ทุกวันนี้เวลาเลื่อนหน้าฟีดในโซเชียล เราจะเห็นเรื่องราวของคนสำเร็จมากมายที่สื่อต่างๆ ทำออกมานำเสนอเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน
.
แต่สิ่งที่น่าคิดคือ จริงๆ แล้วยังมีคนจำนวนมากที่กำลังดิ้นรนไต่เต้าอยู่ระหว่างทาง บางคนก็ผิดพลาดและยังล้มลุกคลุกคลานอยู่
.
ส่วนผู้แพ้ หรือ ผู้ที่ล้มเหลวส่วนใหญ่มักจะถูกเล่าผ่านข่าวต่างๆ ที่สำคัญวิธีการนำเสนอส่วนใหญ่ ก็จะนำเสนอแค่ว่าเขาทำอะไร เจ๊งอย่างไร และ เสียหายไปเท่าไหร่ แต่แทบไม่ได้ให้บทเรียนแก่ผู้คนเลย
.
นั่นทำให้คนผิดพลาดจึงถูกมองว่าเป็นปีศาจ เราจึงกลัว และรู้สึกว่า “ฉันพลาดไม่ได้”
.
ทุกวันนี้จึงมีคนรุ่นใหม่มากมายที่เต็มไปด้วยความฝันแต่ไม่กล้าลงมือทำ เพราะกลัวว่าทำไปแล้วจะล้มเหลว ทำไปแล้วจะไม่สำเร็จ
.
คำถามคือ ความล้มเหลว มันน่ากลัวและน่าอับอายขนาดนั้นจริงเหรอ ?
.
เรื่องเล่าหนึ่งของกองทัพสปาตันในยุคสังคมกรีกที่นิยมเล่าต่อกันมา หรือ ที่เรารู้จักกันดีในภาพยนตร์เรื่อง 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก
.
ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 480 ปีก่อนคริสตกาล กองทัพขนาดใหญ่จากเปอร์เซียพยายามที่จะรุกรานกรีก แต่นักรบสปาตันที่มีจำนวนเพียง 300 คน นำโดยกษัตริย์ลีโอไนดัส (Leonidas) ได้ขัดขวางกองทัพเปอร์เซียไว้ที่เธอร์โมพิแล
.
การต่อสู้อย่างกล้าหาญของชาวสปาตันกินเวลา 3 วัน พวกเขายืนหยัดสู้จนกระทั่งคนสุดท้ายล้มลง และพ่ายแพ้ในที่สุด
.
ตำนานหนึ่งกล่าวไว้ว่า หลังจากนักรบสปาตันถูกหักดาบของพวกเขาทิ้ง นักรบสปาตันก็ต่อสู้กับเปอร์เซียด้วยฟันและมือเปล่า
.
ถามว่าชาวสปาตันล้มเหลวหรือเปล่า ?
.
คำตอบคือ ใช่
.
แต่นั่นก็เป็นความพ่ายแพ้ที่สง่างาม…
.
ในสมัยที่ผมเป็นนักกีฬาเทควันโด แน่นอนการแข่งขันมันต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้แพ้ แต่การพ่ายแพ้นั้นจะมีอยู่ 2 แบบ
.
คือ การแพ้แบบไม่สู้ กับ การแพ้ที่เกิดจากการสู่สุดใจ ซึ่งการแพ้แบบหลังมักจะได้รับการปรบมือจากคนดูในสนาม และ มักจะได้รับคำชมจากโค้ชว่า “ถ้าแพ้ แต่ได้ใจแบบนี้ ไม่เป็นไร ทำสุดยอดแล้ว ครั้งหน้าเอาใหม่” แต่ถ้าแพ้แบบไม่สู้ แน่นอนว่าสุดท้ายเราก็ต้องสู้กับคำวิจารณ์อยู่ดี
.
สิ่งที่อยากจะชวนคิด คือ วันนี้เราอาจตั้ง “เป้าหมาย” ชีวิต คือ การเดินทางสู่ “ความสำเร็จ” แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่าเราเองก็สามารถมี “คุณค่า” ในภาวะ “ล้มเหลว” ได้เหมือนกัน เพราะหัวใจสำคัญของความล้มเหลวคือ การเรียนรู้เพื่อให้ได้ "บทเรียน"
.
ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ การเห็นความสวยงามในความล้มเหลวของตัวเองอย่าไปคิดว่ามันคือเป็นเรื่อง “น่ากลัว”
.
เพราะถ้าเรามัวแต่กลัวล้มเหลวเราจะไม่มีวันเป็นคนที่เก่งหรือดีกว่าเดิมได้ แต่ถ้าเราพร้อมที่จะ “เรียนรู้” เราจะได้รับ “บทเรียน” จากความล้มเหลวเสมอ
.
อย่างที่ เจ.เค. โรว์ลิง เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ไม่มีทางที่ใครจะใช้ชีวิตโดยที่ไม่เคยล้มเหลวกับอะไรเลย ยกเว้นในกรณีที่คุณใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากเสียจนคุณไม่เกิดมาเลยจะดีกว่า”
.
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าวันนี้คุณจะเจอกับอะไร ถึงแม้ว่าความสำเร็จยังอยู่อีกห่างไกล ขอให้จำไว้ว่า “แพ้ได้ แต่เราต้องไม่ยอมแพ้” อย่างที่ชาวสปาตันได้แสดงให้เราเห็นจนเป็นตำนานเล่าขานกันมาจนถึงทุกวันนี้...
.
.
Ref : หนังสือ เรื่องนี้ดี รู้งี้อ่านนานแล้ว
同時也有18部Youtube影片,追蹤數超過4萬的網紅สาระ ศาสตร์,也在其Youtube影片中提到,#สาระ #แนวคิด #ความรู้ #สาระศาสตร์ #หนังสือ จุดประสงค์ของช่องนี้ผมตั้งใจทำเพื่อให้คนที่รักการอ่านแต่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ และช่วยให้นักอ่านได้มีข้อมู...
「หนังสือ ชีวิต」的推薦目錄:
- 關於หนังสือ ชีวิต 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
- 關於หนังสือ ชีวิต 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
- 關於หนังสือ ชีวิต 在 หมอแพมชวนอ่าน Facebook 的最佳貼文
- 關於หนังสือ ชีวิต 在 สาระ ศาสตร์ Youtube 的最讚貼文
- 關於หนังสือ ชีวิต 在 สาระ ศาสตร์ Youtube 的精選貼文
- 關於หนังสือ ชีวิต 在 สาระ ศาสตร์ Youtube 的最讚貼文
- 關於หนังสือ ชีวิต 在 รวมหนังสือ 5 เล่มที่เพิ่มพลังชีวิตให้คุณ | ฟังยาว ๆ เล่า ... 的評價
- 關於หนังสือ ชีวิต 在 สรุปให้ - สรุปหนังสือ: “ชีวิตดี เป็นยังไง” How Life Works... 的評價
หนังสือ ชีวิต 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
เพื่อนในเฟซบุ๊กของผมมีรุ่นน้องในวัย 20-35 ปีอยู่ไม่น้อย สัมผัสได้ถึงพลังความฝันและความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานมากมายตามเส้นทางที่ตัวเองถนัด จำนวนมากเป็นคนเก่ง ไม่ใช่เก่งธรรมดา แต่เก่งมาก หากมีพื้นที่และโอกาสเชื่อว่าเขาสามารถทำผลงานในระดับเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเก่งๆ ในโลกนี้ได้เลย จะว่าไปในภาพรวมคนรุ่นนี้เก่งกว่าคนรุ่นผมอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงสามปีมานี้ สิ่งที่พบเจอผ่านสเตตัสของเพื่อนรุ่นน้องสะท้อนอารมณ์ทำนองเดียวกันออกมา นั่นคือหมดแรง ท้อใจ เลยไปจนถึงสิ้นหวัง ผมคิดว่าความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้เกิดจากตัวเขาเอง หากเกิดจากความรู้สึกสะสมที่ต่อสภาพสังคม เศรษฐกิจ การบริหารงานของรัฐบาล รวมถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่หมักหมมมาเนิ่นนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นนี้เชื่อมโยงชีวิตตัวเองเข้าเป็นเนื้อเดียวกันไปแล้ว
