💥 #ถ้าวันนี้คุณมีเงินล้านจะทำยังไงให้เงินเพิ่มขึ้น 💥
💢หลาย ๆ คน มักจะพูดเสมอว่า การลงทุนมีความเสี่ยง
แต่อยากจะบอกว่า ถ้าไม่ลงทุนเลย จะเสี่ยงยิ่งกว่า💢
💵การมี “เงินเก็บออม” ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก ๆ และเป็นผลดีทั้งกับผู้ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน หรือผู้ประกอบการธุรกิจ เพราะเป็นการบ่งบอกถึงการที่คุณนั้น มีวินัยที่จะพาตัวเองไปสู่ความมั่งคั่ง และมีอิสระทางการเงินของชีวิต โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น และไม่ต้องเป็นภาระใคร
⭐อย่างไรก็ตาม หลายคนที่เก็บเงินมาได้ก้อนหนึ่งก็มีความคิดที่จะต่อยอดไปอีกว่าจะนำเงินส่วนนี้ ไปต่อยอดทำอะไรดีให้งอกเงยขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ นำเงินไปหมุนเงิน⭐
♻แต่ก่อนจะทำอะไร ก่อนอื่นเลยควรแยกเก็บเงินไว้จำนวนหนึ่งไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน เผื่อหากต้องตกงาน ไม่มีรายได้เข้ามา หรือการเงินมีปัญหา จะได้มีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน ♻
✅เก็บเงินฉุกเฉิน
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ การเก็บเงินฉุกเฉินไว้ใช้จ่ายช่วงวิกฤต เช่น ตกงาน เจ็บป่วย อุบัติเหตุ รถเสีย ไฟไหม้บ้าน ฯลฯ ซึ่งเงินฉุกเฉินจะช่วยต่อลมหายใจให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิตออกมาได้
อย่างเช่น วันดีคืนดีธุรกิจการงานมีปัญหา ขาดรายได้ ในขณะที่มีรายจ่ายเกิดขึ้นทุกวัน ทั้งค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ฯลฯ รวมถึงหนี้สินที่ต้องจ่ายทุกเดือนเมื่อเงินไม่เข้ากระเป๋า มันมีแต่จ่ายออกทุกวัน ๆ แล้วถ้าไม่มีเงินออมเก็บไว้เลย นอกจากจะเครียดงานแล้ว ยังจะเหนื่อยใจซ้ำซ้อนเพราะไม่มีเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกด้วย
✅ทำธุรกิจ
การลงทุนทำธุรกิจก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ แต่ผู้ที่จะเข้ามาจะต้องศึกษาทำการบ้านมาเป็นอย่างดีเสียก่อน รู้ทันการตลาดตอนนี้เป็นอย่างไร สินค้าแบบไหนที่ตอบโจทย์ลูกค้าในตอนนี้ หากมาแบบสุ่มสี่สุ่มห้ารีบร้อน คิดแล้วทำเลย อาจจะเจ๊งน้ำตาตกแบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้ สินค้าที่กำลังมาแรงตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของสุขภาพ อาหารเสริม อุปกรณ์ออกกำลังกาย เป็นต้น
✅หุ้น
การลงทุน “หุ้น” คือการนำเงินเข้าไปซื้อหุ้นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เรามองว่าจะสามารถเติบโตให้ผลกำไรในอนาคต แม้ว่าการลงทุน “หุ้น” อาจไม่จำเป็นต้องลงมือลงแรงมากแต่อย่างใด แต่ก่อนตัดสินใจซื้อก็ควรศึกษา ทำความเข้าใจ “หุ้น” ที่เราจะซื้อมาให้ดีเสียก่อน อย่าลงทุนในเรื่องที่ไม่รู้ เพราะไม่เช่นนั้นพอร์ทการลงทุนของคุณอาจจะติดลงเป็นสีแดงหมดไปก็ได้ ฉะนั้น ถ้าหากจะเล่นหุ้นจริง ๆ ต้องจัดการเวลาหมั่นศึกษาหาความรู้ด้วย
✅กองทุนรวม
จากข้อข้างบนหากยังไม่มีความมั่นใจ “กองทุนรวม” ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ที่อยากจะลงทุน เพราะจะมีผู้จัดการกองทุนมาคอยดูแลให้ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลามานั่งเช็ค อีกทั้งยังมีข้อดีตรงที่ใช้เงินลงทุนไม่ต้องเยอะเหมือนซื้อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนการซื้อกองทุนรวมคุณจะต้องประเมินความเสี่ยงก่อนว่ารับได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากนั้นค่อยมาเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะกองทุนที่จะเลือกให้ลงทุนมีมากมาย หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น กองทุนหุ้น จะมีความผันผวนมาก มีการขึ้น-ลงตลอดเวลา ซึ่งอยู่ที่ว่าคุณจะรับความเสี่ยงนี้ได้หรือไม่
