ภาษา เป็นตัวกำหนดความคิด ของคนประเทศนั้น /โดย ลงทุนแมน
หลายศตวรรษที่ผ่านมา หลายคนมักคิดว่าภาษาเป็นเพียงแค่การใช้คำศัพท์
หรือการเรียงประโยคที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น
แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว กรอบความคิดและทักษะส่วนหนึ่งของเราเอง
อาจจะถูกครอบงำจากภาษา โดยที่เราก็ไม่ทันรู้ตัว
ทำไม คนจีนถึงมีความชำนาญด้านตัวเลข
ทำไม คนอังกฤษกับสเปนอาจมีมุมมองต่อเรื่องเดียวกัน ไม่เหมือนกัน
รวมถึงว่าทำไม ประเทศไทยถึงมีการปลูกฝังเรื่องความอาวุโสตั้งแต่ยังเล็ก
ทุกอย่างนี้สามารถอธิบายได้ โดยสิ่งที่เรียกว่า “ภาษา”
แล้วภาษา มีอิทธิพลต่อเราขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บนโลกนี้มีภาษาที่ใช้สื่อสารถึงกว่า 7,000 ภาษาด้วยกัน
ซึ่งแต่ละภาษามีความแตกต่างในหลายแง่มุม
ทั้งจากการออกเสียง คำศัพท์ และโครงสร้างที่ไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ สังเกตได้ว่าคนในแต่ละประเทศ
มีทั้งวัฒนธรรมและความคิดแตกต่างกันไป
นั่นจึงเป็นที่มาให้บรรดานักภาษาศาสตร์ศึกษาว่า
ภาษานั้นส่งผลต่อความคิดและการกระทำหรือไม่
เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์
จึงได้ทำการวิจัยและทดลองคนแต่ละประเทศ
แล้วพบว่าภาษาไม่ได้เพียงแค่ส่งผลต่อความคิดและทักษะเท่านั้น
แต่มันอาจจะเป็น “ตัวกำหนดความคิดของเรา” เลยด้วยซ้ำ
จึงเกิดเป็นทฤษฎี Linguistic Relativity หรือ ทฤษฎีสัมพันธภาพทางภาษา
ถูกคิดโดยเอ็ดเวิร์ด ซาเพียร์ และเบนจามิน วอร์ฟ
ซึ่งแบ่งย่อยได้อีก 2 แนวคิดคือ
1. Linguistic Determinism ภาษาเป็นตัวกำหนดความคิดของเรา
2. Linguistic Relativity คนที่ใช้ภาษาต่างกัน จะมีมุมมองและวิธีคิดที่ไม่เหมือนกัน
แล้วทฤษฎีนี้ มีเหตุผลสนับสนุนอะไรบ้าง ?
เรามาดูตัวอย่างงานวิจัยและทดลองที่ผ่านมา
เบนจามิน วอร์ฟ ได้ยกตัวอย่างโดยการเทียบ
ระหว่างภาษายุโรปกับภาษาอเมริกันอินเดียนหรือ Hopi
ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพว่า ภาษาที่มีไวยากรณ์ที่แตกต่างกันนั้นส่งผลต่อความคิดของเรา
โดยภาษายุโรป จะมองว่าเวลานั้นมีตัวตนเหมือนสิ่งของทั่วไป
สามารถนับเป็นหน่วยได้ เช่นเดียวกับสิ่งของที่นับเป็นชิ้น
แต่เวลาจะนับเป็นหน่วยวินาทีหรือชั่วโมงแทน
ซึ่งการมองว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีตัวตนนี้เอง ส่งผลให้เกิดสิ่งที่ตามมา
เช่น การให้ความสำคัญกับเวลา ซึ่งนำมาสู่สิ่งประดิษฐ์อย่าง ปฏิทินและนาฬิกา
หรือกระทั่งความสนใจในอดีต อย่างการบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์
หรือแม้กระทั่งหลักไวยากรณ์ในหลายภาษา เช่น ภาษาอังกฤษก็จะมีรูปประโยคที่แสดงถึง อดีต ปัจจุบัน อนาคต
ในขณะที่ Hopi เองนั้นมองเวลาเป็นเพียงแค่สิ่งที่ไม่มีตัวตน เป็นเพียงแค่สิ่งที่วนเวียนเหมือนเดิม
จึงไม่แปลกที่จะไม่มีการจดบันทึกเหตุการณ์ด้วยภาษา Hopi และก็สะท้อนมายังสังคมของชาว Hopi ที่ให้ความสำคัญกับการกระทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะพูดถึงสิ่งเดียวกัน
แต่ความคิดและมุมมองจะแตกต่างกันไปตามแต่ละภาษา
นอกจากความคิดแล้ว
ภาษายังส่งผลต่อทักษะอีกด้วย
สะท้อนมาจากงานวิจัยของเลรา โบโรดิตสกี
ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์
ที่ได้ไปเจอกับชุมชนชาวอะบอริจินในออสเตรเลีย
ซึ่งผู้คนในชุมชนนี้ไม่รู้จักคำว่าซ้ายหรือขวาเลย
แต่จะบอกทิศทางโดยการใช้ศัพท์ตามเข็มทิศ
ตัวอย่างรูปประโยคแปลเป็นภาษาไทย
เช่น “มีมดเกาะอยู่บนขาข้างตะวันตกเฉียงใต้”
นอกจากนี้ พวกเขามักจะทักทายด้วยคำว่าสวัสดี
แล้วต่อด้วยการถามเส้นทางของคู่สนทนา
เช่น “สวัสดี คุณกำลังไปทางไหน”
ซึ่งจากการใช้ภาษาแบบนี้ ทำให้ชาวอะบอริจินมีความเชี่ยวชาญในการระบุทิศทางได้ดี
นี่ถือเป็นตัวอย่างแรกที่ชี้ให้เห็นว่าภาษาส่งผลต่อทักษะเช่นกัน
ตัวอย่างถัดไปก็คือ การแยกเฉดสีของชาวรัสเซีย
ปกติแล้ว ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษมักจะเรียกสีฟ้าเข้มและอ่อนว่า Blue ทั้งหมด
แต่ชาวรัสเซียกลับต้องจำแนกเฉดสี
