WeChat, the popular Chinese messaging app, already uses content matching to identify dissident material. India enacted rules this year that could require pre-screening content critical of government policy. Russia recently fined Google, Facebook and Twitter for not removing pro-democracy protest materials.
We spotted other shortcomings. The content-matching process could have false positives, and malicious users could game the system to subject innocent users to scrutiny.
We were so disturbed that we took a step we hadn’t seen before in computer science literature: We warned against our own system design, urging further research on how to mitigate the serious downsides. We’d planned to discuss paths forward at an academic conference this month.
That dialogue never happened. The week before our presentation, Apple announced it would deploy its nearly identical system on iCloud Photos, which exists on more than 1.5 billion devices. Apple’s motivation, like ours, was to protect children. And its system was technically more efficient and capable than ours. But we were baffled to see that Apple had few answers for the hard questions we’d surfaced.
China is Apple’s second-largest market, with probably hundreds of millions of devices. What stops the Chinese government from demanding Apple scan those devices for pro-democracy materials? Absolutely nothing, except Apple’s solemn promise. This is the same Apple that blocked Chinese citizens from apps that allow access to censored material, that acceded to China’s demand to store user data in state-owned data centers and whose chief executive infamously declared, “We follow the law wherever we do business.”
https://www.washingtonpost.com/opinions/2021/08/19/apple-csam-abuse-encryption-security-privacy-dangerous/?fbclid=IwAR325SFSTo3uilTF5xZaKWbtUUoTnzyC3rA1vsW0_gTcywReDn42keqh86I
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過7,240的網紅English Island英語島,也在其Youtube影片中提到,About Chatterbox Island English Podcast: 從「話題式」的角度出發,以日常對話的方式,與主持人Elise聊一些生活中的趣事,輕鬆練習英文聽力! Have you ever clicked on an ad on social media, and for th...
how to protect data privacy 在 Eric's English Lounge Facebook 的最佳解答
[時事英文]部分VPN供應商關閉香港伺服器
本文將運用布魯姆分類法(Bloom’s Taxonomy)的6大步驟,帶大家以「批判性思考」(critical thinking)的方式,來閱讀、分析與應用《華爾街日報》的這篇報導——〈新國安法引發憂慮,部分VPN提供商關閉香港服務器〉。請各位先撥冗閱讀報導,再回來看我們這篇文章。
《華爾街日報》報導連結:https://on.wsj.com/30tuTlG
★★★★★★★★★★★★
布魯姆分類法有6大步驟:記住資訊、理解、應用、分析、評鑑、創造。本文會依循這6大步驟的順序,逐步解析並討論報導內容。但這並不表示,我們總是要按照每個步驟的順序,或使用每個步驟。你絕對可以隨心所欲!
★★★★★★★★★★★★
1、記住資訊(REMEMBER)
SUMMARIZE:在閱讀完這篇報導後,我們幾乎不可能記住所有的內容與細節(像是報導中所列舉的VPN公司名稱),其實我們也沒必要這麼做,但至少我們要能用自己的方式來簡述報導內容。透過標題,我們可以明確知道,由於前陣子香港通過新的《國家安全法》,導致部分在港的VPN公司選擇關閉其伺服器(close down their servers)。
DEFINE:還記得什麼是VPN嗎?可能有些人無法記得VPN是「virtual private network」的簡稱(第一段)——即虛擬私人網路——但沒關係,至少我們記得VPN可以用來「規避審查制度,保護自身私隱」(circumvent censorship and protect privacy,第一段)。
★★★★★★★★★★★★
2、理解(UNDERSTAND)
EXPLAIN:但《國安法》與VPN的關聯是什麼?請再仔細回想一下,報導內容還提供了哪些資訊?沒錯,關鍵就在於國安法規定——「公司要在國家安全事件的調查中交出用戶數據(compels them to hand over user data in national-security investigations),否則可能被處以罰款、甚至監禁(under penalty of fines and potential jail time)」(第二段)。
很好,現在我們已能向他人簡要說明這篇報導的內容。但我們真的完全理解這些內容嗎?讓我來考考你,這篇報導的重點是「新國安法引發憂慮」,還是「部分VPN提供商關閉香港服務器」?無須急著回答這個問題,請稍微停下來,仔細思考。以下是個人的看法,沒有標準答案。
IDENTIFY:雖然這篇報導是圍繞著VPN公司於香港遭遇的困境,但《國安法》的通過絕對不會只影響到這個層面或領域(will not affect only this dimension and domain)。換句話說,這篇報導旨在以「VPN供應商關閉香港伺服器」此一情況,來凸顯該法通過後所引發的「憂慮」(worries and concerns)。好,假設這個思路沒有問題,我想再請問各位,此處的「憂慮」是指擔憂什麼?
