同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過19萬的網紅ช่องแม่นนะหนึ่ง 88,也在其Youtube影片中提到,#หลวงพ่อบุญเสริม #ถูกหวย #แก้กรรม พระครูวิมลธรรมรัตน์ หลวงพ่อบุญเสริม ธัมมปาโล วัดป่าสวนกล้วย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่านเกิด ณ บ้านหนองตาโผ่น บ้...
「หลวงพ่อบุญเสริม」的推薦目錄:
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 ตีสองสยองขวัญ Facebook 的最佳解答
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 ตีสองสยองขวัญ Facebook 的最讚貼文
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 ตีสองสยองขวัญ Facebook 的最讚貼文
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 ช่องแม่นนะหนึ่ง 88 Youtube 的最佳解答
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 ช่องแม่นนะหนึ่ง 88 Youtube 的最佳解答
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 ช่องแม่นนะหนึ่ง 88 Youtube 的最佳解答
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม - ทุกข์มันอยู่ที่ไหน ทำไมเราถึงเป็นทุกข์ - YouTube 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม - ทำอย่างไร ไม่ต้องไปวัด ก็ได้บุญ - YouTube 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 ชีวิตทางโลก #หลวงพ่อบุญเสริม - YouTube 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม ธมฺมปาโล พระครูวิมลธรรมรัตน์ Chalao ... 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม เป็นพระเทศน์ตลก ตอน ขัดใจแม่ - YouTube 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม ธมฺมปาโล เทศนาเรื่องนักบวช - YouTube 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม ธมฺมปาโล เทศนา๒ ชีวิตทางโลก - YouTube 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม ธมฺมปาโล เทศนาเรื่องข้อวัตรปฏิปทาวัดหนองป่าพง ... 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม เป็นพระเทศน์ตลก ตอน สาวซำน้อย ฮามาก - YouTube 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม | By วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม | Facebook - Facebook 的評價
- 關於หลวงพ่อบุญเสริม 在 เล่าเรื่องวัดหนองป่าพง โดย หลวงพ่อบุญเสริม ธมฺมปาโล - Pinterest 的評價
หลวงพ่อบุญเสริม 在 ตีสองสยองขวัญ Facebook 的最讚貼文
หลวงพ่อบุญเสริม 在 ตีสองสยองขวัญ Facebook 的最讚貼文
หลวงพ่อบุญเสริม 在 ช่องแม่นนะหนึ่ง 88 Youtube 的最佳解答
#หลวงพ่อบุญเสริม #ถูกหวย #แก้กรรม
