คีย์บอร์ด RK860/RK100 Mechanical Bluetooth Keyboard ปุ่มครบ ๆ ที่เชื่อมต่อ BT ได้ 3 อุปกรณ์, มี USB C และ ต่อแบบ Wireless แถมปุ่มแบบ Hot Swap เปลี่ยนปุ่มเมื่อเสียเป็นบางปุ่ม หรือเปลี่ยนลักษณะปุ่มได้ ที่ลองซื้อมาแบบ Red Switch แล้วใช้งานชินแล้วทำให้เข้าใจว่าเป็นคีย์บอร์ดสายซิ่งพิมพ์เร็วนี่เอง (เนื้อหานี้ก็พิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดตัวนี้เช่นกัน)...
ช่วง 9.9 ผมสั่งคีย์บอร์ดตัวนี้ส่งมาจากจีน สาเหตุก็คือ เดือนก่อนซื้อแบบ Mechanical Blue Switch มาใช้แล้วชอบ ตอบโจทย์ความพิมพ์สนุกมาก ๆ ก็เลยอยากลองแบบ Red Switch บ้างว่าเป็นอย่างไร แต่ก่อนจะไปเรื่องนั้นมาลองดูประสบการณ์หลังจากใช้งานมา 5 วันจนชิน แบบยังไม่ปรับแต่งก่อนครับ...
ตัว RK100 เป็นคีย์บอร์ดแบบ สายปุ่มเยอะ มีทั้งแถวบนที่เป็น Esc F1 - F12 และ ปุ่มฝั่ง Numpad ที่มีปุ่มตัวเลขไว้คีย์ได้สะดวก เรียกว่าถ้าคนที่ชอบปุ่มเยอะ แต่อยากให้มันมีขนาดเล็กกว่าแบบ Full Size หน่อย ก็คงมาเป็นแบบนี้แหละครับ...
สัมผัสแรกของการแกะกล่องมาใช้พบว่า ตัวคีย์บอร์ดมันมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก ส่วนนึงน่าจะเพราะแบตเตอรี่ที่ใส่มา 3,750 mAh ซึ่งถึอว่าเยอะพอใช้งานเป็นอาทิตย์ได้แม้จะเปิดไฟบนคีย์บอร์ดด้วยก็ตาม และส่วนที่ดีคือน้ำหนักที่มากคือการเกาะโต๊ะไม่เคลื่อนเมื่อโดนชนโดยบังเอิญ นอกจากนี้ในกล่องยังมีสาย USB C to A สำหรับต่อกับคอมฯ และคีมหนีบที่หนีบได้ทั้ง Keycaps และตัวสวิตซ์คีย์บอร์ด...
ระบบไฟของคีย์บอร์ดตัวนี้ เป็นไฟสีขาว ปรับรูปแบบอนิเมชั่นของไฟได้หลายแบบ และปรับความเร็วของอนิเมชั่นได้ รวมถึงปิดไฟได้ด้วยถ้าไม่ได้ต้องการใช้งาน จากบนคีย์บอร์ดเลย ซึ่งเท่าที่ลองดูในห้องที่เปิดไฟก็รู้สึกว่าต้องปิดไฟ หรือเอามือบังนิดนึงแสงถึงจะออกมาให้เห็นชัดขึ้น...
ตัวปุ่มลองแกะออกมาดู สามารถใช้คีมที่ให้มาหนีบได้เลยทั้ง Keycaps ที่เป็นฝาปุ่มกด และตัวสวิตซ์คีย์บอร์ด เพื่อเปลี่ยนสวิตซ์แบบที่ต้องการได้ หรือเปลี่ยนแทนปุ่มที่เสียก็ได้เช่นกัน...
