ความหมายของรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย
ประเทศที่วางหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย (Democracy) จะให้ความหมายรัฐธรรมนูญ ที่คล้ายคลึงกันโดยแยกพิจารณาการให้ความหมายรัฐธรรมนูญของนักกฎหมายต่างประเทศกับนักกฎหมายไทย ดังนี้
การให้ความหมายรัฐธรรมนูญของนักกฎหมายต่างประเทศ
การให้ความหมายรัฐธรรมนูญของนักกฎหมายต่างประเทศที่ประเทศไทยให้การยอมรับและนำมาอธิบายในตำรากฎหมาย ดังนี้
1.พจนานุกรมกฎหมายอเมริกัน ได้ให้ความหมาย คำว่า “รัฐธรรมนูญ” (Constitution) ว่าหมายถึง กฎหมายที่กำหนดกฎเกณฑ์และเป็นพื้นฐานของรัฐ ซึ่งอาจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่เป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้ โดยกำหนดลักษณะและแนวทางเกี่ยวกับรัฐบาล วางหลักการพื้นฐานสำหรับให้รัฐบาลดำเนินการ จัดรูปแบบของรัฐบาลและกำหนดกฎเกณฑ์กระจายและจำกัดบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานและวางหลักในการใช้อำนาจอธิปไตยว่ามีขอบเขตมากน้อยแค่ไหนเพียงไร
2. ดีเธอ กริมม์ (Deter Grimm) ศาสตราจารย์กฎหมายรัฐธรรมนูญชาวเยอรมันและอดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้อธิบายความหมายของของรัฐธรรมนูญจะต้องมีองค์ประกอบด้วย 5 ประการ ดังนี้
ประการที่ 1 รัฐธรรมนูญเป็นกฎเกณฑ์ทางกฎหมาย (Legal norm) ไม่ใช่โครงสร้างทางปรัชญาหรือลักษณะของระบอบการเมืองการปกครอง กฎเกณฑ์ทางหมายมหาชนเช่นว่านั้นเกิดจากการตัดสินใจทางการเมืองของผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญไม่ใช่เกิดจากระบบใดๆที่ดำรงก่อนหน้านั้น
ประการที่ 2 รัฐธรรมนูญเป็นกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่ก่อตั้งสถาบันทางการเมืองทั้งหลายและกำหนดวิธีการใช้อำนาจของสถาบันทางการเมือง รวมทั้งจำกัดการใช้อำนาจของสถาบันทางการเมือง รัฐธรรมนูญจึงเป็นทั้งแหล่งที่มาของอำนาจและเป็นข้อจำกัดการใช้อำนาจด้วย
ประการที่ 3 หลักเกณฑ์และวิธีการใช้อำนาจของสถาบันทางการเมืองทั้งหลายมีได้เท่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ สถาบันทางการเมืองไม่อาจอ้างแหล่งอำนาจอื่นๆใดที่มีมา “ก่อนรัฐธรรมนูญ” หรือแหล่งอำนาจอื่นใดที่มีอยู่ “นอกรัฐธรรมนูญ” ได้ สถาบันทางการเมืองทั้งหลายจึงไม่อาจอ้างประวัติศาสตร์สมัยกษัตริย์ ประวัติศาสตร์สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระเจ้าหรือโบราณประเพณีที่มาก่อนรัฐธรรมนูญหรือนอกรัฐธรรมนูญเพื่อสนับสนุนให้ตนมีอำนาจได้
ประการที่ 4 รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด กฎเกณฑ์ใดที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญย่อมไม่สมบูรณ์ในทางกฎหมาย
ประการที่ 5 ประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญที่ชอบธรรมโดยมีการแบ่งแยกอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญนอกจากอำนาจที่ได้รับมาจากรัฐธรรมนูญ
การให้ความหมายรัฐธรรมนูญของนักกฎหมายไทย
สำหรับในประเทศไทยมีนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงได้อธิบายความหมายของรัฐธรรมนูญไว้ หลายท่านด้วยกัน ได้แก่
1. หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์) อธิบายว่า “กฎหมายธรรมนูญ
การปกครองแผ่นดินเป็นกฎหมายที่บัญญัติถึงระเบียบแห่งอำนาจสูงสุดในแผ่นดินทั้งหลาย และวิธีการดำเนินการทั่วไปแห่งอำนาจเหล่านี้หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่ากฎหมายธรรมนูญ
การปกครองวางหลักทั่วไปแห่งอำนาจสูงสุดในประเทศ”
2. ศาสตราจารย์ ดร.หยุด แสงอุทัย อธิบายว่า รัฐธรรมนูญ “หมายถึง กฎหมายที่กำหนดระเบียบแห่งการใช้อำนาจสูงสุดในรัฐและความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจเหล่านี้ต่อกันและกัน”
3. ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้อธิบายความหมายของรัฐธรรมนูญ หมายถึง เอกสารเกี่ยวกับการปกครองบ้านเมือง อันมีลักษณะเป็นสัญญาประชาคม คือ เป็นกฎหมายสูงสุด
ผูกมัดให้ผู้มีอำนาจปกครองบ้านเมืองใช้อำนาจภายในขอบเขตที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญนั้น
4. ศาสตราจารย์ ดร.สมภพ โหตระกิตย์ อธิบายว่า “ในปัจจุบันคำว่า “Constitution” หรือ “รัฐธรรมนูญ” มีความหมาย 2 นัย คือ ความหมายอย่างกว้างและอย่างแคบ ดังนี้
1) ตามความหมายอย่างกว้าง รัฐธรรมนูญ ได้แก่ ระบบกฎหมายจารีตประเพณี(Customs) และธรรมเนียมปฏิบัติ (Conventions) ซึ่งกล่าวถึง
(1) บรรดาองคาพยพ (Organ) หรือสถาบันการเมืองของรัฐ...ฯลฯ
(2) หน้าที่ขององคาพยพ หรือสถาบันการเมืองของรัฐ...ฯลฯ...
