De Hygienique ธุรกิจที่เกิดจากการต่อสู้กับโรคภูมิแพ้ของลูกสาว
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าฝุ่น PM2.5 และ เชื้อโรคร้ายอย่างโควิด 19
กลายมาเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตของคนไทย
หาก โควิด 19 คือ โรคที่มีความน่ากลัว ที่เห็นผลในระยะสั้น
โรคภูมิแพ้ ก็เป็น โรคที่มีความน่ากลัวที่เห็นผลในระยะยาว และโรคนี้ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ หากเราไม่กำจัดที่ต้นตอของปัญหา
รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในบริษัทในประเทศไทยที่พยายามคิดค้น และนำเข้า นวัตกรรมกำจัดเชื้อโรคต้นตอของการเกิดภูมิแพ้ มีชื่อว่า บริษัท ดีไฮจีนิค (De Hygienique)
แล้วอะไรคือแรงบันดาลใจ ที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท De Hygienique ต้องทุ่มเทกับการแก้ปัญหาโรคเรื้อรังนี้?
เรื่องราวนี้เกิดจากลูกสาวของผู้ก่อตั้งบริษัท ที่เป็นโรคภูมิแพ้ในวัยเด็ก
ถึงแม้ว่าจะพาไปรักษาในโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งดูแลการใช้ชีวิตประจำวันของลูก
แต่เหมือนว่าทั้งหมดนี้จะไม่ได้ช่วยให้สุขภาพของลูกดีขึ้นเลย..
ผู้ก่อตั้งบริษัทจึงได้เริ่มหาสาเหตุของโรคภูมิแพ้อย่างจริงจัง
ต่อมาเขาจึงค้นพบว่าสาเหตุของโรคภูมิแพ้มาจากสิ่งที่ใกล้ตัว และใช้เวลาอยู่กับเรา 1 ใน 3 ของ ชีวิต นั่นคือ ที่นอน ของเรานั่นเอง
ที่นอน เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และ ไรฝุ่น ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ “โรคภูมิแพ้”
จุดที่เป็นอุปสรรคสำคัญคือ เรื่องของการกำจัดไรฝุ่น ที่ไม่สามารถกระทำได้โดยใช้เพียงแค่ เครื่องดูดฝุ่นธรรมดา
เขาจึงได้ค้นหาเทคโนโลยี ที่จะมาช่วยเรื่องนี้
จนกระทั่งพบกับ POTEMA บริษัทที่คิดค้นนวัตกรรมทำความสะอาด ด้วยระบบซานิไทส์ซิ่งจากประเทศเยอรมนี ซึ่งมีเครื่องมือ Acarex Test Kit ในการตรวจวัดสารก่อภูมิแพ้บนที่นอนทั้งยังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายและมีการเปิดสาขามากมายในยุโรป โดยเทคโนโลยีนี้ได้นำมาใช้กับ โรงแรมระดับ 7 ดาว เช่น Burj Al Arab, Conrad Centennial, Grand Hotal Esplanade Berkin และโรงแรมชั้นนำอีกหลายแห่ง
หลังจากนั้น เขาจึงได้นำมาทดลองใช้งานจริงกับที่บ้านของตัวเอง
ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจมาก เขาสามารถช่วยทำให้อาการของโรคภูมิแพ้ของลูกสาวดีขึ้น
ประกอบกับการรักษาโรคกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็ออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น
จนในที่สุด นวัตกรรม ที่สามารถช่วยเพิ่มระดับคุณภาพชีวิตของลูกสาว
จึงพัฒนาจนมาเป็น บริษัท De Hygienique บริษัททำความสะอาดและกำจัดเชื้อโรคด้วยระบบซานิไทส์ซิ่ง ของประเทศไทย
หลังจากที่ก่อตั้งเป็น บริษัท De Hygienique แล้ว
เจ้าของบริษัทเอง ยังมีวิสัยทัศน์ ในการยกระดับการให้บริการให้ครอบคลุมทั้งหมด แบบ One Stop Service สำหรับการบริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ให้ตอบโจทย์มากขึ้น เช่น พรม โซฟา ผ้าม่าน
รวมถึงบริการพ่นควันฆ่าเชื้อโรค ซึ่งสามารถฆ่าโควิดได้
แล้วทำไม บริษัท De Hygienique ถึงต้องเลือกนวัตกรรมการฆ่าเชื้อโรคด้วยระบบซานิไทส์ซิ่ง?
