Tropicana แบรนด์น้ำส้มพร้อมดื่ม รายแรกของโลก /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า เมื่อ 70 กว่าปีก่อน เรายังไม่สามารถหาซื้อน้ำส้มพร้อมดื่มที่มียี่ห้อในตลาดทั่วไปได้
เพราะน้ำส้มสมัยก่อนจะนิยมขายแบบเข้มข้น ที่ต้องเอามาผสมน้ำอีกทีถึงจะดื่มได้
จนกระทั่ง Tropicana เป็นผู้คิดค้น “น้ำส้มพร้อมดื่ม” บรรจุกล่องขึ้นมา
เรื่องราวนี้มีความเป็นมาอย่างไร และใครเป็นเจ้าของ Tropicana ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Tropicana เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้ จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ก่อตั้งขึ้นในปี 1947 หรือ 74 ปีที่แล้ว โดยคุณ Anthony T. Rossi
คุณ Rossi เป็นชาวอิตาลี ที่อพยพมาอยู่สหรัฐฯ ตอนอายุเพียง 21 ปี โดยช่วงแรก เขาอาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ทำงานเป็นคนขับรถแท็กซี่และขายของชำ
ต่อมา เขาย้ายไปอยู่รัฐฟลอริดา เนื่องจากมีอากาศอบอุ่นคล้ายกับบ้านเกิดในอิตาลี และหันมาทำธุรกิจร้านอาหาร แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไร
อย่างไรก็ตาม คุณ Rossi ได้เล็งเห็นว่า รัฐฟลอริดามีชื่อเสียงเรื่องผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้มและมะนาว จึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัทชื่อว่า Fruit Industries เพื่อขายผลไม้บรรจุกล่อง
ในระหว่างที่ธุรกิจขายผลไม้ กำลังไปได้สวย
คุณ Rossi ก็พบว่า มีส้มผลเล็ก ๆ เหลืออยู่จำนวนมาก เพราะไม่ถึงเกณฑ์ที่จะไปบรรจุในกล่องได้ ซึ่งเขาไม่ต้องการทิ้งไปเฉย ๆ จึงลองนำมาผลิตเป็นน้ำส้มแบบเข้มข้น ขายเสริมรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
ต้องบอกก่อนว่า น้ำส้มที่วางขายตามร้านค้าทั่วไปในสมัยก่อน จะนิยมทำเป็นน้ำผลไม้เข้มข้นที่ยัง “ไม่พร้อมดื่มในทันที” เพราะต้องนำมาผสมน้ำให้เจือจางก่อนบริโภค โดยมีผู้นำตลาด คือ แบรนด์ Minute Maid
ส่วนน้ำส้มคั้นธรรมชาติ จะถูกจำหน่ายในพื้นที่จำกัดเท่านั้น ไม่มีแบรนด์ที่แพร่หลายในวงกว้าง เพราะเก็บเอาไว้ได้เพียงไม่กี่วัน
ซึ่งตรงจุดนี้ คุณ Rossi มองว่า หากสามารถพัฒนา “น้ำส้มคั้นแบบพร้อมดื่ม” ที่เก็บไว้นานได้ มันก็น่าจะมีตลาดที่ใหญ่มากรอคอยอยู่
จนในปี 1954 เขาก็ศึกษากระบวนการพาสเจอไรซ์น้ำส้มคั้น และนำมาลองใช้ได้สำเร็จ ทำให้ยืดอายุการเก็บรักษาไว้ได้นานถึง 3 เดือน โดยที่รสชาติยังคงเดิม
ทำให้บริษัทของเขา เป็นเจ้าแรกของตลาด ที่วางขายน้ำส้มพร้อมดื่มบรรจุกล่อง ตามชั้นสินค้าของร้านทั่วไปได้ โดยใช้ชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์ว่า “Tropicana Pure Premium”
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการออกแบบตัวการ์ตูนบนกล่องน้ำส้ม เป็นเด็กผู้หญิงถือถาดส้มบนศีรษะ ชื่อว่า Tropic-Ana ซึ่งทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้ น้ำส้ม Tropicana Pure Premium ทำยอดขายถล่มทลาย จนบริษัทมุ่งเน้นธุรกิจน้ำส้มเป็นหลัก และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Tropicana Products, Inc.
ในเวลาต่อมา เมื่อมีความต้องการซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะจากรัฐอื่น ทำให้ Tropicana ต้องเจอความท้าทายในด้านการขนส่งสินค้า
ช่วงแรก บริษัทใช้บริการขนส่งทางรถบรรทุก แต่พอเริ่มมีปริมาณคำสั่งซื้อจากเมืองที่อยู่ห่างไกล จึงเริ่มส่งสินค้าทางเรือด้วย
แต่ในปี 1971 บริษัทก็ตัดสินใจลงทุนระบบขนส่งแบบที่ไม่มีเจ้าไหนเคยทำมาก่อน นั่นคือ การซื้อขบวนรถไฟขนส่งสินค้าหลายร้อยตู้ และบริหารจัดการการเดินรถด้วยตัวเอง
ซึ่งทำให้กระจายสินค้าได้รวดเร็วขึ้น และยิ่งส่งสินค้าทีละมาก ๆ ก็ยิ่งมีต้นทุนต่อหน่วยถูกลง โดยผู้คนในวงการตั้งชื่อเล่นให้กับขบวนรถไฟของ Tropicana ว่า The Great White Juice Train
นอกจากนั้น Tropicana ยังขึ้นชื่อว่าเป็น บริษัทน้ำส้มพร้อมดื่มรายแรกที่สร้างโรงงานผลิตขวดพลาสติก เพื่อบรรจุผลิตภัณฑ์ของตัวเองอีกด้วย
ซึ่งนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ Tropicana คิดค้นขึ้นนั้น ได้เป็นต้นแบบการทำธุรกิจให้กับผู้เล่นรายอื่นในตลาด จนอุตสาหกรรมน้ำผลไม้พร้อมดื่ม เติบโตมาถึงทุกวันนี้
แล้วปัจจุบันใครเป็นเจ้าของ Tropicana ?