ผมเลือกสวิตซ์ปุ่มมาแบบ Red Switch ซึ่ง สาเหตุที่เลือกก็คือตอนใช้ Blue Switch มีเสียงดัง ก็เลยลอง Red Switch บ้าง เพราะมันเป็นแบบเสียงเบา ซึ่งพอลองเอามาพิมพ์ก็พบว่า เสียงต่างกันมาก จากที่เคยพิมพ์ดังต๊อกแต๊ก ๆ กลายเป็น แกร่ก ๆ เบา ๆ เท่านั้นเอง (เบาหูไปเยอะเลย) และขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าแรงที่ใช้กดมันน้อยลง ทำให้ช่วงที่ใช้งานแรก ๆ รู้สึกว่ากดง่ายจนลั่นปุ่มไปหน่อยเวลาลงนิ้ว (ความรู้สึกคือไม่เฟิร์มต้องลงจังหวะแน่น ๆ เหมือนฝั่ง Blue Switch) แรก ๆ พิมพ์ไปก็รู้สึกว่ามันเร็วไปไหม...
แต่หลังจากใช้มา 5 วันต่อเนื่อง จนชินพบว่า ถ้าสายที่ชอบพิมพ์เร็ว พิมพ์สัมผัสแม่นยำ กดคำเรียงตัวอักษรเป็นคอมโบ มันตอบโจทย์มาก ๆ หลาย ๆ คำที่พิมพ์คล่อง ๆ พิมพ์เร็วกว่าแบบ Blue Switch มากมาย คือจังหวะลงนิ้วมันจะต่อเนื่องกันได้เร็วมากกว่า เพราะต้องรับแรงกดที่น้อยกว่า ทำเวลาพิมพ์ได้เร็ว แต่ถ้าพิมพ์สำผัสไม่แม่น มือไปก่อนก็จะเผลอกดตัวอักษรที่พลาดได้ไวเช่นกัน (พอพิมพ์เร็ว ๆ เป็นประโยคยาว ๆ ต่อเนื่องได้จะสนุกกับปุ่มลักษณะนี้)...
จุดเด่นอีกอย่างนึงที่ชอบมากของคีย์บอร์ดฝั่ง RK ที่พัฒนาจากรุ่นก่อน ๆ ในตัวนี้ก็คือ มันสามารถสลับการใช้งานระหว่าง Windows และ Mac ได้ แต่ต้องกดสลับเอง ข้อดีคือตรงปุ่ม Command, Option และ Control มันจะกดได้ถูกตำแหน่งของมัน (ใน Mac จะตั้งค่าตรงนี้สลับได้ถ้าไม่มีตัวสลับ) ทำให้ใช้งานกับ iPad ที่ไม่สามารถตั้งค่าให้ปุ่มสลับได้ราบรื่นเหมือนกับบน Mac ได้เลย...
พูดถึงจุดที่ดีไปเยอะหลายอย่างแล้ว มาลองดูจุดสังเกตกันบ้าง...
คีย์บอร์ดตัวนี้เป็นการเอาปุ่มแบบ Full Size มาย่อรวมให้กระชับพื้นที่มากขึ้น ผลก็คือเวลาที่ผมเลือกกดตัวอักษรแล้วจะมากดลูกศรล่างขวามือเพื่อควบคุมทิศทางมันจะวืดไปโดนปุ่มตัวเลข Numpad บ่อยมากในวันแรก ๆ ที่ใช้ (เพราะมันเป็นคีย์บอร์ดสายซิ่ง เวลาพิมพ์ตัวอักษรความเร็วมือมันจะไปไวมากจนเลื่อนมากดลูกศรหรือ Numpad พลาดง่าย)...
ก็เลยแก้ปัญหาโดยการ เอาปุ่ม Keycaps ที่มีความสูงต่างกัน มาใส่ตรงตัวปุ่มลูกศรขึ้นลงซ้ายขวา, ปุ่ม Enter และปุ่มที่มักจะเผลอกดเลยให้สูงขึ้นแทน ผลทำให้เวลาเลื่อนมือไปสัมผัสปุ่มนอกเลย์เอาท์ตัวอ้กษรสามารถคลำผ่านเวลาเลื่อนมือขวาไปสัมผัสได้ง่ายขึ้นนั่นเอง...
อีกส่วนที่รู้สึกก็คือ ขนาดของมันมีความกว้างและสูงที่เยอะกว่า ตัวรุ่น 61 หรือ 68 ปุ่มพอสมควร (ก็ปุ่มมันเยอะขึ้น) ทำให้รู้สึกว่าเวลาวางบนโต๊ะแล้วมีความกินพื้นที่ ดูโต๊ะแน่นขึ้นมาหน่อยนึงเลย...