ระหว่างสีฟ้าอ่อน ที่เรียกว่า “โกลูบอย” กับสีฟ้าเข้ม ที่เรียกว่า “ซีนีย์”
นั่นจึงทำให้พวกเขามีความสามารถในการแยกแยะสีได้เร็วกว่าชาติอื่น
และตัวอย่างสุดท้ายคือ ทักษะด้านตัวเลขของชาวจีน
ชาวจีนเก่งการนับเลขมากกว่าผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษ
นั่นก็เพราะว่าตัวเลขมีการสื่อสารที่เรียบง่าย
ในขณะที่เลข 11 ภาษาอังกฤษ คือ Eleven
หรือ 12 คือ Twelve ซึ่งจะเป็นการสร้างคำพูดใหม่ขึ้นมา
แต่สำหรับเลขจีน กลับเป็นคำพูดที่เรียบง่าย เช่น เลข 11 หรือ 十一
อ่านว่า สืออี ซึ่งเป็นการนำคำศัพท์เลข 10 กับเลข 1 มาผสมกัน เท่านั้น
ทีนี้ เรามาดูอีกผลวิจัยที่พิสูจน์ว่าแต่ละภาษาส่งผลต่อการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันด้วย
ซึ่งเป็นการทดลองโดยการฉายภาพเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา
ในรูปแบบคลิปวิดีโอเกี่ยวกับแจกันแตก
เพราะมีคนบังเอิญเดินมาชนอย่างไม่ตั้งใจ
และมีผู้เข้าร่วมทดสอบ 2 ประเภท คือผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษ และผู้ที่ใช้ภาษาสเปน
ผลทดลองพบว่า สิ่งที่คนอังกฤษสรุปออกมาได้ก็คือ แจกันแตกเพราะมีคนชนมันตกลง
ในขณะที่คนสเปนจะจดจำได้เพียงแค่ว่า มีแจกันแตกเท่านั้น
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมคนสเปนถึงจำได้แค่นั้น
นั่นก็เพราะว่าภาษาสเปนจะคำนึงถึงเจตนาด้วย
หากเป็นอุบัติเหตุ ชาวสเปนจะตัดเรื่องราวส่วนผู้กระทำออกไป
โดยไม่ให้ความสำคัญกับส่วนนั้นและมองว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องจดจำ
ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่า
แม้เราจะเผชิญเหตุการณ์เดียวกัน แต่เรากลับมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งมันก็จะนำไปสู่วิธีคิดและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน
เรื่องดังกล่าวยังส่งผลกระทบไปถึงการพิพากษาคดี หรือแม้แต่การตัดสินใจร่วมกันของคนต่างชาติ ต่างภาษา อีกด้วย
นอกจากนี้ ภาษาก็ส่งผลต่อความเชื่อและค่านิยมอีกเช่นกัน
เช่น ประเทศไทย เป็นหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องลำดับขั้นหรือความอาวุโส
ซึ่งก็สะท้อนมาจากการใช้คำว่า ครับ หรือ ค่ะ ท้ายประโยคแทนความเคารพ
แตกต่างจากประเทศฝั่งตะวันตก
ในขณะเดียวกัน เราก็มีคำสรรพนามที่ใช้เรียกผู้อื่นหรือตัวเองที่มีอยู่มากมาย
ตั้งแต่ เรา ผม หนู ฉัน ดิฉัน กระผม ข้า ข้าพเจ้า หม่อมฉัน
ซึ่งแต่ละสรรพนามก็ใช้แตกต่างกันตามสถานะของอีกฝ่าย
เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเอง ก็เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับความอาวุโสเช่นกัน
จึงเห็นได้ว่าทั้ง 2 ประเทศมีคำที่ใช้สื่อสารต่อผู้คนที่แตกต่างกัน
เช่น เกาหลีใต้ คำว่า 요 หรือ -습니다
จะถูกใช้ท้ายประโยคเหมือนคำว่า ครับ หรือ ค่ะ ของคนไทย
และเหล่าคำกริยาก็สามารถผันเป็นรูปอื่น
เพื่อแสดงความเคารพต่อคนที่อาวุโสกว่า
ภาษาญี่ปุ่น はい แปลว่า ครับ หรือ ค่ะ เป็นการตอบแบบสุภาพ ใช้ได้กับทุกสถานการณ์
ในขณะที่ ええ แปลว่า ครับ หรือ ค่ะ เช่นกัน แต่ใช้ได้แค่คนระดับเดียวกันหรือรองลงมา
ในทางกลับกัน ชาวเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเวลาอย่างมาก
แต่ประเทศไทยกลับไม่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าคำศัพท์ของไทยไม่มีการผันตามเวลา
ซึ่งต่างจาก 2 ประเทศข้างต้น ที่มีการผันคำศัพท์ที่แตกต่างตามช่วงเวลา
จากตัวอย่างทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าภาษาคือสิ่งที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความคิดของผู้คนแต่ละพื้นที่ จึงไม่แปลกใจที่คนพูดได้หลายภาษาจะสามารถมองโลกได้กว้างกว่า
และนี่จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมบางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศหนึ่ง
อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักในบางประเทศ
จากเรื่องนี้ก็ทำให้เห็นความสำคัญว่า ทำไมเราจึงควรเรียนรู้ภาษาของประเทศอื่น