หลังจากน้ำส้ม Tropicana ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก็มีผู้สนใจในตัวแบรนด์มาเทกโอเวอร์บริษัท จนเจ้าของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงแทบทุก 10 ปี เลยก็ว่าได้
ปี 1969 บริษัท Tropicana Products จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เป็นบริษัทมหาชน
ปี 1978 คุณ Rossi ผู้ก่อตั้งตกลงขายกิจการให้กับ Beatrice Foods บริษัทอาหารสัญชาติอเมริกัน
ปี 1988 แบรนด์ Tropicana ถูกขายต่อให้กับ Seagram’s บริษัทเครื่องดื่มสัญชาติแคนาดา
ปี 1998 แบรนด์ Tropicana ถูกขายต่อให้กับ PepsiCo บริษัทอาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Lay’s และ Pepsi
ภายใต้การบริหารของ PepsiCo ก็ช่วยส่งเสริมให้ Tropicana กลายเป็นผู้นำตลาดน้ำส้มพร้อมดื่มของสหรัฐอเมริกา โดยครองส่วนแบ่งตลาด 33% นำหน้าคู่แข่งอย่าง Minute Maid ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือของ Coca-Cola ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 24%
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา
PepsiCo ก็ตัดสินใจขาย Tropicana และแบรนด์เครื่องดื่มอื่น ๆ ให้กับ PAI Partners บริษัทเอกชนจากฝรั่งเศส ในราคา 1.1 แสนล้านบาท
โดย PepsiCo และ PAI Partners ไปก่อตั้งบริษัทใหม่ร่วมกันในลักษณะกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ซึ่ง PepsiCo จะยังถือหุ้นในบริษัทใหม่อยู่ 39%
จากเรื่องราวนี้จะเห็นได้ว่า
หากจะเอาตัวรอด และประสบความสำเร็จในธุรกิจได้
มันก็ต้องพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้นตลอดเวลา
เหมือนกรณีของน้ำส้ม Tropicana
ที่ตอนแรกขายน้ำส้มเข้มข้น แบบเดียวกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด
แต่พวกเขาก็ไม่หยุดคิดต่อไปข้างหน้าว่า
จะทำอย่างไร ให้ลูกค้าได้ดื่มน้ำส้มราวกับเพิ่งคั้นใหม่สด ๆ
จะทำอย่างไร ให้ลูกค้าในเมืองห่างไกล ได้ดื่มน้ำส้มอร่อย ๆ อย่างทั่วถึง
ซึ่งการแก้โจทย์เหล่านั้น ทำให้ Tropicana เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดื่มน้ำผลไม้ของผู้บริโภค นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-http://www.fundinguniverse.com/company-histories/tropicana-products-inc-history/
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Tropicana_Products
-https://www.cnbc.com/2021/08/03/pepsico-to-sell-tropicana-and-other-juice-brands-for-3point3-billion.html
同時也有25部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅ĐÔNG NHI,也在其Youtube影片中提到,Đông Nhi - Khóc | Liveshow Ten On Ten #dongnhi #liveshow #tenonten Dong Nhi Official YouTube Channel Starring: Đông Nhi Executive Producer: 6th Se...
pepsi company 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
มหากาพย์ โดริโทส /โดย ลงทุนแมน
ตั้งแต่ลงทุนแมนเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจขนมมา เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่สนุกที่สุด ซึ่งเราจะไม่มีทางเดาได้เลยว่า โดริโทส เกิดขึ้นมาได้อย่างไร จนกว่าจะอ่านบทความนี้จบ
แนะนำให้อ่านดู รับรองว่าจะวางไม่ลง
หลายคนอาจจะคิดว่า Lay’s, Doritos และ Cheetos คือแบรนด์ขนมอบกรอบที่กำลังแข่งขันกันในหลายประเทศทั่วทุกมุมโลก
แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่แบบนั้นเพราะแบรนด์ทั้งหมดนี้ผลิตมาจากบริษัทเดียวกัน นั่นก็คือ “Frito-Lay”
ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือ PepsiCo ผู้ผลิตเป๊ปซี่และเครื่องดื่มชื่อดังอีกหลายยี่ห้อ
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น บริษัท Frito-Lay เกิดมาจากการควบรวมกิจการของ 2 บริษัท
บริษัทแรก ชื่อว่า H.W. Lay & Co. ที่มีผลิตภัณฑ์หลักอย่างมันฝรั่งทอดกรอบยี่ห้อ Lay’s
บริษัทที่สอง ชื่อว่า The Frito Co. ที่ใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบหลักของขนมอบกรอบหลากหลายยี่ห้อ
โดยขนม 3 ใน 4 ยี่ห้อที่ขายดีที่สุดของ Frito-Lay
ซึ่งก็ได้แก่ Fritos, Doritos และ Cheetos ล้วนถูกคิดค้นโดยบริษัท The Frito Co.
แล้วจุดเริ่มต้นของขนมอบกรอบเหล่านี้มีเรื่องราวน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปกว่า 90 ปีก่อน ในช่วงทศวรรษ 1930s ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
ครอบครัว Doolin ได้เปิดร้านขายขนมหวานขนาดเล็กที่ชื่อว่า The Highland Park
โดยมีสินค้าหลักคือไอศกรีม ที่ทางร้านซื้อมาจากซัปพลายเออร์ 2 เจ้า
แต่พอเริ่มกิจการได้ไม่นาน เหล่าซัปพลายเออร์ไอศกรีมก็แข่งกันตัดราคาขายเพื่อแย่งชิงลูกค้า ส่งผลให้ไอศกรีมมีคุณภาพลดลง จนทำให้ยอดขายของทางร้านลดลงตามไปด้วยและยังถูกซ้ำเติมด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ของสหรัฐอมริกา
หนึ่งในลูกชายของครอบครัวนี้ที่ชื่อว่า “Charles Elmer Doolin” จึงพยายามคิดหาไอเดียขนมชนิดใหม่ ที่จะช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์ของทางร้านได้ แต่ยังคงไม่เจอไอเดียที่เจ๋งมากพอ
Doolin ในวัย 29 ปี จึงตัดสินใจไปทำงานที่บริษัทไอศกรีมชื่อดังซึ่งอยู่อีกเมือง
ระหว่างการเดินทาง เขาก็ได้พบเข้ากับร้านขายขนมอบกรอบในปั๊มน้ำมัน
ที่ตัวขนมมีรสชาติอร่อยจน Doolin ติดใจ เขาจึงเปลี่ยนใจมาทำงานที่ร้านแผงลอยแห่งนี้แทน
เจ้าของร้านแห่งนี้เป็นชาวเม็กซิกัน ขายขนมอบกรอบที่เรียกว่า Corn Chips หรือคือขนมแผ่นทอดกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าปรุงรสด้วยเกลือ ซึ่งทำมาจากเมล็ดข้าวโพดที่นำมาบดละเอียดจนคล้ายแป้ง
แต่แม้ว่า Corn Chips จะขายดีมาก เจ้าของร้านชาวเม็กซิกันอยากกลับไปสอนฟุตบอลที่ประเทศตัวเองมากกว่า จึงประกาศขายกิจการ
นั่นจึงทำให้ Doolin สนใจซื้อกิจการต่อในทันที แต่เขามีเงินไม่พอ แต่โชคยังดีที่แม่ของเขาก็สนใจ Corn Chips และมองว่าน่าจะขายดี จึงช่วยสนับสนุนเรื่องเงินให้
Doolin ได้ตั้งชื่อกิจการ Corn Chips ของตัวเองว่า “Fritos” ที่แปลว่า ของทอด ในภาษาสเปน
Fritos ได้กลายมาเป็นกิจการใหม่ของครอบครัว Doolin
โดยเริ่มจากผลิตขนมในครัวที่บ้านและออกไปตระเวนเสนอสินค้าให้กับเจ้าของร้านค้า เพื่อให้วางขาย Fritos ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานยากพอควร เพราะในขณะนั้น Corn Chips ไม่ได้มีเพียง Fritos ยี่ห้อเดียว
แต่ก็คงเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ Doolin ติดใจขนมตัวนี้จนต้องขอเข้าไปทำงานด้วย เพราะสูตรขนมนี้มีรสชาติอร่อย ทำให้ขายดีจนผลิตไม่ทัน
และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ Fritos เปลี่ยนจากกิจการขนมทำมือในครอบครัว มาเป็นการผลิตที่เริ่มใช้เครื่องทุ่นแรง โดย Doolin และพี่ชายที่มีความรู้ด้านเครื่องจักรกลอยู่แล้ว ได้ช่วยกันประดิษฐ์เครื่องบดข้าวโพดอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ผลิตขนมได้เร็วกว่าการใช้เครื่องบดมือแบบเดิม
จนมาถึงช่วงทศวรรษ 1950s กิจการ Fritos ขยายการผลิตจากครัวที่บ้านมาสู่โรงงาน 2 แห่ง ที่เมืองดัลลัสและทัลซา ซึ่งได้ต้นแบบมาจากระบบสายพานที่ Henry Ford นำมาใช้ผลิตรถยนต์ รวมไปถึงได้มีไร่ปลูกข้าวโพดเป็นของตัวเอง เพื่อควบคุมคุณภาพวัตถุดิบสำคัญให้มีรสชาติดีที่สุด
ในช่วงเวลานั้นเอง Doolin ก็เริ่มคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่มาเสริม หลังจากลองผิดลองถูกในครัวที่บ้านอยู่สักพัก ก็ได้ออกมาเป็น “Cheetos” ที่ยังคงทำมาจากข้าวโพดเหมือนเดิม แต่ให้รสสัมผัสที่ฟูกว่า และให้รสชาติด้วยชีสแทนเกลือ
โดย Cheetos ก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมาก จน Doolin อยากขยายตลาดไปทั่วประเทศ
แต่ด้วยกำลังการผลิตที่บริษัทมีอยู่ตอนนั้นยังไม่เพียงพอและยังไม่มีช่องทางจัดจำหน่ายรองรับมากพอ Doolin จึงไปขอเป็นพาร์ตเนอร์กับคุณ Herman W. Lay ที่เป็นเจ้าของบริษัท H.W. Lay & Co.