答案是——「隱私」(privacy)。也就是說,香港人先前還能藉由VPN來繞過網路上的審查機制,保護自己的隱私。但新版《國安法》的通過,無疑改變了這一現況。當我們看到這篇報導時,若只關注「部分VPN提供商關閉香港服務器」的這個點,便容易忽略新版《國安法》所引發的「憂慮」。
★★★★★★★★★★★★
3、應用(APPLY)
USE:在此一階段,我們已可試著「應用」這些資訊。也許有些人開始對VPN感興趣,想進一步瞭解VPN的運作機制(ProtonVPN有不少文章能為你答疑解惑,而更有意思的是,該公司的創辦人是臺灣人!實際上,該公司在全球打響名號者乃——全世界首個且最大的端對端加密〔end-to-end encryption〕電子信箱——ProtonMail)。
或者,有些人會發現,自己其實需要用到VPN。你可能是在中國工作的臺商,可能是想看某些劇卻因地區限制而無法觀賞的人,可能是手上握有敏感資料的記者或民運人士(journalist with sensitive information or pro-democracy activists),可能是非常在乎網路隱私而必須使用VPN的人。
當然,你可能還會聯想到,自己國家的政府,是否會監視自己的人民(monitor, track, and surveil citizens)?新版《國安法》的具體內容為何?會對我們造成哪些影響?我們該如何自保?若有親朋好友住在香港,又該如何協助他們?更重要的是,對你而言「隱私」意味著什麼?
ProtonVPN聲明:https://protonvpn.com/blog/hong-kong-servers/
★★★★★★★★★★★★
4、分析(ANALYZE)
COMPARE & CONTRAST:在這篇報導中,Private Internet Access、TunnelBear、IPVanish都表明將暫停其於香港的業務,但ProtonVPN、Surfshark、NordVPN卻表示,現階段仍不會關閉香港的伺服器。前後兩者所面臨的是同一種情況,為何會作出截然不同的決定?難道前者(the former)比較在乎隱私,而後者(the latter)只想留下來搶佔市場?抑或前者的資安能力(information security)弱於後者,所以才趕緊撤出(pull out of)香港?
按報導中引述的聲明來看,前後兩者都非常在乎用戶的隱私安全。稍有差異處乃在於,此二者對現況的評估有所不同。前者認為,香港的特殊地位已不復存在,需將當前的香港與中國一視同仁;後者的評估則相反。現階段,後者留在香港雖能享有更高的市佔率(market share)(我們也確實無法排除,這可能是影響後者決定的其中一項因素),但恰好也是因為後者的存在,港民的隱私安全才能繼續獲得保障,這顯然是前者已無法提供的。
根據後者的聲明,尤其是ProtonVPN的發言(最末段),我們有理由相信,後者之所以仍留在香港,乃因它們認為當前尚非最後關頭,它們仍想繼續為港民提供必要的隱私安全。資安能力的好壞,無法單憑報導內容就作出判斷,但後者仍表示有退出香港的可能,因此其資安能力未必優於前者。綜上所述,前者其實是在「超前部署」*,而後者則是「還想再多做些什麼」。
*「超前部署 」英文怎麼說?https://bit.ly/2WN7yup
★★★★★★★★★★★★
5、評鑑(EVALUATE)
JUDGE:一定有人想問:新版《國安法》真的會侵害港民的隱私權嗎?由於本文旨在示範布魯姆分類法可如何用於「批判性思考」,因此為避免本文漫汗難收,故不便旁徵博引來論述個中利弊。不過,我們仍會用最淺顯易懂的方式,來試著回答這個問題。
首先,最明顯的現象是,香港人民對ProtonVPN以及Surfshark的需求暴增(a surge in demand)。至少,以港民的角度而言,他們「認為」該法的通過將造成隱私上的憂慮。這對VPN公司來說,無疑是賺錢的大好機會,但為什麼部分VPN公司卻甘願率先關閉香港的伺服器,白白讓出市場佔有率呢?
顯然,部分公司也「評估」該法恐對用戶隱私造成威脅。用戶的「隱私安全」,本就是這類公司神聖不可侵犯的「領域」,因此它們才甘願放棄這個賺錢的大好機會。否則,其信譽勢將受到重創,進而斷送香港以外的市場。因此,我們確實有理由懷疑,該法將對港民的隱私造成負面影響(have a negative impact)。不然,我們實在很難理解,花錢購買VPN的港民以及放棄市場的大公司,為何要跟「錢」過不去?
★★★★★★★★★★★★
6、創造(CREATE)
恭喜你!我們已經來到金字塔的頂端了!接下來,請容我問你最後一個問題。別擔心,我不是要問你該如何「創造」新的VPN技術(不過若真有某種連政府進入機房都查不到任何用戶資料的技術,煩請告知,我一定買)。我想問的是,你能否從報導內容得出其他未提及的「創造性」觀點?
