ปลายเดือนพฤษภาคมต่อต้นเดือนมิถุนายน 2564
ผมจัดอบรม Online Workshop
ในหัวข้อ "เป็นโค้ชชีวิตให้กับลูกวัยรุ่น" ครับ
วันเสาร์บ่าย ของวันที่ 29 พค. และ 5, 12, 26 มิย.
เวลา 13.30 - 16.30 น
ท่านที่สนใจ อ่านรายละเอียด แล้วติดต่อลงทะเบียนได้กันได้ทาง
LINE morprawate ครับ
หลักสูตร Online workshop เป็นโค้ชชีวิตให้ลูกวัยรุ่น
แบ่งเนื้อหาการเรียนรู้เป็น 4 ส่วน
แต่ละส่วนใช้เวลาเรียนรู้ 1 สัปดาห์
รวมเวลาเรียน 4 สัปดาห์
การเรียนรู้ในแต่ละสัปดาห์ ประกอบด้วย
เรียนผ่านโปรแกรม ZOOM กับหมอประเวช 3 ชั่วโมง
ทำการบ้านและฝึกภาคปฏิบัติระหว่างสัปดาห์
แลกเปลี่ยนกับเพื่อนผ่านทางไลน์กลุ่มระหว่างสัปดาห์
สรุปการเรียนรู้และตอบคำถามคาใจ
ส่วนที่ 1
ปรับวิธีเลี้ยงดูเมื่อลูกก้าวเข้าสู่วัยรุ่น
สมองวัยรุ่น
สองภารกิจสำคัญประจำวัยของวัยรุ่น
ผลกระทบต่อพ่อแม่เมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น (สำรวจภูเขาน้ำแข็งในใจพ่อแม่)
ปัจจัยความสำเร็จในการเลี้ยงลูกวัยรุ่น
ส่วนที่ 2
ฉลาดทางอารมณ์ ฉลาดแก้ปัญหาให้ลูก
สมอง สัญชาติญาณ อารมณ์ และความคิด
พักความคิด สงบอารมณ์ สร้างความยืดหยุ่นจากภายใน
ผลกระทบของการก้าวสู่วัยรุ่นต่อตัววัยรุ่นเอง (สำรวจภูเขาน้ำแข็งในใจลูก)
วางใจอย่างไรถ้าลูกต้องพบกับบทเรียนสำคัญของชีวิต
ส่วนที่ 3
เครื่องมือความคิดเพื่อการช่วยลูกค้นหาตัวเอง
บนเส้นทางการค้นหาตัวเอง: คำถามและความกังวลใจของวัยรุ่น
แบบประเมินบุคลิกภาพแนว MBTI กับการวางแผนชีวิต
ปัจจัยที่ใช้ในการออกแบบเส้นทางการเรียนและการงาน
ส่วนที่ 4
เทคนิคการเป็นโค้ชสำหรับวัยรุ่น
แนวคิดการเป็นโค้ชที่ผิดและถูก
ทักษะการเป็นโค้ชสำหรับพ่อแม่
ฝึกทักษะคิดให้กับลูก
ปล่อยวางการควบคุม
หลังจบการเรียนรู้ผ่านระบบ ZOOM และ LINE ใน 4 สัปดาห์
กลุ่มไลน์ของผู้เรียนจะยังคงเปิดเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อคิดประสบการณ์
แบ่งปันข้อมูลและบทเรียนระหว่างกัน
ผมจะยังคงเข้ามาตอบคำถามในกลุ่มอีกเป็นเวลา 4 สัปดาห์
(ตอบคำถามเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทเรียน)
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป (จนถึง 25 ปี) หรือคนทำงานกับวัยรุ่นที่ต้องการพัฒนาทักษะความสามารถ
ในการพัฒนาวัยรุ่น
มีความพร้อมในการเรียนรู้ผ่านโปรแกรม ZOOM และ LINE
ค่าลงทะเบียน คนละ 4200 บาท (ลงทะเบียนล่วงหน้า Early bird ค่าเรียนคนละ 3900 บาท)
สนใจติดต่อ LINE morprawate
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過248萬的網紅FoodTravelTVChannel,也在其Youtube影片中提到,คัพเค้กสมอง Brain Cupcake | Halloween Cupcake | เทศกาล Halloween คัพเค้กสมองเป็นคัพเค้กสำหรับเทศกาลฮาโลวีนเพราะได้มีการใช้บัตเตอร์ครีมในการตกแต่งให้ด...
