มาทำความรู้จัก "การนอนหลับ" ของเราเอง
ผมคิดว่าสิ่งหนึ่งที่ชาวทะเลน่าจะได้รับไม่ต่างกันในแต่ละแห่งทั่วโลกน่าจะเป็นเรื่องของ การนอน และ การนอน ของชาวทะเลนี่เอง คือจุดหนึ่งที่แตกต่างกับชีวิตของชาวบนฝั่งค่อนข้างมากครับ
การได้นอนวันละ 7-8 ชั่วโมง ที่น่าจะเกิดได้ยากมากสำหรับชาวฝั่ง แต่กลับเป็นอะไรที่พบได้ง่ายมากกับคนในทะเล
ในฐานะของผมเอง เลยอยากมาลองแชร์มุมมองเรื่องการ นอนหลับ ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน รวมถึงคนออฟชอร์ด้วยนะครับ เห็นมีแวะเวียนมาทักทายกันพอสมควรเลย 😊 อ่าวไทยไม่ได้ใหญ่มาก ผมคิดว่าเราต้องอยู่ไม่ห่างกันแน่ๆครับ
ผมสรุปเนื้อหาบางส่วนมาจากหนังสือเรื่อง Why we sleep ซึ่งเป็นหนังสือที่ผมได้อ่านเมื่อตอนมาอยู่ทะเลในรอบที่แล้ว และพบว่าเนื้อหาข้างในมันดีมาก ดีจนอยากเอามาแชร์และแบ่งปัน และอยากให้มองว่าลองใช้ชีวิตออฟชอร์เป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนวิธีการนอนของเรา ซึ่งคนบนฝั่งก็สามารถนำไปใช้ได้ครับ
มี 2 คำ ที่อยากให้ทำความเข้าใจกันก่อนคือคำว่า NREM และ REM ครับ เพราะอันนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการนอนอย่างมีคุณภาพ
REM และ NREM คืออะไร
ลองนึกถึงภาพของ สมองของเรา กันนะครับ เป็นความจริงที่ว่าสมองเราอาจจะมีหน่วยความจำที่ใส่ข้อมูลเข้าไปได้เรื่อยๆอย่างไม่จำกัดก็จริง แต่ปัญหาคือการเรียกเอาออกมาใช้ในเวลาที่ต้องการกลับไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะข้อมูลที่เคยใส่ไว้อาจจะจำไม่ได้ว่าเก็บไว้ไหน หนักกว่าคือลืมไปว่าเคยรู้มาก่อน ถ้าข้ามประเด็นเรื่องนอนเพื่อให้ร่างกายได้พักแล้ว จุดประสงค์ของการนอนที่สำคัญที่สุดอีกอย่างคือ เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะมาจัดการ สะสาง กับสิ่งที่เกิดในสมองของเราตลอด 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นนั่นเองครับ
NREM Sleep (Non rapid eye movement) ช่วงของการหลับตื้นไปจนถึงหลับลึก คำจำกัดความในทางเทคนิค คือช่วงของการหลับที่ลูกตาไม่กรอก อันนี้ไม่ต้องสนใจได้ครับ ไปต่อเลย
ความสำคัญของ NREM คือ การประมวลข้อมูลที่ได้รับรู้มาตลอดทั้งวัน การเปลี่ยนความทรงจำจากระยะสั้นไปเป็นระยะยาว การเตรียมวัตถุดิบใหม่ๆ การเคลียร์ข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์ออกจากสมอง การครุ่นคิด เปิดโอกาสให้เกิดการสื่อสารในส่วนต่างๆ ของสมอง จัดเก็บความทรงจำจากคลังระยะสั้นให้เป็นความทรงจำระยะยาว กลั่นกรองความทรงจำ เสริมสร้างวัตถุดิบทักษะใหม่ๆ ซึ่งพวกนี้คือการนอนที่สัตว์อื่นๆก็มีเช่นเดียวกันกับมนุษย์
REM Sleep (Rapid eye movement) เป็นการนอนในจังหวะที่ที่กล้ามเนื้อลายต่างๆของร่างกาย (skeletal muscle) อ่อนตัวลง หยุดทำงาน คลายตัวเกือบ 100% จะมีเฉพาะในส่วนของกล้ามเนื้อเรียบ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจที่ยังทำงานอยู่ รวมถึงกล้ามลูกตาที่กรอกไปมา ถ้าใครไปเปิดตาเพื่อนดูในช่วงนี้เราก็จะเห็นว่าทำไมตาเพื่อนขยับแต่จริงๆ เขามองไม่เห็นเรา
ความสำคัญของ REM sleep คือเป็นช่วงที่ร่างการประกอบสร้างความเข้าใจใหม่ๆ ความสามารถในด้านต่างๆ การเชื่อมโยงข้อมูลดิบเข้าหากกัน การสร้างสรรค์ข้อมูลใหม่ๆขึ้นมา REM คือจุดแตกต่างที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากลิง REM คือจุดเปลี่ยนของมนุษยชาติที่ทำให้เราสามารถพาตนเองไปดวงจันทร์ได้ ในขณะที่ชิมแปนซีซึ่งวิวัฒนาการมาก่อนเราหลายล้านปีกลับแช่นิ่งอยู่ที่เดิม ระยะนี้เป็นระยะการนอนหลับที่มีการทำงานอย่างหนักของสมอง นี่เป็นระยะการหลับที่มีความฝันเกิดขึ้น เหมือนกับหนังที่กำลังฉายอยู่ในใจของเรา
เอาละครับ เมื่อเราพอคุ้นเคยกับคำว่า NREM และ REM แล้ว เรามาดูเรื่อง วัฎจักรการนอน (sleep cycle) กันครับ
วัฏจักรการนอน (Sleep cycle)
ในช่วงของการนอน 1 คืน จะเป็นการสลับไปมาของการหลับแบบ REM และ NREM กันตลอดทั้งคืน ถ้าเรานอน 8 ชั่วโมง การหลับทั้ง 2 รูปแบบจะเกิดขึ้นสลับกันไปมานับได้ประมาณ 5 รอบ (5 cycle) ยกตัวอย่าง เราเข้านอนเวลา 23.00 น. ตื่นนอนเวลา 07.00 น. (8 ชั่วโมงพอดี)
• ในแต่ละรอบ cycle นั้นจะกินระยะเวลาประมาณ 90 นาที (1.5 ชั่วโมง) 5 รอบก็ราวๆ 7.5 ชั่วโมง หรือ 8 พอดีครับ
• ใน 3 cycle แรกนั้น จะเป็นการหลับแบบ NREM ราวๆ 80% ในขณะที่เกิด REM ประมาณ 20% เท่านั้น ซึ่งถ้าดูตามเข็มนาฬิกาจะอยู่ในช่วงเวลา 23.00 – 03.30 น. ของอีกวัน