✅สลากออมทรัพย์
การลงทุน "สลากออมทรัพย์" คือ การออมเงินรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้ฝากเงินจะได้รับทั้งดอกเบี้ยและยังได้รับสิทธิ์ในการลุ้นเงินรางวัลอีกด้วย ซึ่งสลากออมทรัพย์จะถูกนิยมนำมาใช้ในการออมเงินตั้งแต่ระยะกลางจนถึงยาว แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาข้อมูลของแต่ละธนาคารให้ดีเสียก่อนด้วย
⚡การนำเงินที่เก็บสะสมไปสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการออมปัจจุบัน ให้ได้รับผลตอบแทนจากการใช้จ่ายนั้นในอนาคต และการลงทุนเป็นการออมเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น โดยที่จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการตัดสินใจลงทุน จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้และเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จากการลงทุน⚡
และถ้าหากคุณอยากทราบ “รายละเอียดในการลงทุนที่เสี่ยงน้อย” โดยใช้กลยุทธ์ WAR-KETING™ ลิขสิทธิ์เฉพาะของผมเพิ่มเติม
✅คุณสามารถกดเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ฟรี ❗ ได้ง่าย ๆ
โดยคลิกลิงก์นี้ 👉 https://www.war-keting.com/lazada-shopee-reg
หรือแอดไลน์มาที่👉 @war-keting
หรือคลิกลิงก์นี้เพื่อถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ 👉 https://line.me/ti/p/~@war-keting
==============
วรัทภพ รชตนามวงษ์ warattapob.com
#หาเงิน #หุ้น #หาเงินด้วยตัวเอง #ลงทุน #ออมทรัพย์ #สลากออมทรัพย์ #กองทุนรวม #การตลาด #การตลาดออนไลน์ #ธุรกิจ #ธุรกิจออนไลน์ #การเงิน #คุยกับวรัทภพ #tiktalk #พัฒนาตนเอง #อยากรวย #แรงบันดาลใจ #ความสำเร็จ #ประสบความสำเร็จ #รวย #กำลังใจ #ความรู้ #วรัทภพ #warattapob
หุ้น 在 Pyong Traveller X Doctor Facebook 的精選貼文
การบริหารการเงินส่วนตัวแบบย่อยง่าย ในช่วงวิกฤต COVID19
สวัสดีครับ ผมเปียง ไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ อ.โอปอล์ ผศ.ดร.โอปอล์ สุวรรณเมฆ อาจารย์ประจำคณะการบริหารและจัดการ สจล. เกี่ยวกับเรื่องบริหารการเงินในช่วงเศรษฐกิจถดถอยเนื่องจากการระบาดของ COVID19 ได้รับความรู้อะไรมาหลายอย่างจนคิดว่า หากมาเล่าต่อ น่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน ขอออกตัวว่าผมเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในด้านการเงินนะครับ แต่ผมได้สรุปในแบบที่ผมเข้าใจมาให้ลองอ่านกันดูเป็นข้อๆครับ
1.
COVID19 ที่ระบาดไปทั่วโลกขณะนี้ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วทั้งโลก เศรษฐกิจไทยผูกกับเศรษฐกิจโลก ทำให้ไม่แปลกใจที่เศรษฐกิจไทยจะแย่ลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยมาสักระยะหนึ่งแล้ว และยังโดนซ้ำโดยการระบาดของ COVID19 อีก ทำให้จากเดิมอาจจะแค่ชะลอ แต่ปัจจุบันด้วยหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจนจากหลายๆองค์กร รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเราจะต้องอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้นานอีกระยะหนึ่ง แม้จะจบเรื่องการระบาดของโรคไปแล้วก็ตาม
2.
ผลพวงดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อเหล่ามนุษย์เงินเดือนครับ หลายบริษัทมีการปลดพนักงาน หลายบริษัทขอความร่วมมือให้มีการพักงานโดยไม่จ่ายเงินเดือน สำหรับนักศึกษาจบใหม่ โอกาสในการหางานหรือหารายได้ลดลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาที่เครียดๆกันของหลายคนขณะนี้
3.
ปัญหาคือ ถ้าเราเป็นลูกจ้างทั่วไปคนหนึ่งในสถานการณ์แบบนี้ เราจะอยู่รอดได้อย่างไรกับพิษเศรษฐกิจที่มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เริ่มจากต้องเข้าใจหลักสำหรับการวางแผนการเงินส่วนตัวแบบคร่าวๆก่อนครับ พวกเราจะแบ่งเงินง่ายๆเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ (1) เงินที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (ค่าอาหาร ค่าโทรศัพท์) (2) เงินฉุกเฉินที่เก็บเอาไว้ในยามคับขัน (ค่ารักษาพยาบาล) และ (3) เงินที่เอามาใช้สร้างความมั่งคั่ง (หุ้น ที่ดิน ทองคำ) มองให้ให้ออกว่า เงินที่มีอยู่ของเรามีส่วนไหนบ้างและมีอยู่เท่าไหร่
4.
วิธีการปรับตัวให้อยู่รอดในวันที่รายได้ที่เคยมีได้หายไป ให้คิดง่ายๆ เป็น 2 ขา ได้แก่ การลดค่าใช้จ่าย และ การเพิ่มรายได้ สำหรับการลดค่าใช้จ่าย ให้วิเคราะห์พื้นฐานของการใช้จ่ายตัวเองในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาก่อนเกิดปัญหาการเงิน ค่าใช้จ่ายแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ที่ต้องจ่ายทุกเดือน เช่น การผ่อนบ้าน/รถ ซึ่งปรับได้ยาก ต้องกันเงินให้ส่วนนี้ก่อน จากนั้นวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ดูว่าใช้จ่ายกับอะไรในแต่ละโหมดหมู่ อาจแบ่งเป็น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าอุปโภค ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายอื่นๆก็ได้ จากนั้นตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกให้มากที่สุด แล้วขยี้สิ่งที่ยังเหลือต่อว่ายังมีอะไรที่ฟุ่มเฟือยอยู่บ้าง และยังสามารถปรับเปลี่ยนให้ถูกลงอีกได้ไหม ยกตัวอย่างเช่น เปลี่ยนการรับประทานอาหารที่สั่งจากร้านเป็นทำอาหารเอง เปลี่ยนแพคเกจบริการต่างๆให้ถูกลง ประหยัดน้ำไฟเท่าที่ทำได้ โดยอย่างไรก็ตาม ยังมีข้อดี ในช่วงนี้จากการ work from home สามารถลดค่าใช้จ่ายหลายส่วน เช่น ค่าเดินทาง และ การใช้จ่ายจากการเข้าสังคม ซึ่งต้องยอมรับว่า เราเสียส่วนเงินกับส่วนนี้มากเหมือนกันในแต่ละเดือน
5.
การเพิ่มรายได้ มีหลายวิธีครับ ก่อนสิ่งอื่นใด ให้พยายามมองหาการช่วยเหลือที่ตัวเองพึงจะได้ให้มากที่สุดตามที่รัฐบาล องค์กรของคุณ และหน่วยงานอื่นๆได้ให้การช่วยเหลือไว้อยู่แล้ว ซึ่งจริงๆแล้วก็มีอยู่เยอะพอสมควรนะ แต่คุณต้องหามันให้เจอว่าตัวเองแมชกับการช่วยเหลือใด ต้องติดตามข่าวสาร และเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ให้ได้ ต่อมา คือการมองหาโอกาสในการเพิ่มรายได้ จากที่สิ่งตัวเองมี หรือปรับตัวเองโดยใช้ต้นทุนไม่มากก่อน ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในโซ่ธุรกิจที่กำลังคึกคักอยู่ในขณะนี้ อันได้แก่ อาหาร/เครื่องดื่ม เครื่องใช้ที่จำเป็น การขนส่ง โซเชียลมีเดีย เวชภัณฑ์ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เพื่อเกาะกระแสในการหารายได้ ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น ถ้าเรามีมอเตอร์ไซค์ 1 คัน เป็นไปได้ไหมว่าจะเข้าไปสมัครงานในธุรกิจรับส่งอาหาร ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับจริตและความถนัดของแต่ละคน ต้องหาให้เจอ
6.
