IKIGAI อิคิไก คือ ศาสตร์ที่จะช่วยให้คุณอยากตื่นขึ้นมาในทุกๆวัน
คุณค่าของการมีชีวิต
เชิญฟังคลิปรายการ Human Talk
https://youtu.be/oxs_JePCM4Y
คนอายุยืน 100 ปี มี อยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ที่มีหนาแน่นก็คือเกาะโอกินาวา
ที่มีคนอายุยืนมากเป็นพิเศษ จึงได้มีการทำวิจัยว่าอะไร
ทำให้อายุยืนและสรุปวิถีชีวิต ได้ออก มาเป็น IKIGAI (อิคิไก)
IKIGAI (อิคิไก) คือ ศาสตร์ที่ช่วยไขข้อข้องใจว่า
เหตุผลในการตื่นมาใช้ชีวิตของเราในทุกๆวันนั้น คืออะไร
หรืออีกนัยยะคือความหมายในการมีชีวิตอยู่นั่นเอง
ซึ่ง IKIGAI นี้เป็นสิ่งซ่อนอยู่ภายในตัวเรา
ซึ่งต้องใช้ความพยายามและความอดทนในการค้นหามันให้เจอ
นี่เป็น กฎ 10 ข้อของ IKIGAI ศิลปะในการใช้ชีวิต
1) Stay active; don’t retire กระตือรือร้นกับชีวิตแบบไม่มีวันเกษียณ
เรียนรู้และตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ ต่างๆในโลก รักในสิ่งที่ทำ
ทำในสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่าต่อชีวิตตนเอง
ทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด มีความก้าวหน้าทุกๆวัน
และชื่นชมสิ่งดีๆรอบตัว
2) Take it slow ทำอะไรให้ช้าลง
อย่าเพิ่งงง ว่าขัดกับข้อแรกมั้ย ที่จริงแล้วคือการคิดใคร่ครวญ
สิ่งต่างๆก่อนลงมือทำ มีวิสัยทัศน์และแผนงานที่ดีก่อน
ว่าหากทำสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วจะเกิดผลลัพธ์อะไรขึ้นบ้าง
ไม่ใช่กระตือรือร้นจนลนแบบทำอะไรรีบๆ ไม่ได้มองภาพใหญ่ระยะยาว
3) Don’t fill your stomach อย่ากินให้อิ่มเกินไป
หากอยากมีสุขภาพดี อายุยืน ต้องใช้กฎ 80 เปอร์เซ็นต์
ที่เรียกว่า hara hachibu คือให้หยุดกินทันทีเมื่อรู้สึกอิ่มแล้ว
หรือคิดเป็นปริมาณ 1,200 – 1,500 แคลเลอรีต่อวันเท่านั้น
โดยเน้นอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งเป็นกลุ่มผักและผลไม้สดทั่วๆไป
4) Surrounding yourself with good friends แวดล้อมด้วยเพื่อนดีๆ
เพื่อนคือยาที่ดีที่สุด การได้รับฟัง พูดคุย แบ่งปันทุกข์สุขกันกับเพื่อนๆ
ให้คำแนะนำกันบ้าง หัวเราะขำขันกันบ้าง ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง
ทำให้ชีวิตของเรามีชีวาขึ้นทุกๆวัน ซึ่งจากงานวิจัยหลายที่ต่างให้ข้อมูล
ตรงกันว่า ความสัมพันธ์ที่ดี นำไปสู่สุขภาพจิตที่ดี
และทำให้การทำงานของระบบต่างๆในร่างกายนั้นดีขึ้นอีกด้วย
5) Get in shape for your next birthday ฟิตร่างกายให้ดีต้อนรับวันเกิดปีหน้า
ร่างกายก็ต้องการได้รับการดูแลบำรุงรักษา คล้ายเครื่องยนต์
ที่หากใช้งานทุกวันก็ต้องเสื่อมไปบ้างเป็นธรรมดา
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทำให้ร่างกายแข็งแรง
แล้วยังผลิตฮอร์โมนเพื่อช่วยทำให้เรามีความสุขอีกด้วย
6) Smile ยิ้มเข้าไว้
การยิ้มทำให้จิตใจผ่อนคลายแล้วยังช่วยทำให้เรา
มีเพื่อนเพิ่มขึ้นได้ง่ายๆ เพราะกลไกทางจิตใจเรามีระบบ
จดจำความรู้สึกอัตโนมัติ (Facial expression effect)
