เครื่องทำกาแฟตัวละ 1830.- เวิร์คไหม??? , ทำไมถึงต้องซื้อเครื่องทำกาแฟ??? และคุ้มไหมที่ซื้อมาสำหรับคนที่ดื่มกาแฟแบบเมล็ดคั่วประจำอยู่แล้ว???
สาเหตุที่อาทิตย์ที่แล้วกดซื้อมา เพราะเก็บชั้นวางของแล้วพบว่า มีกาแฟบดที่ได้มาจากปีที่แล้วเยอะพอสมควร เพราะคนรู้จักที่บ้านรู้ว่าที่บ้านผมชอบดื่มกาแฟ และมักได้ของฝากเป็นเมล็ดกาแฟบ้าง, กาแฟบด หรือใบชาประเภทต่าง ๆ บ้าง ทีนี้ด้วยความที่พ่อผมชอบทำกาแฟแบบ Moka Pot ดื่มทุกวัน เลยต้องใช้กาแฟบดหยาบจากเมล็ดกาแฟ ถ้าใช้กาแฟบดละเอียด มันจะแทรกตามช่องฟิลเตอร์ขึ้นมาด้วย ทำให้มีผงกาแฟละเอียดติดมา ส่วนผมชอบดื่มแบบกาแฟแคปซูลหรือ น้ำกาแฟสำเร็จรูปเลยมากกว่า เลยทำให้กาแฟแบบบดละเอียด ที่ไม่ได้หยิบมาชงดื่มมีค่อนข้างเยอะ...
ก็เลยตัดสินใจว่า หาเครื่องทำกาแฟซักตัวมาชงกาแฟบดละเอียดที่เก็บไว้ก่อนดีกว่า ถ้าปล่อยไว้ถึง 2 ปี อาจจะทำให้รสของกาแฟไม่อร่อย และกลิ่นอาจจะจางลงไป เท่ากับตอนใช้ใหม่ ๆ ก็ แล้วเลื่อนในฟีด Shopee เจอเครื่องทำกาแฟมาหลอนบ่อยอยู่ 2-3 ยี่ห้อ ก็เลยไล่ดูเอาตัวที่เหมาะสม...
เครื่องชงกาแฟ Espresso ของ WorldTech ที่เล็งไว้เพราะ แรงดันน้ำทำได้ถึง 20bar แรงพอดีจะใช้สกัดกาแฟออกมาได้ดีตามที่เคยได้ฟังเพื่อน ๆ ที่ทำกาแฟแนะนำ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มาครบพร้อมชง ทั้งแบบถ้วยกรอง Single Shot และ Double Shots ปุ่มกดเป็นแบบโปรแกรมอัตโนมัติ ขณะที่มีปุ่มปล่อยน้ำร้อนเองได้ตามใจชอบ และยังมีก้านทำไอน้ำ สำหรับทำฟองนมนุ่ม ๆ อุ่น ๆ ได้อีกด้วย มีช้อนตักผงกาแฟบดและตรงปลายด้ามช้อนมีที่กดกาแฟให้เรียบมาด้วยเลย...
ถ้าแบบปกติ 1,830.- ก็เพียงพอที่จะทำกาแฟได้แล้ว แต่ทีนี้ ในชุดแพคเกจต่าง ๆ ไปสะดุดตาชุดใหญ่เข้า ที่มีทั้ง Tamper ที่กดกาแฟเหมือนที่ร้านกาแฟ + ที่รอง Tamper , ถ้วยสเตนเลสสำหรับทำฟองนม และ โถบดเมล็ดกาแฟ ซึ่งอันนี้ที่บ้านเก็บเมล็ดกาแฟด้วยก็เลยเผื่อที่จะเอามาใช้บดกาแฟที่มีอยู่ชงดื่มได้เช่นกัน เลยจัดชุดใหญ่มา 2,390.- ตอนได้มานี่คือคิดเล่น ๆ ว่าพอจะเปิดร้านกาแฟย่อม ๆ ได้เลยนะ...
