關於 สายตาสั้น คือ ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

#เรื่องเล่ายามดึก มีหลังไมค์มาถามว่า ดูหนังจีนหลายเรื่องมีฉาก "โรงเรียนจีนให้นักเรียนนวดตาในห้องเรียน" จึงเกิดความสงสัยว่า "ทำไปทำไม และเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างไรบ้าง"

.

พออ้ายจงได้รับคำถามหลังไมค์ inboxมาแบบนี้ อ้ายจงจึงอยากนำมาเล่าต่อครับ เพราะถือเป็นประเด็นในจีนที่น่าสนใจทีเดียว

.

สำหรับ "การนวดตาในชั้นเรียนของนักเรียนจีน" เป็นหนึ่งในวิธีที่ถูกนำมาใช้ป้องกันและแก้ปัญหา "สายตาสั้น" ที่ถือเป็นปัญหาสุขภาพของเด็กจีนที่ทางรัฐบาลจีนกำลังเอาจริงเอาจังมากในช่วงหลายปีมานี้

.

โดยการนวดตาแบบนี้ มีไอเดียพื้นฐานมาจากการแพทย์แผนจีน ซึ่งแม้ว่าจะมีหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า "การนวดตามันแก้ปัญหาสายตาสั้นได้จริงหรือไม่? โดยฝ่ายที่ตั้งข้อสงสัยระบุว่า งานวิจัยที่รองรับยังมีค่อนข้างน้อย" แต่โรงเรียนในจีนก็ยังคงให้นักเรียนนวดตา เพราะอย่างน้อยสามารถช่วยผ่อนคลาย ลดอาการเมื่อยล้าของการใช้สายตา จากการเรียนอย่างหนัก

.

ปัจจุบันจีนมีจำนวนประชากรสายตาสั้น 600-700ล้านคน โดยเฉพาะประชากรวัยเรียน โดย Wang Ningli ผู้อำนวยการศูนย์สายตา โรงพยาบาล Beijing Tongren เผยว่า "ปัญหาสายตาสั้นถือเป็นปัญหาสุขภาพที่พบมากในหมู่นักเรียนจีน อย่างนักศึกษาแพทย์ในจีน สายตาสั้นมากกว่า 90%ของจำนวนนักศึกษาแพทย์ทั้งหมด"

.

ด้าน Feng Dengli ประธานโรงพยาบาลด้านสายตาในกรุงปักกิ่ง Beijing Radiant Children's Eye Hospital ก็ให้ข้อมูลที่เป็นไปในทางเดียวกัน คือ 80%ของนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมีปัญหาสายตาสั้น และจากการสำรวจเด็กนักเรียน 62,000ในปักกิ่ง พบว่า 23%ของเด็กอนุบาล เริ่มมีปัญหาสายตา"

.

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ยกระดับปัญหาสายตาสั้น เป็นปัญหาสุขภาพระดับชาติที่ทางจีนต้องดำเนินแก้ไข โดยชูนโยบาย "ลดจำนวนคนสายตาสั้น โดยเฉพาะในเด็กจีน เช่น จำนวนนักเรียนม.ต้นที่สายตาสั้นจะต้องลดต่ำลง คือมีจำนวนไม่เกิน60% ภายในปี 2030 "

.

จากนโยบายของสีจิ้นผิงในการต่อสู้ปัญหาสายตาสั้น ทำให้ตอนนี้มีหลายแผนหลายวิธีการถูกนำมาใช้ อย่างยิ่งในโรงเรียนจีน เพราะเด็กจีนมีปัญหามากสุด แผนที่ถูกนำมาใช้ก็เช่น การนวดตา (อย่างที่เล่าในตอนต้น ซึ่งอันนี้จริงๆมีมานับสิบปีแล้ว), การงดใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนสิกส์ในห้องเรียน , มีกิจกรรมนอกห้องเรียนรวมถึงวิชาพลศึกษา ที่ทำให้เด็กไม่ต้องนั่งจ้องกระดานดำหรือตำราอยู่แต่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว เป็นต้น

.

