สรุปให้ย่อๆ อัลบั้มชื่อ Dangerous Woman
แปลว่าผู้หญิงอันตราย
ศุลกากรแปลว่า เป็นวัตถุอันตรายสำหรับผู้หญิง
เลยกักของไว้
ภาคต่อจาก DHL
หลังจากที่โพสของเราได้ถูก Publish บน Facebook ก็เกิดการแชร์ต่ออย่างที่เรียกได้ว่าเป็นไวรัล งงมากแม่ ทำไมอยู่ดีๆแมส
เพราะ
1. เราคือผู้เสียหายที่โดนกักสินค้าจากเหตุผลที่เรารู้สึกว่า Non Sense มากๆ เราจึงใช้พื้นที่ของเราเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนเราฟัง
2. เราไม่ได้สร้าง Hashtag หรือ Direct Tagging องค์กรใดๆเลย
ซึ่งหลังจากที่โพสเกิดเป็นกระแสไวรัลในโลก ออนไลน์ ผลที่ออกมาทำให้คนอ่านแบ่งออกเป็น สองกลุ่มใหญ่ๆดังนี้
กลุ่มที่ 1 >> เข้ามาต่อว่ากรมศุลกากร กับเรื่องที่เกิดขึ้น ด่าแรงบ้าง เล่นบ้าง แทกเพื่อนมาอ่านบ้าง โดยที่ผมไม่ได้เข้าไปสนับสนุนคนที่มาคอมเม้นให้ไปด่าหรือไปเรียกร้องอะไรแทนผมเลยยยยยย
กลุ่มที่ 2 >> พยายามสืบหาความจริงจากเรื่องที่เกิดขึ้น (กลุ่มนักสืบออนไลน์) จนกระทั่ง กรมศุลกากร ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 15 Feb สรุปใจความได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับทางกรมแต่อย่างใด แต่เป็นการทำงานที่ผิดพลาดและการสื่อสารที่ผิดพลาดระหว่าง DHL และ ลูกค้าคือผมนั่นเอง
เอ้าตายShipหายละ สรุปยังไงดีละชาวเนตเลยต้องทำสิ่งที่เหมาะสมก่อนละกัน รุมด่าเจ้าของโพสก่อน และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ที่ผมไม่ออกมาโต้ตอบอะไรมาก เพราะ ตอนนี้เรื่องมันเริ่มบานปลายเกินไปและ เราเลยต้องหยุดเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ติดต่อเราเพื่ออธิบายความจริงก่อน เพราะสิ่งแรกที่เราโพส มันคือความจริงที่เราถูกสื่อสารมา + วิธีการเล่าในแบบของเรา
คนที่อ่านบางคนไม่ใช่เพื่อนเรา ทำให้เค้าก็ตีความวิธีการเล่าของเราไปอีกอย่าง ซึ่งก็เป็นเรื่องของเค้า
แต่วันนี้ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ไปคะ
สรุปเหตุการณ์ อิงจากสิ่งที่เรารู้และจดหมายจากทาง DHL
- โพสเกิด ไวรัลตั้งแต่วันที่ 14 Feb 2020
- ทาง ศุลกากร ที่โดนพาดพิงเสียหายก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ทำการติดต่อ DHL ทันที เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น (เนื่องจากในโพสของผมระบุชัดเจนว่า สินค้าถูกกักโดยศุลกากร ซึ่งการกล่าวอ้างนั่นไม่จริง รวมถึงเหตุผลในการกักสินค้า ก็ไม่ใช่เรื่องจริง โดยเรื่องทั้งหมด ถ้าจากอ่านจากโพสพนักงาน DHL เป็นคน สื่อสาร มายังตัวผม)
- DHL ตรวจสอบเรื่องราวภายในจนกระทั่งพบว่า พนักงานที่มาสื่อสารกับทางลูกค้าคือตัวผม สื่อสารผิดจริง (ซึ่งทาง DHL ไม่ได้ แจงรายละเอียดว่า ทำไมถึงผิด ทำไมถึงพาดพิง อีกหน่วยงาน)
