กรณีศึกษา จากอินฟลูเอนเซอร์ TikTok สู่เจ้าของ Venture Capital /โดย ลงทุนแมน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวันนี้ กลุ่มคนที่มีพลังในการโน้มน้าวเทรนด์ความนิยมของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก คือ “อินฟลูเอนเซอร์” บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
ซึ่งในอนาคต เราอาจได้เห็นพวกเขาแผ่ขยายอิทธิพล เข้ามามีส่วนชี้นำทิศทางในโลกธุรกิจด้วย
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว คือ กรณีของคุณ “Josh Richards” ซึ่งเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจาก TikTok ที่ตอนนี้ได้ก่อตั้งบริษัท Venture Capital ขึ้นมา เพื่อลงทุนในสตาร์ตอัปที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่
แล้วอินฟลูเอนเซอร์ จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในวงการ Venture Capital ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรามาทำความรู้จักตัวละครหลักของเรื่องนี้กันก่อน คือ คุณ Josh Richards เป็นเด็กหนุ่มชาวแคนาดา เกิดเมื่อปี 2002 ปัจจุบันมีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น
เขาเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่อายุ 14 ปี จากการทำคลิปวิดีโอเต้นและลิปซิงก์ใน TikTok โดยล่าสุด มีผู้ติดตามถึง 25.5 ล้านบัญชี
ในปี 2020 นิตยสาร Forbes ได้มีการประเมินว่า คุณ Richards สามารถสร้างรายได้ค่าสปอนเซอร์โฆษณาสินค้าประมาณ 49 ล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 5 ของแพลตฟอร์ม TikTok
แต่นอกจากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์โซเชียลมีเดีย เขายังมีความฝันที่จะเป็นมหาเศรษฐีระดับ Billionaire คือมีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการทำธุรกิจและลงทุนอีกด้วย
โดยก่อนหน้านี้ คุณ Richards ได้เริ่มก้าวเข้ามาสู่โลกธุรกิจในหลายบทบาท เช่น
- เป็นผู้บริหารด้านกลยุทธ์ของ Triller แพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้น คู่แข่ง TikTok
- ร่วมก่อตั้งบริษัท TalentX Entertainment ค่ายดูแลอินฟลูเอนเซอร์โซเชียลมีเดีย
- ร่วมก่อตั้งบริษัท Ani Energy ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง
- เป็นพาร์ตเนอร์ของ Remi Capital บริษัทลงทุนแนว Venture Capital สัญชาติออสเตรเลีย
และในปี 2021 เขาได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัท Venture Capital ของตัวเอง ชื่อว่า “Animal Capital” ร่วมกับกลุ่มเพื่อนอินฟลูเอนเซอร์ ด้วยเงินทุนเริ่มต้นราว 490 ล้านบาท
โดยบริษัทมีนักธุรกิจชื่อดังหลายราย เข้าร่วมลงทุนและคอยให้คำแนะนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- คุณ Kevin Mayer อดีตซีอีโอ TikTok
- คุณ Sean Rad ผู้ร่วมก่อตั้ง Tinder
- คุณ Justin Kan ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitch
- คู่แฝดมหาเศรษฐี Tyler และ Cameron Winklevoss อดีตคู่อริที่เคยฟ้องร้อง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ว่าขโมยไอเดียของพวกเขาไปสร้างเฟซบุ๊ก
แล้ว Animal Capital ของคุณ Josh Richards แตกต่างจาก Venture Capital ทั่วไปอย่างไร ?
