#สมองลูกเกิดอะไรขึ้น_เมื่อคุณอ่านหนังสือให้เค้าฟัง
#บทความส่งเสริมการอ่าน_ตอนที่ 1
.
อ่านหนังสือให้เด็กฟัง เป็นเรื่องที่ดี
หมอคิดว่า พูดเช่นนี้ ใครๆก็คงจะรู้แล้ว😁
หากย้อนกลับไปสัก 50 ปีก่อน
ที่เทคโนโลยี ยังไม่ทันสมัยขนาดนี้
ถ้าเราจะวัดว่า อ่านหนังสือให้เด็กฟังมันดียังไง
ก็คงบอกว่า
เด็กที่พ่อแม่อ่านหนังสือให้ฟัง หรือเด็กที่รักการอ่าน
จะประสบความสำเร็จมากกว่า
(มักจะวัดจาก ผลการเรียน การจบมหาวิทยาลัย คะแนนสอบ ฯลฯ)
ตัวชี้วัด ในงานวิจัยส่วนใหญ่
เป็นเรื่องในอนาคตของเด็กคนนั้น
ซึ่งสำหรับนักวิจัยที่ดี การจะบอกได้ว่า
เด็กคนหนึ่งประสบความสำเร็จได้ดีกว่าอีกคนเป็นเพราะ การอ่านที่มากกว่า
คงต้องตัดปัจจัยกวนทั้งหมดออก
(confounding factors)
ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก เช่น เชื้อชาติ ฐานอารมณ์ของเด็ก สติปัญญาของเด็กเอง รายได้และการศึกษาพ่อแม่ โรงเรียน ฯลฯ
แถมยังมีปัจจัยกวนที่เราไม่สามารถวัดเป็นค่าตัวเลขได้อีกมากมาย
นักวิจัยก็ได้แต่เพียงอนุมานผล
ดังนั้นในงานวิจัยยุคก่อน
แม้ผลจะชัดเจนมากแค่ไหน ก็ยังมีข้อค้านได้
ลองคิดดูดีๆ เด็กที่ได้อ่านหนังสือมากกว่า
เป็นเพราะอะไร??
👉พ่อแม่ให้ความสำคัญกับการอ่าน
👉มีเวลาให้ลูก ไม่ต้องปากกัดตีนถีบ หาเช้ากินค่ำ
👉มีเงินซื้อหนังสือ หรือพ่อแม่ขวนขวายในการหาหนังสือให้ลูกอ่าน
ซึ่งมักจะสัมพันธ์โดยตรงกับ ระดับการศึกษา รายได้ เศรษฐานะของพ่อแม่ (ถ้าเป็นยุคนี้ต้องบอกว่า ความรู้และ mindset) แม้แต่นโยบายรัฐ
.
การศึกษาที่โด่งดังมาก ในอดีต
(งานวิจัยในปี 1960) เป็นที่มาของคำว่า
“ช่องว่าง 30 ล้านคำ” ศึกษาพัฒนาการด้านภาษาในเด็กอายุ 2.5 ปี ใน 42 ครอบครัว
โดยแบ่งครอบครัวเป็น
ฐานะดี ฐานปานกลาง และกลุ่มยากจน
นักวิจัยจะเข้าไปประเมินพัฒนาการด้านภาษาของเด็กทุกเดือน เก็บข้อมูลการเลี้ยงดูอย่างละเอียด
จนเด็กอายุครบ 4 ปี พบว่า เด็กที่อยู่ในกลุ่มฐานะดี เด็กมีคลังศัพท์ 46 ล้านคำ
ในกลุ่มปานกลาง มีคลังศัพท์ 26 ล้านคำ ในขณะที่เด็กที่อยู่ในกลุ่มฐานะยากจน มีคลังศัพท์ 13 ล้านคำ
และนักวิจัยยังรายงานอีกว่า 98%ของคำศัพท์ที่เด็กใช้ คือสิ่งคำที่พ่อแม่ใช้ พ่อแม่พูดคุยกับลูก
(พูดให้ตรงมากขึ้น คือ #เด็กเรียนรู้ภาษาเกือบทั้งหมดผ่านจากปากของพ่อแม่)
หลังจากที่วิจัยนี้ได้เผยแพร่ออกไป ก็ทำให้วงการปฐมวัย สั่นสะเทือนเลยทีเดียว (ไม่ได้เว่อนะคะ🤣)
เพราะนักวิจัยสนใจทำวิจัยเรื่องปฐมวัยมากขึ้น
และรัฐบาลของ US สมัยนั้น
ก็ทุ่มงบประมาณให้กับการพัฒนาด้านปฐมวัยมากขึ้นด้วย
อย่างนั้นก็เถอะ
นักวิจัยรุ่นหลังก็มีข้อกังขาหลายอย่าง
เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมวิจัยน้อยมาก 42 ครอบครัว สามารถเป็นตัวแทนของเด็กทั้งประเทศเลยหรือ?
การเก็บข้อมูลทำอย่างไร นับจำนวนศัพท์อย่างไร? เด็กอายุแค่ 2.5-4 ขวบ
มีคนแปลกหน้าไปสัมภาษณ์ เด็กพูดน้อย ถือว่าเด็กมีศัพท์น้อย? มีข้อสงสัย และข้อโต้แย้งมากมาย
หลังจาก งานวิจัยนี้ ก็มีงานวิจัยเรื่อง
พัฒนาการด้านภาษาในเด็กเล็กเต็มไปหมด
.
สำหรับตัวหมอเองในฐานะนักวิจัย ก็ต้องยอมรับว่า งานวิจัย 30 million gap มีจุดบกพร่องมากมาย
แต่ก็ต้องยกย่องงานวิจัยนี้ เพราะถือว่าเป็น viral information ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้😁😁
.
