รัฐบาล เปิดโหลดแอพฯ “ทางรัฐ” ครับ …
วันที่ 12 ก.ย.64 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล เพื่อพัฒนาระบบการบริการประชาชนให้ดีขึ้น การทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากเกินความจำเป็น ว่า สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล(องค์การมหาชน) หรือ สพร. และหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กรมการปกครอง สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และสำนักงานประกันสังคม ได้ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มกลาง ชื่อ “ทางรัฐ” รวบรวมงานบริการภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่อขอรับบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐจากทุกที่ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟน โดยดาวน์โหลดได้จากทั้งระบบ iOSและ Android
นางสาวรัชดา กล่าวว่า แอพพลิเคชัน “ทางรัฐ” ออกแบบมาตอบไลฟ์สไตล์ของประชาชนยุคดิจิทัล ให้สามารถตรวจสอบสิทธิ จ่ายบิล ติดตามสถานะการขอใช้บริการจากภาครัฐได้อย่างสะดวก และยกระดับการให้บริการประชาชนของรัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถนำข้อมูลและบริการมาให้บริการ
ทั้งนี้ มีบริการที่พร้อมให้บริการประชาชน กว่า 30 บริการ เช่น การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม สถานะผู้ประกันตน สิทธิหลักประกันสุขภาพ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ข้อมูลเครดิตบูโร หนังสือรับรองผลการทดสอบ O-Net เช็คโฉนดที่ดิน บริการค่าน้ำ ค่าไฟ ที่สามารถชำระค่าบริการผ่านคิวอาร์โค้ด เป็นต้น และอนาคตจะมีบริการที่ครอบคลุมกว่า 100 บริการ ให้บริการประชาชนได้แบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว
“ขอเชิญชวนประชาชนดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน ทางรัฐ เพื่อการเข้าถึงบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ขณะนี้รัฐบาลดิจิทัลของไทย อยู่อันดับที่ 57 จาก 193 ประเทศ ในปี2563 ดีขึ้น จากอันดับที่ 73 ในปี 2561 และอันดับที่ 77 ในปี 2559 ซึ่งนายกฯชื่นชมการพัฒนาและขอบคุณความร่วมมือ และความพยายามของทุกหน่วยงานภาครัฐในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลตามนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้”
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過25萬的網紅iT24Hrs,也在其Youtube影片中提到,Away Covid-19 ในแอป Line สิ่งที่ต้องมีติดตัวไว้เพื่อเช็คสถานการณ์โควิด19 รอบตัวเรา และก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องมีติดตัว ก่อนออกจากบ้านยุคโควิด19 ในส...
องค์การมหาชน เช่น 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
เวลาเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ ขึ้น สิ่งหนึ่งที่สังคมไทยเรามักจะขาด คือการนำเอาเหตุการณ์นั้น มาศึกษาวิเคราะห์ดูสาเหตุปัจจัยผลกระทบ เพื่อเป็นแนวทางในการรับมือสำหรับเหตุการณ์พิบัติครั้งต่อๆ ไป
ดังเช่น ที่เพิ่งเกิดเหตุโรงงานสารเคมีระเบิด ที่สมุทรปราการ ไปเมื่อเดือนก่อนนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นหน้างานก็คือ ทิศทางของลมที่บรรดาควันพิษจะลอยไปนั้น จะไปทางทิศทางใดกันแน่
