ถอดรหัส ‘เเปลรักฉันด้วยใจเธอ’ Part 2 ซีรีส์วายเรื่องเเรกจากค่าย ‘นาดาวบางกอก’ ทำไมถึงเป็นซีรีส์ที่ควรดู
.
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่เเล้ว ‘เเปลรักฉันด้วยใจเธอ’ Part 1 ซีรีส์ที่กลายเป็น Talk of the town ส่งท้ายปี กระเเสคู่จิ้น บิวกิ้น-พีพี ที่ทำให้สาวๆ ตกหลุมรักกันทั่วประเทศ ทำให้เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซีรีส์นี้มีภาคต่ออย่าง ‘เเปลรักฉันด้วยใจเธอ’ Part 2 มาเล่าเรื่องราวมุมมองความรักเเละสะท้อนสังคมออกมาได้อย่างลงตัว
.
‘เเปลรักฉันด้วยใจเธอ’ เป็นเรื่องราวของเพื่อนรักสองคน คือ เต๋ (รับบทโดย บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) เเละโอ้เอ๋ว (รับบทโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร) ที่เติบโตอยู่ที่ภูเก็ต เต๋มีความฝันที่อยากจะเป็นนักเเสดงตั้งเเต่เด็ก ทำให้โอ้เอ๋วผู้ที่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องเส้นทางชีวิตกลับชื่นชอบการเเสดงไปด้วย ทำให้ทั้งคู่ตั้งใจที่จะเป็นนักเเสดงไปด้วยกัน
.
หลังจากที่ทั้งคู่มีเรื่องที่ทำให้ไม่ลงรอยกัน จากเพื่อนรักกลายเป็นเพื่อนร้าย จากเคยให้กำลังใจก็กลายเป็นคู่เเข่ง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเจอกันบ่อยๆ ความใกล้ชิดจุดฉนวนความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กันมันชัดเจนว่ามากกว่าเพื่อน จึงเกิดเป็นเรื่องราวความรักเเละการนำเสนอในมุม coming of age ที่ใน Part 2 จะเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านการใช้ชีวิตวัยมหาลัยในกรุงเทพฯ
.
หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมากมายขึ้นใน Part 1 ภาคต่ออย่าง Part 2 ก็ไม่ได้หยุดให้เราหายใจหายคอ เพราะเเม้ในตอนนี้ เเปลรักฉันด้วยใจเธอ จะออกอากาศมาเพียงเเค่ 2 ตอนเท่านั้น เเต่เนื้อเรื่องก็เข้มข้นเเละเเฝงข้อคิดต่างๆให้เราได้ลองได้คิดตามอย่างมากมาย ซึ่งในวันนี้นักเขียนจะมาถอดรหัสเเละวิเคราะห์จากการดูไป 2 Ep ว่าทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงควรค่าเเก่การดู
.
ประเด็นเเรก ‘ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่ในเรื่องเพศ’ นอกจากประเด็นการนำเสนอเรื่องราวความรักของชาย-ชาย หรือ LGBTQ+ ที่ในซีรีส์ได้เล่ามุมมองความรักของทั้งคู่สะท้อนไปถึงสังคมว่าในสังคมนั้นมองความรักของพวกเขาอย่างไร ทำให้ในพาร์ทเเรกเราจะเห็นได้ถึงการต่อสู้ต่อสายตาคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการที่เต๋กลัวที่บ้านจะรู้ เเละโอ้เอ๋วที่กลัวเพื่อนในกลุ่มจะสงสัยในความสัมพันธ์ของเขาเเละเต๋ พวกเขาจะรับได้ไหมหากรู้ว่าเรารักเพศเดียวกัน?
.
ในพาร์ทที่ 2 เราจะได้เห็นถึงมุมมองที่สังคมมีต่อ LGBTQ+ ที่ีดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการที่มีตัวละครใหม่ๆเข้ามา ได้เเก่กลุ่มเพื่อนของโอ้เอ๋วที่มีความคลุมเครือในเรื่องของเพศ เหมือนเป็นการสื่อนัยยะ ว่าเรื่องของเพศไม่ได้จำเป็นต้องมีเเค่เพียงชายเเละหญิงเท่านั้น หรือไม่ว่าจะเป็นฉากที่ประทับใจที่สุดของ Ep1. ที่เเม่ของเต๋รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่เเล้ว ด้วยประโยคกินที่ใจที่นักเขียนชอบ “กับโอ้เอ๋วดูแลกันให้ดีๆ นะลูก ไม่มีใครบอกอะไรม้าทั้งนั้นแหละ เต๋เป็นลูกม้าทำไมม้าจะไม่รู้”
.