ระบบซานิไทส์ซิ่ง ก็คือ การฆ่าเชื้อโรคแบบแห้งและปลอดสารเคมี 100%
โดยเจาะลึกทำความสะอาดที่นอน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ พร้อมเคลือบปกป้องทุกพื้นผิว
รวมถึงรังสี UVC สามารถกำจัดแบคทีเรีย, ไวรัส รวมถึงไรฝุ่นเพื่อไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้อีกด้วย
ถึงตรงนี้ เราอาจจะตั้งคำถามว่า แล้วอะไรคือตัวกลาง
ที่นำพาเทคโนโลยีฆ่าเชื้อนี้ เข้าไปจัดการกับเชื้อโรคได้อย่างทุกซอกทุกมุม?
คำตอบคือ สิ่งที่ไร้รูปร่าง และสามารถเข้าถึงทุกนาโนโมเลกุล อย่างเช่น “ควัน”
และควันในที่นี้ จะต้องปลอดภัยต่อมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน
เมื่อ 2 สิ่งนี้มารวมกัน ก็จะก่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคได้แบบ 100%
รวมถึง นวัตกรรมซานิไทส์ซิ่ง และบริการพ่นควันฆ่าเชื้อโรค (fogging service) ทีมีลิขสิทธิ์มาจาก บริษัท POTEMA ยังการันตีด้วยรางวัลใบเกียรติคุณจาก ECARF หรือองค์กรวิจัยโรคภูมิแพ้จากยุโรป
นี่จึงเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ผู้ก่อตั้งบริษัท De Hygienique เลือกใช้นวัตกรรมซานิไทส์ซิ่ง และนำเข้ามาเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย นั่นเอง
สำหรับจุดสำคัญที่ทำให้ บริการฆ่าเชื้อของ De Hygienique มีความแตกต่างจากผู้ให้บริการเจ้าอื่น
1.การใช้น้ำยาออร์แกนิคสกัดจากธรรมชาติ เกรดอาหารและยา ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2.ด้วยกระบวนการฆ่าเชื้อที่ไม่ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค และ ไม่ต้องทำความสะอาดเช็ดถูพื้นที่ซ้ำอีกรอบ
3.การให้บริการฆ่าเชื้อโรคแบบแห้ง จึงพร้อมใช้งานได้ทันที 30 นาที หลังการให้บริการ
4.การตรวจวัดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ด้วย Acarex Test ทั้งก่อนและหลังให้บริการ
ซึ่งสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างมากของ บริษัท De Hygienique คือ
ทางบริษัทได้พัฒนาคุณภาพของการให้บริการ โดยเริ่มจากตัวบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ จะต้องได้รับการอบรมมาจาก โรงพยาบาลศิริราช เกี่ยวโรคภูมิแพ้และการดูแลระดับความสะอาด
สิ่งเหล่านี้เองก็ได้ทำให้ บริษัท De Hygienique ได้รับความไว้วางใจสำหรับการให้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคแบบมืออาชีพ กับบริษัทแบรนด์หรูในประเทศไทยหลายแห่ง เช่น Prada, Louis Vuitton, Cartier, Audi, BMW, King Power, Grand Hyatt, AP, Gulf, Plan B และแบรนด์ Hi End อีกมากมาย
และเรื่องราวทั้งหมดนี้ ทำให้เมื่อกลางปีที่ผ่านมา รู้ไหมว่า บริษัท De Hygienique มีส่วนแบ่งในตลาดทำความสะอาด บ้าน และอพาร์ทเม้นท์ เพิ่มมากขึ้นถึง 75% เลยทีเดียว
สุดท้ายนี้ ท่ามกลางวิกฤติโรคร้ายที่เกิดขึ้นในตอนนี้ นอกจากการ ล้างมือ ใส่แมสก์ เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่เสี่ยงแล้ว ก็ต้องอย่าลืมทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในที่อยู่อาศัย ให้ถูกวิธีกันด้วย
References:
-https://dh-thailand.com/th
同時也有4部Youtube影片,追蹤數超過20萬的網紅NinaBeautyWorld,也在其Youtube影片中提到,FB Fanpage: https://www.facebook.com/BeautyWorldbyNina Instagram: NinaPraewpetch Official Website: http://www.NinaBeautyWorld.com สาวๆที่กำลังมองหาเซ...
