บทเรียนจากเลือดเนื้อของผู้ล้มเหลวจนสำเร็จ
---
เนื้อๆ จาก Clubhouse มาราธอน สองทุ่มถึงเฉียดตีหนึ่งใน 'ห้องแนะแนว' กับแขกพิเศษ 'สุพจน์ ธีระวัฒนชัย' แห่งโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง รุมถามโดย หนุ่มเมืองจันท์, ธนา เธียรอัจฉริยะ และนิ้วกลม
🔴 เริ่มจากติดลบ
ในช่วงท้ายหลายคนขึ้นมาเล่าปัญหาและถามคำถาม พี่พจน์บอกว่า "ผมเกิดมาพร้อมปัญหา ชีวิตย่อมมีปัญหา ปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา" คำพูดนี้ย่อมมีน้ำหนักเมื่อออกจากปากของคนที่ต้องซื้อก๋วยเตี๋ยวถุงละ 3 บาท 2 ถุง ขอน้ำซุปเยอะมากินกับครอบครัว 5 คนตั้งแต่เด็ก ผู้มีความฝันว่า "ถ้ารวยจะกินก๋วยเตี๋ยวโดยไม่ต้องกินพร้อมข้าว" คำบอกเล่าเรื่องราวในวัยเด็กฉายภาพให้เห็นว่าเจ้าของโรงเบียร์พันที่นั่งหลายสาขา ณ ตอนนี้ไม่ได้มีชีวิตสุขสบายแต่อย่างใดในอดีต
"พี่พจน์ทำงานอะไรมาบ้าง" เมื่อได้ยินคำถามนี้ เขาตอบว่า "คุณจะเอาตั้งแต่อายุเท่าไหร่ล่ะ"
เขาทำมาสารพัด ตั้งแต่ช่วยแม่ทำขนมตอนประถมต้น ตั้งแผงขายขนมเองตอน ป.3 พับนสพ.เป็นถุงกระดาษ ทำเสื้อยืด ทำแบรนด์เสื้อยืด ก่อนจะมาทำธุรกิจหมู่บ้านจัดสรร และโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงในที่สุด
แน่นอนว่าระหว่างทางเรียงรายด้วย 'ความล้มเหลว'
เคยเป็นหนี้มากสุดตอนโรงงานทำเสื้อยืดเจ๊ง เป็นหนี้ 29.6 ล้าน
...
🔴 ความล้มเหลวจูงมือมากับความอวดดี
แบรนด์เสื้อยืดแยมแอนด์ยิมกำลังรุ่ง ทำกำไรได้เดือนละห้าแสนบาทในยุค 30 ปีก่อน (นับว่าเยอะมาก) แต่ความผิดพลาดหลายอย่างทำให้เงินขาดมือ หมุนไม่ทัน ส่วนสำคัญคือนำไปลงทุนกับการซื้อใบจองที่ดินและตึกแถว หวังทำกำไรเพิ่ม แต่กลับเจ๊ง พี่พจน์บอกว่ามันทำให้เราเห็นว่าเราไม่มีวินัย ไม่ซื่อสัตย์กับลูกรักของตัวเอง (แบรนด์เสื้อยืด) เมื่อเอาเงินออกจากธุรกิจหนึ่งไปใส่อีกธุรกิจจึงทำให้พังไปด้วยกัน นี่คือบทเรียนสำคัญที่ได้เรียนรู้
ตอนที่ขายใบจองตึกแถวได้เงินมาหนึ่งแสนบาท เขาใช้เงินอย่างสบายใจ ชวนครอบครัวไปหาน้องชายที่ญี่ปุ่น แป๊บเดียวเงินก้อนนั้นก็หมดเกลี้ยง "พอทำได้เราก็มีอัตตา พอคุณทำได้ คุณจะเริ่มอยากกำหนดโลกของตัวเอง" พี่พจน์บอกว่าความมั่นใจที่เกิดจากความสำเร็จเป็นเรื่องต้องระวัง เพราะความอวดดีมักจูงมือความล้มเหลวมาด้วยเสมอ
เขายังได้เรียนรู้อีกว่า การไม่มีระบบบัญชีชัดเจน ไม่ให้เงินเดือนตัวเอง อยากหยิบเท่าไหร่ก็หยิบออกไปใช้ก็ทำให้ระบบบัญชีของบริษัทเกิดปัญหา
การล้มครั้งนี้ทำให้เป็นหนี้มหาศาล หนี้ก้อนหนึ่งก่อหนี้ก้อนถัดไป เหมือนลูกบอลหิมะที่ยิ่งกลิ้งลงเขาก็ยิ่งก้อนใหญ่ขึ้น ยิ่งเมื่อคิดหวนถึงความสำเร็จเดิมที่สะสมมาแล้วทำมันพังลงกับมือก็ยิ่งเสียใจ เสียดาย ผิดหวัง จนเกิดภาวะ 'ล้มละลายทางจิตใจ' กระทั่งเคยคิดจบชีวิต
...