INVESTIGATE:請認真想一下「隱私」為什麼重要?如果沒有「隱私」,會發生什麼事?我想這些提示應該很有幫助,至少我個人認為——有隱私才有自由,有自由才有民主。換句話說,沒有隱私,就不可能會有民主。因此,我們還可以更進一步地推論出,新版《國安法》的立法動機。
假設,你正在自己的房間換衣服,突然有個人走進來看著你,雖然換衣服不犯法,但有多少人願意在那個人面前繼續換衣服?顯然,光是這樣就可能讓你「改變」自己的行為(change your behavior)。換句話說,你在家換衣服的「自由」受到了限制(restrictions)。不僅如此,他還可能發現你身上那處不願讓人知道的傷疤(有傷疤並不犯法),他遂藉此要你唯命是從,否則就會向大眾揭開你的傷疤。
說到這裡,我想大家都已明白「隱私」的重要了。
Can you do all that in English? How about in Mandarin?
圖片出處:https://bit.ly/2XMz3ED
★★★★★★★★★★★★
如果同學對於如何分析英文時事,以及如何進行批判性思考有興趣,歡迎加入我們的課程!
🌎國際新聞英文-六步驟思考術 | 最後優惠倒數 ► https://bit.ly/3eTHIvH
🌎國際新聞英文課程FAQ:https://wp.me/p44l9b-2lK
how to protect data privacy 在 JZB Studio Facebook 的最佳解答
เตรียมย้ายไปพรฮับ
RIP Youtube
เอาจริง ๆ เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับแอดตรง ๆ หรอก
เพราะว่ามันเกี่ยวกับ Youtube
.
แต่การเปลี่ยนแปลงใน Youtube ครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อ Caster หลายคนในบ้านเรา
แต่ก็ยังไม่มีการพูดถึงกันนัก
.
วันนี้จะพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ Creator ส่วนใหญ่ในบ้านเราเสียรายได้ไป 90 %
(ข้อมูลอาจไม่สมบูรณ์ถูกต้อง 100% เพราะแอดไม่ได้เรียนกฏหมาย ใครสนใจก็สามารถศึกษาข้อมูลและมาพูดคุยกันได้)
.
.
เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ปี 1998
FTC หน่วยงานหลักที่บริหารควบคุมกิจกรรมต่างๆในพาณิชย์อิเลคโทรนิกส์
ที่มีหน้าที่หลักในการปกป้องผู้บริโภคใน สหรัฐอเมริกา
ได้ออกกฏหมายใหม่ชื่อย่อว่า COPPA
(The Children's Online Privacy Protection)
ซึ่งเป็นกฏหมายที่ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี
.
จุดประสงค์ของ COPPA คือป้องกันไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีเอาข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ไปให้กับเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยผู้ปกครองไม่ยินยอม
เพราะกลัวว่าข้อมูลเหล่านั้นจะถูกใช้ในทางผิดกฏหมาย
.
แต่ผ่านไป 15 ปี ในปี 2013
FTC เล็งเห็นว่าภัยที่แท้จริงไม่ใช่การที่เด็กจะเอาข้อมูลไปบอกเว็บต่าง ๆ หรอก
แต่เป็น Cookies ข้อมูลที่อยู่บนคอมพิวเตอร์/มือถือเรา
ที่มีข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ เบอร์โทร
ซึ่งเว็บไซต์ต่างมักเก็บข้อมูลจาก Cookies เราแล้วนำไปขาย ให้กับคนที่ลงโฆษณาออนไลน์ เพื่อที่จะสามารถแสดงโฆษณาได้ตรงกับที่แต่ละคนสนใจ
.
ซึ่งเว็บต่าง ๆ รวมทั้ง Youtube เองก็เก็บ Cookies และที่ FTC เล็งเห็นเว็บไซต์ต่าง ๆ เก็บ Cookies ที่สร้างโดยเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี จึงแก้กฏหมาย COPPA
.
โดยให้ รวม Cookies เป็นข้อมูลส่วนตัวที่ไม่สามารถเก็บได้หากถูกสร้างโดยเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี
ซึ่งหลาย ๆ เว็บก็ปรับตัวตามและเลิกเก็บ Cookies
แต่ว่า Youtube ไม่ปรับตามกฏแล้วอ้างว่า Youtube เป็นสื่อสำหรับคนที่อายุมากกว่า 13 ปีนะ ไม่ได้มีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
.
ซึ่ง FTC ก็เชื่อและปล่อย Youtube ไป
.
.
แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน Youtube มันเก็บข้อมูลทุกอย่างจริง ๆ เพื่อเอาไปขายให้กับคนอยากยิงโฆษณา และ เอาโฆษณาลงตามคลิปกันเพียบเลย
.
โฆษณาที่มีเป้าหมายเฉพาะบุคคลนั้น ๆ เรียก Personalize Ads เป็นการเอาข้อมูลจากเราแต่ละคนไปดูว่าสนใจอะไรอยู่แล้วก็ยิงโฆษณาที่เราน่าจะสนใจมาให้เรา
.
