กรณีศึกษา โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ระบบฟินแลนด์ แห่งแรกในไทย
ในฟินแลนด์ ครูจะสอนหนังสือ โดยยึดตัวผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
อีกทั้งไม่ใช้กฎเกณฑ์ หรือวางมาตรฐานแบบเดียว ในการวัดผลการเรียนรู้ของเด็ก
การเรียนการสอนแบบนี้ ก็ดูเหมือนจะได้ผลดีทีเดียว
เพราะจากผลการทดสอบของ PISA ครั้งล่าสุด ฟินแลนด์ มีคะแนนอยู่ในอันดับ 8 ของโลก
นอกจากนั้นแล้ว ฟินแลนด์ยังถูกจัดเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกอีกด้วย
และหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในประเทศไทย ก็มีโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนด้วยระบบฟินแลนด์ เป็นแห่งแรกแล้ว ซึ่งโรงเรียนนั้นคือ “HEI Schools Bangkok”
แล้ว HEI Schools Bangkok มีความน่าสนใจอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ระบบการศึกษาของ ฟินแลนด์ เน้นการพัฒนาคุณภาพของครูผู้สอนอย่างต่อเนื่อง
และส่งเสริมให้เด็กมีอิสระในการค้นพบทักษะและความสามารถของตนเอง
อีกทั้งเด็กๆ จะเกิดความเข้าใจ และมีทักษะการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น
ใส่ใจต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ผ่านการ "เล่นอย่างเป็นระบบ"
ซึ่งระบบการสอนรูปแบบนี้ จะมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะทั้งด้านร่างกาย
และสติปัญญาของเด็กๆ แต่ละคน ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นแล้ว ระบบการประเมินนักเรียนของฟินแลนด์ จะไม่มุ่งเน้นการสอบและไม่เน้นการแข่งขัน
การศึกษาของฟินแลนด์จึงไม่มีการสอบ
ด้วยข้อสอบที่วัดผลนักเรียนแต่ละคนด้วยมาตรฐานเดียว
แต่จะมุ่งเน้นการพัฒนาแบบเป็นรายบุคคล ตามความพร้อม ความสนใจ และพัฒนาการทางสมอง ร่างกาย อารมณ์และจิตใจ เป็นสำคัญ
เพราะพวกเขาเชื่อว่า เด็กแต่ละคนมีความถนัดและศักยภาพที่แตกต่างกัน
จึงใช้เกณฑ์เดียวกันในการวัด และประเมินผลการศึกษาของเด็กทุกคนแบบเหมารวมได้ยาก..
จุดเริ่มต้นของการพัฒนาหลักสูตรของ HEI Schools Bangkok มาจากงานวิจัย โดย University of Helsinki
ซึ่งงานวิจัยชิ้นดังกล่าวพบว่า ช่วงวัยที่สำคัญที่สุดต่อพัฒนาการในทุกด้านของมนุษย์ คือ ช่วงอายุ 0 ถึง 7 ปี
จากผลการค้นพบดังกล่าว คณาจารย์จาก University of Helsinki ก็ได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย (Early Childhood Education)
และจัดกลุ่มเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนรู้ ให้กับโรงเรียนในเครือ HEI Schools ทั่วโลก กว่า 30 โรงเรียน ซึ่งรวมถึง HEI Schools Bangkok ด้วย
HEI Schools Bangkok เชื่อว่า
หัวใจหลักของพัฒนาการของมนุษย์
คือการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ และตลอดชีวิต
HEI Schools Bangkok ไม่ได้อ้างอิงหลักการใดหลักการหนึ่ง แล้วนำมาใช้สอนเด็กแค่เพียงรูปแบบเดียว
เพราะการยึดแต่เพียงกรอบใดกรอบหนึ่ง
จะทำให้หลักสูตรการเรียนรู้ ก้าวไม่ทันตามยุคสมัย
HEI Schools Bangkok มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กปฐมวัย ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างเป็นระบบ ที่ยังคงให้ความสนุกสนาน ไปพร้อมกับตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นวิชาการ