งานวิจัยดังที่อยู่ในรายงานข่าวนี้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ที่ทำให้เราเข้าใจถึงแนวทางการประเมินทิศทาง ของผลกระทบจากมลพิษสารเคมีทางอากาศที่เกิดขึ้น ถ้ามีเหตุการณ์เช่นนี้อีกครั้ง ในอนาคตครับ
-------
(รายงานข่าว)
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม รศ.ดร.เกษมสันต์ มโนมัยพิบูลย์ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิเคราะห์ทางเลือกระบบจำลองคาดการณ์มลพิษอากาศในภาวะฉุกเฉิน: กรณีไฟไหม้โรงงานสารเคมีย่านกิ่งแก้ว ระบุว่า
เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานสารเคมีย่านกิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการที่ผ่านมาได้กระทบต่อประชาชนจำนวนมากที่อาศัยทำงานอยู่ในพื้นที่ใกล้โรงงานทั้งนี้ทางภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย และนักวิชาการก็ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญร่วมกันต่อปัญหาดังกล่าวเหตุการณ์
เริ่มจากการระเบิดของสารเคมีที่เก็บในโรงงานประมาณ 3 นาฬิกาของวันที่ 5 กรกฏาคม 2564 ต่อมาเกิดไฟลุกโชนในโรงงานอย่างรุนแรงต่อเนื่องมีควันดำขนาดใหญ่พวยพุ่งลอยขึ้นสูงในบรรยากาศและถูกพัดพาไปไกลโดยลม ไฟเริ่มซาและถูกควบคุมได้ในช่วงค่ำและเช้าของอีกวันต่อมา ที่ตั้งของโรงงาน ณ ปัจจุบัน ก็มีชุมชนที่พักอาศัย วัด โรงพยาบาล โรงเรียน และโรงงานอื่นอยู่โดยรอบซึ่งเป็นผลของการขยายตัวของเมืองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความจำเป็นที่ควรมีระบบหรือเทคโนโยลีจำลองมลพิษอากาศที่เหมาะสมเพื่อรองรับกรณีไฟไหม้รุนแรงหรือสถานการณ์ฉุกเฉินโดยสามารถคาดการณ์ความรุนแรงล่วงหน้าและใช้ประเมินกำหนดมาตรการแก้ไขลดผลกระทบได้ หากพิจารณาลักษณะรูปแบบของไฟไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้วและพฤติกรรมของของควันตามหลักวิชาการที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถใช้เป็นแนวทางเพื่อกำหนดคุณสมบัติของระบบจำลองที่พึงมีได้โดยผมขออธิบายและสรุปไว้ข้างล่างนี้สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือสนใจ
#ข้อที่1: พฤติกรรมของการลอยตัวของควัน
การสันดาปหรือเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตโฟมของโรงงานดังกล่าว(ในที่นี้ สไตรีนโมโนเมอร์และสารเคมีกลุ่มเบนซีน) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ระเหยและติดไฟง่าย ก่อให้เกิดควันซึ่งประกอบด้วยเขม่าดำ ฝุ่น ก๊าชต่างๆ ปะปนกับก๊าซระเหยของสารเคมีตั้งต้นรวมทั้งไอน้ำปนอยู่ (แต่ไม่มากเท่าการเผาไหม้ที่สมบูรณ์)การยกตัวของควันนั้นเกิดจากแรงลอยตัวเพราะอุณหภูมิของควันมีค่าสูงทำให้มีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศที่อยู่โดยรอบ เมื่อควันลอยขึ้น (Plume Rise) (รูปที่ 1) ก็จะขยายตัวใหญ่ขึ้นผ่านกระบวนการฟิสิกส์ 2 อย่าง คือ
#กฏอะเดียแบติก (Adiabatic)เพราะความดันอากาศลดลงตามความสูงของควันลอยขึ้นปริมาตรของควันจะเพิ่มและควันก็เย็นตัวลงพร้อมกัน
#ความปั่นป่วนและการดึงอากาศเข้า (Turbulence & Entrainment) เนื่องด้วยสภาพภายในของควันร้อนมาก อากาศภายในควันจึงมีสภาพปั่นปั่วนและเมื่อควันลอยตัวอย่างรวดเร็ว สภาพปั่นป่วนก็จะดึงมวลอากาศเย็นที่อยู่รอบๆ เข้ามาทำให้ควันขยายตัวเพิ่มเร็วขึ้น