• และตั้งแต่ราวๆ 03.30 น. ของอีกวันไปจนถึงตื่นนอนนอนนั้น จะเป็น 2 cycle หลัง ที่มีสัดส่วนของ REM มากขึ้นเรื่อยๆ จนใน cycle ที่ 5 จะมีสัดส่วนของ REM sleep ประมาณ 60-70%
ลองคิดถึงภาพการสร้างรูปปั้นขึ้นมาจากดินเหนียว เรามักจะเริ่มต้นด้วยการเอาดินเหนียวทั้งหมดมาปั้นขึ้นโครง (เปรียบได้กับ NREM ที่เกิดขึ้นก่อนในช่วงแรกของการนอน) ตามมาด้วย การปรับรายละเอียดเล็กๆอย่างสั้นๆ (เปรียบได้กับ REM ที่เกิดขึ้นในตอนท้ายของแต่ละ cycle) ก่อนที่จะเอาดินเหนียวมาขึ้นโครงต่อและปรับรายละเอียดอีกครั้ง นับเป็น cycle ที่ 2 3 4 … 5 โดยการปั้นรูปปั้นในช่วงท้ายๆ โครงมักจะเสร็จไปแล้ว แต่จะเป็นการตกแต่งในรายละเอียด (fine tuning) ซึ่งก็คือระยะเวลาของ REM ที่ยาวนานที่สุดก่อนที่เราจะตื่นนั่นเองครับ
จากจุดนี้เอง เราจะเริ่มเห็นแล้วว่าจริงๆแล้วใน 8 ชั่วโมงของการนอนนั้น อาจจะได้แบ่งได้ช่วง 4 ชั่วโมงแรก และ 4 ชั่วโมงหลัง ซึ่งร่างกายได้ออกแบบสรีรวิทยาการนอนไว้แบบนี้มาหลายล้านปีแล้ว เพราะเราเป็นสัตว์ที่นอนกลางคืนและตื่นตอนเช้า แต่ตรงนี้อาจจะมีความแตกต่างทางด้านพันธุกรรมในบางคนที่เป็นกลุ่มของ Morning lark คือกลุ่มที่นอนเร็ว ตื่นเช้า ทำงานได้ดีมากตอนเช้าตรู่ หรืออีกกลุ่มคือ Night owl กลุ่มที่นอนดึก ตื่นสาย จะทำงานได้ดีมากๆตอนบ่าย ส่วนนี้จะเก็บไว้เล่าภายหลังนะครับ
จากประเด็นนี้สรุปได้อย่างแรกคือ การนอนแต่ละช่วงล้วนมีความสำคัญในแง่ของ เราจะนอนเฉพาะในช่วง NREM โดยขาด REM ไม่ได้ เช่น ถ้าเรานอน 11.00 น. แต่ไปตื่นเอาตอน 04.00 น. ร่างกายจะได้รับการนอนแต่ NREM มา และจะเสียการนอน REM ไป ทำให้การนอนเราอาจจะไม่ได้ต่างจากลิงมากนัก
ในทางตรงกันข้ามถ้าเรานอนดึกเช่นนอนตอน 02.00 น. แล้วมาตื่นตอนราว 07.00 น. เราก็จะได้การนอนเฉพาะ REM มา แล้วจะขาด NREM ไปซึ่งควรจะเป็นการนอนขั้นพื้นฐานในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทำให้ส่งผลเสียระยะยาวต่อสุขภาพของร่างกายตามมา
ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ แทบไม่ต่างอะไรไปกับถ้าเปรียบเทียบการกินอาหารก็คือ เราอาจจะกินแต่คาร์โบไฮเดรต โดยไม่กินโปรตีน หรือ กินแต่โปรตีนโดยไม่กินคาร์โบไฮเดรต แบบนี้ การนอนอย่างมีคุณภาพเพื่อให้ได้ครบทั้ง REM และ NREM จึงมีประโยชน์อย่างมาก ถ้าสามารถทำได้ครับ ซึ่งถ้าเรามีเวลานอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวันก็น่าจะพอการันตีคุณภาพของการนอนได้
สิ่งที่อยากลองแนะนำให้ทำครับ
1.) เปิด blue light filter ไว้ตลอดทั้งวัน ทั้งมือถือ ไอแพด แลปทอป ทุกที่ที่ๆเป็นแสง LED โดยตั้งเวลาไว้อัตโนมัติตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป จนถึงเช้า แสง blue light คือตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายคิดว่าตนเองตื่นตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลากลางคืน เวลาดูหนังสืออ่านหนังสือภาพอาจจะออกเหลืองๆ แต่เชื่อผมครับ มันดีกับคุณภาพการนอนมาก ห้องนอนต้องมืดสนิทเท่าที่จะทำได้ ดีสุดคือไม่มีแสงใดๆเล็ดลอดเข้ามาแม้แต่น้อย
2.) แอลกอฮอล์ก่อนนอน ถ้าได้รับประทาน จะไปลดระยะการหลับแบบ REM ลง เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง
3.) การออกกำลังกายเป็นประจำในระดับที่พอดี ทำให้การหลับ NREM มีคุณภาพ แต่สำคัญคือ ระยะเวลาหลังออกกำลังกายกับการนอน ควรต้องเว้นระยะห่างมากกว่า 3 ชั่วโมง
4.) ทำให้อุณหภูมิห้องนอนเย็นๆ เป็นไปได้ต้องทำให้อุณภูมิร่างกายต่ำลงกว่าเกณฑ์เล็กน้อยประมาณ 1 องศา เช่นการอาบน้ำอุ่น หรือการล้างหน้า ล้างมือ ล้างเท้าด้วยน้ำอุ่น มนุษย์เราจะหลับได้ง่ายและดีในห้องที่เย็น โดยอุณหภูมิห้องที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนอนจากงานวิจัยคือ 18.3 องศาเซลเซียส
5.) อันสุดท้าย เลี่ยงได้คือเลี่ยงครับ นั่นคือ เสียงนาฬิกาปลุก เสียงปลุกดังตอนเช้า 1 ครั้ง ยอมรับได้ครับ แต่ผลเสียทุกครั้งที่เสียงนาฬิกาปลุกให้เราตื่นขึ้นจากในช่วงจังหวะของการนอนคือ ความดันโลหิต และ ชีพจรเราจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และทุกครั้งที่เรากดปุ่ม snooze และปล่อยให้มันดังอีกครั้ง ก็คือทำให้หัวใจเราเหมือนกับถูกกช็อคอีกครั้งเช่นกัน ทุกครั้งที่กดปุ่ม snooze เลยไม่ต่างจากการกระตุ้นหัวใจให้ตื่นเต้นไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ชอบการทรมานหัวใจตัวเอง ก็ไม่ควรทำครับ 555
.
ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ ตัวผมเองใช้ชีวิตออฟชอร์เป็นตัวจัดการแบบแผนไลฟ์สไตล์ของตนเองได้หลายอย่าง และการนอนก็เป็นหนึ่งในนั้น หวังว่าจะได้ประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนครับ ขอบคุณครับ
同時也有4部Youtube影片,追蹤數超過23萬的網紅OverclockZoneTV,也在其Youtube影片中提到,แม้ว่าช่วงนี้เราได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับ Memory แบบ DDR5 มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก Processor Gen ใหม่ทั้งของทาง Intel และ AMD นั้นมีแววจะเปลี่ยนไปใช้ .....
「มากขึ้นเรื่อยๆ」的推薦目錄:
- 關於มากขึ้นเรื่อยๆ 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的最佳解答
- 關於มากขึ้นเรื่อยๆ 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
- 關於มากขึ้นเรื่อยๆ 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於มากขึ้นเรื่อยๆ 在 OverclockZoneTV Youtube 的最佳解答
- 關於มากขึ้นเรื่อยๆ 在 Fah sarika Youtube 的最讚貼文
- 關於มากขึ้นเรื่อยๆ 在 Here's Jae Youtube 的精選貼文
- 關於มากขึ้นเรื่อยๆ 在 Easy&Simple English : เรียนภาษาอังกฤษง่ายกว่าที่คุณคิด 的評價
- 關於มากขึ้นเรื่อยๆ 在 越来越 นับวันยิ่ง,มากขึ้นเรื่อยๆ - YouTube 的評價
มากขึ้นเรื่อยๆ 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
ตามที่หลายคนเรียกร้องกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ว่าอยากเรียนการทำธุรกิจออนไลน์กับสมองไหล เพราะเห็นหลักฐานเป็นรูปธรรมจากการลงมือทำจริงและประสบความสำเร็จของผมมานานแล้ว
.
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมที่ผ่านมาผมไม่ยอมเปิดสอนสักที ทำไมต้องรอให้ถึงปีนี้ ถามกี่ทีก็บอกว่ายังไม่เปิด
.
ผมขอสารภาพกับทุกคนตามตรงครับ ว่าที่ผมไม่ยอมสอนใครไม่ได้เป็นเพราะผมหวงวิชา แต่เป็นเพราะผมไม่อาจนำสิ่งที่ผมรู้ในตอนนั้นไปสอนคนทั่วไปได้ หากมันยังไม่ผ่านการ “ทดสอบ”
.
เพราะไม่มีอะไรการันตีว่า สิ่งที่ผมทำแล้วสำเร็จ มันจะสำเร็จกับคนอื่นด้วย
.
ผมจึงใช้เวลาตลอด 1 ปีเต็ม นำสิ่งที่ผมได้ตกผลึกจากการลงมือทำธุรกิจออนไลน์จริงๆ ไปทดสอบกับกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกับมหาวิทยาลัย
.
ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฯลฯ เพื่อทดสอบและวัดผลออกมาว่าสิ่งที่ผมสอนไปนั้น คนอื่นสามารถนำไปสร้างผลลัพธ์ได้จริงไหม
.
ผมยอมรับตามตรงว่า ตอนแรกมันไม่ใช่ทุกอย่างที่ได้ผล แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะผมจะได้ตัดเนื้อหาที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ออก และ คัดเฉพาะเนื้อหาที่ได้ผลจริงๆ มาสอนคุณ เท่านั้น
.
จากนั้นก็นำมาทดสอบกับคนทำธุรกิจ อีก 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นคนที่ผมขอเข้าไปช่วยทำออนไลน์ และ ให้คำปรึกษา แบบฟรีๆ เพราะอยากจะ “ทดสอบ” อีกขั้นว่า ถ้าคนทำธุรกิจที่ไม่ใช่นักศึกษา จะนำไปใช้จริงได้ไหม
.
คนแรก คือ คุณกมลฉัตร เจ้าของเพจ Urban Jungle.Start ทำธุรกิจเกี่ยวกับต้นไม้ ซึ่งผมเข้าไปช่วยตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ๆ ที่เพจยังมีคนตามไม่ถึง 200 คน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
.
ผลลัพธ์ คือ ตอนนี้มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากกว่า 37,000 คน คอนเทนต์มียอดแชร์ทะลุเกิน 60,000 ครั้ง และ สามารถทำรายได้จากธุรกิจต้นไม้ได้อย่างมหาศาล ที่สำคัญคือ ทุกอย่างทำแบบออแกนิก ไม่ได้ยิงแอดสักบาท
.
คนที่สอง คือ บริษัทประกันชีวิตค่ายหนึ่ง ซึ่งเดิมทีการขายประกันจะหาลูกค้าจากคนใกล้ตัว การแนะนำ และ การวอคอิน เป็นหลัก แน่นอนว่าสมัยก่อนวิธีสามารถทำได้ดี แต่สมัยนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เพราะปัจจุบันพฤติกรรมของคนซื้อประกันเปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาจะหาข้อมูลเปรียบเทียบบนออนไลน์ก่อนตัดสินใจเสมอ
.
ดังนั้น ใครที่ทำธุรกิจประกันแล้วไม่ได้เอาตัวเองขึ้นไปอยู่บนออนไลน์ คุณก็จะหายไปจากวงโคจรในชีวิตของลูกค้าทันที เพราะเมื่อลูกค้าเสิร์ชหาแล้วไม่เจอ เขาก็ไม่รู้ ไม่เห็น สุดท้ายเขาก็ไม่ซื้อกับคุณจริงไหม ซึ่งการที่ยอดขายประกันของบางคนหายไป ไม่ใช่เพราะคนซื้อประกันน้อยลงแต่อย่างใด เพียงแต่เขาไปซื้อกับคนอื่นต่างหาก ซึ่งนี่เป็นงานที่ท้าทายสำหรับผมมากๆ ผมตอบตกลงทำงานนี้โดยไม่รับค่าตอบแทนใดๆ ผมบอกกับทางบริษัทนี้ว่า ถ้าผมสร้างผลลัพธ์ให้ได้ ค่อยมาจ่ายให้ผม ซึ่งผลปรากฎว่า ประสบความสำเร็จ ตามแผนเป็นอย่างดี
.