สั่งไป 4 วันของก็มาถึงบ้านแล้วครับ ไวมาก ๆ กล่องใหญ่พอควร แต่ข้างในมีทั้งกล่องเครื่องทำกาแฟและอุปกรณ์ก็เลยต้องใส่กล่องใหญ่ ๆ มาอีกที...
แต่ผมไม่เคยชงกาแฟแบบนี้เลย จะรอดไหมเนี่ย!!!???
ด้วยความที่ปกติ เคยชงกาแฟแต่แบบ Moka Pot, French Press, Drip และ Capsule ไม่เคยชงเครื่องทำกาแฟแบบ Espresso เลย (ไปดื่มตามร้านบุฟเฟต์ ก็เป็นแบบกดปุ่มแล้วได้กาแฟมา) ตอนแกะมาประกอบไม่งงเท่าไหร่ เพราะเคยเห็นตามร้านมาบ้างแล้ว แต่ตอนอ่านคู่มือใช้งานครั้งแรกจะงง ๆ นิดนึง เพราะมีแนะนำให้เปิดน้ำครั้งแรกเพื่อล้างเครื่องและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะใช้ทำกาแฟก่อน ซึ่งมันต้องใช้เวลาอุ่นน้ำร้อนประมาณ 2 นาที (ด้านหลังเครื่องมีกล่องใส่น้ำใหญ่ 1.5 ลิตร) อันนี้แรก ๆ ก็งง ๆ ว่าต้องกดปุ่มไหนก่อนยังไง เพราะที่ปุ่มไ่ม่มีเขียน มีแต่รูป icon อยู่...
สรุปว่า ปุ่มบนเครื่องมี 5 ปุ่ม + ตัวหมุนควบคุมความแรงของไอน้ำ...
ไล่ไปทีละปุ่ม คือทำกาแฟ 1 ช็อต (ใช้ตัวกรอง 1 ช็อต), ทำกาแฟ 2 ช็อต (ใช้ตัวกรอง 2 ช็อต), ปุ่มเปิดปิดเครื่อง, ปุ่มปล่อยน้ำร้อนไหลเรื่อย ๆ (กดอีกทีเพื่อหยุด) และปุ่มเปิดเครื่องทำไอน้ำ (กดแล้วไฟจะเป็นสีแดง) ส่วนด้านข้างเครื่องจะมีปุ่มปรับระดับไอน้ำหมุนได้ตามความเหมาะสม...
ถ้าไฟกระพริบอยู่ แสดงว่า กำลังทำความร้อน เครื่องยังไม่พร้อม ไม่ว่าจะไฟสีน้ำเงินหรือสีแดง ให้รอไปก่อนประมาณ 1-2 นาที จนไฟหยุดกระพริบก็ทำงานได้...
ตัวน้ำร้อนที่กดจะกดมาเฉยเป็นน้ำร้อนก็ได้, ลวกแก้วกาแฟก็ได้ หรือจะใช้ก้านไอน้ำอุ่นแก้วกาแฟให้พร้อมใช้งานก่อนก็ได้ ถ้าวางแก้วกาแฟคว่ำบนเครื่องแก้วก็อุ่นเหมือนกันนะ...
วิธีทำกาแฟ ถ้าเคยดื่มตามร้านและสังเกตบ้างก็ไม่ยาก มันจะมีถ้วยสำหรับ 1 ช็อต และ 2 ช็อต (หรือที่เรียกว่าดับเบิลช็อต) เทกาแฟบดลงไปให้พอปริ่ม ๆ อย่าให้สูงเป็นภูเขาเลยถ้วยกรอง แล้วก็เอาด้ามกด กดผิวหน้าให้เรียบ ๆ อย่ากดแรงเพราะกาแฟจะแน่นเกินจนทำให้น้ำไหลผ่านได้ยาก ปัดผงกาแฟรอบ ๆ ปากถ้วยกรองออก อย่าให้ติดตามขอบที่จับถ้วยกรองด้วย เพราะจะทำให้มีช่องอากาศแล้วเวลาประกอบไม่แน่นสนิทดี อาจทำให้ผงกาแฟลอดกระเด็นออกมาทางช่องอื่นได้...