พระครูวิมลธรรมรัตน์ หลวงพ่อบุญเสริม ธัมมปาโล วัดป่าสวนกล้วย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ท่านเกิด ณ บ้านหนองตาโผ่น บ้านเลขที่ 125 ถนนกันทรลักษ์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองตาโผ่น (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองตาโผ่น) และเข้าเรียนต่อชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - 7 โรงเรียนวารินชำราบ บิดา มารดา เป็นคนขยันขันแข็ง มีอาชีพค้าขาย จึงเข้าไปค้าขายในตลาดอำเภอวารินชำราบ ในช่วงหลังจบ ประถมศึกษาปีที่ 7 ช่วงวัยรุ่น ท่านมีโอกาสได้พบกับพระอาจารย์ฉลวย ซึ่งเป็นเพื่อนกับหลวงปู่ชา ได้จาริกแสวงบุญมาถึงอำเภอวารินชำราบ บิดา(ตาเกลี้ยง) ได้มีโอกาสพบสนทนาธรรมจึงฝากลูกให้บวชเณร เพื่อศึกษาธรรมะในเบื้องต้น ท่านได้ติดตามพระอาจารย์ฉลวยไปศึกษาธรรมะ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นานถึง 3 พรรษา แต่ด้วยเหตุที่พ่อได้เข้าวัดศึกษาธรรมะ แม่ต้องหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ท่านจึงได้ลาสิกขาบท กลับมาช่วยแม่ทำงานหาเงินเลี้ยงน้อง ๆ ขายสินค้าทุกชนิดแล้วแต่แม่จะจัดการ บางครั้งก็หาสินค้ามาขายเอง เงินกำไรเอามารวมให้แม่ บางครั้งท่านไปกับคาราวานขายสินค้าไปตามต่างจังหวัด ถึงนครพนม สกลนคร อุดร มหาสารคาม ขอนแก่น เมื่อกลับมาท่านจะส่งเงินให้แม่ทุกครั้ง ด้วยความรู้สึกน้อยใจแม่ ท่านได้นำเงินที่ขายสินค้าได้หนีแม่ไปกรุงเทพ ตามหาพี่ชายคนโต และคิดจะไปหางานทำในกรุงเทพ แต่กลับต้องไปเลี้ยงหลานแทน สุดท้ายจึงหาวิธีหาเงินเดินทางกลับบ้านวารินชำราบ อีกครั้ง ด้วยความสำนึกในบุญคุณของพ่อแม่ และกลับมาเรียนตัดผมกับพ่อ เพื่อเป็นนักตัดผมมืออาชีพ และนักออกแบบทรงผมมือดี
เพื่อความก้าวหน้าของครอบครัวพ่อแม่ ได้พาลูก ๆ ที่โตแล้ว เข้าไปเช่าบ้านในตัวเมือง แถวห้าแยกวงกลม วาริน บ้านเลขที่ 21/7 ถนนกันทรลักษ์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากบ้านสวน 1 กิโลเมตร และเปิดกิจการร้านตัดผม มีพ่อ(ตาเกลี้ยง)เป็นหลักให้ มีนายบุญส่ง นายบุญเสริม เป็นนายช่างรอง มีช่างในร้าน 3-4 คน นับเป็นร้านที่มีชื่อเสียงพอสมควร และเป็นร้านแรกที่มีพัดลม (ใช้ผ้าผืนใหญ่ๆ พัดโบกไปมาให้แขกที่มาตัดผม) พี่น้องคนอื่น ๆ ไปค้าขายในตลาดสดวารินชำราบ เป็นครอบครัวที่อยู่ท่ามกลางคนจีนแคระ แต้จิ๋ว จนทำให้พระอาจารย์บุญเสริมพูดภาษาจีนได้ดีทั้ง จีนแคระ และจีนแต้จิ๋ว ด้วยความเป็นผู้มีอัธยาศัยดี ทำให้ท่านมีเพื่อนมากมาย ทั้งเพื่อนในวัยเดียวกัน รุ่นน้อง วัยรุ่นหลายรุ่น ท่านมีเรื่องเล่ามากมายไม่จบไม่สิ้น อารมณ์ดี หลายคนเข้ามาในร้าน ไม่ได้มาตัดผม แต่มารอฟังว่า วันนี้พี่เสริมจะเล่าอะไรให้ฟัง