ในเรื่องของ Keycaps ที่เปลี่ยน สาเหตุก็คือ ผมถนัดปุ่มคีย์บอร์ดแบบ ปุ่มต่ำมาก่อน ทำให้เวลาพิมพ์ก้าวนิ้วไม่ชอบยกนิ้วสูงมาก และคีย์บอร์ดแบบ Mechanical มันเปลี่ยนตัว Keycaps ได้ ซึ่ง Keycaps แบบที่ลดความสูงไปได้ นั่นก็คือ Keycaps แบบ XDA Profile (มีรูปประกอบเท่ียบความสูงอยู่) ซึ่งปุ่มทุกปุ่มจะมีความสูงเสมอกันและต่ำกว่าแบบปกติที่มากับตัวคีย์บอร์ด ทำให้พิมพ์ถนัดขึ้น และการวางมือและความคุ้นเคยเหมือนกับการใช้คีย์บอร์ดฝั่ง Blue Switch ที่เปลี่ยน Keycaps แบบเดียวกันไปก่อนหน้า...
ถ้าให้สรุปสำหรับคีย์บอร์ดตัวนี้ ก็คงเป็นเรื่องการที่มีปุ่มที่เพิ่มมากขึ้น เหมาะกับคนที่ยังต้องกดสลับภาษาด้วยปุ่ม Grave Accent ( ` ) , ยังคงต้องใช้ปุ่ม F1 - F12 อยู่ และยังต้องใช้ปุ่มตัวเลขฝั่ง Numpad ก็ยังสามารถใช้ได้เหมือนเดิม โดยขนาดเล็กลงกว่าแบบ Full Size 104 Keys แบบมาตรฐาน...
ถ้าพูดถึงเรื่องความคล่องหลังจากที่ลองมา 3 วันก่อน อาจจะรู้สึกว่าแบบ Blue Switch จะพิมพ์ได้เฟิร์มกว่า แต่หลังจากที่ลองจนพิมพ์ได้คล่องก็พบว่า แบบ Red Switch ก็พิมพ์ข้อความรวบคำได้่รวดเร็วและลื่นไหลกว่าเช่นกัน ดังนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนแล้วล่ะครับ ว่าชอบแบบไหน แต่ที่แน่ ๆ เรื่องความเงียบของการพิมพ์สัมผัสแบบเร็ว ๆ นั้นตอบโจทย์แน่ ๆ และยังคงความเด้งของปุ่มที่ทำให้พิมพ์สนุกด้วย...
Mechanical Gaming Keyboard Royal Kludge RK860/RK100 แบบ Hotswap เปลี่ยนปุ่มได้ ผมสั่งมาจาก Shopee ร้าน sxztech > https://shp.ee/uifkfe7
คีย์บอร์ดเลือกสีขาวและดำได้ รวมถึงสวิตซ์ก็เลือกได้ทั้งแบบ Blue Switch, Brown Switch และ Red Switch เช่นกัน...
> https://shp.ee/gax7hn7 (1,733.- เท่ากันทุกแบบ)...
ส่วน Keycaps แบบ XDA Profile ครั้งนี้ ผมลองเปลี่ยนร้านให้ถูกลงกว่าร้านเดิม > https://shp.ee/z9s37st (572.-) มาเป็นอีกร้าน ก็ส่งจากจีนมาถึงไทยไวพอ ๆ กับคีย์บอร์ดครับ...
> https://shp.ee/sjm9n2j (499.-)
*Disclosure: เนื้อหานี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใด ๆ ...
同時也有36部Youtube影片,追蹤數超過36萬的網紅9arm,也在其Youtube影片中提到,#Keychronthailand #Keychron #K2 #K4 รีวิววันนี้พบกับ Keychron K2 และ K4 เมคานิคอลคีย์บอร์ดที่สามารถทำงานได้กับทุกระบบปฏิบัติการและทุกอุปกรณ์ ทั้ง Win...