เพราะสิ่งที่เราได้รับ นอกจากจะได้ภาษาใหม่แล้ว ยังเป็นการสร้างมุมมองใหม่อีกด้วย
ซึ่งการมีมุมมองที่รอบด้าน ก็จะกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้นตามไปด้วย
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-biolinguistic-turn/201702/how-the-language-we-speak-affects-the-way-we-think
-https://www.ted.com/talks/lera_boroditsky_how_language_shapes_the_way_we_think?language=th
-https://so04.tci-thaijo.org/index.php/abc/article/view/60825/50088
-https://itdev.win/14215/13.pdf
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過180萬的網紅Korea Daughter-in-law by korea,也在其Youtube影片中提到,#เเกงเผ็ดไก่ใส่หน่อไม้ #อาหารไทยในต่างประเทศ #สะใภ้เกาหลี #หน่อไม้ #เก็บผัก #สวนผัก #ผักปลอดสาร #ผัดหน่อไม้ #ร้านอาหารเกาหลี #เกาหลีใต้ #ครอบครัวเกาหล...
「เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ」的推薦目錄:
- 關於เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 อ้ายจง Facebook 的最讚貼文
- 關於เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 พ่อบ้านเยอรมัน Facebook 的最佳貼文
- 關於เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 Korea Daughter-in-law by korea Youtube 的最佳貼文
- 關於เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 โปรแกรม แปลภาษาญี่ปุ่นเป็นอังกฤษเกาหลีใต้ vs ตุรกี V4.3.5 的評價
- 關於เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 รัฐบาลเกาหลีใต้ผลักดัน แก้ชื่อเมนูภาษาอังกฤษผิดๆ แปลคำต่อคำ ... 的評價
- 關於เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 ทำความรู้จัก 'ยุนซอกยอล' ปธน. เกาหลีใต้คนที่ 20 | workpointTODAY 的評價
เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 อ้ายจง Facebook 的最讚貼文
หากเรียนในเมืองจีน เราจะเจอกับอะไรบ้าง?
'20 ข้อควรรู้ ก่อนเรียนต่อจีน'
-----
แม้ตอนนี้จะมีวิกฤติ COVID-19 แต่หลายคนก็อยากที่จะสมัครเรียนต่อที่จีน และแน่นอนว่าพอสถานการณ์ดีขึ้น เราก็คงไปเรียนในจีนได้ สำหรับตอนนี้ หลายม.ของจีนเลือกการเรียนการสอนเป็นแบบ Online ไปจนถึงราวต้นปีหน้าเลย
แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้ ด้วยการรู้ว่า 'เราจะเจออะไรบ้าง เมื่อเรียนที่จีน'
.
และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังรู้สึกลังเล ไม่แน่ใจ ว่าจะเรียนต่อที่เมืองจีนดีไหม เจอประสบการณ์ไม่ค่อยดีนักตามหน้าสื่อเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีน เลยกลัวที่จะเรียนต่อที่จีน ความกลัว ความลังเล เกิดขึ้นกับคนเราได้เสมอ เมื่อเรายังมีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนั้นไม่มากพอ แต่ จงอย่าลังเลที่จะอ่านบทความนี้ บทความที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ของอ้ายจงที่เคยใช้ชีวิตอยู่เมืองจีนมา กว่า 7ปี
.
1. ไม่ต้องมีพื้นฐานภาษาจีน ก็เรียนปริญญาที่จีนได้
ถ้าหากเราไม่มีพื้นฐานภาษาจีน หรือคะแนนทดสอบระดับภาษาจีน (HSK) ไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ (HSK4 สำหรับปริญญาตรี, HSK5/6 สำหรับปริญญาโทและเอก) เราสามารถเรียนคอร์สภาษาจีน เพื่อปรับภาษาจีนของเราก่อนที่จะเริ่มเรียนปริญญาได้
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยหลายแห่งในจีน เปิดหลักสูตรปริญญาแบบอินเตอร์ –ภาษาอังกฤษ มากขึ้น โดยเฉพาะปริญญาโทและปริญญาเอก ดังนั้น หากทักษะภาษาอังกฤษของเราเพียงพอที่จะเรียนในระดับปริญญาได้ เราก็เลือกเรียนแบบอินเตอร์
ในหลักสูตรอินเตอร์ของทุกมหาวิทยาลัย จะบรรจุ วิชาภาษาจีน เพื่อให้เรามีความรู้ทางภาษาจีนเพียงพอแต่การใช้ชีวิตประจำวันในเมืองจีนอีกด้วย (และบางมหาวิทยาลัย บังคับให้เราสอบผ่าน HSK ในระดับที่กำหนด แม้เราจะเรียนในหลักสูตรอินเตอร์ก็ตาม เพื่อเป็นกุศโลบายให้เราสนใจเรียนภาษาจีน ซึ่งจริง ๆ ก็เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะที่นี่คือเมืองจีน ภาษาจีนสำคัญสุดสุด ^^)
.