#ข้อที่2: ระดับการลอยตัวและการเบ้เอียงของแนวควัน
ความสูงสุทธิที่ควันจะลอยขึ้นมีความสำคัญ หลังจากนั้น ควันก็ถูกพัดพาและแพร่กระจายต่อไป หากควันลอยสูงเป็นแนวดิ่งก็จะกระทบต่อพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุไม่มาก แต่หากลมใกล้ผิวพื้นพัดแรงก็จะทำให้ควันที่ลอยอยู่เบ้เอียงลู่ตามลมและเกิดแรงเฉือน (Wind Shear) เหนี่ยวนำการแพร่กระจายของควันสู่ลงผิวพื้นได้ (รูปที่ 1 กลาง)โดยปกติแล้ว ควันจะหยุดลอย ณ ความสูงที่บรรยากาศมีความเสถียร (Stable) (ในที่นี้ อากาศโดยรอบเท่ากับหรืออุ่นกว่าในควันทำให้ไม่มีแรงลอยตัว) ควันจากไฟไหม้ที่รุนแรงสามารถยกตัวลอยทะลุผ่านชั้นบรรยากาศผกผันที่เสถียรใกล้ผิวพื้น (Low-Level Inversion Layer) ซึ่งปกติเกิดขึ้นไม่ห่างจากผิวพื้น (เช่น50-500 ม.)ตอนกลางคืนและช่วงเช้า-สายของวันใหม่ (รูปที่ 1 ขวา) อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อควันลอยขึ้นตัวก็จะเย็นลง ไอน้ำในควันจะควบแน่นเป็นละอองน้ำได้ง่าย ซึ่งช่วยให้เราสังเกตุควันได้ง่ายขึ้นแม้ว่าควันจะลอยสูงหรือถูกพัดพาไปไกลแล้ว ควันจากไฟไหม้ที่รุนแรงสามารถลอยสูงถึงฐานเมฆหากมีแรงลอยตัวเพียงพอหรืออยู่ภายใต้สภาพบรรยากาศที่ไม่เสถียรช
#ข้อที่3: การพัดพาและแพร่กระจาย
แม้ว่าลมพัดพาควันให้ลอยไปในแนวราบ แต่ความปั่นป่วนในบรรยากาศจะทำหน้าที่แพร่กระจายควันที่เข้มข้นตามแนวแกนให้เจือจางไปทั้งในแนวราบและแนวดิ่งซึ่งทำให้ขนาดควันหรือพลูม (Plume) ใหญ่ขึ้นตามระยะทาง (รูปที่ 2 และรูปที่ 3) พลูมของควันถูกเหนี่ยวนำเปลี่ยนไปตามทิศทางลมที่อาจเปลี่ยนไปตามเวลา นอกจากนั้นหากควันมีขนาดใหญ่การพัดพาก็จะได้รับอิทธิพลจากทั้งลมใกล้ผิวพื้นและลมระดับบน โดยทั่วไป พฤติกรรมของลมทั้งสองระดับไม่คล้ายคลึงกัน ลมใกล้ผิวพื้นมีความเร็วน้อยกว่าแต่แปรผันบ่อยทั้งเชิงพื้นที่และเวลาเป็นเพราะลมระดับล่างมีความอ่อนไหวต่อความขรุขระของผิวพื้น (Roughness) และต่อสมดุลพลังงานผิวพื้น(Surface Energy Balance)มากกว่านั่นเอง ควันหากลอยขึ้นสู่ถึงฐานเมฆไอน้ำที่มีอยู่ในควันก็ควบแน่นเป็นละอองน้ำ ดังนั้นควัน-ละอองน้ำที่ควบแน่น-เมฆที่เกิดอยู่ในธรรมชาติก็จะรวมปะปนกัน (รูปที่ 2 ขวาและรูปที่ 3) หากเกิดฝน ฝนก็จะชะล้างควันในบรรยากาศ (Wet Scavenging)มิฉะนั้น ควันก็จะถูกชะล้างแบบแห้ง (Dry Scavenging) สู่ผิวพื้น อาศัยการแพร่กระจายในแนวดิ่งซึ่งควบคุมโดยสภาพการปั่นป่วนในบรรยากาศ
#ข้อที่4 พลศาสตร์ของควัน
ด้วยที่สภาพอากาศมีการแปรผันตามเวลาและพื้นที่อยู่ตลอดควัน(หรือส่วนของควัน)ที่เราสังเกตุเห็นนั้นเป็นผลรวมสุทธิของควันที่ถูกพัดพาและแพร่กระจายตั้งแต่ปล่อยจากแหล่งกำเนิดมาก่อนหน้าและทีหลัง จึงมีลักษณะเป็นพลศาสตร์ (Dynamic) ไม่ใช่เป็นสภาพสถิตย์ที่ชั่วโมงหรือสถานที่ใดหลักพลศาสตร์จึงเหมาะสมสอดคล้องกับการประยุกต์ใช้ในกรณีไฟไหม้ขนาดใหญ่เพราะควันล่องลอยอยู่นานในบรรยากาศและสามารถเคลื่อนที่แพร่กระจายไปทั้งระยะใกล้ (Short-Range Transport) และระยะไกล (Long-Range Transport)
#สรุปและข้อเสนอ
จากที่กล่าวมาผ่านกรณีไฟไหม้โรงงานสารเคมีย่านกิ่งแก้ว สามารถสรุปได้ว่า ระบบหรือเทคโนโลยีจำลองที่เหมาะสมเพื่อใช้คาดการณ์มลพิษอากาศในสถานการณ์ฉุกเฉินควรมีคุณสมบัติหรือองค์ประกอบดังนี้
