เราเห็นอะไรบ้างจากรูปข้อมูลการรายงานผลสถานการณ์โรค covid-19 ของวันนี้
1. จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวัน (ซึ่งได้มาจากผลตรวจ PCR) ก็ยังไม่ค่อยลดลงเท่าไหร่นะครับ ยังอยู่ในช่วงประมาณ 2 หมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากคนที่เดินเข้าไปขอตรวจเอง มีจากการตรวจหาเชิงรุก ยังค่อนข้างน้อย
2. จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้จากชุดตัว ATK ไม่ได้โดนเอาไปนับรวมด้วย ซึ่งก็ไม่น้อยทีเดียว วันนี้ได้ตั้ง 2 พันคน (ถ้าใช้กันเยอะกว่านี้ แล้วไปลงทะเบียนกับทางรัฐ คงยิ่งเห็นค่าตัวเลขเพิ่มขึ้นอีก)
3.1 จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันก็ยังค่อนข้างคงที่ประมาณ 200 คน .. ที่น่าสนใจคือ อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 0.8% (คาดว่า ถ้ารวมผู้เสียชีวิตจากโรคอื่น ที่จริงๆ แล้วเป็นผลจากการติดเชื้อโควิด เข้าไปด้วย อาจจะอยู่กลมๆ ประมาณที่ 1%)
3.2 แต่เท่าที่ทราบ ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตก็คือผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงผู้มีโรคประจำตัว ดังนั้น ถ้าเราเร่งฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มนี้ก่อน ก็จะทำให้ยอดผู้เสียชีวิตของทั้งประเทศลดลงได้แน่ๆ
4. การฉีดวัคซีนยังอยู่ที่ประมาณ 3 แสนโดสต่อวัน ยังนับว่าค่อนข้างน้อยกว่าแผนเดิมที่วางไว้มาก และประชากรที่ฉีดครบ 2 โดสแล้วเพียงแค่ประมาณ 6.5% ซึ่งก็ห่างไกลกับเป้าที่วางไว้เยอะทีเดียว ถ้าหวังจะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้น
5.1 ยอดการตรวจหาผู้ติดเชื้อด้วยวิธี PCR มีจำนวนแค่ประมาณ 5 หมื่นตัวอย่างต่อวัน ซึ่งจากกราฟแล้ว จะเห็นชัดว่ามีแนวโน้มลดลงมาจากช่วงเดือนที่แล้ว ที่เคยได้ประมาณ 7 หมื่นตัวอย่างต่อวัน
5.2 จริงๆ แล้ว เราต้องตรวจให้ได้มากกว่านี้อีก 4-5 เท่าเป็น 2-3 แสนตัวอย่างต่อวัน ถึงจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน น่าเชื่อถือ และนำไปประเมินสถานการณ์ได้จริง
6. ยอดการรักษาหาย ก็อยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นรายต่อวันเช่นกัน พอๆ กับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันใหม่ และมีแนวโน้มจะสูงขึ้น .. แต่ก็มีปัจจัยจากเรื่องที่รัฐเปลี่ยนแนวทางการดูแลรักษาตอนนี้ ซึ่งลดจำนวนวันในการอยู่โรงพยาบาลจาก 14 วันลงมาเหลือ 10 วัน
7.1 สำหรับคนที่ยังรักษาตัวในปัจจุบันนี้ประมาณ 2 แสนราย มีที่อยู่ในโรงพยาบาลลดลงมาเหลือประมาณ 1 ใน 3
7.2 ซึ่งน่าจะเพราะว่ามีระบบการกักตัวที่บ้าน (home isolation) และในชุมชนเข้ามาช่วย รองรับผู้ติดเชื้อถึงครึ่งนึงของคนที่ไม่ได้เข้าโรงพยาบาล (อีกครึ่งนึงไปอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม)
8. ผู้ป่วยโรคโควิดที่อยู่ในระดับป่วยรุนแรง อาการหนักนั้น มีประมาณ 2.5% ของผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่
9. ผู้ป่วยโรคโควิดที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีประมาณ 0.5% ของผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่