🔴 อะไรที่ฟื้นหัวใจทำให้ลุกสู้อีกครั้ง
"ผมเชื่อในกรรมดี" พี่พจน์ย้ำคำนี้หลายหน สิ่งที่ทำให้เขายังไม่จบชีวิตตามที่จินตนาการวางแผนในหัวคือคนรอบตัว มองไปที่ครอบครัวก็คิดได้ว่าต้องอยู่ดูแล และที่สำคัญคือ เพื่อนที่มานั่งข้างๆ ในวันที่ย่ำแย่ที่สุด เพียงรับฟัง ไม่ปลอบ ไม่พูดอะไร ชงเหล้ารินเบียร์ให้และอยู่ข้างกัน "มันทำให้เรารู้ว่ายังมีคนรักเรา เราตายไม่ได้"
'กรรมดี' ที่ว่าคือเขาไม่เคยคิดร้ายกับใคร ไม่มีศัตรู และมีมิตรแท้
แล้วเขาก็ค่อยๆ คิดได้ว่า อายุตัวเองยังน้อยเกินกว่าจะลาโลกไป มีอะไรอีกหลายอย่างที่อยากทำ หลายสถานที่ที่ยังอยากไปเห็น รวมถึงความรู้สึกเบื้องลึกที่อาจสั่งสมมาตั้งแต่วัยเด็กว่า "ผมเป็นผู้แพ้ไม่ได้" ทำให้เขาออกเดินทางถามไถ่เพื่อนเพื่อขอความช่วยเหลือทั้งกำลังใจและกำลังทรัพย์ กู้เงินจากเพื่อนมาเพื่อเริ่มใหม่
"มิตรสหายที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากของชีวิต ให้คุณลองพิจารณาดีๆ ว่า คนที่คบหาอยู่เป็นมิตรสหายหรือเพียงคนรู้จัก มิตรที่ดีจะโอบอุ้มเราเวลาเราย่ำแย่ เพื่อนแท้ไม่ต้องมีมาก แต่ต้องมีไว้ในชีวิต สิ่งที่ชีวิตนี้ผมไม่ยอมสูญเสียเด็ดขาดคือมิตรสหายที่ดี"
...
🔴 ตอนเป็นหนี้ 'เวลา' สำคัญที่สุด
บทเรียนจากความล้มเหลวที่ไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาทบทวีเป็นบอลหิมะ ดอกเบี้ยงอกทุกวินาทีที่เข็มนาฬิกาเดิน ทำให้พี่พจน์ได้บทเรียนสำคัญว่า "หนี้คือความทุกข์แสนสาหัส"
"เวลาเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น" หากมีสินทรัพย์ที่สามารถขายมาลดหนี้ที่มีได้ ต้องยอมขายในราคาถูก ในราคาที่คนอยากซื้อ เพราะจะได้เงินมาทำให้หนี้เหลือก้อนเล็กลง ดอกเบี้ยจะได้สาหัสน้อยลงด้วย นี่คือคำแนะนำสำคัญจากพี่พจน์ ไม่ต้องหวงทรัพย์สินหรือพยายามขายให้ได้ราคาที่ตั้งใจไว้ "คุณไปกดเครื่องคิดเลขดูดีๆ แล้วคุณจะเห็นว่า การขายในราคาสูงกว่าอาจไม่คุ้มเท่าขายได้เร็วกว่า เพราะดอกเบี้ยของเงินต้นที่สูงมันเหมือนสนิมที่กินเนื้อคุณไปทุกวัน"
ขายทุกสิ่งเท่าที่นึกออก ลดขนาดหนี้ เจรจากับเจ้าหนี้ แล้วลุกขึ้นใหม่พร้อมบทเรียนที่ได้จากความล้มเหลวเพื่อจะไม่ล้มแบบเดิมอีก
"ความล้มเหลวทำให้กลัว แต่มันทำให้เรารอบคอบมากขึ้น และเมื่อรอบคอบมากขึ้น เราจะกล้ามากขึ้น"
...
🔴 แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
พี่พจน์ยังล้มเหลวอีกครั้งกับการเจ๊งในธุรกิจบ้านจัดสรร จากนั้นบ้านเมืองเข้าสู่บรรยากาศช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ไม่มีใครกล้าเริ่มต้นทำอะไร แต่ ณ ตอนนั้นพี่พจน์และคุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ มีไอเดียอยากทำโรงเบียร์ที่ขายอาหารไทยราคาคนไทย
เงินไม่มี แต่มีฝัน พี่พจน์ออกเดินตระเวณขอยืมเงินเพื่อนมาทำธุรกิจอีกครั้ง
"ทำไมเพื่อนให้ยืม?"
"เพราะผมไม่เคยเบี้ยว ติดหนี้ใครผมใช้คืนทุกคน เขาเลยไว้ใจ" และน่าจะเป็นเพราะความเป็นคนจริงและเป็นมิตรที่ดีนี่เองที่เป็นเกราะป้องกันพี่พจน์จากโชคชะตาเลวร้ายนานาประการ
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงเปิดไม่ถึงสามเดือน จากคนมา 40 คนในช่วงแรก กลายเป็นต้องต่อคิวรอ "วันนั้นแหละ ผมรู้แล้วว่ารอด"
แล้วโรงเบียร์ฯ ก็ขยายกิจการมากมายอย่างที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน
...