ที่ทำให้เรารับรู้ว่าหากเรายิ้ม อารมณ์เราจะดีขึ้น
7) Reconnect with nature เชื่อมต่อกับธรรมชาติ
เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามแหล่งธรรมชาติต่างๆ
เช่น ทะเล ภูเขา น้ำตก เพื่อชาร์ตแบตเตอรี่เพิ่มพลังงาน
ให้ตัวเองอยู่เสมอๆ เพราะเราต่างเชื่อมโยงเป็นส่วนหนึ่ง
ของธรรมชาติและโลกใบนี้ การได้รับออกซิเจนที่มากพอ
ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ คือความสุขโดยธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน
😎 Give thanks ขอบคุณในสิ่งที่เรามี
ความรู้สึกขอบคุณและกตัญญูต่อบุคคลและสิ่งต่างๆ
เริ่มตั้งแต่บรรพบุรุษ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม อาหาร
และสิ่งที่เรามี จะทำให้เรารู้สึกโชคดีที่ได้มีชีวิตอยู่
และจะยิ่งเพิ่มพูนความสุขให้เราในทุกๆวัน
9) Live the moment อยู่กับปัจจุบันขณะ
หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“วันนี้” และ “ขณะนี้” คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าและน่าจดจำ
เพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมาและผ่านเลยไป
เอาคืนไม่ได้และหาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน
10) Follow your IKIGAI จงออกตามหา IKIGAI ของคุณ !
มนุษย์ทุกคนมีความรักความหลงใหลและพรสวรรค์บางอย่าง
อยู่ในตัวเรา ที่จะทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความหมายในทุกๆ วัน
และขับเคลื่อนชีวิตเราไปข้างหน้าจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิต
หากคุณยังหา IKIGAI ของคุณไม่เจอก็ไม่เป็นไร
ภารกิจของคุณก็คือ “ออกตามหามัน”
ติดตามข่าวสารงานบุญ ข้อคิดดีๆ ทาง
มูลนิธิธรรมดี
Official Line
https://bit.ly/2VaWeV1
อิคิไก คือ 在 Roundfinger Facebook 的最佳解答
ผมตั้งใจเริ่มต้นปี 2021 ด้วยการทบทวนตัวเอง และตั้งสติเพื่อหาวิถีปฏิบัติที่ทำให้กายใจเป็นสุข เหมือนเข้าศูนย์ถ่วงล้ออีกรอบ ไม่ให้ชีวิตเฉไฉสวิงสวายนัก จึงจัดเวลานี้ให้กับการอ่านหนังสือที่บอกเล่าปัญญาจากผู้มาก่อน
The Blue Zones เป็นหนึ่งในนั้น
แดน บุทเนอร์-ผู้เขียนออกเดินทางหาเคล็ดลับของ 'น้ำอมฤต' หรือ 'ยาอายุวัฒนะ' จากดินแดนที่มีผู้เฒ่าผู้แก่อายุเกิน 100 ปีจำนวนมาก เช่น บริเวณภูเขาบาร์บาเกีย ที่อิตาลี, เกาะโอกินาวา ญี่ปุ่น, เมืองโลมาลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีเรื่องมากมายที่เราเรียนรู้ได้จากผู้อาวุโส
การมีชีวิตที่ดีน่าจะเป็นชีวิตที่มีความสุข ด้วยเหตุนั้นเราจึงอยากให้มันยืนยาว หากทุกข์ทรมานก็คงไม่อยากอยู่ยาวนัก และในทางกลับกัน ยิ่งมีความสุขชีวิตก็ยิ่งยืนยาว เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน
อายุยืนจึงไม่ใช่แค่อยู่นาน หากคืออยู่ดี แข็งแรง และเป็นสุข
หลังจากออกเดินทางศึกษาผู้เฒ่าทั้งสามดินแดน แดน บุทเนอร์ ได้ข้อสรุปที่เป็นจุดร่วมกันของผู้อายุยืนออกมาดังต่อไปนี้
...