「สมอง 3 ส่วน」的推薦目錄:
- 關於สมอง 3 ส่วน 在 หมอประเวช ตันติพิวัฒนสกุล Facebook 的精選貼文
- 關於สมอง 3 ส่วน 在 หมอประเวช ตันติพิวัฒนสกุล Facebook 的精選貼文
- 關於สมอง 3 ส่วน 在 Drama-addict Facebook 的精選貼文
- 關於สมอง 3 ส่วน 在 FoodTravelTVChannel Youtube 的精選貼文
- 關於สมอง 3 ส่วน 在 สมองแบ่งออกเป็นกี่ส่วนกันนะ?... - สมองของเราเป็นอย่างไรนะ 的評價
- 關於สมอง 3 ส่วน 在 กระตุ้นสมองส่วนหน้า “แก้ปัญหาการเงิน” - YouTube 的評價
- 關於สมอง 3 ส่วน 在 สมอง Brain ส่วนประกอบของสมอง สมองซีกซ้าย รูปสมอง สมองส่วน ... 的評價
สมอง 3 ส่วน 在 หมอประเวช ตันติพิวัฒนสกุล Facebook 的精選貼文
อีกโปรแกรมการอบรมแบบ Online Workshop ที่จะจัดขึ้นก่อนสิ้นปี
คือ เป็นโค้ชชีวิตให้ลูกวัยรุ่น ครับ
กำหนดกาจัดในวันเสาร์ เวลา 9.00 - 12.00 น.
ในวันที่ 10, 17, 31 ตุลาคม และ 7 พฤศจิกายน
รวมจำนวน 4 ครั้ง
ท่านที่เป็นพ่อแม่ที่อยากเรียนรู้วิธีคุยและพัฒนาลูกวัยรุ่น
หรือกำลังจะเข้าวัยรุ่น
คนทำงานด้านวัยรุ่น ที่ต้องการเข้าใจวัยรุ่นให้มากขึ้น
เชิญมาเรียนร่วมกันได้ครับ
หลักสูตร Online workshop เป็นโค้ชชีวิตให้ลูกวัยรุ่น
แบ่งเนื้อหาการเรียนรู้เป็น 4 ส่วน
แต่ละส่วนใช้เวลาเรียนรู้ 1 สัปดาห์
รวมเวลาเรียน 4 สัปดาห์
การเรียนรู้ในแต่ละสัปดาห์ ประกอบด้วย
- เรียนผ่านโปรแกรม ZOOM กับหมอประเวช
3 ชั่วโมงในวันเสาร์ 9.00 - 12.00 น.
- ทำการบ้านและฝึกภาคปฏิบัติระหว่างสัปดาห์
- แลกเปลี่ยนกับเพื่อนผ่านทางไลน์กลุ่มระหว่างสัปดาห์
- สรุปการเรียนรู้และตอบคำถามคาใจ
ส่วนที่ 1
ปรับวิธีเลี้ยงดูเมื่อลูกก้าวเข้าสู่วัยรุ่น
- สมองวัยรุ่น
- สองภารกิจสำคัญประจำวัยของวัยรุ่น
- ผลกระทบต่อพ่อแม่เมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น
(สำรวจภูเขาน้ำแข็งในใจพ่อแม่)
- ปัจจัยความสำเร็จในการเลี้ยงลูกวัยรุ่น
ส่วนที่ 2
ฉลาดทางอารมณ์ ฉลาดแก้ปัญหาให้ลูก
- สมอง สัญชาติญาณ อารมณ์ และความคิด
- พักความคิด สงบอารมณ์ สร้างความยืดหยุ่นจากภายใน
- ผลกระทบของการก้าวสู่วัยรุ่นต่อตัววัยรุ่นเอง
(สำรวจภูเขาน้ำแข็งในใจลูก)
- วางใจอย่างไรถ้าลูกต้องพบกับบทเรียนสำคัญของชีวิต
ส่วนที่ 3
ตระเตรียมเครื่องมือเพื่อช่วยลูกค้นหาตัวเอง
- แบบทดสอบเพื่อค้นหาตัวเอง
- Self esteem maintenance kit ของ Satir
ส่วนที่ 4
เทคนิคการเป็นโค้ชสำหรับวัยรุ่น
- แนวคิดการเป็นโค้ชที่ผิดและถูก
- ทักษะการเป็นโค้ชสำหรับพ่อแม่
หลังจบการเรียนรู้ผ่านระบบ ZOOM และ LINE ใน 4 สัปดาห์
กลุ่มไลน์ของผู้เรียนจะยังคงเปิดเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อคิดประสบการณ์
แบ่งปันข้อมูลและบทเรียนระหว่างกัน
หมอประเวชจะยังคงเข้ามาตอบคำถามในกลุ่มอีกเป็นเวลา 4 สัปดาห์
(ตอบคำถามเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทเรียน)
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป (จนถึง 25 ปี) หรือคนทำงานกับวัยรุ่นที่ต้องการพัฒนาทักษะความสามารถในการพัฒนาวัยรุ่น มีความพร้อมในการเรียนรู้ผ่านโปรแกรม ZOOM และ LINE
ค่าลงทะเบียน คนละ 3900 บาท
ลงทะเบียนล่วงหน้า Early bird ภายในวันที่ 3 ตุลาคม
ค่าเรียนคนละ 3600 บาท
สนใจติดต่อ LINE morprawate
สมอง 3 ส่วน 在 Drama-addict Facebook 的精選貼文
อ่านมาถึงข้อสุดท้าย สรุปคดีน้องชมพู่จะถูกยุติการสอบสวนชั่วคราว
