關於 ขอบคุณไนกี้ที่มอบรองเท้ามาให้ทดสอบครับ ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

พักยาวมาสิบวันหลัง 100k วันนี้ได้ฤกษ์กลับมาวิ่งเบาๆ เขย่าน่องสักนิด ถือโอกาส test drive "NIKE REACT INFINITY RUN" ที่ไนกี้ชวนทดลองใส่ ขอแบ่งปันประสบการณ์ตามนี้ครับ

🏃‍♂️ รูปโฉมโนมพรรณ:
เห็นไกลๆ คล้ายสีขาว แต่เขยิบเข้าใกล้แล้วจะเห็นรายละเอียดที่น่าสนใจ ตอนใส่ว่าสวยแล้ว แต่ผมชอบตอนถอดมากกว่า 555 เพราะสีสัมที่พื้นรองด้านในมันเรืองออกมาผ่าน flynit โปร่งแสงดูเก๋มาก สีส้มสลับเงินตรงโลโก้หุ้มไปถึงส้นก็ดูเร้าใจทันสมัยดี พอมาน้อยๆ เหน็บไว้กับรองเท้าขาวก็รู้สึกไม่ 'วัยรุ่น' เกินหน้าตาเราเกินไป ถ้าเยอะกว่านี้อาจต้องดึงหน้าสักนิดก่อนใส่ 😁 สรุปว่าเรียบแต่มีลูกเล่น ใส่เดินเล่นในชีวิตประจำวันไปพบปะญาติมิตรก็ไม่เคอะเขินแต่อย่างใด

🏃‍♂️ สมรรถนะ:
รองเท้าคู่นี้ออกแบบมาจากความฝันที่ใหญ่โตมาก คือฝันว่า "จะเป็นไปได้ไหมที่จะมีรองเท้าที่นักวิ่งใส่แล้วมีสถิติบาดเจ็บเท่ากับ 0%" ฉะนั้นมันจึงมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างจากรุ่นซิ่งๆ ที่เราคาดหวังความเร็วจากมัน เจ้านี่เน้นที่ความปลอดภัยของเท้า น่อง เข้า ต้นขา ทุกอย่างจึงออกแบบมาเพื่อการนั้น

ถ้าดูจากหน้าตาจะเห็นว่าพื้นส่วนหน้าที่สัมผัสพื้นมีความบานกว่ารุ่นซิ่งๆ ทั้งหลาย ข้อดีคือมันเพิ่มความมั่นคงเวลาลงเท้า ตอนใส่รู้สึกได้เลยว่าปลายฝ่าเท้าจนถึงกลางเท้าแปะลงไปที่พื้นแบบมั่นๆ หรืออาจเรียกด้วยภาษาบ้านๆ ว่า "เต็มๆ ตีน"

แต่ส่วนส้นไม่แบนราบ เอียงโค้งขึ้นนิดๆ ทำให้ยังคงผลักร่างไปข้างหน้า แต่ไม่ขนาด 4% หรือ Next% ซัพพอร์ตนุ่มนวล รับแรงกระแทกดี แต่ไม่ดึ๋งขนาดที่แตะแล้วเด้ง โดยรวมให้ความรู้สึกวิ่งสบาย มั่นคง วิ่งยาวๆ น่าจะนุ่มเท้าและหัวเข่า

ถ้าพูดถึงน้ำหนักก็ไม่ได้เบาหวิว แต่ก็ถือว่าเบา แต่ความรู้สึกตอนใส่ไม่พลิ้วเหมือนพวกรุ่นเรียวแหลม ขณะเดียวกัน บางคนที่ใส่รุ่นซิ่งๆ ไปวิ่งยาวตอนไม่ฟิตก็อาจเสี่ยงบาดเจ็บได้ เพราะรองเท้าพลิ้วเกินร่างเรา

🏃‍♂️ โดยสรุป:
ผมว่า REACT INFINITY เหมือนเพื่อนที่เจอกันบ่อยๆ แล้วสบายใจ ไม่ใช่สายซิ่ง แต่เป็นสายที่ใส่ได้ทุกวัน เหมาะกับการซ้อม 5 / 10 / 15 / 20 กม. ใส่แล้วถนอมฝ่าเท้า น่อง เข่า ยิ่งสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มวิ่งแล้วต้องการรองเท้าที่ช่วยทะนุถนอมขาก่อนที่จะอัพร่างไปวิ่งในเพซที่เร็วขึ้นก็น่สจะเหมาะ ส่วนนักวิ่งที่ซ้อมประจำ คู่นี้ก็น่าจะเป็นคู่หูในวันซ้อมสบายๆ ได้บ่อยๆ

ถามผม ผมว่าน่าใส่เที่ยว เพราะสวยและหน้าตาไม่ 'วิ่ง' จนเกินไป แต่เผลอแป๊บเดียว เจอเส้นทางน่าวิ่ง ถอดกางเกงเปลี่ยนแล้ววิ่งได้เลย 555

...