การลงทุนเพิ่มความมั่งคั่งในช่วงนี้ สามารถทำได้ แต่ต้องมีความรู้ และ สามารถจัดการกับ 2 ส่วนแรกได้ดีแล้ว (เงินที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และ เงินฉุกเฉินที่เก็บเอาไว้ในยามคับขัน) มีทางเลือกมากมายให้เลือก เช่น หุ้น ตราสารหนี้ พันธบัตร ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ หรือ แม้แต่การลงทุนธุรกิจใหม่ แต่ละอันมีข้อดีข้อเสียที่ต้องเข้าใจธรรมชาติของมันอย่างถ่องแท้ ให้คำนึงถึงประโยชน์ในการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในหลายๆอย่าง และหากถึงยามคับขันจริงๆ สิ่งเหล่านี้จะต้องสามารถเปลี่ยนตัวมันเป็นเงินสดได้ง่ายพอที่ตัวเองจะไม่ลำบาก
7.
นักศึกษาจบใหม่และคนกำลังหางาน ต้องยอมรับว่าอยู่ยากขึ้นแน่นอน เพราะองค์กรใช้เงินในการจ้างยากขึ้น และคาดหวังผลล้พธ์ที่คุ้มค่าแต่องค์กรมากที่สุดเสมอ การแข่งขันจะสูงขึ้นแน่นอน เพราะจำนวนที่นั่งลดลง ต้องเลิกชิล ทำตัวเองให้ดีขึ้น และต้องดีพอจะเป็นคนที่เขาเลือก หากมีทักษะอยู่แล้ว จงให้ทำให้มันคมมากขึ้น และดีจนโดดเด่น หากยังไม่มี ต้องเริ่มฝึกใหม่ให้ดี เช่น ภาษาที่ 2 ที่ 3 ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ การใช้ social media ทักษะการพูด ฯลฯ ปัจจุบันมีคอสเรียนออนไลน์เยอะมาก โดยใช้ต้นทุนไม่มาก หลายคอสไม่มีต้นทุนด้วย หากไม่สามารถทำอะไรได้ อันนี้เป็นทางเลือกที่ดีนะครับ
8.
สุดท้ายแล้ว สติเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด กลับมาอยู่กับตัวเอง และพึ่งตัวเองให้ได้ คิดวางแผนการเงินให้ดี ถ้ายังไม่ทำ ต้องเริ่มแล้วนะครับ แล้วอะไรๆจะดีขึ้นและเราจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกันครับผม
รัก, เปียง
#PYONGDOCTOR
หุ้น 在 นิรนามเทรดเดอร์ แฟนเพจ Facebook 的精選貼文
#จิตวิทยาการลงทุน คืออะไร(What?)