- DHL ทำการ ออก Official Letter ส่ง กรมศุลกากรเพื่อชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด และระบุว่าเป็น Human Error ในการสื่อสาร รวมทั้งจะทำการติดต่อกับ เจ้าของเรื่องคือผมอีกที
- ชาวเนตผู้รักความยุติธรรมเริ่ม Inbox และ มาถล่มคอมเม้นในโพสอย่างดุเดือด
17 Feb 2020
- วันจันทร์ ช่วงบ่าย ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของ DHL ติดต่อผมมาพร้อมอธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อม เหตุผลที่แท้ทรูว่าทำไมสินค้าผมถึงโดนกัก โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. หลังจากบริษัทฯได้รับข้อมูลสินค้าแจ้งจากทางประเทศต้นทาง บริษัทฯจะดำเนินการคัดแยกสินค้าจากข้อมูลการนำเข้าสินค้าตามระเบียบการคัดกรองเบื้องต้น โดยพิจารณาจาก
มูลค่า ประกอบกับ ชื่อสินค้าที่มีคำหลักที่อาจเข้าข่ายสินค้าที่มีความเสี่ยง ไม่ว่า จะเป็นสินค้าอันตราย หรือ สินค้าต้องกักกัน เช่น Dangerous Goods (DG), Drug หรือ e-cigarette เป็นต้น
2. หากตรวจพบคำเหล่านี้จากข้อมูลการนำเข้า สินค้าที่เกี่ยวข้องจะถูกระบบคัดแยกโดยอัตโนมัติไปยังสินค้าประเภท 4 หรือสินค้าที่ต้องลงคลังเพื่อผ่านพิธีการศุลกากรเต็มรูปแบบ
โดยจะมีพนักงานบริษัทฯติดต่อผู้รับปลายทางเพื่อขอรายละเอียดสินค้าที่ถูกต้อง และเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าที่อาจมีความเสี่ยงเล็ดลอดหรือผ่านพิธีการแบบเร่งด่วนได้
และตรงนี้คือจุดที่ทำให้สินค้าผมโดนกัก แปลว่า เรื่องราวยังแม่งไปไม่ถึง กรมศุลกากรเลย รวมกับการสื่อสารของพนักงาน จึงทำให้เกิดข้อความที่ผมโพสไปดังกล่าว คือมีการพาดพิงอีกหน่วยงานด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นจริง
3. DHL พบรายละเอียดของชื่อสินค้าที่ผู้ส่งระบุใน Invoice คือ Dangerous Woman : Exclusive Pur โดยมีคำว่า Dangerous ซึ่งเป็นคำหลักที่ทำให้สินค้าดังกล่าวเข้าข่ายสินค้าที่มีความเสี่ยงตามระบบการคัดกรองของ DHL
จึงเป็นเหตุให้สินค้าถูกจัดเป็นสินค้าประเภท 4 หรือสินค้าที่ต้องลงคลังเพื่อผ่านพิธีการศุลกากรเต็มรูปแบบ
4. ผู้ส่งจากประเทศต้นทาง (Universal Music UK) มิได้สำแดงชื่อสินค้าในเอกสาร Invoice และ Waybill อย่างชัดเจนว่าเป็นสินค้าประเภท CD MUSIC หรือผลงานเพลงของศิลปิน จึงส่งผลให้การตรวจสอบข้อมูลสินค้ามีการคลาดเคลื่อน
และทาง DHL ได้แจ้งไปทางต้นทาง (ประเทศอังกฤษ) ให้ช่วยประสานงานไปทางผู้ส่งให้ระบุรายการสินค้าถูกต้องตามประเภทสินค้า เพื่อป้องกันการตีความคลาดเคลื่อนดังกล่าวในอนาคต
ตามความเข้าใจที่ผมได้รับจากการคุยกับ ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของ DHL คือ
1. DHL ผิดจริงที่สื่อสารการกักสินค้าไม่ถูกต้อง และได้ทำการตักเตือนพนักงานไปเรียบร้อยแล้ว
2. DHL ได้มีการติดต่อ กรมศุลกากรเพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว
3. DHL ขอโทษฝั่งลูกค้าคือผม ที่ทำให้เรื่องราวบานปลายและใหญ่โต จากความผิดพลาดของพนักงานเค้า (โดยมีการ Amend Tax ของสินค้าชิ้นนี้ให้ผมด้วย)
กลับมาที่กูบ้าง
ใจจริงๆเลยนะ ไม่ได้ออกมาโพสเพื่อโวยเรื่อง ภาษีหรืออะไรเลย หรือเรียกร้องความเป็นธรรม เราเล่าเรื่องที่เราเจอ ในแบบของเรา ผ่านพื้นที่ของเรา (เอ๊ะหรือไม่ใช่ที่เรา เป็นของพี่ Mark เจ้าของ Facebook)
แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงไปโดนใจให้คนแชร์กันสนั่นหวั่นไหว อย่างไรก็ตาม ตัวผมเองก็ต้องขอโทษทางกรมศุลกากรและผู้อ่านที่ไม่สบายใจทุกคน ที่มีส่วนทำให้คนอ่านเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องดังกล่าว
สรุปแล้วคือ เรื่องนี้จบ จ้า กรมศุลไม่ผิด DHL ผิด บัยยยย
-----------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่าจากศุลกากร (Original Post)
เมื่อตอนปลายปีที่แล้ว เราสั่งแผ่นเสียงของ Ariana จาก UK มา 3 แผ่น เมื่อสองวันที่ผ่านมา แผ่นเสียง 2 แผ่นก็มาส่งที่บ้านโดย DHL อย่างปลอดภัย
แต่เมื่อวานนี้ก้มีสายจาก DHL ก็โทรหาเรา
DHL: สวัสดีคะ คุณ สงกรานต์ หรือเปล่าคะ
Me: ครับ ว่าไงครับ
DHL: โทรจาก DHL นะคะ พอดีตอนนี้มีพัสดุชิ้นนึงของคุณ ติดอยู่ที่ศุลกากร ที่สนามบินสุวรรณภูมิคะ
Me: ทำไมละครับ เกิดอะไรขึ้น
DHL: ทางศุลกากรแจ้งมาว่า ทางผู้ส่งต้นประเทศจากอังกฤษ ได้ Declare ของในกล่องว่าเป็นวัตถุอันตรายคะ จึงต้องกัก พัสดุไว้ก่อน แล้วให้ทางทางเจ้าของไป Declare เรื่องนี้
Me: คิดในใจ ฉิบหายและ นี่มันห่าอะไรเนี่ย // เอ่อแล้วจะให้ผมทำยังไงบ้างครับ
DHL: ทางเรามี 3 Options ให้นะคะ
1. ทางคุณสงกรานต์นำบัตรประชาชนตัวจริงไปดำเนินการเองที่แอร์พอต
2. ให้ทาง DHL ดำเนินการให้มีค่าธรรมเนียม 1500 บาท
3. ให้ทาง DHL ไปรับบัตรประชาชนตัวจริง มาดำเนินการให้ จะใช้เวลา2-3 วันถึงจะได้บัตรคืน แต่ไม่เสียค่าธรรมเนียม
Me: เอ่อ เอาทางที่ไม่เสียเงินครับ เพราะยังไงของน่าจะโดนภาษีด้วยอยู่แล้ว ไม่อยากเสียเงินเพิ่ม
จบการสนทนา ทาง DHL ก็ส่งเมลเคสนี้มาให้
ตอนเราเปิดเมล เราคิดในใจอย่างเดียวว่า
จะด่าคนส่งของยังไงว่า ทำไมมึงปัญญาอ่อนขนาดนี้
ส่งของแล้ว Declare ว่า อันตรายมาได้ยังไง แผ่นเสียงเนี่ยนะมึง
พอเราอ่านเมลปั๊บ
เรา นั่งร้องไห้ก่อน 10 นาที
แล้ว โทรกลับไปที่ DHL
Me: สวัสดีครับผมจะขอ Follow Up เรื่องเคสของติดที่แอร์พอตครับ
DHL: รบกวนขอหมายเลข WayBill
Me: แจ้งเลขไป
DHL: ครับ พัสุติดการสุ่มตรวจจากศุลกากรนะครับ เพราะมีการแจ้งว่าเป็นวัตถุอันตราย
Me: ขอโทษนะครับ คือของที่ผมสั่งมาเป็นแผ่นเสียง ของนักร้องชื่อ Ariana Grande อัลบั้มชื่อ Dangerous Woman ครับ ไม่ได้แปลว่า ทางคนส่ง Declare ของว่าเป็น วัตถุอันตรายครับ ทางแอร์พอตไม่มีเครื่องสแกนดูของหรือครับ ถึงไม่รู้ว่าของข้างในเป็นแผ่นเสียง