คุณ Richards เล็งเห็นว่า อิทธิพลที่อินฟลูเอนเซอร์มีต่อผู้บริโภค เป็นจุดเด่นที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อยอดกับการลงทุนได้อย่างมหาศาล
กลยุทธ์ของ Animal Capital คือ การเข้าไปลงทุนในสตาร์ตอัป ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นกิจการ จากนั้นก็จะนำเอาสินค้าหรือบริการของบริษัท มาทำการตลาดออนไลน์ช่องทางโซเชียลมีเดียของอินฟลูเอนเซอร์
ซึ่งนอกจากคุณ Richards แล้ว พาร์ตเนอร์คนอื่นก็โด่งดังใน TikTok ไม่แพ้กัน อย่างเช่น คุณ Griffin Johnson ที่มีผู้ติดตาม 10.8 ล้านราย และคุณ Noah Beck ที่มีผู้ติดตาม 30.2 ล้านราย
โดย Animal Capital กล่าวว่า อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นพาร์ตเนอร์ของบริษัท มียอดผู้ติดตามทั้งใน TikTok และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ รวมทั้งหมดกว่า 100 ล้านบัญชี
นั่นหมายความว่า Animal Capital สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ของสตาร์ตอัปที่บริษัทลงทุน ให้ผ่านสายตาผู้บริโภค 100 ล้านราย ได้ทันที และมีโอกาสสูงมากที่หลายคนจะทดลองใช้งาน ตามการโน้มน้าวของอินฟลูเอนเซอร์ที่พวกเขาชื่นชอบ
ซึ่งกลยุทธ์นี้เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย ทางฝั่งสตาร์ตอัปได้ฐานลูกค้า และกระแสตอบรับจากการใช้งานจริง เพื่อมาปรับปรุงธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
ในขณะที่ Animal Capital ก็อาจได้ผลตอบแทนสูง หากบริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ คุณ Richards บอกว่า เขาเคยใช้วิธีการนี้สำเร็จมาแล้ว จากการลงทุนส่วนตัวในแพลตฟอร์มทายผลกีฬา ชื่อว่า VersusGame และทำคอนเทนต์แนะนำแพลตฟอร์ม VersusGame ลงในโซเชียลมีเดียของตัวเอง
ทำให้ตอนนี้ VersusGame มีผู้ใช้งาน 7 ล้านราย และสามารถระดมเงินทุนได้ราว 100 ล้านบาท แม้เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2019
ในปัจจุบัน Animal Capital มีการเข้าไปลงทุนในบริษัท ที่มุ่งเน้นทำธุรกิจที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนยุค Generation Z ซึ่งเป็นฐานผู้ติดตามหลักของอินฟลูเอนเซอร์ เช่น
- WHOOP สตาร์ตอัปเทคโนโลยีติดตามข้อมูลสุขภาพ และการออกกำลังกาย
- Lolli แอปพลิเคชันรับเงินคืนเป็น Bitcoin หลังจากช็อปปิงออนไลน์
- Deux Foods บริษัทผลิตคุกกี้ ที่ใช้ส่วนผสมเพื่อสุขภาพ
- WonderFi แพลตฟอร์มธุรกรรมการเงินแบบ Decentralized Finance (DeFi)
- Whatnot แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิง สำหรับซื้อขายสินค้าออนไลน์
- Parallel Learning สตาร์ตอัปเทคโนโลยีวัดผลการเรียน
ก็น่าติดตามต่อไปว่า หากคุณ Josh Richards และบริษัท Animal Capital ที่เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง สามารถประสบความสำเร็จ ในอนาคต เราอาจได้เห็นกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ เข้ามามีบทบาทต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี และวงการ Venture Capital มากขึ้น ก็เป็นได้
เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นว่า
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์อยู่ตลอดเวลา
สิ่งสำคัญ คือ ทำอย่างไรให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วและมากที่สุด เพื่อสร้างความคุ้นเคยต่อแบรนด์
ซึ่งคนที่ทำให้มันเกิดขึ้นได้ อาจไม่ใช่นักธุรกิจ หรือผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน
แต่เป็น อินฟลูเอนเซอร์ ที่สามารถกำหนดเทรนด์ ให้ผู้ติดตามหลายล้านรายทำตามได้ นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม บริษัทที่จะเป็นพาร์ตเนอร์กับอินฟลูเอนเซอร์ คงต้องพิจารณาข้อมูลให้ละเอียด
เพราะถ้าหากคนที่ร่วมทำธุรกิจด้วย มีข่าวอื้อฉาวในแง่ลบแม้เพียงนิดเดียว
มันก็อาจเป็นดาบสองคม ที่ทำให้ผู้บริโภค เลิกใช้สินค้าได้เช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://edition.cnn.com/2021/04/30/business/josh-richards-tiktok-investing-venture-capital/index.html