Lay เริ่มขายมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบในช่วงเดียวกับที่ Doolin เริ่มขาย Fritos แต่ Lay ได้ลงทุนซื้อโรงงานและบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อขยายกำลังการผลิตไปก่อนแล้ว จึงมีความพร้อมในด้านที่ Doolin ต้องการพอดี
ความสำเร็จของ Lay ก็ต้องบอกว่ามาจากความสามารถทางธุรกิจของคุณ Herman W. Lay ที่ทำให้มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบธรรมดาโดดเด่นขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการตลาด โดย Lay คือบริษัทขนมอบกรอบแรก ที่ซื้อโฆษณาทางโทรทัศน์และจ้างพรีเซนเตอร์ที่เป็นเซเลบริตีในปี 1944
หรืออย่างการคิดค้นรสชาติที่หลากหลาย อย่างรสบาร์บิคิวที่เริ่มขายช่วงปลายทศวรรษ 1950s และรสซาวร์ครีมและหัวหอมที่เริ่มขายช่วงปลายทศวรรษ 1970s มาจนถึงปัจจุบันที่ได้พัฒนารสชาติไปแล้วมากกว่า 200 รส
หลังจากได้เป็นพาร์ตเนอร์กับ H.W. Lay & Co. แล้ว Cheetos จึงได้เริ่มวางขายไปทั่วประเทศในปี 1948
และความสำเร็จของ Cheetos ก็ได้ทำให้ในปี 1961 บริษัท Fritos และ H.W. Lay & Co. ตัดสินใจควบรวมกิจการกัน และใช้ชื่อใหม่ว่า “Frito-Lay”
ก่อนที่ปี 1965 Frito-Lay จะควบรวมกิจการกับบริษัท Pepsi-Cola ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น PepsiCo ในปัจจุบัน
และนับตั้งแต่นั้นมา Frito-Lay ก็ถือเป็นบริษัทในเครือ PepsiCo นั่นเอง
แต่นอกจากโรงงานผลิตขนมอบกรอบแล้ว Doolin ยังสนใจเปิดร้านอาหารด้วย
ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ Disneyland เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการพอดี
Doolin จึงเลือกเปิดร้านอาหารในสถานที่แห่งนี้
ในปี 1955 กิจการร้านอาหารมีชื่อว่า Casa de Fritos จึงเริ่มต้นขึ้น
โดยเน้นขายอาหารแนวฟิวชันเม็กซิกันอเมริกันและมีเมนูที่ใช้ Fritos เป็นส่วนประกอบหลักอยู่ด้วย
ส่วนวัตถุดิบหลักชนิดอื่นอย่างเช่นแป้งตอร์ติยา ทางร้านเลือกซื้อจากบริษัท Alex Foods
อยู่มาวันหนึ่งในปี 1960 พนักงานขายจาก Alex Foods เห็นว่าทางร้านต้องทิ้งแป้งตอร์ติยาที่ไม่สดแล้วในปริมาณมาก
พนักงานขายคนนั้นเลยขอลองเอาแป้งตอร์ติยาเหล่านั้นมาตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมขนาดพอดีคำ
แล้วนำไปทอด และพอได้ลองชิม ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย
เพราะแป้งตอร์ติยานั้น แม้จะทำมาจากข้าวโพดเหมือนกัน
แต่ถูกนำไปอบมาแล้ว พอนำมาทอดจึงให้รสสัมผัสที่กรอบกว่า Fritos
ร้าน Casa de Fritos จึงนำแป้งตอร์ติยาทอดไปใส่เป็นเมนูประจำ ซึ่งก็ได้รับความนิยมมาก
ซึ่งผู้ที่เล็งเห็นกระแสตอบรับที่ดีนี้ก็คือคุณ “Arch West” ที่เพิ่งเริ่มทำงานเป็นผู้บริหารด้านการตลาด ให้ Fritos ในปีนั้นเอง
และการที่คุณ Arch West ได้มาเจอกับแป้งตอร์ติยาทอดกรอบทรงสามเหลี่ยม ก็ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ที่ทำให้รายได้ของบริษัท เปลี่ยนจากหลักพันล้านบาทมาเป็นหมื่นล้านบาท
ในตอนนั้นบริษัท Frito-Lay มีสินค้าหลัก 4 ยี่ห้อ นั่นก็คือ Fritos, Cheetos, Ruffles และ Lay’s ที่สร้างรายได้ให้บริษัทราว 4 พันล้านบาทต่อปี
West เล็งเห็นโอกาสในแป้งตอร์ติยาทอดกรอบ ที่น่าจะกลายมาเป็นสินค้าขายดีชนิดใหม่ได้
จึงเสนอไอเดียนี้ให้กับทางบริษัท และตั้งชื่อว่า “Doritos” และเริ่มขายในปี 1966 ด้วยรส Toasted Corn
West ยังสังเกตว่าขนมของ Frito-Lay ในขณะนั้นส่วนใหญ่จะเป็นรสธรรมดา ซึ่งก็คือเกลือและชีส
เขาจึงอยากสร้างความแตกต่างให้กับ Doritos ด้วยการปรุงรส
ไอเดียสุดล้ำที่ West ไปนำเสนอก็คือ Doritos รส Taco หรือ ตาโก
ซึ่งเป็นชื่ออาหารเม็กซิกันชนิดหนึ่ง นั่นจึงทำให้เขาโดนหัวเราะใส่
เพราะทุกคนบอกว่านั่นมันเป็นชนิดอาหาร ไม่ใช่รสชาติ
ซึ่งที่รสตาโกดูเป็นเรื่องตลกในสมัยนั้นก็เพราะว่าเทคโนโลยีด้านรสชาติยังไม่ค่อยก้าวหน้า
คนอเมริกันเพิ่งเริ่มรู้จักขนมอบกรอบอยู่ไม่กี่รสชาติ เช่น รสบาร์บิคิวและซาวร์ครีม
แต่ต้องขอบคุณความไม่ย่อท้อของ West ที่ยังคงผลักดันและหาทางทดลองจนทำให้เกิด Doritos รสตาโกขึ้นมาได้สำเร็จ และกลายมาเป็นรสชาติที่สร้างความตื่นเต้นไปทั่วสหรัฐอเมริกา ทันทีที่เริ่มขายในปี 1967
ซึ่งรสตาโกนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารสชาติต่อมาของ Doritos อย่างรส Nacho Cheese หรือก็คือ Doritos ซองสีแดงที่เราคุ้นเคย ที่เริ่มผลิตในปี 1972 และกลายเป็นรสชาติเอกลักษณ์ของ Doritos มาจนถึงปัจจุบัน และ Doritos ก็ได้กลายมาเป็นขนมขายดี 3 อันดับแรกของบริษัท Frito-Lay
ปัจจุบัน Frito-Lay มีขนมกว่า 29 ยี่ห้อ ที่สร้างรายได้ต่อปีกว่า 5 แสนล้านบาท
คิดเป็น 25% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท PepsiCo
ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าจากการออกเดินทางของ Doolin ที่ต้องการหาไอเดียพัฒนาแบรนด์ขนมเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว ได้กลายมาเป็นบริษัทเจ้าของขนมอบกรอบอย่าง Frito-Lay ที่ขายดีทั่วทุกมุมโลกและสามารถครองใจผู้บริโภคมาได้อย่างยาวนาน
ปิดท้ายด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ
Cheetos ที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1948 แต่รู้หรือไม่ว่ารสชาติที่ขายดีที่สุด ก็คือรส Hot Cheetos