กดปุ่มเครื่องทำกาแฟตามจำนวนถ้วยช็อตที่ใส่ไป (ถ้าใส่กาแฟพอดีไม่แน่นเกินไป มันจะออกมาเป็นช็อตเล็ก ๆ ประมาณ 1 ออนซ์ หรือ 30 มิลลิลิตร) สามารถนำไปดื่มได้เลย หรือนำไปผสมน้ำร้อนเป็นกาแฟดำแบบอเมริกาโนร้อนก็ได้ ถ้าชอบดื่มเย็นก็เอาไปใส่น้ำแข็งแล้วเติมน้ำหรือโซดา หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยวหน่อยก็เข้ากันได้ดี...
ข้อดีคือถ้าชงแบบนี้จะได้กาแฟเป็นช็อตที่มีชั้นโฟมด้านบนสวยงามและมีรสเปิดที่อร่อย สำหรับคนชอบดื่มกาแฟดำเป็นช็อต Espresso รวมถึง ตัวกาแฟก็จะมีรสชัดเจนตามชนิดของเมล็ดกาแฟ และการคั่วแบบต่าง ๆ ด้วย เช่นถ้ารสออกไปทางเปรี้ยวแบบฟรุ๊ตตี้ก็จะออกมาชัดทั้งกลิ่นและรสเลย หรือถ้าเป็นแบบนัตตี้ที่ออกรสคล้ายถั่ว บางรสก็ก็จะออกคล้าย ๆ กลิ่นดิน (แต่เป็นกลิ่นที่หอมนะ) คุ้มต่อการสกัดเอารสเหล่านั้นออกมาเพื่อดื่มครับ...
วันนี้ลองทำไปหลายแก้ว ที่บ้านมีกลิ่นกาแฟตลบเหมือนร้านกาแฟไปเลย...
ถ้าเทียบกับเครื่องตามร้านเครื่องพวกนี้อาจจะทำได้ประมาณนึง ความละเอียดของรส รวมถึงชั้นโฟมที่ผิวกาแฟ เองก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเมล็ดกาแฟและกระบวนก่อนและขณะคั่วเมล็ดกาแฟด้วยครับ ดังนั้นอาจจะไม่ได้ทำได้ดีถึงขั้นสุด แต่ก็ตอบโจทย์สำหรับการชงดื่มระดับทำกินเองในบ้านที่มีกาแฟอยู่หลายแบบได้...
ลืมพูดเรื่องเครื่องทำฟองนมเลย อันนี้ลองแล้วชอบมาก ๆ เพราะมันทำฟองนมได้ฟูดี ถ้าใส่ปริมาณที่พอเหมาะ ไม่น้อยจนเกินไป (ใส่น้อยเกินไปตีไม่ค่อยขึ้นนะครับ) อย่างถ้วยที่ให้มาในชุดใหญ่ใส่ประมาณ 1/3 ของถ้วยกำลังดีเลย พอเทลงในช็อตกาแฟแล้วดื่มรสจะนุ่มมาก ๆ และกลิ่นของกาแฟก็ยังคงอยู่ด้วย...
ส่วนอุปกรณ์เสริมที่ซื้อชุดใหญ่มา ก็ดีครับ Tamper ที่เป็นตัวปั๊มกดกาแฟ มีน้ำหนักดี แค่วางบนถ้วยกรองที่ใส่กาแฟแล้วหมุน ๆ หน่อย ไม่ต้องออกแรงกดก็ใช้ได้แล้ว, หรือถ้วยสเตนเลสสำหรับทำฟองนมก็เป็นแบบความสูงไม่เลยก้านฟองนม ทำให้ใส่ได้สะดวก รวมไปถึง โถบดเมล็ดกาแฟ อันนี้ผมเพิ่งเคยใช้ เพราะใช้แบบบดมือมาตลอด มันง่ายมาก ๆ ใส่เมล็ดกาแฟลงไปแล้วกดปุ่มแป๊บเดียวก็ได้กาแฟบดละเอียดแล้ว (ใช้บดใบชาก็ได้ แต่ต้องเช็ดให้สะอาดก่อน)...
