"เป็นเนื้องอกในมดลูก ควรไปพบแพทย์" ครับ
มีการแชร์ข้อความเรื่อง รักษาเนื้องอกในมดลูกโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยอ้างว่า เขาไปตรวจพบถุงซีสต์และเนื้องอกภายในมดลูก มดลูกทำงานผิดปกติ เป็นหนักจนน็อคหมดสติ เอาแต่กินสมุนไพร แต่ไม่ดีขึ้น จนต้องไปพบหมอ หมอแนะนำให้ผ่าตัดมดลูกทิ้ง แต่เขาไม่ยอม เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องของกรรม ...เลยไปปรึกษา "หมอสันติ" หมอแนะนำให้ลดอาหารหวาน ทานเมล็ดฝักทอง กินน้ำขมิ้นกับขิงต้ม ดื่มน้ำมะนาว คู่กับการสวดมนต์ ... ผลคือถุงซีสต์หาย เนื้องอกหด ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว
เออ... อ่านเสร็จแล้วก็ขอเตือนเลยว่า "อย่าพึ่งไปเชื่อนะครับ"
อย่างแรกนะครับ อันนี้มันเป็น "เรื่องเล่า" ที่ไม่ชัดเจนเรื่องผู้เขียน ไม่ได้เป็นเคสรีพอร์ตของคุณหมอคนไหน ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือแต่อย่างไรว่าเป็นเรื่องจริง
อย่างที่สอง อ้างคำแนะนำของตา "หมอสันติ" อีกแล้ว ตานี้เคยโพสต์เตือนหลายทีแล้วว่าอย่าไปเชื่อ ชอบทำให้คนเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นหมอ (ก่อนนี้ ก็เรียกตัวว่า หมอนอกกะลา) ทั้งที่แค่เป็นคนธรรมดา ขายยาสีฟันสมุนไพรออนไลน์แค่นั้น
อย่างที่สาม เนื้องอกในมดลูกนั้น จริงๆ แล้ว คนส่วนใหญ่ก้ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร ไม่ต้องรักษาก็ได้ แต่ถ้าเกิดมีอาการขึ้น ก็ควรไปปรึกษาและทำตามคำแนะนำของแพทย์ครับ ไม่ใช่มาแค่กินน้ำขมิ้นขิงต้ม น้ำมะนาว สวดมนต์ แล้วจะหาย ... เกิดเป็นหนักขึ้นมา จะไม่ทันการเอาครับ
เอาข้อมูลเรื่อง "เนื้องอกมดลูก" มาเสริมให้เรียนรู้กันนะครับ จาก https://medthai.com/%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E…/
--------------------------------
เนื้องอกมดลูก
เป็นเนื้องอกชนิดธรรมดา ไม่ใช่เนื้อร้าย (มะเร็ง) ส่วนใหญ่เนื้องอกมดลูกจะมีขนาดเล็ก ไม่มีอาการแสดง ไม่มีอันตรายใด ๆ และผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องรักษาแต่อย่างใด มีส่วนน้อยที่ผู้ป่วยจะมีอาการแสดงแต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้
โรคเนื้องอกมดลูกเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากประมาณ 25% ของผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไป พบได้มากที่สุดในช่วงอายุ 40-50 ปี โดยเฉพาะในผู้หญิงผิวดำ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมาก และในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นเนื้องอกมดลูก ส่วนในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้วมักจะไม่เป็นเนื้องอกมดลูก
เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกมากผิดปกติ จนกลายเป็นก้อนเนื้องอกที่มีลักษณะเป็นก้อนหยุ่น ๆ สีซีด แตกต่างจากเนื้อเยื่อโดยรอบ ซึ่งสาเหตุของการเกิดเนื้องอกมดลูกในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด แต่แพทย์สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ และ ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มสูงขึ้น
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีเนื้องอกมดลูกขนาดเล็ก และมักไม่ก่อให้เกิดอาการแสดงหรือมีอันตรายใด ๆ แต่จะมีเพียงส่วนน้อยประมาณ 20-30% เท่านั้นที่จะมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น โดยมักเกิดจากก้อนเนื้องอกมดลูกที่มีขนาดใหญ่ และอยู่ในบางตำแหน่งที่ไปกดอวัยวะข้างเคียง เช่น กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต หรือลำไส้ แล้วส่งผลให้เกิดอาการหรือความผิดปกติตามมาได้
สำหรับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกมดลูกแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่เนื้อร้ายหรือมะเร็ง ก็ควรได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างจริงจัง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา และถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องแล้วโรคนี้ก็มักจะหายขาดได้ ซึ่งการรักษาเนื้องอกมดลูกก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี เช่น การสังเกตอาการโดยไม่ต้องรักษา การใช้ยารักษา การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก การทำลายเยื่อบุโพรงมดลูก
ส่วนการรักษาด้วยแนวทางเลือกอื่น ๆ เช่น การบำบัดด้วยอาหาร การใช้สมุนไพร การฝังเข็ม นั้น ยังไม่มีข้อพิสูจน์ยืนยันว่าได้ผลจริง
" It's a tumor in the uterus. You should go to see the
A message about the uterus tumor treatment without surgery. Claiming that he detected a cyst bag and tumor inside the uterus. Working so hard that he was unconscious. It was unconscious. But it was not better that he had to see the doctor. Doctor recommended to I left him but he didn't want to believe that it was about karma... So I went to consult "Doctor Santi" Doctor recommended to reduce sweet food, eat golden pods, drink turmeric juice and boiled ginger juice with prayer... The result is that the cyst bag is gone The tumor is shrinking. No surgery.