ไนกี้เขาบอกว่า ทดสอบรองเท้าคู่นี้กับนักวิ่งตอนซ้อมช่วยลดการบาดเจ็บได้ 52% เทียบกับรุ่น NIKE AIR ZOOM STRUCTURE22 คีย์มันจึงอยู่ตรง 'ลดการบาดเจ็บ' นี่เอง

นักวิ่งต่างรู้กันดีว่าเวลาบาดเจ็บมันน่าหงุดหงิดขนาดไหน เพราะได้แต่รอให้หาย ซ้อมก็ไม่ได้ สมรรถภาพก็ลดลง กันไว้จึงดีกว่าแก้

ตอนไปรับรองเท้าจากไนกี้แล้วฟังบรรยายเรื่องรองเท้า สไลด์ที่ผมชอบที่สุดคือคำพูดของ Bret Schoolmeester เขาพูดว่า...

"You can make an amazing product, but if you run dumb you'll still get hurt."

"คุณอาจจะสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งเลิศเลอ แต่ถ้าคุณวิ่งแบบโง่ๆ คุณก็ยังบาดเจ็บได้อยู่ดี"

ท่าวิ่งที่ถูกต้อง ตารางซ้อมที่พอเหมาะ การไม่หักโหมเกินสมรรถนะ หรือกระทั่งเช็คฝุ่นให้ดี ล้วนแล้วแต่จำเป็นไม่ว่าใส่รองเท้ารุ่นไหนก็ตาม

ส่วนกระผม พักฟื้นมาสักระยะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้เวลาประคองคนข้างตัวให้ไปถึงเส้นชัย 25k จะทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า

มาลุ้นกัน 😁

#ขอบคุณไนกี้ที่มอบรองเท้ามาให้ทดสอบครับ

พักยาวมาสิบวันหลัง 100k วันนี้ได้ฤกษ์กลับมาวิ่งเบาๆ เขย่าน่องสักนิด ถือโอกาส test drive "NIKE REACT INFINITY RUN" ที่ไนกี้ชวนทดลองใส่ ขอแบ่งปันประสบการณ์ตามนี้ครับ

🏃‍♂️ รูปโฉมโนมพรรณ:
เห็นไกลๆ คล้ายสีขาว แต่เขยิบเข้าใกล้แล้วจะเห็นรายละเอียดที่น่าสนใจ ตอนใส่ว่าสวยแล้ว แต่ผมชอบตอนถอดมากกว่า 555 เพราะสีสัมที่พื้นรองด้านในมันเรืองออกมาผ่าน flynit โปร่งแสงดูเก๋มาก สีส้มสลับเงินตรงโลโก้หุ้มไปถึงส้นก็ดูเร้าใจทันสมัยดี พอมาน้อยๆ เหน็บไว้กับรองเท้าขาวก็รู้สึกไม่ 'วัยรุ่น' เกินหน้าตาเราเกินไป ถ้าเยอะกว่านี้อาจต้องดึงหน้าสักนิดก่อนใส่ 😁 สรุปว่าเรียบแต่มีลูกเล่น ใส่เดินเล่นในชีวิตประจำวันไปพบปะญาติมิตรก็ไม่เคอะเขินแต่อย่างใด

🏃‍♂️ สมรรถนะ:
รองเท้าคู่นี้ออกแบบมาจากความฝันที่ใหญ่โตมาก คือฝันว่า "จะเป็นไปได้ไหมที่จะมีรองเท้าที่นักวิ่งใส่แล้วมีสถิติบาดเจ็บเท่ากับ 0%" ฉะนั้นมันจึงมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างจากรุ่นซิ่งๆ ที่เราคาดหวังความเร็วจากมัน เจ้านี่เน้นที่ความปลอดภัยของเท้า น่อง เข้า ต้นขา ทุกอย่างจึงออกแบบมาเพื่อการนั้น