ลองเอาเครื่องกาแฟมาชงชาดู ก็บดใบชาใส่ลงไปในถ้วยกรองแบบ 1 ช็อตไม่ต้องแน่นมาก (เพราะผงชาจะละเอียดกว่า เดี๋ยวน้ำไม่ออก) แล้วกดปุ่มปล่อยน้ำร้อนให้ไหลผ่าน ก็จะได้ชาร้อน ๆ ที่นำไปชงหรือใส่นมและน้ำแข็งเป็นชานมเย็นก็ได้เช่นกัน...
รวม ๆ ผมซื้อมาใช้ในบ้าน เพื่อระบายกาแฟบดละเอียด ที่ซื้อและได้มาเยอะ ๆ เพื่อใช้งานให้หมด ก่อนที่จะหมดอายุนี่แหละครับ ด้วยความที่ดื่มกาแฟเกือบทุกวันแล้วด้วย รวมถึงดื่มในบ้านกันประมาณ 2-3 คน ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นไอเทมที่คุ้มที่พอจะติดบ้านไว้สำหรับบ้านที่มีกาแฟเมล็ด หรือกาแฟบดที่บ้าน เท่านี้ก็คิดว่าน่าจะชงกาแฟบดในบ้านดื่มได้เป็นเดือน ๆ แล้วครับ...
แต่ถ้าดื่มไม่บ่อย, นาน ๆ ดื่มที, ยังไม่มีเมล็ดกาแฟหรือกาแฟบดที่บ้าน การดื่มกาแฟตามร้านอาจจะเป็นอะไรที่ดีกว่าหลายด้านเช่น มีเครื่องชงที่มีคุณภาพในการสกัดรสของกาแฟที่ดีกว่า, เลือกชนิดของเมล็ดกาแฟเองได้ตามใจไม่ต้องเก็บเมล็ดกาแฟที่ไม่รู้ว่าจะได้ดื่มอีกเมื่อไหร่ไว้กับตัวนาน ๆ หรือบางร้านจะมีบริการชงกาแฟจากกาแฟบดที่เราซื้อจากร้านไปด้วยก็เป็นทางเลือกที่คุ้มกว่าซื้อเครื่องทำกาแฟไว้กับบ้านแน่นอนครับ...
ข้อดีของเครื่องชงกาแฟนี้ที่ชอบคือปุ่มกดแบบทัชใช้ง่าย สอนพ่อกับน้องทำแป๊บเดียวก็ทำได้, มีที่อุ่นแก้วกาแฟด้านบนเครื่องแบบที่ผู้สูงอายุที่บ้านชอบ หรือจะลวกหรืออุ่นไอน้ำกับถ้วยกาแฟก็ได้, อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถถอดออกไปล้างเป็นชิ้น ๆ ได้ไม่ต้องยกไปมาทั้งเครื่อง ตัวเครื่องเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมวางบนโต๊ะในบ้านได้ไม่กินที่มากเกินไป ตัวเครื่องมีประกัน 1 ปี...
เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ Worldtech หน้าจอสัมผัส รุ่น WT-CM404 เครื่องทำกาแฟ Coffee Machine + พร้อมชุดด้ามชงกาแฟ ผมซื้อมาในราคาชุดใหญ่ (2,390.-) ถ้าซื้อแค่เครื่อง ถ้าใช้ทำกาแฟจากกาแฟบดอย่างเดียวชุดเล็กสุด (1,830.-) ก็พอครับ อุปกรณ์ต่าง ๆ ซื้อทีหลังจากร้านเขาก็ได้ (นี่ก็เพิ่งกดหัวแปลงสำหรับทำกาแฟแคปซูลไปเมื่อกี๊นี้)...
> https://shp.ee/4xraesx (1,830 - 2,390.-)
เพิ่งเห็นว่าบน Lazada ร้าน Worldtech เหมือนกัน ขายแค่ (1,790.-)
> https://bit.ly/3E4wm54 (1,790.- 2,913.-)
JD Central จาก WorldTech เช่นกัน (1,930.-)
> https://u.jd.co.th/tctGSK0 (1,930)
*Disclosure: เนื้อหานี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใด ๆ ...