คิดค้นโดยภารโรงที่มีชื่อว่า Richard Martinez
Martinez เป็นชาวเม็กซิกันที่เลิกเรียนต่อตอน ป.4 เพราะอ่านเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้
เมื่ออายุ 18 ปี เพื่อนของเขาก็ได้ชวนมาทำงานเป็นภารโรงในโรงงานของ Frito-Lay
CEO ของทางบริษัทในขณะนั้น ได้มีนโยบายให้พนักงานทุกคนทำงานเหมือนกับตัวเองเป็นเจ้าของกิจการซึ่งพอทาง Martinez ปิ๊งไอเดียรส Hot Cheetos ขึ้นมา เขาก็ได้โทรไปหาเลขาฯ CEO
โดย CEO ก็รับฟังแต่โดยดีและก็ได้นำไปพรีเซนต์ให้กับทีมผู้บริหารฟัง
สรุปแล้ว ไอเดียของ Martinez ได้รับผลตอบรับดีถล่มทลาย จนสามารถขยายการผลิตไปได้ ทั่วประเทศ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.com/doritos-are-from-disneyland-garbage-the-surprising-history-2014-5
-https://www.insider.com/fun-facts-about-cheetos-snacks-2020-7
-https://www.insider.com/lays-fun-facts-potato-chips-2018-11
-https://www.mashed.com/233073/the-untold-truth-of-fritos/
-https://www.fritolay.com/about-frito-lay/company-story
-https://en.wikipedia.org/wiki/Frito-Lay#H.W._Lay_&_Company
-https://www.foodbusinessnews.net/articles/17933-snacks-success-helps-offset-beverage-challenges-at-pepsico
pepsi company 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
“การลุ้นรางวัลใต้ฝา” ที่นำไปสู่ความรุนแรง ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ /โดย ลงทุนแมน
สงครามการตลาดระหว่างโค้กกับเป๊ปซี่ ดำเนินมาอย่างยาวนานและดูท่าว่าจะไม่มีวันจบลง
เราจึงยังได้เห็นสองแบรนด์นี้ งัดกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อชิงฐานลูกค้ากันไปมาอยู่เป็นระยะ
หนึ่งในแคมเปนที่อยู่คู่กับการแข่งขันของตลาดโคลาก็คือ “การลุ้นรหัสใต้ฝา”
ที่ช่วยเร่งกระตุ้นยอดขายจากการจูงใจให้เราสะสมฝาเครื่องดื่มที่มีรหัส
เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดีที่จะได้รับเงินรางวัลก้อนใหญ่
แต่รู้หรือไม่ว่าแคมเปนลุ้นโชคใต้ฝา ก็ไม่ได้เป็นไปได้ด้วยดีเสมอไป
เพราะเป๊ปซี่เคยได้ใช้แคมเปนนี้ที่ประเทศฟิลิปปินส์
แต่มันกลับนำไปสู่ความหายนะครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแคมเปนลุ้นรหัสใต้ฝาเป๊ปซี่ในฟิลิปปินส์ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปราว 30 ปีก่อน ผู้บริหารเป๊ปซี่ได้เดินทางไปสำรวจตลาดเครื่องดื่มโคลาในหลายประเทศ
แต่ก็ต้องพบกับข้อเท็จจริงที่ว่าตัวเองแพ้คู่แข่งอย่างโค้กแบบขาดลอย
ในขณะเดียวกัน เป๊ปซี่ก็พบว่าแคมเปน “Number Fever” หรือ “ลุ้นรหัสใต้ฝา” ประสบความสำเร็จในประเทศสหรัฐอเมริกา
เป๊ปซี่จึงตัดสินใจใช้แคมเปนแบบเดียวกันนี้ในการกระตุ้นยอดขายเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดโคลาในต่างประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศฟิลิปปินส์ ที่เป๊ปซี่มีส่วนแบ่งตลาดโคลาอยู่ไม่ถึง 20%
ขณะที่โค้กครองส่วนแบ่งอยู่กว่า 70%
เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1992 เป๊ปซี่จึงประกาศแคมเปนลุ้นรหัสใต้ฝา
โดยจะพิมพ์เลข 3 หลักไว้ใต้ฝาของขวดเป๊ปซี่และเครื่องดื่มยี่ห้ออื่นในเครือ
และจะประกาศผลรหัสที่จะถูกรางวัลในอีก 3 เดือนข้างหน้า
ซึ่งเงินรางวัลจะเริ่มตั้งแต่ 100 เปโซ ไปจนถึงรางวัลใหญ่ที่ 1 ล้านเปโซ
หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.2 ล้านบาทในขณะนั้น
เงิน 1 ล้านเปโซนี้ มากกว่าเงินเดือนเฉลี่ยของชาวฟิลิปปินส์ในขณะนั้นถึง 611 เท่า หรือเทียบเท่ากับเงินเดือนที่ได้จากการทำงานหลายสิบปี จึงถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สามารถพลิกชีวิตได้เลย
และเมื่อเป๊ปซี่เริ่มโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ด้วยประโยคที่ว่า “เศรษฐีเงินล้านคนต่อไปอาจเป็นคุณ”
ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ให้ชาวฟิลิปปินส์ทุกเพศทุกวัยแห่กันสะสมฝาเพื่อลุ้นเงินรางวัล
ผู้บริหารเป๊ปซี่ในขณะนั้นเปิดเผยว่ามีประชากรฟิลิปปินส์กว่าครึ่งหนึ่ง
หรือราว 31 ล้านคน ที่มีส่วนร่วมกับแคมเปนนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแคมเปนที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในโลก
นั่นจึงทำให้ยอดขายของเป๊ปซี่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ในช่วงนั้น เพิ่มขึ้นกว่า 40% ต่อเดือน
จนดันให้ส่วนแบ่งตลาดของเป๊ปซี่เพิ่มขึ้นจาก 19% มาเป็น 25% อย่างรวดเร็ว
มาถึงตรงนี้ก็ถือได้ว่าเป๊ปซี่ประสบความสำเร็จจากแคมเปนนี้อย่างสวยงาม
จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่ชาวฟิลิปปินส์รอคอย
เวลา 6 โมงเย็นของวันที่ 25 พฤษภาคม ปี 1992
ชาวฟิลิปปินส์กว่า 70% ต่างเปิดโทรทัศน์เพื่อรอฟังประกาศผลรหัสที่ถูกรางวัล
และเลขรางวัลที่ออก ก็คือ “349”
ผู้โชคดีที่ครอบครองฝาที่มีเลข 349 ซึ่งกำลังดีใจที่ได้เป็นผู้โชคดีรับเงินล้าน
ได้รีบเดินทางไปยังสำนักงานของเป๊ปซี่ เพื่อยืนยันตัวตนและขอรับเงินรางวัล
แต่กลับกลายเป็นว่าด้านหน้าสำนักงานและโรงงานเป๊ปซี่รายล้อมไปด้วย “มวลชนผู้โชคดี” ที่ถูกรางวัลเหมือนกัน
ที่บอกว่า “มวลชน” ก็เพราะว่าผู้ที่มีฝารหัส 349 กลับไม่ได้มีเพียงคนเดียว แต่มีมากถึงเกือบ 5 แสนคน..