2. ค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญาที่เมืองจีน คิดเป็นรายปี และค่อนข้างถูก ถ้าเทียบกับประเทศอื่น
และยังมีทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาอีกเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีข้อผูกมัด
อย่างเช่น ทุนการศึกษารัฐบาลจีน, ทุนการศึกษาของสถาบันขงจื่อ,ทุนการศึกษาของมณฑล/เมือง ,ทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัย เป็นต้น
.
3. ค่าครองชีพที่เมืองจีน จะแตกต่างกันไปตามแต่เมืองที่เราเลือก
ถ้าเราเลือกเรียนที่เมืองใหญ่ อย่างเช่น ปักกิ่ง-เมืองหลวงของประเทศจีน ,เซี่ยงไฮ้ , กวางโจว ค่าครองชีพอาจจะค่อนข้างสูงสักนิด
แต่สำหรับพวกเราที่เป็นนักเรียนนักศึกษา วิธีการประหยัดที่ดีที่สุด คือการกินอาหารในโรงอาหาร เพราะกับข้าวในโรงอาหารจีนค่อนข้างมีราคาถูก แม้รสชาติอาจจะไม่ค่อยถูกปากพวกเรานัก หรือ ทำกับข้าวเองในหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่หอพักนักศึกษาต่างชาติ จะมีห้องครัวรวม ให้พวกเราได้ทำอาหารได้
.
4. หากเรียนในหลักสูตรภาษาจีน จะเรียนร่วมกับคนจีน ซึ่งการแข่งขันค่อนข้างสูง และกดดัน เพราะคนจีนขยันมาก และถ้าหากเรามีความสามารถทางภาษาอังกฤษ เราจะเนื้อหอมเป็นพิเศษ
ถ้าหากเราเรียนในหลักสูตรอินเตอร์ เพื่อนร่วมคลาสส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาต่างชาติ โดยเฉพาะสัญชาติปากีสถาน แอฟริกัน และเพื่อนบ้านอาเซียนของเรา อย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย
ถ้าหากเราเรียนภาษาจีนระยะสั้น – ระยะยาว เพื่อนร่วมคลาสส่วนใหญ่น่าจะถูกใจสาวไทยเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ เกาหลีใต้
.
5. ในบางมหาวิทยาลัย แม้เราเลือกเรียนเป็นหลักสูตรอินเตอร์ แต่บางคลาส บางวิชา เราอาจต้องเรียนเป็นภาษาจีน เรียนร่วมกับคนจีน เนื่องจากจำนวนนักศึกษาต่างชาติในสาขานั้นมีจำนวนน้อย
.
6. การเรียนในระดับปริญญา โดยเฉพาะ ปริญญาโท/ปริญญาเอก อาจต้องพบกับประสบการณ์นอนที่แลป โดยเป็นการนอนแบบจริง ๆ มีเตียง เครื่องนอนพร้อม เพราะที่นี่ เรียนหนัก ทำงานหนัก
บางแลปมีกฎในการเข้าแลป 8.30 – 22.00 แต่ยังดี ที่มีเวลาพักช่วงบ่ายและช่วงเย็น ช่วงละประมาณ 2-3 ชม.
.
7. ที่เมืองจีน ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนกันหมดทั่วประเทศ ทั้งสถานที่ราชการ มหาวิทยาลัย โรงเรียน รวมถึงบริษัทเอกชน ที่จะมีช่วงเวลานอนกลางวัน ประมาณ2 – 2.5 ชั่วโมง
.
8. การเรียน การใช้ชีวิตที่เมืองจีน ต้องยึดถือคติ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”
โดยเฉพาะการเรียน จะไม่มีการจ้ำจี้จ้ำไชแบบที่เมืองไทย หากเรามีข้อสงสัยอะไร ต้องการรู้อะไร เราต้องถาม ไม่ควรอาย เพราะหากเราไม่ถาม ก็จะไม่มีใครบอกเรา
ต้องทำใจไว้เผื่อเลยว่า เราอาจจะเจอวัฒนธรรมแบบจีนจีน ที่เวลาเราถามอะไรไป จะเจอกับความเงียบงัน โดยเฉพาะผ่านทางข้อความ และ จะบอกเราล่วงหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการให้แน่ใจจริง ๆ
(ที่เมืองจีนมีคติประจำใจ “การรักษาหน้า” คือจะกลัวเสียหน้าเมื่อบอกผิด และกลัวว่า หากปฏิเสธไปตรง ๆ ว่า ไม่รู้ จะทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก ดังนั้น การเงียบคือสิ่งที่ดีที่สุด )
.