「คีย์บอร์ดipad」的推薦目錄:
- 關於คีย์บอร์ดipad 在 Facebook 的最佳貼文
- 關於คีย์บอร์ดipad 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於คีย์บอร์ดipad 在 สอนใช้ง่ายนิดเดียว Facebook 的最佳貼文
- 關於คีย์บอร์ดipad 在 9arm Youtube 的最佳解答
- 關於คีย์บอร์ดipad 在 NotebookSPEC Youtube 的精選貼文
- 關於คีย์บอร์ดipad 在 NotebookSPEC Youtube 的精選貼文
- 關於คีย์บอร์ดipad 在 สินค้า iPad Pro Keyboards ใหม่และมือสอง 的評價
คีย์บอร์ดipad 在 Facebook 的最讚貼文
คีย์บอร์ด Mechanical Blue Switch แบบ Bluetooth/USB ราคาเบา ๆ พิมพ์สนุก มีไฟ RGB เปลี่ยนสีได้ 19 รูปแบบ และแยกสีต่างหาก มีช่องวางโทรศัพท์มือถือ สามารถสลับ Bluetooth ไปมาได้ทันที มีไฟแสดงสถานะ ที่สั่งจากจีนมาอาจจะนานหน่อยแต่ใช้แล้วชอบมาก ๆ ...
โพสต์นี้อาจจะยาวหน่อย แต่ข้อมูลเนื้อหาละเอียดและพยายามเขียนให้ครอบคลุมทุกการใช้งานที่ผมใช้ครับ...
เนื่องจากอันนี้ขอใช้ให้ชัวร์ก่อน 3-4 อาทิตย์แล้วค่อยมารีวิว เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบคีย์บอร์ดแป้นต่ำและไม่เคยเปิดใจให้ Mechanical Keyboard เลย เพราะก่อนหน้านั้นเคยลองตามร้านคอมแล้วรู้สึกว่ายังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ และคิดว่ามันเป็นคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกม แต่เนื่องด้วยราคามันถูกมาก ๆ (รอส่งนานประมาณ 21 วัน) แถมคุณสมบัติสเปคต่าง ๆ เป็นไปตามที่คาดหวังสำหรับคีย์บอร์ดที่ใช้งานประจำทุกอย่าง เลยทำให้ลองสั่งมาใช้งาน และหลังจากใช้มาเกือบเดือนทุกวัน ก็พอจะบอกได้ว่า นี่คือคีย์บอร์ดที่ใช้งานคุ้มค่ามาก ๆ และพิมพ์งานได้สนุกมาก ๆ เลย จึงใช้เวลานานจนให้คำตอบตัวเองได้แล้วค่อยมาเขียน...
คีย์บอร์ดนี้ เป็นคีย์บอร์ดที่ผมใช้พิมพ์เนื้อหาเกือบทุกอย่างทั้งบนเพจและตอนทำงานมาตลอดเกือบเดือนเลยครับ (แม้กระทั่งข้อความตรงนี้ก็ด้วย)...
อันนี้บอกก่อนว่า ตัวคีย์มีเสียงแบบ Mechanical Blue Swtich เพราะฉะนั้น มันจะมีเสียงดังพอสมควรในห้องเงียบ ๆ แต่ ถ้าพูดถึงความสนุกของการพิมพ์ ของปุ่มที่เด้งมือ และยิ่งคนที่พิมพ์สัมผัสเป็นล่ะก็บอกได้เลยว่า มันเป็นอะไรที่สนุกมาก ๆ เลยล่ะครับ...
ตัวเครื่องมีสีขาว และสีดำ ผมเลือกสั่งสีดำมา เพราะว่ามันดูดีมากกับไฟ RGB เวลากลางคืน แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย (แต่ถ้าเอามาเปลี่ยนปุ่ม Keycaps เป็นสีขาวอาจจะรู้สึกขัด ๆ หน่อย) ตัวกรอบคีย์บอร์ดเป็นพลาสติก ส่วนตัวแผงควบคุมจะเป็นโลหะทำออกมาได้ดูดี มีช่องวางโทรศัพท์มือถือได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน (ถ้าจะเอาให้อยู่ในมุมที่เอียงจออ่านได้ จะต้องถอดเคสออก)...