-https://www.crunchbase.com/organization/animal-capital/recent_investments
-https://www.intheknow.com/post/josh-richards/
-https://www.animalcapital.co/introduction
-https://www.prnewswire.com/news-releases/versusgame-secures-3-million-in-funding-from-top-music-artists-and-entertainment-producers-301347748.html
investing in th 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
รัฐฟลอริดา ดินแดนท่องเที่ยว การเกษตร ศูนย์ปล่อยจรวดอวกาศ /โดย ลงทุนแมน
ประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรกรรมอันดับ 1 ของโลก คือ สหรัฐอเมริกา
และรัฐที่มีความสำคัญมาก ต่อภาคการเกษตรกรรมของสหรัฐอเมริกา ก็คือรัฐ “ฟลอริดา”
และไม่เพียงแต่ภาคเกษตรกรรมเท่านั้น ฟลอริดา ยังมีความสำคัญต่อสหรัฐอเมริกาในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
มีอะไรที่น่าสนใจในรัฐแห่งนี้บ้าง
แล้วสหรัฐอเมริกา ไปซื้อรัฐนี้มาจากสเปน ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ฟลอริดา เป็นรัฐที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือในอดีต ฟลอริดา ยังเป็นดินแดนแห่งแรกในทวีปอเมริกา ที่ประเทศผู้ล่าอาณานิคมจากยุโรปเดินทางมาถึง
ทหารนักสำรวจชาวสเปนที่ชื่อว่า Juan Ponce de León เดินทางมาถึงที่นี่ตั้งแต่ปี 1515 พร้อมทั้งตั้งชื่อดินแดนแห่งนี้ว่า “La Pascua de las Flores” ซึ่งในภาษาสเปนนั้นมีความหมายประมาณว่า “เทศกาลแห่งดอกไม้”
ซึ่งประวัติศาสตร์จากหลายสำนักเชื่อกันว่า ที่มาของชื่อ ฟลอริดา มาจากการที่ Juan Ponce de León และกลุ่มนักสำรวจเดินทางมาพบกับดอกไม้ป่าจำนวนมากในพื้นที่แห่งนี้
และต่อมาชื่อ La Pascua de las Flores ก็ได้แผลงคำเรื่อย ๆ จนกลายเป็น Florida
ฟลอริดายังเป็นที่รู้จักกันในนาม “Sunshine State” เนื่องจากเป็นรัฐที่มีสภาพภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนและอบอุ่นเมื่อเทียบกับรัฐอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกา
ในปี 2020 ฟลอริดา มีประชากรอยู่อาศัยทั้งหมดประมาณ 21.6 ล้านคน ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 เมื่อเทียบกับ รัฐทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา รองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐเท็กซัส
ประชากรที่อาศัยอยู่ในฟลอริดานั้น จำนวนกว่า 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด เป็นชาว “ฮิสแปนิก” (Hispanic) หรือก็คือ คนที่มีเชื้อสายสเปน ทำให้ภาษาสเปนจึงเป็นอีกหนึ่งภาษาที่ถูกใช้ในการสื่อสารกันมากในรัฐแห่งนี้
ในแง่ของเศรษฐกิจ ฟลอริดามีขนาดเศรษฐกิจตามมูลค่า GDP ประมาณ 30.8 ล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ ตามหลังเพียงแค่รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐเท็กซัส และรัฐนิวยอร์ก
ซึ่งถ้าสมมติให้ รัฐฟลอริดาเป็นประเทศ
จะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 17 ของโลก มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่า GDP ของประเทศใหญ่ ๆ อย่างเนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี และซาอุดีอาระเบีย เลยทีเดียว
โดยฟลอริดา มีสองอุตสาหกรรมที่เป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจของรัฐ
คืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมการเกษตร
ปี 2011 จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนฟลอริดามีประมาณ 87 ล้านคน
ปี 2018 จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนฟลอริดามีประมาณ 126 ล้านคน
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สร้างงานในฟลอริดากว่า 1.3 ล้านตำแหน่ง และสร้างรายได้ให้แก่ฟลอริดาปีละกว่า 2.8 ล้านล้านบาท
ด้วยที่ตั้งและสภาพภูมิประเทศ ฟลอริดาได้ขึ้นชื่อว่ามีหาดทรายที่กว้างใหญ่ น้ำทะเลใส
หาดไมอามีซึ่งตั้งอยู่ที่ฟลอริดา จึงถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ที่เป็นไฮไลต์ของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ
ฟลอริดา เป็นที่ตั้งของท่าเรือขนส่งสินค้าและท่าเรือสำราญมากมาย และได้รับการขนานนามว่า “เมืองหลวงของเรือสำราญ” เพราะ 3 ท่าเรือสำราญที่มีจำนวนผู้มาใช้บริการหนาแน่นที่สุดในโลก 3 อันดับแรก อยู่ในรัฐฟลอริดาทั้งสิ้น
ท่าเรือสำราญที่คนมาใช้บริการมากสุด 3 อันดับแรกในโลก ปี 2017 สถิติจากเว็บไซต์ WorldAtlas
1. Port of Miami จำนวนผู้โดยสารเรือท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ 5.0 ล้านคน
2. Port Canaveral จำนวนผู้โดยสารเรือท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ 4.2 ล้านคน
3. Port Everglades จำนวนผู้โดยสารเรือท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ 3.8 ล้านคน
รัฐแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Walt Disney World Resort
สวนสนุกและสถานที่พักตากอากาศแนวรีสอร์ต ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีพื้นที่กว้างขวางถึง 101 ตารางกิโลเมตร และมีพนักงานทำงานที่นี่กว่า 7 หมื่นคน
อีกหนึ่งภาคอุตสาหกรรมที่ถือว่ามีความสำคัญไม่เพียงแต่ต่อรัฐฟลอริดาเอง แต่ยังรวมไปถึงสหรัฐอเมริกาด้วยคือ อุตสาหกรรมการเกษตร
นั่นก็เพราะว่า ฟลอริดามีสภาพภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนและอบอุ่น รวมทั้งมีปริมาณฝนโดยเฉลี่ยที่สูงกว่ารัฐอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกา
กว่า 70% ของผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว และส้มโอ ที่ขายในสหรัฐอเมริกานั้น เป็นผลผลิตที่มาจากรัฐแห่งนี้ ขณะที่ส้มจากฟลอริดานั้น เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำส้มในสหรัฐอเมริกากว่า 90%
นอกจากการท่องเที่ยวและการเกษตรที่เด่นมาก ๆ แล้ว ฟลอริดายังเป็นที่ตั้งสำคัญในเรื่องอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของสหรัฐอเมริกา
ในปี 2018 มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินและยานอวกาศกว่า 2,300 แห่งตั้งอยู่ในฟลอริดา และมีบริเวณแหลมคะแนเวอรัล (Cape Canaveral) เป็นที่ตั้งสำคัญของศูนย์อวกาศและฐานปล่อยจรวด เนื่องจากที่ตั้งของฟลอริดาอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งเหมาะสมกับการปล่อยจรวด
หนึ่งในนั้นคือ ศูนย์อวกาศ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ขององค์การนาซา ซึ่งเป็นฐานปล่อยยานอวกาศของนาซา เมื่อปี 1969 ที่ชื่อว่า “ยานอะพอลโล 11” ที่พามนุษย์กลุ่มแรกไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ
ขณะที่การปล่อยจรวดครั้งสำคัญ ๆ ของ SpaceX ก็ปล่อยขึ้นจากฐานปล่อย Cape Canaveral Space Force Station ณ แหลมคะแนเวอรัล ในรัฐฟลอริดาแห่งนี้ด้วย..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
ในอดีตพื้นที่บริเวณฟลอริดา ก่อนจะเป็นรัฐของสหรัฐอเมริกา เคยอยู่ในการครอบครองของสเปนมาก่อน
โดยหลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศอิสรภาพแล้ว ก็ได้ติดต่อขอซื้อฟลอริดาจากสเปนหลายครั้ง แต่สเปนก็ปฏิเสธที่จะขายมาโดยตลอด
จนในระหว่างปี 1807-1814 เกิดสงครามที่ชื่อว่า Peninsular War
ระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสที่นำโดย นโปเลียน โบนาปาร์ต กับฝ่ายพันธมิตร คือสหราชอาณาจักร สเปน และโปรตุเกส เพื่อแย่งชิงดินแดนในคาบสมุทรไอบีเรีย
สงครามครั้งนั้นทำให้สเปนสูญเสียกำลังทหารและงบประมาณจำนวนมาก ภายหลังสเปนจึงได้ตัดสินใจขายพื้นที่อาณานิคมฟลอริดา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแล
และทำให้ ฟลอริดา ได้ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งในรัฐของสหรัฐอเมริกา ในที่สุด..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://daily.jstor.org/how-florida-got-its-name/
-https://www.statista.com/statistics/187850/gdp-of-the-us-federal-state-of-florida-since-1997/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Florida
-https://www.statista.com/statistics/220767/total-value-of-us-agricultural-exports-since-2000/
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_states_and_territories_of_the_United_States_by_GDP