DHL: ขอทางเราตรวจสอบก่อนนะครับแล้วจะรีบติดต่อกลับ
Me: ครับ
20 นาทีต่อมา
DHL: สวัสดีครับ คุณ สงกรานต์ ติดต่อจาก DHL นะครับ
Me: ครับ สรุปว่าไงครับ
DHL: ทางเราได้ตรวจสอบแล้วนะครับ ว่าสรุปเป็นแผ่นเสียงจริงและชื่ออัลบั้มตามที่คุณสงกรานต์แจ้งมา
แต่ทางศุลกากรแจ้ง ทางแผนก ไม่สามารถปล่อยของออกมาได้ เนื่องจากบนกล่อง มีการเขียนว่า
สินค้า เป็นสินค้า อันตรายต่อผู้หญิง
ต้องทำการ Declare ตามขั้นตอนครับ
Me: คุณพระ อันนี้พูดจริงใช่ไหมครับ
สิ่งที่คิด อีเหี้ย นี่มึงโง่จริงหรือมึงแกล้งโง่นิ อีดอก ใครเค้าจะเขียนบนกล่องว่าของข้างในอันตราย ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ มายก๊อดดดดด
Me: แต่ทาง DHL เข้าใจใช่ไหมครับว่า มันคือชื่ออัลบั้ม ไม่ได้แปลว่า ของในกล่อง มีอันตรายต่อผู้หญิงจริงๆ
DHL: ทางเราทราบครับ
Me: งั้นดำเนินการเลยครับ มารับบัตรได้พรุ่งนี้
ชั้นภูมิใจเหลือเกินที่เกิดเรื่องแบบนี้ให้เราได้มีประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิตว่า นำเข้าสินค้าที่เป็นอันตรายต่อผู้หญิง
ถ้าเจอ Ariana จะไปเล่าให้นางฟัง ส่วนใครอ่านแล้วตกใจ มึงแชร์ต่อไปยาวๆ เลยฝากด้วย ชั้นเหนื่อยใจมาก
ราตรีสวัสดิ์
กรมศุลกากร คือ 在 DJ Suharit Siamwalla Facebook 的最讚貼文
เกือบจะด่าอยู่แล้ว
สุหฤท สยามศุลกากรนำโชค
UPDATE: ไม่บังคับผู้โดยสารแจงของมีค่าก่อนบินไปนอก กรมศุลฯ แจง เจตนาอำนวยความสะดวก เตรียมแก้ประกาศให้ตรงเจตนารมณ์
.
เรียกเสียงวิจารณ์สนั่นหวั่นไหว สำหรับ ประกาศกรมศุลกากรที่ 60/2561 ซึ่งมีเนื้อหาสาระระบุให้ กรณีเดินทางออกนอกประเทศ หากจะนำของมีค่าออกไป เช่น นาฬิกา กล้องถ่ายวิดีโอ กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์สำหรับพกพา ให้แจ้งต่อพนักงานศุลกากร
.
ร้อนถึงกรมศุลกากรต้องออกมาแถลงชี้แจงยืนยันว่า เนื้อหาสาระในประกาศดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องปฏิบัติ
.
วันนี้ (8 มี.ค.) ชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานโฆษก แถลงข่าวชี้แจงว่า เนื้อหาของประกาศฉบับดังกล่าวไม่ได้กำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนจะต้องนำสิ่งของไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ
.
แต่วัตถุประสงค์ของประกาศฉบับนี้เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้โดยสารที่อาจมีสิ่งของต้องนำไปต่างประเทศ เช่น เพื่อนำไปแสดงนิทรรศการ หรือ เพื่อนำไปประกอบวิชาชีพ แล้วเกรงว่าหากนำของดังกล่าวกลับเข้ามาในประเทศอาจถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจพบและตั้งข้อสงสัยว่าของนั้นเป็นของที่เพิ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศและอยู่ในข่ายต้องเสียภาษีอากร ทำให้ผู้โดยสารต้องเสียเวลายุ่งยากในการหาเอกสารหลักฐานประกอบคำชี้แจง
.