มีสวิตซ์ปิด/เปิด และ สวิตซ์เลือกระหว่าง การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth/USB มีแถมสาย USB มาให้สำหรับต่อเข้ากับ PC ในกล่อง และปุ่มดึง Keycaps กรณีที่ต้องการเปลี่ยนปุ่ม หรือถอดปุ่มมาทำความสะอาด ข้อดีของตัวมันคือ มันมีแบตในตัว สามารถชาร์จกับ USB-C ของโทรศัพท์มือถือได้ ใช้งานได้ต่อเนื่อง วันละ 8-14 ชั่วโมงได้ราว ๆ 1 สัปดาห์ แบบเปิดไฟ RGB ตลอดเวลาไปด้วย แต่ถ้าทิ้งไว้ 1 นาที ไฟ RGB จะดับลง และติดขึ้นเมื่อกดปุ่มอะไรก็ได้...
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วมาก ๆ สามารถกดเพื่อ Active จอ MacBook ที่เชื่อมต่อที่ sleep ไประหว่างกลางคืนได้ด้วย หรือแค่เปิดก็เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อตามช่องต่าง ๆ ได้ทันที (ตั้งได้ 3 ช่อง สามารถสลับไปมาได้เลย เพราะปุ่มสลับเครื่องอยู่บนคีย์บอร์ดแยกต่างหาก พร้อมไฟสถานะ ว่าเชื่อมช่องไหนอยู่ รวมถึงสถานะของแบตเตอรี่เมือใกล้หมดด้วย)...
การใช้งาน ในช่วงแรก ๆ สำหรับผมเองที่ใช้คีย์บอร์ดแป้นต่ำแบบคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คมาตลอด แม้จะพิมพ์สัมผัสได้ จะรู้สึกว่า การก้าวนิ้วมันต้องก้าวสูงมาก ๆ แต่ จุดนึงคือ มันสนุกทุกครั้งเวลาพิมพ์ ยิ่งถ้าพิมพ์สัมผัสได้คล่อง ๆ จะรู้สึกเลยว่า ปุ่มมันตอบสนองต่อนิ้วได้ดีมาก ๆ ทุกปุ่ม (ยิ่งช่วงแรก ๆ ที่ได้ลองถึงกับสนุกจนต้องเปิด Notepad มานั่งพิมพ์สิ่งที่คิดในหัว เพราะแค่พิมพ์ตามมันก็สนุกมือมาก ๆ แล้ว)...
ตัวขาตั้งด้านหลังคีย์บอร์ด สามารถตั้งแนบกับโต๊ะได้ และยกสูงขึ้นได้ 2 ระดับ สำหรับคนที่ชอบให้คีย์บอร์ดเอียงพอดีมือ หรือคนที่เปลี่ยนปุ่ม Keycaps แบบที่มีการเอียงองศารับกับมือ ก็จะได้ใช้งานได้พอดีมือมากขึ้น...
ส่วนไฟ RGB นั้น ผมเองไม่ได้คาดหวังเลยว่ามันจะทำอะไรได้มาก แต่ก็พบว่า มันสามารถเปลี่ยน Mode ไฟ ได้ 19 รูปแบบการเคลื่อนไหวของไฟ RGB หรือจะเลือกแค่เฉพาะทีละสีก็ยังได้ รวมถึงความช้าเร็วของอนิเมชั่นไฟต่าง ๆ ก็สามารถตั้งค่า จากบนคีย์บอร์ดในตัวได้เลย แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อะไรก็ตาม ซึ่งยอมรับเลยว่าเรื่องไฟ ทำให้ผมรู้สึกว่ามันดูดีมาก ๆ และแน่นอนว่ามันสามารถปิดไฟได้สำหรับคนที่ไม่ชอบให้มีแสงไฟจากคีย์บอร์ดเลย...
ส่วนหลัก ๆ ผมใช้งานคีย์บอร์ดตัวนี้กับ MacBook และ iPad ในการพิมพ์แทบทุกอย่าง สามารถใช้งานได้ดี (บน MacBook ต้องไปตั้งค่าสลับปุ่มระหว่าง ปุ่ม Control, Option และ Command นิดนึง แต่ในแมคจะจำค่าแยกระหว่างคีย์บอร์ดกันทำให้ไม่มีผลต่อคีย์บอร์ดหลักหรือคีย์บอร์ดตัวอื่น ๆ )...