พวกเขาทราบดีว่าตัวเองย่อมมีโอกาสในชีวิตที่ดีกว่านี้หากรัฐแห่งนี้มีความเสมอภาคในเรื่องต่างๆ มากกว่าที่เป็นอยู่ หากมีตัวแทนของประชาชนที่แท้จริง (ไม่ใช่ตัวแทนสว.) เข้าไปดำเนินนโยบายที่ส่งผลดีต่อคนวงกว้าง ไม่ใช่ทุนใหญ่ หากมีสวัสดิการสังคมที่ดี ค่ารักษาพยาบาล การศึกษา สิ่งเกื้อกูลทางปัญญาและชีวิตที่เป็นสาธารณะ พวกเขาจะไม่ต้องแบกรับภาระไว้บนบ่าหนักหนาแบบที่เป็นอยู่
แต่นั่นก็เป็นความหนักหนาเรื่องการดำเนินชีวิต ทว่าที่กัดกร่อนอยู่ข้างในดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับ 'ผู้ใหญ่' ที่มีอำนาจในบ้านเมืองที่ให้ความรู้สึกเหมือนครูฝึกดุๆ ในค่ายฝึกวินัย ที่มีบุคลิกภาพไม่เปิดกว้างและไม่ค่อยเป็นไปอย่างที่ผู้นำในโลกยุคใหม่ควรเป็น การตื่นเช้ามาเจอ 'ครูฝึก' แบบนี้ทุกวันก็บั่นทอนจิตใจของหนุ่มสาวในวัยก่อร่างความฝัน ยังไม่นับถึงการเปิดพื้นที่สำหรับการมีส่วนร่วมในการคิด ฝัน และทำอย่างมีเสรีภาพ ถกเถียงกันในเรื่องที่ควรเถียง วิพากษ์วิจารณ์เพื่อปรับปรุงแก้ไข ซึ่งคับแคบเหลือเกิน
เหมือนดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้เมฆดำที่พร้อมจะมีฟ้าผ่าลงมาทุกเมื่อ หากทำอะไรไม่ถูกใจ หากฝันก็ฝันอยู่ภายใต้เมฆดำแห่งอำนาจนี้ ที่คนรุ่นนี้เศร้าก็เพราะไม่รู้ว่าจะออกไปจากเมฆยักษ์นี้ยังไง แล้วเมื่อไหร่จะเคลื่อนผ่านไป
...
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าช่วงเวลา 20-35 ปีเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตมีพลัง มีความฝัน และความคิดอยากสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ เราเรียนจบมา ทำงาน สะสมประสบการณ์มาถึงจุดหนึ่ง เราก็อยากแสดงพลัง ปล่อยแสง สร้างอาณาจักรให้เกิดขึ้นบนโลกและสังคมที่เราอาศัย
นี่คือวันวัยที่เป็นกำลังสำคัญของสังคม
จะน่าเสียดายแค่ไหนถ้าเราทำให้คนในวัยนี้ต้องบอบช้ำ หมดไฟ หมดพลังสร้างสรรค์ มากกว่านั้นคือจิตตกหดหู่ไปจนถึงซึมเศร้า กลายเป็นหัวใจที่มีบาดแผล
ตามข้อมูลมักบอกว่าเจนวายเป็นรุ่นที่ชีวิตไม่ง่าย เพราะเกิดมาในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนไว ข้อมูลล้นทะลัก การเปรียบเทียบผ่านโซเชียลมีเดีย แถมยังต้องแบกความคาดหวังของพ่อแม่และตัวเอง หากมองกันเฉพาะสังคมไทย เจนวายมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย เมื่อเผชิญสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้บวกกับโควิดเข้าไปอีก เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยจริงๆ
ในช่วงเวลาที่การงานและธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบ คนรุ่นนี้หลายคนที่กำลังไปได้ดีกลับต้องสะดุดลง งานที่กำลังทุ่มเทต้องหยุด กิจการคึกคักต้องปิด บางคนต้องเลิก บางทีมต้องแยกย้าย เมื่อหันไปมองการบริหารงานของภาครัฐในแต่ละวันก็ได้แต่ส่ายหัว กลุ้มใจ ไม่แปลกอะไรเลยที่เราจะได้เห็นคำด่ามากมายออกจากนิ้วของคนรุ่นนี้ (ซึ่งจะว่าไปก็ทุกรุ่นนั่นแหละ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับคนที่แก่กว่าก็อาจบ่นน้อยกว่านี้หากมองภาพรวม เพราะคนรุ่นนี้อยู่ในวัยที่มีฝัน มุ่งมั่น คาดหวังกับตัวเองได้ พวกเขากำลังสร้างโลกที่อยากเห็น แต่ดูเหมือนสิ่งแวดล้อมจะไม่เอื้ออำนวยนัก)
...
เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่มีข้อสรุปใดๆ แค่รู้สึกเห็นใจและเสียดาย เวลาที่เห็นคนรุ่นนี้ต้องใช้พละกำลังและหัวจิตหัวใจไปกับความเครียดรวมถึงปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ และแม้อยากช่วยแก้ไขก็ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกกล่าวหาเป็นเด็กดื้อ
บรรยากาศของยุคสมัยในรุ่นของพวกเขาตื่นเช้ามาเจอข่าวร้าย ตกตอนสายไทม์ไลน์ท่วมด้วยคำด่าและความโกรธ (ซึ่งสมเหตุสมผล) บ่ายก็เจอพฤติกรรมน่าเหนื่อยหน่ายของผู้มีอำนาจ ตกเย็นก็อดด่าอีกรอบไม่ได้ จะเข้านอนก็รู้สึกหมดแรง ความรู้สึกลบยังเวียนวน บางคนอาจโทษตัวเองว่าทำไมฉันทำได้แค่นี้ ทั้งที่ฉันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ มากกว่านี้
อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่า จะเป็นยังไงถ้าคนหนุ่มสาวรุ่นนี้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่เปิดกว้าง มีผู้นำที่รับฟัง เห็นศักดิ์ศรีของคนเท่าเทียมกัน มีพื้นที่ร่วมกันสร้างสรรค์อย่างหลากหลาย มีนโยบายสนับสนุนคนมีฝันทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มิใช่หนุนหลังยักษ์เท่านั้น จะเป็นยังไงถ้าแวดวงต่างๆ ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ อาหาร หนัง เพลง หนังสือ ศิลปะ แฟชั่น เกม กีฬา วิทยาศาสตร์ ฯลฯ โดยไม่มีอุดมการณ์คับแคบมาครอบงำ จะเป็นยังไงถ้ามีคนที่เป็นตัวแทนของพวกเขาได้เข้าไปในสภา อยู่ในคณะรัฐมนตรี มองไปข้างหน้า แก้ปัญหาเรื้อรังต่างๆ กำหนดนโยบายที่ทันสมัย มีวิสัยทัศน์ เลือกวัฒนธรรมที่น่าสนใจมาขยายผล ผลักดันคนเก่งๆ ดันหลังสตาร์ทอัพ ลดความเหลื่อมล้ำทางโอกาส ไม่มีเส้นสาย นามสกุลอะไรก็แข่งอย่างเท่าเทียม ไม่มีการได้เปรียบจากมรดก เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน รวมถึงรับฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์
ชีวิต ความฝัน และความรู้สึกของพวกเขาจะเป็นยังไง
จะเปลี่ยนไปจากตอนนี้มากน้อยแค่ไหน
...