「king power คือ」的推薦目錄:
king power คือ 在 Ploy Chidjun & Family Facebook 的最佳解答
🔥🔥มามี๊พลอยมีของมาแจกกกก 🔥🔥
💝 วันนี้มามี๊พลอยมาช้อปปิ้งกับชิลลี่ ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
เพราะตอนนี้ทาง คิง เพาเวอร์ เค้ามีเซอร์ไพรส์ใหญ่ ฉลองครบรอบ 31 ปี ในงาน King Power Delights & Surprises จัดเต็มตลอดเดือน ไม่ต้องมีไฟลต์บินก็ช้อปได้!
นอกจากนี้ เค้ายังโปรโมชั่นพิเศษ จัดเต็มเฉพาะ 4 วัน ตั้งเเต่วันที่ 15-18 ต.ค.63
นี่เลยเพียงซื้อ Cash Card สำหรับใช้ช้อปปิ้งมูลค่า 50,000 บาท รับเพิ่มสูงสุดถึง 5 ต่อ!
✨ต่อที่ 1 รับเพิ่มทันที 12,500 บาท
✨ต่อที่ 2 ลุ้น GIFT VOUCHER มูลค่า 31,000 บาท!
✨ต่อที่ 3 รับส่วนลด Home Delivery ON-TOP สูงสุดถึง 10% เเละ สินค้า Duty Free เเละ Blue Price Tag สูงสุดถึง 20%
✨ต่อที่ 4 ช้อปครบรับคูปองอิ่มฟรี! ที่ Thai Taste Hub สูงสุด 900 บาท และ
✨ต่อที่ 5ลุ้นรับรางวัล Luxury Brand
ช้อปมันส์ๆกับมามี๊ ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา เเละภูเก็ต
รายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/34rnd5C
🔅 กติกา การคัดเลือกผู้โชคสำหรับแจก Voucher มูลค่า 500 บาท คือ
เพียงแค่ Like & share โพสต์นี้ และ comment ว่าได้รับรางวัลแล้วจะนำไปซื้ออะไรที่ คิง เพาเวอร์
**อย่าลืมเปิด public นะคะ เดี๋ยวมามี๊ไม่เห็นน้า
king power คือ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最讚貼文
6 ธุรกิจเสาหลักทำเงิน ของ “สิงห์ คอเปอร์เรชั่น”
.
“สิงห์ คอร์เปอเรชั่น” คือบริษัทในเครือที่สำคัญของ “บริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด” ก่อตั้งขึ้นเพื่อการบริหารและดำเนินงานบริษัทในเครือบุญรอดรวมแล้วกว่า 150 บริษัท ซึ่งหลังจากที่มีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในรอบ 4-5 ปี ของธุรกิจภายในองค์กร ส่งผลให้ธุรกิจมีการเติบโต และสามารถขยายรายธุรกิจออกไปได้กว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยนำไปสู่การแบ่งธุรกิจที่เป็นเสาหลักสร้างรายได้ และการเติบโตของบริษัท ออกเป็น 6 เสาหลักดังนี้
.
เสาหลักที่ 1 ธุรกิจเครื่องดื่ม
ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อที่สุดเมื่อพูดถึง “สิงห์” ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่ม, เบียร์ และโซดา โดยปัจจุบันสิงห์ได้ดำเนินการบริหารโรงเบียร์ 3 แห่ง และโรงงานผลิตโซดาและน้ำดื่มรวมแล้วกว่า 9 แห่ง ในจุดสำคัญต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค และมีเครือข่ายเอเย่นต์จำนวนกว่า 300 ราย ที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั่วประเทศ และมีตัวแทนจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยมีแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสิงห์ เช่น น้ำดื่มตราสิงห์ , น้ำแร่ธรรมชาติ เพอร์ร่า, ฟิจิ วอเตอร์, สิงห์, ลีโอ, ยู, อาซาฮี, คาร์ลสเบิร์ก และโคโรน่า อีกทั้งปัจจุบัน สิงห์ กำลังพัฒนาสินค้าใหม่ในกลุ่มของเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เปิดตัว “สิงห์ เลมอนโซดา” โดยชูจุดเด่นเป็นเลมอนแท้ผสมโซดา สดชื่น ปราศจากน้ำตาลและแคลอรี่ 0% เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
.