เล่าโดย ปอ-ภากร กัทชลี หรือที่รู้จักในนาม "อ้ายจง"

------

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://blogs.wsj.com/chinarealtime/2015/04/21/chinese-children-rub-eyes-to-improve-vision/

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

ความรู้น่าสนใจมากสำหรับคนชอบ "ดำน้ำ" แต่ "สายตาสั้น"

คอนแทคเลนส์ ที่ใช้ควรเป็น Soft lenses ครับ เพราะจะแนบกับ กระจกตาได้ดีไม่มีช่องว่างให้เกิด ฟองอากาศไปแทรกตัวอยู่ และ ยังมีคุณสมบัติที่ ยอมให้ก๊าซและของเหลวซึมผ่านเข้าออกระหว่าง คอนแทคเลนส์และกระจกตาได้
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือเราควรเลือก soft lenses แบบ ใช้วันต่อวันแล้วทิ้ง ( one-day contact lens ) จะดีที่สุด

มีคำถามจากนักดำน้ำหลายๆ ท่าน ที่มีปัญหาเรื่องสายตา เกี่ยวกับการใส่คอนแทคเลนส์ ในการดำน้ำ ว่ามีข้อควรระวัง ควรปฏบัติอย่างไรบ้าง เนื่องจากหลายท่านอาจจะไม่สะดวกที่จะตัดเลนส์สายตาเพื่อประกบเข้ากับหน้ากากดำน้ำ และ เห็นว่าคอนแทคเลนส์ น่าจะสะดวกและคล่องตัวกว่า ซึ่งในการดำน้ำนั้น สามารถใช้คอนแทคเลนส์ได้ แต่ก็มีข้อแนะนำและข้อควรปฏิบัติดังนี้ครับ
1) คอนแทคเลนส์ ที่ใช้ควรเป็น Soft lenses ครับ เพราะจะแนบกับ กระจกตาได้ดีไม่มีช่องว่างให้เกิด ฟองอากาศไปแทรกตัวอยู่ และ ยังมีคุณสมบัติที่ ยอมให้ก๊าซและของเหลวซึมผ่านเข้าออกระหว่าง คอนแทคเลนส์และกระจกตาได้
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือเราควรเลือก soft lenses แบบ ใช้วันต่อวันแล้วทิ้ง ( one-day contact lens ) จะดีที่สุด ... จักษุแพทย์บางท่านถึงขนาดแนะนำว่า ถ้าจะให้ดี หนึ่งคู่ ต่อหนึ่ง dive ... แต่ ในส่วนตัวที่ผมใช้อยู่คือ หนึ่งคู่ ต่อหนึ่งวันครับ สิ่งที่ จักษุแพทย์กังวลคือ แบคทีเรียที่อยู่ในน้ำทะเล ที่อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงต่อกระจกตา โดยเฉพาะ แหล่งดำน้ำที่ใกล้ๆ ชายฝั่งมากๆ หรือ เป็นการดำในแหล่งน้ำจืดที่ปนเปื้อนและสกปรก ในกรณีนี้ ต้องระมัดระวังและ ควรเปลี่ยนให้บ่อยเข้าไว้ครับ

2)ในส่วนของ Hard lenses นั้นไม่แนะนำให้ใช้ครับ เพราะอาจเกิดปัญหามีฟองอากาศไปขังอยู่ระหว่างตัวคอนแทคเลนส์กับกระจกตา และ จะขยายขนาดเมื่อลดความกดบรรยากาศ ส่งผลทำให้กระจกตาเป็นแผล อักเสบ และติดเชื้อได้ครับ

3) ข้อเสียของการใส่คอนแทคเลนส์ คือ การหลุดระหว่างอยู่ใต้น้ำ อาจจะเกิดขึ้นในขณะ เคลียร์น้ำออกจากหน้ากาก หรือ การถอดใส่หน้ากากใต้น้ำแล้วมีการลืมตาใต้น้ำ ซึ่งหสกเกิดขึ้น ก็จะส่งผลทำให้มีปัญหาในการมองเห็นใต้น้ำ อาจจะนำไปสู่อาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ใต้น้ำได้ ซึ่งควรระมัดระวัง หากเกิดปัญหา อาจจะต้องแจ้งให้บัดดี้ทราบและยกเลิกการดำเพื่อขึ้นสู่ผิวน้ำครับ

4) คอนแทคเลนส์ พวก Big eye ทั้งหลาย ไม่แนะนำครับ เหตุเพราะมักมี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าปกติ อาจจะไม่โค้งแนบกับกระจกตาได้ดี เท่าคอนแทคเลนส์ธรรมดา ปัญหาคือ อาจจะหลุกได้ง่ายและ อาจมีฟองอากาศไปแทรกตัวอยู่ได้ ซึ่ง อาจทำให้กระจกตาเป็นแผล เมื่อฟองอากาศขยายตัวเวลาขึ้นสู่ผิวน้ำ

จากข้อแนะนำข้างต้น จะเห็นได้ว่า นักดำน้ำสามารถเลือกใช้การใส่คอนแทคเลนส์ในการดำน้ำได้ แต่ก็ควรเลือกชนิดให้เหมาะสม และการดูแลรักษาความสะอาดในการถอด ใส่ และล้างคอนแทคเลนส์ก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญเช่นกัน แต่ หากมีข้อสงสัยหรือพบความผิดปกติใดๆเกี่ยวกับสายตา และการมองเห็น ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำน้ำ นักดำน้ำควรพบแพทยเวชศาสตร์ใต้น้ำ เพื่อได้รับการประเมินและให้การแนะนำหรือรักษาพยาบาลต่อไปครับ