ตัดมาที่ปัจจุบันเลยค่ะ
ยุคนี้ วิทยาศาสตร์สมอง
มีเทคโนโลยีทันสมัย ไม่ต้องคาดเดา
สามารถถ่ายรูปการทำงานของสมองได้แบบ real time (เอาให้เห็นกันจะจะ😂)
งานวิจัยแรกที่จะเล่าให้ฟัง เป็นงานวิจัยของ Dr. John S. Hutton
เพื่อจะตอบคำถามว่า
❤#สื่อแบบไหนที่กระตุ้นให้สมองเด็กเกิดการเชื่อมโยงด้านภาษาได้มากที่สุด❤
โดยทำการศึกษาในเด็กอายุ 4 ขวบ 27 คน
ให้เด็กแต่ละคน ฟังนิทานเรื่องเดียวกัน จาก 3 สื่อ
และถ่ายภาพสมองเด็กจากเครื่อง fMRI ขณะที่ได้ฟังแต่ละสื่อ
👉นิทานเป็นแบบ animation
👉นิทานเป็นเล่มให้แม่อ่าน
👉นิทานที่มีแต่เสียง
•ผลคือ animation มีข้อมูล ภาพ เสียง การเคลื่อนไหว แค่รับข้อมูลอย่างเดียว สมองเด็กก็ต้องทำงานหนักมากแล้ว เมื่อดูจาก fMRI สมองส่วนอื่น ถูกกระตุ้นอย่างมาก แต่ส่วนที่ควบคุมด้านการเรียนรู้ภาษากลับถูกกระตุ้นน้อย
เพราะสมองเอาพลังงานไปรับข้อมูลที่มากล้น รวดเร็ว จนเชื่อมโยงไม่ทัน เรียกว่า #Too_hot
• นิทานภาพ: สมองของตอนเด็กขณะได้ฟังนิทานภาพ สมองส่วนรับภาพรับเสียงถูกกระตุ้น และพบว่า สมองส่วนภาษาถูกกระตุ้นมากพอกัน
อธิบายได้ว่า เมื่อมีภาพ และมีเสียง ทำให้เด็กเข้าใจ เรียนรู้ และเชื่อมโยงภาษาได้ดี เรียกว่า #just_right
• audio: สมองเด็กตอนฟัง นิทานเสียงไม่มีภาพ สมองถูกกระตุ้นน้อย อาจเพราะมีเสียง แต่ศัพท์บางคำเด็กไม่เคยรู้จักมาก่อน เมื่อไม่มีภาพมาให้ดู ก็ไม่เกิดการเชื่อมโยง เรียกว่า #too_cold
** การศึกษานี้ ตอกย้ำว่า ถ้าจะให้ลูกฟังนิทาน สิ่งที่ดีที่สุดคือ ฟังจากนิทานภาพ และเสียงของพ่อแม่นะคะ*
งานวิจัยที่ 2 ที่หมออยากจะเล่าให้ฟัง
เพื่อจะตอบคำถามว่า
❤ #เด็กที่ได้อ่านต่างกันที่บ้าน_เมี่อมาฟังนิทานจากครูที่โรงเรียนสมองทำงานต่างกันหรือไม่❤
การศึกษานี้ทำในประเทศอังกฤษในเด็ก 3-5 ปี
30 ราย นักวิจัยเก็บข้อมูล ระดับการอ่านของที่บ้านเด็กแต่ละคน
(เวลาที่พ่อแม่อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง, จำนวน ความหลากหลาย)
และแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่มีสิ่งแวดล้อมในการอ่านที่บ้านสูง
และ กลุ่มอ่านน้อย
เมื่อถ่ายภาพสมองเด็กด้วย fMRI ตอนเด็กฟังนิทานจากครูที่โรงเรียน
พบว่าสมองของเด็กกลุ่มสิ่งแวดล้อมอ่านสูง ถูกกระตุ้นมากกว่า เด็กอีกกลุ่มอย่างชัดเจน
(ดูภาพประกอบได้ สีแดง จะเกิดเมื่อบริเวณนั้นของสมองถูกกระตุ้น)
ซึ่งหมอเคยเขียนถึงงานวิจัยนี้เอาไว้ในบทความเรื่อง
#ช่องว่างที่ไม่มีวันตามทัน นะคะ
ลองย้อนกลับไปอ่านกันได้
.
คิดว่าเรื่องที่เล่าวันนี้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่าน
มั่นใจในแนวทางการเลี้ยงดูลูกด้วยหนังสือมากขึ้น
และหมอคิดว่า เราสามารถส่งต่อความรู้นี้ได้
เพราะวิธีการที่ลดความเหลื่อมล้ำ โดยที่พวกเราสามารถสร้างให้ลูกได้เองที่บ้าน
โดยไม่ต้องพึ่งนโยบายใดๆ คือการสร้างความเท่าเทียมให้กับสมองของลูก
ที่ต้องสร้างจากที่บ้าน เพราะถ้ารอให้ถึงอนุบาล....ก็สายไปเสียแล้วจริงๆ
ภาพถ่ายสมองก็บอกคำนี้เหมือนกันค่ะ
.
หมอแพม
ไม่ได้เขียนบทความนานมาก เหตุเกิดจากความเครียด😅
Link
1.วิจัยเรื่อง 30 million gap
https://www.aft.org/sites/default/files/periodicals/TheEarlyCatastrophe.pdf
2. เรื่องชนิดของสื่อนิทานต่อสมองเด็ก
New studies measure screen-based media use in children
https://www.eurekalert.org/pub_releases/2018-05/pas-nsm042618.php
3. เรื่อง สิ่งแวดล้อมของการอ่านในบ้านต่อสมองเด็ก
Home Reading Environment and Brain Activation in Preschool Children Listening to Stories
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/26260716/
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過1萬的網紅TRADERIDER,也在其Youtube影片中提到,แจก Forex EA fibo Swing Traderider ใช้จำกัดความเสี่ยงของการเทรดตาม Fibonacci สวัสดีครับผม วันนี้มี ระบบดีๆที่จะใช้บริการจัดการ คำนวณ ความเสี่ยงในการเท...
new mindset คือ 在 ครูนิดหน่อย Office with mac Facebook 的精選貼文
VIP Group Coaching
แบบออนไลน์ 8 คนเท่านั้น
ผ่านโปรแกรม Zoom
.
ราคาพิเศษ 39,900 เหลือ 29,900 บาท
ถามครูนิดหน่อยได้ตรงประเด็น
วันที่ 9 พ.ค. 2564 เวลา 13:00 - 18:30
ฟรี ! คอร์สออนไลน์
สอนสร้างคอร์สออนไลน์มือใหม่
ด้วยมือถือเครื่องเดียว 2021
มูลค่า 15,900 บาท
.
เหมาะสำหรับ
* คนที่ต้องการเริ่มทำธุรกิจออนไลน์
* คนที่ต้องการวางกลยุทธ์ทิศทางของเพจ
ให้แบรนด์ของคุณชัดเจน
* คนที่ต้องการวางแผนการตลาดออนไลน์
วางเป้าหมายให้ชัดเจน พร้อมกฏการตั้งราคา
(เน้นเฉพาะเรื่องที่คุณสนใจ
ถ้าเน้นสร้างคอร์สออนไลน์
ครูจะวางกลยุทธ์คอร์สให้ทั้งหมด)
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @krunizznoi
https://lin.ee/SXl9NZ1
ชำระบัตรเครดิตได้ ออกใบกำกับได้
พิเศษ ผ่อน 0% 10 เดือน ทุกธนาคาร
---------------------------
NEW ! สอนสร้างคอร์สออนไลน์มือใหม่
ด้วยมือถือเครื่องเดียว 2021
(ฉบับมือใหม่)
.