เสาหลักที่ 2 ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้ว
โดยเป็นการดำเนินธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วของบีจีซี (BGC) หรือ บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส ภายใต้ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันบีจีซีมีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วทั้งหมด 5 แห่ง สามารถผลิตได้ 3,495 ตันต่อวัน นับว่ามีกำลังการผลิตเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และพร้อมกับการวางรากฐานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ จนสามารถได้รับการยอมรับในระดับสากล
.
เสาหลักที่ 3 ธุรกิจระดับภูมิภาค (รีจินัล)
เป็นการบริหารงานภายใต้ บริษัท สิงห์ เอเชีย โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อการเจรจาการซื้อกิจการในภูมิภาคอาเซียน และ เพื่อขยายธุรกิจแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ ให้ครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึง
.
เสาหลักที่ 4 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) โดยมีการทำธุรกิจด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่ 3 ส่วนหลักๆ คือ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจที่พักอาศัย และธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าและศูนย์การค้าปลีก โดยมีจุดหมายที่จะสร้างแบรนด์ในระดับพรีเมียม ผ่านการใช้กลยุทธ์ขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
.
เสาหลักที่ 5 ธุรกิจซัพพลายเชน
ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด โดยได้ร่วมทุนกับบริษัท ลินฟ้อกซ์ โฮลดิ้งส์ 2018 (ประเทศไทย) เปิดบริษัทบีอาร์เอฟ โลจิสติคส์ จำกัด ภายใต้ชื่อ “BevChain Logistics” เกิดจากทัศนคติและความต้องการสร้างเครือข่ายทางการขนส่ง ที่ทันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างซัพพลายเชนธุรกิจอาหารและศูนย์กลางการผลิตที่ครบวงจร รวมถึงเพื่อการบริหารจัดการและการกระจายสินค้าให้ทั่วถึงทั้งในประเทศและออกสู่ภูมิภาคอาเซียน
.
เสาหลักที่ 6 ธุรกิจอาหาร
ถือเป็นเสาหลักใหม่ของสิงห์ โดยเกิดจากการปรับโครงสร้าง และรวบรวมบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ “อาหาร” ที่เคยกระจัดกระจายมาอยู่ภายใต้บริษัทใหม่ เพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแรงและเดินไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้การดูแลและดำเนินงานของบริษัท ฟู้ด แฟ็คเตอร์ส จำกัด ซึ่งแบ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
- Food Retails หรือธุรกิจร้านอาหาร ประกอบด้วย ร้าน F arm Design, Kitaohji, Est.33 และ Santa Fe
- Product & Production เป็นส่วนที่รับผิดชอบพัฒนาและผลิตสินค้าออกสู่ตลาด ทั้งในรูปแบบของ B2B และ B2C เช่น ข้าวพันดี, Minor Food, Sodexo, ALDI และ King Power
.
ทั้งนี้ ยังมีการก่อตั้ง “Food Innovation Center” หรือ ศูนย์นวัตกรรมในการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด เช่น สินค้าพร้อมรับประทาน และอาหารพร้อมปรุง รวมถึงยังมีการวางแผนอนาคต สร้าง “Food Valley” นิคมอุตสาหกรรมอาหารที่ครบวงจรแห่งแรกทั้งในไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น สถาบันอาหาร SME BANK และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
.