และมีโครงสร้างที่ยืดหยุ่นตามพัฒนาการทางสมองของเด็กแต่ละช่วงวัย
โดยเนื้อหาและกิจกรรมจะแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม ได้แก่
ทักษะทางอารมณ์และสังคม, จริยศึกษา, สุขภาพกับสภาพแวดล้อม, การแสดงออกทางกายและวาจา, ทักษะทางภาษาและการสื่อสาร, ทักษะทางวัฒนธรรม, ทักษะคณิตศาสตร์และการคำนวน, วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม, ดนตรีและสุนทรียศาสตร์ และศิลปะกับพัฒนาการทางอารมณ์
กลุ่มการเรียนรู้ทั้ง 10 นี้ มีเป้าหมายในการพัฒนาเด็กๆ ให้มีทักษะที่รอบด้าน
ทั้งด้านร่างกาย, สติปัญญา, อารมณ์, การค้นพบตนเอง, ความถนัด, ความคิดสร้างสรรค์, วุฒิภาวะ, ความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม, การคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา
โดยกระบวนการและกิจกรรมต่างๆ
จะอยู่ภายใต้การดูแลของครูอย่างใกล้ชิด
ซึ่งทำให้ครูได้เห็นพัฒนาการของเด็กแต่ละคน
ว่าควรจะพัฒนาการเรียนรู้ให้เป็นไปในรูปแบบไหน
คุณครูจะทำหน้าที่คอยสอดแทรกการพัฒนาในด้านต่างๆ
ทั้งด้านทักษะทางสังคม การคิดวิเคราะห์ และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
เพื่อให้เด็กๆ สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบันได้อย่างดีที่สุด
ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ HEI Schools ได้รับรางวัลดีเด่นระดับชาติ และนานาชาติอย่างต่อเนื่อง
และได้รับการยอมรับว่า เป็นโรงเรียนที่มีระบบการจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยที่ดีที่สุด
แห่งหนึ่งของโลก
HEI Schools ได้มาเปิดการเรียนการสอนในประเทศไทยแล้ว
ภายใต้ชื่อว่า “HEI Schools Bangkok” ซึ่งได้จัดงานเปิดตัวโรงเรียน Open House ไปแล้วเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา โดยได้ทำการจำลองห้องเรียนขนาดจริง พร้อมอุปกรณ์การเรียนการสอนจริง รวมถึงได้เตรียมกิจกรรมการเรียนที่น้องๆจะได้เรียนในโรงเรียนมาจัดไว้ในงาน โดยมีผู้ปกครองและน้องๆเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 ครอบครัว สามารถติดตามชมภาพบรรยากาศงานได้ที่
https://fb.watch/4KcrXjpGza/
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ HEI Schools Bangkok หลักสูตรฟินแลนด์แห่งแรกในไทย
จะเปิดรับสมัครนักเรียนหลักสูตร Pre-Kindergarten และ Kindergarten สำหรับอายุ 1 ปีครึ่ง ถึง 6 ปี โดยเปิดการศึกษาเป็นปีแรกในเดือน กันยายนปี 2564
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร: 082-002-5555
Email: hello@heibangkok.com
Line: @heibangkok หรือ www.heibangkok.com
หรือเข้าไปติดตามข่าวสารข้อมูลของโรงเรียนได้ที่ https://www.facebook.com/heibangkok/
จากเรื่องนี้เราก็คงจะเห็นได้ว่า หากเราทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้แบบตลอดชีพ หรือ Lifelong learning
และได้เข้าถึงการสอนที่ทำให้เรารู้จักปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของแต่ละคนแบบฟินแลนด์
และถ้าในอนาคตคนไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิธีการเรียนการสอน
ประเทศไทย ก็อาจจะได้ขยับขึ้นจากอันดับที่ 66 ของโลกจาก 79 ในด้านความสามารถทางด้านการอ่าน เลข และคณิตศาสตร์
ในขณะเดียวกันเด็กไทยก็คงจะมีความสุขมากขึ้นด้วย..