แหล่งสร้างรายได้ใหม่สุดฮอต
ที่หลายคนอยากทำ
แต่คุณกำลังสงสัยใช่ไหมว่า
แล้วทำยังไง จะทำให้มันขายได้
แล้วเราจะเก่งพอไปสอนใครไหมนะ ?
นิดหน่อยบอกเลยว่า
คอร์สของเรามาเพื่อแก้ปัญหาคน
ไม่ใช่มีมาเพื่อโชว์ความเก่งตัวเอง
แล้วคนเรียนไม่รู้เรื่อง
การสอนคน คือ สอนให้เขาเข้าใจ
นำไปใช้ให้ได้ผล แก้ปัญหาได้ตรงจุด
นั้นแหละ เขาถึง #เต็มใจจ่าย !
.
วันนี้นิดหน่อยมาถ่ายทอดทุกอย่าง
จากที่ทำมาทั้งหมด 4 ปี
เอามาเผยเป็นสูตร สรูปให้คุณเข้าใจง่ายๆ
และใช้ได้กับปัจจุบันนี้ด้วย
แกะสูตร คอร์สเดียว 10 ล้าน
เริ่มต้นจาก macbook
หรือสอนใช้คอมในแบบกลุ่มคนใช้เล็กๆ
ที่หลายคนบอกว่าตลาดเล็ก
แคบ มันจะเป็นไปได้ได้ยังไง
จนนิดหน่อยมีงานบรรยาย
จากบบริษัทต่างๆ งานสปอนเซอร์
ไปจนงาน Consult มากมาย
เริ่มจากสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้
และ คอร์สออนไลน์ที่ช่วยกลุ่มคนเล็กๆ
ยุคนี้ มีมาเพื่อคุณ
ยิ่งคุณคิดว่า เรื่องนี้เล็กมาก
คนจะมาเรียนไหม มันมีวิธี
และนิดหน่อยทำมาแล้ว
.
ทั้งหมดนี้อยู่ในคอร์ส
สอนสร้างคอร์สออนไลน์มือใหม่ ด้วยมือถือเครื่องเดียว 2021
กับตัวอย่างธุรกิจที่หลายคนคิดว่า
เป็นไปไม่ได้แต่ปัง พร้อม
วิธีต่อยอดขยายต่อ
ให้ธุรกิจโต 200% ทุกปี
และบทเรียน สุด Exclusive
#บทเรียน
(แถม) 7 mindset (วิธีคิด)ให้มีหัวใจครูแบบ 100%
1.5 เทคนิคหาของในตัวเองมาทำคอร์ส
2.เทคนิคการเขียนขายคอร์สยังไงให้ได้ราคาดี
3.การวางกลยุทธิ์ให้กับคอร์สตัวเอง และคอร์สต่อไป
4.การทำภาพโปรโมทให้ราคาขึ้น 10 เท่า (เอาความลับมาบอก)
5.สอนตัดต่อวีดีโอสำหรับคอร์ส
6.สอน และ ใช้การตัดต่อยังไง ให้เรียนรู้เรื่องคนเข้าใจง่าย
7.วิธีการสอนคนให้เขาเข้าใจ และเขาได้ใจเรา
8.วิธีการทำบทเรียนให้คนซื้อ
9.วิธีตั้งราคาคอร์สยังไงให้ขายได้แพง
10.วิธีการอัพเซลแบบลูกค้าต้องขอบคุณ
.
#Bonus
11. สอนไลฟ์สวยๆ แบบจัดเต็มได้ทั้ง windows / mac os
รวมถึงเครื่องมือช่วยสอนสด และ สอนออนไลน์
12. เทคนิคต่างๆ ช่วยสอนให้ง่ายขึ้น
บอกแบบหมดเปลือก
เช่น เอาโทรศัพท์ขึ้นคอมยังไงให้สอนง่ายขึ้น
13. วิธีขายในแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างไรให้ได้กำไรสูง ถ้าไม่อยากโปรโมทเอง
14. เซตระบบหลังบ้านยังไงให้ไม่วุ่นวาย ถ้าคนเรียนเยอะ (เผย เทคนิค Facebook,Line ที่นิดหน่อยใช้จริง)
15. 5 วิธีต่อยอดไปเป็นธุรกิจอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อกัน และ ยั้งยืน
.
#คอร์สออนไลน์
ทั้งหมดนี้จาก 19,900 บาท
เหลือ 12,900 บาท เริ่มเรียน 30 เม.ย. 64
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @krunizznoi
https://lin.ee/SXl9NZ1
ชำระบัตรเครดิตได้ ออกใบกำกับได้
พิเศษ ผ่อน 0% 10 เดือน ทุกธนาคาร
new mindset คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最讚貼文
3วิธีทำเป้าหมายให้เกิดขึ้น(ver.หลังปีใหม่)
(และโตก้าวกระโดดอย่างน้อย200%ใน1ปี)
นี่คือสิ่งที่ผมถูกถามบ่อยๆ
ตั้งแต่เริ่มทำงานประจำ
ยันปัจจุบันที่ทำธุรกิจ
รวมถึงหลังๆจะเริ่มมีถามถึงเคล็ดลับว่า
ทำไมพี่น้องในiClass ต่างๆ
โดยเฉพาะในBig Leap
หรือใน 1YearCLUB
ที่หลังๆตลอด2ปีที่ผ่านมา
มีเคสหลายเคสนับรวมๆเป็น100เคสที่หน้าเพจพวกเรา
ที่โตก้าวกระโดดมากกว่า200%ใน1ปี
มีเคล็ดลับอะไร?
---------“อย่าลืมเตรียมกระดาษปากกา
เพื่อจดสูตรนี้ไปใช้นะครับ”
“ผมเคยแชร์เรื่องที่จะเล่าในวันนี้มาแล้ว2ครั้ง
ตั้งแต่ช่วงปีใหม่2021
และปี2020
และมีพี่น้องที่ตั้งใจอ่านและจด
เอาไปปรับใช้กับตัวเค้า
วันนี้รายได้โตเกิน200%แล้ว”
ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
และผมพูดเรื่องนี้อีกครั้งเพราะ....