อย่างไรก็ตาม จากกรณีของสิงห์ คอร์เปอเรชั่นข้างต้น ทำให้เห็นแล้วว่า ในยุคปัจจุบันการทำธุรกิจไม่ได้จำเป็นต้องยึดติดหรือพัฒนาแค่ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเพียงธุรกิจเดียว แต่เราสามารถนำความสำเร็จนั้นมาเป็นต้นแบบ มองเห็นโอกาสหรือลู่ทางแล้วนำมาต่อยอดธุรกิจเดิม ให้เกิดธุรกิจใหม่ในเส้นทางอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้ การเติบโตและความมั่นคงให้กับธุรกิจ เช่นเดียวกับที่สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เริ่มต้นและประสบความสำเร็จจากธุรกิจเครื่องดื่ม เช่น เบียร์ โซดา และน้ำสิงห์ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจเดิม จนเกิดธุรกิจใหม่มากมายที่สามารถทำเงินให้บริษัทได้ โดยครอบคลุมธุรกิจแทบจะทุกด้านทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์ ธุรกิจระดับภูมิภาค การขนส่ง ซัพพลายเชน อสังหาริมทรัพย์ และอาหาร
ที่มา : http://www.boonrawd.co.th/index.php/th/about/profile
https://www.singhacorporation.com/th/about-us
http://foodfactors.co.th/vision-food-factors-th/
http://www.bgc.co.th/?r=about/history
https://marketeeronline.co/archives/72463
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#สิงห์คอร์เปอเรชั่น #Singhacorporation
king power คือ 在 NinaBeautyWorld Youtube 的最佳解答
FB Fanpage: https://www.facebook.com/BeautyWorldbyNina
Instagram: NinaPraewpetch
Official Website: http://www.NinaBeautyWorld.com
สาวๆที่กำลังมองหาเซรั่มดีๆซักขวด อยากแนะนำตัวนี้เลยค่ะ "Wild Ferns" เป็นแบรนด์ใหม่ในไทยที่มีต้นกำเนิดมาจาก New Zealand ผลิตภัณฑ์ทุกตัว คือ made in New Zealand 100% นีน่าเพิ่งได้มาลองใช้เซรั่ม Manuka Honey หรือเซรั่มน้ำผึ้งของเค้ามา 1 เดือนเต็มๆ ใช้แล้วชอบมาก ผิวหน้าดีขึ้นมากๆ ที่สำคัญคือแม่ๆที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมลูกสามารถใช้ได้ ส่วนผสมจะมีทั้ง Anti-Oxidant และ Anti-Bacteria ช่วยทั้งเรื่องริ้วรอย ยกกระชับ และช่วยลดปัญหาการเกิดสิวอักเสบได้ด้วย ยังไงลองดูรีวิวและวิธีการใช้เต็มๆแบบละเอียดได้ในคลิปเลยนะคะ
ใครที่สนใจ แบรนด์ Wild Ferns สามารถหาซื้อได้ตามช่องทางด้านล่างเลยนะคะ
1. เคาน์เตอร์จำหน่าย: เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัลพัทยา และ Siam Paragon กำลังจะเปิดเคาน์เตอร์เร็วๆนี้เช่นกัน (ภายในเดือนคุลาคม 2020)
2. ร้าน Healthy Max: สาขา Icon Siam, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ โรงพยาบาลศิริราช
3. ร้าน Health Club: สาขา โรงพยาบาลวิภาวดี, โรงพยาบาลสินแพทย์ และ โรงพยาบาลศิขรินทร์
4. ช่องทาง online: King Power Online, Central Online, Watsons Online, Lazada Mall, JD Central Flagship Store, Official Wild Ferns Online Store (www.wildfernsthailand.com), KTC U-SHOP
king power คือ 在 เชื่อชัย Youtube 的最佳貼文
เชื่อชัย SpokeDark : วันนี้พี่ชัยจะมาแนะนำเซรั่มใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Cathy Doll (เคที่ดอลล์) ซึ่งมีด้วยกัน 3 สูตร คือ สูตร Smooth Blur Ctrl-Pore Serum ซึ่งเป็นสูตรควบคุมความมัน และกระชับรูขุมขนให้เล็กลง โดยมีส่วนผสมของอีฟนิ่งพริมโรส ที่มีคุณสมบัติช่วยลดความมันบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดี และมีสารสกัดจากกวาวเครือขาว ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการสะสมของแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว สูตรที่ 2 คือ Spotlight Shift-White Serum ที่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยน สูตรที่ 3 คือ Babe-Face Youth Space Serum ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวที่อ่อนล้า พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูร่องผิวให้ดูตื้นขึ้น