Personalize Ads เนี่ยสามารถทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้มากกว่าการโฆษณาแบบยิงสุ่ม ๆ ให้ทุกคนเห็น
มันจึงเป็นแหล่งเงินชั้นดีของ Youtube ซึ่ง Youtube ก็ได้แบ่งรายได้ส่วนนั้นให้กับ Creator Youtuber แคสเตอร์ต่าง ๆ เพื่อให้คนเหล่านี้ทำวีดีโอลงให้คนมาดูอีกเยอะ ๆ
.
แต่ในช่วงปีนี้ Youtube ก็เปลี่ยนนโยบายเรื่องความหยาบคาย
คือถ้าคลิปมีเนื้อหาผู้ใหญ่ เช่นเนื้อหาทางเพศ คำหยาบ การใช้คำรุนแรง มุข 18+ จะทำให้ไม่สามารถหารายได้จากคลิปนั้นได้
.
.
การเปลี่ยนนโยบายนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะมันทำให้ Youtuber ต่าง ๆ หันมาสร้างเนื้อหาที่สามารถให้เด็กดูได้เป็นหลักแทน ก็เพราะมันทำเงินได้
.
เนื้อหาที่เป้าหมายเป็นเด็กกลายเป็นเนื้อหาที่หารายได้มากที่สุดใน Youtube
ลองไปกดมาแรง หมวดเกมบน Youtube สิ
เกือบทั้งหมดเป็นเกมที่เด็ก ๆ ชอบเล่นทั้งนั้น Roblox Minecraft เกมที่เด็ก ๆ ชอบดู เห็นได้ชัดว่าเล็งกลุ่มเป้าหมายไปที่เด็ก
.
Youtuber ที่ทำเงินได้มากที่สุดในโลกก็คือช่อง
Ryan ToysReview ซึ่งก็เป็นช่องรีวิวของเล่นเด็ก
.
เห็นได้ชัดว่าเด็กกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ Youtube ไป
.
.
ในปี 2019 Youtube เลยโดนฟ้องเพราะไปโกหกหน้าตายว่าเด็กไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลัก
แต่เห็น ๆ กันว่าใช่ แถมยังไปเก็บ Cookies มาทำโฆษณาให้เด็กดูอีก ผิดกฏหมาย COPPA เห็น ๆ
ซึ่งขอพูดกันตรง ๆ ว่าที่ Youtube แพ้เพราะปากตัวเองแท้ ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่ในเงื่อนไขการใช้งาน Youtube ก็เขียนบอกว่าต้องอายุ 13 ปีขึ้นไป ใช่เด็กอาจจะโกหกอายุและมาแอบดู Youtube ได้ แต่ว่านั้นก็เป็นเพราะเด็กอยากดูเอง เพราะพ่อแม่ยอมให้เด็กเล่นเอง Youtube ไม่ได้ผิด
แต่ที่ Youtube ผิดก็เพราะดันไปเที่ยวป่าวประกาศว่า Youtube เป็นเว็บที่เด็กดูมากที่สุดให้กับผู้ลงโฆษณา ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าให้ไม่ให้เด็กต่ำกว่า 13 ดู
ดูยังไงก็แพ้คดีแน่นอน
.
Youtube จึงโดนปรับเงิน 170,000,000 $ พร้อมกับทำข้อตกลงกับ FTC ในการจัดการกับเนื้อบน Youtube ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ซึ่งบอกเลยว่าแย่มาก ๆ เพราะมันจะทำให้ Creator ขาดรายไปจนถึงช่องบินได้เลย
.
ตอนนี้ Youtube มีการตั้งค่าใหม่ให้กับผู้สร้างเนื้อบน Youtube ทุกคนว่า เนื้อหาของคุณเป็นเนื้อหา สำหรับเด็กหรือไม่ เพื่อปรับตามกฏหมาย COPPA โดย Youtube จะไม่เก็บข้อมูลจากคลิปคุณ และจะไม่ลงโฆษณาแบบ Personalize Ads ด้วย แปลว่าเนื้อหาคุณจะเสียรายได้ถึง 90% เลย
OMG
.
และถ้าคุณฝ่าฝืน หรือโกหกปรับไม่ตรงกับเนื้อหาของคุณ
เนื้อหาของคุณจะโดนลบ ช่องอาจโดนแบน และถ้าคุณอยู่สหรัฐอเมริกาคุณอาจโดนฟ้องโดย FTC และเสียค่าปรับ 40,000+ $
.
แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าเนื้อหาของคุณเข้าข่ายเนื้อหาเด็กหรือไม่
Youtube ก็ได้ให้กฏมาด้วยว่าเนื้อหาใดเข้าข่าย
.