9.Facebook, Google, Gmail, Youtube, Twitter,Line(อาจใช้ได้บน Android แบบติดๆดับๆ),Instagramและบริการออนไลน์ยอดฮิตอื่น ๆ ถูกบล็อกในเมืองจีน โดยจะถูกแทนที่ด้วยบริการของคนจีน อย่าง Baidu,126.com,Youku,Weibo,WeChat, QQ,Xiaohongshu
ถ้าหากเราต้องการใช้บริการที่ถูกบล็อก เราต้องใช้ตัวช่วยที่เรียกว่า “VPN”
.
10. สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองจีน มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ แนวธรรมชาติ แนวสมัยใหม่ ดังนั้นอย่ามัวเรียนอย่างเดียว ควรเดินทางท่องเที่ยว หาประสบการณ์ใหม่ในเมืองจีนบ้าง
โดยเฉพาะการเป็นนักศึกษา เราสามารถใช้บัตรนักศึกษาลดราคาได้ แต่บางแห่ง จะไม่ลดราคาให้ หากเราเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโท/เอก
.
11. สภาพความเป็นอยู่ในเมืองจีน ไม่ได้แย่ เหมือนที่เราหลายคนคิด
ภายในตัวเมืองและย่านมหาวิทยาลัย ค่อนข้างมีระเบียบและสะอาด เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยทำความสะอาดตลอด รวมถึงเทศกิจที่มักจะตรวจตรา คอยไล่พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ อยู่เป็นประจำ และค่อนข้างปลอดภัยพอสมควร มีกล้องวงจรปิดตามท้องถนน ตามสถานที่ รวมถึง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยตรวจตรายามค่ำคืน
จากประสบการณ์ มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่พอมีโอกาสมาเรียนที่เมืองจีน ก็มักตกหลุมรักเมืองจีน (และคนจีน ) และกลับมาที่เมืองจีนอีกครั้ง
.
12.อาหารการกินในเมืองจีน จะเน้นปริมาณเข้าว่า ใครมาจีนในช่วงแรก อาจจะยังไม่ค่อยชิน และกินอาหารไม่หมด เพราะที่นี่ให้เยอะมากจริง ๆ และอาหารค่อนข้างมัน
.
13. ระวังกับระเบิด “น้ำลาย”บนทางเดิน
หากได้ยินเสียงชาร์จพลัง ขาก…. มาแต่ไกล ให้รีบเดินเลี่ยงทันที มิเช่นนั้น อาจจะเดินกับระเบิด ซึ่งการถ่มน้ำลายของคนจีน ถือเป็นเรื่องปกติที่เรามักพบเห็นกันทั่วไป แต่ในปัจจุบัน จากการสังเกต การถ่มน้ำลายเริ่มน้อยลง(เล็กน้อย)
.
14.การถูกคนจีนเหยียบเท้า เดินชน ผลัก ทั้งขณะเดิน โหนรถเมล์ รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือแม้กระทั่งเข้าลิฟต์ โดยเฉพาะ “การแซงคิว”
ขอให้ทุกคนมีความอดทนอดกลั้น และเข้าใจนิสัยของคนจีน เพราะพวกเขาถือว่าเป็นเรื่องปกติ และไม่มีใครใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ เนื่องจากจำนวนประชากรจีนค่อนข้างเยอะ และทุกคนต้องเร่งรีบต่อเวลา
ดังนั้น การกระทบกระทั่ง การชนกัน ถือเป็นเรื่องปกติของที่นี่ และมักจะไม่มีคำขอโทษออกมา แต่ถ้าหากเราส่งเสียงโวยวายออกมาสักนิด และแสดงตัวว่าเป็นชาวต่างชาติ คนจีนส่วนใหญ่ก็จะรีบขอโทษเราโดยทันที ^^
.
15.คนจีนส่วนใหญ่ ชอบคนไทย ดาราไทย สินค้าไทย สถานท่องเที่ยวไทย ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะผูกมิตรกับคนจีน
และเมื่อคนจีนรู้ว่าเราเป็นคนไทย มักทักทายเราด้วย “สวัสดีค่ะ” ไม่ว่าคนจีนที่พูดจะเป็นหญิงหรือชาย เนื่องจากไม่ทราบความแตกต่างระหว่าง “ค่ะ” กับ “ครับ”
และอย่าแปลกใจ เมื่อคนจีนทำหน้าตาสงสัยและจ้องมาทางเราอย่างไม่แคร์สื่อ เมื่อได้ยินเราพูดภาษาไทย และคำถามที่ตามมาก็คือ “คุณเป็นคนชาติไหน?” “เกาหลีใช่ไหม?” เพราะที่เมืองจีน คนเกาหลีเยอะมาก พอเห็นคนเอเชีย ก็ทึกทักว่าเกาหลีไว้ก่อน หรือ ถ้าใครที่มีเชื้อสายจีน ก็จะโดนมองว่าเป็นคนจีนไปโดยปริยาย
อีกอย่างหนึ่งที่หลายคนมักเจอ เมื่อเราบอกไปว่าเป็นคนไทย จะมีคำถามตามมาว่า “ไถวัน –ไต้หวัน ใช่ไหม?” ต้องย้ำหลายรอบกว่าจะเข้าใจว่า ประเทศเราน่ะ Thailand Not Taiwan
.
