ทำไม สถานีบริการน้ำมัน ยังทำกำไรได้ แม้ราคาน้ำมันลดลง / โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจมีความเข้าใจมาตลอดว่า
ถ้าสถานีบริการน้ำมันปรับราคาขายน้ำมันเพิ่มขึ้น จะทำให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
และในทางกลับกัน ถ้าราคาขายน้ำมันลดลง ก็จะทำกำไรได้ลดลง
ความเข้าใจแบบนี้ ไม่ถูกต้องเสมอไป
เพราะบางครั้งสถานีบริการน้ำมันก็อาจทำกำไรเพิ่มขึ้นได้ แม้จะปรับราคาขายน้ำมันลดลง
กลไกของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า โครงสร้างราคาน้ำมัน 1 ลิตรของไทยนั้น ประกอบด้วยต้นทุนอะไรบ้าง
1. ต้นทุนราคาน้ำมันสำเร็จรูปจากหน้าโรงกลั่น
ต้นทุนส่วนนี้จะสะท้อนต้นทุนในการกลั่นของโรงกลั่น และยังได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ตามกลไกอุปสงค์-อุปทานน้ำมัน ณ ขณะนั้น
2. ภาษีและเงินส่งกองทุนต่าง ๆ ประกอบด้วย
- ภาษีเทศบาล เป็นภาษีที่ภาครัฐเก็บเพื่อนำไปพัฒนาพื้นที่จังหวัดที่โรงกลั่นน้ำมันตั้งอยู่
- ภาษีสรรพสามิต ภาษีที่ภาครัฐเก็บจากสินค้าประเภทฟุ่มเฟือยที่ผลิตหรือนำเข้า ซึ่งก็รวมถึงน้ำมัน โดยภาษีนี้จะถูกนำไปเป็นงบประมาณของภาครัฐ
- เงินส่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งกองทุนนี้ จัดตั้งเพื่อนำเงินไปรักษาเสถียรภาพราคา โดยในช่วงที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น รัฐจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายชดเชยเพื่อไม่ให้ราคาปลีกในประเทศสูงขึ้นมาก และในช่วงที่ราคาน้ำมันลดลง กองทุนนี้ก็จะเก็บเงินค่าชดเชยกลับมาเข้ากองทุน
- กองทุนอนุรักษ์พลังงาน กองทุนที่จัดตั้งเพื่อนำเงินไปใช้ขับเคลื่อนงานด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน รวมไปถึงการนำเงินกองทุนไปใช้พัฒนาระบบขนส่ง สร้างถนน และการให้ทุนการศึกษาด้านพลังงานด้วย
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) เป็นภาษีที่เก็บโดยภาครัฐจากการขายสินค้าและบริการทุกชนิด เพื่อนำมาเป็นงบประมาณของภาครัฐ
3. ค่าการตลาด
คือส่วนต่างระหว่างราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการ กับต้นทุนที่ได้น้ำมันมาขาย
หรือพูดง่าย ๆ คือ ค่าการตลาด เป็นกำไรจากการขายน้ำมัน ที่สถานีบริการน้ำมันทำได้
แล้วต้นทุนสามข้อที่ว่ามา มีสัดส่วนในโครงสร้างต้นทุนน้ำมันอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะลองยกตัวอย่าง ราคาน้ำมันดีเซล B7 ณ ราคา 26.49 บาทต่อลิตร
- ต้นทุนราคาน้ำมันจากหน้าโรงกลั่น 14.76 บาท คิดเป็น 56%
- ภาษีและเงินส่งกองทุนต่าง ๆ 9.42 บาท คิดเป็น 36%
- ค่าการตลาด 2.31 บาท คิดเป็น 8%
จะเห็นว่า ต้นทุนกว่าครึ่งเป็นต้นทุนที่เกิดจากราคาหน้าโรงกลั่น