มันไม่ได้ใช้ได้แค่ช่วงปีใหม่เท่านั้น
มันใช้ได้ทุกช่วงตลอดทั้งปี
“Keyคือคิดได้เมื่อไหร่
รู้เมื่อไหร่ก็ทำเมื่อนั้นเลย”
อย่างช่วงนี้
บางคนกำลังหาลู่ทาง
บางคนทำงานอยู่บ้าน
บางคนมีเวลาให้ตัวเองได้หยุดคิด
และหลายคนอาจจะสามารถใช้จังหวะนี้
ในการเป็นจุดstart จุดแรก
ในการโตก้าวกระโดดในปีนี้
หรือมันกำลังเป็นจุดก้าวกระโดด
ของคุณที่อ่านอยู่บางคนแล้วก็ได้
และเรื่องในวันนี้อาจจะเป็นสปริงบอร์ด
ทวีคูณให้กับคุณเข้าไปอีก
(เดี๋ยวลองอ่านแล้วปรับตามไปเรื่อยๆนะครับ)
—————ในทุกๆปี....
ตลอด10ปีที่ผ่านมา
ผมจะตั้งเป้าหมายปีต่อไป
ล่วงหน้าตั้งแต่ในช่วงก่อนปีใหม่
และผมจะใช้เวลาคิดถึงมันตลอดเวลา
ผมจะให้เวลา
คิดเพลินกับมัน
จนผมชัวส์กับมันว่า....
“มันเป็นเป้าหมายที่ใช่สำหรับผม”
เป้าหมายที่ผมอยากได้จริงๆ(ไม่ใช่ของคนอื่น)
“ที่ผมจะทำให้สำเร็จในปีนี้”
———
ตั้งแต่ช่วงต้นปี
เมื่อผมชัดเจนกับ...
ฝันหรือเป้าหมายของผมแล้ว
ผมจะทำการ....
“เปลี่ยนจากฝัน ให้มันกลายเป็นแผนการ”
นี่จะเป็นช่วงที่ผม
นั่งคิดคำนวณอย่างจริงจัง
“แล้วมันจะกลายเป็นกระดาษ1ใบ”
ที่สรุปแผนการทุกอย่าง
ใช้ลุย10Xไปตลอดทั้งปี”
(รวมถึงปี2021)
ปีที่แล้วแม้สถานการณ์จะไม่ปกติ
เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีใครคาดคิด
แต่ก็เป็นปีที่ธุรกิจผม
โตเป็นกราฟก้าวกระโดดขึ้นแทบจะมากที่สุดในทุกๆปี
และมีการแตกไลน์ในด้านต่างๆ
และรวมถึงเป้าหมายส่วนตัว
————————และเมื่อต้นปี2020
ผมได้แชร์เทคนิคนี้ส่วนนึง
ที่ผมทำไปที่หน้าเพจ
และแชร์อย่างเข้มข้น
ทุกวิธีการให้กับ
พี่น้องในคลาส Big Leap202x -โตปีนี้แบบก้าวกระโดด
และพี่น้องใน1YearCLUB
และปี2020ที่ผ่านมาทั้งปี
ตั้งแต่3-4เดือนแรก
มีพี่น้องเราหลายคน
ทั้งมาบอกส่วนตัวกับผมเอง
และที่ส่งข้อความเข้ามาหากับทีมผมว่า...
ปีนี้เป็นปีที่เปลี่ยนชีวิต
ปีนี้เค้าก้าวกระโดด
ตั้งแต่2-10เท่า
หรือ150-200% ในธุรกิจที่
โตอยู่ตัวอยู่แล้ว
จากการนำสิ่งนี้ไปใช้ตั้งแต่ต้นปี
หลายคนที่สำเร็จ
กลับมาบอกผมว่า
เคยสงสัยมาก
เวลาที่ผมPostว่า1ปี
มันดีพอที่จะก้าวกระโดด
ตอนแรกเค้าก็คิดว่าแค่1ปี
มันจะก้าวกระโดดได้ยังไง?
(เพราะหลายปีที่ผ่านมาทำเต็มที่แล้ว
ก็ขึ้นเป็นขั้นๆ
หรือแทบไม่ขึ้นเลย
นึกถึงการโต1เท่าตัว
หรือ ก้าวกระโดดมากกว่านั้นไม่ออก)
“แต่.....
หลังจากลองทำตาม
ก็ทำได้
และหลังทำได้
วันนี้เค้าเชื่อสุดหัวใจแล้วว่า1ปีมันดีพอ”
“ถ้าเรามีแผนการ”
———แต่ต้องบอกความจริงอย่างนึงว่า....
ก่อนที่ผมจะเป็นคนที่ตั้งเป้าหมาย
แล้วworkทุกปีตลอด10ปีที่ผ่านมา
จริงๆแล้วผมก็เป็นคนที่เคยตั้งแล้ว
ไม่เคยworkเลยมาก่อน555
ผมเลยเข้าใจพี่น้องหลายคน
ที่หน้าเพจ
ที่อยู่ในคลาส
หรือที่เข้ามาปรึกษา
“สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ”
คือ....
“เค้ามีเป้าหมาย”
หรือ....
“สิ่งที่อยากทำเยอะมากใน1ปี”
เช่นปีนี้....
อยากเริ่มทำธุรกิจ
อยากหุ่นดี
อยากขายทางOnlineเป็น
อยากทำเพจ
อยากทำig
อยากอยากฝึกการพูด
อยากฝึกทำคอนเทนต์
อยากฝึกยิงแอด
อยากฝึก....
อยาก......
อยาก...
บางทีจะเป็น10เกือบ20ข้อ
แล้วผลเกิดขึ้นคือ.....
เรา....
พยามจะจัดตารางแบ่งเวลา
ให้ทำได้ทุกอันใน1วัน
เฉลี่ยๆกันไป
งานนี้ทำ7.00-8.00
เป้านี้ต่อ8.00-10.00
พักกินข้าว10.00-10.30
ลุยเป้า...ต่อ10.30-12.00
ผลคือ.....
รู้สึกสนุกช่วงแรกๆ
แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ
เริ่มมีเรื่องอื่นๆเข้ามารบกวนในชีวิตจริง
ก็เริ่มทำไม่ได้ตามแผนตามเวลา
เริ่มFocusไม่ได้
เริ่มไม่ได้ทำเป้าหมายบางอัน
ก็เริ่มเครียด
เริ่มรู้สึกไม่ดี
แล้วก็เริ่มไม่ได้ทำเยอะขึ้นเรื่อยๆ
แล้วก็เริ่มรู้สึกว่า...
“แทบไม่เห็นพัฒนาการอันไหนเลยสักอั้น”
และพอผ่านไปได้ไม่นาน...
ก็หมดพลัง!
สุดท้ายก็หยุด!
หรือ....
ก็เลื่อนเป้าหมายออกไปก่อน
ออกไปปีหน้า
ออกไปเรื่อยๆ
——ผมเคยแชร์ไปในiClass5
ในคลาสTime Management
เรื่องบริหารเวลา
ตั้งแต่5ปีก่อนว่า....