16.สภาพอากาศที่เมืองจีน ในฤดูหนาว จะหนาวจัด ฤดูร้อนจะร้อนจัด โดยเฉพาะทางเหนือของประเทศจีน ส่วนทางใต้ อากาศค่อนข้างโอเค สำหรับคนไทย หนาวไม่มากจนเกินไป พอทนได้ และยังมีหิมะให้ได้เห็นอีกด้วย
แต่สภาพอากาศของจีน ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงบ่อย ใน 1 วัน อาจมีครบทั้ง ฝน แดด หนาว ซึ่งบางครั้ง ตอนเช้าแดดออกอยู่ดีดี แต่ตกกลางดึก หิมะตกก็มีมาแล้ว
อีกอย่างหนึ่งที่ควรระวังคือ ปัญหาฝุ่นควัน ในเมืองจีน อย่าอายที่จะใส่หน้ากากป้องกัน เพราะสุขภาพของเราสำคัญที่สุด
.
17. สินค้าเมืองจีนค่อนข้างถูก มีหลายเกรด หลายราคาให้เราเลือกซื้อ โดยเฉพาะช้อปปิ้งออนไลน์(Taobao.com, Tmall.com) ถือเป็นสวรรค์ของนักศึกษาไทย เพราะราคาถูก และสะดวก แต่ต้องพึงระลึกไว้ว่า ตาดีได้ ตาร้ายเสีย (แต่สินค้าไทย ทั้งตามร้านทั่วไป และบนออนไลน์ อยากจะบอกว่า แพงมากจนน้ำตาจะไหล ขอแชร์นะคะเลยทีเดียว)
ถ้าหากเราเลือกซื้อสินค้าตามร้านค้าทั่วไป เราต้องอย่ากลัวที่จะต่อราคา เพราะพ่อค้าแม่ค้าชาวจีน มักตั้งราคาสูงเกินจริง โดยเฉพาะหากรู้ว่าเราเป็นต่างชาติ
นอกจากนี้ บริการในเมืองจีน จะราคาถูกลงมาก หากเราใช้บริการผ่านทางแอพพลิเคชันออนไลน์ เช่น ซื้อตั๋วภาพยนตร์ หากเราซื้อหน้าเคาท์เตอร์ เราอาจต้องเสียเงินถึง 100หยวน ในขณะที่ เสียเพียง 25หยวน หากซื้อผ่านแอพพลิเคชัน
.
18. การจ่ายเงินออนไลน์ในเมืองจีน ถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่เริ่มมาแทนที่การจ่ายเงินด้วยเงินสด เพราะสะดวกสบาย และมักได้ส่วนลด อย่างเช่น Alipay, WeChat payment
แม้แต่พี่วินหน้าปากซอย เรายังสามารถจ่ายเงินได้ ด้วยWeChat payment
และเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน ไม่ต้องนำเงินใส่ซองแดงให้เสียเวลา เพียงแค่ส่งซองแดงออนไลน์ ผ่านทาง QQ, WeChatเป็นอันเรียบร้อย
.
19. ซื้อสินค้าที่เมืองจีน อย่าลืมบอกว่า ขอถุงด้วย เพราะที่นี่ Supermarket, ร้านค้า,มินิมาร์ท ส่วนใหญ่ จะคิดค่าถุงพลาสติก
นอกจากนี้ จงอย่าแปลกใจ หากไปกินข้าวที่ร้านอาหาร แล้วสั่งแบบเอากลับบ้าน หรืออาหารเหลือแล้วห่อกลับ พนักงานจะเอาถุงพลาสติกมาใส่ให้เรา แบบไม่มีถุงร้อนแบบบ้านเรา … ถ้าไม่เคยชินกับการห่อกลับบ้านแบบนี้ แนะนำให้ถามทางร้านว่า มีแบบกล่องไหม ถ้ามี ก็จะเสียเงินเพิ่มอีก 1-2 หยวนครับ
.
20. เสียงดัง เป็นเรื่องปกติของคนจีน ในความเชื่อของคนจีน เสียงดังมาก ยิ่งจริงใจ และสนิทสนม
แต่เสียงดังบนท้องถนนจากการบีบแตร นั่นไม่ใช่ว่าคนจีนสนิทสนมกันนะ แต่เป็นเรื่องปกติของที่เมืองจีนในชั่วโมงเร่งรีบ (ความเป็นจริง ดูเหมือนจะรีบตลอดเวลา 55)
-----
ใครมีคำถามเรื่องเรียนต่อจีน หรือเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับจีน สอบถามเข้ามาได้นะครับ
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 พ่อบ้านเยอรมัน Facebook 的最佳貼文
มหาอำนาจและภาษา?
พ่อบ้านมาลองนั่ง คิดๆดูแล้ว ว่าตั้งแต่เกิดมา จะได้ยินมาโดยตลอดว่าภาษาอังกฤษ เป็นภาษาสำคัญที่ควรจะปลูกฝังตั้งแต่เด็ก และจะได้ยินเสมอว่า
ภาษาอังกฤษคือภาษาสากล?
และ อะไร คือเหตุผลที่ทำให้คิดเช่นนั้น?
ทำไม? ทำไมน๊าาาา? แล้วทำไมไม่เป็นภาษาไทยบ้าง?