และเมื่อนำต้นทุนจากราคาหน้าโรงกลั่น บวกกับ ภาษีและเงินส่งกองทุนต่าง ๆ จะคิดเป็น 92% ของราคาขาย
ส่วนอีก 8% จะมาจากค่าการตลาด ซึ่งกำไรของสถานีบริการน้ำมันจะมาจากค่าการตลาดเป็นหลัก จะไม่ได้เกี่ยวกับการขึ้นลงของราคาน้ำมัน
ถ้าเราสังเกตให้ดี ในความเป็นจริงแล้ว ราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการน้ำมันจะมีระยะเวลาปรับตัว ทำให้ยังไม่ปรับตามราคาน้ำมันดิบและราคาหน้าโรงกลั่นที่ปรับตัวขึ้นหรือลงในทันที ซึ่งช่องว่างตรงนี้ เรียกว่า “Lag time”
ซึ่ง Lag time ที่ว่านี้ ก็ส่งผลต่อค่าการตลาด
ที่เป็นตัวทำกำไรจากการขายน้ำมันของสถานีบริการน้ำมันต่าง ๆ
ซึ่งค่าการตลาดนั้น ก็คิดจาก ส่วนต่างระหว่างต้นทุนน้ำมันที่ซื้อจากโรงกลั่น ภาษีและเงินส่งเข้ากองทุนต่าง ๆ กับราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปที่สถานีบริการน้ำมัน
ตัวอย่างเช่น ถ้าในช่วงราคาน้ำมันดิบลดลง แต่ถ้าการปรับราคาขายน้ำมันหน้าสถานีบริการ ปรับลดลงช้ากว่าราคาขายหน้าโรงกลั่น กรณีนี้ สถานีบริการน้ำมันก็จะกำไรเพิ่มขึ้นได้ จากค่าการตลาดที่ปรับตัวขึ้น..
ลองมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2563 ที่เพิ่งจบไปกัน
การแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ
และทำให้ในปี 2563 ความต้องการใช้น้ำมันทั้งโลกลดลง
ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกจึงปรับตัวลดลง
ในกรณีของประเทศไทยที่นำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางเป็นส่วนใหญ่ จึงใช้ราคาน้ำมันดิบดูไบ (ที่นำมาซื้อขายกันที่ตลาดสิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายน้ำมันขนาดใหญ่ใกล้ไทย) เป็นราคาอ้างอิงต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบของประเทศ
สิ้นปี 2563 ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดสิงคโปร์ ลดลงไปประมาณ 24% จากปีก่อนหน้า
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้ราคาขายปลีกเฉลี่ยน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทย ปรับตัวลดลงตามไปด้วย
แต่รู้ไหมว่า แม้ว่าทั้งราคาน้ำมันดิบและราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ยจะลดลง
แต่ค่าการตลาด กลับปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า
ค่าการตลาดเฉลี่ยของน้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันเบนซิน
- ปี 2562 ค่าการตลาดเฉลี่ย 1.98 บาทต่อลิตร
- ปี 2563 ค่าการตลาดเฉลี่ย 2.30 บาทต่อลิตร
แม้ว่าค่าการตลาดเฉลี่ย จะปรับเพิ่มจากปีที่ผ่านมาเพียง 0.32 บาทต่อลิตร ซึ่งดูเหมือนไม่มาก
แต่ลองนึกภาพว่า ถ้าสถานีบริการน้ำมันนั้น ขายน้ำมันกว่า 3,000 ล้านลิตรต่อปี ก็หมายความว่า กำไรจากการขายน้ำมันของสถานีบริการ จะเพิ่มไปถึง 960 ล้านบาทเลยทีเดียว..