-https://www.investopedia.com/articles/investing/011316/floridas-economy-6-industries-driving-gdp-growth.asp
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://en.wikipedia.org/wiki/University_of_Florida
-https://www.floridatrend.com/article/29770/floridas-hispanic-population-boom
-https://www.teaconnect.org/images/files/TEA_328_381804_190528.pdf
-https://www.arestravel.com/big-walt-disney-world-compared-disneyland/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Kennedy_Space_Center
-https://www.spacex.com/launches/
-https://theworldtravelblog.com/the-10-busiest-cruise-ports-in-the-world/
-https://www.worldatlas.com/articles/the-10-busiest-cruise-ports-in-the-world.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Adams%E2%80%93On%C3%ADs_Treaty
investing in th 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
รู้จักบริษัทเวียดนาม MWG ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว /โดย ลงทุนแมน
ตลาดหุ้นเวียดนาม ถือเป็นตลาดเกิดใหม่
ที่นักลงทุนไทยหลายคนให้ความสนใจ
ปีนี้ ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม หรือ VNI ได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1,382.3 จุด
เพิ่มขึ้นมาแล้ว 25% และกำลังทำจุดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
หากพูดถึงธุรกิจยักษ์ใหญ่ในเวียดนาม หลายคนก็น่าจะนึกถึงกลุ่มธุรกิจ Vingroup
ของเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศอย่าง Phạm Nhật Vượng
หรือ Saigon Beer ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ไทยเบฟ เข้าไปซื้อกิจการ
สำหรับวันนี้ เรามารู้จักกับอีกหนึ่งบริษัทเวียดนามที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ที่ชื่อว่า “MWG” ทำธุรกิจค้าปลีก
ที่มีธุรกิจคล้ายกันกับ COM7 ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย
แล้วบริษัทแห่งนี้ ใหญ่ขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
MWG ย่อมาจาก Mobile World Investment Corporation ถูกก่อตั้งโดยคุณ Tai Duc Nguyen ในปี 2004
Tai Duc Nguyen เกิดที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม มีพื้นฐานมาจากครอบครัวฐานะยากจนโดยมีคุณพ่อเป็นพ่อค้าขายข้าวเหนียวปิ้ง
เมื่อเติบโตขึ้น Tai Duc Nguyen ก็ได้เริ่มมองหาธุรกิจและตัดสินใจเปิดร้านขายโทรศัพท์สาขาแรกในนครโฮจิมินห์
แม้ว่าช่วงแรกจะยังล้มเหลว แต่หลังจากสะสมประสบการณ์มาระยะหนึ่ง
เขาก็ได้ลองผิดลองถูกกับเพื่อนและทำให้ร้านขายโทรศัพท์ของพวกเขาเริ่มเติบโตขึ้นมา
บวกกับในช่วงเวลานั้นเอง ตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศเวียดนามก็ได้เติบโตขึ้น
ส่งผลให้ธุรกิจของ Tai Duc Nguyen ได้รับอานิสงส์ไปด้วย
ปัจจุบัน MWG ได้ก้าวขึ้นมาเป็นธุรกิจค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในประเทศเวียดนาม
และมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มากถึง 44% ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ทางบริษัทก็ยังได้ขยายกลุ่มธุรกิจค้าปลีกไปยังอาหารสด ผักและผลไม้อีกด้วย
แล้วโมเดลธุรกิจของ MWG เป็นอย่างไร ?
MWG มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านหน้าร้านเป็นหลักและมีหน้าร้าน 4,500 แห่งทั่วประเทศเวียดนาม
โดยหน้าร้านทั้งหมดนี้ แบ่งออกเป็น
- Thegioididong ร้านขายโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และแล็ปท็อป 1,000 แห่ง
- Dien May Xanh ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า 2,500 แห่ง
- Bach Hoa Xanh ร้านค้าปลีกที่ขายอาหารสด ผัก ผลไม้ และของใช้ทั่วไป 2,000 แห่ง
นอกจากธุรกิจในประเทศเวียดนามแล้ว
MWG ก็ยังได้รุกธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปยังประเทศกัมพูชาเช่นกัน
ทีนี้เรามาดูกันว่าผลประกอบการ Mobile World Investment Corporation ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ?