1. เคลื่อนไหวๆๆๆๆ:
คนส่วนใหญ่ที่อายุเกินร้อยปีมักมีกิจวัตรประจำวันเป็นการทำงานนอกบ้านที่ต้องขยับแข้งขาแขนมือหลายชั่วโมงในแต่ละวัน เราสามารถปรับมาเป็นการ 'เลือกเดิน' เข้าซอย ขึ้นบันได ปั่นจักรยานไปปากซอย ใช้สองขาทุกครั้งที่มีโอกาส จนกลายเป็นนิสัย เรื่องนี้มีทริกนิดเดียวคือ ยิ่งละความสะดวกสบายได้มากเท่าไหร่ เราก็จะได้ออกแรงและขยับตัวมากเท่านั้น ยิ่งขยับตัวน้อยก็ยิ่งอายุสั้น ส่วนใครออกกำลังกายวันละ 1 ชม. สัปดาห์ละ 5 ครั้งได้นี่คือยอดเยี่ยม อันนี้ผมตั้งใจว่าจะทำ
...
2. ฮารา ฮาจิ บุ
ภาษิตขงจื่อภาษาญี่ปุ่นที่ชาวโอกินาวาพูดก่อนกินอาหารเพื่อเตือนสติตัวเองให้หยุดเมื่ออิ่มสัก 80% นี่คือวิธีลดแคลอรีแบบไม่ทรมาน เพราะอีกแป๊บสมองจะรับรู้ความอิ่มนั้น ทำเป็นประจำน้ำหนักตัวจะลดลง ความดัน โคเลสเตอรอล ความเสี่ยงโรคหัวใจก็ลดลงตามมา ที่เรากินล้นเพราะขาดสติ และโดนชักจูงด้วยรูปสวยๆ แพ็กเกจจิ้ง กลิ่นที่ลอยมาเตะจมูก ป้ายลดราคา ฯลฯ "ฮารา ฮาจิ บู" ท่องไว้ๆ
...
3. เน้นกินผัก เต้าหู้ และถั่ว
คนเกินร้อยปีส่วนใหญ่กินผักเป็นหลัก เนื้อเป็นรอง โปรตีนส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นแคลอรีเก็บไว้ในร่างกาย ถ้าไม่ใช้ก็จะกลายเป็นไขมันในที่สุด ที่สำคัญคืออย่าสุดโต่ง กินให้สมดุล ไม่ต้องตัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยสิ้นเชิง หลักง่ายๆ คือ "กินเท่าที่ใช้" และเน้นผักกับอาหารที่ผ่านกระบวนการน้อย อาหารหลักของชาวโอกินาวาคือเต้าหู้ และมีงานศึกษาที่น่าสนใจคือ คนกินถั่วอย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์จะอายุยืนกว่าคนไม่กินถั่วประมาณสองปี
...
4. ดื่มไวน์แดง (สักนิด)
ทั้งชาวโอกินาวาและชาวซาร์ดิเนียแห่งอิตาลีมีกิจวัตรดื่มไวน์แดงหนึ่งแก้วกับอาหารทุกมื้อที่กินกับเพื่อนฝูง 1-2 แก้วช่วยลดอัตราการเป็นโรคหัวใจ ลดเครียด ลดการอักเสบเรื้อรัง ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดแดง แต่ถ้าดื่มเยอะก็จะเริ่มเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
...
5. อิคิไก (เหตุผลที่ตื่นมา)
คนที่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาทำไม อยู่ไปทำไม มีเป้าหมายชัด รู้สึกว่าตัวเองมีความหมายมักจะมีอายุยืน อิคิไกที่ว่านี้ไม่ใช่สิ่งยิ่งใหญ่อะไร มันอาจเป็นแปลงผักที่ปลูกไว้ ดอกไม้ในกระถางในช่วงหลังเกษียณ หรือกิจกรรมที่ทำให้เราลื่นไหลอย่างการเล่นดนตรี ทำอาหาร เขียนหนังสือ วาดรูป เมื่อเจอแล้วก็ใช้เวลากับสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ การฝึกฝนสิ่งใหม่ๆ ก็ทำให้เราเจออิคิไกใหม่ๆ ลดอัลไซเมอร์ แน่นอนว่าถ้ามีเรื่องที่มีคุณค่าในชีวิตอยู่เสมอก็ยิ่งทำให้มีกำลังภายใน แต่ควรทำเรื่องเหล่านั้นอย่างไม่เอาเป็นเอาตายหรือเครียดจนเกินไปด้วยเช่นกัน
...
