Trust หรือความเชื่อใจคือหนึ่งในการยอมรับให้เกิดความเสี่ยง แต่การไม่เชื่อใจก็เป็นความเสี่ยงรูปแบบที่มีผลต่อความยั่งยืนในองค์กร องค์กรที่จะขับเคลื่อนต่อไปด้วย Distrust คือองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Process ใส่ Input ไปเท่าไหร่ Output ต้องออกมาตามที่คาดหวังไว้ มี Efficiency เป็นตัวชี้วัดที่จะบอกว่าองค์กรทำสำเร็จหรือไม่
Creativity และ Innovation คือสิ่งที่หายไป และนั่นคือต้นทุนสำคัญที่ Distrust Organization ต้องจ่าย แต่ถ้านั่นไม่ใช่เป้าหมายที่สำคัญขององค์กร ให้จ่ายเยอะแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องที่องค์กรต้องใส่ใจ
คำถามที่น่าสนใจคือ องค์กรของเรามี "Trust" ในกระบวนการบริหารแค่ไหน แล้วเป้าหมายขององค์กรต้องใช้ "Trust" ในระดับไหนในการขับเคลื่อนองค์กร แล้วกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่องค์กรออกแบบมา ไปด้วยกันได้ดีกับการสร้าง Culture of Trust ใช่หรือไม่
เมื่อไหร่ที่องค์กรบอกว่าเราจะใช้ Trust ในการขับเคลื่อนองค์กร นั่นหมายถึงว่าองค์กรให้ Value กับ People มากกว่า Process นี่คือจุดที่สำคัญเพราะถ้าหาก People & Organization Policy, Practice และ Strategy ขัดแย้งกับการที่บอกว่า "Trust คือสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร"
นั่นคืออีกหนึ่งต้นทุนที่เราต้องจ่ายไปโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทน
สิ่งที่องค์กรต้องการในวันนี้ คือ The Right People คนที่เก่งคนที่ใช่ เราใช้เวลาและกระบวนการที่มีต้นทุนในการเลือกคนที่ใช่มาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร เมื่อถึงเวลาที่เค้ามาทำงานให้กับองค์กร องค์กร Control หรือ Empower ให้คนเก่งได้ทำงาน
การแสกนลายนิ้วมือลงเวลาในการทำงาน ยังจำเป็นอยู่มั้ย ถ้าเราบอกว่าเราเลือกคนที่ใช่มาแล้ว ทำไมเราถึงไม่ไว้ใจเค้า หรือจริง ๆ แล้วกระบวนการคัดเลือกของเรา ไม่ได้ดีพอที่จะเลือกคนที่เรา Trust ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของทีม
นี่อาจจะยังเป็นเรื่องเล็ก ๆ
เรื่องที่ใหญ่กว่านั้นในกระบวนการบริหารคือ องค์กรให้คุณค่ากับการ "พูดจริงทำจริง" แค่ไหน ระบบประเมินผลขององค์กร ที่เชือมโยงไปสู่การให้ Reward & Recognition ทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน รวมไปถึงการปรับระดับ แนวทางในการเลือกใครขึ้นมาเป็น Leader ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้เกิด Culture of Trust ใช่หรือไม่
ถ้าไม่ใช่ นั่นหมายความว่าองค์กรคาดหวังให้เกิด Trust แต่ไม่ได้ออกแรงหรือสร้างตัวเร่งให้เกิด ตีความเป็นนัย ๆ คือ ไม่ได้รีบร้อนให้บริหารด้วย Trust
เรื่องจริงคือไม่ใช่ แทบจะทุกองค์กรอยากเดินไปข้างหน้าให้เร็วขึ้น แต่ลืมที่จะมองและสร้างการบริหารด้วย Trust ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ลองเช็คดูง่าย ๆ คือเราฟังกันแค่ไหนเวลาที่เกิดปัญหาหรือมีความขัดแย้งในองค์กร และผลสรุปสุดท้ายของการตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง เราเลือก The Best Solution หรือเราเลือกจากคนที่เสียงดังที่สุด
และแน่นอนว่าองค์กรประกอบที่สำคัญที่ทำให้องค์กรขับเคลื่อนไปด้วย Trust คือ Empowerment ให้กับ The Right People เพราะฉนั้นเราต้องเริ่มจากการเลือก The Right People ที่มีทั้ง Character และ Capability ที่ใช่ ซึ่ง The Right People เองก็ต้อง "พูดจริงทำจริง" และรักษา "ความสม่ำเสมอ" ไว้ให้ได้ภายใต้เงื่อนไขของการกระบวนการบริหารคนในองค์กร
องค์กรที่บริหารแบบไม่เชื่อใจใน The Right Person นั่นก็คือต้นทุนอีกแบบนึงที่เราต้องเสียไปโดยไม่ได้อะไรตอบแทน