เราจึงเห็นว่า บริษัทที่ทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมันบางแห่งในปีที่แล้ว มีผลกำไรเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ยจะลดลงนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันนั้น ไม่ได้มีอัตรากำไรที่สูง
อย่างในส่วนของค่าการตลาดนั้น เมื่อนำไปหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว ถึงจะเป็นกำไรของผู้ประกอบการ ซึ่งบางสถานีบริการน้ำมัน ถ้าบริหารต้นทุนได้ไม่ดี ก็มีขาดทุนได้เหมือนกัน
และในอนาคต บริษัทที่ทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน
ก็คงต้องเจอความท้าทายที่มากขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะเรื่องของการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มลดลง
จากปริมาณการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าจะเป็นเมกะเทรนด์ในอนาคตอันใกล้
รวมไปถึง เรื่องต้นทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะต้นทุนน้ำมันดิบที่ผันผวนตามตลาดโลก
รวมไปถึงภาษีและเงินนำส่งต่าง ๆ ที่ทั้งหมดนี้เป็นต้นทุนที่ทั้งบริษัทและผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการน้ำมันไม่สามารถควบคุมเองได้
ดังนั้น เราจึงเห็นหลายบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พยายามมุ่งเป้าที่จะขยายธุรกิจไปทำธุรกิจที่ไม่ได้มาจากน้ำมัน (Non-Oil Business) มากขึ้น
เช่น ปั้นแบรนด์ร้านกาแฟ ให้เช่าพื้นที่ขายของ สถานีบริการชาร์จไฟฟ้า และธุรกิจอื่น ๆ เพื่อผันตัวเองให้เป็น One Stop Service ให้แก่ผู้มาใช้บริการ
ซึ่งพวกเขาก็คงหวังว่า จุดแข็งเรื่องการเป็นสถานีบริการน้ำมัน ที่คนเดินทางต้องแวะใช้บริการ
คงเป็นใบเบิกทางสู่ธุรกิจอื่น ที่สร้างอัตรากำไรที่สูงกว่า และมีความผันผวนน้อยกว่าการขายน้ำมัน นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.energynewscenter.com/รู้จักโครงสร้างราคาน้ำ/
-http://www.eppo.go.th/index.php/th/petroleum/price/structure-oil-price
-https://www.youtube.com/watch?v=cDfMR76sOOE
-https://www.youtube.com/watch?v=HpQq6iF3g1Y
-https://www.youtube.com/watch?v=35izV2QpUWQ
-https://www.indexmundi.com/commodities/?commodity=crude-oil-dubai&months=120
-https://www.scbeic.com/th/detail/product/891
-https://investor.ptgenergy.co.th/th/faq
「ภาษีสรรพสามิต คือ」的推薦目錄:
- 關於ภาษีสรรพสามิต คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於ภาษีสรรพสามิต คือ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最讚貼文
- 關於ภาษีสรรพสามิต คือ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳解答
- 關於ภาษีสรรพสามิต คือ 在 ภาษีสรรพสามิต - ECS 的評價
- 關於ภาษีสรรพสามิต คือ 在 Counter Service - ภาษีสรรพสามิตคืออะไร? ใครต้องจ่ายบ้าง ... 的評價
- 關於ภาษีสรรพสามิต คือ 在 ภาษีสรรพสามิต คืออะไรมาอยู่ในมอเตอร์โฮมได้อย่างไร - YouTube 的評價
- 關於ภาษีสรรพสามิต คือ 在 กลยุทธ์ด้านภาษี - Sustainability | PTT Global Chemical 的評價
ภาษีสรรพสามิต คือ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最讚貼文
9 ภาษีที่คนทำธุรกิจต้องรู้จัก จ่ายครบ จบปัญหาภาระทางการเงิน!
.
เพราะภาษี เป็นเรื่องที่ปล่อยปละละเลยไม่ได้ โดยเฉพาะกับคนทำธุรกิจ แม้กิจการจะดำเนินไปได้ด้วยดี แต่วันหนึ่งอาจต้องสะดุด หากเลือกที่จะเลี่ยงไม่จ่าย หรือจ่ายไม่ครบ เพราะมันจะนำมาซึ่งการเรียกเก็บย้อนหลังแบบทวีคูณขึ้นไปหลายเท่า ในบางรายอาจถึงขั้นเป็นคดีความในชั้นศาลเลยทีเดียว โดยสำหรับผู้ประกอบการ คนทำธุรกิจมีภาษีที่ต้องรู้จักและต้องจ่ายถึง 9 ภาษี ดังต่อไปนี้
.
1.ภาษีเงินได้
เป็นภาษีที่เก็บจากเงินได้ สำหรับคนที่มีรายได้ตามกฎหมายกำหนด โดยคนทำธุรกิจจะ ต้องยื่นภาษี 2 ครั้งต่อปี คือ ภาษีครึ่งปี และภาษีเงินได้ประจำปี แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการทำธุรกิจ ที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ คือ รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
- ภาษีเงินได้แบบนิติบุคคล จะคำนวณจากกำไรสุทธิทางภาษี
.