เป็นการจำลองแบบพลศาสตร์ ในทางปฏิบัติ การจำลองมลพิษอากาศจะสมมติให้ควันเกิดขึ้นเป็นระยะหรือเป็นชุดต่อเนื่องกัน โดยแต่ละชุดเคลื่อนตัวอย่างเอกเทศ แต่ผลสุทธิของควันก็คือผลลัพธ์รวมที่ได้ควันทุกระยะหรือทุกชุดเข้าด้วยกัน ทั้งนี้การจำลองอาจกำหนดให้ควันถูกปล่อยจากแหล่งกำเนิดเป็นก้อนหรือพัฟ (Simulated Puffs) หรืออนุภาค (Simulated Particles)แม้ว่าการจำลองที่ใช้วิธีอนุภาคจะมีความแม่นยำที่ดีแต่ก็ต้องการทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อคำนวณประมวลที่สูงมาก สำหรับการจำลองวิธีพัฟนั้น ได้มีการพัฒนาและประยุกต์ทดสอบมายาวนานจึงมีความสมบูรณ์ทางเทคนิคมากกว่า อีกทั้งต้องการทรัพยากรเพื่อการคำนวณน้อยกว่า การจำลองทั้งสองวิธีนี้แตกต่างกับวิธีพลูม (Simulated Plume) (รูปที่ 5) ที่มีข้อจำกัดหลักคือการจำลองแบบสถิตย์ซึ่งไม่สามารถใช้รองรับหรือประยุกต์สอดคล้องกับสถานการณ์ไฟไหม้ดังกล่าวได้ดี
บูรณาการกระบวนการที่สำคัญเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งได้แก่ การลอยและขยายตัวของควันลมเฉือน การเบ้เอียงของควันเสถียรภาพของบรรยากาศ ชั้นบรรยากาศผกผัน การพัดพาโดยลมและการแพร่กระจายในแนวราบและดิ่งโดยการปั่นป่วนที่ความสูงต่างๆ รวมทั้งการชะล้างแบบเปียกและแห้ง ดังนั้นการจำลองจำเป็นที่ต้องนำเข้าข้อมูลสภาพอากาศจำนวนมาซึ่งในทางปฏิบัติ สามารถใช้ผลลัพธ์จากแบบจำลองพยากรณ์อุตุนิยมวิทยาที่มีความละเอียดกริดสูง(เช่น 1-3 กิโลเมตร) และคาดการณ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน ถ้าการพยากรณ์ได้พิจารณาปัจจัยกายภาพเฉพาะของเมืองใหญ่ (Urban-Scale Modeling) ก็จะทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ในประเทศไทยกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานรัฐที่ดำเนินการพยากรณ์อุตุนิยมวิทยาที่ความละเอียดสูงเป็นประจำดังนั้น หากเชื่อมโยงข้อมูลพยากรณ์ดังกล่าวกับการจำลองมลพิษอากาศก็จะเป็นการต่อยอดการประยุกต์ใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ
องค์การมหาชน เช่น 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳解答
ความแตกต่างระหว่างอำนาจบังคับบัญชากับอำนาจกำกับดูแล
1)ในแง่นิติบุคคล
อำนาจบังคับบัญชา เป็นความสัมพันธ์ภายในนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชนเดียวกัน เช่น ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ภายในองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นต้น
อำนาจกำกับดูแล เป็นความสัมพันธ์ระหว่างนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน กับนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน เช่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นต้น
2) ในแง่ที่มาของการใช้อำนาจ
