Sex Education เราได้เติบโตและเรียนรู้ไปพร้อมกับตัวละคร (รับชมได้ทาง Netflix)
เด็กไทยเราสูญเสียตัวตนมาตลอด...มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก
.
ผมเพิ่งดู Sex Education season3 จบไปเมื่อเช้านี้เองครับ สิ่งที่ผมค้นพบในตัวเด็กฝรั่งที่ผมคิดว่าแนวความคิดเค้าแตกต่างจากเด็กไทยมากๆไม่ใช่เรื่องฟรีเซ็กส์หรือการคิดว่าจะไปมี sex ยังไงก็ได้นะครับ แต่สิ่งที่ผมค้นพบก็คือ ฝรั่งเค้าเคารพในตัวตนของบุคคลมากๆ โดยเฉพาะเด็กๆวัยรุ่นที่เราพบว่าทำไมพวกเค้าถึงดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กไทยเรา นั่นคือเด็กฝรั่งเค้าค้นพบตัวตนเค้ารู้ว่าเค้าชอบอะไร เค้าไม่ชอบอะไร และที่สำคัญเค้าแทบไม่เคยจะต้องเก็บมันไว้ เค้าพูดเค้าบอกหมดว่าเค้าเป็นใคร เค้าชอบอะไรไม่ชอบอะไร จะว่าไปมันก็มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี แต่โดยรวมเท่าที่ดี ผมกลับพบว่าการเรียนรู้เรื่อง sex ในวัยเรียนมันสำคัญมากๆ และมันไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องบิดบังหรือพยายามบิดเบือนให้เด็กเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องน่าอับอายเลยแม้แต่น้อย
.
ตัวละครที่ผมรู้สึกว่าผ่านกระบวนการเรียนรู้ในเรื่องของการค้นพบตัวเองมากที่สุดคือ อดัม ครับ เค้าเป็นผู้ชายที่ดูเหมือนเกเร เพราะพ่อค่อนข้างเข้มงวดก่อนที่เค้าจะค้นพบว่าตัวเองเป็นเกย์ ชอบอีริกเพื่อนฟิวสีของโอทิส และที่สำคัญดูเหมือนว่าอดัมเองจะเป็นคนที่ต้องค่อยๆทะลายกำแพงตัวตนของตัวเองออกมาช้าๆ เริ่มแต่บอกว่าเป็นเกย์และที่สำคัญเค้าเป็นเกย์รับ ซึ่งสิ่งที่หนังจะบอกเราก็คือการเปิดเผยตัวตน การเปิดเผยรสนิยมทางเพศ และความชอบในเรื่อง sex ว่าเราชอบให้คนรักเราทำอะไรกับเรามันไม่ใช่เรื่องน่าอับอายเลย คนเรานะถ้าคบกันไปทัศนคตติทางเพศไม่ตรงกันมันย่อมไปกันไม่ได้ อีริกเองก็เป็นคนที่เปิดเผยตัวตนมาตลอดว่าเป็นเกย์ เค้าเป็นคนวี๊ดว๊ายและชอบปาร์ตี้ ชอบความสนุกสนาน ชอบการมีความสัมพันธ์ที่เปิดเผย เค้ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเค้ากับอดัมเองก็มีปัญหา
.
โฮป ครูใหญ่คนใหม่เองก็อายุไม่ได้มาก เปิดตัวมาเหมือนจะเป็นคนทันสมัย แต่ด้วยการต้องทำนโยบายให้โรงเรียนถูกตาถูกใจนายทุน เธอเลยต้องเข้มงวดกับนักเรียน และเรื่องใหญ่ที่สุดที่โฮปกระทำต่อนักเรียนก็คือการปิดกั้นและริดรอนสิทธิในการแสดงตัวตนของนักเรียนก็คือ การบังคับให้นักเรียนต้องใส่เครื่องแบบ รวมไปถึงการปิดกั้นการแสดงออกทางเพศ และกดทับนักเรียนในการแสดงตัวตนจนนำมาสู่การใช้บทลงโทษที่ใช้มาตรการประจานให้เด็กนักเรียนต้องได้รับความอับอาย บ้านเราเองก็ตามเถอะ พ่อแม่สมัยนี้บางคนอาจจะเคยผ่านและคุ้นชินกับระเบียบวินัย ชอบมองว่าอะไรที่มันเหมือนกันหมด การแต่งตัวที่เหมือนกันทุกคนมันคือความสวยงามความเป็นระเบียบ แต่ถ้าดู sex education เราจะพบว่าเรื่องนี้เค้าเน้นย้ำความสวยงามของความแตกต่างและความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเชื้อชาติ การแต่งตัว หรือความหลากหลายทางเพศ ใน sex education เราจะเห็นว่าแรกๆนักเรียนในเรื่องทุกคนแต่งตัวแตกต่างกันตามสไตล์เลย ทุกคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง โอทิส จะแต่งตัวเฉิ่มๆ จนรูบี้เองก็อายและชอบพยายามยัดเยียดให้โอทิสเปลี่ยรสไตล์การแต่งตัว แต่โอทิสไม่ยอมเด็ดขาด คนที่เป็น LGBT เองในเรื่องก็แต่งตัวเต็มที่ แต่พอเครื่องแบบเข้ามา ทุกอย่างจบ นักเรียนขาดเสรีภาพถูกริดรอนสิทธิในการแสดงตัวตน ส่วนตัวผมเองก็มองนะครับว่าเครื่องแบบมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย
.