2.ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
คือ เมื่อมีการจ่ายเงินเกิดขึ้น ผู้จ่ายเงิน ที่จดทะเบียนเป็นบริษัทหรือนิติบุคคล ต้อง “หัก” เงินจำนวนหนึ่งไว้เพื่อนำส่งภาษีให้รัฐแทนผู้รับเงิน เพื่อลดภาระภาษีตอนปลายปีของผู้มีเงินได้ เนื่องจากจะเป็นการทยอยเสียภาษีทีละนิด แทนการเสียภาษีด้วยเงินก้อนใหญ่
ถ้าคุณเป็นผู้จ่ายเงินก็จะมีหน้าที่หักภาษีและนำส่งสรรพากร แต่ถ้าเป็นผู้รับเงิน คุณจะโดนหักภาษี ณ ที่จ่ายเช่นกัน
.
3.ภาษีธุรกิจเฉพาะ
เป็นภาษีทั่วไปเรียกเก็บกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน การธนาคาร โรงรับจำนำ และประกันชีวิต ตลอดจนการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นการค้าหรือการหากำไร รวมถึงการให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน แลกเปลี่ยนเงินตรา ออก ซื้อ หรือขายตั๋วเงิน และรับส่งเงินไปต่างประเทศด้วยวิธีต่างๆ
.
4.ภาษีอากรแสตมป์
ภาษีที่มาในรูปแบบของดวงแสตมป์ใช้สำหรับปิดบนเอกสารราชการ หรือหนังสือสัญญา เช่น สัญญาการเช่าโรงเรือน สัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน จ้างทำของ และการกู้ยืมเงิน เป็นต้น โดยผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษี คือ ผู้ให้เช่าหรือผู้ให้กู้ ชำระเป็นอากรที่ซื้อได้จากกรมสรรพากร หรือเป็นเงินสดในตราสารบางประเภท
.
5.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
ภาษีที่เรียกเก็บจากสิ่งปลูกสร้าง เช่น บ้าน อาคาร ตึกแถว ร้านค้า สำนักงาน และโรงแรมเป็นต้น ซึ่งจะถูกเรียกเก็บในกรณีที่เจ้าของให้เช่าทรัพย์สินหรือให้คนเข้ามาอยู่อาศัย รวมถึงใช้อสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน ตึกแถว หรือคอนโด เป็นสถานประกอบการเชิงพาณิชย์ โดยชำระภาษีที่สำนักเขต หรือที่ว่าการอำเภอที่ตั้งอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
.
6.ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ภาษีที่เก็บเพิ่มจากการขายสินค้าหรือบริการที่คิดกับลูกค้า โดยต้องมีรายได้เกินปีละ 1.8 ล้านบาท และต้องทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มไปในค่าสินค้าหรือบริการ 7% จากนั้นนำส่งให้สรรพากรภายในเวลาที่กำหนด
.
7.ภาษีสรรพสามิต
ภาษีที่ถูกเรียกเก็บจากสินค้าที่ผลิต หรือถูกนำเข้า ตลอดจนการบริการทางธุรกิจตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ภาษีน้ำมัน เชื้อเพลิงต่างๆ น้ำหอม รถยนต์ยานพาหนะ บุหรี่ เหล้า เป็นต้น
.
8.ภาษีบำรุงท้องที่
ภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ไม่อยู่ในข่ายที่ได้รับการยกเว้นภาษี เช่น อาคารพาณิชย์ ที่รกร้าง โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องนำเงินมาชำระค่าภาษีในเดือนเมษายนของทุกปี ตามอัตราที่แต่ละท้องที่กำหนด
.
9.ภาษีป้าย
ภาษีที่ต้องเสียเมื่อทำการติดตั้งป้ายตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ป้ายไฟ ป้ายผ้าใบ ป้ายบิลบอร์ด รวมถึงป้ายที่ใช้โฆษณาเพื่อหารายได้ ซึ่งคิดราคาตามขนาดของป้าย เริ่มต้นที่ 200 บาท ต้องยื่นที่สำนักงานเขต หรืออำเภอที่ตั้ง ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
.