ถ้าดูจากหน้าตาจะเห็นว่าพื้นส่วนหน้าที่สัมผัสพื้นมีความบานกว่ารุ่นซิ่งๆ ทั้งหลาย ข้อดีคือมันเพิ่มความมั่นคงเวลาลงเท้า ตอนใส่รู้สึกได้เลยว่าปลายฝ่าเท้าจนถึงกลางเท้าแปะลงไปที่พื้นแบบมั่นๆ หรืออาจเรียกด้วยภาษาบ้านๆ ว่า "เต็มๆ ตีน"

แต่ส่วนส้นไม่แบนราบ เอียงโค้งขึ้นนิดๆ ทำให้ยังคงผลักร่างไปข้างหน้า แต่ไม่ขนาด 4% หรือ Next% ซัพพอร์ตนุ่มนวล รับแรงกระแทกดี แต่ไม่ดึ๋งขนาดที่แตะแล้วเด้ง โดยรวมให้ความรู้สึกวิ่งสบาย มั่นคง วิ่งยาวๆ น่าจะนุ่มเท้าและหัวเข่า

ถ้าพูดถึงน้ำหนักก็ไม่ได้เบาหวิว แต่ก็ถือว่าเบา แต่ความรู้สึกตอนใส่ไม่พลิ้วเหมือนพวกรุ่นเรียวแหลม ขณะเดียวกัน บางคนที่ใส่รุ่นซิ่งๆ ไปวิ่งยาวตอนไม่ฟิตก็อาจเสี่ยงบาดเจ็บได้ เพราะรองเท้าพลิ้วเกินร่างเรา

🏃‍♂️ โดยสรุป:
ผมว่า REACT INFINITY เหมือนเพื่อนที่เจอกันบ่อยๆ แล้วสบายใจ ไม่ใช่สายซิ่ง แต่เป็นสายที่ใส่ได้ทุกวัน เหมาะกับการซ้อม 5 / 10 / 15 / 20 กม. ใส่แล้วถนอมฝ่าเท้า น่อง เข่า ยิ่งสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มวิ่งแล้วต้องการรองเท้าที่ช่วยทะนุถนอมขาก่อนที่จะอัพร่างไปวิ่งในเพซที่เร็วขึ้นก็น่สจะเหมาะ ส่วนนักวิ่งที่ซ้อมประจำ คู่นี้ก็น่าจะเป็นคู่หูในวันซ้อมสบายๆ ได้บ่อยๆ

ถามผม ผมว่าน่าใส่เที่ยว เพราะสวยและหน้าตาไม่ 'วิ่ง' จนเกินไป แต่เผลอแป๊บเดียว เจอเส้นทางน่าวิ่ง ถอดกางเกงเปลี่ยนแล้ววิ่งได้เลย 555

...

ไนกี้เขาบอกว่า ทดสอบรองเท้าคู่นี้กับนักวิ่งตอนซ้อมช่วยลดการบาดเจ็บได้ 52% เทียบกับรุ่น NIKE AIR ZOOM STRUCTURE22 คีย์มันจึงอยู่ตรง 'ลดการบาดเจ็บ' นี่เอง

นักวิ่งต่างรู้กันดีว่าเวลาบาดเจ็บมันน่าหงุดหงิดขนาดไหน เพราะได้แต่รอให้หาย ซ้อมก็ไม่ได้ สมรรถภาพก็ลดลง กันไว้จึงดีกว่าแก้

ตอนไปรับรองเท้าจากไนกี้แล้วฟังบรรยายเรื่องรองเท้า สไลด์ที่ผมชอบที่สุดคือคำพูดของ Bret Schoolmeester เขาพูดว่า...

"You can make an amazing product, but if you run dumb you'll still get hurt."

"คุณอาจจะสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งเลิศเลอ แต่ถ้าคุณวิ่งแบบโง่ๆ คุณก็ยังบาดเจ็บได้อยู่ดี"

ท่าวิ่งที่ถูกต้อง ตารางซ้อมที่พอเหมาะ การไม่หักโหมเกินสมรรถนะ หรือกระทั่งเช็คฝุ่นให้ดี ล้วนแล้วแต่จำเป็นไม่ว่าใส่รองเท้ารุ่นไหนก็ตาม

ส่วนกระผม พักฟื้นมาสักระยะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้เวลาประคองคนข้างตัวให้ไปถึงเส้นชัย 25k จะทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า

มาลุ้นกัน 😁

#ขอบคุณไนกี้ที่มอบรองเท้ามาให้ทดสอบครับ