ก็มีตั้งแต่แบบว่า เนื้อหาคุณมีเป้าหมายเป็นเด็กโดยตรงหรือไม่ซึ่งอันนี้คนที่รู้ดีที่สุดคือคนทำคลิป
เนื้อหาคุณมีตัวการ์ตูน Animation หรือไม่
มีของเล่น ขนมขบเคี้ยว อาหารเช้า Cereal หรือไม่
มีเด็กอยู่ในคลิปหรือไม่
มีกิจกรรมที่เด็กสนใจหรือไม่ เช่นการละเล่น วีดีโอเกม
มีภาษาวัยรุ่นที่เด็กสนใจหรือไม่
มีข้อความแสงสีดึงดูดเด็กหรือไม่
มีตัวการ์ตูนหรือคนดังที่เด็กชอบหรือไม่
และถ้าคุณไม่แน่ใจ Youtube ก็ให้คุณปรึกษานักกฏหมายเอานะจ๊ะ
.
.
ซึ่งฟังมาจากทั้งหมดแล้ว โคตรแย่
ใช่อยู่เนื้อหาสำหรับเด็กอย่างนิทานหรือการ์ตูน ต้องตีเป็นเนื้อหาเด็กอยู่แล้ว
แต่ว่าวีดีโอเกมละ
การที่คุณมีเนื้อหาเล่น วีดีโอเกม ก็สามารถถูกตีความเป็นเนื้อหาเด็กได้
เหล่าแคสเตอร์งานงอกเลย
โดยเฉพาะที่เล่น Roblox Minecraft
พี่เอกที่เล่น Planet Zoo ยังไม่รู้จะรอดมั้ย
แถมยังมีอีกหลาย ๆ ช่องที่รีวิวของเล่นต่าง ๆ
VRZO ก็มีภาษาวัยรุ่น และข้อความแสงสีไม่น้อย
ทั้ง ๆ ที่หลายช่องไม่ได้เล็งเป้าหมายหลักเป็นเด็ก แต่ถ้าตรงตามเงื่อนไขก็มีความเป็นไปได้ที่จะโดนด้วยเช่นกันจากคำนิยามด้านบน
.
ถ้าช่องเหล่านี้ถ้าถูกนับว่าเป็นเนื้อหาสำหรับเด็กจะถูกลดรายได้ถึง 90%!! หนักเอามาก ๆ
.
มิหนำซ้ำ เนื้อหาที่เป็นของเด็กยังตัด Features ไปเกือบหมด
คลิปจะไม่สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหา
จะไม่เด้งเป็นแจ้งเตือนให้เห็น ไม่มีในช่องแนะนำด้านข้าง
ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้
คือถ้าคุณอยากดูคลิปใหม่ คุณต้องกดเข้าไปใน Profile ช่องเท่านั้นอะ
.
หักเงินไม่พอ ยังลดคนดูอีกต่างหาก
.
และถ้าคุณไม่ยอมจำแนกว่าคลิปคุณเป็นคลิปเด็กหรือเปล่า Youtube จะใช้ Machine Learning มาจำแนกให้คุณ
ซึ่งบอกตามตรงว่าทำงานได้โคตรแย่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
เตรียมเจอ Happy Tree Friends และ South Park ตีเป็นเนื้อหาเด็กแน่นอน
.
กฏหมาย COPPA โคตรแย่ FTC โคตรเลว
CEO ของ Youtube
Susan Wojcicki บอกว่าคนที่ออกกฏหมายของ FTC บางคนไม่มีมือถือด้วยซ้ำ
ให้คนที่ไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ มาออกกฏหมายในยุค 2019
.
.
และถ้าคุณคิดว่าอยู่ไทยคงไม่เป็นไรละก็
ไม่ Youtube บอกว่ากฏนี้มีผลใช้ทั่วโลก
แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง เรื่องนี้แอดไม่แน่ใจ
เพราะว่า FTC ยังเปิดรับฟังความเห็นเพื่อปรับแก้กฏหมายและข้อตกลงอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าเราในฐานะคนนอกสหรัฐอเมริกาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
แต่ถ้าสนใจก็ไปค้นหาเเพิ่มเติมได้
.
.
FTC ไม่ใข้คนผิดฝ่ายเดียวหรอก
Youtube เป็นตัวร้ายเช่นกันในเรื่องนี้
เพราะ Youtube เป็นคนที่เก็บข้อมูลจากเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี
ทว่าพอตอนนี้กลับบอกว่า Youtuber ต้องมารับผิดชอบด้วยโดยตัดเงินโฆษณา ต้องบอกว่าเนื้อหาคุณเป็นเนื้อหาเด็ก และถ้าเนื้อหาคุณไม่ได้บอกว่ามีเป้าหมายเพื่อเด็ก แต่ FTC คิดว่ามันเป็น คุณก็มีโอกาสโดนฟ้อง โดนลบคลิปและปิดช่อง ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่ Youtuber แค่ทำคลิปออกมา ซึ่งไม่ได้ผิดกฏหมาย COPPA เลย
Youtube เองต่างหากที่ผลักความรับผิดชอบในการจัดการเนื้อหามาให้ Youtuber เป็นหลัก
.