ส่วนใน iPad ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย ทั้ง MacBook และ iPad สามารถสลับภาษาได้ด้วยปุ่ม Capslock...
สำหรับบน PC เนื่องจากว่ามันเป็นคีย์บอร์ด 4 แถว ขาดแถวบน F1-F12 ไป จึงทำให้ปุ่มตัวหนอน หายไปด้วย ทำให้คนที่เคยสลับภาษาโดยใช้ปุ่มตัวหนอนนั้นอาจจะยุ่งยากหน่อยนึง เพราะต้องไปใช้ปุ่ม FN+Esc แทนตัวหนอนถึงจะกดได้ ผมเลยเลือกตั้งเป็น Ctrl + Shift แทนในการสลับภาษา แต่ถ้าใช้งานไปซักพักก็จะชินครับ...
ส่วนบน Android อันนี้ง่ายและสะดวก เพียงลงแอป 9420 Thai Keyboard และเข้าไปตั้งค่า "คีย์บอร์ดนอก" และตั้งค่าปุ่มสลับภาษาได้เอง ผมลองเลือกปุ่ม esc เพื่อสลับภาษา และก็พบว่ามันสามารถสลับภาษาได้ง่าย ๆ เหมือนกับการใช้ปุ่มตัวหนอนบน PC ได้เลย สำหรับคนใช้ PC และมาใช้ Android ก็จะง่ายในการสลับภาษาไทย/อังกฤษมากขึ้น...
ข้อดีอีกอย่างนึงของคีย์บอร์ดตัวนี้คือ มันเป็นคีย์บอร์ดแบบ 68 Keys ซึ่งสำหรับคนที่ต้องใช้ปุ่ม ทิศทาง ขึ้น, ลง, ซ้าย, ขวา ที่มุมขวาล่างของคีย์บอร์ดในการพิมพ์และแก้ไขงานพิมพ์สามารถใช้งานได้ รวมถึงปุ่ม Page Up/Page Down ซึ่งมันทำให้สะดวกในการพิมพ์และแก้ไขงานเอกสารได้พอสมควรเลย...
ที่เหลือตลอด 3 สัปดาห์จนเกือบเดือนที่ผ่านมา ผมรู้สึกชอบมาก ๆ กับคีย์บอร์ดตัวนี้ แม้จะย้ายโต๊ะทำงานไปมาในบ้าน ก็ยังจะหยิบไปพิมพ์ด้วย เพราะความสนุกของการพิมพ์บนคีย์บอร์ดแบบนี้นี่แหละ...
คีย์บอร์ดแบบ Mechanical Switch มันสามารถที่จะถอดปุ่มออกมาทำความสะอาดได้ (ในกล่องจะแถมคีมดึงปุ่ม Keycaps มาให้) และสามารถซื้อปุ่มแบบอื่น ๆ มาเปลี่ยนได้ไม่ยาก (แต่ปุ่มอาจจะมีราคาสูงหน่อย) ข้อดีของการเปลี่ยนปุ่ม นอกจากจะได้ความสวยงามแล้ว ในเรื่องของความสูงของปุ่มแต่ละรูปแบบก็มีความแตกต่างกันไป ทำให้คนที่ชอบการพิมพ์งานด้วยคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์นั้นมีตัวเลือกที่ลงตัวในการพิมพ์ได้มากขึ้น (ล่าสุดผมเปลี่ยนเป็นปุ่มแบบ XDA มีความสูงของปุ่มลดลงจากปุ่มที่แถมมาพอควร ทำให้พิมพ์ได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะไม่ต้องก้าวนิ้วสูงนั่นเอง)...
คือผมเองอาจจะใหม่สำหรับคีย์บอร์ดแบบ Mechanical จากที่ไม่เคยเปิดใจให้ เนื่องด้วยราคาที่สูงถึงสองสามพันบาทสำหรับ Mechanical Switch แบบ Bluetooth แต่เจอตัวนี้ที่ราคา 1,189.- เข้าไปก็ทำให้เปิดใจ และพอใช้งานก็ถูกใจสำหรับการพิมพ์งานมาก ๆ เลย...