การที่คนบ้านเรามาอ้างว่าแต่งตัวตามสบายเราจะเห็นความเหลื่อมล้ำ ถ้าใครได้มาดู sex education เราแทบจะเห็นเลยว่านักเรียนในเรื่องนี้มาจากครอบครัวที่หลากหลายมาก บางคนจนแบบไม่มีบ้านจะอยู่ ไปนอนในรถ บางคนก็รวยมีเงินทองเยอะแยะ หรืออย่างรูบี้เองภายนอกดูโก้เก่เฟียส แต่จริงๆบ้านนางเละเทะมากพ่อก็ป่วยนอนติดเตียง และโอทิสไปเจอ โอทิสก็ไม่ได้รู้สึกเหยียดอะไรเลย ฝรั่งในเรื่องเนี่ย ยากดีมีจนเค้าไม่ได้มองที่ฐานะเลย เค้ามองคนเท่ากัน หรือแม้แต่คนที่สวยไม่สวยหล่อไม่หล่อในเรื่องเนี่ย เค้าแทบไม่ได้มองอะไรข้างนอกเลย คนไม่สวย คนอ้วน คนผิวสี ทุกคนมีสิทธิทีความรักมีแฟนได้หมด เค้าไม่มองคนภายนอกเลย วิเวียนเด็กผิวสีตัวอ้วนที่อยากได้อยากดีก็ยังมีแฟนได้ บ้านเค้ามองคนจากตัวตนมากกว่าเปลือกมากกว่าฐานะหรือเสื้อผ้าที่คนในบ้านเรามองเป็นเปลือกหุ้มมาตลอด
.
โอทิสคือเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างซื่อสัตย์กับตัวเองมาก เค้าไม่ยอมบอกรักรูบี้ เพราะเค้าไม่ได้รู้สึกรัก แต่เค้าแค่ชอบ คนที่เค้ารักคือเมฟ เค้าปฏิเสธรูบี้ที่พยายามจะให้เค้าแต่งตัวในแบบที่ตัวรูบี้ชอบ โอทิสก็คือโอทิส โอทิสที่ได้รับการเลี้ยงดูมาจาก จีน ผู้หญิงที่มีรักความเป็นตัวของตัวเองและซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีกับเรื่อง sex มากๆ หนังพูดถึงเรื่อง sex ได้ลึกล้ำ และแหลมคมมาก มันไม่ได้สอนแค่เด็กเท่านั้น แต่มันยังสอนผู้ใหญ่ด้วย พ่อของอดัมจากครูใหญ่กลายมาเป็นคนล้มเหลวตกงาน เค้าพบว่าชีวิตที่ผ่านมาของเค้าไม่มีความสุขเลย เพราะเค้าเก็บกดอารมณ์ไม่ยอมแสดงออกไม่ยอมทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข เพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบโดนกดทับมาตั้งแต่เด็ก
.
ดูมาจน 3 season ผูกพันกับทุกตัวละครจนเหมือนเป็นคนในครอบครัวแล้วครับ น่องอาซ่า นี่โตเป็นหนุ่มแล้ว จิลเลี่ยนนี่ค่อแสดงหนังเก่งทุกเรื่อง อดัม อีริก รักมากกกกสองคนนี้
.
Sex Education เป็นซีรีส์ที่ผมรักมากครับ มันอาจจะไม่ได้ว่าสอนหรือบอกเราได้ถูกต้องหมดครับ มนุษย์เราต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้ทุกคน ต้องเคารพตัวตน เคารพผู้อื่น ซื่อสัตย์ต่อความต้องการของตัวเอง ชอบอะไรก็บอกไม่ชอบก็ต้องบอก อย่ากลัวที่จะร้องไห้ อย่ากลัวที่จะเป็นคนอ่อนแอ อย่ากลัวที่จะเป็นคนที่จะต้องบอกคนรักว่าเราชอบไม่ชอบอะไร ฝรั่งเค้าเน้นให้คนพูดและอยู่กับความจริง คนไทยคนเอเชียเราชอบให้เงียบหรือโกหกเพื่อความสบายใจ หลายๆอย่างเค้าก็ไม่ถูกไปเสียหมด แต่หลายๆอย่างสิ่งที่เราเป็นมันก็ไม่ทำให้เรามีความสุบ หลายๆอย่างเราต้องผ่านการเรียนรู้ไปเรื่อยๆครับ ตัวซีรีส์ Sex Education มันจบ Season3 ไปแบบที่เรื่องน่าจะปูพื้นไปต่อ season4 แน่นอน ส่วนตัวผมดูจนครบสามซีซั่น ผมอยากจะบอกว่ามันดีทุกตอนเลยครับ ใครยังคิดลังเลว่าจะดูดีไหม ผมแนะนำนะครับ ไปดูเถอะ มันคือซีรีส์ที่ดีและงดงาม สามปีผมเติบโตและได้เรียนรู้ไปพร้อมกับตัวละครครับ ลองเปิดใจชมดูนะครับ มันดีและงดงามจริงๆครับ