References
-https://www.nationthailand.com/news/30379136
-https://schoolinreviews.com/pisa-results-published-in-dec-2019-which-countries-score-the-highest-and-why/
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過39萬的網紅Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่,也在其Youtube影片中提到,บุกภูเก็ต!! เจอห้างเปิดใหม่ ครบวงจร มีบริการทำสด ไม่เสีย Service Charge!! #EatAround EP.138 ห้างใหม่ภูเก็ต! กินเนื้อ-ซีฟู้ดทำสด คุ้มๆ ไม่ชาร์จเพิ่ม! B...
「open house คือ」的推薦目錄:
- 關於open house คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於open house คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於open house คือ 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於open house คือ 在 Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่ Youtube 的最佳解答
- 關於open house คือ 在 Open House คืออะไร? Open... - Open House at Central Embassy 的評價
- 關於open house คือ 在 Open House คืออะไร ? ทำไม The Waffle ต้องทำ - YouTube 的評價
open house คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
WINDSHELL บ้านเดี่ยวในรูปแบบคอนโดใจกลางกรุงเทพฯ
WINDSHELL X ลงทุนแมน
ถ้าหากว่า ตอนนี้คุณกำลังมองหาบ้านสัก 1 หลัง ทางออกของคุณคืออะไร
ซื้อหรือสร้างบ้านเดี่ยวชานเมืองเพราะที่ดินในเมืองราคาสูง หรือไม่ก็หาคอนโดในเมืองอยู่ชั่วคราวเพื่อความสะดวกสบาย แล้วค่อยไปหาบ้านในฝันทีหลัง คนส่วนใหญ่คงคิดคล้ายๆ กันแบบนี้
และนี่คือ ช่องว่าง ที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาฯ
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง “บ้านหลังใหญ่ใจกลางเมือง”คือ ที่อยู่อาศัยในฝันของใครหลายคน
แล้วถ้าบอกว่าเวลานี้ มีบริษัทอสังหาฯ รายหนึ่งมีไอเดียที่จะนำช่องวางตรงนี้
โดยการนำเอา Pain Points หรือจุดด้อยของการอยู่บ้านชานเมือง และจุดด้อยของการอยู่คอนโด
มาสร้างเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ช่องว่างนี้
คือ มีพื้นที่และฟังก์ชันการใช้งานเทียบเท่าบ้านหลังใหญ่ แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวก
ความง่ายในการดูแล ความปลอดภัยและวิวแบบคอนโดไฮเอนด์บนทำเลใจกลางเมือง
โครงการนี้มีชื่อว่า WINDSHELL ตั้งอยู่ติดริมถนนนราธิวาส โดยมี 28 ชั้น สูง 169 เมตร
และมีเพียง 36 ยูนิตเท่านั้น โดยหนึ่งชั้นจะมี 2 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 453 และ 562 ตร.ม. และทั้งสองยูนิตยังสามารถต่อกันเพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยถึง 1,000 ตร.ม. หรือทั้งชั้น
โดยบริษัทผู้พัฒนาโครงการนี้ก็คือ บริษัท วาย แอล พี จำกัด
พอได้ยินแบบนี้ สิ่งที่น่าสนใจน่าจะมี 2 เรื่อง
คอนโดแห่งนี้สร้างความต่าง โดยการเอาจุดด้อยหรือ Pain Points ของการอยู่บ้านและคอนโดมาเปลี่ยนเป็น Solution หรือ สินค้า ที่จะตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการมี "บ้าน" อยู่ในเมืองได้อย่างไร
แล้วการลงทุนครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่