ในคืนนั้นทางเป๊ปซี่ได้แจ้งไปยังกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นกับการประกาศตัวเลข
มวลชนผู้โชคดีเลยเริ่มปักหลักชุมนุมที่สำนักงานเป๊ปซี่เพื่อรอฟังคำอธิบายจากเป๊ปซี่
และที่สำคัญก็คือ เรียกร้องเงินรางวัลที่พวกเขาควรได้
แต่ในวันรุ่งขึ้น แถลงการณ์จากเป๊ปซี่ที่รอคอย
กลับระบุว่าเป๊ปซี่ไม่สามารถจ่ายเงินรางวัลให้ทุกคนได้
เพราะงบประมาณสำหรับเงินรางวัลที่ตั้งไว้ตอนแรกอยู่ที่ 64 ล้านบาท
ถ้าต้องมอบเงินรางวัลเต็มจำนวนให้กับทุกคนที่มีฝารหัส 349
จะคิดเป็นเงินรางวัลที่มูลค่ามากกว่างบประมาณเดิมถึง 16 เท่า
เป๊ปซี่ได้ตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้ชี้แจงถึงสาเหตุของความผิดพลาด
ตั้งแต่ก่อนเริ่มแคมเปน รหัสใต้ฝาได้ถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
รหัสกลุ่มแรก ถูกกำหนดไว้ให้ใช้จับรางวัล จึงถูกพิมพ์ไว้ใต้ฝาในจำนวนน้อย
รหัสกลุ่มที่สอง ไม่ได้ถูกกำหนดให้นำไปรวมตอนจับรางวัล จึงถูกพิมพ์ไว้ใต้ฝาเป็นจำนวนมาก
และรหัส 349 นี้อยู่ในกลุ่มที่สอง นั่นคือไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะใช้จับรางวัล
ฝาที่มีรหัส 349 จึงถูกผลิตออกมากว่า 8 แสนฝา
ทางเป๊ปซี่ได้ตัดสินใจมอบเงิน 500 เปโซ หรือราว 650 บาท ให้ทุกคนที่ครอบครองฝา 349 แทน
แต่แม้จะมีมวลชนผู้โชคดีไปรับเงินจากเป๊ปซี่แล้ว ความไม่พอใจก็ยังคงอยู่
เพราะผู้โชคดีเหล่านั้นที่เคยดีใจเพราะคิดว่าจะได้เงินรางวัลหลักล้าน กลับได้รับเพียงเงินหลักร้อย
ความโกรธแค้นของมวลชนหลายแสนคนจึงนำไปสู่การชุมนุมประท้วงที่กลายเป็นเหตุจลาจล
ผู้ชุมนุมได้เผายางรถยนต์ เผารถส่งเป๊ปซี่ กีดขวางและทำลายรถของเหล่าผู้บริหารเป๊ปซี่
จนทางเป๊ปซี่สำนักงานใหญ่ที่นิวยอร์กต้องสั่งให้ทีมงานชาวอเมริกันหนีกลับประเทศ
แต่เหตุการณ์ยังรุนแรงขึ้นไปกว่านั้น เพราะมีการใช้ระเบิดมือและระเบิดขวด
มีคนขว้างระเบิดเข้าไปในโรงงานเป๊ปซี่ ทำให้มีพนักงานเสียชีวิต 3 คน
มีคนขว้างระเบิดใส่รถส่งเป๊ปซี่ที่ขับผ่านพื้นที่ชุมนุม ทำให้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นเสียชีวิต 2 คน
ผู้เสียชีวิตคนแรกคือครูผู้หญิงวัยกลางคนที่เดินไปซื้อของตรงร้านขายของชำแถวนั้น
อีกคนคือเด็กวัยเพียง 5 ขวบที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้น
นั่นจึงทำให้ผลจากเหตุจลาจลครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 5 คน และมีคนบาดเจ็บอีกมากมาย
จนกลายเป็นหนึ่งในการทำการตลาด ที่นำไปสู่ความรุนแรงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว Vicente del Fierro เจ้าของบริษัทที่ปรึกษาโฆษณาและนักเทศน์อิสระ
ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของแคมเปนชิงโชคแบบนี้มาตั้งแต่แรก เลยถือโอกาสเสนอตัวมาเป็นแกนนำและจัดตั้งกลุ่ม Coalition 349 หรือ “พันธมิตร 349”
กลุ่มพันธมิตร 349 รวบรวมผู้มีฝารหัส 349 ได้ราว 800 คน ที่ต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเป๊ปซี่
โดยร่วมกันลงขันสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี สำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์ไม่พอ Vicente del Fierro ก็ยินดีรับผิดชอบให้
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนทางกฎหมายฟ้องร้องต่อเป๊ปซี่กลับดำเนินไปอย่างยืดเยื้อ
พร้อม ๆ กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ค่อย ๆ เบาบางลง จนหมดไป
ปี 1993 เป๊ปซี่ฟิลิปปินส์ถูกปรับเป็นเงินราว 1.8 แสนบาท โดยกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ โทษฐานที่เกิดความผิดพลาดในการจัดทำแคมเปน
ขณะที่ Vicente del Fierro ที่นอกจากจะยื่นฟ้องต่อศาลในฟิลิปปินส์แล้ว เขายังได้เดินทางไปยังเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่เป๊ปซี่ พร้อมกับจ้างนักกฎหมาย 2 คน เพื่อเป็นตัวแทนกลุ่มพันธมิตร 349 ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเป๊ปซี่ต่อศาลในนิวยอร์กด้วย
แต่หลังจากรอคอยอยู่ 2 ปี ศาลนิวยอร์กก็ยกฟ้อง
พร้อมให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องที่ต้องให้ทางศาลฟิลิปปินส์จัดการ
ปี 1994 ศาลฟิลิปปินส์ได้ออกหมายจับผู้บริหารเป๊ปซี่ในฟิลิปปินส์ 9 คน
แต่หลังจากดีใจได้ไม่นาน เป๊ปซี่ก็ฟ้อง Vicente del Fierro กลับในข้อหาหมิ่นประมาท
สุดท้ายแล้วเรื่องราวก็เงียบหายไป
จนกระทั่งปี 2006 ศาลฎีกาที่ฟิลิปปินส์ได้ตัดสินให้เป๊ปซี่ไม่มีความผิด พ้นทุกข้อกล่าวหาและไม่ต้องรับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
แต่ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะเป็นอย่างไร
ผลจากความผิดพลาดของแคมเปนนี้ ได้ทำให้ส่วนแบ่งตลาดที่เป๊ปซี่หวังกอบโกยในตอนแรก
กลายเป็นสิ่งที่ต้องเสียไปให้กับคู่แข่งจนแทบจะหมดหนทางสู้
เพราะส่วนแบ่งตลาดโคลาในฟิลิปปินส์ โค้กยังคงครองส่วนแบ่งได้อย่างขาดลอย แถมยังมีแบรนด์น้ำดำท้องถิ่นอย่าง Cosmos ที่ก้าวขึ้นมาแข่งกับเป๊ปซี่ได้อย่างสูสี
เงิน 650 บาทที่เป๊ปซี่มอบให้กับทุกคนที่มีฝารหัส 349 แทนเงินรางวัล
ก็ได้มีผู้มาติดต่อรับเงินไปกว่า 5 แสนคน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 325 ล้านบาท
และถ้ารวมความเสียหายที่เป็นผลจากความผิดพลาดของแคมเปนนี้ทั้งหมด