เพราะไม่มีพยานหลักฐานใดๆชัดเจน จะสอบสวนใหม่หากมีพยานหลักฐานใหม่ จบ อยากรู้แค่นี้ล่ะ เห้อ
ปรากฎการณ์ลุงพลเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น จากผู้ต้องสงสัยในคดีน้องชมพู่ เปลี่ยนเป็นเน็ตไอดอล ที่ติด Trending อันดับ 1 ในยูทูบได้อย่างไร
workpointTODAY จะสรุปภาพรวมให้เข้าใจโพสต์เดียวเคลียร์ใน 32 ข้อ
1) 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ จากหมู่บ้านกกกอก อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร หายตัวไปอย่างลึกลับจากบ้านของตัวเอง นั่นทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต ตามหาสามวันสามคืน จนในที่สุด วันที่ 14 พฤษภาคม ชาวบ้านรายหนึ่งไปพบศพน้องชมพู่ อยู่ในสภาพเปลือยกาย ที่ป่าภูเหล็กไฟ ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้านถึง 2 กิโลเมตร
ในการสืบคดี โอกาสที่น้องชมพู่จะวิ่งไปบนเขาเองก็เป็นไปได้ แต่ตำรวจก็ยังไม่ตัดข้อสงสัย เรื่องฆาตกรรม คืออาจมีผู้ใหญ่พาไปที่ภูเขาแล้วฆ่า หรือไม่ก็ฆ่าที่อื่น แล้วนำศพมาอำพรางไว้บนเขา
2) คดีนี้มีความน่าสงสัยหลายอย่าง เช่น ในวันเกิดเหตุ ฝากน้องชมพู่ไว้กับ พี่สาวอายุ 13 ที่ชื่อสะดิ้ง แต่สะดิ้งอ้างว่าเผลอหลับไปราวๆ 10 นาที ซึ่งช่วงนั้นเองที่ชมพู่หายไปแล้ว และตำรวจมาสืบค้นภายหลังว่า จริงๆสะดิ้งไม่ได้หลับตามที่อ้าง แต่เล่นแอพ TikTok อยู่
3) หรือแม้แต่คุณพ่อ กับคุณแม่ของน้องชมพู่ ก็โดนตั้งข้อสงสัยเช่นกัน มีดราม่าว่าทำไม พ่อแม่ถึงไม่ยอมไปล้างหน้าศพลูกในวันสุดท้าย ก่อนชมพู่จะถูกเผา
4) ผู้ต้องสงสัยในหมู่บ้านมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึง "ลุงพล" หนึ่งในคนที่ใกล้ชิดกับน้องชมพู่มากที่สุด โดยคุณแม่ของชมพู่ มีพี่สาวแท้ๆชื่อ ป้าแต๋น-สมพร หลาบโพธิ์ และสามีของเธอชื่อ ลุงพล-ไชย์พล วิภา ทั้งสองคนมีลูกชายด้วยกัน ชื่อ โอม กับ น้ำมนต์ อยู่ชั้นประถมทั้งคู่
5) ลุงพล มีความสนิทสนมกับน้องชมพู่มาก โดยเฉพาะช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ที่น้องเตรียมจะเข้าโรงเรียนอนุบาล ได้อยู่ใกล้และคลุกคลีกันบ่อยขึ้น ซึ่งด้วยความสนิทกัน ลุงพล ถึงกับพูดขึ้นมาเลยว่า ถ้าอนาคตพ่อแม่ไม่เลี้ยงชมพู่แล้ว ก็จะขอรับเอาไว้เป็นลูกเอง
6) ท่ามกลางความสงสัยในตัวลุงพล เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่าใครคือฆาตกร แต่ขอให้รอผลการชันสูตรศพอย่างละเอียดเสียก่อน ดูว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงคืออะไร แล้วค่อยเริ่มสืบสวนไปจากจุดนั้น
7) การชันสูตรศพ จะทำการผ่าสองรอบ ครั้งที่ 1 ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ในจังหวัดอุบลราชธานี และครั้งที่ 2 จะผ่าที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ในกรุงเทพฯ ซึ่งตามขั้นตอน ต้องใช้เวลาสักระยะ อาจได้รายละเอียดครบถ้วนในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม
8) ในระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม ที่เจอศพ จนถึงช่วงต้นเดือนกรกฎาคม กินระยะเวลาเกือบ 2 เดือน ซึ่งในช่วงนี้ ระหว่างที่รอผลชันสูตร ตำรวจในพื้นที่ก็ทำการสืบสวนพยานไปพร้อมๆกัน ซึ่งบรรยากาศในหมู่บ้านกกกอก จุดเกิดเหตุ จึงเป็นไปอย่างอึดอัด เพราะคนในหมู่บ้าน ล้วนแล้วแต่สงสัยกันเองว่าใครคือฆาตกรกันแน่