ลงทุนแมน จะวิเคราะห์ให้ฟัง
ถ้าคุณเป็นนักลงทุนอสังหาฯ ชอบดูบ้านและคอนโดอยู่แล้ว
ก็จะคุ้นชินกับสินค้าบ้านและคอนโดในตลาดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้
สินค้าบ้าน มักจะอยู่ชานเมือง ทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางวันละหลายชั่วโมง
เจ้าของบ้านต้องดูแลรักษาเอง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ค่อยปลอดภัย ไม่มีวิว
ส่วนสินค้าคอนโดจะมี Concept การออกแบบคล้ายๆ กันคือเป็นแบบ Glass Box ต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา ทำอาหารกลิ่นแรงและใช้แก๊สไม่ได้ มีที่เก็บของจำกัด ไม่มีที่ตากผ้า ห้องแม่บ้านเล็กมาก ที่จอดรถไม่พอ เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ งานระบบแก้และดูแลยาก เพราะต่อกับชั้นและห้องอื่นๆ
การตกแต่งคอนโดทั่วไป ส่วนใหญ่มีการกั้นห้องหรือ fit out ไว้แล้ว ทำให้ไม่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่าง ไม่มีธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ ไม่มีการระบายอากาศถ่ายเททั่วตัวตึก แถมต้องคอยทาสีและบำรุงรักษาเพื่อให้ภายนอกดูดีอยู่เสมอ
ที่สำคัญพื้นที่ห้องใหญ่ของโครงการไฮเอนด์ ส่วนมากจะอยู่ระหว่าง 250 - 350 ตารางเมตร และมีความสูงของห้องที่ประมาณ 3.2 - 4 เมตร
แล้ว WINDSHELL แตกต่างจากคอนโดทั่วไปในตลาดอย่างไร? หรือแตกต่างจากบ้านอย่างไร?
เนื่องจากคอนโด WINDSHELL ได้รับ concept จากความต้องการ “บ้าน”
ทำให้ 1 ยูนิตมีพื้นที่ใหญ่และสูงเหมือนบ้าน
โดยมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 453 ตารางเมตร และ 562 ตารางเมตร
และยังสามารถ combine กับยูนิตซึ่งอยู่ในชั้นเดียวกันได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 1,000 ตารางเมตร และ มีความสูงต่อชั้นถึง 7 เมตร เหมือนกับการเอาบ้านมาเรียงต่อกันเป็นตึกสูง
ซึ่งโดยภาพรวมห้องที่นี่จะมีพื้นที่กว้างและสูงกว่า
หากเทียบกับห้องขนาดใหญ่สุดของคอนโดหรูทั่วไป
ในด้านโครงสร้าง ทางโครงการใช้นวัตกรรมแบบ Shear Wall
ทำให้ทุกยูนิตสูงโปร่ง แต่แข็งแรง โดยขายแบบห้องเปล่าหรือ Bareshell พื้นผิวเปลือย โชว์ความงามของสัจจะวัสดุ และไม่ต้องคอยดูแลทาสีซ่อมแซม
ซึ่งในความเป็นห้องเปล่านั้น มาพร้อมกับโครงสร้างที่แข็งแรงและงานระบบที่เหนือชั้น
โดยผู้บริหารโครงการ เล่าให้เราฟังว่า “ทางโครงการให้ความสำคัญและลงทุนกับงานก่อสร้างและงานระบบเป็นอย่างมาก ดังนั้นงบประมาณด้านการก่อสร้างและงานระบบของโครงการ WINDSHELL จึงสูงกว่าโครงการอื่นในระดับเดียวกันถึง 30% ทำให้คนซื้อสบายใจได้ว่าจะไม่ต้องวุ่นวายเรื่องงานระบบในภายหลัง ซึ่งเรามั่นใจว่าโครงสร้างและงานระบบที่ยอดเยี่ยม คือจุดเริ่มต้นของการมีบ้านที่ดี”
ในโครงการนี้ ทุกยูนิตยังเป็นแบบดูเพล็กซ์ ที่แบ่งการใช้งานออกเป็น หน้าบ้าน (Front Garden) ที่สูงโปร่ง 6.7 เมตร ตัวบ้าน (House) ซึ่งเป็นดูเพล็กซ์ และหลังบ้าน (Back Garden)
โดยจุดเด่นสำหรับเรา คือ หลังบ้านหรือ Back Garden ที่มีหน้าที่สำคัญเหมือนกับหลังบ้านของบ้านบนดิน คือ เป็นที่วางงานระบบ ที่เก็บของ ตากผ้า ห้องแม่บ้าน ครัวไทยใช้แก๊ส