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง การไม่ลงทุนก็ทำให้เกิดความเสี่ยง การลงทุนด้วยการบริหารอย่างเป็นระบบและสร้างวัฒนธรรมในความเชื่อใจ จะสนับสนุนและผลักดันให้เกิด Creativity และ Innovation ที่จะส่งผลต่อไปถึงความยั่งยืนขององค์กร และเป็นการบริหาร The Right People ให้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่
กลยุทธ์ นโยบาย กระบวนการในการบริหาร People & Organization สร้างให้เกิด Trust ในองค์กรแล้วหรือยัง
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021
output คือ 在 BorntoDev Facebook 的精選貼文
แอดเชื่อว่า หนึ่งในปัญหาโลกแตกของเด็กไอที ไม่ว่าจะเรียนอยู่หรือว่าจบแล้ว ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่อง “เรียนไอที แต่ไม่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ไปทำไรดี? 😢” เพราะงั้นวันนี้แอดเลยมัดรวม 8 อาชีพน่าสนใจด้าน IT ที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์มาให้ทุกคนอ่าน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย 🔥
.
📊 Data Analyst
เริ่มต้นกันด้วยอาชีพดัง หันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง นั่นก็คือ Data Analyst นั่นเอง โดย Data Analyst จะนำข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลลูกค้า หรือข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาวิเคราะห์และสรุปผล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ปรับปรุง และพัฒนาธุรกิจขององค์กรให้ดียิ่งขึ้น
.
แต่ถึงจะบอกว่าไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ แต่ Data Analyst ก็ยังต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับโค้ดอยู่บ้าง โดยหลัก ๆ ที่มักใช้กันก็จะเป็น Python, SQL หรือ R Programming คู่กับการใช้ Excel และเครื่องมือ Data Visualization ต่าง ๆ เช่น Tableau, Power BI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลค่ะ
.
💼 IT Business Analyst
มักเรียกกันสั้น ๆ ว่า BA เป็นคนที่วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจแบบเจาะลึก เพื่อพัฒนากระบวนการ สินค้าและบริการของธุรกิจ สำหรับสาย IT แล้ว BA เป็นเหมือนตัวกลางระหว่างผู้ใช้งานกับงานฝั่ง Dev โดยจะเป็นคนไปคุยกับผู้ใช้ว่าอยากได้อะไรแบบไหน จากนั้นก็สรุปสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ เพื่อส่งไม้ต่อให้ Dev ว่างานที่ต้องทำนั้น เป็นยังไง ต้องทำอะไรบ้าง มีระยะเวลาเท่าไหร่ ฯลฯ
.
แต่เดี๋ยวก่อน ถึงแม้ Business analyst จะอ่านดูแล้วเหมือนไม่ได้แตะโค้ด แถมดูน่าจะใช้ Soft Skills เป็นหลัก แต่ก็เป็นอาชีพที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างด้าน IT และ Business นะคะ เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ ที่อยากมาทำงานด้านนี้ จะทิ้งความรู้ IT แบบทิ้งไปเลย 100% ไม่ได้น้า :D
.
🖌️ UX Designer
ไปต่อกันเลยกับอีกอาชีพสุดฮอตในตอนนี้ UX Designer เป็นคนที่ต้องทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานและออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience) ให้สินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มีอยู่ในองค์กร (ซึ่งในด้าน IT ส่วนใหญ่ก็เป็นเว็บหรือแอปอะแหละ) เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการ และใช้งานง่ายที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
.
ทักษะที่ UX Designer ต้องมี ก็จะเป็นเครื่องมือที่เอาไว้ทำความเข้าใจผู้ใช้งาน เช่น Design Thinking, Customer Journey, การทำ Wireframe หรือการสร้าง Prototype รวมไปถึงทักษะด้านศิลปะ การออกแบบ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงเรื่องจิตวิทยา ก็เป็นเรื่องที่ UX Designer ต้องให้ความสนใจเหมือนกันนะคะ
.