โดนแท็คมาจากพี่ @gypsophila.a ฮะ
1. ชื่อมารี เออเจนี เลอเลย์

2. ถึงจะชื่อมารี แต่นับถือพุทธนะก๊ะ

3. ที่ชื่อมารี เพราะพ่อตั้งมาจากเพลง Petite Marie ของ Francis Cabrel ส่วนเออเจนีเหมือนว่าพ่อจะเอาชื่อมาจากชื่อของย่าหรือยายของพ่อ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ

4. ชื่อเล่น ส้ม ที่ได้ชื่อนี้มาเพราะตอนแม่ท้องแม่กินส้มทุกวัน วันละ 3 กิโล (นางบอกพอคลอดปุ๊บ อาการอยากมันหายไปเลย ถึงขั้นด่าพ่อว่าซื้อมาทำไม เอาไปไกลๆ อ่าว!) 5. อายุ 22 ปี สูง 160 หนัก 39

6. ตอนเด็กๆใฝ่ฝันอยากเป็นโจรสลัด บ้าหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean มาก มีอีเมลล์ที่ใช้ตั้งแต่เด็กที่ตั้งว่า pirate_som_sparrow@hotmail.com ซึ่งเมลล์นี้ยังใช้อยู่บ้าง ไว้สมัครเกม 555

7. นอกจากไพเรทแล้ว ฉันยังบ้า Disney และ Harry Potter มากๆ เข้าขั้นเนิร์ด

8. ผู้ชายในสเปคด้านหน้าตาของฉันคือ Zac Efron ส่วนด้านความมีสเน่ห์แบบสุดๆคือ Bruno Mars (โคดเซ็กซี่ค่ะ พูดเลย)

9. ดิฉันเป็น Swifties! เป็นแฟนคลับตัวยงของ Taylor Swift!! และนั่นทำให้พยายามฝึกเล่นกีต้าร์ด้วยตัวเอง

10. เป็นเด็กติดกาแฟมาตั้งแต่อายุ 16 ทำให้เพลงแรกที่ฉันแต่งเองเลยมีชื่อว่ากาแฟ ใครนึกสนุกอยากจะลองค้นดูใน iTunes ดูก็ได้นะเออ!

11. ชอบกินช็อคโกแลตและขนมหวานมาก แบบที่ว่าไม่ต้องกินข้าวก็ได้ ขอมีขนมก็อยู่ได้ทั้งวัน

12. ชอบกินชีสทุกประเภท

13. เชฟที่ทำอาหารอร่อยที่สุดในโลกคือพ่อกับแม่ ไม่เคยกินของที่ไหนแล้วรู้สึกว่าจะอร่อยกว่า 2 คนนี้ทำซักที

14. เนื่องจากพ่อกับแม่ทำอาหารได้อร่อยโคดๆชนิดที่ใครได้กินก็ติดใจหมด มันเลยกลายเป็นว่าฉันถูกสปอยด้วยอาหารอร่อยๆมาตลอดจนไม่คิดจะทำเอง สุดท้ายฉันทำอาหารไม่เป็น!

15. เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่กิน คือ เนื้อและมะละกอสุก

16. เป็นคนขี้น้อยใจ ใครพูดไรนิดหน่อยก็ชอบเก็บไปคิด ชอบประสาทแดกน้อยใจโชคชะตาอยู่บ่อยครั้งแต่ซักพักมันก็จะหายไปเอง

17. ชอบอากาศอุ่นๆ ไม่ชอบอากาศหนาวเป็นคนหนาวง่ายมาก ชอบอาบน้ำอุ่น แต่คนอื่นมาอาบต่อชอบว่ามันไม่อุ่น แต่เรียกว่าร้อน

18. สายตาสั้น 225 และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (แง) 😩😩😩 19. เป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส ที่พูดไม่ค่อยได้
20. แม้ภายนอกจะดูเรียบร้อย พูดน้อย แต่เวลาอยู่กับเพื่อน หรือคนที่สนิทมากๆจะเป็นคนห้าวเป้งและหยาบคาย 555555 ไม่เชื่อต้องลองมาสนิทกันดูนะก๊ะ
อ่ะ ครบแล้ว 20 ข้อ แต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็น ไม่งั้นคงต้องร่ายเกิน 1000 ข้อแน่ๆ สำหรับคนที่โดนแท็ค ก็ลองดูนะคะว่างๆค่อยทำก็ได้ รู้ว่าต้องใช้เวลา 555 เดี๋ยวจะตามไปอ่าน อิอิ 😁