หรือแล้วแต่ว่าเจ้าของบ้านอยากใช้หลังบ้านอย่างไร และหลังบ้านนี้ ยังเป็นช่องลมของทั้งตึกที่ลมพัดผ่านเพื่อระบายอากาศทั้งโครงการและทุกบ้านไม่ให้อับชื้น ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีในคอนโดไฮเอนด์ทั่วไป
ที่น่าสนใจก็คือ ทุกห้องจะไร้เสาและเป็นแบบ Bareshell หรือห้องเปล่า
ซึ่งจะทำให้เจ้าของมีอิสระในการออกแบบกั้นห้องต่างๆ ตามใจตัวเอง เช่น ชอบทำครัวก็ทำห้องครัวอลังการได้ ชอบดูหนัง ก็สร้างโฮมเธียเตอร์แบบโรงหนังได้
และเนื่องจากทุกชั้นมีความสูง 7 เมตร และมีระเบียงหน้าบ้านและหลังบ้านลึก 1.2 เมตร
ทำให้สามารถกั้นเป็นสวนหย่อม หรือสามารถใส่ต้นไม้ได้สูงถึง 5 เมตร
แล้วยังสามารถทำเป็นบ่อหรือสระน้ำเล็กๆ ในบ้านได้
ทำให้ใกล้ชิดธรรมชาติได้เหมือนอยู่บ้านบนดินจริงๆ
ทุกคนรู้ว่า ที่จอดรถในคอนโดกลางเมืองมีจำกัดและห้ามเลี้ยงสัตว์
แต่ที่นี่มีที่จอดรถ 500% และเลี้ยงอะไรก็ได้ที่ไม่รบกวนเจ้าของบ้านอื่นๆ
นับเป็นการแก้ Pain Points ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว
เพราะหากเราจะซื้อที่อยู่อาศัยในราคาระดับนี้ เราก็อยากให้ทุกอย่างมันถูกใจเรา 100%
ไม่ใช่ถูกตกแต่งมาให้เรียบร้อย ที่เราอาจไม่ค่อยถูกใจกับดีไซน์
และขนาดพื้นที่แต่ละห้องที่กั้นไว้แบบสำเร็จรูปแต่ไม่พอใช้เมื่ออยู่จริง
คราวนี้เราลองมาดูที่ราคา ราคาห้องเปล่า 453 ตร.ม. และ 562 ตร.ม. ของ WINDSHELL
เริ่มต้นที่ 91 ล้านบาท และ 101 ล้านบาทหรือประมาณ 180,000 - 200,000 ต่อตารางเมตร
ซึ่งหากเราจะตกแต่งห้องที่ซื้อ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในราคาเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท ต่อตารางเมตร
(ถ้าทางลูกค้าไม่มีคนสร้างหรือตกแต่งให้ ทางโครงการสามารถแนะนำหรือจ้างให้โครงการทำให้ได้)
เบ็ดเสร็จแล้วราคาขายโครงการนี้เมื่อรวมค่ากั้นและตกแต่งห้องจะอยู่ที่ประมาณ 210,000 - 250,000 บาท ต่อตารางเมตร (ราคาอาจผันผวนตามการตกแต่งและพื้นที่ของห้อง)
ขณะที่คอนโดไฮเอนด์ใจกลางกรุงเทพตกแต่งพร้อมอยู่ราคาเริ่มต้น 3 - 5 แสนบาท ต่อตารางเมตร
อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือทำเลของคอนโดแห่งนี้ที่อยู่ติดริมถนน นราธิวาส ราชนครินทร์
ซึ่งขับรถไปนิดเดียวก็จะถึง ย่านสีลม สาทร หรือจะไปพระราม 4 ก็ขับรถไม่ไกล
และยังใกล้ทางด่วนศรีรัช ที่ขับรถไม่กี่นาทีก็ถึงพระราม 9 ด้านหลังโครงการติดกับซอยเกงชวนในถนนนางลิ้นจี่ ซึ่งเป็นซอยที่เต็มไปด้วยบ้านใหญ่และเงียบสงบ
ทีนี้หลายคนอาจกังวลว่าการอยู่ติดริมถนน
อาจทำให้ตัวเองและคนที่เรารักห่างไกลจากธรรมชาติก็ต้องบอกว่า เราอาจคิดผิด
รู้หรือไม่ว่า พื้นที่ส่วนกลางของ WINDSHELL มีต้นไม้สีเขียวขจีรายล้อมถึงกว่า 800 ตารางเมตร
อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องออกกำลังกาย สวน และสระว่ายน้ำบนดาดฟ้าก็จะเป็นแบบ Open ที่มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและโค้งบางกระเจ้าได้อย่างชัดเจน
หลายคนอาจแย้งว่า แบบนี้ ซื้อที่แถวโครงการสร้างบ้านไม่ดีกว่าหรือ?