จากทั้ง 9 ข้อที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นภาษีที่ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจต้องจ่าย เพื่อให้การดำเนินธุรกิจผ่านไปได้ด้วยดี จึงจำเป็นต้องรู้และศึกษาให้เข้าใจก่อน เพราะสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจที่ดี คือ การจ่ายภาษีต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนดอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ว่าคุณต้องจ่ายภาษีเพียง 2 ตัว หรืออาจจะทั้งหมด ก็ควรทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย จ่ายให้ครบ จะได้จบทุกปัญหา ไม่เป็นภาระทางการเงินของธุรกิจในอนาคตอีกต่อไป!
.
ที่มา : https://www.prosoft.co.th/Article/Detail/124819
https://smemove.com/.../9-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0.../
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#ภาษี #ภาษีธุรกิจ #ผู้ประกอบการ
ภาษีสรรพสามิต คือ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳解答
มาทำความรู้จักกับ 9 ภาษี ที่คนทำธุรกิจต้องจ่าย
.
การเป็นเจ้าของกิจการหรือธุรกิจสักหนึ่งอย่าง มักมีเรื่องให้ต้องจัดการและเป็นกังวลแบบรอบด้านตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นทำธุรกิจ ซึ่งหนึ่งอย่างที่คนเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่กลับไม่ค่อยให้ความสำคัญและพยายามหนีจนถึงที่สุดด้วยซ้ำ คือ “การจ่ายภาษี”
.
ซึ่งภาษีนั้น ก็ไม่ได้มีเพียง 1-2 เท่านั้น เพราะสำหรับคนทำธุรกิจ มีถึง 9 ภาษีที่จำเป็นต้องจ่ายและทำความรู้จักให้ดี หากใครที่ยังไม่รู้จักต้องรีบศึกษา หรือถ้าใครที่รู้แล้ว ก็มาย้ำความจำกันอีกสักรอบ เพื่อไม่ให้การทำธุรกิจเกิดปัญหาน่าปวดหัวในภายหลัง
.
1.ภาษีเงินได้
เป็นภาษีที่เก็บจากเงินได้ สำหรับคนที่มีรายได้ตามกฎหมายกำหนด โดยคนทำธุรกิจจะ ต้องยื่นภาษี 2 ครั้งต่อปี คือ ภาษีครึ่งปี และภาษีเงินได้ประจำปี แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการทำธุรกิจ ที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ คือ รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
- ภาษีเงินได้แบบนิติบุคคล จะคำนวณจากกำไรสุทธิทางภาษี
.
2.ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
คือ เมื่อมีการจ่ายเงินเกิดขึ้น ผู้จ่ายเงิน ที่จดทะเบียนเป็นบริษัทหรือนิติบุคคล ต้อง “หัก” เงินจำนวนหนึ่งไว้เพื่อนำส่งภาษีให้รัฐแทนผู้รับเงิน เพื่อลดภาระภาษีตอนปลายปีของผู้มีเงินได้ เนื่องจากจะเป็นการทยอยเสียภาษีทีละนิด แทนการเสียภาษีด้วยเงินก้อนใหญ่
ถ้าคุณเป็นผู้จ่ายเงินก็จะมีหน้าที่หักภาษีและนำส่งสรรพากร แต่ถ้าเป็นผู้รับเงิน คุณจะโดนหักภาษี ณ ที่จ่ายเช่นกัน
.
3.ภาษีธุรกิจเฉพาะ
เป็นภาษีทั่วไปเรียกเก็บกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน การธนาคาร โรงรับจำนำ และประกันชีวิต ตลอดจนการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นการค้าหรือการหากำไร รวมถึงการให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน แลกเปลี่ยนเงินตรา ออก ซื้อ หรือขายตั๋วเงิน และรับส่งเงินไปต่างประเทศด้วยวิธีต่างๆ
.
4.ภาษีอากรแสตมป์
ภาษีที่มาในรูปแบบของดวงแสตมป์ใช้สำหรับปิดบนเอกสารราชการ หรือหนังสือสัญญา เช่น สัญญาการเช่าโรงเรือน สัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน จ้างทำของ และการกู้ยืมเงิน เป็นต้น โดยผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษี คือ ผู้ให้เช่าหรือผู้ให้กู้ ชำระเป็นอากรที่ซื้อได้จากกรมสรรพากร หรือเป็นเงินสดในตราสารบางประเภท
.