“ถ้าคุณวางแผนเวลาเป็นล็อคๆอย่างนั้น”
“คุณจะรู้สึกผิดกับตัวเองตลอดเวลา”
“คุณจะโกรธเวลาใครมาซ้อนทับเวลาคุณ”
โกรธคนรอบตัว
ที่มาทำให้คุณไม่ได้ทำอย่างที่วางแผน
โกรธตัวเอง
ที่รักษาเวลาให้ทำไม่ได้
และเมื่อมันเป็นแบบนี้
ไปกับเป้าหมายที่1,2,3,4,5
เริ่มมีฝันแล้วfail มีฝันแล้วFailไปนานๆหลายๆที
คุณก็จะเผลอคิดไปว่าตัวเองไม่มีประสิทธิภาพ
หรือหนักเข้าFailบ่อยๆจากที่เคยมั่นใจ
อยู่ดีๆก็พาล
ไม่เชื่อในศักยภาพตัวเองไปเลย
————แต่
สิ่งที่เป็น Game Changer ในชีวิต
หรือสิ่งที่คุณสามารถพลิกเกมส์ได้
คือ.....
“การบริหารกิจกรรม”
(ซึ่งลึกๆเดี๋ยวผมจะไปบอกขยายใน2กราฟถัดไป)
แต่จำคำนี้
“การบริหารกิจกรรม”<<
—————Keyคือ
คุณต้องแยกออกมาก่อน....
อะไรคือเป้าหมายที่สำคัญ
ที่จะเปลี่ยนชีวิต หรือธุรกิจ
ของคุณจริงๆที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
———
แล้วส่วนใหญ่จะพบว่า
ที่เขียนๆกันมา
มันจะเป็นกิจกรรมที่คิดว่าต้องทำซะส่วนใหญ่
แต่ไม่ใช่เป้าหมายจริงๆ
เช่น
อย่างพี่น้องที่เข้ามาปรึกษา
ที่ค้าขายทำธุรกิจอยู่
(ตอนแรกเค้าทำธุรกิจ
แต่หลักๆขายได้ทางOffline
มีเพจOnlineแต่ไม่ได้effectมาก)
ต้นปีที่แล้วเค้าเขียนเป้าหมาย
แล้วปรากฏว่ามีหลายเป้ามาก
เช่น....
ต้อง....
ยิงแอด
ทำเพจ
ทำคอนเทนต์
โตยูทูป
โตไอจี
ทำคลิป
Live
จัดระบบ
สร้างระบบให้ไม่ต้องทำงานแต่ก็อยู่ได้
เพิ่มสินค้า
เพิ่ม.....
…
….
….
….
…
ผมบอกให้เค้าลองคัดเหลือ3-4อย่าง
ที่สำคัญจริงๆ
แล้วก็อย่าเพิ่งเขียนเป็นงานกิจกรรม
ว่าต้องทำอะไรแบบนั้น
(เพราะบางอันมันอาจจะไม่ต้องทำก็ได้)
“ให้เขียนเป็นเป้าหมายที่อยากได้ก่อน”
——————
ผมเลยให้เค้าดูคลิปวีดีโอ Preview ของคลาสBig Leap
(ที่มันมีอยู่หน้าเพจ)
หรือหลายคนที่
อยู่ในคลาสOnline TakeOverรุ่น2019-2020
ตอนปีนั้นผมยังให้คลาสBig Leapเป็นBonusอยู่
ก็บอกให้เค้า
เข้าไปในคลาสBig Leap
แล้วเค้าก็ไปทำตามบทเรียน
Do The math( คำนวณความเป็นไปได้)
ซึ่งในบทเรียนมันจะมีการคำนวณจากจุดที่เค้าเป็นจริงๆ
ไปสู่เป้าหมายในแบบที่ทำได้จริงๆ(ไม่ใช่มโนตั้งลอยๆ)
เค้าก็ทำแล้วดูพื้นฐานความเป็นจริง
ทุกอย่างตามสูตรที่เค้าคำนวณในนั้น
แล้วเค้าสรุปมาได้เป้าหมายที่สำคัญที่สุด3ข้อว่า
1)ต้องการมีรายได้โตขึ้น3-5เท่า
(จาก2ล้าน ไป 6-10ล้าน)
2)วางระบบให้ทีมRunได้ไม่ต้องเฝ้า
3)และก็น้ำหนักกลับมาอยู่.....(45)กิโล
FATไม่เกิน20%
นี่คือสิ่งที่สำคัญกับเค้าจริงๆ
นี่คือเป้าหมายจริงๆ
————ผมก็บอกเค้าว่า...
ข้อ3 เรื่องหุ่นผมคงไม่ได้ช่วยแนะนำนะ
เพราะว่าหุ่นผมเอง เมื่อก่อนคงแนะนำได้
แต่ตอนนี้ก็คงแนะนำใครไม่ได้555
คุณต้องไปหาคนเก่งๆในเรื่องนั้นช่วยแล้วล่ะ
——————แต่ยกตัวอย่างข้อ1
ต้องการมีรายได้โตขึ้น3-5เท่า
(จาก2ล้าน ไป 6-10ล้าน)
ตอนนั้นเค้าดูคลาสbig leapมาแล้ว
สรุป
ได้ทั้งไอเดียในการหาธุรกิจใหม่
จากสิ่งที่ตัวเองเป็น
และไอเดียต่อยอดธุรกิจเดิม
ซึ่งตอนนั้น
เค้าก็ไม่รู้จะFocusอะไรก่อน
และจากบทเรียนเกือบๆสุดท้าย
ในBig Leap
ที่ชื่อว่า wealth Creation Formula
ซึ่งจะเป็นตัวกรอง
ให้เค้าตัดสินใจเลือกได้ถูกต้อง
(ซึ่งแต่ละคนจะได้คำตอบไม่เหมือนกัน)
“และเค้าก็ใช้กระบวนการนั้นกรอง
และคำนวนแล้วสำหรับตอนนั้นว่า....”
จะเลือกต่อยอดจากธุรกิจเดิมก่อน
“เพราะเค้ามีลูกค้าเก่าที่เคยซื้อ
มีข้อมูลลูกค้าในมือ
มีการซื้อซ้ำบ้าง
แต่ไม่ได้มีrelationshipต่อกันเท่าไหร่”
“เค้าคำนวณแล้วว่า
ถ้าเค้าทำตรงนี้ดี
ดูแลลูกค้าเก่าดี”
“ยอดขายจากลูกค้าเก่า
น่าจะมาอีกหลายล้านได้”
เค้าเลยได้คำตอบว่า
ต้องเพิ่มไลน์สินค้าใหม่เข้ามา
และสร้างRelationshipดูแลลูกค้าเก่า
———และOfflineเดิมของเค้า
ก็ยังไปได้ดี
แต่ถ้านักขายเค้าเก่งขึ้น
ก็น่าจะเพิ่มยอดได้อีก
และเค้านวณว่า
ถ้าทำOnlineได้
ทำเพจได้
เพิ่มscaleขายบนOnlineได้
ยอดน่าจะก้าวกระโดดขึ้นมาเลย
—————เค้าเลยวิเคราะห์ออกมาว่า
นี่คือskillจริงๆที่ต้องทำ...