ประกอบกับการที่สื่อมวลชนลงพื้นที่ ถามชาวบ้าน คนนั้น คนนี้ ว่าคิดอย่างไร สงสัยใครหรือไม่ กลายเป็นเพิ่มชนวนความขัดแย้งในชุมชน ให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
9) คุณตาของน้องชมพู่ และญาติๆจำนวนหนึ่ง ในระหว่างที่รอการชันสูตร ได้เดินทางไปหาร่างทรงชื่อ "หลวงปู่สี" โดยร่างทรง แปลงเสียงเป็นเสียงเด็กผู้หญิง จนทำให้พ่อแม่เชื่อว่า วิญญาณน้องชมพู่มาเข้าร่างทรง โดยคำที่ร่างทรงพูดคือ "พ่อ แม่ โอมมาหรือเปล่า หนูคิดถึงโอมมาก โอมไม่มาหรอ แล้วลุงพลมาไหม ลุงพล ลุงพล"
10) การที่ร่างทรงว่ามาอย่างนั้น เพิ่มความสงสัยในตัวลุงพลมากขึ้น จนในที่สุด แม่ของชมพู่ให้สัมภาษณ์ว่า เป้าหมายเบอร์ 1 ที่มีแนวโน้มจะเป็นฆาตกรมากที่สุด คือลุงพลนี่ล่ะ
"ลุงดูรักลูกเรามากเกินไป ลุงพลขอบพูดว่า รักชมพู่มาก ถ้าเกิดพ่อแม่ไม่เลี้ยง จะเลี้ยงไว้เอง ไม่ได้พูดครั้งเดียว พูดอยู่ตลอด เราสงสัยลุงพลตั้งแต่ก่อนน้องหายแล้ว สงสัยทำไมรักลูกเรามากเกิน จนสัญชาตญาณความเป็นแม่ต้องขอดึงลูกคืน เราคิดว่าน้องเป็นเด็กผู้หญิง ลุงก็เป็นเขย เพราะลุงก็มีลูกชายอยู่ 2 คนด้วย ถ้าให้น้องติดลุงมากเกินก็กลัวอันตราย" คุณแม่น้องชมพู่กล่าว
11) กระแสความกดดัน จึงไปตกอยู่ที่ตัวลุงพล สื่อมวลชนพยายามจับประเด็นว่า ลุงพลคือฆาตกรหรือไม่ มีการทำแบบจำลอง นาทีต่อนาที ว่าลุงพลอยู่ไหน ในช่วงที่น้องชมพู่หายไป มีการลงพื้นที่ในหมู่บ้าน ไปถามประชาชน ว่าลุงพล มีท่าทีผิดสังเกตอะไรหรือเปล่า
12) ในโลกออนไลน์ก็เพ่งเล็งไปที่ลุงพลเช่นกัน โดยความเห็นหนึ่งระบุว่าดูรักเด็กเกินเหตุ ไม่ใช่ลูกตัวเองแท้ๆ ซึ่งลุงพลได้อธิบายในเรื่องนี้ว่า "ผมก็อยากรู้ความรู้สึกของคนพูด ทำไมคิดว่าผมแสดง มันไม่ใช่ภาพยนตร์นะที่ผมจะทำแบบนั้น ผมไม่อยากจะพาดพิงถึงใคร เพราะเขาไม่ได้มาเจอแบบที่เราเจอ"
13) ลุงพลมีความเครียด เนื่องจากโดนคนในชุมชนตั้งข้อสงสัย รวมถึงญาติพี่น้องของฝั่งคุณแม่น้องชมพู่ก็เพ่งเล็งทั้งหมด โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า คิดอยากจะบวชให้น้องชมพู่ แต่ไม่มีวัดไหนรับ เพราะอาจมองว่าตัวเองตั้งใจจะหนีคดี
14) การกระทำเล็กๆน้อยๆ ของลุงพล กลายเป็นข้อสงสัยของชาวบ้านไปหมด ตัวอย่างเช่น ตอนที่เจอศพน้องชมพู่ และยังไม่มีใครรู้ว่า เจอน้องในสภาพเปลือยกาย ลุงพลหยิบเอาเสื้อผ้าจากบ้านมาเพื่อเตรียมจะใส่ให้น้อง ซึ่งชาวเน็ตก็สงสัยว่า รู้ได้อย่างไรว่าน้องเปลือยอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ ลุงพลก็ต้องมาอธิบายว่า พ่อแม่น้องฝากมาให้
ความเห็นหนึ่งในโลกออนไลน์กล่าวว่า "เราว่าลุงพลนี่แหละน่าสงสัยที่สุดตั้งแต่แรก ดูฉลาดมากๆ ดูนิ่ง แต่ก็มีอาการร้อนตัวให้เห็น"
15) เกือบ 2 เดือนที่ตัวเองถูกสงสัย ลุงพลไม่ได้หนีออกจากพื้นที่ แต่ใช้ชีวิตไปตามปกติ สื่อมวลชนคนไหน ถามอะไรก็ตอบ ให้ทำอะไรก็ทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบสวนหลายหน ก็ให้ความร่วมมือทุกครั้ง กลายเป็นช่วงเวลาที่เจ้าตัวมีความกดดันสูงมาก
16) ขณะที่เรื่องการทำงาน อาชีพของลุงพล คือรับจ้างทำไร่ ทำนา ทำสวนยางพารา ถ้ามีชาวบ้านจ้างมาให้ช่วยไปทำที่สวนของตัวเองก็ไป แต่หลังจากตกเป็นข่าว ชาวบ้านก็มีความหวาดกลัว จึงไม่มีใครจ้างงาน ลุงพล ป้าแต๋น และลูกชายทั้งสองคน จึงต้องเอาเงินเก็บในการประคองตัวเองไปก่อน