6. หาเวลาผ่อนคลาย
ผู้เฒ่าร้อยปีที่ทำงานต้อนแกะมีโอกาสได้หยุดมองทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และท้องฟ้าสีสวยอยู่เสมอ การพบเจอกันระหว่างเพื่อนและครอบครัวในบรรยากาศสบายๆ ไม่พิธีรีตอง ช่วงเวลาเช่นนี้เหมือนเป็นช่วงชะลอความเร็วของชีวิต ควรมีไว้เป็นระยะ จะช่วยลดความเครียด เยียวยาร่างกายและจิตใจ ลดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งส่งผลให้เป็นอัลไซเมอร์ เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ชีวิตที่ช้าลงทำให้การอักเสบลดลง อีกอย่างคือเอาตัวเองออกไปจากสิ่งเร้าทั้งหลาย ทั้งหน้าจอ ห้างฯ และทุกสถานที่ที่กระตุ้นให้ใจเต้นถี่ตลอดเวลา การเที่ยวที่แย่งกันเที่ยวก็ไม่น่าจะผ่อนคลายเช่นกัน
...
7. เข้าร่วมกับกลุ่มที่สนใจ
วิถีแบบดั้งเดิมคือการรวมกลุ่มทำกิจกรรมศาสนา วิถีสมัยใหม่มีกลุ่มก๊วนความสนใจใหม่ๆ มากมาย เดินป่า ตั้งแคมป์ ถ่ายภาพ ทำอาหาร งานฝีมือ ฯลฯ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่ให้ความสนใจมิติจิตวิญญาณจะมีอัตราโรคหัวใจ ซึมเศร้า และฆ่าตัวตายน้อยลง ภูมิคุ้มกันดีขึ้น ใครชอบสวดมนต์ เข้าโบสถ์ก็นับว่าดี ใครไม่ใช่แนวนั้นอาจลองหากิจกรรมนั่งล้อมวงที่มีบรรยากาศรับฟังอย่างแท้จริง ได้พูดได้ฟังอย่างลึกซึ้ง มิใช่เฮฮาปกปิดความเศร้าเท่านั้น
...
8. ความสำคัญของครอบครัว
ผู้เฒ่า 100 ปีมักให้ความสำคัญกับครอบครัว ส่วนใหญ่มักแต่งงาน มีลูก มีหน้าที่ต่อครอบครัว สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาตอบตัวเองได้ว่ากำลังเหนื่อยยากเพื่อใคร งานวิจัยชี้ว่าคนสูงวัยที่อยู่กับลูกหลานมีสุขภาพดีกว่าที่ต้องอยู่เองสองคนตายาย หากไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน การได้พบกันเป็นประจำ กินอาหารด้วยกัน เที่ยวประจำปีด้วยกัน เพื่อรักษาสายใยแห่ง 'ความเป็นเรา' เอาไว้ก็เป็นสิ่งทดแทนได้บ้าง และสำหรับบางคน 'ครอบครัว' อาจนิยามด้วยเพื่อนที่สนิทกันมากๆ ไว้ใจกันมากๆก็เป็นไปได้เช่นกัน
...
9. แวดล้อมด้วยคนที่ปรารถนาดีต่อกัน
ทุกวันหลังเลิกงาน ชาวซาร์ดิเนียจะเข้าร้านเหล้าท้องถิ่นเพื่อพบปะเพื่อนฝูง และทุกคนในชุมชนจะมาช่วยงานเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปี รวมถึงเฮฮากันในเทศกาลประจำหมู่บ้าน การพบเจอเพื่อนฝูงแล้วหัวเราะกับเรื่องไร้สาระเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต มันช่วยกระชับสัมพันธ์และช่วยให้ผ่อนคลาย งานวิจัยชี้ว่าคนที่มีสังคมแคบเสี่ยงเสียชีวิตสูงกว่าคนสังคมกว้าง (รู้จักคนเยอะ เพื่อนเยอะ) ถึง 2-3 เท่า ค้นหากลุ่มเพื่อนสนิทแล้วหัวเราะกับพวกเขาบ่อยๆ
...