Youtube สามารถที่จะจัดการระบบโดยเคร่งครัดไม่ให้เด็กต่ำกว่า 13 ปี มาดูเนื้อหาบน Youtube ได้ไม่ยาก
แค่บังคับให้ทุกคนต้องมีบัญชีและต้องยืนยันว่าตนอายุ 13 ปีก็จบแล้ว
.
ไม่ Youtube ไม่ทำแบบนั้น
ที่จริงความผิดของ Youtube คือการเก็บข้อมูลจากเด็ก
แค่ Youtube ไม่เก็บก็จบ
ไม่เห็นจำเป็นต้อง ยกเลิกการหารายได้โดยการไม่ลงโฆษณา
ไม่จำเป็นต้องยกเลิกการแจ้งเตือน หรือทำให้คลิปถูกค้นหาไม่เจอเลย
สิ่งที่ Youtube ทำเหมือนบอกใบ้ให้พวก Creator เลิกทำเนื้อหาเด็กแบบอ้อม ๆ
ทำไมนะหรอ เพราะว่า Youtube ไม่สามารถเก็บข้อมูลเอาไปขายให้กับลูกค้าที่ลงโฆษณาได้ยังไงละ
.
.
Youtube โคตรใจร้ายกับ Creator เลย
คือก่อนหน้านี้ทำเนื้อหาผู้ใหญ่ไม่ได้
ตอนนี้ก็ทำเนื้อหาเด็กไม่ได้ด้วย
แล้วที่นี้จะเหลืออะไรให้ Youtuber ทำ
.
และที่เลวร้ายที่สุด คือ มันมีทางออกทางกฏหมายแต่ Youtube ไม่บอกด้วย
คือ FTC ได้ให้เงื่อนไขของกฏหมาย COPPA ไว้ในปี 2015 ว่า มันมีสิ่งที่เรียกว่า เนื้อหาสำหรับทุกเพศทุกวัย
ซึ่งหมายความว่า เป็นเนื้อหาที่ไม่ได้เล็งแค่เด็ก แต่วัยอื่น ๆ ก็ดูได้
และกฏหมาย COPPA ไม่สามารถมีผลต่อเนื้อหาจำพวกนี้ได้
เพราะกฏหมายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อเนื้อหาของคุณมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 และจงใจเก็บข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายนี้โดยเฉพาะ
.
หมายความว่าช่องเกมต่าง ๆ สามารถบอกว่าเนื้อหาเป็นสำหรับทุกเพศทุกวัย ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฏหมายได้แล้ว
.
.
แต่ Youtube กลับบีบบังคับให้คนแยกเลยว่าให้เด็กดู หรือ ไม่ให้เด็กดู ซึ่งเป็นการจำกัดเกินไป เช่น พี่เอก HRK ถึงจะเล่นเกมแต่วัยรุ่นผู้ใหญ่ก็ดูได้ เด็กหลายคนก็ชอบ แต่ถ้าทำตามกฏของ Youtube พี่เอกก็จะกลายเป็นเนื้อหาสำหรับเด็กและจะไม่แจ้งเตือน ให้ใครเห็นอีก
มันแย่นะ การเหมารวมเอาแบบนี้หมด
.
วงในจาก Youtube ก็ออกมาใบ้ว่าทำไม Youtube ถึงไม่ให้ทางเลือก เนื้อหาสำหรับทุกเพศทุกวัยละ
คำตอบคือ เพราะจะทำให้บริษัทได้กำไรน้อยลง
.
WTF การที่ Youtube ไม่สามารถเก็บข้อมูลแบบเจาะจงหรือการยิงโฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เสียกำไร
จึงบีบบังคับ Youtuber ให้ดิ้นรนเพื่อจะได้กำไรมากขึ้น
Youtuber คนไหนอยู่ไม่ได้ก็ตายไป
.
.
Youtuber ทำคลิปที่เหมาะกับเด็กไม่ได้เพราะมันจะไม่แจ้งเตือนรายได้ก็ลดลง 90%
ทำคลิป 18+ ก็ไม่ได้เพราะจะะหารายได้ไม่ได้
คนที่หาเลี้ยงชีพด้วย Youtube อยู่ยากแน่ ๆ
ช่องใหญ่คงได้รับผลกระทบเยอะ
ช่องเล็ก ๆ คงดับเลย ไปหางานอื่นทำ
แล้วต่อไปจะเหลืออะไรบน Youtube ละ
.
.
.
สำหรับใครที่สนใจเรื่องนี้ก็มาดูคลิปที่แอดดูได้ที่นี่
https://youtu.be/pwnvjuCTb54
https://youtu.be/3GwDrHOe43E
https://youtu.be/pd604xskDmU
https://youtu.be/Ms2fXk7eaxQ
https://youtu.be/0veLrwd9CK4
https://youtu.be/xDJw4L1P_2s
https://youtu.be/GHMjD0Lp5DY
RIP Youtube
Seriously, this has nothing to do with add straight.
Because it's about Youtube
.
But this change on Youtube will impact many caster in our house.
But there is no mention yet.
.
Today I will talk about changes that will cost most creators in our home. 90 % of income.
