The Clash of generation
การปะทะกันทางความคิดของคนต่างรุ่น
ครั้งแรกที่เราเห็นถึงการมาของ Gen Z ก็คือตอนที่มีคลิปไวรัล
ของน้องนักเรียนที่ลุกขึ้นตบสู้กับคน Gen Boomer แบบไม่กลัว
คนรุ่นเรานั้นทำได้อย่างมากสุดก็คือ ยืนด่าคืน หรือแค่วิ่งไปร้องไห้
ณ วันนั้นทำให้เรารู้ว่า Gen Z คือความแตกต่างและความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในสังคม
วันก่อน อ.ปิยบุตรไปบรรยายที่ม.ขอนแก่น
แล้วมีคนนึงยกมือบอกให้อ.ปิยบุตรหยุดสอนมอมเมาเยาวชน
ให้อ.ปิยบุตรสอนเรื่องอื่นที่จะทำให้นักศึกษาเลิกออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยให้หน่อย
คือ เค้ายังมีความเชื่อว่า ถ้าอาจารย์พูดอะไร
นักศึกษาต้องเชื่อตามสิ่งที่อาจารย์พูด
แต่ว่าหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์มี ม.เชียงใหม่
ที่คณบดีวิจิตรศิลป์ตามไปเก็บงานของนักศึกษา
แล้วนักศึกษาเดินวนถาม ขอคืน ขัดขวาง
จนกระทั่ง #ทัศนัยปราบมาร ปรากฏตัวจนทำให้เรื่องพลิก
แล้วหลังจากนั้นน้องๆก็ไปแจ้งความคณบดีตัวเอง
ทำให้เห็นว่า ต่อให้คน Boomer คิดว่า
เพราะอ.ปิยบุตรสอนแบบนั้นทำให้เด็กรุ่น Z เป็นแบบนี้
แต่เคสคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ก็ตอกย้ำว่า
ต่อให้อ.จะสอนยังไง ถ้าอ.สอนผิดหรือทำผิด
เด็กๆก็สามารถบุกไปแจ้งความได้เลยด้วยซ้ำ
ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยในยุคของเรา
เพราะฉะนั้น ชุดความคิดของ Gen Z นั้นแตกต่างจาก Boomer อย่างสิ้นเชิง
แบบสิ้นเชิงขนาดที่ถ้า Boomer ไม่พยายามทำความเข้าใจ
(ซึ่งตามหลักการณ์แล้ว Boomer ก็จะไม่พยายามทำความเข้าใจเด็ก
เพราะว่าถูกปลูกฝังมาเรื่องที่ต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ ไม่เคยฟังเด็ก)
ก็จะไม่มีวันที่ความคิดทั้งหมดจะมาบรรจบกันได้
จนสุดท้ายมันกลายเป็น The Clash of Generation
และวันก่อนอีกเช่นกันค่ะ
มีผู้ใหญ่ Boomer หลายคนที่ตั้งคำถามว่า ลูกตัวเองไปม็อบ
เราควรจะทำอย่างไรถึงจะเปลี่ยนความคิดเค้าได้
และเช่นเคยค่ะ นี่เป็นการตั้งคำถามของ Boomer generation
คือการตั้งคำถามเพื่อควบคุม ไม่ใช่การตั้งคำถามเพื่อทำความเข้าใจ
ในขณะที่ Gen Z ต้องการความเข้าใจ ต้องการการคุยกัน
แต่ Boomer ยังต้องการการควบคุมและเชื่อฟัง
ยุคนี้เป็นยุคการประกาศความคิดของคนต่าง generation จริงๆ
เมื่อความคิดของ Boomer มาชนกับความคิดของ GenZ
Gen X และ Gen Y ก็เหมือนหญ้าแพรกที่แหลกราญ
แต่จะแหลกราญไปขึ้นฝั่งไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ
การเติบโตมาของคน Boomer คือ การเกิดมาพบกับแนวคิดต่อต้านคอมมิวนิสต์
และการเข้ามาของ CIA สหรัฐเพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ในไทย
พวกเค้าเติบโตมากับความคิดที่ว่า มันต้องมีใครสักคนชักใยอยู่เบื้องหลัง
เช่น รัสเซีย จีน ที่อยู่เบื้องหลังคอมมิวนิสต์
ในขณะที่อีกฝั่งมีสหรัฐอยู่เบื้องหลัง
การรับสื่อ ข่าวสาร ผ่านช่องทางหลัก เช่น ทีวี หนังสือพิมพ์
และคนรู้จักถ้าบอกก็คือเรื่องจริง ไม่มีเรื่องโกหก
การมาถึงของเทคโนโลยีอินเตอร์เนตนั้นก็ไปโผล่ขึ้นเพียงแค่