-ต้องศึกษาเรื่องการทำเพจ
-ทำคอนเทนต์
-ทำคลิป
-ยิงads
-และ skillการPresent
-Pitching สินค้าให้น่าซื้อ
แบบนี้6-10ล้านเป็นไปได้
--------เนื่องจากเค้าลุยในกลุ่มรายปีอยู่แล้ว
เลยมีคลาสอื่นๆที่สามารถดูได้ด้วยในมืออยู่แล้ว
ตอนนั้นผมเลยแนะนำไปเป็นชุดๆๆ
(จนเกือบพัง
เดี๋ยวผมเล่าจุดClimaxใน2พารากราฟถัดไป)
——————ตอนนั้นตอนแรก
ผมเลยแนะนำให้เค้าและทีมงานเค้า
“ดูiClass 20 Top Sale
เรื่องของMindset
Thx Economy การขาย
ทำยังไงให้ขายได้อย่างยั่งยืน”
iClass29
“เคล็ดลับเปิดการขายกับคนแปลกหน้า”
ทั้งOffline และOnline
ให้ทีมเค้าเอาไปใช้สำหรับ
การออกไปเจอเปิดใจลูกค้าใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จัก
และเป็นแนวทางในการเปิดใจลูกค้า
ในการทำContentหน้าเพจ
ให้ดูiClass22
“เคล็ดลับหาความต้องการที่แท้จริงกับลูกค้า”
ให้ทีมของเค้าเจาะค้นหา
ความต้องการของลูกค้า
ได้และเอาสินค้าตอบโจทย์ได้ตรงจุด
(ลูกค้าไม่หนี)
และผมก็ให้ตัวเจ้าของ
เค้าดูคลาสOTO
Online Take Over
ทำเพจแบบที่ทำให้ลูกค้าวิ่งเข้าหา
แล้วก็เรียนรู้เรื่องยิงads
และ iClass31 Speak to sell
การPresentขาย กับคนจำนวนมาก
ให้เค้าเอาไว้เวลาไป pitching offline
และเอาไว้เวลาLive
หรือทำ Contentขายสินค้า
—————และความพังก็บังเกิดขึ้น
คำตอบที่ผมเจอจากเค้า
เมื่อต้นปีที่แล้วคือ...
เค้าจัดเวลาแล้ว...
“แต่เอาจริงๆทำไม่ได้”
เพราะแบ่งเวลาทำแบบ....
งานนี้ทำ7.00-8.00
เป้านี้ต่อ8.00-10.00
พักกินข้าว10.00-10.30
ลุยเป้า...ต่อ10.30-12.00
แล้วสุดก็มีเรื่องอื่นมารบกวน
แล้วก็ค่อยๆพังทีละเป้าทีละเป้า
จน
ไม่ได้คืบหน้าไปไหน
————ผมเลยบอกว่า
(นี่แหละประเด็นที่ผมทิ้งไว้ด้านบนแต่แรก)
1)ในiClass5
ผมบอกว่าเราแบ่งเวลาแบบนั้นไม่ได้
มันจะมีโอกาสหลุดสูงมาก
สิ่งที่ต้องทำคือ
“เราต้องบริหารกิจกรรมแทน”
อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
และเราต้องทำความเข้าใจว่า
เราไม่สามารถFocusทุกอย่างได้
———และ.....
2)เข้าใจว่า.....
“บางอย่างเราต้องใช้ความเข้มข้นกับมัน”
“เราถึงจะเป็นมันได้”
เช่น.....
“คุณอยากฝึกทำกับข้าว”
”คุณอยากฝึกขับรถ”
”คุณอยากฝึกเล่นเทนนิส”
”คุณอยากเรียนร้องเพลง”
”คุณอยากเรียนเปียโน”
”คุณอยากเรียนว่ายน้ำ”
เช่นสมมุติคุณอยากจะเรียนเรื่องเหล่านี้
เพราะจะได้ไปเอาใจแขกคุณ
หรือคนที่คุณรักได้
แน่นอน
คุณอยาากจะเก่งทุกอย่างพร้อมกันหมด
”แต่ความจริงคือบางอย่างมันเร่งไม่ได้”
ลองคิดสิว่าถ้าคุณเอาทุกอย่างที่...
สมมุติว่าคุณไม่เป็นมันเลยมาก่อน.....
ไม่เป็นทำกับข้าว
ไม่เป็นขับรถ
ไม่เป็นจับไม้เทนนิส ไม่เป็นทุกอย่าง
ใส่เข้าไปในวันเดียว
มันจะเกิดอะไรขึ้น?
คุณจะเครียดไหม?
คุณจะเก่งไวไหม?
แล้วคุณต้องใช้เวลากี่เดือนกี่ปี?
หรือ....
คุณมีโอกาสเลิกไหม?
นั่นแหละคำตอบ
แต่ถ้ากลับกัน
คุณฝึกทีละอย่าง
เดือนละ1อันอย่างเข้มข้น
จุ่มตัวอยู่กับมัน
อัดกับมัน
จนทำได้
จนเรื่องนั้นไม่ต้องใช้สมาธิกับมันมากแล้ว
เราก็ทำมันได้
เช่น
ขับรถจนชินแล้ว(ฟังเพลงได้ คุยโทรศัพท์ไปด้วยยังได้)
ทำอาหารจนชินแล้ว(ไม่ต้องใช้สมาธิจดจ่อมากมาย)
มันทำได้แบบautoแล้วก็
เก่งอันนึงแล้วไปทำอีกอย่างนึงต่อ
ไปเรื่อยๆ เดือนละอัน 2เดือนอัน
ใน6เดือน1ปี
เป็นได้สูงไหมที่คุณจะทำเป็นทั้ง6อย่าง?
(เห็นภาพไหม?)
—————และ…
3)เอาทุกอย่างที่ต้องทำมาเขียนเรียงไว้
แล้วเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน
อย่างพี่น้อง1yearอีกหลายคน
เช่นหมอปอ น้ำสักคิ้ว หมอหนึ่ง
และอีกหลายๆคนอีกหลายธุรกิจ
ที่ผมแชร์ความสำเร็จหน้าเพจ
จริงๆแล้วเค้าเหล่านี้
มีหลายที่ต้องทำเหมือนกัน
เริ่มจากจุดเริ่มต้นเหมือนคนอื่นๆ
แต่Keyคือเค้า
ก็ค่อยๆFocus ทีละเรื่อง
เช่น เคสนี้....