หากสร้างบ้านจะต้องใช้งบประมาณที่ดินที่ซื้อขายจริงในโลเคชั่นเดียวกับ WINDSHELL ถ้าซื้อที่ในซอย ไม่ใช่ที่ติดถนนแบบโครงการ ราคาที่ดินในซอยปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 450,000 ต่อตารางวา
และถ้าสร้างเทียบเท่า WINDSHELL โดยบ้านมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียงกัน
คือมีที่จอดรถ 5 คัน, สวน, Fitness และสระว่ายน้ำ จะต้องใช้ที่ดินประมาณ 1 - 2 ไร่
หรือค่าที่ดินอย่างเดียวที่ประมาณ 180 - 360 ล้านบาท ไม่รวมค่าก่อสร้าง ค่าแบบ ค่าตกแต่ง และความจุกจิกอื่นๆ ที่จะตามมา เช่น การหาคนออกแบบ การดูแลการก่อสร้าง การดูแลรักษาบ้าน ความปลอดภัย และอื่นๆ อีก
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด ณ เวลานี้ WINDSHELL ขายไปแล้วถึง 23 ยูนิต
จากทั้งหมด 36 ยูนิต ในเวลาแค่เกือบๆ 1 ปี นับจากโครงการเปิดตัวเมื่อต้นปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยและทั่วโลกเผชิญกับปัญหาโรคระบาดโควิด 19 และมีการ lock down ต่อเนื่อง ทำให้ตอนนี้เหลือยูนิตพร้อมขายแค่ 13 ยูนิต
แนวคิดการสร้างโครงการ WINDSHELL จึงนับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อย
เพราะ ณ วันนี้ ต้องยอมรับว่า ตลาดอสังหาฯ ไฮเอนด์กรุงเทพฯ
ส่วนใหญ่แล้วโมเดลแทบจะใกล้เคียงกันหมด
แต่..หากเราคิดมุมกลับสร้างสิ่งที่เป็น ช่องว่างตลาด ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
แม้ว่าคนที่มีงบประมาณในการซื้อบ้านราคาขนาดนี้อาจไม่ได้มีมากมาย
แต่หากเราสามารถสร้างที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้
เราก็อาจประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขายเหมือนอย่าง WINDSHELL ที่ทำให้เห็นมาแล้ว..
open house คือ 在 Facebook 的最讚貼文
NOC Coffee Co. Thailand — POWWOWWOW BKK (เพาเวาเวา), Ekkamai
📝 : คาเฟ่สัญชาติฮ่องกง เปิดแล้วสาขาแรกในไทย 🇭🇰☕️✨ ที่โครงการ POWWOWWOW เอกมัย ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู มินิมอล แถมยังมีโซน outdoor ให้นั่งชิลได้อีกเพียบ สายฮ็อปเปอร์ต้องชอบแน่นอน
ทางร้านจะมีทั้งเมนูเครื่องดื่ม ขนม และอาหารแบบบรันช์ มื้อหนักก็เป็นพวก toast ต่างๆ หรือ มื้อเบาๆอย่าง yogurt parfiat และ acai bowl
เมล็ด house blend ของทางร้านสาขานี้ ก็จะจับเมล็ดไทย (เชียงใหม่) มาเป็นเบลนด์หลักด้วย เมนูกาแฟดริปก็จะมีเมล็ดให้เลือกหลากหลายขึ้น หรือไม่ทานกาแฟก็ยังมีน้ำส้ม ชาเขียว และช็อคโกแล็ตให้สั่งน้า alterative milk ที่นี่ ใช้เป็น oat milk ด้วย สายโอ๊ตมิลค์ต้องมา!