จะคิดเป็นมูลค่ากว่า 650 ล้านบาท สูงกว่างบประมาณที่เป๊ปซี่เตรียมใช้ทำแคมเปนในตอนแรกถึง 10 เท่า
แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 30 ปี
แต่เรื่องราวของชาวฟิลิปปินส์ที่ถูกหลอกให้ดีใจเก้อว่าได้เงินล้าน
หรือแม้แต่การมีผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตลงจากแคมเปนที่ผิดพลาด
ก็น่าจะเป็นกรณีศึกษา ให้กับนักการตลาดในปัจจุบัน ได้เป็นอย่างดี
ถ้าทำการตลาดกับมวลชนจำนวนมาก แล้วทำให้เขาผิดหวัง ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจเป็นหายนะ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/features/2020-08-04/the-inside-story-of-pepsi-s-philippines-bottle-contest-fiasco
-https://www.nytimes.com/1993/08/18/business/company-news-an-unlucky-number-pepsi-caps-the-damages-on-a-promotion-gone-flat.html
-https://www.washingtonpost.com/archive/business/1993/07/29/a-pepsi-giveaway-gone-wrong/1a6af4b1-2b6f-4e5a-9b1d-5dc6799ac2af/
-https://medium.com/digital-diplomacy/the-marketing-mistake-that-made-pepsi-go-on-a-full-fledged-war-with-a-country-bd31f3fa6d62
pepsi company 在 ĐÔNG NHI Youtube 的最佳貼文
Đông Nhi - Khóc | Liveshow Ten On Ten
#dongnhi #liveshow #tenonten
Dong Nhi Official YouTube Channel
Starring: Đông Nhi
Executive Producer: 6th Sense Entertainment JSC
General Director: Hồ Hoài Anh
Production Manager: Đông Nhi
Music Director: Đỗ Hiếu
Bpm band
1. Thành Chu - Playback/Midi Tech
2. Em Fatb - violin
3. Tuấn Chess - Keys
4. Tùng Phan - Piano & Keyboard
5. Hoà ất - Guitar
6. Kenz - Bass Guitar & Synthesizer
7. Hùng Cường : Drums - Band Leader
Composer: Đỗ Hiếu, Đông Nhi, Huỳnh Hiền Năng, Only C, Nguyễn Hoàng Tôn, Toof.P, Lục Huy
Arrangers: Đỗ Hiếu, Huỳnh Hiền Năng, Lê Anh Dũng, Addy Trần, Nghị Martin, LAB team, Trần Lê Quang, Đoàn Minh Vũ, Mickey, Nguyễn Anh Vũ
Mix & Master: Đỗ Hiếu, Huỳnh Hiền Năng, Văn Thiên Hạnh
Recording: MaxPro Studio
Guitarist: Trịnh Vũ
Liveshow Editor: Tôn Ngộ Độc
Backstage Editor: Huy Hoang Huynh
Art Director: Trí Nghĩa
Fashion Director: Alex Fox
Choreographers: Lan Nhi - Dương Anh Mỹ
Dance Crews: Bước Nhảy, Oh Dance Team, Game On Crew, S4 Crew
Dancers: 60 people
Photographers: Kieng Can Studio, Kim Bánh Trôi Nước
Designer: Tôn Ngộ Độc
STYLIST: Nhật Thiện
Stylist Assistants: Gia Kỳ, Võ Ngọc, Linh Linh, Hoàng Tuyết,Usagi Nguyễn
Costume: Lê Thanh Hoà, Chung Thanh Phong, Nguyễn Tiến Truyển, Đắc Thắng, lý giám Tiền
M.U.A: team Minh Lộc
Printing: Trần Hân
Artist Manager: Ngân Mai
Executive Supervisor : Vân Anh
Media Director: Vĩnh Duy - D Group Media
Marketing Director: Hiển Bùi
Artist Assistant: Micjoong
Backstage Managers: Phạm Beo, Mika Le, Hiệp Bo, Hermy Meo, Candy My, Nguyễn Trung Đức, Nguyễn Hoài Phương
Financial Staffs: Tuyền Virux, Hoài Nguyễn, Hà Phương Thảo, Ngọc Hạnh
Chefs: Trang Nguyễn, Truc Ly
Supporters: Quỳnh Nguyễn, Khang Nguyễn, Thư Ngô, Mai Hương, Lan Hương, Yo Nguyễn, Quy Luong
Fanclub Manager: Trần Hân
Liveshow Production
Executive Producer : Nguyễn Trí Tài
Executive Supervisor: Trần Sỹ
Producer: Vân Nguyễn
Stage Supervisors: Ngô Ngọc Tú, Huy Nguyễn
Backstge Supervisors: Nguyễn Thu Trang, Huyền Nguyễn
Production Assistants: Anh Kiệt, Văn Hùng, Jean Nguyễn, Trần Hưng
Sound: Nghĩa
Lighting: Bùi Quang Trọng
Screen: Thuý show
Stage Designer: Trần Sỹ
Graphic Designers: Sơn Đào, Minh Thương , Kiều Hương
Art Designers: Tùng monkey, ekip Motix, Vương Quốc Tuấn
Recording team: Zoom Media
Stage: Lữ Nhạc
Sound Engineers: Doãn Chí Nghĩa, Hoàng Lê Hải, Toàn Smith, Quốc Huy, Trần Bình
Sound Lighting Screen: Showtech
Supporters: Tường Duy, Mạnh Tuấn, Hoàng Sơn, Thanh Tâm, Hà Đình Công, AAB team
Production Company: AAB
Intro:
Music Producer: Huỳnh Hiền Năng
Director: Phan Lên
Producer: Sơn Hoàng
D.O.P: Phan Nguyễn
1st AD: Tùng Táo Tợn
Gaffer: Tâm ADN
Camera operator: Boy Nguyễn - Dương Nobido
Focus Puller: Tạ Toàn Thắng
Set Design: Phương Nguyễn
Producer Assistant: Thư Ngô
Editor: Tùng Táo Tợn
Color Grading: Phan Lên
Special VFX: Unn Thanh
Data: Huỳnh Hoàng Huy
Lighting & Camera Equipment: ADN - Hanoi Lens
Logistics: Thùy Nguyễn
M.U.A: Minh Lộc
Stylist: Như Nguyễn, Ti Mai
Audio Album Ten On Ten: https://open.spotify.com/album/7nKT6mGRVlK7P6JZEMIvgX
https://itunes.apple.com/us/album/ten-on-ten/1446686334
ĐÔNG NHI Official Fanpage https://web.facebook.com/dongnhi/
ĐÔNG NHI Official Instagram https://www.instagram.com/singerdongnhi/
ĐÔNG NHI Official Youtube Channel https://www.youtube.com/user/SingerDo...