เป้าหมายคือ....
ที่เล่าไปข้างบน
ต้องการมีรายได้โตขึ้น3-5เท่า
(จาก2ล้าน ไป 6-10ล้าน)
ผมบอกเค้าว่า....
ในเมื่อOfflineมันขายได้อยู่
และมีข้อมูลลูกค้าในมือแล้ว
ก็เริ่มFocusจากการขายก่อนเลย
เพราะมันทำรายได้ๆเร็วที่สุด
——
เนื่องจากเค้าดูคลาสBig leapมาแล้ว
รู้ว่าจะทำอะไรเพิ่ม?
จะเพิ่มสินค้าอะไร?
และมีกลยุทธ์อะไร?
พร้อมลุยแล้ว
แต่ติดเรื่องขาย สื่อสาร
ผมเลยแนะนำให้เค้าและทีมงาน
ดูiClass 20 Top Sale
iClass29
“เคล็ดลับเปิดการขายกับคนแปลกหน้า”
ให้ดูiClass22
“เคล็ดลับหาความต้องการที่แท้จริงกับลูกค้า”
“การตอบinbox”
เดือนแรกFocusแค่นี้ก่อน
(ซึ่งพอเค้าเรียนแล้วทำ
เค้าก็ได้รายได้เลย
จากการfollowลูกค้าเก่าที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย
และส่วนนึงการFollowก็ได้ไอเดีย
ความต้องการของลูกค้า
เพื่อเอามาพัฒนาทำProductต่อด้วย)
—————เดือนที่2
คุณก็Focus
เรื่องProductที่คุณจะทำเพิ่ม
ว่าสรุปแล้วควรเพิ่มหรือไม่
เพื่อserveลูกค้า
หลังจากได้ข้อมูลมา
แล้วเดือนนี้ก็ศึกษา
iClass31 Speak to sell
การPresentยังไงให้โดน
(ซึ่งเค้าก็ได้คำตอบว่า
มันมีอันอื่นที่ลูกค้าเดิมขาดอยู่
เอาไปใช้คู่กับตัวเดิมได้
เค้าก็follow up นำเสนอกับลูกค้าเก่า
“ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก”
และทีมเค้าก็ขายดีขึ้นทันที
เมื่อศึกษาเรื่องPitching
เวลาออกไปพรีเซนต์
หรือโทรไป)
(ช่วงตอนนี้เค้ายังไม่ได้ทำเพจ
ยิงแอด
หรือทำอะไร
ที่จากเดิมคิดว่าต้องทำอีกหลายอย่างเลย
แต่รายได้
ก็มาร่วมเท่าตัวจากเดิมแล้ว)
และเมื่อมันนิ่งแล้ว
ทีมงานก็เก่งขึ้นแล้วก็...
————เดือนที่3
เค้าก็Focus Online
เค้าดูคลาสOTO
Online Take Over
ทำOnline
ทำเพจแบบที่ทำให้ลูกค้าวิ่งเข้าหา
(ช่วงนี้เค้าก็FocusการทำContent
เต็มที่
ทำบทความ
ทำคลิปอย่างเข้มข้น
ตอนนี้เค้าก็ไม่กังวล
เพราะเดือนที่1และ2
ที่เค้าสร้างไว้
มันทำรายได้ๆอยู่แล้ว
————เดือนที่4,5
เค้าก็เรียนรู้เรื่องยิงads
อย่างเข้มข้น
(และตอนนี้มันเริ่มผสมผสานละ
หลายเดือนที่ทำมา
-Followลูกค้าเก่าดี
-ทีมขายOffline หาลูกค้า เปิดใจลูกค้าใหม่เก่ง
-Adminเก่ง มีRelationshipกับลูกค้า
-มีสินค้าใหม่/เดิม serve ลูกค้าเก่า
-ลูกค้าเก่าHappy บอกต่อ
-ได้ลูกค้าใหม่จากOnline)
โตขึ้นทุกๆstep
เดือนที่6,7,8,9,10
ก็มอนิเตอร์อีกที
ว่าต้องทำอะไรเพิ่มหรือปรับ
ให้ได้เป้าหมาย
นี่เป็น1ในเคสที่ถึงเป้าหมาย
ได้ตั้งแต่ไม่ถึงกำหนด
และอีกหลายเคสที่ผมแชร์หน้าเพจ
เมื่อปีก่อน
ก็สำเร็จไวกว่ากำหนด
“เพราะใช้แผนนี้”
———นี่คือเคล็ดลับที่ผมใช้
และแชร์กับพี่ๆน้อง
เวลาจะลุยเป้าหมายแบบ10X
--------1)เวลามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว
---1.1)อย่าแบ่งเวลาเป็นล็อคๆ
เพราะมีโอกาสถูกรบกวนสูง
แล้วจะทำให้เราเลิกทำ
---1.2 อย่าเพิ่งแยกเป็นงานออกมา
เพราะบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องทำ
ให้เอาเป้าหมายหลักก่อน
แล้วค่อยมาทำการบ้าน
ดูว่ามันต้องทำอะไร
---1.3 จดออกมาว่าอะไรที่เราต้องเรียนรู้เพิ่ม
ปีนี้เราต้องศึกษาความรู้เพิ่มเรื่องอะไร
————2)เข้าใจว่า.....
บางอย่าง(เกือบทุกอย่าง)
มันต้องใช้ความเข้มข้นสูง
Focusกับมัน
คุณถึงจะเป็นมันในเวลารวดเร็ว
--------3)เอาทุกอย่างที่ต้องทำมาเรียง
---3.1แล้วเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน
ถ้าต้องเรียน
ก็เรียนรู้ในสิ่งที่สำคัญก่อน
ถ้าเป็นธุรกิจ(ก็คือที่มันสร้างรายให้กับธุรกิจคุณ)
(หรือถ้าคุณไม่ให้ความสำคัญมัน
จะส่งผลต่อธุรกิจคุณได้)
อันนี้ก็ต้องFocusก่อน
---3.2แล้วพอFocusจนเราชำนาญ
ก็ไปเรียนรู้/หรือทำ
อันอื่นๆในListต่อ
ข้อดีของมันคือ
คุณเก่งขึ้นระหว่างทาง
คุณจะได้แต่ละทักษะๆ
และหลายทีๆที่ธุรกิจคุณ
จะมีรายได้เพิ่มหลังจาก
ที่คุณทำทักษะนึงได้
—————และนี่คือเคล็ดลับที่ผมใช้
ที่ผมแชร์ไปกับพี่ๆน้อง หลายคน
รวมถึงใน1yearCLUB
เพราะฉะนั้นในทุกๆปี
ช่วง1-15ม.ค
หลังจากที่ผมได้เป้าหมาย
“ที่ผมจะทำให้สำเร็จในปีนี้แล้ว”
“ผมจะเปลี่ยนจากฝัน ให้มันกลายเป็นแผนการ”
โดยใช้3 ข้อที่ผมบอกกับทุกคนในวันนี้
แล้วความมหัศจรรย์คือ....