ส่วนตัวเราว่า house blend ของที่นี่คั่วโปรไฟล์ค่อนไปทางเข้มประมาณนึงเลย แนะนำสั่งเป็น Dirty หรือเมนูกาแฟที่ผสมกับ syrup หน่อย อย่าง Fizzpresso จะโอเคเลย
ขนม signature ของร้านก็จะเป็น Banana Toast โทสต์สไตล์ฮ่องกง เป็นเหมือนขนมปังชุบไข่ แต่ด้านในมีไส้ peanut butter อยู่ ท็อปด้วยกล้วยกับน้ำผึ้งอีกที ส่วนตัวมีอีกหลายเมนูที่น่าลองเลย แต่แอดไม่ได้สั่ง คือ Avotato Toast 🥑กับ Buddah Bowl 🍲 (เมนูพิเศษสำหรับสาขาในไทย)
โครงการจะมีมุม outdoor หลายมุมให้เลือกนั่งทีเดียว ชอบแบบชิลๆหน่อยก็มีเก้าอี้ camping ให้นั่งเล่นได้ด้วย
📣 : ใครเล็งว่าจะไป ร้านเปิดวันแรก เสาร์นี้ (16 Jan 21) ตอน 10โมงน้า สำหรับ 50 คนแรก #รับกาแฟฟรีไปเลย!
☕️ : Dirty 120฿
🥃 : Iced Black 120฿
🥜 : Banana Toast 160฿
🍇 : Acai Yogurt Parfait 200฿
📍 : 10 Suk Chai Alley, Phra Khanong, Khlong Toei, Bangkok
↗️ : โครงการจะอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 40-42 อยู่ลึกเข้ามาในซอยอีกทีนะ ไม่ใช่ริมถนน ใครนึกไม่ออก คืออยู่เยื้องๆกับบ้านส้มตำสาขาพระราม 4 เลย เข้าได้จากสองซอย #ถ้ามาพระราม4 ต้องเข้าซอย 42 เท่านั้น (one way) #ถ้ามาจากสุขุมวิท ต้องเข้าซอย 40 เท่านั้น (one way) ดูป้ายบ้านส้มตำ เลี้ยวเข้าซอยเดียวกันมาได้เลย
🚙 : ✔️จอดที่โครงการ 4-5 คัน และจอดที่คอนโดติดกัน Ideo Mobi ได้ จำนวนจำกัด (ปั๊มบัตรที่รปภ.ได้ฟรี 2 ชม.) ถ้าอยากชัวร์ แนะนำจอดที่ Gateway Ekkamai แล้วเดินเข้ามาแทน 450 ม. เท่านั้น
🕑 : 8:00-18:00 Daily (except the 1st opening day open at 10:00)
For work please contact line “@cafeteller”
Tag @cafeteller and hashtag #CAFETELLER for a chance to get featured
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
#CAFETELLERxRAMA4 #CAFETELLERxEKKAMAI #CAFETELLERxTHONGLO
#noccoffeeco #noccoffeecoth #powpwowwow
open house คือ 在 Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่ Youtube 的最佳解答
บุกภูเก็ต!! เจอห้างเปิดใหม่ ครบวงจร มีบริการทำสด ไม่เสีย Service Charge!!
#EatAround EP.138 ห้างใหม่ภูเก็ต!