คนที่สาม คือ พี่ก้อย ซึ่งเป็นพี่ที่ผมรู้จักคนหนึ่ง เขาเปิดร้านต่อขนตา แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำหรับเขา ก็คือ “ทำเล”
.
เพราะเมื่อโควิดระบาด ร้านเสริมสวยต้องปิดตัว พี่ก้อยจึงต้องกัดฟันปิดร้าน แล้วมาใช้บ้านของตัวเองเปิดร้านแทน แต่ปัญหา คือ บ้านของเขาอยู่ท้ายซอยหลังสุดท้าย ซึ่งเป็นซอยตัน แถมเส้นทางการเดินทางก็คดเคี้ยว นอกจากลูกค้าประจำจะหายไปเยอะแล้ว ลูกค้าใหม่ยังแทบหาไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ พี่ก้อยเครียดมาก เพราะค่าใช้จ่ายในบ้านก็เริ่มไม่พอ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าเทอมลูก และ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ อีก
.
อย่างไรก็ตาม Mindset ของพี่ก้อยก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อผมพูดกับเขาว่า “พี่ฟังดีๆ นะ ทำเล ไม่ใช่อาคาร ไม่ใช่ตึก ไม่ใช่ร้านริมถนน แต่คำว่า ทำเล มันหมายถึง ที่ๆ มีลูกค้า”
.
พี่ลองคิดดูดีๆ ว่ายุคนี้ ที่ไหน คือ ที่ๆ มีลูกค้ามากที่สุด
.
ใช่ครับ !! บนออนไลน์ไง ออนไลน์ คือ “ทำเลทอง” ของยุคนี้ เพราะลูกค้าอยู่บนออนไลน์เยอะที่สุด ตลอด 24 ชั่วโมง
.
ซึ่งตอนแรกพี่เขาไม่เก็ท แถมยังเกือบจะด่าผมกลับว่า “กูต่อขนตา ไม่ได้ขายออนไลน์ มันส่งไปรษณีย์ไม่ได้โว้ยยย”
.
ผมเลยถามพี่เขากลับไปว่า “เวลาพี่ไปต่างจังหวัดพี่หาโรงแรม พี่ทำยังไง ? แล้วถ้าพี่หิวข้าวล่ะ อยากหาร้านอาหารอร่อยๆ สักร้าน พี่ทำยังไง ?
.
“ก็เสิร์ชหาในเฟซบุ๊ก กูเกิล หรือไม่ก็ แอพวงในไง” พี่ก้อยตอบ
.
แล้วพี่ไม่คิดบ้างหรอ ว่าคนที่อยากต่อขนตา เขาจะหาร้านพี่บนออนไลน์ ดูคอนเทนต์ ดูรีวิวก่อนว่าพี่สามารถทำให้เขาสวยได้ไหม แล้วถ้าเกิดเขาดูรีวิวแล้วชอบฝีมือการต่อขนตาของพี่ พี่ไม่คิดบ้างหรอ ว่าเขาก็จะขับรถตามมาทำกับพี่ถึงในซอยตันนี้
.
ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อ แต่ด้วยความที่มันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าไม่ทำก็เจ๊ง ก็เลยลองทำดู
.
ผลปรากฎว่าผ่านไป 1 เดือน ตอนนี้ร้านต่อขนตาแห่งนี้ ถ้าคุณจะทำแต่ละที บอกเลยว่าต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ที่สำคัญ ตั้งแต่เปิดร้านยันปิดร้าน ร้านของพี่ก้อยก็ไม่เคยว่างเว้นจากลูกค้าเลย เพราะเมื่อลูกค้าคนปัจจุบันทำเสร็จ ก็จะมีคิวต่อไปมานั่งรอทันที
.
หลังจากพี่ก้อยคิวเต็ม จนไม่ค่อยมีเวลาคุยกับผม ผมจึงแกล้งถามติดตลกว่า “พี่ยังอยากจะกลับไปจ่ายเงินเช่าร้านแพงๆ ทำเลดีๆ อีกไหม ?”
.
ซึ่ง คุณก็คงรู้ดี ว่าพี่เขาจะตอบผมอย่างไร
.
ผลการ “ทดสอบ” ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมมั่นใจแล้วว่า วิชาความรู้จากประสบการณ์ของผม ทุกคนสามารถนำไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์ได้จริง ผมจึงกลั่นออกมาเป็น 9 บทเรียน ที่คนอยากสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ต้องใช้ และขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ ประกอบด้วย
.
1. เทคนิคปิดการขาย ให้ลูกค้าอยากซื้อ โดยที่คุณไม่ต้องง้อ
.
เพราะสิ่งแรกที่คนทำธุรกิจต้องมี คือ คุณต้องขายเป็น เพราะถ้าคุณขายไม่เป็น ก็อย่าหวังเลยครับว่าจะทำธุรกิจออนไลน์หรือเขียนคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อได้ เพราะขนาดขายต่อหน้าที่ลูกค้ายังมีความเกรงใจยังทำไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการขายผ่านตัวอักษร
.
2. Content Marketing
.
ถ้าคุณขายเป็นแล้ว สิ่งนี้จะทำให้ยอดขายของคุณทวีคูณ เพราะมันเหมือนคุณเอาวิชาการขายไปสร้าง Content แล้วให้ Content ไปช่วยขายแทนคุณ ไม่ต่างกับการมีพนักงานขายนับพัน คุณคิดดูว่าถ้าคุณขายลูกค้า 1 คนได้ แล้ว Content ของคุณที่สามารถเข้าถึงคนเป็นล้าน จะช่วยทำเงินให้คุณได้มากขนาดไหน
.
3. การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา แบบสมองไหล ที่ใครอ่านแล้วต้องรีบกดสั่งซื้อทันที
.
ถ้าคุณเป็นคนที่เคยอ่านโพสต์ขายของผม แล้วรู้สึกเคลิ้มเหมือนโดนป้ายยา รู้ตัวอีกที คือ โอนเงิน แล้ว วันนี้คุณจะเป็นคนที่ทำแบบนั้นได้ครับ เพราะผมจะเปิดเผยมันแบบหมดเปลือกซึ่งไม่ใช่แค่วิธีการ แต่จะสอนแบบขั้นลึกถึงกระบวนการเลย
.