ถึงช่วงหนึ่งของชีวิตท่านได้ไปประกวดร้องเพลงที่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ในแนวเพลงไทยสากล หลังจากนั้นท่านเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้อง และได้เป็นนักร้องประจำวง Spider ของ พันเอก สุบัน คงนิล รับใช้พี่น้องชาวอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง นานหลายปี โดยยังคงเป็นช่างตัดผม ขวัญใจวัยรุ่นในตอนกลางวัน และรับงานร้องเพลง ตอนกลางคืน จนสุดท้าย ท่านได้ร่วมกันตั้งวงดนตรีสตริง กับเพื่อนรัก (เฮียเตี้ย โรงหนังวาริน) ชื่อวง Big Ant รับงานทั่วไป ประมาณ 3 ปี
ความทีท่านเป็นเพื่อนกับเฮียเตี้ยโรงหนังวาริน วันใดที่นักพากย์หนังไม่มา ท่านก็ต้องไปรับงานพากย์หนัง นี่คือที่มาของนักพากย์หนัง ประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต และได้เพิ่มอีก อาชีพคือการทำหนังเร่ ซึ่งการฉายหนังล้อมผ้าต้องพากย์เอง คุมการฉาย การล้อมผ้าเอง นี่คือ นักบริหารจัดการ ท่านไม่เคยพัก จนท่านต้องทิ้งอาชีพช่างตัดผมไปโดยปริยาย ในขณะที่ พ่อแม่ เข้าวัดหนองป่าพงโดยสมบูรณ์ การทำมาหากินยังไม่สิ้น ท่านพาน้อง ๆ ค้าขาย ทำมาหากินไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดนิ่ง กิจการหนังเริ่มต้องหยุดตัว นักพากย์ตกงานเพราะมีหนัง 35 ม.ม. เข้ามาเครื่องฉายต้องปรับเปลี่ยน สุดท้าย บริษัทหนังเร่ใหญ่จากสุรินทร์ ได้ให้โอกาสท่านได้เข้าร่วมงานเป็นผู้จัดการหนังเร่ ประจำสาขาที่ ศรีสะเกษ และได้เพิ่มสาขาในวารินชำราบ อีก 1 สาขา ท่านทำหนัง 4 - 5 ปี ก็ต้องหยุด เพราะแม่ไม่สบาย ส่วนพ่อได้จาริกแสวงบุญไปกับหลวงปู่ชาไปเรื่อย ๆ ครอบครัวได้ย้ายกลับมาอยู่รวมกันที่บ้านหนองตาโผ่นครอบครัวใหญ่อีกครั้ง
ปี 2533 นางสาวพิสมัย อุกาพรหม ได้เสียชีวิตด้วยโรค ติดเชื้อในกระแสโลหิต พ่อไปแสวงบุญที่ วัดป่าคล้อเจริญธรรม น้ำยืน แม่ที่ป่วยไม่มีใครดูแล ท่านจึงออกจากตำแหน่งผู้จัดการบริษัทหนังเร่ มาดูแลแม่ โดยไปร้องเพลงที่ซีซอไนต์คลับ ในเวลากลางคืน และกลางวันดูแลแม่ที่ไม่สบาย น้องที่เป็นครูที่โรงเรียนสตรีสิริเกศ ต้องเดินทางไปกลับ อุบล - ศรีสะเกษ เพื่อเปลี่ยนกันดูแลแม่ สุดท้ายท่านสงสารโยมแม่มากจึงตั้งใจบวชพระอีกครั้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แม่ แม่จะได้สุขภาพดีแข็งแรง เจ้อ๋า(วารินเบเกอรี่) ได้พาท่านไปบวชที่วัดป่าใหญ่ โดยท่านเจ้าอาวาสเป็นอุปัชฌาย์ บวชและจำพรรษาที่วัดหนองป่าพง และมีโอกาสได้บริบาล ท่านหลวงปู่ชา สุภัทโท ซึ่งป่วยในขณะนั้น แม่อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนท่านก็ติดวัด