(information may not be complete. 100 % correct because admin hasn't studied law. Anyone is interested can study information and let's talk)
.
.
The story started in 1998
Ftc main agencies that manage various activities in commercial electronics
The main duty to protect consumers in the United States.
Got a new law. Initials Coppa
(The Children's Online Privacy Protection)
Which is a law that protects personal information of children under 13
.
The purpose of coppa is to prevent children under the age of 13 years of 13 years of personal information such as names, addresses, phone numbers to websites without consent.
For fear that the information will be used in law.
.
But 15 years passed in 2013
The FTC sees that the real threat is not for kids to tell the web.
But cookies. Information on our computer / mobile phone.
With Personal Information, address, phone number.
Websites often collect information from cookies and sell to people who advertise online so they can show ads exactly what they are interested.
.
The Web, including Youtube, collect cookies and ftc, looking for websites that collect cookies created by children under the age of 13, so they solve coppa law.
.
Include cookies as personal information that cannot be collected if it is created by children under 13
Many web adapt and stop picking cookies
But Youtube doesn't adjust the rules and claims that Youtube is the media for people over 13 years old. They don't have kids as the main audience.
.
Ftc believes and releases Youtube
.
.
But as we know, Youtube really collect all the information to sell it to those who want to shoot ads and put ads on the clip at cuddle
.
Advertisement with a specific person called personalize ads to take information from each of us. See what they are interested in. Shoot us an ad we should be interested in.
.
Personalize Ads can make customers buy more products than random shooting advertising for everyone to see.
So it's a great source of Youtube, which youtube has shared that income for creator youtuber castor so these people can make videos for many people to watch.
.
But during this year, Youtube changed the policy on rudeness.
Well, if the clip contains adult content such as sexual content, profanity, using severe words, 18 + jokes will not earn money from that clip.
.
.
Changing this policy makes a huge change because it makes youtuber turn to create content that can show kids because they make money.
.
The content that targets kids becomes the most earning content on Youtube.
Try to hit the game category on Youtube
Most of them are games that kids love to play. Roblox Minecraft. The game that kids love to watch. Apparently aiming at kids.
.
Youtuber that makes the most money in the world is channel
Ryan toysreview which is also a review channel for children's toys.
.
Apparently kids become Youtube's main audience
.
.
In 2019, Youtube got sued because he lied to death that the kid is not the main audience.
But I see that it's right and I went to collect cookies to make advertisement for kids. It's illegal. Coppa. See.
Let me say that youtube lost because of his mouth. Even in terms of use, Youtube says that it has to be 13 years old or older. Yes, kids may lie to age and sneak peek at Youtube. But it's because kids want to watch it. Because parents let kids play by themselves. Youtube is not wrong.
But Youtube is wrong because I'm going to travel. I announced that Youtube is the most watched web for advertisers. I told you not to let kids under 13 watch.
No matter how I watch it, I will lose the case
.
So Youtube got paid 170,000,000 $ with ftc deal with meat on Youtube last September.
Which I can tell you that it's very bad because it will make creator to the flight channel.
.
Youtube now has a new set for all youtube meat creators whether your content is child content. to adjust according to coppa law. Youtube will not collect data from your clip and will not advertise ads. It means your content. I will lose 90 % of income.
OMG
.
And if you disobey or lie, adjust your content
Your content will be deleted. It may be banned and if you live in usa you may be sued by ftc and pay 40,000 + $
.
So how do you know if your content fits kid's content?
Youtube also gives rules which content fits.
.
It's like, is your content directly targeted as a kid. This is the one who knows best is the clip maker.
Content do you have an animation cartoon character?
Is there a cereal breakfast snack toy?
Is there a kid in the clip
Are there activities that kids are interested in such as playing video games
Is there a teenage language that children are interested in?
Is there a light message attracted to children?
Is there a cartoon character or celebrity that kids like?
And if you're not sure, Youtube will let you consult the lawyers.
.
.
Which has heard from all of them is so bad
Yes, kids content like tales or comics must be childish content
But video games
The way you have video game content can be interpreted as child content.
Castor. Work is growing.
Especially playing roblox minecraft
Brother Ek who plays planet zoo doesn't know if he will survive.
Plus, there are many more channels that review toys.
Vrzo also has teenage language and light messages
Although many channels are not aiming for the main goal as a kid, but if it meets the conditions, there is a possibility of getting hit as well from the definition above.
.
If these channels, if they are counted as content for children, they will be reduced to 90 %!! very heavy.
.
Repeated content that belongs to children still cut off most of the features
Clip will not be searched in search box
Won't bounce as a notification. No side suggestion.
Can't comment
Well, if you want to watch the new clip, you must click into profile channel only.
.
Not enough deduction. Still reduce the audience.
.
And if you don't classify that clip, are you a kid's clip? Youtube will use machine learning to classify you.
Which honestly works pretty bad from past experience
Get ready to meet happy tree friends and south park. It's content for sure.