4. การเขียน Copy Writing หรือ โพสต์ขายทองคำ ให้ใช้ทำยอดขายได้ยาว 5 ปี ในโพสต์เดียว (จากผู้เชี่ยวชาญ)
.
เท่านั้นยังไม่พอ ผมยังเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเขียน Copy writing ตัวท็อปของประเทศ ที่สามารถเขียนโพสต์สร้างยอดขายหลักร้อยล้าน ด้วยโพสต์ขายเพียงโพสต์เดียว แถมยังใช้โพสต์เดิมทำเงินมามากกว่า 5 ปี บอกเลยว่าแค่คุณได้เรียนบทนี้ ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว
.
5. การทำรูปด้วย Canva จากมือถือเครื่องเดียว
.
ภาพที่สะดุดตา คือ ส่วนสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ เพราะมัน คือ ตัวตัดสิน ว่าลูกค้าจะหยุดนิ้วดูคุณไหม แต่การจะทำภาพให้สวยแบบดีไซน์เนอร์ที่ใช้โปรแกรม Adobe ก็ดูจะไกลตัวใครหลายคน แต่ข่าวดีคือ ยุคนี้เรามีแอพพลิเคชั่น Canvas ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำรูปออกมาได้พรีเมี่ยมด้วยมือถือเครื่องเดียว ซึ่งผมได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาเช่นกัน รับรองเลยว่าเมื่อจบคอร์สแล้ว เพจของคุณจะยกระดับเป็นธุรกิจพรีเมี่ยมได้อย่างแน่นอน
.
6. การตลาด เพิ่มยอดขาย โดยไม่ต้องหาลูกค้าเพิ่ม
.
การตลาดที่ดีจะทำให้ธุรกิจดีๆ โตแบบก้าวกระโดด บทนี้จะทำให้คุณสามารถขายดีได้ตลอดทั้งปี ไม่มีตก อะไรที่คุณเคยพลาด เงินตราที่คุณเคยทำหล่นหาย บทนี้จะเก็บกลับมาให้หมด หรือ ถ้าคุณเคยขายของได้ 1 ชิ้นต่อลูกค้า 1 คน บทนี้จะช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินซื้อของจากคุณเพิ่มอีก 2 ชิ้น จนยอดขายของคุณเติบโตได้ 2-10 เท่า แบบไม่ต้องเหนื่อยหาลูกค้าใหม่เลย
.
7. Data driven การวิเคราะห์ดาต้าหาความต้องการของลูกค้าได้อย่าง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เน้นยอดขาย
.
พูดถึง Data อย่าเพิ่งตกใจ ผมไม่ได้จะสอนคุณทำ Big data เพื่อไปทำ AI แต่อย่างใด แต่ผมกำลังช่วยให้การทำธุรกิจของคุณประหยัด แม่นยำ และ ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
.
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าวันนี้คุณขายรองเท้าผ้าใบ เพียงแค่คุณใช้ระบบ (ซึ่งผมจะสอน และ มันง่ายมาก) เก็บข้อมูลว่าลูกค้าคนนี้ ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ซื้อของวันไหน อยู่จังหวัดอะไร และ ใช้งานรองเท้าลักษณะใด
.
สมมติว่าลูกค้าคนนี้ เป็นคนทำงานอายุ 25-30 ปี ในกรุงเทพฯ มันเป็นไปได้ว่าเขาจะใช้วิ่งในลู่ที่ฟิตเนส นั่นหมายความว่าเมื่อเขาใช้รองเท้าไป 1 เดือน มันอาจจะเริ่มมีกลิ่น มันก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะต้องการมองหาสเปรย์ดับกลิ่น แล้วถ้าคุณยิงโฆษณาขายสเปรย์ดับกลิ่นตรงไปที่ลูกค้าคนนี้ มันก็มีโอกาสที่เขาจะซื้อของจากคุณเพิ่ม
.
แต่ถ้าเขาอยู่ต่างจังหวัด สมมติว่าเป็นภาคใต้ที่ฝนตก และ ส่วนใหญ่เขาใส่วิ่งในสวนสาธารณะ ซึ่งอาจจะมีน้ำขังตามพื้นถนน ถ้าคุณยิงโฆษณาสเปรย์กันน้ำไปหาเขาล่ะ คุณก็จะมีโอกาสได้เงินจากลูกค้าคนนี้เพิ่มจริงไหม ?
.
ทุกวันนี้มีแต่คนบ่นว่าค่าแอดแพง คุณลองคิดดูครับ ว่าถ้าคุณยิงแอดด้วย Data แบบนี้ แอดมันยังจะแพงอยู่ไหม เพราะสาเหตุที่แอดแพง เกิดจากการยิงแบบหว่านเงินทิ้งไปเรื่อยต่างหาก
.
8. การยิงโฆษณาขั้นสูง ให้ได้ผลมาก แต่ค่า Ad ถูก
.
หรือ พูดง่ายๆ คือ การยิงแอดนั่นแหละ แต่ในคลาสนี้ผมไม่ได้จะมาสอนยิงแอดแบบที่มีกันตามยูทูบทั่วไป แต่จะสอนการยิงเชิงกลยุทธ์ และเปิดเผยความลับ ของคนที่ “ยิงแอดร้อย ได้ล้าน” ว่าอันดับแรกคุณต้องยิงหาลูกค้าใหม่ยังไง แล้วเมื่อได้กลุ่มเป้าหมายแล้ว จะทำยังไงให้เขาอยากซื้อของจากเรา แล้วถ้าเขายังไม่ซื้อล่ะต้องทำยังไง หรือ แม้แต่การยิง Ads หาลูกค้าเก่าที่ห่างหายไปให้กลับมาซื้อของๆ เราต้องทำยังไง เทคนิคเหล่านี้จะช่วยคุณประหยัดทั้งค่าแอดและโปรโมชั่นได้เยอะมาก เพราะคุณจะยิงแอดนำส่งโปรโมชั่น ไปหาลูกค้าแค่บางกลุ่ม ไม่ได้ยิงไปหาทุกคน ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าที่ห่างหายไป หรือ ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่คุณต้องการ เท่านั้น ซึ่งทุกอย่างมีสูตรที่สามารถนำไปใช้ได้เลย
.