17) เรื่องชีวิตส่วนตัวของลุงพล ก็โดนสื่อมวลชนชำแหละอย่างละเอียด ชอบทำอะไร ชอบไปไหน แม้แต่เรื่องบนเตียง โดยครั้งหนึ่งมีข่าวว่า ลุงพลฆ่าข่มขืนน้องชมพู่หรือเปล่า เพราะดูห่างเหินกับภรรยาคือป้าแต๋นมานาน ซึ่งลุงพลต้องออกมาสารภาพว่า "ผมไม่มีอะไรกับเมียตั้งแต่ปี 2557 อาจทำให้แม่น้องชมพู่คิดเกินเลย" กลายเป็นว่าทุกเรื่องของลุงพลถูกเปิดเผยขึ้นมาให้ทั้งโลกได้รู้ อย่างที่เจ้าตัวเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
18) ในตอนนี้ กระแสในโลกออนไลน์จึงแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือคนที่ฟันธงไปแล้วว่า ลุงพลคือฆาตกรแน่ๆ กับอีกส่วนที่มองว่า ลุงพลอาจจะแค่พูดเยอะเฉยๆ ที่ผ่านมาก็ไม่มีหลักฐานเอาผิดอะไรชัดเจน มีแต่การคาดเดากันไปมาล้วนๆ
19) วันที่ 9 กรกฎาคม ในทวิตเตอร์มีการติดแฮชแท็ก #Saveลุงพล จนขึ้นเทรนด์ในประเทศไทย โดยความเห็นหนึ่งระบุว่า "ชายคนนี้มีลูกเล็ก และเป็นพ่อคนเหมือนกับคนอื่น แต่เขาโดนกดดันสารพัด ทั้งความสงสัยของผู้คน ชาวบ้านต่างๆ และตำรวจที่มุ่งหน้าไปเก็บหลักฐานในรถของลุงพล มีการเก็บดีเอ็นเออย่งละเอียด แต่ในขณะเดียวกันในฐานะญาติ ก็ต้องช่วยจัดการเรื่องงานศพของน้องชมพู่ไปด้วย ลุงพลแสดงความบริสุทธิ์ใจ ให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ให้ข้อมูลทุกอย่าง แม้จะโดนสอบนานทั้งวัน ทุกวัน วันละหลายชั่วโมง ก็ไม่อาจจะเหนื่อยหรือท้อได้ ลุงพลไม่เอ่ยปากบ่นแม้แต่ครั้งเดียว และไม่ซัดทอดใคร แต่สุดท้ายกลับโดนซัดทอดจากคนในครอบครัวเอง"
20) หลังจากรอคอยมานาน 2 เดือนเต็ม ในที่สุด 13 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดี ได้ออกมาแถลงความคืบหน้า โดยเฉพาะประเด็นผลชันสูตรศพอย่างละเอียดโดยระบุว่า
ไม่พบร่องรอยข่มขืน,ฆาตกรรม และ ทำร้ายร่างกาย กระเพาะไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่ มีเพียงของเหลวเหลืออยู่ 10 มิลลิลิตร ขณะที่ สมอง และปอดไม่พบความผิดปกติที่เกิดจากการโดนทำร้าย กะโหลกศีรษะไม่พบการแตกร้าว คอไม่หัก ไม่มีรอยฟกช้ำ อวัยวะเพศไม่มีการถูกล่วงละเมิด เยื่อพรหมจรรย์อยู่ครบสมบูรณ์
21) ปรากฎว่าสาเหตุที่น้องชมพู่เสียชีวิตคือขาดอาหารและน้ำ จนเสียชีวิต ไม่มีการทำร้ายใดๆเกิดขึ้น ดังนั้นจึงตัดประเด็นเรื่องการฆาตกรรมออกไปได้ เท่ากับว่าการเสียชีวิตของน้องชมพู่ จึงมีความเป็นไปได้เหลือเพียงสองทาง คือ 1) มีคนจับน้องชมพู่ เอามาปล่อยไว้กลางป่า สุดท้ายน้องออกไปไมได้ ก่อนจะเสียชีวิตด้วยการขาดอาหารและน้ำ และ ทางที่ 2) คือน้องวิ่งเล่นเข้ามาในป่าเอง ก่อนจะพลัดหลง แล้วสุดท้ายเสียชีวิตเอง โดยไม่มีใครทำร้าย
22) ตำรวจสอบปากคำชาวบ้านหลายหมู่บ้าน รวมแล้วมากกว่า 1 พันปาก มีการตรวจดีเอ็นเอคนเกี่ยวข้องราว 100 ราย ปรากฎว่า ไม่มีใครที่เชื่อมโยงกับช่วงเวลาที่น้องชมพู่หายไปเลย
21) ขณะที่เรื่องกล้องวงจรปิด ก็ไม่มีหลักฐาน ในรอบๆจุดเกิดเหตุ ดังนั้น จึงไม่รู้จะเชื่อมโยงหาคนร้ายได้อย่างไร คำตอบที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เมื่อดูจากหลักฐานนิติเวช คือน้องพลัดหลง เดินเล่นเข้าไปในป่าเอง ซึ่งจริงอยู่ว่า เด็กวัย 3 ขวบ เดินไปคนเดียวในระยะ 2 กิโลเมตร เป็นเรื่องไม่ง่ายนัก แต่จากพยานหลักฐานที่มี ตำรวจจึงไม่ตัดประเด็นนี้ออกไป
22) พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงความเห็นว่า "หมอลงความเห็นว่าตายเพราะขาดน้ำ เพราะมุกดาหารเป็นดินแดนที่ร้อนที่สุด 40 องศา ยิ่งเดือนพฤษภาคมนี่ร้อนมาก เมื่อน้องชมพู่ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นก็ทำให้เสียชีวิตไป ส่วนหลักฐานว่ามีคนอุ้มไปหรือไม่ ไม่มีดีเอ็นเอ ไม่มีเส้นผม ของคนอื่นแปลกปลอมเลย"
"การจะสาวถึงตัวคนร้ายได้นั้น หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่จะเป็นข้อพิสูจน์ แต่ศพของน้องชมพู่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ส่วนประจักษ์พยานที่เห็นว่าน้องชมพู่ไปกับใคร หรือถูกใครทำร้าย ทั้งหมดนี่ไม่มีเลย" พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าว
23) สำหรับตัวลุงพลนั้น โอกาสที่จะเป็นคนจับน้องไปปล่อย นับเวลาเป๊ะๆคือ 22 นาที กล่าวคือ ในวันเกิดเหตุ ลุงพลออกจากบ้านไปหาพระที่วัด ในเวลา 9.45 น. ก่อนที่จะถึงวัดในเวลา 10.07 น. ซึ่งในช่วงเวลานี้ ถ้าลุงพลเป็นคนร้ายจริง เขาต้องจับตัวเด็ก จากนั้นเดินเข้าป่า แล้วเอาเด็กไปปล่อยกลางป่า ก่อนจะทำลายหลักฐานดีเอ็นเอทั้งหมด แล้วรีบขับรถไปหาพระที่วัด ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ ทำในช่วงเวลา 22 นาที มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
23) เมื่อผลการชันสูตรของตำรวจออกมาแบบนั้น ทำให้ตัวลุงพลหลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้โดนชาวบ้านส่วนหนึ่ง และชาวอินเตอร์เนต กดดันมาตลอดเกือบ 2 เดือน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสามารถยืนยันว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ได้สำเร็จ คือน้องชมพู่อาจจะถูกใครสักคนอุ้มไปจริง เพียงแต่คนคนนั้น จากหลักฐานเวลาแล้ว จะไม่ใช่ลุงพล
24) คนที่โดนสงสัยมานาน เมื่อหลุดพ้นจากข้อสงสัย ทำให้ชาวเนตที่อยู่ฝั่ง #Saveลุงพล ได้ประกาศชัยชนะ หลายคนระบุว่า ก็มั่นใจแต่แรกอยู่แล้วว่าลุงพลไม่ใช่คนไม่ดี และจากจุดนั้นเป็นต้นมา ความช่วยเหลือต่างๆ ที่มีให้ลุงพล และป้าแต๋น ก็หลั่งไหลมาจากทั่วประเทศ
25) ตัวอย่างเช่นบ้านลุงพลแต่เดิมเป็นไม้ไผ่ล้อม หลังคาสังกะสี ก็มีคนจ่ายเงินช่วยทำบ้านใหม่ให้ รวมแล้วมูลค่าราวๆ 3 แสนบาท ซึ่งทั้งหมดที่ได้รับลุงพลไม่ได้เปิดรับบริจาคจากใครเลย แต่มีคนไม่รู้จักมามอบให้เอง
ขณะที่คนในชุมชนก็มีสายตาที่เปลี่ยนไปเช่นกัน จากที่เคยสงสัย กลายเป็นว่า"เข้าใจ" มากขึ้น ว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลุงพลต้องมีความเครียดแค่ไหนจากกระแสสังคม
26) ตั้งแต่รอดพ้นจากข้อสงสัย ลุงพล จึงได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากบุคลิกภายนอกที่ดูดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว บวกกับการมีวิถีชีวิตชาวบ้านธรรมดาๆ ทำให้คนทั่วไปรู้สึกจับต้องได้ นั่นทำให้เขามี ฐานแฟนคลับขึ้นมา ทั้งๆที่ไม่ได้มีผลงานใดๆ ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่อย่างแท้จริง
27) เมื่อลุงพลได้รับความนิยมในท้องถิ่น ก็มีสื่อมวลชนบางสำนัก ประโคมให้ลุงพลดังยิ่งขึ้น มีการเปิดเผยสัดส่วนลุงพล สอบถามว่าสนใจจะเดินแบบ ร้องเพลง หรือเข้าวงการบันเทิงหรือไม่ ซึ่งสำหรับคนในสังคมเมือง เอาประเด็นนี้มาเป็น meme ขบขัน แต่สำหรับคนในพื้นที่ โดยเฉพาะในบ้านกกกอก มีสายตาคนละแบบ นั่นคือมองลุงพลเป็นฮีโร่ ที่ทำให้คนทั้งประเทศ สนใจหมู่บ้านเล็กๆนี้ขึ้นมา
28) ลุงพล เปิดยูทูบ แชนแนลของตัวเองในชื่อ "ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี" ในวันที่ 16 สิงหาคม ลงคลิปง่ายๆ ถ่ายทำเอง เพื่อเล่าวิถีชีวิตของตัวเอง เขาถ่ายคลิปกินข้าวเช้า ถ่ายคลิปขับรถไปวัด ถ่ายคลิปพาลูกๆไปเที่ยวทะเลครั้งแรก ถ่ายคลิปลงสระว่ายน้ำครั้งแรก ซึ่งแม้จะไม่มีโปรดักชั่นอะไรเลย แต่มันกลับถูกจริตของคนจำนวนมาก
ในปัจจุบัน เทรนด์ยูทูบของความเรียบง่าย และความ Real ได้รับความนิยมสูงมาก ผู้คนอยากเห็นวิถีชีวิตของคนทั่วไป ว่าทำอะไร คิดอะไร ไม่ต้องปรุงแต่งเยอะ แล้วเมื่อลุงพล ปล่อยคลิปชีวิตของตัวเองออกมาก็เลยตอบโจทย์พอดี
หลังเปิดยูทูบได้ 15 วัน มียอดคนซับสไครบ์ 166,000 คน ขณะที่คลิป "ลุงพลกินข้าวเช้า ป้าแต๋นถ่าย" ความยาว 2.20 นาที ทั้งคลิป ไม่มีอะไรเลย นอกจากลุงพลนั่งกินข้าวไข่ดาว มีคนวิวทั้งหมดเกือบ 9 แสน
29) ความดังของลุงพลไม่หยุดแค่นั้น เมื่อ จินตหรา พูนลาภ ศิลปินคนดังจับเอาลุงพล มาร้องเพลงพิเศษ เต่างอยฉบับ จินตหรา feat. ลุงพล โดยเอ็มวีปล่อยออกมาในวันที่ 30 สิงหาคม และใช้เวลาแค่ 2 วัน ทะยานขึ้นไป 2 ล้านวิว พร้อมติดอันดับ 1 ในมาแรง (#1 on Trending) ในประเทศไทย
30) ขณะที่ อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ นักปั้นดาราชือดัง ได้กล่าวว่าจะนำลุงพล มาเล่นในมิวสิควิดีโอ เพลง คนเดียวในดวงใจ ของธันวา ราศีธนู โดยลุงพลจะได้รับค่าตัวสูงถึง 100,000 บาท ต่อการเป็นเป็นพระเอกเอ็มวีชิ้นนี้ นอกจากนั้นยังมีข่าวลือ ว่าลุงพลได้รับการติดต่อจากสินค้าหลายชนิดให้เป็นพรีเซ็นเตอร์
31) สำหรับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับลุงพลนั้น ดร.อิษยา สินพงศพร หัวหน้าหลักสูตรการผลิตสื่อนวัตกรรม คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพอธิบายว่า
"ในภาพของสังคมไทย มีความเห็นใจผู้อื่นอยู่แล้ว กับเคสลุงพล เขาโดนแรงกดดันมาตลอดหลายเดือน ซึ่งเมื่อมีหลักฐานแสดงว่า เขามีโอกาสเป็นผู้บริสุทธิ์ คนไทยส่วนหนึ่งจึงมองว่า เขาควรได้รับการเยียวยาบางอย่าง นั่นเป็นที่มาของความโด่งดังของลุงพลในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคิดว่ามันคือปรากฏการณ์สร้างไอดอลที่ผิดเพี้ยน เพราะเชื่อว่าเราไม่ควรฟีเวอร์กับเรื่องแบบนี้ การคลั่งไคล้ลุงพลจะทำให้คนเบี่ยงประเด็นไปที่ความบันเทิง และลดความสำคัญในการติดตามคดี"
"และสื่อมวลชนในจังหวะนี้ ก็ควรให้คุณค่าอย่างถูกที่ รู้ว่าควรให้คุณค่ากับอะไรที่สุด ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องการสร้างไอดอลแน่"
32) ขณะที่ในสถานการณ์ล่าสุดเรื่องคดีความ ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าน้องชมพู่ขึ้นไปที่ป่าได้อย่างไร เดินไปเอง หรือมีคนพาไป แต่ด้วยความที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนทำให้คดี จะถูกยุติชั่วคราว
โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า "เมื่อพนักงานสอบสวนระบุว่าการตายไม่เกิดจากการกระทำผิดทางอาญา เช่นขาดน้ำ ขาดอากาศ ร่างกายไม่มีร่องรอยบาดแผล อัยการจะตรวจสำนวน แล้วส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พิจารณาเห็นชอบในการยุติคดี จนกว่าจะมีหลักฐานใหม่ โดยคดีนี้มีอายุความ 20 ปี"