อำนาจบังคับบัญชาเป็นอำนาจทั่วไปที่เกิดจากการจัดระเบียบภายในของรัฐ ภายในหน่วยงานของรัฐแต่ละแห่ง ความสัมพันธ์ของบุคลากรจะเป็นความสัมพันธ์ตามลำดับชั้นในรูปปิรามิด เจ้าหน้าที่แต่ละคนซึ่งอยู่ที่ฐานปิรามิด จะขึ้นตรงต่อเจ้าหน้าที่คนหนึ่งและต้องปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งหรือคำบังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ผู้นี้โดยเคร่งครัด และเจ้าหน้าที่ผู้นี้เองก็จะขึ้นตรงต่อเจ้าหน้าที่เหนือตนขึ้นไป และต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามคำสั่ง คำบัญชาของเจ้าหน้าที่เหนือตนขึ้นไป เป็นเช่นนี้ตลอดสาย จนถึงหัวหน้าหน่วยงานของรัฐแห่งนั้นซึ่งอยู่ที่ยอดปิรามิด และจะเป็นผู้รับผิดชอบงานทั้งหมดของหน่วยงาน ด้วยเหตุนี้เองการการควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาโดยผู้บังคับบัญชาจึงไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายให้อำนาจไว้อย่างชัดแจ้ง และผู้บังคับบัญชาจะปฏิเสธไม่ตรวจสอบคำวินิจฉัยสั่งการของผู้ใต้บังคับบัญชา โดยอ้างว่าไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ไม่ได้- อำนาจบังคับบัญชา เป็น “อำนาจตามกฎหมายทั่วไป” ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายกำหนดโดยเฉพาะ
อำนาจกำกับดูแล เป็นอำนาจที่เกิดขึ้นโดยกฎหมาย กล่าวคือ รัฐ องค์กรส่วนกลางจะกำกับดูแลหรือมอบให้ส่วนภูมิภาค กำกับดูแล หน่วยงานเหล่านี้
-การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ
-รัฐวิสาหกิจหรือ
-องค์การมหาชนหรือ
-หน่วยอื่นของรัฐที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของฝ่ายบริหารหรือ
-หน่วยงานทึ่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนินกิจการทางปกครอง
และกำกับดูแลได้ต่อเมื่อ “กฎหมายให้อำนาจไว้อย่างชัดแจ้ง และเพียงเท่าที่กฎหมายกำหนดไว้” เท่านั้น “ไม่มีการกำกับดูแลโดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย และไม่มีการกำกับดูแลเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนดไว้”
3) ในแง่ขอบเขตอำนาจการตรวจสอบการกระทำ
อำนาจบังคับบัญชา เป็นอำนาจที่เปิดโอกาสให้ผู้บังคับบัญชาสามารถควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาสามารถควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนได้อย่างสิ้นเชิง คือ สามารถตรวจสอบการกระทำต่างๆของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนได้ทั้งในแง่ “ความชอบด้วยกฎหมาย” และ “ความเหมาะสม” ผู้ใต้บังคับบัญชาจึงไม่มีอิสระโดยปราศจากการควบคุมของผู้บังคับบัญชาได้
อำนาจกำกับดูแล โดยปกติกฎหมายจะให้อำนาจรัฐหรือองค์การปกครองส่วนกลางและส่วนภูมิภาคกำกับดูแล ตรวจสอบ
-องค์การปกครองท้องถิ่นหรือ
-รัฐวิสาหกิจ หรือ
-องค์การมหาชน หรือ
-หน่วยอื่นของรัฐที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของฝ่ายบริหารหรือ
-หน่วยงานทึ่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนินกิจการทางปกครอง
ในจัดทำบริการสาธารณะมิให้กระทำนอกวัตถุประสงค์และขัดแย้งกฎหมาย คือ “การตรวจสอบความชอบด้วยฎหมาย” ทั้งนี้เพื่อรักษาความเป็นอิสระของหน่วยงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแล อันเป็นหลักการกระจายอำนาจไว้ ทั้งที่เป็นการกระจายอำนาจทางอาณาเขตกับการกระจายอำนาจทาวเทคนิค/กิจการและบริการ
4) ในแง่ลักษณะผลของออกคำสั่งการในการใช้อำนาจ
อำนาจบังคับบัญชา โดยหลักการมีคำสั่งใดๆ ตามอำนาจบังคับบัญชาไม่ถือว่าเป็นคำสั่งทางปกครอง ยกเว้นกรณีแต่งตั้งโยกย้าย
อำนาจกำกับดูแลของผู้กระทำดูแลที่สั่งการไปยังองค์กรหรือบุคคลที่ถูกกำกับดูแลจะเป็น “คำสั่งทางปกครอง” ทุกกรณี