กินเนื้อ-ซีฟู้ดทำสด คุ้มๆ ไม่ชาร์จเพิ่ม! By PYPLOY x Praewpuni
ครั้งนี้บินไปไกลถึงภูเก็ตกันเลยทีเดียวจ้า !! มีโอกาสไปภูเก็ตทั้งทีก็ขอไปดูห้างเปิดใหม่สักหน่อย ที่ Porto de Phuket
เป็นห้างแบบ open air ที่ครบเวอร์ๆ ก่อนอื่นเลยมาถึงนี่ก็หิวสิจ๊ะรออะไรต้องบอกเลยว่าที่ Porto de Phuket เค้ามี โซนที่เป็น Food Hall จะเป็นสินค้าที่รวบรวมทั้งของในประเทศและต่างประเทศไว้เยอะมากๆ
โดยจะแบ่งโซนไว้ชัดเจน ชอบสุดๆคือ โซนชีสที่มีให้เลือกหลายประเภทมากๆ เดินแล้วก็งงไปเลยจ้า
แต่ไฮไลท์ของ Food Hall คือ เราสามารถเลือกวัตถุดิบในนั้นและสามารถให้เชฟทำให้ได้เลยจ้า
มีทั้งอาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น เยอะแยะมากมาย และที่สำคัญมีบริการทำสด ไม่เสีย Service Charge นะจ๊ะทุกคน!! ก็เลยจัดมาเพียบ
- หมูกรอบซีอิ๊วดำ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลย
- พอร์คนาโช่ เป็นนาโช่ที่เชฟทำเองทุกอย่างทั้งแป้งก็ทอดเองนะจ๊ะ
- สเต๊กเนื้อเซอร์ลอยน์มีเดียม ต้องบอกเลยว่าเนื้อของที่นี่เค้าซีลมานะจ๊ะไม่ได้ฟรีซ จึงทำให้คุณภาพของเนื้อยังดีอยู่
- ซูชิแซลมอน เลิฟเวอร์ เป็นแซลมอนนอร์เวย์และข้าวจากฮอกไกโด น้ำส้มสายชูอิมพอร์ต
- Beef Bolognese พาสต้า เส้นสด ที่เชฟทำเอง แป้งบินตรงมาจากฝรั่งเศส และเราสามารถเลือกซอสเองได้ อยากเพิ่มเนื้อ เพิ่มชีสอะไรก็จัดไปเลยจ้า
นอกจากนี้ Porto de Phuket เค้ายังสามารถให้เอาน้องหมาน้องแมวมาวิ่งเล่นได้ด้วยนะ และตอนกลางคืนก็ยังมีดนตรีสดไปอี๊ก!!
สุดมั้ยล่ะ นอกจากเราจะพาไป Food Hall แล้วเรายังไม่จุใจไปต่ออีก 2 ร้านเลยจ้า ทั้งร้าน Lady Coco ที่เป็นของหวานเป็นเค้กหน้าตาน่ากินมากๆ
และร้าน Spice House เป็นอาหารรัสเซียที่ขึ้นชื่อของภูเก็ตเลยน้า
นอกจากสองร้านนี้แล้วที่ Porto de Phuket ยังรวบรวมร้านอาหารชั้นนำไว้อีกเยอะมากๆ จะเป็นยังไงไปดูกันเลย!!
พิกัด
Porto de Phuket
ถนน บ้านดอน-เชิงทะเล
ฝากติดตามเพจน้องด้วยนะคะ??
PYPLOY : fb.com/PYPloyEatAround
Praewpuni : fb.com/praewpuni.eatdiary
#EatAround #PortodePhuket #starvingtime #เรื่องกินเรื่องใหญ่
open house คือ 在 Open House คืออะไร ? ทำไม The Waffle ต้องทำ - YouTube 的推薦與評價
Open House คือ อะไร? ทำไม The Waffle ต้องทำ ?เพราะ Open House ครั้งนี้เรามีดีมากกว่าที่คิด. ... <看更多>
open house คือ 在 Open House คืออะไร? Open... - Open House at Central Embassy 的推薦與評價
Open House คือ co-living space บนพื้นที่กว่า 7,000 ตร.ม. บนชั้น 6 ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เราเป็นพื้นที่สำหรับให้ทุกคนมาค้นหาแรงบันดาลใจ อิ่มอร่อยกับอาหารจากร้าน ... ... <看更多>