เซรั่ม Cathy Doll Smooth Blur Ctrl-Pore Serum 30ml. ราคา 690 บาท
เซรั่ม Cathy Doll Spotlight Shift-White Serum 30ml. ราคา 690 บาท
เซรั่ม Cathy Doll Babe-Face Youth Space Serum 30ml. ราคา 690 บาท
ไลน์แอด @karmarts_onlineshop
หรือคลิกลิ้งค์ https://bit.ly/2mpdAxO
สถานที่จำหน่าย
- Watsons
- Karmart Shop
- Eveandboys
- Hej Street Beauty
- Beamtrium
- Tops Market
- Gourmet Market
- Home Fresh Mart
- King Power
Online
- LAZADA
- Shopee
#เซรั่มใหม่ #กระชับรูขุมขน #คุมมัน
king power คือ 在 CarDebuts Youtube 的精選貼文
ต้นแบบ All-New Ford Ranger รุ่นปี 2020 - 2021 ฟอร์ด เรนเจอร์ โฉมใหม่ เจนเนอเรชั่นล่าสุด มันคือ Ford F-250 Super Duty King Ranch 2020
หลังจากที่มีภาพถ่ายที่คาดว่าเป็นรถต้นแบบดินน้ำมันของ Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์ ) เจนเนอเรชั่นใหม่หลุดออกมา ซึ่งพบว่าดีไซน์ของรถกระบะปิกอัพขนาด 1 ตันนี้ ใกล้เคียงกับรถกระบะ full size รุ่นพี่ อย่าง F-250 Super Duty โฉมใหม่ รุ่นปี 2020 ที่เพิ่งเผยโฉมไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน แตกต่างกันก็เพียงในรายละเอียด แต่การวางตำแหน่งและดีไซน์โดยรวม จะไม่หนีกันมากนัก
โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากโคมไฟหน้าเดิมไปเป็นแบบใหม่ รูปตัว C ราวกับว่า Ford พยายามใส่ DNA ของรถกระบะ full size เข้าไปใน Ranger โฉมใหม่นี้ เพื่อใช้ความได้เปรียบในเรื่องของภาพลักษณ์ ตามแบบรถกระบะ full size มาดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมาย ที่อาจจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสรถกระบะขนาดใหญ่ ได้มีทางเลือกที่ใกล้เคียง อย่างน้อยก็ในเรื่องของรูปโฉม
แม้ว่าเรื่องรูปลักษณ์จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ความเป็นรถกระบะขนาดใหญ่ เรื่องของขุมพลังที่ใช้ ต้องบอกว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะ F-Series Super Duty ใช้เครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 SOHC ความจุ 6.2 ลิตร สำหรับรุ่นเริ่มต้น ที่ให้กำลังสูงสุด 385 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 583 นิวตันเมตร
รวมถึงอีก 2 รุ่นเครื่องยนต์ใหม่ คือ เครื่องยนต์ดีเซล Power Stroke V8 ความจุ 6.7 ลิตร เจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งได้รับการอัพเกรดดัวยระบบหัวฉีดใหม่ ให้กำลังสูงสุด 450 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1268 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 7.3 ลิตร ใหม่ล่าสุดแบบ all-new ที่ Ford ยังไม่เปิดเผยตัวเลขด้านสามรรถนะ โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ TorqShift 10 สปีด ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ล่าสุด และรองรับการทำงานในแบบ heavy duty
สิ่งที่ทำให้รถกระบะ full size แตกต่างไปจากรถกระบะขนาด 1 ตันในบ้านเราก็คือ การติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆมาให้แบบจัดเต็ม คือ เหนือชั้นในทุกด้าน ทั้งประสิทธิภาพการขับขี่ สมรรถนะ ความปลอดภัย รวมถึงความสะดวกสบาย
อย่างไรก็ตาม ยังมีเวลาอีก 2-3 ปี กว่าที่ Ford จะเปิดตัว All-New Ranger โฉมใหม่ ถึงตอนนั้น Ford ก็อาจจะส่งมอบความเหนือชั้นจากรถกระบะรุ่นพี่อย่าง F-Series มาให้กับรุ่นน้องอย่าง Ranger ไม่มากก็น้อย