ถ้ามีโอกาสรอบหน้าจะมาพูดถึงประสบการณ์ในการเปลี่ยนปุ่มคีย์บอร์ด Keycaps ครั้งแรก หลังจากที่คิดว่า คีย์บอร์ดแบบ Mechanical Switch ปุ่มต้องสูงอย่างเดียวเสมอไป และเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานให้ชอบมันมากขึ้นกว่าเดิมมาฝากกันครับ...
คีย์บอร์ดบลูทูธ/USB แบบ Mechanical Blue Switch 68 ปุ่ม มีไฟ RGB มีแบตในตัว ผมสั่งจากร้านจากจีนใน Lazada ครับ ร้านค่อนข้างใหญ่มีโปรไฟล์ด้านอุปกรณ์เกมโดยเฉพาะ ส่งจากจีนมาราว ๆ 21 วันถึงบ้าน แต่ก็ได้ของชัวร์แน่นอนครับ...
> https://bit.ly/3yM4AGy (1,189.-)
ส่วน Keycaps ผมสั่งจาก Shopee แบบ XDA Profile รอนานเหมือนกัน แต่ทำให้แป้นพิมพ์บางลงพิมพ์ง่ายขึ้นสำหรับคนชอบแป้นพิมพ์แบบต่ำลงมาหน่อยครับ...
> https://shp.ee/z9s37st (572.-)
*Disclosure: เนื้อหานี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใด ๆ ...
คีย์บอร์ดipad 在 สอนใช้ง่ายนิดเดียว Facebook 的最佳貼文
แค่ 139 บาท ส่งฟรี ใช้คอยน์ลดได้ ไอเทมเด็ดจาก ZMI สาย OTG Adapter แปลงจากพอร์ต Type-C เป็นพอร์ต USB สำหรับ iPad / SAMSUNG /HUAWEI อื่นๆ ให้เราต่ออุปกรณ์ได้สารพัด ทั้งเมาส์ คีย์บอร์ด เกมแพด แฟลชไดรฟ์ HD ฯลฯ
มี Flash sale ถึง 3 ทุ่ม 6 โมงเย็นวันนี้ หรือจนของหมด อย่าลืมใช้คูปองส่งฟรี กับคอยน์ลดราคาด้วยนะครับ
วาร์ปครับ https://bit.ly/3xweXh5
คีย์บอร์ดipad 在 9arm Youtube 的最佳解答
#Keychronthailand #Keychron #K2 #K4
รีวิววันนี้พบกับ Keychron K2 และ K4 เมคานิคอลคีย์บอร์ดที่สามารถทำงานได้กับทุกระบบปฏิบัติการและทุกอุปกรณ์ ทั้ง Windows, MacOS, Linux, iPad และ Android ใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย เชื่อมต่อได้พร้อมกันสูงสุดถึง 3 อุปกรณ์ มีสวิตช์ให้เลือก 3 แบบ พกพาสะดวก ตอบโจทย์คนทำงานทุกสไตล์
คีย์บอร์ด Keychron ทุกรุ่น : http://bit.ly/Keychron-Store
Keychron K2: http://bit.ly/Keychron-product-K2
Keychron K4: http://bit.ly/Keychron-product-K4
ใช้โค้ด 9ARM ที่ https://www.keychronthailand.com รับส่วนลด 100 บาท!