-------
#ความเห็นส่วนตัว แนวทางการรักษาพยาบาลโรคโควิดตอนนี้ ผมคิดว่า ก็มาถูกทางแล้วนะอย่างที่เคยเสนอไว้ตั้งแต่ 3-4 เดือนที่แล้ว คือ
- ใช้ชุดตรวจ APK มาช่วยทำให้เราแยกปลาจากน้ำ หาผู้ติดเชื้อได้มากขึ้น รวดเร็วขึ้น กว่ากันใช้วิธี pcr อย่างเดียวซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีข้อจำกัด
- ใช้วิธีการกักตัวที่บ้านและที่ชุมชน เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการป่วย และผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในระดับสีเขียว ภายในโรงพยาบาล เพื่อให้มีกำลังเพียงพอกับดูแลผู้ป่วยสีเหลืองสีแดงมากขึ้น
- ถ้ายิ่งเราสามารถแจกยาต้านไวรัส ได้เร็วขึ้น ก็ยิ่งช่วยลดไม่ให้มีผู้ป่วยสีเหลือง สีแดงเพิ่มขึ้น และจะได้ไม่เข้าไปแน่นไปโรงพยาบาล
- การเน้นฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงก่อน เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำ เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด
ภาพจาก https://www.facebook.com/108669090743003/posts/375943310682245/?app=fbl
「น่าเชื่อถือ คือ」的推薦目錄:
- 關於น่าเชื่อถือ คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
- 關於น่าเชื่อถือ คือ 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於น่าเชื่อถือ คือ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳貼文
- 關於น่าเชื่อถือ คือ 在 PODCAST HR TALK: Trust ความน่าเชื่อถือ และการยอมรับจาก ... 的評價
- 關於น่าเชื่อถือ คือ 在 ใครคือ ผู้ให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หรือ AS | By ETDA Thailand 的評價
น่าเชื่อถือ คือ 在 Facebook 的最讚貼文
คนหน้าตาดีมีความสุขมากกว่า?
ประสบความสำเร็จกว่ามั้ย?
*****************
ฝากซับ 🙏🏻🥺:
YT: https://www.youtube.com/DjFiat
IG: https://instagram.com/fiatography?utm_medium=copy_link
Tiktok: https://vt.tiktok.com/ZGJBf2PVf/
วิจัยหลายอันพบว่า คนเราไบแอส จริง คนหน้าตาดี คนชอบ ดึงดูดความสนใจ ถูกเหมารวม ด่วนสรุปไปเลยว่า น่าเชื่อถือ ซื่อสัตย์ นิสัยดี เป็นคนดี สุขภาพดี มีความสุข
ซึ่งนั่นคือ “เฮโล เอฟเฟค” หลุมพรางความคิดเห็นว่าดูดี ก็เหมารวมไปว่าดีหมดทุกอย่าง
All that glitter is not gold (อะไรที่เปล่งประกายเรืองรอง ไม่ใช่ทองล้ำค่าเสมอไป)
การด่วนเหมารวม ทำให้คนหน้าตาดีได้รับ อภิสิทธิ์ความวามตั้งแต่เด็ก คนเลือกปฏิบัติดีกว่า ได้โอกาสดีกว่า เลยมีโอกาสสำเร็จมากกว่า ได้เงินเดือนมากกว่า คนเข้าหามากกว่า เลยมีโอกาสให้เลือกมากกว่า
เศรษฐีทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ใน Fortune 500 - นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งล้ำในประวัติศาสตร์ ผู้นำประเทศที่สร้างความเปลี่ยนแปลงระดับโลก ครอบครัวที่มีความสุข แต่ละคนหล่อ/สวยระดับโลกรึเปล่า?
ถ้าหน้าตาดี แล้วมีความสุข ทำไมเรายังเห็นดารา นายแบบ นางแบบ หน้าตาดี หย่าร้าง เสพติด ทำร้ายตัวเอง?