องค์การมหาชน เช่น 在 iT24Hrs Youtube 的最讚貼文
Away Covid-19 ในแอป Line สิ่งที่ต้องมีติดตัวไว้เพื่อเช็คสถานการณ์โควิด19 รอบตัวเรา และก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องมีติดตัว ก่อนออกจากบ้านยุคโควิด19
ในสถานการณ์การโควิด19 กำลังระบาด ทุกการตัดสินใจ การดำเนินชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป จากแต่ก่อนที่เราจะเช็กข่าวรายวันว่าวันนี้จะไปที่ไหน ถนนเส้นนั้นรถติดไหม ก็กลายเป็นว่าต้องเช็กกันมากขึ้น ที่สถานที่ๆเราจะไปที่ผู้ติดเชื้อไหม ไปไหนมาไหนต้องเช็กอินด้วยแอปไทยชนะตลอด ... เพื่อให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย ทางกรายการไอที 24 ชั่วโมง มีเทคโนโลยีที่เป็นเครื่องมือติดตามในสถานการณ์โควิด19 และดูแลตัวเองให้ห่างไกลผู้ติดเชื้อ มาฝาก
1. เช็กประกาศสำคัญของจังหวัด โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 “ moicovid.com/ข้อมูลสำคัญ-จังหวัด ” ก็จะเห็นแผนที่ประเทศไทย ให้เราคลิกไปที่จังหวัดที่เราอยากทราบข้อมูล เช่น เอิ้นเลือกจังหวัดปราจีนบุรี ก็คลิกที่ชื่อได้เลย ระบบก็จะโชว์ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 ของจังหวัดปราจีนบุรีขึ้นมาเลย ซึ่งข้อมูลที่นำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ก็จะเป็นประกาศ มาตรการควบคุมโควิด19 ของแต่ละจังหวัด เป็นเอกสารทางราชการ ข้อมูลเชื่อถือได้
2. แอป “หมอชนะ” เป็นแอปที่จัดเก็บข้อมูลการเดินทางของผู้ใช้ และผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและประเมินระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 จากสถานที่ต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง เป็นแอปที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐนำโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส/ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. / และกระทรวงสาธารณสุข กับภาคเอกชน และเราก็ยังมีแอป "ไทยชนะ" ให้ใช้กันอยู่ด้วย ไม่ว่าเราจะไปไหน ก็อย่าลืมสแกนเช็คอิน และอย่าลืมเช็คเอาท์ออกกันด้วยนะ
3. แอป Away COVID-19 คือแพลตฟอร์มอัปเดตสถานการณ์ ติดตามไทม์ไลน์สถานการณ์โควิด-19 ในแต่ละวัน โดยเราสามารถใช้ Away Covid-19 ได้แบบฟรีผ่านทางแอป LINE โดยแอดเพิ่มเพื่อนแล้วใส่ข้อความ ว่า " @AWAYCOVID19 " เพิ่มเป็นเพื่อนเรียบร้อยแล้วก็กดที่ปุ่ม "เตือนก่อนเข้าใกล้พื้นที่มีเคส" แล้วกดตอบรับอนุญาตให้แอปเข้าถึง และ ตอบอนุญาตในระหว่างใช้งานแอพ .. และตอบ "ตกลง" เพื่อเข้าถึงตำแหน่ง LOCATION ได้ด้วย .. ซึ่งเรายังสามารถเช็กสถิติผู้ติดเชื้อในประเทศไทย / และค้นหาสถานรักษาพยาบาลได้ด้วย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมกันต่อได้ในคลิบรายการย้อนหลังนี้เลย
ออกอากาศวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564
สามารถติดตาม รายการไอที 24 ชั่วโมง ทางช่อง 9MCOT HD ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.00 น.
ติดตามรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
facebook.com/it24hrs
twitter.com/panraphee
twitter.com/it24hrs
IG: panraphee
ติดต่อโฆษณา it24hrs@it24hrs.com โทร 0802345023