สนับสนุนนายอาร์มง่ายๆ
- Subscribe / Like / Comment
- ซื้อของผ่าน Shopee: https://shp.ee/9permjt
สามารถเข้ากลุ่ม "หลังบ้านนายอาร์ม" Community ของชาว Geek สุดปั่นสมาชิกเกือบแสน! https://www.facebook.com/groups/9arm.community/
Twitch: https://www.twitch.tv/armzi
Facebook : https://www.facebook.com/castby9arm
Twitter : https://www.twitter.com/castby9arm
IG : https://www.instagram.com/castby9arm
คีย์บอร์ดipad 在 NotebookSPEC Youtube 的精選貼文
แกะกล่อง คีย์บอร์ดไร้สาย Keychron K4 V.2 Wireless คีย์บอร์ดไร้สายสุดแจ่มด้วยสวิตซ์แบบ Hotswap Mechanical เปลี่ยนปุ่มได้ เชื่อมต่อได้ทั้ง Windows ,Mac OS ,iOS และ Android ได้ ไฟ RGB สุดสวยจัดเต็ม เสียงสวิตซ์สุดเพราะใช้ในห้องนอนได้แฟนไม่บ่น แต่หน้าตาจะสวยงามเห็นแล้วรักอย่างไรต้องไปชมกันกับราคาค่าตัว 4,390 บาท
► อ่านรีวิวเต็ม & ดูสเปคและราคา ◄
→ https://notebookspec.com
► ค้นหาโน้ตบุ๊คเล่นเกม ◄
→ http://bit.ly/NBGaming
► ค้นหาโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุด ◄
→ https://bit.ly/NBSearch
► จัดสเปคพีซี สเปคคอมเล่นเกม ◄
→ http://bit.ly/NBSspecpc
--------------------------------------
รายละเอียดในคลิปนี้
0:00 intro
0:11 สเปคและรายละเอียดรอบตัวกล่อง
4:08 มีอะไรให้มาบ้างในกล่อง
6:05 ดูรายละเอียดของตัว Keychron K4 V.2
8:58 ลองเล่นแกะ Keycap ให้ดู
11:56 สรุปจุดเด่น ข้อสังเกต และราคา :)
--------------------------------------
► ติดตามเราได้ที่ ◄
Subscribe Youtube : https://www.youtube.com/c/notebookspec
Facebook : https://www.facebook.com/notebookspec
Twitter : https://twitter.com/notebookspec
Line: @NotebookSPEC
#Keychron #KeychronK4 #Mechanical #NotebookSPEC
ติดต่อโฆษณา/รีวิว : [email protected]
คีย์บอร์ดipad 在 NotebookSPEC Youtube 的精選貼文
#NBS #Unbox Tablet ราคา 20,990 บาท กับ #Lenovo Tab P11 Pro ตัวแรง ที่มาพร้อมทั้ง คีย์บอร์ด และปากกาแถมมาเลย พร้อมจอภาพ 2K OLED วัสดุดี บางเบา รองรับ 4G แต่จะสวยงาม น่าใช้ขนาดไหนในราคาขนาดนี้ไปชมกัน
สเปคพร้อมสั่งซื้อได้ที่ : https://u.jd.co.th/tQtK5rI
► อ่านรีวิวเต็ม & ดูสเปคและราคา ◄
→ https://notebookspec.com
► ค้นหาโน้ตบุ๊คเล่นเกม ◄
→ http://bit.ly/NBGaming
► ค้นหาโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุด ◄
→ https://bit.ly/NBSearch
► จัดสเปคพีซี สเปคคอมเล่นเกม ◄
→ http://bit.ly/NBSspecpc
--------------------------------------
รายละเอียดในคลิปนี้
0:00 intro
0:11 สเปคและรายละเอียดรอบตัวกล่อง
2:18 แกะกล่อง มีอะไรให้มาบ้าง
5:41 ดูรายละเอียดของ Lenovo Tab P11 Pro
7:48 ลองประกอบใช้งานกับคีย์บอร์ด
8:34 สรุปจุดเด่น ข้อสังเกต และราคา :)
--------------------------------------
► ติดตามเราได้ที่ ◄
Subscribe Youtube : https://www.youtube.com/c/notebookspec
Facebook : https://www.facebook.com/notebookspec
Twitter : https://twitter.com/notebookspec
Line: @NotebookSPEC
#Lenovo #Tablet #TapP11Pro #NotebookSPEC
ติดต่อโฆษณา/รีวิว : [email protected]
คีย์บอร์ดipad 在 สินค้า iPad Pro Keyboards ใหม่และมือสอง 的推薦與評價
Apple Smart Keyboard Ipad Air 4 Air 5 – Pro 11 2018 ศูนย์ไทย Key Eng - Thai ของใหม่มือ 1 เคลีย. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย. ... <看更多>