อันนี้ต่อจากโพสท์เมื่อวาน
ผมจะอธิบายนะครับว่าการ "ไร้รสนิยม" นะมันหมายถึงอะไร
-------------------
ก่อนที่จะอธิบายเรื่องรสนิยม
ผมขออธิบายสิ่งที่เรียกว่า Acquired Taste ก่อน
Acquired Taste คือสิ่งที่บุคคลๆหนึ่งจะสามารถรู้สึกชื่นชอบได้
หากเขามี *ประสบการณ์และความรู้* เกี่ยวข้องกับการเสพสิ่งๆนั้น
ยกตัวอย่างที่เข้าใจกันง่ายๆก็คือไวน์
ซึ่งคนที่จะเข้าถึงความสุนทรีย์ระดับสูงของการเสพได้
จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับไวน์ชนิดต่างๆ
และ*รู้ว่าอะไรที่ทำให้ไวน์นั้นๆเป็นเลิศ*กว่าไวน์ประเภทอื่นๆ
พูดย่อให้เข้าใจง่ายๆก็คือ
การที่คุณจะมีรสนิยมกับอะไรสักอย่าง
ในขั้นต่ำสุดคุณจะต้องมี
**ความรู้และความสามารถในการแยกแยะของที่คุณเสพ**
ส่วนจะมีรสนิยมดีหรือแย่
อันนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
-----------
ในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่สามารถแยกแยะมันได้
คุณไม่ใช่คนที่มีรสนิยมในการเสพของนั้นๆ
ยกตัวอย่าง
สมมุติว่ามีคนบอกว่าไวน์เป็นเหล้าที่มีระดับกว่าเหล้าชนิดอื่น
แล้วคุณดื่มด่ำกับไวน์นั้นด้วยความรู้สึกว่าคุณเป็นคนมีระดับ
...... คุณไม่ใช่คนมีรสนิยมด้านไวน์
นั่นเพราะคุณไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเหล้าอื่นๆที่จะเอามาเปรียบเทียบเลย
คุณคิดว่าคุณมีระดับเพราะคนอื่นบอกว่าดื่มไวน์แล้วมีระดับเท่านั้น
----------
และในเรื่องของระดับการมีรสนิยมที่ดี
มันจะมีเรื่อง *กฎเกณฑ์* ต่างๆ
ที่กำหนดว่าคุณมีรสนิยมในด้านนั้นดีเท่าไหร่อยู่
สมมุติว่าถ้าคุณจะดื่มไวน์พร้อมอาหาร
มันจะมีอาหารที่ไม่เข้ากับไวน์อยู่
มันเป็นเรื่อง *กฎเกณฑ์* ความรู้ทางเคมี
ถ้าอาหารที่คุณทานเข้ากับเหล้าดองมากกว่าไวน์
ต่อให้คุณเลือกจะดื่มเหล้าดอง
คุณจะเป็นคนมีรสนิยมดี
เพราะคุณมีความรู้มากพอที่จะเข้าถึงและเสพความสุนทรีย์นั้นได้
แต่ถ้าคุณรู้แล้วก็ยังยืนยันจะดื่มไวน์ต่อ
บอกว่าฉันไม่สน ฉันชอบของฉัน ใครจะทำไม
......ถามว่าคุณผิดหรือไม่?
.........
....
..
.
...... ก็ไม่ได้ผิด
แต่คุณก็จะเป็นคนมีรสนิยมต่ำด้วยในขณะเดียวกัน
เพราะคุณเลือกสิ่งที่มีกฎเกณฑ์กำหนดค่าเอาไว้แล้วว่า
มันด้อยกว่าในกรณีนี้
----
แต่ถ้าคุณสามารถยกเอา *กฎเกณฑ์* อื่น
ที่สามารถมาลบล้าง *กฎเกณฑ์* ที่ถูกตั้งไว้ได้
อันนี้จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง
*เช่น*
คุณจงใจจะลิ้มรสเฉพาะที่เกิดขึ้นจากการดื่มไวน์กับอาหารที่ระบุ
หรือเลือกเพราะเหตุผลด้านราคา
อันนี้เป็นการกระทำที่มีรสนิยมสูง
เพราะเป็นการเลือกที่เกิดขึ้น
จากการมีความรู้และแยกแยะไตร่ตรองแล้ว
--------------
คำถาม - ผมเป็นคนมีรสนิยมด้านไวน์หรือไม่?
ไม่มีครับ - เพราะผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์
ผมไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับมันมากพอ
ที่จะแยกแยะไวน์
หรือบอกว่าเหล้าประเภทอื่นต่างกับไวน์ยังไง
แต่ ผมไม่ได้ผิดอะไร
เพราะผมไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับไวน์และเครื่องดื่มเหล่านั้น
ฉนั้น ..... การที่คนๆหนึ่งไม่ได้มีรสนิยมในเรื่องอะไรสักอย่างนะ
มันไม่ใช่เรื่องผิดเสมอไป
**ถ้าคุณไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับมันครับ**
------------------------------------------
------------------------------------------
ในทางกลับกัน
การ*ไร้รสนิยม*คืออะไร?