ผมสรุปสั้นๆ ตามความเข้าใจตัวเองเป็นสูตรอายุยืนว่า "เคลื่อนไหว ดื่มไวน์ กินผัก ผ่อนพัก หยุดก่อนอิ่ม หาอิคิไก ร่วมกิจกรรมที่สนใจ ให้เวลาครอบครัว รั่วกับเพื่อนซี้ แบบนี้อยู่อีกยาว"
เรื่องเหล่านี้หลายครั้งเรารู้อยู่แก่ใจแต่ทำไม่ได้สักที ผ่านไปอีกปีแล้ว จากการอ่านเล่มนี้ ผมคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดที่ได้เรียนรู้จากผู้เฒ่าทั้งหลายคือ พวกเขาไม่ได้ 'ตั้งใจ' ทำสิ่งดีๆ มีประโยชน์เหล่านี้ แต่มันคือวิถีชีวิต
สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิตพวกเขา หากอยากทำได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ จึงไม่ใช่การ 'ตั้งใจทำ' แต่ผมคิดว่าต้องเป็นการ 'ตั้งใจสร้างสภาพแวดล้อม' เพื่อสร้างวิถีนี้ให้เกิดขึ้นในชีวิตเรา
เช่น สร้างนิสัยให้เคลื่อนไหวบ่อยขึ้น ลดการหยิบขนมถุงเข้าบ้าน สร้างช่วงเวลาปลอดหน้าจอ แล้วได้ผ่อนคลายกับเพซที่ช้าลง จัดตารางเวลาให้ตัวเองสำหรับกิจกรรมที่สนใจ เพื่อนฝูง และครอบครัว ฯลฯ
อะไรที่เป็นแรงเสียดทานก็หยิบออกไปไว้ไกลๆ มือ หรือถ้าตัดได้ก็ตัดออกเลย
'สภาพแวดล้อม' ก่อ 'นิสัย'
'นิสัย' ก่อ 'ความเคยชิน'
และเมื่อไหร่ที่สิ่งดีๆ กลายเป็นความเคยชิน นั่นแปลว่าเรามีชีวิตที่ดีพอสมควร หากเคยชินกับสิ่งร้ายก็แปลว่าเราใช้ชีวิตพังๆ อยู่
วิถีชีวิตที่ดีลดโรคร้ายทั้งกายใจ ทำให้รู้สึกดีกับชีวิต
ถ้าจะอยู่ยาวๆ คงต้องชอบชีวิตตัวเอง
จึงคุ้มค่าที่จะอายุยืน : )
อิคิไก คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
สรุปการนำ “อิคิไก” มาใช้ในธุรกิจ
การนำ “อิคิไก” มาใช้ในธุรกิจ - MarketThink
หลักคิด “อิคิไก (IKIGAI)” ที่หมายถึง การค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่
ซึ่งมาจากการคำว่า อิคิรุ (IKIRU) ที่แปลว่า การมีชีวิต และ ไก (GAI) แปลว่า คุณค่า
แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า นอกจากเรื่องชีวิตแล้ว
เราสามารถนำหลักคิดนี้ มาปรับใช้กับตัวธุรกิจได้
ซึ่งคุณดั่งใจถวิล อนันตชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทจ (ประเทศไทย) จำกัด เคยอธิบายไว้ว่า
“โมเดล อิคิไก ถ้าเปลี่ยนเป็นมุมธุรกิจ
เราสามารถนำแกนหลัก 4 แกนของ อิคิไก มาตั้งคำถามกับธุรกิจของตัวเองได้”
โดย 4 แกนหลัก ประกอบด้วย
1) สิ่งที่เรารัก ชอบ และมีความสุขที่ได้ทำ (What you love ?)
2) สิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลกและผู้อื่น (What the world needs ?)
3) สิ่งที่สร้างรายได้ให้เรา (What you can be paid for ?)
4) สิ่งที่เราทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ (What you are good at ?)
แล้วนำ 4 แกนนี้ มาตั้งคำถามกับธุรกิจของตัวเองว่า
-Passion :
อะไรคือสิ่งที่เรารัก ชอบ และมีความสุขที่ได้ทำ ?