และบวชต่อไม่มีวี่แววว่าจะลาสิกขาบท ความห่วงหมดไป เพราะน้องที่เป็นครู ได้กลับมาสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ในปี 2535 และย้ายมาโรงเรียนโนนค้อวิทยาคม อำเภอโนนคูณ ศรีสะเกษ สามารถกลับมาดูแลพ่อแม่แทนท่านได้ และในปี 2536 ท่านได้แวะมาบอกที่บ้าน กับพ่อใหญ่สา ว่าท่านจะไปอยู่ที่วัดป่ากัทลิวัน บ้านสวนกล้วย (ส่วนใหญ่เรียกจนติดปากว่าท่านอยู่วัดป่าบ้านสวนกล้วย จนทุกวันนี้
หลวงพ่อบุญเสริม 在 ช่องแม่นนะหนึ่ง 88 Youtube 的最佳解答
#หลวงพ่อบุญเสริม #ถูกหวย #แก้กรรม
พระครูวิมลธรรมรัตน์ หลวงพ่อบุญเสริม ธัมมปาโล วัดป่าสวนกล้วย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ท่านเกิด ณ บ้านหนองตาโผ่น บ้านเลขที่ 125 ถนนกันทรลักษ์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองตาโผ่น (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองตาโผ่น) และเข้าเรียนต่อชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - 7 โรงเรียนวารินชำราบ บิดา มารดา เป็นคนขยันขันแข็ง มีอาชีพค้าขาย จึงเข้าไปค้าขายในตลาดอำเภอวารินชำราบ ในช่วงหลังจบ ประถมศึกษาปีที่ 7 ช่วงวัยรุ่น ท่านมีโอกาสได้พบกับพระอาจารย์ฉลวย ซึ่งเป็นเพื่อนกับหลวงปู่ชา ได้จาริกแสวงบุญมาถึงอำเภอวารินชำราบ บิดา(ตาเกลี้ยง) ได้มีโอกาสพบสนทนาธรรมจึงฝากลูกให้บวชเณร เพื่อศึกษาธรรมะในเบื้องต้น ท่านได้ติดตามพระอาจารย์ฉลวยไปศึกษาธรรมะ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นานถึง 3 พรรษา แต่ด้วยเหตุที่พ่อได้เข้าวัดศึกษาธรรมะ แม่ต้องหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ท่านจึงได้ลาสิกขาบท กลับมาช่วยแม่ทำงานหาเงินเลี้ยงน้อง ๆ ขายสินค้าทุกชนิดแล้วแต่แม่จะจัดการ บางครั้งก็หาสินค้ามาขายเอง เงินกำไรเอามารวมให้แม่ บางครั้งท่านไปกับคาราวานขายสินค้าไปตามต่างจังหวัด ถึงนครพนม สกลนคร อุดร มหาสารคาม ขอนแก่น เมื่อกลับมาท่านจะส่งเงินให้แม่ทุกครั้ง ด้วยความรู้สึกน้อยใจแม่ ท่านได้นำเงินที่ขายสินค้าได้หนีแม่ไปกรุงเทพ ตามหาพี่ชายคนโต และคิดจะไปหางานทำในกรุงเทพ แต่กลับต้องไปเลี้ยงหลานแทน สุดท้ายจึงหาวิธีหาเงินเดินทางกลับบ้านวารินชำราบ อีกครั้ง ด้วยความสำนึกในบุญคุณของพ่อแม่ และกลับมาเรียนตัดผมกับพ่อ เพื่อเป็นนักตัดผมมืออาชีพ และนักออกแบบทรงผมมือดี