จิตใจที่บอบช้ำจากสิ่งที่สังคมเป็น จากการที่ผู้มีอำนาจกระทำทุกวี่วัน เป็นบาดแผลที่น่าเสียดาย ทุกครั้งที่มีเรื่องราวบิดเบี้ยวศีลธรรมอย่างแป้งมันหรือนาฬิกาเพื่อน มันฝากบาดแผลไว้ในใจคน ทุกครั้งที่มีข่าวที่อธิบายไม่ได้อย่างการจัดซื้อวัคซีน มันบั่นทอนความรู้สึก คอร์รัปชั่น การด้อยความสามารถ ความไม่จริงใจ การถือตนเป็นใหญ่ไม่ฟังใคร รวมถึงกริยาอาการที่ไม่เห็นหัวคนอื่น เหล่านี้ค่อยๆ กัดกร่อนหัวใจที่เปี่ยมฝันให้กลายเป็นใจที่บอบช้ำและสิ้นไร้เรี่ยวแรง
จากคนเก่งค่อยๆ ร่วงหล่นกลายเป็นคนสิ้นหวัง
เราเสียโอกาสที่จะเกิดจากพลังสร้างสรรค์ไปเท่าไหร่แล้ว?
สังคมนี้และผู้มีอำนาจในบ้านเมืองกระทำอะไรกับ 'ความฝัน' และ 'ความหวัง' ของสังคม เหมือนพวกเขาตกเป็นเหยื่อของโครงสร้างอัปลักษณ์ที่แข็งทื่อไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ยืดหยุ่น ไม่รับฟัง
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เราจะค่อยๆ เห็นคนหนุ่มสาวร่วงหล่นไปตามทางเรื่อยๆ ไม่ใช่ไม่สู้ แต่พวกเขาสู้จนเหน็ดเหนื่อยและสิ้นหวังแล้ว หลายคนจำเป็นต้องหลบไปเยียวยาจิตใจตัวเองก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
'ความหวัง' เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตและความฝัน ไม่ว่าของคนรุ่นไหน แต่ยิ่งในวันวัยที่เราให้ความสำคัญกับความฝันและการก่อร่างชีวิต หากปราศจากความหวังในชีวิตและบ้านเมืองเสียแล้ว ชีวิตที่ตื่นมาทุกวันย่อมน่าหดหู่
ผมค่อยๆ เห็นสเตตัสของเพื่อนรุ่นน้องร่วงหล่นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เห็นใจและเสียดาย
ยอมรับว่าบางครั้งผมเองก็รู้สึกสิ้นหวังไม่ต่างจากพวกเขา
หนังสือ ชีวิต 在 หมอแพมชวนอ่าน Facebook 的最佳貼文
ดีใจ และ ภูมิใจ มากๆ ที่ได้เป็นส่วนเล็กๆ
ของหนังสือ #ประถม4.0
อาจารย์ประเสริฐ เอ่ยชื่อ บนหน้าเพจ😆
ในฐานะ top fan เรียกว่า
"ชีวิต ติ่ง เติมเต็มแล้วค่ะ"
ปล. หนังสือ ประถม 4.0 หมออ่าน 2 รอบ
อาจารย์เขียนได้ดีมากๆ มีปล่อยมุกเป็นระยะ
ครึ่งหลังให้เราเห็นภาพผ่าน ตัวละคร
เป็นหนังสือ ที่เนื้อหาหนัก แต่พวกเราอ่านแบบย่อยมาแล้ว...เอาประโยชน์ไปใช้ได้เลย
ถ้าหนังสือวางขาย เชียร์หนักมากค่ะเล่มนี้
หนังสือ ชีวิต 在 สาระ ศาสตร์ Youtube 的最讚貼文
#สาระ #แนวคิด #ความรู้ #สาระศาสตร์ #หนังสือ
จุดประสงค์ของช่องนี้ผมตั้งใจทำเพื่อให้คนที่รักการอ่านแต่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ และช่วยให้นักอ่านได้มีข้อมูลในการตัดสินใจก่อนซื้อหนังสือซักเล่ม หนังสือทุกเล่มที่เลือกอ่านลงช่องนี้คือหนังสือที่ผมได้ซื้อและอ่านเองจนจบแล้วทุกเล่ม ผมเชื่อว่าหนังสือดีๆ เพียงหนึ่งเล่มสามารถเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้ และหวังว่าหนังสือเสียงทุกเล่มในช่องนี้จะช่วยทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น