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว กรมศุลกากรจึงมีบริการเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถไปพบเจ้าหน้าที่ก่อนออกเดินทางออกนอกประเทศเพื่อให้บันทึกสิ่งของนั้นไว้เป็นหลักฐาน
.
รองอธิบดีกรมศุลกากร เน้นย้ำว่า การปฏิบัติดังกล่าวไม่ได้บังคับผู้โดยสาร ไม่มีบทลงโทษผู้โดยสาร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้โดยสารจะเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองหรือไม่ และโดยปกติที่ผ่านมาก็แทบไม่มีผู้โดยสารมาแจ้งอยู่แล้ว โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้มีเพียง 82 ราย เฉลี่ยเดือนละไม่ถึง 10 ราย และคนที่นำมาแสดงให้ดูก็มักจะเป็นบุคคลที่มีความเข้าใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว เช่น กองถ่ายทำภาพยนตร์
.
“มาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการบังคับ ขึ้นอยู่กับว่าท่านคิดว่าสิ่งของที่นำออกไปเวลานำกลับมาจะมีปัญหาหรือไม่ เช่น หากท่านเป็นนักธุรกิจนำของไปขาย หรือไปจัดแสดง ซึ่งมีปริมาณเยอะ และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกเรียกตรวจ แนะนำว่าควรนำไปแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อความสะดวกเวลานำกลับเข้ามา จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปพิสูจน์
ส่วนการใส่นาฬิกาหรือนำกล้องถ่ายรูป โน้ตบุ๊ก ไปเที่ยวต่างประเทศ ท่านไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะหลักปฏิบัติของเราไม่ได้มุ่งเน้นกับผู้โดยสารโดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่เราใช้หลักบริหารความเสี่ยงตามฐานข้อมูลในการสุ่มตรวจตามปกติ” รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าว
.
ส่วนประเด็นการซื้อของที่ Duty Free ขาออก เมื่อนำกลับเข้ามาในประเทศต้องดำเนินการตามกฎหมาย คือ สิทธิในการยกเว้นอากรตามกฎหมายกำหนดคือ ของนั้นมีมูลค่ารวมไม่เกิน 20,000 บาท
.
ส่วน สุรา ไม่เกิน 1 ลิตร บุหรี่ ไม่เกิน 200 มวน ก็ได้รับการยกเว้น แต่ถ้าเกินกว่านั้นก็ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย
.
สำหรับเนื้อหาสาระในประกาศที่ 60/2561 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 นั้น รองอธิบดีกรมศุลกากร ชี้แจงว่า สาระสำคัญในประกาศไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่เหตุที่ต้องนำมาออกเป็นประกาศกรมศุลกากรใหม่ เนื่องจาก พ.ร.บ. กรมศุลกากร พ.ศ. 2469 ถูกยกเลิก โดย พ.ร.บ. กรมศุลกากร พ.ศ. 2560 ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการยังมีผลในทางปฏิบัติจึง จึงต้องออกประกาศกรมฯ ฉบับดังกล่าวขึ้นมา
.
อย่างไรก็ตาม รองอธิบดีกรมศุลกากร ยอมรับว่า เนื้อหาในประกาศส่งผลทำให้เกิดความเข้าใจผิด ขณะนี้ทางกรมฯ อยู่ระหว่างการปรับแก้ประกาศ ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับเจตนารมณ์มากยิ่งขึ้น โดยจะพยายามปรับแก้ให้เร็วที่สุด
#News #TheStandardCo #TheStandardTH #StandUpForThePeople
กรมศุลกากร คือ 在 กรมศุลกากรให้ข้อมูลกร... - กรมศุลกากร : The Customs Department 的推薦與評價
กรมศุลกากร จึงขอแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสิทธิของผู้โดยสารในการนำของติดตัวเข้ามาพร้อมกับตนทางท่าอากาศยาน กล่าวคือ ผู้โดยสารได้รับยกเว้นอากรสำหรับของ ... ... <看更多>
กรมศุลกากร คือ 在 ภาษีศุลกากร คือ อะไร - YouTube 的推薦與評價
ความหมาย หลักการจัดเก็บ พิกัดภาษี ศุลกากร #customs #ภาษีนำเข้า # ศุลกากร #ภาษี. ... <看更多>