6TH SENSE ENTERTAINMENT Ofiicial Fanpage https://web.facebook.com/6SEVN/
6TH SENSE Official Sale Fanpage https://www.facebook.com/shop6se/
Big Thanks to Sponsors and Media Supporters: Lazada, Pepsi, Sunsilk, Spotify, Universal, Yeah1, Kinglive, Newspaper Supporters
☞ Subscribe Kênh để ủng hộ Nhi nhé: http://yeah1.net/DongNhi
☞ Fanpage Dong Nhi : https://www.facebook.com/dongnhi
☞ Dong Nhi's G+: google.com/+SingerDongNhiOfficial
MV Official Mới Nhất của Nhi : https://goo.gl/7Otfpd
Đông Nhi Official Audio : https://goo.gl/DWR0sQ
--------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
© Các video trên kênh " http://yeah1.net/DongNhi " đã được đăng ký bản quyền với Youtube. Vui lòng không sao chép, re-upload dưới mọi hình thức.
✖ Mọi hành vi sao chép, re-upload có thể dẫn đến việc tài khoản của bạn bị khóa vĩnh viễn.
Cảm ơn cả nhà đã và đang ủng hộ Nhi nhé. Cảm ơn FC Đông Nhi luôn đồng hành với Nhi từ trước đến nay. Chân thành cảm ơn!
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/6UCOQ0kpBW0/hqdefault.jpg)
pepsi company 在 ĐÔNG NHI Youtube 的最讚貼文
[Full HD] Nhất Quỷ Nhì Ma - Cám Ơn | Đông Nhi | Liveshow Ten On Ten
Dong Nhi Official YouTube Channel
Starring: Đông Nhi
Executive Producer: Ông Cao Thắng - 6th Sense Entertainment JSC
General Director: Hồ Hoài Anh
Production Manager: Đông Nhi
Music Director: Đỗ Hiếu
Bpm band
1. Thành Chu - Playback/Midi Tech
2. Em Fatb - violin
3. Tuấn Chess - Keys
4. Tùng Phan - Piano & Keyboard
5. Hoà ất - Guitar
6. Kenz - Bass Guitar & Synthesizer
7. Hùng Cường : Drums - Band Leader
Composer: Đỗ Hiếu, Đông Nhi, Huỳnh Hiền Năng, Only C, Nguyễn Hoàng Tôn, Toof.P, Lục Huy
Arrangers: Đỗ Hiếu, Huỳnh Hiền Năng, Lê Anh Dũng, Addy Trần, Nghị Martin, LAB team, Trần Lê Quang, Đoàn Minh Vũ, Mickey, Nguyễn Anh Vũ
Mix & Master: Đỗ Hiếu, Huỳnh Hiền Năng, Văn Thiên Hạnh
Recording: MaxPro Studio
Guitarist: Trịnh Vũ
Liveshow Editor: Tôn Ngộ Độc
Backstage Editor: Huy Hoang Huynh
Art Director: Trí Nghĩa
Fashion Director: Alex Fox
Choreographers: Lan Nhi - Dương Anh Mỹ
Dance Crews: Bước Nhảy, Oh Dance Team, Game On Crew, S4 Crew
Dancers: 60 people
Photographers: Kieng Can Studio, Kim Bánh Trôi Nước
Designer: Tôn Ngộ Độc
STYLIST: Nhật Thiện
Stylist Assistants: Gia Kỳ, Võ Ngọc, Linh Linh, Hoàng Tuyết,Usagi Nguyễn
Costume: Lê Thanh Hoà, Chung Thanh Phong, Nguyễn Tiến Truyển, Đắc Thắng, lý giám Tiền
M.U.A: team Minh Lộc
Printing: Trần Hân
Artist Manager: Ngân Mai
Executive Supervisor : Vân Anh
Media Director: Vĩnh Duy - D Group Media
Marketing Director: Hiển Bùi
Artist Assistant: Micjoong
Backstage Managers: Phạm Beo, Mika Le, Hiệp Bo, Hermy Meo, Candy My, Nguyễn Trung Đức, Nguyễn Hoài Phương
Financial Staffs: Tuyền Virux, Hoài Nguyễn, Hà Phương Thảo, Ngọc Hạnh
Chefs: Trang Nguyễn, Truc Ly
Supporters: Quỳnh Nguyễn, Khang Nguyễn, Thư Ngô, Mai Hương, Lan Hương, Yo Nguyễn, Quy Luong
Fanclub Manager: Trần Hân
Liveshow Production
Executive Producer : Nguyễn Trí Tài
Executive Supervisor: Trần Sỹ
Producer: Vân Nguyễn
Stage Supervisors: Ngô Ngọc Tú, Huy Nguyễn
Backstge Supervisors: Nguyễn Thu Trang, Huyền Nguyễn
Production Assistants: Anh Kiệt, Văn Hùng, Jean Nguyễn, Trần Hưng
Sound: Nghĩa
Lighting: Bùi Quang Trọng
Screen: Thuý show
Stage Designer: Trần Sỹ
Graphic Designers: Sơn Đào, Minh Thương , Kiều Hương
Art Designers: Tùng monkey, ekip Motix, Vương Quốc Tuấn
Recording team: Zoom Media
Stage: Lữ Nhạc
Sound Engineers: Doãn Chí Nghĩa, Hoàng Lê Hải, Toàn Smith, Quốc Huy, Trần Bình
Sound Lighting Screen: Showtech
Supporters: Tường Duy, Mạnh Tuấn, Hoàng Sơn, Thanh Tâm, Hà Đình Công, AAB team
Production Company: AAB
Intro:
Music Producer: Huỳnh Hiền Năng
Director: Phan Lên
Producer: Sơn Hoàng
D.O.P: Phan Nguyễn
1st AD: Tùng Táo Tợn
Gaffer: Tâm ADN
Camera operator: Boy Nguyễn - Dương Nobido
Focus Puller: Tạ Toàn Thắng
Set Design: Phương Nguyễn
Producer Assistant: Thư Ngô
Editor: Tùng Táo Tợn
Color Grading: Phan Lên
Special VFX: Unn Thanh
Data: Huỳnh Hoàng Huy
Lighting & Camera Equipment: ADN - Hanoi Lens
Logistics: Thùy Nguyễn
M.U.A: Minh Lộc
Stylist: Như Nguyễn, Ti Mai
Audio Album Ten On Ten: https://open.spotify.com/album/7nKT6mGRVlK7P6JZEMIvgX
https://itunes.apple.com/us/album/ten-on-ten/1446686334
ĐÔNG NHI Official Fanpage https://web.facebook.com/dongnhi/
ĐÔNG NHI Official Instagram https://www.instagram.com/singerdongnhi/
ĐÔNG NHI Official Youtube Channel https://www.youtube.com/user/SingerDo...
6TH SENSE ENTERTAINMENT Ofiicial Fanpage https://web.facebook.com/6SEVN/
6TH SENSE Official Sale Fanpage https://www.facebook.com/shop6se/
Big Thanks to Sponsors and Media Supporters: Lazada, Pepsi, Sunsilk, Spotify, Universal, Yeah1, Kinglive, Newspaper Supporters
#ĐôngNhi #LiveShow #TenonTen
☞ Subscribe Kênh để ủng hộ Nhi nhé: http://yeah1.net/DongNhi
☞ Fanpage Dong Nhi : https://www.facebook.com/dongnhi
☞ Dong Nhi's G+: google.com/+SingerDongNhiOfficial
MV Official Mới Nhất của Nhi : https://goo.gl/7Otfpd
Đông Nhi Official Audio : https://goo.gl/DWR0sQ
--------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
© Các video trên kênh " http://yeah1.net/DongNhi " đã được đăng ký bản quyền với Youtube. Vui lòng không sao chép, re-upload dưới mọi hình thức.
