itself.
One more thing, Hong Kong’s political status is worrying, with all the dissension among people getting deeper rather than healing up. The housing problem has shown no sign of improvement either… Homes are getting ever smaller and more expensive.
All parents want a better future for their kids, so do we.
Shen: What are the problems and difficulties South Asians face in Hong Kong?
Qbobo: It’s not easy for Indians, Pakistanis or Nepalese to find a job. If you don’t speak Cantonese or can’t write or read Chinese, you just can’t get hired even if you have a college diploma.
Say if there is also a Westerner candidate who doesn’t know Chinese either, the chances are that the white guy is more likely to land the job.
Chinese language capabilities are vital for South Asians if they seek to move up the ladder and thus the government has been allocating more resources to training programs and vocational Chinese language courses.
Shen: How do you plan for your future career? Are we going to see more of your TV dramas and movies?
Qbobo: My wife wants me to go back to Scotland to spend more time with her and our kids and I think I may call it a day for my career in three to four years’ time, perhaps in 2020.
But I will always carry my Hong Kong identity even if I leave and don’t come back one day. Hong Kong is always my home.
home assistant history 在 Kento Bento Youtube 的最佳貼文
Our Merch: https://standard.tv/kentobento
Our Patreon: https://patreon.com/kentobento
Nebula: https://watchnebula.com/kentobento
Twitter: https://twitter.com/kentobento2015
Business Inquiries: kentobento@standard.tv
Download Dashlane for free to manage all your passwords: https://dashlane.com/kentobento
Use the promo code "KENTOBENTO" to get 10% off Dashlane Premium.
Other videos you may like:
The $1,000,000,000 North Korean Bank Heist: https://youtu.be/Usu9z0feHug
The Bizarre South Korean Bank Heist: https://youtu.be/8JclG3gZLQI
How Would You Take Down North Korea? (The 7 Choices): https://youtu.be/VM_fzaWAybw
How Would You Escape North Korea? (The 7 Choices): https://youtu.be/6A0ZOkMDLw0
How North Korea Held the Greatest Pro Wrestling Event in History: https://youtu.be/U_ZkqfSpbg4
Why Hong Kong has the Longest Life Expectancy: https://youtu.be/c3JRRxxZ3Ig
Stock Media Footage:
Videoblocks: https://www.videoblocks.com
Music:
Epidemic Sound: http://epidemicsound.com
Ross Bugden: https://youtube.com/channel/UCQKGLOK2FqmVgVwYferltKQ
Brandon Maahs: http://brandonmaahs.com
Channel Description:
Animated documentary-style videos on extraordinary Asian events.
Credits:
Kento Bento — Researcher, writer, narrator, audio editor, video editor, motion graphics & art director
Isambard Dexter — Research assistant
Nina Bento — Cheerleader
Video Title: The Secret Overseas Headquarters of North Korea
"Kuala Lumpur, Malaysia. February 13th, 2017. A frantic Korean man approached an airport receptionist in the departure hall of Terminal 2, in Kuala Lumpur International Airport. He claimed someone had grabbed him from behind and splashed a mysterious liquid on his face, and he was now feeling some discomfort. The receptionist sent him to the airport’s medical clinic to be looked at by doctors, but it wasn’t long until he became unresponsive. Less than 20 minutes later, he was dead. The liquid that was smeared on his face turned out to be VX nerve agent (a chemical weapon categorized as a weapon of mass destruction). The victim was Kim Jong-nam - the half brother of North Korea’s Supreme Leader, Kim Jong-un. Before his untimely death, Nam was set to return home to Macau (after a business trip in Kuala Lumpur) - Macau was where he had lived anonymously with his family the past two decades. But while he never made it back, the aftermath of his assassination brought a great deal of unwanted attention to the Chinese city he lived in; for the long-standing secretive relationship between Macau and North Korea was now in the limelight..."
home assistant history 在 Kento Bento Youtube 的精選貼文
Our Merch: https://standard.tv/kentobento
Our Patreon: https://patreon.com/kentobento
Nebula: https://watchnebula.com/kentobento
Twitter: https://twitter.com/kentobento2015
Business Inquiries: kentobento@standard.tv
Download Dashlane for free to manage all your passwords: https://dashlane.com/kentobento.
If you then want to upgrade to premium, use the code "KENTOBENTO" for 10% off.
Other videos you may like:
The Bizarre South Korean Bank Heist: https://youtu.be/8JclG3gZLQI
This Is The Greatest Bank Heist in Chinese History: https://youtu.be/qW0uzPJEO10
The Incredible Japanese Prison Break: https://youtu.be/oI8trlbCbU8
This Is The Greatest Art Heist in Chinese History: https://youtu.be/9LDVQYfeseo
The $1,000,000,000 North Korean Bank Heist: https://youtu.be/Usu9z0feHug
How This Lake in Northwest Asia Got Deadlier Than Chernobyl: https://youtu.be/SQCfOjhguO0
Music:
Epidemic Sound: http://epidemicsound.com
Channel Description:
Animated documentary-style videos on extraordinary Asian events.
Credits:
Kento Bento — Researcher, writer, narrator, audio editor, video editor, motion graphics & art director
Charlie Rodriguez — Illustrator
Isambard Dexter — Research assistant
Nina Bento — Cheerleader
Video Title: This Is The Greatest Bank Heist in Japanese History
"Tokyo. December 10th, 1968. It was pouring rain. The bank manager of the Nihon Trust bank was on edge. Someone had threatened his life and those around him over the past few months. Just four days prior, a letter (one of recent many) was sent to his personal residence demanding 300 million yen or his house would be blown up with dynamite. The letter was made up of characters cut out and pasted from movie magazines. Police were notified, and indeed they kept a close eye on the bank and his home. Though this did not ease the mind of the bank manager who shared his concerns with his branch employees. Now of course, this is Japan, and work is work - the show must go on. With this in mind, the bank manager went on with his duties sending four of his employees to the nearby Toshiba factory to make a scheduled drop. So off they went taking the company car, but not long after leaving the bank the four heard police sirens approaching. At that very moment they happened to be next to a prison of all places. A police officer screeched to a halt in front of the car, and frantically got off his motorcycle to warn them..."