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
สมอง 3 ส่วน 在 FoodTravelTVChannel Youtube 的精選貼文
คัพเค้กสมอง Brain Cupcake | Halloween Cupcake | เทศกาล Halloween
คัพเค้กสมองเป็นคัพเค้กสำหรับเทศกาลฮาโลวีนเพราะได้มีการใช้บัตเตอร์ครีมในการตกแต่งให้ด้านบนคัพเค้กนั้นเหมือนกับสมองและในคัพเค้กยังใส่ไส้สตรอเบอร์รี่อีกด้วย
http://www.foodtravel.tv/recipe.aspx?viewid=3037
วัตถุดิบคัพเค้กสมอง Brain Cupcake (เทศกาล Halloween)
สำหรับ 12 ชิ้น
เวลาในการทำ 45 นาที
1. ไข่แดง 3 ฟอง
2. น้ำตาลทราย(1) 35 กรัม
3. น้ำมันพืช 40 มิลลิลิตร
4. น้ำเปล่า 60 มิลลิลิตร
5. แป้งเค้ก 80 กรัม
6. ผงฟู 1/2 ช้อนชา
7. เกลือ 1/8 ช้อนชา
8. ไข่ขาว 3 ฟอง
9. น้ำตาลทราย(2) 35 กรัม
10. สีผสมอาหาร สีแดง
11. แยมสตรอเบอร์รี่ 200 กรัม
12. กลิ่นวานิลลา
ส่วนผสมบัตเตอร์ครีม
1. เนยสดจืด 100 กรัม
2. เนยสดเค็ม 100 กรัม
3. น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ
4. สีผสมอาหาร สีส้ม
อุปกรณ์ที่ใช้
ชามผสม ถุงบีบ ถาดอบ
วิธีทำคัพเค้กสมอง Brain Cupcake (เทศกาล Halloween)
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
2. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ และน้ำตาลให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำ น้ำมันลงไปผสมให้เข้ากัน
4. ใส่ไข่แดงและสีผสมอาหารสีแดงลงไป ผสมให้เข้ากัน
5. ตีไข่ขาวให้เป็นฟองหยาบๆ ทยอยใส่น้ำตาล(2) ลงไป ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน
6. นำไข่ขาวที่ตีไว้ไปผสมลงในส่วนผสมแรกที่พักไว้ แบ่งใส่ 3 รอบ
7. ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน
8. ตักใส่ถ้วยคัพเค้กประมาณครึ่งถ้วย อบไฟบนไฟล่างอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 8-10 นาที
9. นำเนยจืดและเนยเค็มตีด้วยความเร็วกลางจนเข้ากันใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป
10. ตีต่ออีก 3 นาที จนฟูปาดอ่าง 1 ครั้ง และใส่สีผสมอาหารลงไปและตีต่ออีก 3 นาที จนบัตเตอร์ครีมเนื้อฟูเนียน แบ่งไว้2 ส่วน
11. คัพเค้กเมื่ออบเสร็จแล้วพักให้เย็นสนิทแล้วเจาะรูตรงกลางใส่แยมสตรอเบอร์รี่ลงไป
12. นำคัพเค้กมาปาดบัตเตอร์ครีมให้เป็นโดม
13. นำบัตเตอร์ครีมใส่ถุงบีบ ตัดปลาย บีบเป็นเส้นให้เหมือนสมอง พร้อมจัดเสิร์ฟ

สมอง 3 ส่วน 在 กระตุ้นสมองส่วนหน้า “แก้ปัญหาการเงิน” - YouTube 的推薦與評價

กระตุ้น สมองส่วน หน้า “แก้ปัญหาการเงิน” | Stay Home Stay Healthy [Mahidol Channel] · Comments • 9. ... <看更多>
สมอง 3 ส่วน 在 สมอง Brain ส่วนประกอบของสมอง สมองซีกซ้าย รูปสมอง สมองส่วน ... 的推薦與評價
28 มิ.ย. 2015 - สมอง Brain ส่วนประกอบของสมอง สมองซีกซ้าย รูปสมอง สมองส่วนหน้า การทำงานของสมอง หน้าที่ ของสมอง ไขสันหลัง ระบบประสาท. ... <看更多>
สมอง 3 ส่วน 在 สมองแบ่งออกเป็นกี่ส่วนกันนะ?... - สมองของเราเป็นอย่างไรนะ 的推薦與評價
สมองส่วน ท้าย (Hindbrain) ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ซีรีเบลลัม (Cerebellum) ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัว และควบคุมกล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหว ... <看更多>