✖ Mọi hành vi sao chép, re-upload có thể dẫn đến việc tài khoản của bạn bị khóa vĩnh viễn.
Cảm ơn cả nhà đã và đang ủng hộ Nhi nhé. Cảm ơn FC Đông Nhi luôn đồng hành với Nhi từ trước đến nay. Chân thành cảm ơn!
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/MnzeJxGvXEw/hqdefault.jpg)
pepsi company 在 ĐÔNG NHI Youtube 的最讚貼文
[Full HD] Đu Quay Tình Yêu - Bước | Đông Nhi | Liveshow Ten On Ten
Dong Nhi Official YouTube Channel
Starring: Đông Nhi
Executive Producer: Ông Cao Thắng - 6th Sense Entertainment JSC
General Director: Hồ Hoài Anh
Production Manager: Đông Nhi
Music Director: Đỗ Hiếu
Bpm band
1. Thành Chu - Playback/Midi Tech
2. Em Fatb - violin
3. Tuấn Chess - Keys
4. Tùng Phan - Piano & Keyboard
5. Hoà ất - Guitar
6. Kenz - Bass Guitar & Synthesizer
7. Hùng Cường : Drums - Band Leader
Composer: Đỗ Hiếu, Đông Nhi, Huỳnh Hiền Năng, Only C, Nguyễn Hoàng Tôn, Toof.P, Lục Huy
Arrangers: Đỗ Hiếu, Huỳnh Hiền Năng, Lê Anh Dũng, Addy Trần, Nghị Martin, LAB team, Trần Lê Quang, Đoàn Minh Vũ, Mickey, Nguyễn Anh Vũ
Mix & Master: Đỗ Hiếu, Huỳnh Hiền Năng, Văn Thiên Hạnh
Recording: MaxPro Studio
Guitarist: Trịnh Vũ
Liveshow Editor: Tôn Ngộ Độc
Backstage Editor: Huy Hoang Huynh
Art Director: Trí Nghĩa
Fashion Director: Alex Fox
Choreographers: Lan Nhi - Dương Anh Mỹ
Dance Crews: Bước Nhảy, Oh Dance Team, Game On Crew, S4 Crew
Dancers: 60 people
Photographers: Kieng Can Studio, Kim Bánh Trôi Nước
Designer: Tôn Ngộ Độc
STYLIST: Nhật Thiện
Stylist Assistants: Gia Kỳ, Võ Ngọc, Linh Linh, Hoàng Tuyết,Usagi Nguyễn
Costume: Lê Thanh Hoà, Chung Thanh Phong, Nguyễn Tiến Truyển, Đắc Thắng, lý giám Tiền
M.U.A: team Minh Lộc
Printing: Trần Hân
Artist Manager: Ngân Mai
Executive Supervisor : Vân Anh
Media Director: Vĩnh Duy - D Group Media
Marketing Director: Hiển Bùi
Artist Assistant: Micjoong
Backstage Managers: Phạm Beo, Mika Le, Hiệp Bo, Hermy Meo, Candy My, Nguyễn Trung Đức, Nguyễn Hoài Phương
Financial Staffs: Tuyền Virux, Hoài Nguyễn, Hà Phương Thảo, Ngọc Hạnh
Chefs: Trang Nguyễn, Truc Ly
Supporters: Quỳnh Nguyễn, Khang Nguyễn, Thư Ngô, Mai Hương, Lan Hương, Yo Nguyễn, Quy Luong
Fanclub Manager: Trần Hân
Liveshow Production
Executive Producer : Nguyễn Trí Tài
Executive Supervisor: Trần Sỹ
Producer: Vân Nguyễn
Stage Supervisors: Ngô Ngọc Tú, Huy Nguyễn
Backstge Supervisors: Nguyễn Thu Trang, Huyền Nguyễn
Production Assistants: Anh Kiệt, Văn Hùng, Jean Nguyễn, Trần Hưng
Sound: Nghĩa
Lighting: Bùi Quang Trọng
Screen: Thuý show
Stage Designer: Trần Sỹ
Graphic Designers: Sơn Đào, Minh Thương , Kiều Hương
Art Designers: Tùng monkey, ekip Motix, Vương Quốc Tuấn
Recording team: Zoom Media
Stage: Lữ Nhạc
Sound Engineers: Doãn Chí Nghĩa, Hoàng Lê Hải, Toàn Smith, Quốc Huy, Trần Bình
Sound Lighting Screen: Showtech
Supporters: Tường Duy, Mạnh Tuấn, Hoàng Sơn, Thanh Tâm, Hà Đình Công, AAB team
Production Company: AAB
Intro:
Music Producer: Huỳnh Hiền Năng
Director: Phan Lên
Producer: Sơn Hoàng
D.O.P: Phan Nguyễn
1st AD: Tùng Táo Tợn
Gaffer: Tâm ADN
Camera operator: Boy Nguyễn - Dương Nobido
Focus Puller: Tạ Toàn Thắng
Set Design: Phương Nguyễn
Producer Assistant: Thư Ngô
Editor: Tùng Táo Tợn
Color Grading: Phan Lên
Special VFX: Unn Thanh
Data: Huỳnh Hoàng Huy
Lighting & Camera Equipment: ADN - Hanoi Lens
Logistics: Thùy Nguyễn
M.U.A: Minh Lộc
Stylist: Như Nguyễn, Ti Mai
Audio Album Ten On Ten: https://open.spotify.com/album/7nKT6mGRVlK7P6JZEMIvgX
https://itunes.apple.com/us/album/ten-on-ten/1446686334
ĐÔNG NHI Official Fanpage https://web.facebook.com/dongnhi/
ĐÔNG NHI Official Instagram https://www.instagram.com/singerdongnhi/
ĐÔNG NHI Official Youtube Channel https://www.youtube.com/user/SingerDo...
6TH SENSE ENTERTAINMENT Ofiicial Fanpage https://web.facebook.com/6SEVN/
6TH SENSE Official Sale Fanpage https://www.facebook.com/shop6se/
Big Thanks to Sponsors and Media Supporters: Lazada, Pepsi, Sunsilk, Spotify, Universal, Yeah1, Kinglive, Newspaper Supporters
#ĐôngNhi #LiveShow #TenonTen
☞ Subscribe Kênh để ủng hộ Nhi nhé: http://yeah1.net/DongNhi
☞ Fanpage Dong Nhi : https://www.facebook.com/dongnhi
☞ Dong Nhi's G+: google.com/+SingerDongNhiOfficial
MV Official Mới Nhất của Nhi : https://goo.gl/7Otfpd
Đông Nhi Official Audio : https://goo.gl/DWR0sQ
--------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
© Các video trên kênh " http://yeah1.net/DongNhi " đã được đăng ký bản quyền với Youtube. Vui lòng không sao chép, re-upload dưới mọi hình thức.
✖ Mọi hành vi sao chép, re-upload có thể dẫn đến việc tài khoản của bạn bị khóa vĩnh viễn.
Cảm ơn cả nhà đã và đang ủng hộ Nhi nhé. Cảm ơn FC Đông Nhi luôn đồng hành với Nhi từ trước đến nay. Chân thành cảm ơn!
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/hfurBopNMec/hqdefault.jpg)