Talking Points:
- Fake police officer
- Dynamite
- 1700 ATMs
- 7-Elevens
- Largest heist team ever
- Polite thank you note
- Cyanide
- Post-war Tokyo
- US occupation
- Dysentery outbreak
- Fake health inspector
- Department of Disease Prevention
- Business cards
- Death row
- Sadamichi Hirasawa
- Pornographic drawings
- Unit 731, a covert biological & chemical warfare research & development unit of the Imperial Japanese Army
- Cyber crime
- Virtual currency
- Coincheck company
- Biggest cryptocurrency heist in history
- Hackers
- NEM
- "Hot wallet"
- Online security
home assistant history 在 pennyccw Youtube 的最佳解答
PHILADELPHIA — Allen Iverson, with his tattoos, cornrows and hip-hop persona, ended up in the center of a celebratory group hug with the fans in the expensive courtside seats at Wachovia Center.
Seconds earlier, with just 3.3 seconds remaining in overtime and the scored tied, Iverson jumped in front of Jarvis Hayes’ inbound pass near midcourt and raced home for a layup, securing a 116-114 victory for the Philadelphia 76ers over the Washington Wizards.
Iverson, who finished with 28 points, 13 assists and no turnovers, could not contain his elation at game’s end. He raised his hand to his ear as if to let the 17,516 “Black Friday” fans know he couldn’t hear them. He then jumped on the seats in the first row, threw his hands around the shoulders of any fan who would fit and whooped it up with the smiling group as the 76ers (6-6) celebrated a win over the Wizards (6-5), whose three-game winning streak ended.
The scene, involving one of the biggest yet most controversial stars in the league, stood in stark contrast to the incident involving the Indiana Pacers’ Ron Artest, Jermaine O’Neal and Stephen Jackson and the rogue Detroit Pistons fans, who engaged in one of the ugliest rumbles in the history of American professional sports Nov.19.
“I hope I don’t get fined or suspended for going in the stands, but I think my reason was a good one,” Iverson said. “It was just special. They were right there. Without them I don’t think we would have had the momentum to be able to get over the hump after those guys hit big shot after big shot. Hopefully, fans will remember it and cherish it for the rest of their lives.”
The Wizards will remember it. Cherishing it is something altogether different.
Washington played the game while coach Eddie Jordan mended in a Washington-area hospital following the discovery of blood clot in his left calf Thanksgiving Day.
“I spoke to him before the game,” said assistant coach Mike O’Koren, who filled in for Jordan. “He’s doing a lot better. He’s fine. He’s coming along, but it’s going to take some time.”
Barring complications, Jordan will return to the bench Wednesday when the Wizards play host to New Jersey.
In their failed attempt to win their fourth game in a row for the first time in nearly three years, the Wizards erased Philadelphia’s 91-82 lead in the final six minutes of regulation, then forced overtime when Hayes (18 points, seven rebounds) split two defenders from 26 feet and drilled one of the Wizards’ 10 3-pointers to send the game to overtime tied 103-103.
Antawn Jamison led the Wizards, who packed the box score with his fifth double-double (27 points, season-high 15 rebounds) of the season. Larry Hughes had a spectacular game, scoring 20 points to go with 12 rebounds and nine assists. Gilbert Arenas added 20 points, and Brendan Haywood finished with his second double-double (14 points, season-high 14 boards) in the loss.
“I don’t think we could have played any better,” said Arenas, who was Hayes’ intended target on the final inbound pass and thought he was fouled on Iverson’s steal. “He went through me to get the ball. So they let him get the ball to see if he could make it in two seconds, which he did. So you can’t do anything about it.”
Hayes also thought Arenas might have been fouled on the play. But the Wizards made their share of mistakes along the way including 17 turnovers that led to 23 points, compared with Philadelphia’s eight that led to seven.
“It’s tough,” Hayes said. “God almighty, it’s tough. It’s one of those things that seems almost a backbreaker. But we’ve got practice tomorrow, and then we’ve got to play at Toronto.”
While Iverson starred for the 76ers, he was not a one-man show. Kyle Korver shot 6-for-12 from behind the 3-point arc to finish with career highs in points (26) and rebounds (eight). Center Marc Jackson finished with 21 points and eight rebounds. And reserves John Salmons (16) and Samuel Dalembert (13) combined to give the 76ers bench a 38-22 scoring advantage.
But Iverson’s play and the ensuing victory celebration overshadowed everything else.
“Games that end like that always hurt you the most,” said Hughes, who spent his first two years in the NBA as Iverson’s teammate in Philadelphia. “That’s what he does. I know that he liked the angle he had to the ball. For a guy who likes to steal the ball, that was the perfect pass.”
home assistant history 在 History Graph - Home Assistant 中文网 的推薦與評價
History Graph. The history_graph component will make the UI display a graph similar to the graphs in more-info popups and the history panel. ... <看更多>
home assistant history 在 Lovelace: custom history graph - Home Assistant Community ... 的推薦與評價
Jul 6, 2021 - I created a custom history graph card today that allows you to zoom on your data, does live updating and is more customizable. ... <看更多>
home assistant history 在 bokub/ha-history-stats: Statistics about your Home Assistant ... 的推薦與評價
A home-assistant component that gives statistics about your history. To try this component, just add history_stats.py in .homeassistant/custom_components/sensor ... ... <看更多>