ปี 2018 รายได้ 118,113 ล้านบาท กำไร 3,927 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 139,852 ล้านบาท กำไร 5,246 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 148,574 ล้านบาท กำไร 5,361 ล้านบาท
รายได้เติบโตเฉลี่ย 12% ต่อปี
กำไรเติบโตเฉลี่ย 17% ต่อปี
โดยสัดส่วนรายได้ทั้งหมดของบริษัท แบ่งตามประเภทร้านค้าออกเป็น
กลุ่มโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และแล็ปท็อป 45.5%
กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า 42.6%
กลุ่มค้าปลีกอาหารสด และของใช้ทั่วไป 7.9%
อื่น ๆ 4.0%
จากสัดส่วนรายได้ เราคงพอสรุปได้ว่าธุรกิจหลักของ MWG
ยังคงเป็นการขายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
แต่ที่น่าสนใจก็คือกลุ่มธุรกิจอาหารสด เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง
โดยปีที่แล้วเติบโตขึ้นมามากถึง 73% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ซึ่งเป็นการเติบโตสวนทางกับกลุ่มธุรกิจหลักอย่างโทรศัพท์มือถือ
และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ปรับตัวลดลง 3.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน
สำหรับสาเหตุที่รายได้กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดลง ก็เพราะว่าการแข่งขันด้านราคาสินค้าในกลุ่มนี้ บนอีคอมเมิร์ซนั้นดุเดือด
และแม้ว่าทางบริษัท MWG จะมีช่องทางการขายผ่านเว็บไซต์และมีอัตราการเติบโตที่ดี
แถมเว็บไซต์ Thegioididong ก็มีส่วนแบ่งตลาดออนไลน์อยู่ที่อันดับ 2 เป็นรองเพียง Shopee
แต่ช่องทางดังกล่าวก็ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยและยังไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากอีคอมเมิร์ซได้
ส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารสดและของใช้ทั่วไป ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัยจัยหลักมาจากแบรนด์ “Bách Hóa Xanh” เปรียบเสมือนตลาดสดที่ทันสมัยของชาวเวียดนาม
ราคาของสด อย่างเช่น กุ้ง หอย ปู ปลา และอื่น ๆ ถูกจนสามารถแข่งกับตลาดสดแบบดั้งเดิมได้
จากราคาที่ถูกและหน้าร้านที่ดูสะอาดและทันสมัย
ทั้งนี้ทางบริษัทก็ได้มีแผนการเติบโตทางธุรกิจ
รวมถึงมีการคาดการณ์ผลประกอบการในช่วง 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า
โดย MWG คาดการณ์ว่าจะขยายธุรกิจจนครองส่วนแบ่ง
ตลาดสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 60%
และคาดการณ์รายได้อยู่ที่ 202,000 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ 9,700 ล้านบาท
แล้ว MWG ใหญ่ขนาดไหน ?
ปัจจุบัน MWG มีมูลค่าบริษัท 90,000 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8 เท่า
เมื่อเทียบกับมูลค่าตอนจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เวียดนามในปี 2014
ซึ่งมูลค่าดังกล่าวใหญ่กว่าบริษัทที่มีธุรกิจคล้ายกันในประเทศไทย
อย่าง COM7 ที่มีมูลค่าราว 84,000 ล้านบาท เสียอีก..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://masvn.com/api/attachment/file/1617352096940-210318_MWG_2021Update_FINAL.pdf
-https://www.kbsec.com.vn/pic/Service/KBSV_MWG_FullReport_20190801.pdf
-https://www.vneconomictimes.com/article/business/mwg-s-online-grocery-and-electronics-grow-strongly-in-4m
-https://www.marketwatch.com/investing/stock/mwg/company-profile?countrycode=vn&mod=mw_quote_tab
-https://mwg.vn/eng/company/introduction
-https://www.reuters.com/companies/MWG.HM
-https://saigoneer.com/society/13610-from-gadgets-to-groceries-the-story-of-the-gioi-di-dong-founder-nguyen-duc-tai
-http://s.cafef.vn/ceo/ceo_61557/nguyen-duc-tai.chn