เนื่องในเทศกาลกับคุณมัม
ก็เลยพาแม่มาตัดแว่นเป็นของขวัญ 555555
คือ ดรีมกับแม่เราไม่ได้ตัดแว่นกันมาเป็นปีแง้ว

และก็ถือโอกาสมาวัดค่าสายตาเพิ่มด้วย
แบบแว่นที่นี่ชิคมากกกก ชอบมาก
ขนาดไหนไปดูเลยพี่จ๋า

??? ????:
♡????: (K.Dia) 099-056-5465
♡?????: dreamnachon@gmail.com
????? ???
#NcColoristastyle
#NcColoristareview

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าส้มไม่ได้รับการสปอนเซอร์หรือลดราคาอะไรนะคะ (นอกจากส่วนลดในการแจ้งชื่อเพื่อนที่เคยทำ ซึ่งได้ลด 5,000 บาท กับการจ่ายเงินสดแล้วได้ส่วนลดเพิ่มอีก 1,200 บาท) เพียงแต่อยากแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่อยากทำ ซึ่งแต่ละที่และแต่ละแบบก็จะมีราคาที่แตกต่างกัน แต่ผลไม่ต่างกันค่ะ อันนี้แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลย

เริ่มเลยเนอะ ส้มสายตาสั้นมาตั้งแต่เด็กนะคะ แล้วสายตาก็นิ่งที่ สั้น 250 ทั้งสองข้าง และเอียงนิดหน่อยมาซักพักใหญ่ๆ เลยตัดสินใจไปทำ ซึ่งหลังจากหาข้อมูลมา ส้มก็ตัดสินใจไปทำเลสิกที่ TRSC ค่ะ ทำกับคุณหมอสุกานดา เลือกทำแบบ ReLex ซึ่งการทำแบบนี้มีแค่ 3-4 ที่ในประเทศไทย

การผ่าตาทำเลสิกเพื่อแก้ให้สายตาปกตินั้น เท่าที่ส้มรู้คือมี 3 แบบ

แบบแรกคือราคาถูกสุด คือ Lasik เป็นแบบที่ใช้ใบมีดในการผ่ากระจกตา ราคาตั้งแต่ 33,000-79,000 บาท

แบบที่สองคือ FemtoLasik อันนี้จะใช้เลเซอร์ในการผ่าอทนใบมีด ราคาก็จะสูงขึ้น การพักฟื้นก็จะสั้นลง ราคาอยู่ที่ประมาณ 48,000-115,000 บาท

ส่วน ReLex ที่ส้มทำนั้น จะไม่ใช่การผ่าเปิดกระจกตาเหมือนสองแบบแรก แต่คือการที่ยิงเลเซอร์เข้าไปที่ตาเพื่อแยกชั้นกระจกตา แล้วคุณหมอจะดึงเอากระจกตาที่ถูกแยกออก โดยจะเป็นแผลที่เล็กมากๆ พักฟื้น 1 คืนก็ใช้ตาได้ปกติเลยค่ะ อันนี้จะราคา 99,000-135,000 บาท แล้วแต่ที่ค่ะ

ตอนผ่าไม่เจ็บเลยค่ะ เพราะมีการหยอดยาชาเยอะมากๆ ส่วนตอนยาชาหมดฤทธิ์จะมีอาการเคืองตานิดหน่อยตอนกระพริบตา เคืองเหมือนเวลาเราใส่คอนแทคเลนส์แล้วเคือง ซึ่งกลับบ้านปุ๊บ ส้มก็กินยานอนหลับที่หมอให้แล้วหลับยาว พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เจ็บแล้ว สบายมาก

ทำเสร็จ วันรุ่งขึ้นเราก็จะต้องกลับมาให้คุณหมอเปิดที่ครอบตาออกให้ ก็จะมีการตรวจแผลนั่นนี่ค่ะ ซึ่งคุณหมอบอกว่า ReLex ดีตรงที่ 5 ชั่วโมงแผลก็ปิดแล้ว

หลังทำเราต้องห้ามล้างหน้า ห้ามน้ำโดนตา 3 วันเต็ม ถ้าจะสระผมต้องไปที่ร้านเท่านั้น แล้วก็ห้ามแต่งหน้าเป็นเวลา 1 อาทิตย์นะคะ

ตอนนี้ส้มทำมาอาทิตย์กว่าแล้ว ปัญหาที่เจอมีแค่ตาแห้ง แต่จะค่อยๆดีขึ้น ต้องหมั่นหยอดน้ำตาเทียมระหว่างวัน ส่วนการมองเห็นนี่ ชัดแจ๋วยิ่งกว่าตอนใส่แว่นกับคอนแทคเลนส์ซะอีกค่าา