เพื่อความก้าวหน้าของครอบครัวพ่อแม่ ได้พาลูก ๆ ที่โตแล้ว เข้าไปเช่าบ้านในตัวเมือง แถวห้าแยกวงกลม วาริน บ้านเลขที่ 21/7 ถนนกันทรลักษ์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากบ้านสวน 1 กิโลเมตร และเปิดกิจการร้านตัดผม มีพ่อ(ตาเกลี้ยง)เป็นหลักให้ มีนายบุญส่ง นายบุญเสริม เป็นนายช่างรอง มีช่างในร้าน 3-4 คน นับเป็นร้านที่มีชื่อเสียงพอสมควร และเป็นร้านแรกที่มีพัดลม (ใช้ผ้าผืนใหญ่ๆ พัดโบกไปมาให้แขกที่มาตัดผม) พี่น้องคนอื่น ๆ ไปค้าขายในตลาดสดวารินชำราบ เป็นครอบครัวที่อยู่ท่ามกลางคนจีนแคระ แต้จิ๋ว จนทำให้พระอาจารย์บุญเสริมพูดภาษาจีนได้ดีทั้ง จีนแคระ และจีนแต้จิ๋ว ด้วยความเป็นผู้มีอัธยาศัยดี ทำให้ท่านมีเพื่อนมากมาย ทั้งเพื่อนในวัยเดียวกัน รุ่นน้อง วัยรุ่นหลายรุ่น ท่านมีเรื่องเล่ามากมายไม่จบไม่สิ้น อารมณ์ดี หลายคนเข้ามาในร้าน ไม่ได้มาตัดผม แต่มารอฟังว่า วันนี้พี่เสริมจะเล่าอะไรให้ฟัง
ถึงช่วงหนึ่งของชีวิตท่านได้ไปประกวดร้องเพลงที่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ในแนวเพลงไทยสากล หลังจากนั้นท่านเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้อง และได้เป็นนักร้องประจำวง Spider ของ พันเอก สุบัน คงนิล รับใช้พี่น้องชาวอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง นานหลายปี โดยยังคงเป็นช่างตัดผม ขวัญใจวัยรุ่นในตอนกลางวัน และรับงานร้องเพลง ตอนกลางคืน จนสุดท้าย ท่านได้ร่วมกันตั้งวงดนตรีสตริง กับเพื่อนรัก (เฮียเตี้ย โรงหนังวาริน) ชื่อวง Big Ant รับงานทั่วไป ประมาณ 3 ปี
ความทีท่านเป็นเพื่อนกับเฮียเตี้ยโรงหนังวาริน วันใดที่นักพากย์หนังไม่มา ท่านก็ต้องไปรับงานพากย์หนัง นี่คือที่มาของนักพากย์หนัง ประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต และได้เพิ่มอีก อาชีพคือการทำหนังเร่ ซึ่งการฉายหนังล้อมผ้าต้องพากย์เอง คุมการฉาย การล้อมผ้าเอง นี่คือ นักบริหารจัดการ ท่านไม่เคยพัก จนท่านต้องทิ้งอาชีพช่างตัดผมไปโดยปริยาย ในขณะที่ พ่อแม่ เข้าวัดหนองป่าพงโดยสมบูรณ์ การทำมาหากินยังไม่สิ้น ท่านพาน้อง ๆ ค้าขาย ทำมาหากินไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดนิ่ง กิจการหนังเริ่มต้องหยุดตัว นักพากย์ตกงานเพราะมีหนัง 35 ม.ม. เข้ามาเครื่องฉายต้องปรับเปลี่ยน สุดท้าย บริษัทหนังเร่ใหญ่จากสุรินทร์ ได้ให้โอกาสท่านได้เข้าร่วมงานเป็นผู้จัดการหนังเร่ ประจำสาขาที่ ศรีสะเกษ และได้เพิ่มสาขาในวารินชำราบ อีก 1 สาขา ท่านทำหนัง 4 - 5 ปี ก็ต้องหยุด เพราะแม่ไม่สบาย ส่วนพ่อได้จาริกแสวงบุญไปกับหลวงปู่ชาไปเรื่อย ๆ ครอบครัวได้ย้ายกลับมาอยู่รวมกันที่บ้านหนองตาโผ่นครอบครัวใหญ่อีกครั้ง