แต่ก่อน พ่อบ้านเคยเชื่อว่า ภาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางที่ใช้สื่อสารทั่วโลก แต่จากการได้เดินทาง พบปะผู้คน ไปในที่ต่างๆ แล้วพ่อบ้าน พบว่า
จริงๆ โลกของเราไม่ได้หยุดอยู่แค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น หากถ้าคุณต้องการทำธุรกิจใน ญี่ปุ่น เยอรมัน เกาหลี จีน ฝรั่งเศส คุณคิดว่า คุณได้
"ภาษาอังกฤษอย่างเดียวจะรอดหรือไม่?"
และนอกจากนี้ ประเทศเหล่านี้ มีความต้องการแพร่ขยายภาษาของประเทศตัวเอง ให้กับประเทศอื่นๆ ใช้ อีกด้วย ยกตัวอย่าง ถ้าเราเดินทางไป เยอรมัน จีน เกาหลี เราจะเห็นได้ว่า เค้าแทบไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลยทั้งๆ ที่ภาษาบางคนนี่ ภาษาดีเทียบเท่า Native เลยนะ เรียกได้ว่า ถาม อังกฤษไป ตูเว่าจีน เว่าเยอรมันกลับอ่ะ โอเคป่ะ!!! เรียกว่า แทบจะไม่พูดภาษาของชาติอื่นเลย มีความเป็นชาตินิยมสุดๆ
เอ้าลองมาคิดกันดูเล่นๆ ว่า ทำไมเค้าไม่ใช้ภาษาอังกฤษแต่หลายประเทศจัดว่าเป็นประเทศมหาอำนาจได้หล่ะ?
1. เยอรมัน : หนึ่งในประเทศมหาอำนาจที่มีงบประมาณประเทศเกินดุล(ได้กำไรมากที่สุดในโลก) ด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ทางวิศวกรรมและทางการแพทย์ จึงไม่แปลกที่จะดึงดูดให้คนจากประเทศอื่นๆ ที่ต้องการได้รับความรู้นั้นแห่กันเรียนภาษาเยอรมันกันยกใหญ่
ที่สำคัญคือประเทศนี้เพิ่งได้รับการจัดอันดับทางภาษาไปว่า เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
แต่!!! จากประสบการณ์ที่พ่อบ้านเจอคือ
ตูไม่ใช้อ่ะ จะทำไม?
ซึ่งถ้าเกิดมาที่เยอรมัน คุณจะสังเกตุได้ว่าป้ายบอกทาง สถานที่ต่างๆ หรือหนังสือภาษาอังกฤษจะหาได้ยากมากนะ รวมไปถึงกับการทำงาน ถ้าคุณได้ภาษาอังกฤษอย่างเดียว ยังถือว่าไม่ผ่านๆ Guten Morgen
2. จีน : ปัจจุบันเรียกได้ว่า แทบจะเป็น ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งในแง่ของการผลิต การค้าขาย ลองคิดเล่นๆว่า ถ้าคุณขายของขอแค่กำไร คนละบาทจากคนจีน วันๆนึง คุณจะได้เงิน มหาศาลแค่ไหน?
ยังไม่นับกับปัจจุบันคนจีนสมัยใหม่กำลังจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งมาเต็มกับการเปิดรับเทคโนโลยี เพราะในอนาคตไม่อยากจะผลิตของ Copy เท่าไหร่ อยากผลิตของ Luxury มากขึ้น
พร้อมกับได้รับการสนับสนุนทางเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน จากรัฐบาลขนานใหญ่ นี่แค่สาเหตุเบื้องต้นที่ทำไมทำให้คนแห่ไปเรียนภาษาจีน ไม่เว้นแม้แต่คนเยอรมันหรืออเมริกา
"เลยนะจะบอกให้"
ทำให้พ่อบ้านไม่ต้องให้บรรยายมาก เพราะขนาดคนไทยยังแห่ส่งลูกหลานไปเรียนจีนเลยจะบอกให้
3. ญี่ปุ่น : นี่ตัวดีเลยประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านของชาตินิยมและความรักในวัฒนธรรมของตัวเองสูงมาก แต่ในทางกลับกัน ก็มีความเปิดกว้างในระดับนึง โดยดูได้จาก โอลิมปิกที่ใช้การ์ตูนเป็นสัญลักษณ์ และเรื่องของอื่นๆ อีก โดยบอกได้ว่าประเทศนี้มีดีค่อนข้างมาก เพราะถือว่าเป็นคู่แข่งด้านเทคโนโลยีหลักๆ อีกประเทศนึงของเยอรมัน มีนวัตกรรม ที่เป็นของประเทศตัวเองมากมาย จนทำให้ประเทศที่ถ้ามองในแผนที่ ก็อาจจะมองว่าเป็นเกาะเล็กๆแต่ว่าดึงดูด
ให้คนจากทั่วโลกไปเที่ยว ไปทำงาน และต้องการทำธุรกิจร่วมด้วย แล้วก็ก็อีกเช่นกัน ป้าย และสัญลักษณ์ต่างๆ ในประเทศ แทบจะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น (ก็ไม่เปลี่ยนอ่ะจะทำไม?)