การเปิดช่องทีวีดิจิตอลที่เปิดได้เองไม่กี่ช่อง ต้องให้ลูกหลานมาตั้งค่าให้
การเปิดช่อง Youtube และเล่น facebook แบบที่ไม่รู้ตัวว่า
เค้าเอา interest ตัวเองไปตั้งค่าเพื่อให้รันแต่สิ่งที่ตัวเองสนใจขึ้นมา
และการใช้ไลน์กับกลุ่มเพื่อนตัวเองที่ส่งข้อมูลมาให้อ่านกัน
ซึ่งก็มีความเชื่อว่าทุกสิ่งคือเรื่องจริงเหมือนปี 2490
และเติบโตมากับความเชื่อว่า เราต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์
และผู้มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองสามารถมีชีวิตรอดที่ดีในสังคมได้
เพราะถ้าเราไม่เชื่อคนที่อยู่มาก่อนแล้ว เราไม่อาจหาความรู้ที่อื่นได้
และทุกวันนี้ Boomer ยังถืออำนาจส่วนใหญ่ในสังคม
เลยทำให้ทุกการกระทำมีผลกระทบใหญ่กับประเทศ
ซึ่งทำให้ความเชื่อของ Boomer ยังมีอิทธิพลและผลกระทบเป็นนัยยะที่สำคัญ
ในขณะเดียวกัน Generation Z นั้นเริ่มเติบโตขึ้นมา
เพื่อที่จะพบว่า ตัวเองต้องการมีอนาคตที่ตัวเองอยากได้ในสังคมนี้
แต่สังคมนี้ไม่ใช่สังคมที่ตัวเองอยากจะได้
เพราะเค้าโตมากับความรุ่งเรืองของอินเตอร์เนตและ Google
เด็กรุ่นนี้แม้แต่เสียงสัญญาณแฟกซ์ยังไม่รู้จัก
ทุกอย่างสามารถหาความรู้ได้จากอินเตอร์เนต
และความรู้ด้านภาษาที่มีมากกว่าภาษาไทย
ทำให้เด็กรุ่นนี้เข้าถึงความรู้ที่กว้างขวางในภาษาอื่น
เค้าเติบโตมาในยุคที่คน Gen X ต้องการให้เติบโตมา
คือ ไม่อยากให้อยู่ใต้อาณัติของผู้ใหญ่เหมือนที่ตนเองเจอ
ไม่อยากให้ลูกตัวเองถูกบังคับให้ใช้ชีวิตเช่นเดิม
เช่น ที่บ้านทำธุรกิจขายของ ก็บังคับให้ลูกหลานต้องมาสทบต่อกิจการด้วย
เพราะคุณจะเริ่มทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเองได้ยังไง ต้องทำตามที่พ่อแม่ทำมาสิ
คน Gen X จึงส่งลูกเรียนอะไรที่แตกต่างและอยากให้เค้ามีความคิดของตัวเอง
และเค้าก็มีความคิดเป็นของตัวเองจริงๆ
แบบที่ผู้ใหญ่ Boomer ไม่เชื่อว่านี่คือความคิดของเด็ก
เค้ายังคิดด้วยชุดความคิดของตัวเองว่า
ทุกการกระทำของเด็กนั้นมีคนอยู่เบื้องหลังเสมอ
เพราะเค้าเติบโตมาแบบนั้น แบบที่ต้องมีใครสักคนสั่งให้เค้าทำอะไร
เค้าไม่สามารถเชื่อได้ว่า ทุกอย่างสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเองได้
สุดท้ายถ้า Boomer ไม่พยายามเข้าใจ
การต่อสู้ของยุคสมัยก็จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
จนกระทั่ง Boomer เสื่อมไปซึ่งอำนาจ
และ Gen Z ได้เข้าถึงอำนาจนั้นแทน
ซึ่งเราเชื่อว่า ความสามารถของ Gen Z นั้น
ยิ่งใหญ่เกินกว่าความคิดของคน Gen อื่นจะจินตนาการได้
ถ้าคุณยังจินตนาการถึงการมาของพายุใหญ่ไม่ออก
คุณจะได้เห็นในเร็ววัน เมื่อพายุเริ่มก่อตัวอาจจะใช้เวลานาน
แต่เมื่อไหร่ที่พายุเริ่มแข็งแรง มันจะใช้เวลาเพียงน้อยนิดในการทำลายสิ่งที่เคยมีอยู่
#วันนี้มีเรื่องอยากเล่า #theclashofgeneration
#อั๋นหามาเล่า
วันนี้มีเรื่องอยากเล่า
ทัศนัยปราบมาร 在 #ทัศนัยปราบมาร - YouTube 的推薦與評價
ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ประจำสาขาวิชาสื่อศิลปะการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในศิลปินที่ตระหนักว่า ... ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ประจำ ... ... <看更多>