5.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
ภาษีที่เรียกเก็บจากสิ่งปลูกสร้าง เช่น บ้าน อาคาร ตึกแถว ร้านค้า สำนักงาน และโรงแรมเป็นต้น ซึ่งจะถูกเรียกเก็บในกรณีที่เจ้าของให้เช่าทรัพย์สินหรือให้คนเข้ามาอยู่อาศัย รวมถึงใช้อสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน ตึกแถว หรือคอนโด เป็นสถานประกอบการเชิงพาณิชย์ โดยชำระภาษีที่สำนักเขต หรือที่ว่าการอำเภอที่ตั้งอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
.
6.ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ภาษีที่เก็บเพิ่มจากการขายสินค้าหรือบริการที่คิดกับลูกค้า โดยต้องมีรายได้เกินปีละ 1.8 ล้านบาท และต้องทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มไปในค่าสินค้าหรือบริการ 7% จากนั้นนำส่งให้สรรพากรภายในเวลาที่กำหนด
.
7.ภาษีสรรพสามิต
ภาษีที่ถูกเรียกเก็บจากสินค้าที่ผลิต หรือถูกนำเข้า ตลอดจนการบริการทางธุรกิจตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ภาษีน้ำมัน เชื้อเพลิงต่างๆ น้ำหอม รถยนต์ยานพาหนะ บุหรี่ เหล้า เป็นต้น
.
8.ภาษีบำรุงท้องที่
ภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ไม่อยู่ในข่ายที่ได้รับการยกเว้นภาษี เช่น อาคารพาณิชย์ ที่รกร้าง โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องนำเงินมาชำระค่าภาษีในเดือนเมษายนของทุกปี ตามอัตราที่แต่ละท้องที่กำหนด
.
9.ภาษีป้าย
ภาษีที่ต้องเสียเมื่อทำการติดตั้งป้ายตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ป้ายไฟ ป้ายผ้าใบ ป้ายบิลบอร์ด รวมถึงป้ายที่ใช้โฆษณาเพื่อหารายได้ ซึ่งคิดราคาตามขนาดของป้าย เริ่มต้นที่ 200 บาท ต้องยื่นที่สำนักงานเขต หรืออำเภอที่ตั้ง ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
.
จากทั้ง 9 ข้อที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นภาษีที่ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจต้องจ่าย เพื่อให้การดำเนินธุรกิจผ่านไปได้ด้วยดี จึงจำเป็นต้องรู้และศึกษาให้เข้าใจก่อน เพราะสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจที่ดี คือ การจ่ายภาษีต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนดอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ว่าคุณต้องจ่ายภาษีเพียง 2 ตัว หรืออาจจะทั้งหมด ก็ควรทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ความวุ่นวาย หรือเป็นภาระด้านบัญชี รวมถึงการบริหารจัดการเงินของธุรกิจ
.
ที่มา : https://www.prosoft.co.th/Article/Detail/124819
https://smemove.com/blog/9-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3/
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#ภาษี #ภาษีธุรกิจ #ผู้ประกอบการ #Business
ภาษีสรรพสามิต คือ 在 Counter Service - ภาษีสรรพสามิตคืออะไร? ใครต้องจ่ายบ้าง ... 的推薦與評價
ภาษีสรรพสามิต คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้าและบริการที่รัฐต้องการควบคุมการบริโภค เนื่องจากมีลักษณะที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ หรือกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชา ... ... <看更多>
ภาษีสรรพสามิต คือ 在 ภาษีสรรพสามิต คืออะไรมาอยู่ในมอเตอร์โฮมได้อย่างไร - YouTube 的推薦與評價
Parphaisir Paikai. ตั้งแต่ดูคลิปอ๋อมซ่ามาคลิปนี้ถูกใจที่สุดครับ พี่อี๊ดต้องเอาความจริงเอาข้อมูลจริงมานำเสนอให้ชาวแคมเปอร์แวนได้รับทราบ เพราะที่ ... ... <看更多>
ภาษีสรรพสามิต คือ 在 ภาษีสรรพสามิต - ECS 的推薦與評價
ภาษีสรรพสามิต คือ ภาษีที่จัดเก็บจากสินค้าและบริการซึ่งมีเหตุผลสมควรที่จะต้องรับภาระภาษีสูงกว่าปกติ เช่น ... ... <看更多>