ต้องตอบได้ว่า Core Business หรือแก่นธุรกิจของเราคืออะไร
เราอยากประสบความสำเร็จในสิ่งไหน
สิ่งไหนที่แม้แต่ต้องเจออุปสรรคต่างๆ เราก็อยากจะเดินหน้าทำต่อไป
-Mission :
อะไรคือสิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลกและผู้อื่น ?
ธุรกิจของเราสามารถสร้างประโยชน์ต่อคน สังคม ในแง่มุมไหนได้บ้าง
เช่น สะท้อนออกมาเป็นการทำ CSV (Creating shared value) หรือ SB (Sustainability brand)
-Vocation :
อะไรคือสิ่งที่สร้างรายได้ให้เรา ?
ธุรกิจต้องสร้างรายได้และเลี้ยงตัวเองได้ เมื่อเราแข็งแรง เราจะมีกำลังในการสร้างสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่น
-Profession :
อะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ ?
หาจุดเด่น หรือความเชี่ยวชาญที่เราถนัด ทำให้จุดเด่นนั้นแข็งแรงขึ้น และต่อยอดธุรกิจต่อไป
เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ
จะเห็นได้ว่า “อิคิไก” ซึ่งเป็นหลักคิดสร้างสุขยั่งยืนของคนญี่ปุ่น ก็สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้
สรุปแล้ว
สำหรับการค้นหา อิคิไกของตัวเรา คือ การค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่
แต่ อิคิไก ในแง่มุมธุรกิจ ก็คือ ความหมายในการมีอยู่ของธุรกิจนั้น นั่นเอง..
#อิคิไก
#ธุรกิจ
---------------------------------------------------
อ้างอิง:
-หนังสือ อิคิไก: ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ของ เคน โมงิ
-https://thestandard.co/podcast/readery14
-https://mgronline.com/management/detail/9600000114439
Implementing ′′ Ikikai ′′ in business - MarketThink
The principle of ′′ IKIGAI (IKIGAI) ′′ that means finding the meaning of living.
Which comes from Ikiru (IKIRU) meaning living and gai (GAI) means value.
But many people may not know that apart from life.
We can apply this concept to business.
Which is your heart, Wil Anantchai, Chief Operations Officer and Director, Interage Company Limited, has explained.
′′ Ikikai model, if you turn into a business corner.
We can bring Ikikai's 4 core studs to question their business
By 4 main axis consists of
1) What we love, like and are happy to do (What you love? )
2) What is useful to the world and others? (What the world needs? )
3) What make money for us (What you can be paid for? )
4) What we do better than others. (What are you good at? )
And bring these 4 axis to question their business.
-Passion :
What is something we love, like and are happy to do?
What is Core Business or our business?
What do we want to accomplish?
Any obstacle that we have to go through, we want to keep going.
-Mission :
What is it that benefits the world and others?
What extent can our business benefit social people?
For example, reflecting on making CSV (Creating shared value) or SB (Sustainability brand)
- Vocation:
What is it that proceeds us?
Businesses must make money and raise themselves. When we are strong, we will have the strength to create good things for others.
-Profession :
What is it that we do better than others?
Looking for highlights or expertise that we're good at making our highlights stronger and further business ventures.
To strengthen the business
It can be seen that ′′ Ikikai ′′ which is the main principle to create sustainable happiness of Japanese people. It can be applied to business.
In conclusion,
For finding our own Ikikai is finding the meaning of living.
But Ikiki in business aspect is the meaning of business..
#อิคิไก
#ธุรกิจ
---------------------------------------------------
Reference:
- Ikikai Book: The meaning of living of Kenyan
-https://thestandard.co/podcast/readery14
-https://mgronline.com/management/detail/9600000114439Translated
อิคิไก คือ 在 Cariber - เราเคยถามตัวเองไหมว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ... - Facebook 的推薦與評價
'อิคิไก' เป็นปรัชญาในการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่น อิคิไก (Ikigai) มาจากคำสองคำได้แก่ อิคิรุ (Ikiru) ที่แปลว่า มีชีวิต และ ... แต่จริงๆ แล้วอิคิไกคือความสุขเล็กๆ ... ... <看更多>