แล้วอย่างนี้ ค่าแอดจะยังแพงอยู่อีกไหม ?
.
9. กลยุทธ์สร้างความแตกต่างทางธุรกิจ โดยไม่ต้องแข่งราคา
.
สิ่งที่คนทำธุรกิจทุกคนต้องการมากที่สุด คือ “ความยั่งยืน” เพราะต่อให้คุณทำ 8 ข้อก่อนหน้านี้ดีแค่ไหน แต่สิ่งที่วัดว่าคุณจะยืนระยะได้นานเท่าไหร่ คือ โมเดลธุรกิจ
.
เพราะเราจะไม่ได้ทำธุรกิจแบบฉาบฉวยแค่วันนี้ พรุ่งนี้ แต่เราจะต้องทำให้มันยั่งยืนจนสามารถส่งต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ และ แน่นอนถ้ามันจะต้องไปถึงรุ่นลูกหลาน มันต้องไม่แข่งราคา เพราะถ้าต้องแข่งราคาคุณจะไม่มีวันชนะ และ จะต้องล้มหายตายจากไปในที่สุด
.
ซึ่งนี่แหละ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม
.
อย่างคำกล่าวที่ว่า...
.
✅ ถ้าคุณอยากเหนื่อยตลอดชีวิต ให้เน้นที่ การขาย
.
✅ ถ้าคุณอยากเหนื่อยน้อยหน่อย ให้เน้นที่ Marketing
.
✅ แต่ถ้าอยากยืนระยะยาวๆ และ ส่งต่อเป็นมรดกได้ จงสร้างแบรนด์
.
ซึ่งผมจะเป็นคนช่วยคุณตอกเสาเข็มต้นแรก ต้นที่สอง และ ต้นที่สาม นี้ ให้จนครบเอง
.
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกทุกคนว่า นี่คือ ปีสุดท้ายแล้วที่คุณจะสามารถเข้ามาทำธุรกิจบนออนไลน์ได้แบบง่ายๆ (แม้ก่อนหน้านี้จะง่ายกว่า) เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าตอนนี้ Apple ออก IOS 14.6 ซึ่งปิดกั้นการเก็บข้อมูลพฤติกรรมส่วนตัว ทำให้การยิงแอดทำได้ยากขึ้น ซึ่งนี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น แต่มันก็ส่งสัญญาณบางอย่างแล้วว่า เทรนต่อจากนี้บริษัทสมาร์ทโฟนจะให้ความสำคัญกับ “ความเป็นส่วนตัว” มากขึ้นเรื่อยๆ และ ถ้าการเปลี่ยนแปลงของ Apple ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อยอดขายสมาร์ทโฟนของค่ายอื่น มันก็มีโอกาสสูงมากที่ค่ายอื่นจะทำตาม
.
นั่นหมายความว่าต่อจากนี้การทำออนไลน์แบบเดิมจะไม่ได้ผลแล้ว คนที่ทำออนไลน์อยู่แล้ว ถ้าวันนี้คุณหยุดยิงแอดแล้วยอดขายหายไป นั่นคือ สัญญาณว่าธุรกิจและแบรนด์ของคุณกำลังอ่อนแอลง สิ่งเดียวที่จะทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณยั่งยืน คือ การทำให้แบรนด์ของเราไปอยู่ในใจของลูกค้า ทำให้เขานึกถึงเราเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น แล้วเมื่อเขาต้องการสิ่งนั้น เขาจะมาหาเราเองโดยไม่ต้องร้องขอในแบบที่สมองไหลทำอยู่ คือ ไม่ต้องยิงแอด แต่เมื่อไหร่ที่ลูกค้าต้องการหนังสือ เขาจะกดมาที่เพจสมองไหลเอง
.
แต่ถ้าวันนี้คุณยังไม่ได้ทำออนไลน์ นี่คือ จุดที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว และ จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก
.
ยกตัวอย่าง ถ้าวันนี้ผมอยากซื้อกระเป๋า ผมจะไม่เดินไปหาตามห้าง จะไม่เดินไปพันทิป จะไม่ขับรถวนหาร้านขายกระเป๋าอีกแล้ว
.
แต่ผมจะเสิร์ชหาข้อมูลบนออนไลน์ก่อน ว่าที่ไหนมีของที่ผมถูกใจบ้าง แล้ว “ตัดสินใจตั้งแต่ที่บ้าน” ว่าจะซื้อของชิ้นไหน ที่ร้านไหน แล้วถึงจะขับรถไปซื้อ
.
นั่นหมายความว่า ร้านที่ผมจะไม่เดินทางไปซื้อ มี 2 กรณี คือ
.
1. ผมไม่ได้ถูกใจ
2. ผมไม่เจอร้านนั้น ตั้งแต่ในออนไลน์ เมื่อผมไม่เจอ ร้านนั้นก็ไม่อยู่ในชีวิตของผม
.
จะเห็นว่าพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว ยิ่งโควิดเข้ามาเร่งการเปลี่ยนแปลงนั้นให้เร็วขึ้นไปอีก ที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย และ จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก
.
ถ้ายังทำธุรกิจแบบเดิม ลูกค้าจะหายไปจากชีวิต และ ไม่มีวันกลับมาอีก ต่อให้วันนี้คุณจะลดราคา หรือ ขายของราคาถูกแค่ไหน เขาก็ไม่ซื้อของคุณ เพราะเขาไม่เจอคุณบนออนไลน์ ตามพฤติกรรม การซื้อของเขา ซึ่งเมื่อเขาไม่เจอ เขาก็ไม่รู้ ไม่เห็น แล้วเขาจะไปซื้อได้ยังไงล่ะ จริงไหม ?
.
อย่างที่ บิล เกตส์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ถ้าธุรกิจของคุณไม่ได้อยู่บนอินเทอร์เน็ต นั่นแสดงว่าธุรกิจของคุณกำลังจะเจ๊ง” นั่นแหละครับ
.
ดังนั้น ถ้าคุณอยากไปต่อ ต้องเปลี่ยนแปลงครับ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องเข้ามาในออนไลน์โดยด่วน ก่อนจะหมดเวลา เพราะสิ่งนี้เเหละ จึงทำให้ผมโต 10 เท่า และ ลาออกจากงานประจำได้ แม้อยู่ในช่วงโควิดก็ตาม
.
ถ้าคุณอยากจะลุยต่อไปกับผม และ เพื่อนๆ ชาว Online Signature ก็เข้ามาลุยด้วยกันในคลาสได้เลยครับ
.