‘ความสับสนเเละการค้นหาตัวเอง’ ในชีวิตของเราทุกคนคงจะมีช่วงที่ทำให้ต้องออกเดินทางตามหาความฝัน หรือตัวตน สิ่งที่เคยชอบวันพรุ่งนี้อาจจะไม่ชอบ อะไรที่เคยใช่ก็คงจะไม่ใช่เสมอไป เหมือนความฝันของโอ้เอ๋วที่เคยคิดว่าตัวเองจะชื่นชอบในเส้นทางของการเป็นนักเเสดง เเต่เมื่อได้ลองทำเเล้วมันกลับรู้สึกว่าไม่ใช่ทาง การรู้ตัวเร็วก็ทำให้เราได้เปิดโอกาสในการออกตามหาสิ่งใหม่ๆ เเต่ถ้าหากลังเลที่จะเริ่มต้นใหม่ ชีวิตนี้อาจจะไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลยก็ได้
.
‘อย่าเอาความฝันไปฝากไว้ที่ใคร’ ไม่คาดหวังก็จะไม่ผิดหวัง วลีเด็ดที่ฟังกี่ครั้งก็คงจะจริง เเต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี เพราะเมื่อรักใครเเล้วความคาดหวังก็จะตามมา ทำให้บางครั้งเราก็เอาชีวิตของเราไปยึดติดกับคนอื่นมากเกินไป จนสุดท้ายก็อาจทำให้ตัวเองเสียใจ เหมือนเต๋ ที่วาดความฝันว่าจะไปเป็นนักเเสดงด้วยกันกับโอ้เอ๋ว เเละมีรุ่นพี่อย่าง ขิม (รับบทโดย ก้อย-อรัชพร โภคินภากร) ที่มีความฝันเป็นนักเเสดงเเต่กลับโดนปฏิเสธมาเกือบทุกครั้งที่เข้าไปเเคสงาน จนสุดท้ายขิมก็ถอดใจเเละวางเเผนว่าจะไปเป็นเเอร์โฮสเตส เมื่อคนที่คาดหวังไว้ทำให้ผิดหวัง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความเเตกหักในความสัมพันธ์
.
‘นิเทศศาสตร์ ศาสตร์ที่ไม่มีวันเอ้าท์’ ประเด็นสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงคือประเด็นของเรื่องที่เลือกหยิบคณะนิเทศศาสตร์ให้มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ หากลองมองย้อนไปในซีรีส์หลายๆ เรื่อง อย่างที่เราทราบกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นการยกคณะฮิตๆอย่างหมอหรือวิศวะ ซึ่งการเลือกหยิบคณะนิเทศศาสตร์ขึ้นมานั้นในมุมมองของนักเขียนถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก การเล่าเรื่องราวเเละมอบมิติให้คณะนิเทศศาสตร์เป็นคณะมีอะไรมากกกว่านั้น ไม่ว่าจะเรื่องของศาสตร์การเเสดงหรือสายงานโฆษณา ซึ่งภายในซีรีส์ก็ถือเป็นกระบอกเสียงของสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการศึกษาในความหลากหลายทางคณะอีกด้วย
.
จากประเด็นที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าตัวเรื่องเป็นการเน้นเรื่องความรักในมุมมองที่ไม่ได้เน้นเรื่องของเพศเป็นหลัก เเต่เป็นการนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ชีวิตของวัยรุ่นที่กำลังจะก้าวผ่านไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ความเจ็บปวดที่วัยรุ่นทุกคนต้องเคยเจอสะท้อนไปถึงประเด็นปัญหาของสังคมที่ไม่ว่าใครก็สามารถรับชมซีรีส์เรื่องนี้ได้ ทำให้นี่คือบทสรุปที่ว่าทำไม ‘เเปลรักฉันด้วยใจเธอ’ ถึงเป็นซีรีส์ที่หากคุณเปิดใจดูเเล้วจะได้เห็นมุมมองมากกว่าเรื่องของความรักอย่างเเน่นอน
#peoplepersona
#เขย่งก้าวกระโดด
อ้างอิง
https://adaymagazine.com/i-promised-you-the-moon/
https://thestandard.co/i-told-sunset-about-you-2/
https://thestandard.co/unlock-mothers-life-from-i-told-sunset-about-you-part-2-and-ghost-lab/?fbclid=IwAR2-pk10AbedT9Q6Omn4-GvD-w69h_hnHrFFxGa7CxpU4ZzyPtK4HzT2IH8
https://pantip.com/topic/40303472
https://mgronline.com/drama/detail/9630000108346