(3) ความสัมพันธ์ระหว่างองคาพยพหรือสถาบันทางการเมืองของเอกชน...ฯลฯ
ความหมายอย่างกว้างนี้ใช้อยู่ในประเทศอังกฤษและหมายถึงรัฐธรรมนูญของประเทศอังกฤษ
2) ส่วนความหมายอย่างแคบ หมายถึง กฎหมายฉบับหนึ่งหรือหลายฉบับ ซึ่งรวบรวมกฎเกณฑ์การปกครองประเทศขึ้นไว้ เช่น การดำรงตำแหน่งประมุขของรัฐ
การทำหน้าที่นิติบัญญัติ หน้าที่บริหาร หน้าที่ตุลาการ ฯลฯ และกฎหมายนี้ได้จัดทำตามวิธีการ
ที่กำหนดเป็นพิเศษ แตกต่างจากกฎหมายธรรมดาและได้รับการยกย่องให้เป็นกฎหมายสูงสุด
ของประเทศ ความหมายนี้ ได้แก่ รัฐธรรมนูญของประเทศต่าง ๆ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเยอรมนี ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย ฯลฯ”
จากความหมายเหล่านี้เราอาจสรุปได้ว่า “รัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย” (Constitutional Democracy) หมายถึง กฎหมายสูงสุดที่ใช้เป็นแนวทางในการปกครองประเทศ วางระเบียบหรือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับรัฐ กล่าวคือ ว่าด้วยดินแดน ประชากร อำนาจอธิปไตยและรัฐบาล ตลอดจนความสัมพันธ์ขององค์กรต่างๆ ที่กำหนดเพื่อทำหน้าที่แตกต่างกันออกไปตาม “หลักการแบ่งแยกอำนาจ” (Separation of Powers) ของแต่ละระบบรัฐบาล และเป็นกฎหมายแม่บทให้อำนาจและการควบคุมอำนาจภายใต้หลักการปกครองแบบนิติรัฐ (Legal State) ที่ยึดหลักนิติธรรม (The Rule of Law)
เอกสารอ้างอิง
1. Black‘s Law Dictionary, 4th Ed p.384 อ้างใน วิษณุ เครืองาม “เอกสารประกอบการสอนชุดวิชา กฎหมายมหาชน” หน่วยที่ 1 - 7” มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2527 หน้า 103.
2.Deter Grimm “The Achievement of Constitutionalism and its Prospects in a Changed World” in the Twilight of Constitutionalism?, edited by Petra Dobner and Martin Loughlin (Oxford University Press,) 2010, p.3-22
3. ปิยบุตร แสงกนกกุล “รัฐธรรมนูญ ประวัติศาสตร์ ข้อคิด อำนาจสถาปนาและการเปลี่ยนผ่าน” นนทบุรี: สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน, 2559 หน้า 12-13
4. โกเมศ ขวัญเมืองและสิทธิกร ศักดิ์แสง “การศึกษาแนวใหม่ : ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป” กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์วิญญูชน, 2549 หน้า 124 - 125
5.หลวงประดิษฐ์ มนูธรรม “คำอธิบายกฎหมายปกครอง” พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.พัฒน์ นิลวัฒนานนท์ กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์นิติเวชช์, 2513 หน้า 4. อ้างใน วิษณุ เครืองาม อ้างแล้วเชิงอรรถที่ 2 หน้า 103.
6.หยุด แสงอุทัย “รัฐธรรมนูญเก่าใหม่และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับประชาธิปไตย” กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แม่บ้านการเรียน, 2502 หน้า 296 อ้างในวิษณุ เครืองาม อ้างแล้วเชิงอรรถที่ 3 หน้า 103.
7.เสนีย์ ปราโมช “ปากฐา เรื่อง การแปลคำประพันธ์ไทยและศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง” กรุงเทพฯ : องค์การค้าคุรุสภา, 2519 หน้า 84
8. สมภพ โหตระกิตย์ “กฎหมายรัฐธรรมนูญ” แผ่นปลิวคำบรรยาย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...