เป็นประเทศที่ประชาชนพูดอังกฤษได้ปานกลางแถมสำเนียงฟังค่อนข้างยากอีกต่างหาก แต่อย่าลืมว่า ด้วยอำนาจต่างๆ ที่บอกไป ไม่ว่าจะเป็น Dragonball Doraemon Toyota Honda AV เอ้ย!!! เอาเป็นว่าอยากค้าขายกับเค้า จะให้ดีเราก็ไปหัดพูดญี่ปุ่นมาจะดีกว่านะจ๊ะ คอนนิจิวะ
4. เกาหลีใต้ : ตัวดีเลยยย ตัวแสบมากกก โตไวมากกกก เป็นชาติน้องใหม่ ที่บาดเจ็บอย่างมากจากสงคราม นอกจากจะทำให้ประเทศของตัวเองแตกเป็น 2 ชัดเจน ซึ่งถ้าให้พูด เมื่อก่อนนี่เป็นประเทศที่ถือว่าค่อนข้างจนเลยนะ ไม่ค่อยมีวัฒนธรรมอะไรชัดเจน แถมไม่ค่อยมีอำนาจต่อรองอะไรมากมาย แต่ในช่วง 30-40ปี มานี้
"เฮ้ย!!! เค้าพลิกประเทศได้"
ไม่ว่าจะเป็นความสามารถทางเทคโนโลยี ที่แซงล้ำหน้าประเทศยักษ์ใหญ่ในหลายๆประเทศ สามารถสร้างและฟื้นฟูวัฒนธรรมของตัวเองและแถมส่งออกไปได้ทั่วโลกผ่านทางธุรกิจบันเทิง ทำให้คนติดงอมแงมทั่วโลก พ่อบ้านยังดู Series และยังฟังเพลงเกาหลีเลย 555 และแน่นอน เรื่องภาษาอังกฤษนางก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นะ แถมป้ายต่างๆในประเทศก็ไม่มีหรอกภาษาอังกฤษ
เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ด้วยความที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มาพร้อมด้วยกับ พี่ Samsung Hyundai Series เกาหลีต่างๆ ทำให้เกาหลีสามารถสร้างอำนาจต่อรองและให้คนที่ต้องการติดต่อค้าขาย หรือชื่นชอบหลงใหลในวัฒนธรรมของประเทศตัวเองได้ จ้าาา อัน นยอง ฮา เซ โย
สำหรับไทยนั้นพ่อบ้านมองว่า เรื่องของภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้เทพอะไรมากมายเลย ลองให้ฝรั่งมาเดินถามทางหรือคุยกับคนในกรุงเทพซิจะรู้ แถมผลการวัดระดับภาษาในระดับสากลของเราก็ถือว่าค่อนข้างต่ำหรือบางครั้งก็ปานกลาง
ดังนั้นเลย นอกจากการศึกษาเรื่องภาษาอังกฤษแล้วพ่อบ้านคิดว่ามีอีกแนวทางนึงคือ เราต้องหาจุดแข็งของเราและ สร้างอำนาจต่อรองให้ได้เหมือนกับ จีน เยอรมัน เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องพลิกมุมคิดนิดนึงว่าไม่ใช่เรารักภาษาเราจนไม่ยอมเรียนภาษาอื่นเลย แต่ถ้าอ่านบทความพ่อบ้านจะเห็นว่าไอ้ ประเทศอื่นมันพูดอังกฤษได้และพูดได้ดีด้วย แต่มันสร้างอำนาจต่อรองและยกระดับภาษาของตัวเองให้เป็นสากลมากขึ้น!!!! นี่ซิสำคัญไม่แพ้กัน
#ถ้าชอบก็แชร์วนไปได้เลยครับ 😁👌
#พ่อบ้านเยอรมัน #มหาอำนาจและภาษา #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German #Language #power
เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 Korea Daughter-in-law by korea Youtube 的最佳貼文
#เเกงเผ็ดไก่ใส่หน่อไม้ #อาหารไทยในต่างประเทศ #สะใภ้เกาหลี #หน่อไม้ #เก็บผัก #สวนผัก #ผักปลอดสาร #ผัดหน่อไม้ #ร้านอาหารเกาหลี #เกาหลีใต้ #ครอบครัวเกาหลี #ภาษาเกาหลี #ภาษาอังกฤษ #คำศัพท์เกาหลี #ชีวิตในต่างประเทศ #กินโชว์ #คนเกาหลี
เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 รัฐบาลเกาหลีใต้ผลักดัน แก้ชื่อเมนูภาษาอังกฤษผิดๆ แปลคำต่อคำ ... 的推薦與評價
รัฐบาล เกาหลีใต้ ผลักดัน แก้ชื่อเมนู ภาษาอังกฤษ ผิดๆ แปลคำต่อคำ ทำความหมายเพี้ยน #ไทยบันเทิง #ThaiPBS. ... <看更多>
เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 ทำความรู้จัก 'ยุนซอกยอล' ปธน. เกาหลีใต้คนที่ 20 | workpointTODAY 的推薦與評價
ทำความรู้จัก 'ยุนซอกยอล' ปธน. เกาหลีใต้ คนที่ 20 เมื่อวานนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของสาธารณรัฐเกาหลี เนื่องจากมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 20 ... ... <看更多>
เกาหลีใต้ ภาษาอังกฤษ 在 โปรแกรม แปลภาษาญี่ปุ่นเป็นอังกฤษเกาหลีใต้ vs ตุรกี V4.3.5 的推薦與評價
pv:122241. บริการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายของ Google ซึ่งสามารถแปลคํา วลี และ ...u31 แปลคำและวลีอย่างรวดเร็วระหว่างภาษาอังกฤษและมากกว่า 100 ภาษา ... ... <看更多>