ปี 2533 นางสาวพิสมัย อุกาพรหม ได้เสียชีวิตด้วยโรค ติดเชื้อในกระแสโลหิต พ่อไปแสวงบุญที่ วัดป่าคล้อเจริญธรรม น้ำยืน แม่ที่ป่วยไม่มีใครดูแล ท่านจึงออกจากตำแหน่งผู้จัดการบริษัทหนังเร่ มาดูแลแม่ โดยไปร้องเพลงที่ซีซอไนต์คลับ ในเวลากลางคืน และกลางวันดูแลแม่ที่ไม่สบาย น้องที่เป็นครูที่โรงเรียนสตรีสิริเกศ ต้องเดินทางไปกลับ อุบล - ศรีสะเกษ เพื่อเปลี่ยนกันดูแลแม่ สุดท้ายท่านสงสารโยมแม่มากจึงตั้งใจบวชพระอีกครั้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แม่ แม่จะได้สุขภาพดีแข็งแรง เจ้อ๋า(วารินเบเกอรี่) ได้พาท่านไปบวชที่วัดป่าใหญ่ โดยท่านเจ้าอาวาสเป็นอุปัชฌาย์ บวชและจำพรรษาที่วัดหนองป่าพง และมีโอกาสได้บริบาล ท่านหลวงปู่ชา สุภัทโท ซึ่งป่วยในขณะนั้น แม่อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนท่านก็ติดวัด และบวชต่อไม่มีวี่แววว่าจะลาสิกขาบท ความห่วงหมดไป เพราะน้องที่เป็นครู ได้กลับมาสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ในปี 2535 และย้ายมาโรงเรียนโนนค้อวิทยาคม อำเภอโนนคูณ ศรีสะเกษ สามารถกลับมาดูแลพ่อแม่แทนท่านได้ และในปี 2536 ท่านได้แวะมาบอกที่บ้าน กับพ่อใหญ่สา ว่าท่านจะไปอยู่ที่วัดป่ากัทลิวัน บ้านสวนกล้วย (ส่วนใหญ่เรียกจนติดปากว่าท่านอยู่วัดป่าบ้านสวนกล้วย จนทุกวันนี้
หลวงพ่อบุญเสริม 在 ช่องแม่นนะหนึ่ง 88 Youtube 的最佳解答
#หลวงพ่อบุญเสริม #ถูกหวย #แก้กรรม
พระครูวิมลธรรมรัตน์ หลวงพ่อบุญเสริม ธัมมปาโล วัดป่าสวนกล้วย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ท่านเกิด ณ บ้านหนองตาโผ่น บ้านเลขที่ 125 ถนนกันทรลักษ์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองตาโผ่น (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองตาโผ่น) และเข้าเรียนต่อชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - 7 โรงเรียนวารินชำราบ บิดา มารดา เป็นคนขยันขันแข็ง มีอาชีพค้าขาย จึงเข้าไปค้าขายในตลาดอำเภอวารินชำราบ ในช่วงหลังจบ ประถมศึกษาปีที่ 7 ช่วงวัยรุ่น ท่านมีโอกาสได้พบกับพระอาจารย์ฉลวย ซึ่งเป็นเพื่อนกับหลวงปู่ชา ได้จาริกแสวงบุญมาถึงอำเภอวารินชำราบ บิดา(ตาเกลี้ยง) ได้มีโอกาสพบสนทนาธรรมจึงฝากลูกให้บวชเณร เพื่อศึกษาธรรมะในเบื้องต้น ท่านได้ติดตามพระอาจารย์ฉลวยไปศึกษาธรรมะ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นานถึง 3 พรรษา แต่ด้วยเหตุที่พ่อได้เข้าวัดศึกษาธรรมะ แม่ต้องหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ท่านจึงได้ลาสิกขาบท กลับมาช่วยแม่ทำงานหาเงินเลี้ยงน้อง ๆ ขายสินค้าทุกชนิดแล้วแต่แม่จะจัดการ บางครั้งก็หาสินค้ามาขายเอง เงินกำไรเอามารวมให้แม่ บางครั้งท่านไปกับคาราวานขายสินค้าไปตามต่างจังหวัด ถึงนครพนม สกลนคร อุดร มหาสารคาม ขอนแก่น เมื่อกลับมาท่านจะส่งเงินให้แม่ทุกครั้ง ด้วยความรู้สึกน้อยใจแม่ ท่านได้นำเงินที่ขายสินค้าได้หนีแม่ไปกรุงเทพ ตามหาพี่ชายคนโต และคิดจะไปหางานทำในกรุงเทพ แต่กลับต้องไปเลี้ยงหลานแทน สุดท้ายจึงหาวิธีหาเงินเดินทางกลับบ้านวารินชำราบ อีกครั้ง ด้วยความสำนึกในบุญคุณของพ่อแม่ และกลับมาเรียนตัดผมกับพ่อ เพื่อเป็นนักตัดผมมืออาชีพ และนักออกแบบทรงผมมือดี
