ระบบศาลของประเทศไทย
เมื่อพิจารณาศึกษาศาลตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 25560 ประกอบ ด้วยศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครองและศาลทหาร ดังนี้
1.ศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญมีเขตอำนาจทั่วราชอาณาจักร มีศาลเดียวไม่มีศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ดังเช่นศาลยุติธรรม ดังนั้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่สุดเด็ดขาดผูกพันทุกองค์กร
2.ศาลยุติธรรม
ศาลยุติธรรม ตามโครงสร้างประกอบด้วย 3 ศาล คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ดังนี้
1) ศาลชั้นต้น (Trial court) คือ ศาลที่พิจารณาคดีในชั้นแรก ได้แก่ ศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญาธนบุรี ศาลจังหวัด ศาลแขวง และศาลพิเศษและศาลชำนัญพิเศษ
2) ศาลอุทธรณ์ (Court of Appeal) คือ ศาลสูงถัดจากศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่อุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นที่อยู่ในเขตอำนาจกับมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยได้ตามกฎหมายอื่น ศาลอุทธรณ์ ได้แก่ ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค 1 – 9
3) ศาลฎีกา (Supreme Court) คือ ศาลยุติธรรมชั้นสูงสุดมีเขตอำนาจทั่วราชอาณาจักร มีอำนาจพิพากษาคดีที่อุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค 1-9 ภายใต้เงื่อนไขว่าด้วยการฎีกาและมีอำนาจพิจารณาคดีที่อุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยไม่ต้องผ่านศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค 1-9 ศาลฎีกามีอยู่ 11 แผนก ดังนี้ แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว แผนกคดีแรงงาน แผนกคดีภาษีอากร แผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ แผนกคดีล้มละลาย แผนกคดีอายาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจ แผนกคดีสิ่งแวดล้อม แผนกคดีผู้บริโภค แผนกคดีเลือกตั้ง และแผนกคดีที่ศาลฎีกาแบ่งเป็นภายใน 1 แผนก คือ แผนกคดีปกครอง (ภายใน)
3. ศาลปกครอง
ศาลปกครองแบ่งออกเป็น 2 ชั้นคือ ศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองชั้นต้น ดังนี้
1) ศาลปกครองสูงสุดมีศาลเดียวจึงไม่มีข้อจำกัดด้านเขตอำนาจ ดังนั้นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลปกครองสูงสุด ไม่ว่ามูลคดีจะเกิดที่ใด หรือผู้ฟ้องคดีมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใดก็สามารถฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุดได้ เพียงแต่ต้องยื่นฟ้องให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ คดีนั้นต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดโดยตรง ถ้าเป็นคดีตามมาตรา 11 (1) (2) และ (3) หรือยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองชั้นต้น ถ้าเป็นคดีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นตาม มาตรา 11 (4) มีข้อพิจารณาดังนี้
2) ศาลปกครองชั้นต้นโดยศาลปกครองชั้นต้นมีข้อพิจารณา คือ ศาลปกครองกลางและศาลปกครองในภูมิภาค ตำแหน่งและองค์คณะของตุลการศาลปกครองชั้นต้น
(1) ศาลปกครองกลาง ศาลปกครองกลาง มีเขตอำนาจตลอดท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งจังหวัดที่มิได้อยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครองในภูมิภาค คือ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครนายก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดอ่างทอง ทั้งยังอาจรับพิจารณาพิพากษาคดีที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครองในภูมิภาคต่างๆ ที่มายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางได้ด้วย
(2) ศาลปกครองในภูมิภาค มีเขตอำนาจครอบคลุมพื้นที่จังหวัดตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 94 แต่ในระหว่างยังไม่อาจเปิดทำการศาลปกครองในภูมิภาคครบตามที่กำหนด ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดมีอำนาจออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้ศาลปกครองในภูมิภาคที่เปิดทำการแล้วมีเขตอำนาจในจังหวัดใดที่อยู่ ใกล้เคียงกับศาลปกครองนั้นเพิ่มเติมได้ตามที่สมควร ปัจจุบันมีจำนวน 11 แห่ง คือ ศาลปกครองเชียงใหม่ ศาลปกครองสงขลา ศาลปกครองนครราชสีมา ศาลปกครองขอนแก่น ศาลปกครองพิษณุโลก ศาลปกครองระยอง ศาลปกครองนครศรีธรรมราช ศาลปกครองอุดรธานี ศาลปกครองอุบลราชธานี ศาลปกครองเพชรบุรี และศาลปกครองนครสวรรค์
4.ศาลทหาร
ศาลทหารมีอยู่ 3 ประเภท คือ ศาลทหารในเวลาปกติ ศาลทหารในเวลาไม่ปกติ ศาลอาญาศึก ดังนี
1) ศาลทหารในเวลาปกติแบ่งเป็น 3 ชั้น คือศาลทหารชั้นต้น ศาลทหารชั้นกลาง และศาลทหารชั้นสูงสุด มีลักษณะเช่นเดียวกับการแบ่งชั้นของศาลยุติธรรม คือ ต้องเริ่มต้นที่ศาลทหารชั้นต้น แล้วโจทก์ จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลทหารชั้นต้นไปยังศาลทหารกลางและศาลทหารสูงสุดได้ภายใต้บทบัญญัติว่าด้วยการอุทธรณ์ฎีกาศาลทหาร
2) ศาลทหารในเวลาไม่ปกติ จะเป็นในช่วงเวลาของการมีสงคราม หรือการประกาศใช้กฎอัยการศึก ทำให้ศาลทหารมีอำนาจสามารถพิพากษาคดีอาญาอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม หากภาวะสงครามหรือการประกาศใช้กฎอัยการศึกสิ้นสุดลง ศาลทหารก็ยังคงมีอำนาจในการพิพากษาคดีอาญาที่ยังค้างอยู่ในศาลได้อยู
3) ศาลอาญาศึก เป็นการตั้งศาลขึ้นมาเมื่อเข้าต่อสถานการณ์ คือ เมื่อมีการรบเกิดขึ้น ได้มีการกำหนดยุทธบริเวณ และในเขตยุทธบริเวณ มีกำลังทหารไม่น้อยกว่า 1 กองพัน หรือมีเรือรบ ป้อม ที่มั่นของทหาร ฉะนั้น การตั้งศาลอาญาศึก จึงเป็นการตั้งเพื่อพิจารณาคดีในยุทธบริเวณนั้น
ศาลแพ่ง คือ 在 คู่มือและขั้นตอนการฟ้องคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง - YouTube 的推薦與評價
คู่มือและขั้นตอนการฟ้องคดีซื้อขายออนไลน์ใน ศาลแพ่ง #COJ #ศาลยุติธรรม ... AP LAW 22 "การเรียกร้องค่าเสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 44/1 คือ อะไร". ... <看更多>