หน้าตาดีแค่ช่วยเพิ่มโอกาส แต่ไม่ได้การันตีผลลัพธ์ และความสุขในชีวิต
คนหน้าตาดีหลายคนประสบความสำเร็จ ส่วนนึงเป็นเพราะตัวเขาเก่ง ดี เองจริงๆ แต่สำคัญที่สุด คือ การลงมือทำจริง ไม่ทิ้งโอกาสที่ได้
น่าเชื่อถือ คือ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳貼文
Digital Nomad อาชีพเร่ร่อนที่ทำเงินจากดิจิทัล
.
ใครจะคิดว่าจะมีอาชีพที่สามารถทำงานไปพร้อม ๆ กับเดินทางท่องเที่ยวได้ในเวลาเดียวกัน “Digital Nomad” หรือ อาชีพที่อาศัยประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างรายได้และทำเงินจากดิจิทัล โดยเป็นการทำงานผ่านระบบออนไลน์ ใช้เพียงแค่แล็บท็อป และอินเทอร์เน็ตก็สามารถพักผ่อน ท่องเที่ยว และทำงานทุกอย่างได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ตาม เช่น ร้านกาแฟ Co-working space หรือแม้กระทั่งชายหาด ริมทะเล โดยไม่ต้องนั่งอยู่แค่ภายในออฟฟิศ
.
ซึ่งไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ของคนที่ประกอบอาชีพนี้ได้ ส่วนมากจะเป็นคนสนุก มีวินัยกับตัวเอง เพราะเป็นการเที่ยวไปด้วย และทำงานไปด้วย หากไม่มีวินัย งานที่ทำอาจไม่ประสบผลสำเร็จ โดยสถานที่ ที่คนกลุ่มนี้ชอบไปส่วนมากจะเป็นสถานที่ที่มีค่าครองชีพถูก ไม่ว่าจะเป็น ต่างจังหวัด หรือสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งพวกเขาจะเดินทางด้วยยานพาหนะที่เหมาะสมกับสถานที่หรือไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และเช่าบ้าน โรงแรม หรือรีสอร์ท ในการพักอาศัยระหว่างทำงานและเที่ยว ซึ่งอาจจะเช่าเป็นรายวัน รายเดือน หรือบางคนอาจยาวนานเป็นปี หากถามว่าพวกเขา เอาเงินมาจากไหน ในการใช้ชีวิตแบบนั้น คำตอบก็คือ รายได้ของพวกเขาก็เกิดจากการทำงานผ่านออนไลน์ ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่พวกเขามี โดยรายได้ที่ได้ ก็เรียกได้ว่า พวกเขาสามารถท่องเที่ยว ร่อนเร่ พเนจร ไปได้เป็นเวลานานเลยทีเดียว
.
โดยทักษะที่คนในกลุ่ม Digital Nomad ควรมี คือ
1. ทักษะการทำตลาดออนไลน์ การทำเว็ปไซต์หรือ การเทรดค่าเงิน หุ้น ทองคำ
2 . การบริหารการเงินส่วนบุคคล
3. การเข้าสังคม จะช่วยให้เรามีคนรู้จักและสามารถช่วยเหลือเราได้ในการทำธุรกิจต่างๆ
4. ความยืดหยุ่น ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และแผนการใช้ชีวิต
5. ภาวะการเป็นผู้นำ ต้องมีวินัยกับตัวเอง และมีความตั้งใจในการทำสิ่งต่าง ๆ
.
ยกตัวอย่างของคนที่ทำอาชีพ Digital Nomad เขาจะทำงานอะไรกันบ้าง ?
.
1.สร้างบล็อก หรือเว็บไซต์ของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นบล็อกหรือเว็บไซต์ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือบทความต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนอ่าน และสามารถดึงดูดผู้คนให้เข้ามาเยียมชม หรืออ่านบทความนั้นๆได้ โดยเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ และความชอบของตัวเอง โดยจะเริ่มหารายได้พื้นฐานจากการติดโฆษณาจาก Google Adsense หรือจากที่อื่น ๆ และอาจรับงานรีวิวสินค้า เช่นเดียวกับบรรดาบล็อกเกอร์ชื่อดังต่าง ๆ
.
2.นักเขียนอิสระ
เป็นงานอิสระ หรือที่เรียกติดปากกันว่า “ฟรีแลนซ์” โดยจะสามารถทำงานได้ทุกที่ระหว่างการท่องเที่ยว อาจจะเป็นการเขียนบทความเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ตัวเองไป หรือหากมีความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ก็อาจรับงานเขียนบทความเหล่านั้นได้ ยิ่งผลงานของคุณมีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากสังคม ก็จะส่งผลให้ทุกบทความที่คุณเขียน มีมูลค่าและก็เกิดรายได้
.
3.เปิดร้านค้าออนไลน์ เป็นของตัวเอง
หากเป็นคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือสนใจอยากขายของผ่านออนไลน์ คุณก็สามารถเปิดเว็บไซต์ หรือช่องทางออนไลน์เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถติดต่อสอบถาม หรือซื้อสินค้าของคุณได้ โดยคุณจะใช้ช่องทางออนไลน์นี้ ในการโปรโมท และบอกกล่าวรายละเอียดของสินค้าให้ผู้บริโภคทราบด้วย ซึ่งงานนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนคุณก็สามารถขายของและตอบลูกค้าได้ เพียงแค่คุณมีความใส่ใจ และไม่ละเลยหน้าที่ในการตอบลูกค้า
.
4.ช่างถ่ายภาพ
ในกรณีที่คุณมีความสามารถในการถ่ายภาพ การเป็น Digital Nomad ก็เป็นอะไรที่น่านใจ เนื่องจาก ระหว่างที่คุณถ่ายภาพนั้น คุณสามารถถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว ผู้คน สัตว์ ด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่คุณมี แล้วนำภาพนั้นมาขายผ่านออนไลน์ บรรยายภาพ และอาจบอกเคล็ดลับดีๆ หรือเทคนิคในการถ่ายภาพของคุณ ซึ่งหากเป็นที่สนใจเมื่อไหร่ คุณก็จะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น e-book เกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพเหล่านั้น หรืออาจเป็นคอร์สสอนถ่ายภาพออนไลน์ก็สามารถทำได้
.
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน การทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศหรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราก็สามารถทำงานได้ เพราะตอนนี้เทคโนโลยี ดิจิทัล และระบบออนไลน์ ได้เชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกให้เข้าหากันได้ง่ายขึ้น ขอแค่มีความตั้งใจ และมีวินัยในการทำงาน คุณก็สามารถทำงานทุกอย่างได้ ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งมีคนกล่าวไว้ว่า อีก 20 ปีข้างหน้า ผู้คนทั่วโลกกว่า 20% ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานมาขึ้น และกลายมาเป็นกลุ่มคนเร่ร่อนยุคใหม่ หรือที่เรียกว่า “Digital Nomad” นั่นเอง
.
ที่มา : https://www.bangkokbrain.com/.../digital-nomad-%E0%B8%84.../
https://www.infernoclub.org/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84.../
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#DigitalNomad #อาชีพของคนเร่ร่อน
น่าเชื่อถือ คือ 在 ใครคือ ผู้ให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หรือ AS | By ETDA Thailand 的推薦與評價
"ดิจิทัลไอดี วันละคำ สองคำ" (ตอนที่ 6) . ผู้ให้ข้อมูลที่ น่าเชื่อถือ (Authoritative Source: AS) หมายถึง... ... <看更多>
น่าเชื่อถือ คือ 在 PODCAST HR TALK: Trust ความน่าเชื่อถือ และการยอมรับจาก ... 的推薦與評價
PODCAST HR TALK: Trust ความ น่าเชื่อถือ และการยอมรับจากลูกน้อง คือ พื้นฐานความสำเร็จในการเป็นหัวหน้า. No views · 4 minutes ago ...more ... ... <看更多>