.
Coppa law is so bad. FTC is so bad
CEO of Youtube
Susan Wojcicki says some ftc law people don't even have mobile phones
Let people who don't even have cell phones come to law in the 2019 s.
.
.
And if you think it's okay to live in Thailand.
No, Youtube says this rule is effective around the world.
So what can we do about this? I'm not sure.
Because the ftc is still open to hear opinions to solve laws and agreements, but not sure what we as outsiders can do.
But if interested, go find out more.
.
.
The FTC is not one on the wrong side.
Youtube is a villain as well on this
Because Youtube is the one who keeps data from children under 13
But now I say that youtuber is responsible by cutting off ad money. You have to say that your content is young content. and if your content is not saying that you are targeted for kids, but ftc thinks it is, you have a chance to be sued, deleted and close the whole channel What Youtuber just made a clip which is not illegal coppa
Youtube is primarily pushing the responsibility of managing content for youtuber.
.
Youtube can strictly manage the system from children under 13 years to watch content on Youtube.
Just forcing everyone to have an account and confirm that they are 13 years old is done.
.
No Youtube don't do that
In fact, Youtube's fault is keeping information from children.
Just Youtube doesn't keep it. It's done.
No need to cancel income without advertising
No need to cancel notifications or make the clip unsearchable
What Youtube does like hints for creators to stop making kid content indirectly
Why? Because Youtube can't sell it to customers who advertise
.
.
Youtube is so mean to creator
Well, I couldn't make adult content earlier.
Now can't make kids content too
So what's left for youtuber to do
.
And the worst thing is that there is a legal solution but youtube doesn't tell.
Well, the ftc provided coppa law conditions in 2015 that it has what is called content for all ages.
Which means it's content that is not only aiming for young but other ages can watch.
And Coppa law cannot affect these content
Because this law only applies when your content has a primary audience, children under 13 and deliberately collect information from this audience.
.
It means that game channels can say content is for all ages. It can avoid legal issues.
.
.
But Youtube forced people to separate whether they let kids watch or not to watch. Which is too limited. Such as brother ek hrk. Even if they play games, teenagers, adults can watch it. Many kids like it. But if they follow youtube rules, brother ek. Will become content for kids and won't notify anyone else
It's too bad. It's all like this.
.
The inner circle from Youtube also comes out why youtube doesn't provide content choices for all ages.
The answer is because it will make companies less profit.
.
WTF. Youtube can't store specific data or shooting ads straight to the audience makes profit.
So I forced youtuber to struggle to gain more profit.
Any Youtuber can't live then die
.
.
Youtuber can't make a clip that fits kids because they won't alert. Income is reduced by 90 %
I can't make a clip of 18 + because I can't earn money.
People who earn a living with Youtube will be hard to live.
The big channel must have affected a lot.
The small channel must have gone out so I went to find another job.
So what's left on Youtube
.
.
.
For those who are interested in this, check out the clip that you can watch here.
https://youtu.be/pwnvjuCTb54
https://youtu.be/3GwDrHOe43E
https://youtu.be/pd604xskDmU
https://youtu.be/Ms2fXk7eaxQ
https://youtu.be/0veLrwd9CK4
https://youtu.be/xDJw4L1P_2s
https://youtu.be/GHMjD0Lp5DYTranslated
how to protect data privacy 在 English Island英語島 Youtube 的最讚貼文
About Chatterbox Island English Podcast:
從「話題式」的角度出發,以日常對話的方式,與主持人Elise聊一些生活中的趣事,輕鬆練習英文聽力!
Have you ever clicked on an ad on social media, and for the next weeks or months, you just kept on getting similar ads over and over on the Internet? Maybe it's time to keep an eye on your online data and privacy settings!
In this episode, we're gonna discuss the importance of online privacy, the infamous Facebook-Cambridge Analytica scandal, and how to better protect your personal information online!
-
Listen to our podcast on:
Apple Podcasts - https://apple.co/2vq872z
Spotify - https://spoti.fi/2x5GM68
Google Podcasts - https://reurl.cc/O1qaqy
KKBOX - https://bit.ly/2FMDlpZ
SoundOn - https://bit.ly/381LLp8
Anchor - https://anchor.fm/chatterboxislandeng...
RadioRepublic - https://bit.ly/2Wq44P7
Breaker - https://bit.ly/2IQzcz7
YouTube - https://bit.ly/3ea3KJT
Chatterbox Island English Podcast full playlist - https://reurl.cc/mn3LzY
Visit our Website for more information - https://englishisland.pse.is/eislandmagazine
English Island 英語島雜誌臉書粉專 - https://www.facebook.com/Eisland.tw
-
Music Credits🎵:
Suede by Mona Wonderlick https://soundcloud.com/monawonderlick
Creative Commons — Attribution 3.0 Unported — CC BY 3.0
Free Download / Stream: http://bit.ly/-suede
Music promoted by Audio Library https://youtu.be/4RYlfOUnrLM