**ในบรรดาดการลงทุนและการเทรด ทั้ง หุ้น Forex BO มีคนกล่าวว่า มีอยู่ 3 ประการที่เรานั้นจะใส่ใจในรายละเอียดมากที่สุด เพื่อที่จะเอาชนะเกมส์การลงทุน (รวมถึงการลงทุนทางเลือก "การพนันออนไลน์" ) ด้วย
1》 เครื่องมือที่ใช้ในการลงทุนดีไหม (ระบบในการลงทุนนั่นเอง)
2》 การบริหารจัดการเงินทุน ( Money Management )
3》 จิตวิทยาการลงทุน ( Psychology Investment )
สำหรับบทความนี้ จะไม่เน้น ข้อ1》 และ 2》นะครับ แต่จะเน้นใน ข้อ3》 คือ จิตวิทยาการลงทุน ซึ่งสำหรับผมเอง #นิรนามเทรดเดอร์ เห็นว่าเรื่องนี้ สำคัญที่สุด เพราะถึงแม้ ระบบการลงทุนของเรา #เทคนิคมั่วPattern และ #การบริหารจัดการเงินทุน #ตารางการเดินเงิน จะดีแค่ไหน แต่ถ้าปราศจากข้อที่ 3》 แล้ว กำไรที่เราอุตสาห์ เก็บสะสมก็จะมลายหายไปได้ง่ายๆ ครับ ดังนั้นเรามาดูกันว่า จิตวิทยาการลงทุน เป็นอย่างไร
#จิตวิทยาการลงทุน หมายถึง รูปแบบ แนวทาง วิธีการจัดกระบวนการคิด เพื่อการลงทุน เพื่อให้เกมส์การลงทุนของเราไม่ขาดทุน หรือ มีกำไรอย่างต่อเนื่อง หากจะเรียกง่ายๆ ก็คือ การฝึกควบคุม 2 อารมณ์หลักที่มีผลต่อการลงทุนทางเลือก ให้ผิดพลาดสูงมาก ประกอบด้วย "อารมณ์โกรธ และ อารมณ์โลภ"
**การฝึกหลัก #จิตวิทยาการลงทุน
เมื่อเกิด อารมณ์โกรธ และ อารมณ์โลภ มักจะทำให้เราลืม หลักการทั้งข้อ 1》และ ข้อ 2》 ไปเลย (นี่ไม่ได้พูดเล่นๆนะครับ) แม้คุณจะดูคลิปผมไม่รู้จะกี่รอบ อ่านบทความผมไม่รู้จะกี่บทความ แต่เมื่อถึงสภาวะอารมณ์นั้นเข้า สุดท้้ายก็จะหลุดเช่นกัน ดังนั้นวิธีการฝึกต่อไปนี้จะช่วยให้พวกเรา บริหารจิตวิทยาการลงทุนได้ดี ยิ่งขึ้นครับ
3.1 เปิดพอร์ต(ใส่เครดิต)เพื่อการฝึกจิตวิทยาการลงทุนโดยเฉพาะ
3.2. ลงเงินไม่เกิน 5,000 บาท (ใช้เงินเย็นนะครับ และทำใจเลยว่า เตรียมเสียเงินเลย ถือเป็นค่าเรียนรู้)
3.3. ฝึกลงทุน โดย
A) หากเกิดภาวะขาดทุนติดต่อกัน เราจะต้องไม่เปลียนแนวทางการลงทุนครับ ให้ใช้ แนวทางเดิม ให้ได้ 5 รอบ (ในที่นี่ อาจจะรวมการแทงลม ที่ผมเคยสอนตามคลิป ด้วยก็ได้)
B) หากเกิดการผิดติดต่อกันหลายๆไม้ คุณสามารถ ยอม ตัดขาดทุน (cut loss ) ได้ไหม
C) หากคุณสามารถทนและทำตามข้อ AและB ได้อย่างน้อย 5 ครั้งติดต่อกัน เชื่อว่า เมื่อไปลงทุนใน Port ที่ใหญ่ขึ้น จะช่วยลดปัญหาการลงทุนที่ขาดหลัก จิตวิทยาการลงทุนไปในตัวได้ครับ
***อันตรายจากการไม่ใช้ จิตวิทยาการลงทุน
ถ้าพวกเรายังคง ไม่เห็นความสำคัญของการฝึกดังที่กล่าวมาแล้ว พวกเราจะพบกับ เหตุการณ์เดิมๆ ก็คือ ขาดทุน "ล้างพอร์ต" ครับ หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับพวกเรา กลุ่มที่เลือก "เปลี่ยนการพนันเป็นการลงทุน" นะครับ
#นิรนามเทรดเดอร์ "มีสติก็จะมีสตางค์"
หุ้น 在 ทันหุ้น - Home - Facebook 的推薦與評價
ทันหุ้น. 252600 likes · 7233 talking about this. ทันหุ้น "ทุกความจริงตลาดทุน" ... <看更多>