คือการชอบหรือใช้อะไรสักอย่าง
โดยไม่ได้สนเรื่องความรู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ
*และ* ใช้เพราะคนอื่นใช้ตามกันมาโดยไม่ตั้งคำถาม
ก็ขอยกตัวอย่างเรื่อง 絵文字 Emoji อีกที
----------
....... Emoji เป็นของคนละอย่างกับ Emoticon
Emoticon มาจากคำว่า Emotion + Icon
รวมถึงตัวอักษรทั่วไปที่ถูกพิมพ์ให้เกิดเป็นภาพ
ส่วน Emoji มาจาก 絵 เอะ + 文字 โมจิ
จัดอยู่ในกลุ่ม Pictogram
ซึ่งมันเป็นภาพในตัวของมันเอง
ย้ำอีกทีว่า มันไม่ใช่ของอย่างเดียวกัน
Emoji เป็น Emoticon ประเภทหนึ่ง
แต่ไม่ใช่ Emoticon ทั้งหมดที่เป็น Emoji
และอันนี้คุณสามารถไปค้นหาข้อมูลอ่านได้ง่ายๆ
เพียงแค่คุณ Google มันขึ้นมา
ถ้าคุณอยากจะเถียงว่าผมผิด
กรุณาไปเอาข้อมูลภาษาอังกฤษมาหักล้างด้วย
---------
ทีนี้ กลับมาที่เรื่องกฎเกณฑ์
ที่ผมบอกว่า การอ่าน Emoji ว่า *อิ*โมจิ
นั้นไร้รสนิยม
เพราะมันมีเรื่องความรู้ดังต่อไปนี้
E ในที่นี้ไม่ได้มาจากคำว่า Emotion
มันมาจากคำว่า 絵 ที่อ่านว่า เอะ และแปลว่าภาพ
มันไม่ได้อ่านว่า อิ หรือ อี
แต่ถ้าคุณเชื่อว่ามันมาจากคำว่า Emotion
(ซึ่งได้อธิบายไปแล้วว่าไม่ใช่)
มันจะมีวิธีอ่านอยู่สองแบบคือ
1. UK เอโมชั่น
2. US *อี*โมชั่น
มันไม่ใช่เสียง *อิ* สั้นๆ
มันไม่ได้ออกเสียงแบบ Italy ที่เป็นเสียง อิ ชัดเจน
ทั้งๆที่ภาษาไทยสามารถออกเสียง เอ และ อี ได้ชัดเจน
โดยไม่มีปัญหาขัดข้องเหมือนบางภาษา
มันไม่เหมือนภาษาญี่ปุ่นที่ออกเสียงบางอันเช่น ดิ ไม่ได้ถ้าไม่ฝืน
ฉนั้น ถ้าคุณจะอ่านมันว่า *อิ*โมชั่น
มันเป็นวิธีการอ่านที่มาจากความเข้าใจที่ผิดพลาด
และไม่ได้สนถึงความรู้ที่เกี่ยวข้องกับตัวคำศัพท์เลย
...
..
.
ผมถึงได้บอกว่า มันเป็นการอ่านที่ไร้รสนิยมครับ
.
.
.
-----------
ทีนี้ ถามว่ามันผิดหรือเปล่าถ้าคุณจะใช้ *อิ*โมจิ ต่อ?
เช่น คุณจะบอกว่า
นี่เป็นการอ่านเพื่อให้การสื่อสารกับคนอื่นราบรื่น
ผมได้พูดไปแล้วในโพสต์ก่อนครับว่า
ผมไม่ได้ห้าม คุณอยากจะใช้ไปมันก็สิทธิของคุณ
...... แต่มันไม่ได้เป็นเหตุผลหักล้างหลักการที่ผมกล่าวออกไป
คือมันก็ยังเป็นการใช้งานที่ไร้รสนิยมอยู่ดี
*และ* จริงๆแล้วมันใช้สื่อสารไม่ได้กับทุกคน
ทั้งๆที่มันเป็นกฎเกณฑ์ที่คุณยกมา
เพื่อใช้หักล้างกฎเกณฑ์ที่ผมอธิบาย
------------------------------------------
------------------------------------------
และเรื่องท้ายสุดที่ผมอยากจะพูดนะครับ
คือถ้าคุณพอใจจะใช้กับคนไทยก็ใช้ไป
แต่เวลาที่คุณเอาไปใช้พูดกับคนเจ้าของภาษา
กรุณาทราบด้วยว่าคำศัพท์จำนวนมาก
ที่คุณนึกว่าใช่ตอนคุณพูดกับคนไทยนะ
เจ้าของภาษาเขาฟังคุณไม่รู้เรื่องตอนคุณพูดครับ
เพราะอะไรรู้ไหม?
ก็มันไม่ได้ออกเสียงแบบที่เขาเข้าใจได้นะ
ขนาดคนไทยจะทะเลาะกันให้ตายให้ได้เรื่อง นะคะ นะค่ะ
คุณคิดหรือว่าแค่พูดอะไรที่คล้ายๆกันแล้วเขาจะเข้าใจกันหมดนะ?
//---------------------------------------------
//---------------------------------------------
..... โอเคเข้าใจแล้ว
ถ้าอย่างนั้นขอพูดอีกอันนะครับ
สมมุติว่า การมีรสนิยม เป็น +1
การมีรสนิยมดีจะหมายถึง +1
การมีรสนิยมแย่จะหมายถึง 0.1~1.0
การ ไร้รสนิยม หมายถึงไม่ใช่ 0.1~1.0
ซึ่งการที่อะไรสักอย่างไม่ใช่ +1
ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็น -1
ในกรณีนี้ผมหมายถึงว่ามันเป็นค่า 0
ซึ่งผมได้เขียนอธิบายไปแล้วด้วยว่า
**มันไม่ได้ผิด**ครับ
ผมไม่ได้พูดว่ามันแย่หรือเลวที่จะทำ