เพราะสิ่งที่คุณจะได้จากคลาสนี้ คือ แก่นทั้งหมด เมื่อขึ้นชื่อว่า “แก่น” นั่นหมายความว่า มันจะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก และคุณจะใช้มันกับธุรกิจไปได้ตลอดอย่างน้อยที่สุดก็ 10 ปี
.
โดยคลาสนี้ ผมจะเริ่มเปิดรับสมัคร Pre-order ในวันที่ 3 มิถุนายน นี้
.
แต่ถ้าคุณ คือ คนที่อ่านมาถึงตรงนี้ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เพราะคุณจะได้สิทธิ์รับ “ราคาพิเศษ” ไปทันที ซึ่งจะไม่มีใครได้ราคาที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะราคาจะถูกปรับขึ้นเรื่อยๆ
.
โดยคลาส Online Signature จะเรียนแบบสดผ่าน Live ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ดูย้อนหลังได้ตลอดชีวิต พร้อม Section ถาม/ตอบ
.
- ราคาเต็มอยู่ที่ 46,000 บาท
- ช่วงโปรโมชั่น 24,000 บาท
.
แต่สำหรับคนที่ทักมา 20 คนแรก
.
✅ ราคาพิเศษเพียง 9,640 บาท เท่านั้น
.
และ รับฟรีอีก 2 โบนัส คลาส คือ
.
✅ Bonus class : วิธีทดลองตลาด หาสินค้ามาขาย สร้างธุรกิจได้ โดยไม่ต้องใช้เงินทุน
.
✅ Bonus class : เคล็ดลับทำให้คุณขายดีตลอดทั้งปี ไม่มีตก
.
สำหรับใครที่มีหนังสือ งานประจำสอนทำธุรกิจ พร้อมลายเซ็นของผม สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดได้อีก 500 บาท นะครับ
.
✅ **ย้ำอีกที ว่าถ้าทักมา เป็นคนที่ 21 จะไม่ใช่ราคานี้แล้วนะครับ
.
✅ รีบทักมาได้เลยครับที่ Line : @samounglai
.
เพราะถ้าช้าไปกว่านี้ ราคาจะปรับขึ้นเรื่อยๆ และ ปรับขึ้นจริงๆ เพราะถ้าคุณติดตามเพจสมองไหลมา คุณจะรู้ดีว่า ปกติผมจะไม่ลดราคานานๆ
.
** ทั้งหมดนี้จะเริ่มเปิดคลาสวันที่ 19 มิถุนายน 2564
และ จะเริ่มเรียนแบบเข้าเนื้อหาหลักกันวันที่ 26 มิถุนายน 2564 นี้
.
แล้วเจอกันในคลาสนะครับ ^^
มากขึ้นเรื่อยๆ 在 Facebook 的最讚貼文
🩸🍒 รีวิวน้ำหอม Tom Ford Lost Cherry EDP🍒 
เป็นกลิ่นที่เราไม่เคยเหลียวแลเลยค่ะ เพราะส่วนตัว...
ไม่ชอบกลิ่น cherry มากมากกกกกกก แต่....
เสียหลักอย่างรุนแรงตอนได้เทียนหอมกลิ่นนี้มาลองก่อนค่ะ😅🤣
🕯คือแบรนด์ส่งเทียนมาให้วันเกิด เราจุดแล้ว....
ได้เป็นกลิ่นความหอมหวานน่ากินแต่ไม่ใช่เชอรี่จ๋าๆเลย
คือห้องหอมมากกกกกก เป็นกลิ่นหวานแต่เย้ายวน
ไม่ไหวอ่ะ ดีถึงขนาดที่ว่า.... บอกกับตัวเองไว้
ว่าจะไปลองดมน้ำหอมให้ได้!
และแล้วว ก็ได้ น้ำหอมมาค่ะ 💖😍
🍒 น้ำหอม Lost Cherry EDP 🍒
Top : Sour Cherry, Bitter Almond, Liquor
Middle : Sour Cherry, Plum,
Turkish Rose, Jasmine Sambac
Base : Tonka Bean, Vanilla, Peru Balsam,
Cinnamon, Benzoin, Sandalwood, Cedar,
Cloves, Vetiver, Patchouli
😍 เปิดมาคือกลิ่นเชอร์รี่เชื่อมที่เราไม่ชอบเลยค่ะ
แต่....ไม่นานค่ะ กลิ่นจะ settle มากขึ้น
เชอร์รี่ค่อยๆเบลนด์ไปกับเหล้า/อัลมอนด์🥃🥜
เราพาลให้นึกถึง ไลน์ L’occitane Almond เบาๆค่ะ😍
บอกเลยว่าdevelop แล้วดีย์...มากขึ้นเรื่อยๆ🥺
ผ่านไปเรื่อยๆ กลิ่นกลายเป็นความหอม
อร่อย อบอวลมากๆ candy like เบาๆ🍬
แต่..... มันมีความ deep / warm มากขึ้น
มาจาก Sandal wood/Parchouli/ และ
Vetiver ที่เป็นโน้ตที่เรา ชอบ มาก!