Well... After reading, I would like to warn you that " don't believe...
First of all, this is an unclear "story" story. The author is not a report case of any doctor is not credibility, but it's true.
Secondly, I claim the advice of "Doctor Santi" again. I have posted many times. I have warned you not to believe that I like to mislead people as a doctor (before this, it is called an outside the donkey doctor) even if I am just an ordinary person. Selling herbal toothpaste That's it.
Thirdly, most people are not harmors. There is no need to heal. But if there is a symptom, you should consult and follow the doctor's advice. Not just drink ginger juice, boiled lemonade and you will recover... I have been born heavily. I won't be able to do it
Let's get information about "uterus tumor" to learn from https://medthai.com/%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/
--------------------------------
Uterus tumor
It's a normal type of tumor, not a cancer. Most of the uterus tumor is small, no performance, no harm, and patients don't need to cure. There are few that patients will have a performance, but it can be cured.
Uterus tumors are a very common disease. About 25 % of women over 35 years old are found in age of 40-50, especially in black women who are married, but childless women. The body and in the family history of the uterus tumors. In women who are gone. It is often not a uterus tumor
It is caused by a lot of uterus muscle cells that it becomes a tumor that it looks like a pale color is different from the surrounding tissue. The cause of the current uterus tumor is not known, but the doctor is assumed that it may be caused by factors. Such as hereditary and higher estrogen
Most patients have small uterus tumors and do not cause any harm, but only about 20-30 % of them will occur. It is often caused by large uterine tumors and in some positions. That goes to press side organs such as bladder, tubes or intestine, resulting in symptoms or disorders.
For those who have been diagnosed with uterus tumors, even if it is not a cancer, it should be treated by doctors. To prevent complications that may occur. If it is treated properly, this disease can be cured. There are many ways such as observing symptoms without treatment of surgery, uterus, uterus tumors.
Other options treatment such as food therapy, acupuncture use is uncture. It has no proof that it really effective.Translated
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過59萬的網紅Healthy Natural นานา สมุนไพร,也在其Youtube影片中提到,ปวดท้องจุดต่าง ๆ ทั้ง 9 จุด ด้วยสาเหตุอะไร ***ปวดท้องจุดต่าง ๆ ทั้ง 9 จุด...หมายถึง 1. ชายโครงขวา เป็นจุดของตับและถุงน้ำดี หากกดแล้วเจอก้อนแข็ง ๆ บวกก...
ท่อไต 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的最佳解答
ปวดท้องจุดต่าง ๆ ทั้ง 9 จุด ด้วยสาเหตุอะไร
***ปวดท้องจุดต่าง ๆ ทั้ง 9 จุด...หมายถึง
1. ชายโครงขวา เป็นจุดของตับและถุงน้ำดี
หากกดแล้วเจอก้อนแข็ง ๆ บวกกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ก็จะหมายถึง
ความบกพร่องเกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดี ถ้าปวดมาก ไปหาหมอดีกว่าค่ะ
2. ใต้ลิ้นปี่ หรือกลางตัวเรา ตรงซี่โครงซี่ล่างสุด (กลางตัว) จะหมายถึง กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ตับ และกระดูกลิ้นปี่ค่ะ
2.1- หากปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม ก็หมายถึง อาจเกี่ยวกับโรคกระเพาะค่ะ
2.2- หากปวดรุนแรงร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน อันนี้ตับอ่อนอักเสบค่ะ