🔴 อย่าขี้ขลาด ลุกจากเก้าอี้!
ความสำเร็จที่เราเห็นในวันนี้จึงผ่านเส้นทางโชกโชนอาบเลือดอาบเหงื่อ เต็มไปด้วยร่องรอยแผลฉกรรจ์ แต่มาถึงวันนี้พี่พจน์บอกว่า "ผมรู้สึกขอบคุณชีวิตตัวเอง ขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณทุกการเฆี่ยนตี ไม่อย่างนั้นคงไม่มีผมในวันนี้ ชีวิตเหมือนเสื้อผ้า เราเลือกเสื้อผ้าที่จะสวมได้ ถ้าเลือกตัวที่สดใสมันก็จะสดใส"
"ความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ เวลาคุณทำงาน ผมก็ยังผิดพลาดอยู่ทุกวัน ความผิดพลาดไม่ได้น่ากลัว ที่น่ากลัวคือไม่รู้ว่าผิด พอรู้แล้วก็แก้ไขมัน"
หลังฟังคำถามจากเพื่อนผู้ฟังร่วมห้องมาเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง พี่พจน์บอกว่า "หลายคำถามสะท้อนให้เห็นว่าพวกเรามีความกลัว กลัวล้มเหลว กลัวผิดหวัง กลัวจะไม่ชอบ กลัวทำได้ไม่ดี คุณกลัวได้ถ้าไม่มีเงื่อนไขในชีวิต ถ้าไม่ต้องดูแลพ่อแม่พี่น้อง แต่ชีวิตคุณมันมีความจำเป็นให้ต้องลงมือทำ มีคนที่เราต้องดูแล อย่าไปกลัว อย่าขี้ขลาด อย่าไปมัวแต่นั่งคิดอยู่บนโซฟา อย่าอยู่แต่กับหน้าจอ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ออกเดิน ลงมือทำ แล้วเรียนรู้จากมัน"
...
🔴 ความล้มเหลวอันมีค่า
ตลอดเวลาเฉียดห้าชั่วโมงที่นั่งฟังชีวิตของพี่พจน์ ผมได้รับพลัง กำลังใจ แง่คิด และซึบซับความรู้สึกจากประสบการณ์เข้มข้นที่ล้มแล้วลุกครั้งแล้วครั้งเล่าของเขาว่า "ถ้าไม่ล้มคงไม่มีวันนี้"
การล้มเหลวทำให้อุดรูโหว่ ลดข้อผิดพลาด ลดอัตตา จดจำบาดแผล และเติบโต สิ่งสำคัญคือ สะสมมิตรสหายที่ดีเอาไว้เสมอ เพราะในวันที่มืดที่สุด มิตรคือแสงสว่างเหมือนเทียนเล่มน้อยให้เราจุดไฟในตัวขึ้นใหม่ กระทั่งกลายเป็นคบเพลิงแห่งความหวังได้อีกครั้ง
ทุกความล้มเหลวเมื่อผ่านมาได้จะกลายเป็นเรื่องเล่าที่ทรงพลัง
ไม่มีใครอยากล้มเหลว แต่สำหรับคนที่ลงมือทำคงไม่มีใครหลีกเลี่ยงมันได้เช่นกัน
และยิ่งรับฟังเรื่องราวความสำเร็จของผู้คนมามากขึ้นๆ ก็ยิ่งยืนยันทุกครั้งไปว่า ความล้มเหลวคือองค์ประกอบของความสำเร็จ
"ชีวิตเกิดมาพร้อมปัญหา" พี่พจน์ว่าไว้เช่นนั้น
อย่าไปกลัว ลุกจากเก้าอี้ แล้วออกเดิน
#ห้องแนะแนว
#ตุ้มโจ้เอ๋
#ขอบคุณพี่พจน์อย่างสูงครับ
ขอบคุณพี่พจน์อย่างสูงครับ 在 ✅✅จ่ายสดกับ #พจน์ท่าพระจันทร์ วันนี้‼️เดินทางจากโคราช มารับ ... 的推薦與評價
‼️กับ #พจน์ท่าพระจันทร์ 38,000 ได้เช่าพระด้วย ได้กินถั่วทอดด้วย ขอบคุณ พี่ปุ๋ยมากๆครับ ... ... <看更多>
ขอบคุณพี่พจน์อย่างสูงครับ 在 ขอบคุณพี่พจน์อย่างสูงครับ - Explore 的推薦與評價
เนื้อๆ จาก Clubhouse มาราธอน สองทุ่มถึงเฉียดตีหนึ่งใน 'ห้องแนะแนว' กับแขกพิเศษ 'สุพจน์ ธีระวัฒนชัย' แห่งโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง รุมถามโดย หนุ่มเมืองจันท์, ... ... <看更多>