คือ Vetiver อยู่ในกลิ่นไหน กลิ่นนั้นเรามักถูกใจค่ะ
❤️ สรุปเลย Lost Cherry มัน Playful in the beginning
จบลงที่ความ Sexy / Seductive in the end
คือเปิดมาหวานเชอร์รี่ แคนดี้ จบลงที่ความอุ่น เย้ายวน
อย่างบอกไม่ถูก อ่านจากคอมเม้นท์ในเนตมา
เค้าบอกเป็น sex in a bottle เลยค่ะ😏🤫😍
แบบนี้คือทางเราเลยค่ะ กลิ่นที่จบลงด้วยฟิลลิ่งแบบนี้
อ้อ เค้า longlasting ด้วยน้าาา🙌
😅 คืองงเหมือนกันค่ะ cherry ที่ไม่เคยคิดจะเหลียวมอง
กลับกลายมาเป็นกลิ่นที่โดนใจเราสุดๆ
เก็บเค้าไว้ในหมวดหมู่เดียวกับ mfk baccarat rouge 540
อีกหนึ่งน้ำหอมโปรด ยั่วๆของเราได้เลย
หวานละมุนไม่เลี่ยนปวดหัวตุยไปก่อนค่ะ ผ่านนนนนน💕
ขอบคุณทางแบรนด์มากๆนะคะ
บอกเลยว่าดีใจมากเลยที่ได้ขวดนี้มาครอบครอง : ))
💸ราคา 50ml 12,000 บาท
📍พิกัด Tom Ford Beauty ทุกสาขา
มากขึ้นเรื่อยๆ 在 OverclockZoneTV Youtube 的最佳解答
แม้ว่าช่วงนี้เราได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับ Memory แบบ DDR5 มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก Processor Gen ใหม่ทั้งของทาง Intel และ AMD นั้นมีแววจะเปลี่ยนไปใช้ .. ตามหลักการแล้ว Memory แบบ DDR4 ในปัจจุบันที่เข้าสู่สถานะปลายยุคเนี่ย มันควรจะปรับราคาลงใช่ไหม ? แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่แบบนั้นครับ เพราะว่าเราได้เห็นมันปรับราคาขึ้นมาซักระยะใหญ่ๆแล้ว และข่าวคาดการณ์ในตลาดล่าสุดก็คือ จะมีการปรับตัวเพิ่มเติม ตลอดปีอีกด้วย ! ง่ายๆว่าปีนี้ก็ขึ้นมาแล้ว 25% .. แบบนี้ไม่อยากจะคิดเลยว่าพอ DDR5 มาจริงแล้ว ราคาจะทะลุโลกขนาดไหน
มากขึ้นเรื่อยๆ 在 Fah sarika Youtube 的最讚貼文
ช่วงนี้เราคงชินกับพฤติกรรม ‘ปกติใหม่’ มากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่เคยใช้ชีวิตแบบปกติกลายเป็นไม่ปกติในช่วงนี้ อ่านไปแล้วก็อาจจะงงๆ
แต่เชื่อว่าหลายคงก็คงเป็นเหมือนกันกับเรา หรือจะแตกต่างกันแล้วแต่สภาพแวดล้อมและปัจจัยต่างๆ ลองมาเช็คไปด้วยกันว่าไอที่เราว่าปกติมันปกติจริงๆมั้ย 555
ในช่วงที่มีเวลาดูแลตัวเองมากกว่าปกติ ฟ้าเองก็ค้นพบกับสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวและสถานการณ์ในช่วงนี้มากๆ ก็คือ APIVITA แบรนด์ที่มาจากธรรมชาติปลอดภัยและได้ผล ในคลิปมีรีวิวไว้ให้ด้วยน้า
ติดตาม APIVITA ได้ผ่านทาง Social Media (Facebook: apivita, IG: apivitathailand, Line: @apivitathailand, Twitter: @apivitathailand) เพื่ออัพเดทโปรโมชั่นๆ
✨ชมสินค้าทั้งหมดของ APIVITA ได้ที่ Lazada: https://bit.ly/2NZMc8h
และเตรียมพบกับ Exclusive Launch วันที่ 13-16 กรกฎาคมนี้ ที่ Lazada ที่แรกที่เดียวเท่านั้น
@apivitathailand
#apivitathailand #apivita #pollinatebeauty #healingpowerofbees #ค้นพบtreasuresofthehive
- iPhone XS max, Canon 77D,
☆ Edit by my friends ( Final cut Pro, Premiere Pro)
Fanpage : https://www.facebook.com/fahofficial/
IG : https://www.instagram.com/fahsarika/
● For work please contact : [email protected] ●
มากขึ้นเรื่อยๆ 在 Here's Jae Youtube 的精選貼文
ขอบคุณสำหรับ 20K subs และ ทุกคำถามมากๆ นะครับ
ยินดีตอบ คำถามเริ่ม advanced มากขึ้นเรื่อยๆ 555
ใครมีคำถามอะไรเพิ่ม หรืออยากถามอะไร
ก็สามารถคอมเม้นต์ไว้ที่ด้านล่างได้เลยครับ! :D
Q&A ตอบคำถาม ep.1 - | Here's Jae
https://youtu.be/V7ChHlNfxSc
_____________________________
► ดูแล้วชอบยังไงก็
ฝากกด LIKE เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะค้าบ :D
หรือถ้ายังไม่ได้กดติดตาม ฝากกด Subscribe ให้กันหน่อยน้า ??????
และสามารถกดกระดิ่ง?กันได้นะครับ เพื่อที่เวลาเจอัพคลิปใหม่
มันจะได้แจ้งเตือนว่ามีคลิปใหม่อัพแล้ว ขอบคุณครับ ?
ข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
► สามารถติดตามเจได้ที่..
• ? INSTAGRAM ‣ https://www.instagram.com/heres.jae
• ? FACEBOOK ‣ https://www.facebook.com/HeresJae/
• ? TWITTER ‣ https://twitter.com/heresjae
• ? YOUTUBE ‣ https://www.youtube.com/heresjae
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
►? FILMED & EDITED BY • Jae Thachaparn ( Here's Jae )
‣ ? COLOR GRADING BY • Jae Thachaparn ( Here's Jae )
‣ ? CAMERA GEAR • Canon PowerShot G7X Mark II
‣ ? VIDEO EDITING SOFTWARE • Adobe premiere pro CC 2018
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
? Contact - สามารถติดต่องาน โฆษณา/สปอนเซอร์ ได้ที่..
►Fackbook PAGE : Here's Jae
►DIRECT Instagram : heres.jae
หรือ คุณโน๊ต (ผู้จัดการ)
? line : 088-571-9550
? Tel : 088-571-9550
E-MAIL : [email protected]
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
►Background Music : https://player.epidemicsound.com
► INTRO เพลงโคตรเพราะ 1980s Pop Music
‣ Brings Back The Feeling - Daniel Gunnarsson
► OUTRO
‣ Before The Dawn (COE Remix) - Wild Beaches
#Q&A #20ksubs #ตอบคำถาม
มากขึ้นเรื่อยๆ 在 越来越 นับวันยิ่ง,มากขึ้นเรื่อยๆ - YouTube 的推薦與評價
越来越 นับวันยิ่ง, มากขึ้นเรื่อยๆ. 5.8K views · 1 year ago #ภาษาจีนในชีวิตประจำวัน #hsk3 #越 ...more. hao de channel. 142K. Subscribe. ... <看更多>
มากขึ้นเรื่อยๆ 在 Easy&Simple English : เรียนภาษาอังกฤษง่ายกว่าที่คุณคิด 的推薦與評價
more and more แปลว่า มากขึ้นเรื่อยๆ More and more people are supporting this idea. ผู้คนกำลังสนับสนุนความคิดนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ... ... <看更多>