2.3- หากคลำเจอก้อนเนื้อค่อนข้างแข็งและมีขนาดใหญ่ อาจหมายถึงตับโต (ปรึกษาหมอด่วนค่ะ)
2.4- คลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็ก ๆ มักเป็นกระดูกลิ้นปี่ อันนี้ก็ปรึกษาหมอค่ะ
3. ปวดชายโครงขวา เป็นตำแหน่งของม้าม หากเจ็บ ต้องปรึกษาหมอโดยด่วนค่ะ
4. ปวดบั้นเอวขวา สาว ๆ เป็นกันประจำ ตำแหน่งนี้คือ ท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่
4.1- ปวดมากจะหมายถึงลำไส้ใหญ่อักเสบ
4.2- ปวดร้าวถึงต้นขา อันนี้แรงหน่อย เริ่มต้นเป็นนิ่วในท่อไตค่ะ
4.3- ปวดร่วมกับปวดหลัง แถมมีไข้ หนาวสั่นด้วย ปัสสาวะขุ่น อันนี้แรงหน่อย กรวยไตอักเสบ อย่าฝืนนะค่ะหาหมอดีกว่า
4.4- คลำเจอก้อนเนื้อ อันนี้ก็หาหมอวินิจฉัยด่วนค่ะ
5. ปวดรอบสะดือ มันคือ ตำแหน่งลำไส้เล็ก มักพบในคนที่มักท้องเดิน แต่หากกดแล้วปวดโครต ๆ มันคือไส้ติ่งค่ะ ปวดมาก ๆ หาหมอด่วนค่ะ
แต่ถ้าปวดแบบมีลมในท้องด้วยก็ไม่เป็นไรมากค่ะ อาจแค่กระเพาะลำไส้ทำงานผิดปกติ (คงกินมากไป ค่ะ)
6. ปวดบั้นนเอวซ้าย เป็นตำแหน่ง ท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่ (เหมือนข้อ 4)
7. ปวดท้องน้อยขวา เป็นตำแหน่ง ไส้ติ่ง ท่อไต และปีกมดลูก
7.1- หากปวดเกร็งเป็นระยะ ๆ แล้วร้าวมาที่ต้นขา หมายถึงกรวยไตอาจเป็นอะไรสักอย่าง หาหมอค่ะ
7.2- ปวดเสียดตลอดเวลา กดแล้วเจ็บมาก อย่าทนค่ะ เพราะเป็นอาการของไส้ติ่งอักเสบ
7.3- ปวดร่วมกับมีไข้สูง หนาวสั่น มีตกขาว ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็น เพราะมันคือ ปีกมดลูกอักเสบค่ะ
7.4- คลำแล้วเจอก้อนเนื้อ เบื้องต้นอาจเป็นก้อนไส้ติ่งหรือรังไข่ผิดปกติ
8. ปวดท้องน้อย มันเป็นตำแหน่งกระเพาะปัสสาวะและมดลูก
8.1- ปวดเวลาถ่ายปัสสาวะหรือถ่ายกระปริบกระปรอย เดาได้ง่ายเลย เพราะมันคือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือแรงหน่อยคือ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (แต่เป็นกันน้อย)
8.2- ปวดเกร็งเวลามีประจำเดือน ไม่มีอะไรมาก คุณกำลังมีประจำเดือน แต่ในรายที่ปวดเรื้อรังในหญิงแต่งงานแล้วไม่มีบุตร ไม่อยากบอก ปรึกษาหมอโดยด่วนค่ะเพราะมันคืออาการมดลูกผิดปกติ
9. ปวดท้องน้อยซ้าย เป็นตำแหน่ง ปีกมดลูกและท่อไต
9.1- ปวดเกร็งเป็นระยะและร้าวมาที่ต้นขา มักเป็นนิ่วในท่อไต
9.2- ปวดร่วมกับมีไข้ หนาวสั่น ตกขาว เป็นเพราะมดลูกอักเสบ
9.3- ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติ อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ
9.4- คลำพบก้อนร่วมกับอาการท้องผูกเป็นประจำ อาจเป็นเนื้องอกในลำไส้
หากพบภาวะเสี่ยงสามารถเข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ
ลองสังเกตุตัวเองดูนะค่ะเพื่อนๆ ถ้ามีอาการดังที่กล่าวมาแล้ว ต้องรีบไปพบหมอด่วนค่ะ แล้วก็อย่าลืมส่งต่อให้เพื่อนๆ หรือคนที่เพื่อนๆ ห่วงใยด้วยคะ..
เพราะความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือการเป็นผู้ให้ ขอให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ร่ำรวยความสุข ถ้วนหน้ากันทุกท่าน ตลอดไปเลยนะคะ..
อย่าลืม! ถ้าคุณชอบโปรดกด like. ถ้าคุณถูกใจโปรด subscribe! เพื่อเป็นกำลังใจ ใหแก่พวกเราด้วยคะ..ขอบคุณค่า
Subscribe to Healthy Natural นานา สมุนไพร
Youtube : https://goo.gl/urmvNp
Twitter : https://goo.gl/HKZaG4
Facebook : https://goo.gl/urmvNp
Google Plus : https://goo.gl/E1ku0J
pinterest : https://goo.gl/TB7RkC
PLEASE SHARE THIS VIDEO
Share
subscribe (สับตะไคร้) : https://goo.gl/hpKUtI
แชร์บน facebook คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/TXeJB2
แชร์บน google + คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/PDkj2C
แชร์บน twitter คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/kGY5K8
แชร์บน pinterest คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/nHFx4o
แชร์บน tumblr คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/XYEv0X
แชร์บน reddit คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/X018ax