📋 Project Manager
สำหรับสาย IT แล้ว Project Manager คือคนที่จะทำให้ Project สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะงั้นหน้าที่ก็จะครอบคลุมตั้งแต่วางแผน รับมือกับคน เวลา และงบประมาณ รวมถึงควบคุมการดำเนินงาน เพื่อให้ Project เป็นไปตามขอบเขตที่วางไว้และเสร็จทันเวลาที่กำหนด ซึ่งอันที่จริง ดีเทลย่อย ๆ ก็จะแตกต่างกันไปในงานที่ต้องรับผิดชอบอีกค่ะ
.
ความท้าทายของงานนี้คือ ต้องเข้าใจภาพรวมของงานและทำให้คนในทีมมองเห็นภาพเดียวกัน เพราะงั้นส่วนใหญ่ Project Manager เป็นคนที่มีประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวข้องมาก่อน แต่ก็ไม่แน่น้า บางโอกาสมักมาแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้าเพื่อน ๆ สนใจ ก็สามารถศึกษาข้อมูลเอาไว้ก่อน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมระหว่างรอโอกาสนั้นมาถึงนะคะ
.
📂 Product Manager
ตำแหน่ง Product Manager จะคอยดูแลทุกอย่างของ Product ตั้งแต่วางแผน ไปจนตอนสร้าง และบริหารจัดการ Product นั้น ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด เป็นเหมือน CEO ของแต่ละ Product นั่นแหละ และส่วนใหญ่ก็ต้องมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมาก่อนเหมือนตำแหน่ง Project Manager เลย
.
อ่าน ๆ ไปก็ดูคล้ายกับ Project Manager ใช่ไหม? แต่จริง ๆ แล้ว Product Manager จะโฟกัสที่ “Product” เป็นหลัก ให้ความสำคัญกับ Outcome ในการปรับปรุงและพัฒนา Product ให้ตอบโจทย์ลูกค้า ส่วน Project Manager จะให้ความสำคัญกับ Output และการจัดการทรัพยากรต่าง ๆ อย่างคน เวลา และงบประมาณของการทำ Project ชิ้นนึงมากกว่า
.
🔍 QA Engineer
QA Engineer จะเป็นคนทดสอบเว็บหรือแอปเพื่อหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ก่อนที่จะส่งมอบให้กับผู้ใช้งาน เพื่อให้เว็บหรือแอปนั้น ๆ ทำงานได้ถูกต้อง ไม่มี Bug หรือข้อผิดพลาดมากวนใจผู้ใช้ (หรือมีให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้) โดย QA Engineer ต้องเข้าใจ Requirement จากฝั่งผู้ใช้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะคิด Case ของการทดสอบได้ตรงจุดและครอบคลุม
.
ที่จริงแล้ว ตำแหน่งนี้อาจจะแบ่งได้อีก 2 ประเภทคร่าว ๆ คือ Manual (ทดสอบด้วยมือของคนทำ QA นั่นแหละ) กับ Automation (เขียนโค้ดมาช่วยทดสอบ) ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับองค์กรที่เราอยู่ และซอฟต์แวร์ที่เราทดสอบค่ะ และที่สำคัญ ถึงอาชีพนี้จะเกี่ยวกับซอฟต์แวร์โดยตรง แต่ก็ไม่ได้ใช้ทักษะโปรแกรมมิ่งหนักมากค่ะ :D
.
⚙️ System Admin
คิดถึงอินเทอร์เน็ตในบริษัทให้คิดถึงคนนี้ค่ะ System Admin หรือผู้ดูแลระบบ คือคนที่คอยดูแลรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับระบบเครือข่ายและระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กร ทำตั้งแต่ลง OS ติดตั้ง ดูแลทั้งซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์ในระบบ ไม่ว่าจะเป็นสาย Cable หรือ Server รวมถึงเป็นคนที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับทุกคนในยามคับขัน (เรื่อง Technical Issues) ด้วยค่ะ
.
ซึ่งในไทยเอง ถ้าไม่ใช่บริษัทเฉพาะด้านนี้โดยตรง ตำแหน่ง System Admin อาจจะไปคาบเกี่ยวกับตำแหน่ง Network Admin หรือบางที่ก็ All in one กันไปเลย 😂 แต่งานคร่าว ๆ ของ System Admin ก็จะครอบคลุม 4 คีย์เวิร์ดหลัก ๆ ของระบบ นั่นก็คือ “ติดตั้ง-สนับสนุน-ดูแล-แก้ไขปัญหา” ค่ะ
.