สำหรับคนชอบอ่าน ผมได้เขียนบทความเอาไว้ที่นี่ http://bit.ly/2nTdvYr
สำหรับคนที่อยากอ่านอะไรสั้น ผมได้เขียนเอาไว้ที่นี่ https://twitter.com/M0l30T
สำหรับคนที่เล่นเฟซบุ๊คมากกว่า ผมมีเพจที่นี่ http://bit.ly/2DnkUVM
ขอบคุณทุกคนจากใจจริงที่ยังติดตามและสนับสนุนกันอยู่นะครับ
หนังสือ ชีวิต 在 สาระ ศาสตร์ Youtube 的精選貼文
#สาระ #แนวคิด #ความรู้ #สาระศาสตร์ #หนังสือ
จุดประสงค์ของช่องนี้ผมตั้งใจทำเพื่อให้คนที่รักการอ่านแต่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ และช่วยให้นักอ่านได้มีข้อมูลในการตัดสินใจก่อนซื้อหนังสือซักเล่ม หนังสือทุกเล่มที่เลือกอ่านลงช่องนี้คือหนังสือที่ผมได้ซื้อและอ่านเองจนจบแล้วทุกเล่ม ผมเชื่อว่าหนังสือดีๆ เพียงหนึ่งเล่มสามารถเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้ และหวังว่าหนังสือเสียงทุกเล่มในช่องนี้จะช่วยทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น
สำหรับคนชอบอ่าน ผมได้เขียนบทความเอาไว้ที่นี่ http://bit.ly/2nTdvYr
สำหรับคนที่อยากอ่านอะไรสั้น ผมได้เขียนเอาไว้ที่นี่ https://twitter.com/M0l30T
สำหรับคนที่เล่นเฟซบุ๊คมากกว่า ผมมีเพจที่นี่ http://bit.ly/2DnkUVM
ขอบคุณทุกคนจากใจจริงที่ยังติดตามและสนับสนุนกันอยู่นะครับ
หนังสือ ชีวิต 在 สาระ ศาสตร์ Youtube 的最讚貼文
#สาระ #แนวคิด #ความรู้ #สาระศาสตร์ #หนังสือ
จุดประสงค์ของช่องนี้ผมตั้งใจทำเพื่อให้คนที่รักการอ่านแต่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ และช่วยให้นักอ่านได้มีข้อมูลในการตัดสินใจก่อนซื้อหนังสือซักเล่ม หนังสือทุกเล่มที่เลือกอ่านลงช่องนี้คือหนังสือที่ผมได้ซื้อและอ่านเองจนจบแล้วทุกเล่ม ผมเชื่อว่าหนังสือดีๆ เพียงหนึ่งเล่มสามารถเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้ และหวังว่าหนังสือเสียงทุกเล่มในช่องนี้จะช่วยทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น
สำหรับคนชอบอ่าน ผมได้เขียนบทความเอาไว้ที่นี่ http://bit.ly/2nTdvYr
สำหรับคนที่อยากอ่านอะไรสั้น ผมได้เขียนเอาไว้ที่นี่ https://twitter.com/M0l30T
สำหรับคนที่เล่นเฟซบุ๊คมากกว่า ผมมีเพจที่นี่ http://bit.ly/2DnkUVM
ขอบคุณทุกคนจากใจจริงที่ยังติดตามและสนับสนุนกันอยู่นะครับ
หนังสือ ชีวิต 在 สรุปให้ - สรุปหนังสือ: “ชีวิตดี เป็นยังไง” How Life Works... 的推薦與評價
สรุปหนังสือ: “ชีวิตดี เป็นยังไง” How Life Works สิ่งดี ๆ เกิดกับชีวิต แค่คิดเป็น ทุกสิ่งในชีวิต เริ่มต้นที่กดสวิตซ์ ความรู้สึก…ดี ผู้เขียน: Andrew... ... <看更多>
หนังสือ ชีวิต 在 รวมหนังสือ 5 เล่มที่เพิ่มพลังชีวิตให้คุณ | ฟังยาว ๆ เล่า ... 的推薦與評價
รวมหนังสือ 5 เล่มที่เพิ่มพลังชีวิตให้คุณฟังยาว ๆ กับเล่าหนังสือ LONGPLAY 01| The BookTeller Podcast อยากได้หนังสือ 5 เล่มนี้ ... ... <看更多>