COVID-19 วิกฤตที่สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมผู้บริโภค ให้ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
.
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่นอกจากจะส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อหลายล้านคน ยังค่อยๆ แทรกซึมเข้าสู่ชีวิตประจำวัน จนทำให้พฤติกรรมของผู้คนเริ่มปรับเปลี่ยนกันไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการจำเป็นต้องรู้ ศึกษา และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค เพื่อนำไปปรับใช้ในธุรกิจของตนเอง
.
บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย ได้เผยงานวิจัย ‘The New Norms’ How Life Will Unfold After COVID-19’ เป็นการสรุป และวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป สู่วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ หลังวิกฤต COVID-19 โดยมีด้วยกัน 7 รูปแบบ
.
1. Reverse Globalization
โรงงานในจีนที่เป็นฐานการผลิตหลักของสินค้าแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก ต้องปิดโรงงาน เกิดการชะงักของการผลิต รวมถึงเกิดภาวะสินค้าขาดตลาดในบางประเภท ซึ่งด้วยเหตุผลนี้ ส่งผลให้ธุรกิจกลับมาพึ่งพาการผลิตภายในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าอนาคตแบรนด์ข้ามชาติยังจะผลิตเพื่อตลาดระดับโลก แต่จะเริ่มสร้างการผลิตภายในท้องถิ่น และกระจายหาแหล่งต้นทุนที่จะไม่ได้พึ่งพาเพียงแค่ประเทศเดียวเช่นเดิม
.
2. Digital Takeover
แม้ดิจิทัลจะเป็นเรื่องที่หลายคนคุ้นชินอยู่แล้ว แต่ COVID-19 ยิ่งกระตุ้นให้ผู้คนเปิดใจกับดิจิทัลมากขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งจากมาตรการของภาครัฐ และเอกชน เพื่อยับยั้งและป้องกันเชื้อไวรัส ผู้บริโภคต้องใช้บริการต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น การซื้อของ หรือสั่งอาหาร ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมาเกิดการเติบโตของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงภาคธุรกิจก็เริ่มหันมาทำธุรกิจผ่านช่องทางนี้เช่นกัน ซึ่งเชื่อว่า อีกไม่นานดิจิทัล อินเทอร์เน็ต จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐาน และสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ไม่ต่างจากน้ำประปา และไฟฟ้า
.
3. Emergence of Big Data
วิกฤตทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างสนใจ และใช้เทคโนโลยีเพื่อประมวลผลข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด เห็นได้จากการจัดการเรื่องติดตามผู้ติดเชื้อ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส รวมถึงการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจในช่วงที่หน้าร้านต้องหยุดชะงัก ซึ่งถ้าธุรกิจสามารถประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างประสิทธิภาพมากที่สุด จะทำให้สามารถพัฒนาแบรนด์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
.
4. Elevated Health and Wellness
ตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสที่แผ่วงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป เริ่มใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาความสะอาด รวมถึงการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือและเตรียมตัวเพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัส ซึ่งต่อจากนี้เรื่องสุขภาพอนามัย ก็จะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของผู้บริโภค รวมถึงจะเกิดบรรทัดฐานใหม่ของผู้บริโภคเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมเรื่องของความสะอาดและความปอดภัย
.
5. Physical Distancing Continues
เมื่อผู้บริโภคเริ่มคุ้นเคยกับการอยู่บ้าน ทั้งการทำกิจกรรมสร้างความสุขที่บ้าน ทำอาหาร ตกแต่งบ้าน มีพื้นที่ส่วนตัว การใช้บริการซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านออนไลน์โดยที่ไม่ต้องออกจากบ้าน สินค้าแบรนด์ใดที่สามารถสร้างความมั่นใจเรื่องความสะอาด สุขอนามัยได้ จะกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้บริโภคให้สนใจและตัดสินใจเลือกซื้อ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้เกิดการปรับตัวใหม่ของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ที่ต่อไปจำเป็นต้องกำหนดนิยามการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นตัวส่วนตัวในการออกแบบที่อยู่อาศัย เพื่อสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค
.
6. Happiness is Redefined
ความสุขของผู้บริโภคอาจเกิดขึ้นได้จากสิ่งเล็กๆ และเรียบง่ายภายในบ้านกับครอบครัว เช่น การทำกิจกรรมร่วมกัน ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร จัดตกแต่งบ้าน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องออกไปทำข้างนอก ฐานะผู้ประกอบการและนักการตลาดสำหรับข้อนี้คงเป็นความท้าทายใหม่ที่จะทำอย่างไรให้แบรนด์สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในครอบครัวผู้บริโภค
.
7. Prepare for the Next Disruption
COVID-19 ทำให้ทั้งผู้บริโภค และธุรกิจต้องเตรียมความพร้อมถ้ามีเกิดการระบาดอีกครั้ง ทั้งเรื่องการพึ่งพาตนเอง เสริมทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตเมื่อยามวิกฤตมาถึง เช่น การปรับตัวทำงานที่บ้านของผู้บริโภค ซึ่งทั้งนี้แบรนด์เองก็ควรมีบทบาทช่วยเหลือ และส่งเสริมผู้บริโภคให้การทำงานนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
ที่มา : บริษัทมายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#COVID19 #NewNormal #พฤติกรรมผู้บริโภค #ผู้ประกอบการ