📈 Growth Hacker
เห็นคำว่า Hacker แบบนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าแอดจะชวนไปเจาะระบบใครเขานะ ความจริงแล้วคำว่า Hack เนี่ย มีความหมายประมาณว่า การทำบางอย่างเพื่อจัดการบางสิ่งให้ได้ พอมารวมกับคำว่า Growth เลยหมายถึง การทำยังไงก็ได้ให้บางสิ่งเติบโตเร็วที่สุด ซึ่งหลายแบรนด์ดังก็ใช้ Growth Hacking กับบริการของตัวเองจนมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกัน
.
ถ้าถามว่า คติประจำใจของ Growth Hacker คืออะไร? คำตอบก็คงจะเป็น การพยายามทำให้ธุรกิจเติบโตให้ได้ โดยจะเป็นคนที่จะเฟ้นหาการตลาดหรือกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้า และคอยจัดการกลยุทธ์นั้นให้สำเร็จตามที่หวัง หรือเปลี่ยนเป็นแนวทางที่ดีกว่านั่นเอง
.
เรียบร้อยครบทั้ง 8 อาชีพที่แอดอยากเล่าวันนี้ ที่จริงอาชีพสาย IT ที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์มีอีกเยอะมาก เยอะจนเล่า 3 วันก็ไม่หมด เช่นแอดเองก็จบ IT แล้วมาทำ Content ให้เพื่อน ๆ อ่าน 😆 เพราะงั้นที่เอามาฝากวันนี้ก็เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น (แอบกระซิบว่า แต่ละบริษัท ถึงชื่อตำแหน่งจะเหมือนกัน แต่การทำงานอาจไม่เหมือนกัน เพราะงั้นอ่าน Job Description ตอนไปสมัครงานกันให้ดีน้า)
.
👉 ว่าแต่เพื่อน ๆ พี่ ๆ คนไหน หลังเรียนจบไปทำงานอะไรกันบ้าง มาแชร์ให้น้อง ๆ ฟังกันเร็ววว 🔥
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
output คือ 在 BorntoDev Facebook 的最佳解答
👉 Any และ Unknown เป็นการประกาศตัวแปรแบบไม่กำหนด Type ในภาษา TypeScript ซึ่งตัวแปรจะเป็น Type ใด ๆ ก็ได้นั่นเอง แล้วทั้งสองมันใช้งานแตกต่างกันยังไง มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยจ้า !!
.
🌟 Any - สามารถกำหนดค่าของตัวแปรให้เป็น Type ใด ๆ ก็ได้ ใช้เมื่อเวลาเราไม่สามารถทราบแน่ชัดว่าจะใช้ Type ของตัวแปรเป็นอะไร
.
👨💻 ตัวอย่างโค้ด
let x : number;
let y : any;
y = 'This is string.';
y = 99;
x = y;
console.log(x); // output => 99
.
จากโค้ดกำหนดให้ x เป็น Number และ y เป็น Any ต่อมาให้ y เท่ากับ String และ Number และให้ x เท่ากับ y ดังนั้นค่าของ x จะอิงตาม Type ที่เคยกำหนดไว้ในตอนแรก คือ number นั่นเอง ผลลัพธ์จึงเป็น 99
.
🌟 Unknown - เป็น Type Safe ของ Any ซึ่ง Unknown จะต้องเช็คค่าของ Type ก่อนการนำตัวแปรไปใช้งาน หากค่าไม่ตรงจะเกิด Error
.
👨💻 ตัวอย่างโค้ด
let x : number;
let y : unknown;
y = 'This is string.';
y = 99;
x = y;
.
จากโค้ด x จะ Error ดังนั้นจำเป็นต้องตรวจสอบ Type ให้กับ Unknown ก่อนนั่นเอง
.
let x: number;
let y: unknown;
y = 'This is string';
y = 99;
if(typeof y === 'number') {
x = y;
console.log(x); //output => 99
}
.
🌈 Unknown ดีกว่าการใช้ Any เพราะสามารถแน่ใจว่าตัวแปรนั้น ๆ ที่ได้รับมามี Property ตรงตามความต้องการ เพราะมีการเช็ค Type ก่อน
.
👉 ซึ่งทั้งสองเหมาะกับงานรับ-ส่งค่าจาก API เพราะเราไม่สามารถทราบ Type ของข้อมูลจากต้นทางนั่นเอง
.
พอจะเห็นความแตกต่างของทั้งสองกันแล้วเนอะ เพื่อน ๆ ก็ไปเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานด้วยนะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์น้าาาา 🥰
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน