สัมภาษณ์พิเศษ เจ้าของ TQM บริษัทนายหน้าประกันที่มุ่งมั่นจะมีอายุ 100 ปี
“ปี 40 ธุรกิจที่อยู่ในมือเจ๊งหมด เหลือแค่ธุรกิจประกันภัยของคุณพ่อที่ยังอยู่
มันคงเป็นชะตากำหนดมาแล้ว ให้เราต้องสานต่อ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่ชอบธุรกิจประกัน”
ใครจะคิดว่าจากธุรกิจที่ตัวเองไม่ชอบ
แถมเมื่อมารับช่วงต่อจากคุณพ่อ บริษัทมีพนักงานไม่ถึง 10 คน
และมีฐานลูกค้าอยู่ในมือไม่ถึง 100 ราย
เวลาผ่านไป 23 ปี เจ้าของประโยคดังกล่าว
กลับสร้างบริษัทที่รับช่วงต่อจากคุณพ่อจนมีเบี้ยประกัน 15,020 ล้านบาท
มีพนักงานกว่า 4,000 คน และมีฐานลูกค้ากว่า 3 ล้านคน
บุคคลที่ ลงทุนแมน กำลังพูดถึงก็คือ ดร.อัญชลิน พรรณนิภา
ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM
บริษัทธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่อยู่ในเมืองไทยมานาน 68 ปี
ความน่าสนใจเรื่องนี้มันอยู่ที่ว่าจากธุรกิจเล็ก ๆ ของครอบครัว
ปัจจุบัน TQM ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัท นายหน้าประกัน อันดับหนึ่งเมืองไทย และเป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยเพียงรายเดียวที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ SET ได้อย่างไร
ที่น่าสนใจ TQM ปรับตัวอย่างไรจากยุคที่ต้องเดินขายประกันตามบ้านมาสู่ยุคดิจิทัล
ลงทุนแมน จะสรุป บทสัมภาษณ์นี้ให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 40 ดร.อัญชลิน ตัดสินใจรับช่วงธุรกิจบริษัทนายหน้าประกันต่อจากคุณพ่อ
เนื่องจากทุกธุรกิจที่มีอยู่ในมือ โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนต้องปิดกิจการทั้งหมด
จะเหลือแค่ธุรกิจนายหน้าขายประกันของคุณพ่อ
เวลานั้นเขารู้สึกว่าหรือโชคชะตาลิขิตให้ต้องรับช่วงต่อ
ก็เลยตัดสินใจเข้ามาบริหารบริษัท โดยเขาเป็นทายาทรุ่นที่ 3
เมื่อเข้ามาบริหารเต็มตัว เขาสังเกตว่าใน 1 วันพนักงานขายประกันของบริษัทต้องเดินทางไปหาลูกค้า
แล้วอย่างเก่งใน 1 วันก็เจอลูกค้าได้แค่ 3 - 4 คน แถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะปิดการขายได้หรือไม่
โจทย์เลยมาอยู่ที่ว่าจะทำยังไงให้ 1 วันของพนักงาน 1 คนพบลูกค้าได้มากขึ้น
ดร.อัญชลิน จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้วิธีขายประกันทางโทรศัพท์ โดยเริ่มต้นจากฐานลูกค้าเก่า
วิธีนี้ข้อเสียคือจะไม่ได้พบหน้าลูกค้าโดยตรง และอาจทำให้ปิดการขายได้ยาก ต้องขายประกันภัยที่เข้าใจง่าย ลูกค้ารู้จัก เช่น ประกันรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุ
แต่ข้อดีคือทำให้ 1 วันของพนักงาน 1 คนสามารถคุยกับลูกค้าได้ 30 - 40 ราย
พร้อมกับมีการอบรมวิธีการขายให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย และปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ผลที่ได้คือยอดขายประกันโตแบบก้าวกระโดด แถมยังได้ข้อมูลลูกค้าเพิ่มขึ้น
จากนั้นก็เริ่มขยายธุรกิจไปในหลาย ๆ จังหวัด พร้อมกับมีบริษัทประกันที่เป็นพันธมิตรมากขึ้น
ทำให้ปี พ.ศ. 2547 จากบริษัทห้องแถวเล็ก ๆ TQM ก็ลงทุนสร้างสำนักงานใหญ่ย่าน ลาดปลาเค้า
พร้อมกับลงทุนสร้างระบบ Call Center บนพื้นที่ 2,000 ตร.ม. และมีพนักงานกว่า 200 คน
จากนั้นบริษัทก็มีรายได้และกำไร จนถึงจำนวนพนักงานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เวลาผ่านไป 10 กว่าปี การมาของ Smartphone และ Social Media ได้เปลี่ยนโลกธุรกิจทั้งใบ
ปรากฏการณ์นี้ ดร.อัญชลิน รู้ดีว่าหากบริษัทเก่าแก่อย่าง TQM ปรับตัวไม่ทันอาจเพลี่ยงพล้ำ
ที่น่าสนใจ เขากลับมองว่า โลกที่กำลังเปลี่ยนไป มันไม่ใช่วิกฤติ
แต่มันคือโอกาสทองของบริษัทที่จะทำลายข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างในธุรกิจประกันภัย
ทำให้บริษัท TQM ตัดสินใจลงทุนกว่า 200 ล้านบาทในเรื่องเทคโนโลยีและดิจิทัล
พร้อมกับเกิดการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ ด้าน ยกตัวอย่างเช่น
ในอดีตพนักงานขายจะโทรศัพท์หาลูกค้า ก็จะมีออนไลน์เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งช่องทาง
ทำให้สามารถทำงานได้ ทุกที่ ทุกเวลา จนถึงค้นหาข้อมูลลูกค้าต่าง ๆ
ก็เปลี่ยนจากแฟ้มเอกสารมาอยู่ในระบบ Big Data ของบริษัทที่รวดเร็วและแม่นยำ และ Data Analytic ทำให้ผลสำเร็จสูงขึ้น
จนถึงการใช้เทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุนต่าง ๆ
ดูเหมือน TQM จะมาถูกทางเมื่อรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง
ปี 2561 รายได้ 2,525 ล้านบาท กำไร 404 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 2,784 ล้านบาท กำไร 507 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 3,136 ล้านบาท กำไร 702 ล้านบาท
การเติบโตขนาดนี้ คงไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน อย่างเดียว
แต่รู้หรือไม่ว่า..ลูกค้าที่ซื้อประกันผ่าน TQM กว่า 80% เมื่อหมดสัญญาจะต่อกรมธรรม์
ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่อยู่ 60% และเมื่อบวกกับฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ส่งผลให้ปัจจุบัน TQM มีฐานลูกค้าเกือบ 3 ล้านรายทั่วประเทศ
แล้วเบื้องหลังความสำเร็จนี้ มันเกิดจากอะไร ?
TQM ตระหนักดีว่า หัวใจสำคัญของประกันภัย ไม่ใช่เพียงแค่ขายเก่ง แต่ต้องบริการเป็นเลิศด้วย
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ณ วันนี้ TQM มีพนักงานกว่า 4,000 คนและมี 96 สาขาทั่วประเทศ ทั้ง Sale & Service เป็น Economies of scale ในการเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ ที่หลาย ๆ บริษัทประกันไม่สามารถทำได้
พอเป็นแบบนี้ก็เลยทำให้บริษัทประกันในเมืองไทยเกือบ ๆ 40 บริษัท
เลือกให้ TQM เป็นนายหน้าขายประกันให้แก่ตัวเอง
ไม่ใช่แค่นั้นแต่ TQM ยังรับหน้าที่ outsource บริการหลังการขายให้แก่บริษัทประกันต่าง ๆ
จุดนี้เองที่ทำให้ได้ใจลูกค้าไปเต็ม ๆ ตัวอย่างเช่น
สมมติหากลูกค้าเกิดรถชนต้องเคลมประกัน
พนักงาน TQM ก็จะดำเนินการให้ทันที โดยลูกค้าไม่ต้องทำเรื่องเคลมเองให้วุ่นวายและยังคอยดูแลการชดใช้ค่าสินไหมที่เป็นธรรมด้วย
ที่สำคัญธุรกิจนี้ก็ยังสร้างรายได้มหาศาลคิดเป็น 40% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
ถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่า TQM เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จ
และไม่น่าจะมีความท้าทายอะไร แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เมื่อ ดร.อัญชลิน บอกว่าถึง TQM จะเป็นผู้นำตลาดนายหน้าขายประกันด้วยเบี้ย 15,000 ล้านบาท
แต่กลับมีส่วนแบ่งไม่ถึง 5% จากเบี้ยประกันในเมืองไทยทั้งหมดเกือบ ๆ 1 ล้านล้านบาท ต่อปี
ส่วนอีกเรื่องก็คือ คนไทยยังทำประกันไม่มาก
รู้หรือไม่ว่า รถบนถนนเมืองไทยที่สามารถทำประกันได้มีถึง 20 ล้านคันแต่มีเพียง 60% ที่ทำประกัน
ขณะที่บ้านในเมืองไทยมี 26 ล้านหลัง แต่มีเพียง 3 ล้านหลังที่ทำประกันอัคคีภัย รวมถึงประกันสุขภาพประกันชีวิต ที่ยังเติบโตได้อีกมาก
ข้อมูลตรงนี้ ทำให้รู้ทันทีว่า TQM ยังมีความท้าทายรออยู่ตรงหน้า
เพราะตลาดยังมีโอกาสอีกมหาศาล ในการเพิ่มฐานลูกค้าและเบี้ยประกัน
ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่ว่า..จะทำได้ดีแค่ไหน ?
สุดท้าย ลงทุนแมน ได้ถามว่าความหวังอันสูงสุดในการบริหาร TQM คืออะไร
ดร.อัญชลิน บอกว่าเขาอยากเห็นคนไทยทุกคนมีประกันภัยไว้คุ้มครอง เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และอยากเห็นบริษัทแห่งนี้มีอายุ 100 ปี เหมือนปรัชญา Rinen ของญี่ปุ่นที่เน้นการเติบโตของธุรกิจแบบยั่งยืน เช่น ต้นสนที่มีอายุยืนยาวถึง 1,000 ปี
และสุดท้ายได้เริ่มฝึกทายาทรุ่นที่ 4 เข้ามาเรียนรู้งานแล้ว
แล้วใครจะคิดจากคนที่ในอดีตไม่เคยชอบธุรกิจนายหน้าขายประกัน
มาวันนี้ ดร.อัญชลิน กำลังมีความฝันให้ธุรกิจนี้มีอายุ 100 ปี
ซึ่งก็เชื่อว่า เขาน่าจะหลงรักธุรกิจนี้อย่างเต็มหัวใจไปเรียบร้อยแล้ว..
References
-สัมภาษณ์โดยตรงกับ ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
-รายงานประจำปีของ TQM
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過68萬的網紅Ceemeagain,也在其Youtube影片中提到,ยุคนี้เราหาทุกอย่างได้ผ่านออนไลน์ แม้แต่ประกันรถยนต์ ลองไปดูกันว่าประกันรถยุค 4.0 จะรู้ใจคุณได้มากแค่ไหนกับ RooJai.com Please Subscribe: http://Yout...
ประกันรถยนต์ 3+ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ทำไม ธุรกิจประกันในไทย ยังมีโอกาสเติบโต /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า ทุกวันนี้ คนไทย 1 คน มีค่าเฉลี่ยถือกรมธรรม์ประกันชีวิตไม่ถึง 1 ฉบับ
นี่เป็นข้อมูลในภาพรวมที่บอกเราว่า
ธุรกิจกลุ่มประกันในประเทศไทย ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก
มีเรื่องอะไรที่เราต้องรู้เกี่ยวกับธุรกิจนี้บ้าง
แล้วโอกาสในการเติบโตของธุรกิจประกันมีมากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
มาทำความรู้จักกันก่อนว่า ธุรกิจประกันถูกจัดประเภทเอาไว้อย่างไร
ปัจจุบัน ธุรกิจประกันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. การประกันส่วนบุคคล เป็นการทำประกันโดยการซื้อความคุ้มครองการเสียชีวิต ครอบคลุมไปถึงการสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ บาดเจ็บ เจ็บป่วย ภายในเวลาที่กำหนด เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุ
2. การประกันภัยทรัพย์สิน เป็นการทำประกันเพื่อความคุ้มครองทรัพย์สินเมื่อเกิดอุบัติภัยหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งโดยไม่คาดฝัน เช่น ประกันอัคคีภัย ประกันรถยนต์ ประกันขนส่ง
3. การประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดตามกฎหมาย เป็นการทำประกันจากการประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย บุคคลในครอบครัว หรือลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เช่น ประกันภัยความรับผิดต่อสาธารณะ ประกันภัยความรับผิดจากผลิตภัณฑ์
อ้างอิงจากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ในช่วงปี พ.ศ. 2553-2562 เบี้ยประกันภัย หรือก็คือจำนวนเงินที่ผู้ซื้อประกันภัยจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยในประเทศไทยนั้น เพิ่มสูงขึ้นกว่า 115%
-ปี พ.ศ. 2553 เบี้ยประกันภัยในระบบ 283,843 ล้านบาท
-ปี พ.ศ. 2562 เบี้ยประกันภัยในระบบ 610,170 ล้านบาท
โดยปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจประกันภัยในไทยมีการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ การเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้
พอคนมีรายได้มากขึ้น มีกำลังซื้อมากขึ้น
ก็เริ่มมีการแบ่งเงินบางส่วนมาซื้อประกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมจะเติบโตในช่วงที่ผ่านมา แต่ต้องถือว่าคนไทยยังทำประกันน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไปเทียบกับประเทศอื่น
เราลองมาดูตัวชี้วัดตัวแรก ซึ่งเรียกว่า สัดส่วนเบี้ยประกันภัยเทียบกับ GDP ของประเทศ
ซึ่งสัดส่วนที่สูง ก็สะท้อนว่าประเทศนั้นมีมูลค่าการทำประกันภัยสูงเมื่อเทียบกับมูลค่า GDP
ในปี พ.ศ. 2562 สัดส่วนเบี้ยประกันภัยเทียบกับ GDP ของประเทศ (Insurance Penetration Rate) ของประเทศไทยเท่ากับ 3.6%
แต่ถ้าเราไปดู Insurance Penetration Rate ของประเทศในเอเชีย อย่างเช่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น จากข้อมูลบนเว็บไซต์ Statista
-เกาหลีใต้ 10.8%
-สิงคโปร์ 9.0%
-ญี่ปุ่น 9.0%
ที่สำคัญคือ ค่าเฉลี่ยสัดส่วนเบี้ยประกันภัยเทียบกับ GDP ของโลกนั้น เท่ากับ 7.0% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไทยมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยเทียบกับ GDP ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกอีกด้วย
อีกตัวเลขที่ยืนยันว่า ตลาดประกันยังมีโอกาสเติบโตในประเทศไทย คือ อัตราผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตของคนไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ยังถือว่าต่ำพอสมควร
รู้ไหมว่า ในปี 2562 อัตราผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตของคนไทย เท่ากับ 39%
หรืออธิบายง่าย ๆ คือ คนไทย 100 คน มีการถือกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ที่ 39 ฉบับ หรือเฉลี่ยแล้วถือคนละไม่ถึง 1 ฉบับ
แล้วตัวเลขนี้เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ?
-ญี่ปุ่น ประชากร 100 คน ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ที่ 322 ฉบับ หรือเฉลี่ยคนละ 3.22 ฉบับ
-สิงคโปร์ ประชากร 100 คน ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ที่ 267 ฉบับ หรือเฉลี่ยคนละ 2.67 ฉบับ
-เกาหลีใต้ ประชากร 100 คน ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ที่ 170 ฉบับ หรือเฉลี่ยคนละ 1.70 ฉบับ
ซึ่งทั้งสัดส่วนการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตต่อจำนวนประชากรและสัดส่วนเบี้ยประกันเทียบกับ GDP ของประเทศ
สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยยังใช้ประโยชน์จากการทำประกันในการจัดการความเสี่ยงค่อนข้างน้อย
สาเหตุส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะ
-รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนไทยที่ยังไม่สูง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศที่ถูกกล่าวถึง
-คนไทยจำนวนไม่น้อย อาจยังมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันไม่มาก หรืออาจไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากประกันในการปิดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
-ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ที่ทำให้ครัวเรือนไทยโดยเฉลี่ยมีอัตราการออมที่ลดลง
ซึ่งเรื่องนี้ก็ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ประกันในปัจจุบันเช่นกัน
แต่การที่คนไทยยังทำประกันน้อย ถ้ามองอีกมุม ก็อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับธุรกิจประกันในไทย
เพราะมันหมายความว่า โอกาสในการเติบโตในอนาคตยังมีอีกมาก ถ้าต่อไปคนไทยเริ่มตระหนักและทำประกันมากขึ้น
ซึ่งถ้าหากถามว่า ในอนาคตธุรกิจไหน ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก
“ธุรกิจประกัน” ก็คงเป็นหนึ่งในคำตอบของคำถามนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.set.or.th/dat/setbooks/e-book/SamplePdf_1524476073512.pdf
-http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/18.aspx
-https://www.statista.com/statistics/381174/insurance-penetration-in-selected-countries-worldwide/
-https://thailandinsurancenews.com/knowledge/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3/
-https://www.oic.or.th/th/education/insurance/about/category
-https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=409&language=TH
-https://marketeeronline.co/archives/106253
-https://www.swissre.com/dam/jcr:4a1688f7-13e9-4b79-b5ba-917a00d2ea30/sigma4_2020_extra_Complete.pdf
-https://www.scbeic.com/th/detail/product/6656?utm_source=Influencer&utm_medium=Link&utm_campaign=datainfo_insurance_feb_2020
ประกันรถยนต์ 3+ 在 ติดโปร - PRO addict Facebook 的最讚貼文
💦 เที่ยวสงกรานต์ปีนี้ มีประกันรถชั้น1 TIP PREMIUM ไว้อุ่นใจทุกการเดินทาง มาพร้อมกับโปรแรงรับซัมเมอร์! ทั้งลด ทั้งให้ จัดเต็ม 4 ต่อ #10วันเท่านั้นกรอกโค้ดรับเลย #ประกันไม่หมดซื้อล่วงหน้าได้2เดือน #ซื้อเลยคุ้มมาก #ผ่อน0เปอร์เซ็นได้สูงสุด10เดือน
🚙 สงกรานต์ปีนี้ ซื้อประกันชั้น1 TIP PREMIUM จากทิพยประกันภัย ผ่าน TIPINSURE.com คุ้มครองทุกการเดินทางในราคาสุดคุ้ม เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มีแพลนจะเดินทางด้วยรถยนต์ในช่วงหยุดยาวนี้ เพราะเรามักจะเห็นข่าวอุบัติเหตุบนท้องถนนในทุก ๆ ปี ถ้ามีประกันติดรถเอาไว้ก่อนออกเดินทางอุ่นใจกว่า
.
💙 โปรพิเศษเพียง 10 วันเท่านั้น! เมื่อกรอกโค้ด TIPSUMMER ก่อนชำระเงิน รับฟรี 4 ต่อ
ต่อที่1 รับเพิ่ม! ส่วนลดทันที 5%
ต่อที่2 รับฟรี! บัตรน้ำมัน มูลค่า 1,000 บาท
ต่อที่3 รับฟรี! บัตรStarbucks มูลค่า 500 บาท
ต่อที่4 รับฟรี! ประกันเดินทางภายในประเทศ คุ้มครอง 90 วัน มูลค่า 100 บาท
.
📌 ดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3u709UI
📆 เช็คความคุ้มครอง หรือ เช็คราคา ได้ที่ https://bit.ly/2PlHLZF
📆 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 – 10 เม.ย. 64
📱 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Inbox FB ทิพยประกันภัย ( m.me/Dhipaya.insurance )
📞 หรือ โทร 1736
หมายเหตุ
- คนที่สนใจซื้อประกันภัยควรทำความเข้าใจและศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่กรอกโปรโมชั่นโค้ดก่อนการชำระเงินเท่านั้น
#ทิพยประกันภัย #ประกันภัย #ประกันชั้น1 #ประกันรถยนต์ #ติดโปร #TIDPRO
ประกันรถยนต์ 3+ 在 Ceemeagain Youtube 的最讚貼文
ยุคนี้เราหาทุกอย่างได้ผ่านออนไลน์ แม้แต่ประกันรถยนต์ ลองไปดูกันว่าประกันรถยุค 4.0 จะรู้ใจคุณได้มากแค่ไหนกับ RooJai.com
Please Subscribe:
http://Youtube.com/chatpawee
http://Facebook.com/chatpawee
http://Twitter.com/ceemeagain
http://Google.com/+ceemeagainchatpawee
ติดต่อโฆษณากับรายการ : Sociallab.co.ltd 091-819-7925
--------------------------------------------------

ประกันรถยนต์ 3+ 在 iT24Hrs Youtube 的最佳解答
สัมภาษณ์ทีม Claim di แอพพลิกโฉมเคลมประกันรถ กับมุมมอง Startup ไทยสู่ระดับโลก http://www.it24hrs.com/2014/claim-di-dtac-accelerate-2014/
ออกอากาศในไอที24ชั่วโมง ทางช่อง 3 เมื่อ 25 November 2014