เพื่อความก้าวหน้าของครอบครัวพ่อแม่ ได้พาลูก ๆ ที่โตแล้ว เข้าไปเช่าบ้านในตัวเมือง แถวห้าแยกวงกลม วาริน บ้านเลขที่ 21/7 ถนนกันทรลักษ์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากบ้านสวน 1 กิโลเมตร และเปิดกิจการร้านตัดผม มีพ่อ(ตาเกลี้ยง)เป็นหลักให้ มีนายบุญส่ง นายบุญเสริม เป็นนายช่างรอง มีช่างในร้าน 3-4 คน นับเป็นร้านที่มีชื่อเสียงพอสมควร และเป็นร้านแรกที่มีพัดลม (ใช้ผ้าผืนใหญ่ๆ พัดโบกไปมาให้แขกที่มาตัดผม) พี่น้องคนอื่น ๆ ไปค้าขายในตลาดสดวารินชำราบ เป็นครอบครัวที่อยู่ท่ามกลางคนจีนแคระ แต้จิ๋ว จนทำให้พระอาจารย์บุญเสริมพูดภาษาจีนได้ดีทั้ง จีนแคระ และจีนแต้จิ๋ว ด้วยความเป็นผู้มีอัธยาศัยดี ทำให้ท่านมีเพื่อนมากมาย ทั้งเพื่อนในวัยเดียวกัน รุ่นน้อง วัยรุ่นหลายรุ่น ท่านมีเรื่องเล่ามากมายไม่จบไม่สิ้น อารมณ์ดี หลายคนเข้ามาในร้าน ไม่ได้มาตัดผม แต่มารอฟังว่า วันนี้พี่เสริมจะเล่าอะไรให้ฟัง
ถึงช่วงหนึ่งของชีวิตท่านได้ไปประกวดร้องเพลงที่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ในแนวเพลงไทยสากล หลังจากนั้นท่านเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้อง และได้เป็นนักร้องประจำวง Spider ของ พันเอก สุบัน คงนิล รับใช้พี่น้องชาวอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง นานหลายปี โดยยังคงเป็นช่างตัดผม ขวัญใจวัยรุ่นในตอนกลางวัน และรับงานร้องเพลง ตอนกลางคืน จนสุดท้าย ท่านได้ร่วมกันตั้งวงดนตรีสตริง กับเพื่อนรัก (เฮียเตี้ย โรงหนังวาริน) ชื่อวง Big Ant รับงานทั่วไป ประมาณ 3 ปี
ความทีท่านเป็นเพื่อนกับเฮียเตี้ยโรงหนังวาริน วันใดที่นักพากย์หนังไม่มา ท่านก็ต้องไปรับงานพากย์หนัง นี่คือที่มาของนักพากย์หนัง ประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต และได้เพิ่มอีก อาชีพคือการทำหนังเร่ ซึ่งการฉายหนังล้อมผ้าต้องพากย์เอง คุมการฉาย การล้อมผ้าเอง นี่คือ นักบริหารจัดการ ท่านไม่เคยพัก จนท่านต้องทิ้งอาชีพช่างตัดผมไปโดยปริยาย ในขณะที่ พ่อแม่ เข้าวัดหนองป่าพงโดยสมบูรณ์ การทำมาหากินยังไม่สิ้น ท่านพาน้อง ๆ ค้าขาย ทำมาหากินไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดนิ่ง กิจการหนังเริ่มต้องหยุดตัว นักพากย์ตกงานเพราะมีหนัง 35 ม.