มีหลายปีเลย
ที่มันทำได้ก่อนกำหนด
บางเป้าทำได้ตั้งแต่3-4เดือนแรก
เวลามีคนถามว่าเคล็ดลับคืออะไร?
ผมก็บอกว่า .....
หลังตั้งเป้าหมาย Do the mathแล้ว
ว่าเป้าหมายคืออะไร
“ผมก็จะทำ3ข้อนี้อย่างเข้มข้น”
———————
ลองดูครับทุกคน
ปีนี้ผมก็ทำไปแล้ว
ตั้งแต่ช่วงปีใหม่2021
พี่น้องหลายคนก็ทำแล้ว
และมีหลายคน
โต200%แล้วในช่วง4เดือนที่ผ่านมาถึงวันนี้
จากที่ตอนแรกเค้าก็ไม่เชื่อตัวเอง
————และผมว่าช่วง....
ที่เราต้องหยุดกันยาวๆ
เพราะต้องอยู่บ้าน
เพราะเทศกาล
หรือ...
หรือเพราะความจำเป็นในช่วงต่างๆ
นี่เป็นโอกาสดีอีกครั้งนึง
ที่เราจะใช้มัน
เป็นจุดStart
หรือจุดเริ่มต้นในการก้าวกระโดดของเรา
ในปี2021
“ก็ลองดูครับ”
“มันอาจจะจะเปลี่ยนชีวิตคุณในปี2021
หรืออาจจะ4เดือนข้างหน้าก็ได้
“ลองเอาไปใช้กันครับ”
ลุย10X 2021
A10(เอเท็น)
———
และช่วงนี้
ใครที่ตั้งใจแล้วว่าจะลุยจริง
หรือตั้งใจแล้วว่าจะเป็นที่ลุย10x
เพื่อเป้าหมาย
“เพื่อเป็นปีที่ก้าวกระโดด”
“ผมและทีม iClass
ทำPromotion
พร้อมทุกสถานการณ์
Promotion ช่วงสงกรานต์แบบ New Normal
ทุกคลาสลด35% ไว้supportทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
-iCLASS BIG LEAP
(เพื่อให้คุณไปวางแผน โต10Xปีนี้แบบก้าวกระโดด)
-iClass setการขาย
iCLASS20,21,22,29,30
(เพื่อให้คุณและทีมงานนำไปใช้โตยอดขาย)
-iCLASS การ Pitching Present สินค้า
iCLASS 31
(เพื่อยกระดับการนำเสนอProductของคุณ
ให้ยิ่งน่าซื้อน่าสนใจกับคนจำนวนมาก)
-iCLASS การทำ Online
“OTO” Online Take Over
(ทำOnline ทำเพจยังให้ลูกค้าอยากเดินเข้าหา
และเวลาจะซื้อเค้านึกถึงเราเป็นคนแรก)
หรือ iCLASS Classic Collection
iCLASS5 - การบริหารเวลา
iCLASS6- ความมั่นใจ
iCLASS10-การตั้งเป้าหมาย
รายละเอียดแต่ละคลาส
http://mastermindthailand.com/
หรือทักสมัครที่ Line: @iClass
เลือกคลาสที่ต้องการ
เลือกคลาสที่อยากเรียนรู้
ในPromotion
พร้อมทุกสถานการณ์
ช่วงสงกรานต์แบบ New Normal
ลุยครับ
A10(เอเท็น)
iClassUniversity
OnlineTakeOver
1YearCLUB
new mindset คือ 在 TRADERIDER Youtube 的最佳貼文
แจก Forex EA fibo Swing Traderider ใช้จำกัดความเสี่ยงของการเทรดตาม Fibonacci
สวัสดีครับผม วันนี้มี ระบบดีๆที่จะใช้บริการจัดการ คำนวณ ความเสี่ยงในการเทรด ในแต่ละออเดอร์ของเรา นะครับสำหรับ forex Trader ทุกท่านที่ไม่อยากที่จะนั่งคำนวณ Lot คำนวณ Balance คำนวณ ความเสี่ยงในการเทรด โดย EA ตัวนี้ เป็น EA กึ่ง Manaul นะครับ หน้าที่ของมันช่วยในการ คำนวณ Lot และ เปิด Order ตามแผนที่ ทุกท่าน ต้องการไม่ว่า จะแผน Buy หรือ จะ Sell แผน ไหนๆ ก็ใช้ EA ตัวนี้ได้ โดยที่ Risk ของท่านนั้นยังคงที่ ครับไม่ว่า Balance จะมากจะน้อยแค่ไหน ครับ สำหรับ EA ตัวนี้ จะทำงาน ตาม Fibonacci นะครับ เรียกได้ว่าต้องกาง fibo เป็นครับ แต่ถ้าไม่เป็นก็เรียนรู้กันได้ ครับ เรียกได้ว่าช่วย ปรับ Mindset ของ เทรดเดอร์ได้เป้นอย่างดี เพราะ ก่อนที่จะใช้ EA ตัวนี้ได้ ต้องมี
1.จุด Stop loss ท่านจะทราบทันทีว่า Risk ท่านเท่าไหร่ และท่านจะ Loss เท่าไหร่
2.ท่านต้องหาแนวเทรดต้องวิเคราะห์
3. Take Profit ท่านทราบได้ทันทีว่า ท่าน จะมี RR Risk : Reward ที่เท่าไหร่
แจ้งรับ EA ได้ที่นี่เลย นะครับ : https://traderider.com/index.php/topic,8582.msg174841/topicseen.html#new
การเปิดบัญชีเพิ่ม Forex กับ XM.COM สำหรับผู้ที่มีบัญชีอยู่แล้ว สามารถเปิดได้สูงสุด 8 บัญชี ต่อคน แถมได้ Rebate เงินคืน 3$/ 1 Lot ทุกการเทรด Link การเปิดบัญชี XM.com : http://www.xm.com/gw.php?gid=10185 กับ www.traderider.com
การเพิ่มบัญชีเทรด forex XM.com จากบัญชีเดิมที่มี : http://traderider.com/index.php/topic,3242.msg92820.html#msg92820
แจ้งตรวจสอบบัญชีเทรด : http://traderider.com/index.php/topic,1433.0.html
facebook Fanpage : https://www.facebook.com/traderidergroup