ม. เข้ามาเครื่องฉายต้องปรับเปลี่ยน สุดท้าย บริษัทหนังเร่ใหญ่จากสุรินทร์ ได้ให้โอกาสท่านได้เข้าร่วมงานเป็นผู้จัดการหนังเร่ ประจำสาขาที่ ศรีสะเกษ และได้เพิ่มสาขาในวารินชำราบ อีก 1 สาขา ท่านทำหนัง 4 - 5 ปี ก็ต้องหยุด เพราะแม่ไม่สบาย ส่วนพ่อได้จาริกแสวงบุญไปกับหลวงปู่ชาไปเรื่อย ๆ ครอบครัวได้ย้ายกลับมาอยู่รวมกันที่บ้านหนองตาโผ่นครอบครัวใหญ่อีกครั้ง
ปี 2533 นางสาวพิสมัย อุกาพรหม ได้เสียชีวิตด้วยโรค ติดเชื้อในกระแสโลหิต พ่อไปแสวงบุญที่ วัดป่าคล้อเจริญธรรม น้ำยืน แม่ที่ป่วยไม่มีใครดูแล ท่านจึงออกจากตำแหน่งผู้จัดการบริษัทหนังเร่ มาดูแลแม่ โดยไปร้องเพลงที่ซีซอไนต์คลับ ในเวลากลางคืน และกลางวันดูแลแม่ที่ไม่สบาย น้องที่เป็นครูที่โรงเรียนสตรีสิริเกศ ต้องเดินทางไปกลับ อุบล - ศรีสะเกษ เพื่อเปลี่ยนกันดูแลแม่ สุดท้ายท่านสงสารโยมแม่มากจึงตั้งใจบวชพระอีกครั้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แม่ แม่จะได้สุขภาพดีแข็งแรง เจ้อ๋า(วารินเบเกอรี่) ได้พาท่านไปบวชที่วัดป่าใหญ่ โดยท่านเจ้าอาวาสเป็นอุปัชฌาย์ บวชและจำพรรษาที่วัดหนองป่าพง และมีโอกาสได้บริบาล ท่านหลวงปู่ชา สุภัทโท ซึ่งป่วยในขณะนั้น แม่อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนท่านก็ติดวัด และบวชต่อไม่มีวี่แววว่าจะลาสิกขาบท ความห่วงหมดไป เพราะน้องที่เป็นครู ได้กลับมาสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ในปี 2535 และย้ายมาโรงเรียนโนนค้อวิทยาคม อำเภอโนนคูณ ศรีสะเกษ สามารถกลับมาดูแลพ่อแม่แทนท่านได้ และในปี 2536 ท่านได้แวะมาบอกที่บ้าน กับพ่อใหญ่สา ว่าท่านจะไปอยู่ที่วัดป่ากัทลิวัน บ้านสวนกล้วย (ส่วนใหญ่เรียกจนติดปากว่าท่านอยู่วัดป่าบ้านสวนกล้วย จนทุกวันนี้
หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม - ทำอย่างไร ไม่ต้องไปวัด ก็ได้บุญ - YouTube 的推薦與評價
พระครูวิมลธรรมรัตน์ ( หลวงพ่อบุญเสริม ธมฺมปาโล ) วัดป่ากัทลิวัน สาขา ๖ วัดหนองป่าพง(วัดป่าสวนกล้วย) ตำบลสวนกล้วย อำเภอกันทรลักษ์ ... ... <看更多>
หลวงพ่อบุญเสริม 在 ชีวิตทางโลก #หลวงพ่อบุญเสริม - YouTube 的推薦與評價
พระครูวิมลธรรมรัตน์ ( # หลวงพ่อบุญเสริม ธมฺมปาโล ) วัดป่ากัทลิวัน สาขา ๖ วัดหนองป่าพง(วัดป่าสวนกล้วย) ตำบลสวนกล้วย อำเภอกันทรลักษ์ ... ... <看更多>
หลวงพ่อบุญเสริม 在 หลวงพ่อบุญเสริม - ทุกข์มันอยู่ที่ไหน ทำไมเราถึงเป็นทุกข์ - YouTube 的推薦與評價
พระครูวิมลธรรมรัตน์ ( หลวงพ่อบุญเสริม ธมฺมปาโล ) วัดป่ากัทลิวัน สาขา ๖ วัดหนองป่าพง(วัดป่าสวนกล้วย) ตำบลสวนกล้วย อำเภอกันทรลักษ์ ... ... <看更多>