🔴 #ย้อนรอยเรื่องเล่า THE GHOST RADIO 🔴
เรื่องความโลภ / เล่าโดย : คุณมังกร
🎧 https://youtu.be/gMWgV0SSI-E
คู่สามี-ภรรยา ที่มีความละโมบโลภมาก
สร้างบาปกรรมด้วยการโกงที่ดินของชาวบ้าน
และยังสร้างกรรมหนักด้วยการโกงที่ดินวัด
เพื่อสร้างฐานะให้ตนเอง บนความทุกข์ของผู้อื่น
เมื่อดวงถึงคาด ตกคราวตาย
ยังต้องทุกข์ทรมาน ชดใช้บาปกรรม
“ กรรม…จากการโกงที่ดิน ”
________________________________________
ทางหลักพระพุทธศาสนามีความเชื่อเรื่องเวรกรรม
ใครทำกรรมเช่นไร จะต้องได้รับคืนสนอง
เช่นเดียวกัน กับการสร้างความเดือนร้อนให้ผู้อื่น
ด้วยการโกงที่โกงทาง รุกล้ำที่ดิน ยึดถือครอง
ของผู้อื่นมาเป็นของตน หากได้กระทำเช่นนี้
เมื่อตายไปจะเป็นเปรต !! เปรตแบกแผ่นดิน
“ เปรตแบกแผ่นดิน “
จะแบกแผ่นดินที่มีไฟลุกโชนตลอดเวลา
ทุกข์ทรมานจากความร้อนระอุ วางไม่ได้
ต้องแบกเช่นนั้นจนกว่าจะหมดกรรม
เป็นการชดใช้วิบากกรรมของผู้ที่ชอบโกงที่ดิน
รุกคืบ แย่งแผ่นดินผู้อื่นมาเป็นของตน
ยิ่งถ้าการถือเอาสมบัติของสงฆ์ ของพระศาสนา
มาเป็นของตนแม้แต่น้อยนิด ถือเป็นบาปมหันต์
มีเรื่องจากสมัยพุทธกาลมาเล่าให้ฟัง
________________________________________
มีเปรตตนหนึ่ง อาศัยอยู่ในป่าลึก
มีสภาพความเป็นอยู่ที่น่าสงสารมาก
ร่างกายท่อนล่างของเปรตตนนี้ถูกฝังอยู่ในหิน
ไม่สามารถจะไปไหนมาไหนได้ รับทุกขเวทนา
อดข้าวอดนํ้า ตากแดด ตากฝน มาเป็นเวลานาน
คราวหนึ่งมีพระภิกษุหลายรูปหลงทางเข้าไปในป่า
พากันเดินวนเวียนไปมาถึง 7วัน ยังหาทางออกไม่ได้
พระทุกรูปต่างได้รับความหิวโหยเป็นกำลัง
ในที่สุดก็ได้พบเปรตตนนั้นโดยบังเอิญ
พระภิกษุทุกรูปต่างเข้าใจว่า
เป็นคนมายืนอยู่ รู้สึกดีใจมาก รีบเข้าไปหา
โดยไม่ทันพิจารณาให้ถี่ถ้วน และถามว่า
“อุบาสก หนทางที่จะเข้าไปในเมืองไปทางไหน
พวกเราหลงทางมา 6-7วันแล้ว ช่วยบอกหน่อยเถอะ”
เปรตตนนั้นตอบว่า ..
“ข้าแต่พระคุณเจ้า พวกท่านหลงทางอยู่ในป่า
หิวกระหายเพียง 7วัน ไม่เท่าไรหรอก
แต่ข้าพเจ้าสิ ต้องได้รับความทุกข์ทรมาน
จากบาปกรรมที่ก่อเอาไว้
อยู่ที่นี่ยาวนานถึง 4 พุทธันดรแล้ว
ข้าวสักเม็ด น้ำสักหยด ไม่ได้ตกถึงท้องเลย”
ภิกษุรูปหนึ่งรู้สึกฉงนสนเท่ห์ในคำตอบนั้น
แต่ด้วยความหิวข้าว หิวนํ้าเป็นกำลัง
คิดว่าเปรตพูดเล่น จึงถามยํ้าอีกครั้งว่า
“ทำไมพูดอย่างนั้นอุบาสก
พวกอาตมาหมดเรี่ยวหมดแรงจริงๆนะ
ไม่มีแรงจะเดินต่อไปอีกแล้ว
ช่วยรีบบอกหนทางให้กับอาตมาด้วยเถอะ”
เปรตก็ยังยืนยันว่า
“จริงๆนะพระคุณเจ้า พระคุณเจ้าทั้งหลาย
จงพิจารณาดูรูปร่างของข้าพเจ้าให้ดีสิ
ข้าพเจ้านี้ไม่ใช่คน ข้าพเจ้าเป็นเปรต
ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจมอยู่ในหินครึ่งตัว
ขยับเขยื้อนไม่ได้ ต้องอดข้าว อดนํ้า
ตากแดด ตากลมอยู่อย่างนี้
มาตลอด 4 พุทธันดร แล้ว”
เมื่อพระภิกษุสังเกตดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ต่างขนลุกเป็นหนาม ผู้ที่เห็นอยู่ข้างหน้านั้น
เป็นเปรตจริงๆ จึงถามว่า “ท่านทำกรรมอะไรไว้
จึงต้องมาเกิดเป็นเปรตน่าเวทนาถึงเพียงนี้”
เปรตเห็นว่าเรื่องราวของตัวจะเป็นประโยชน์
หากอนุชนรุ่นหลังได้ฟังสืบต่อกันไปแล้ว
จะได้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ ไม่ให้เอาเป็นเยี่ยง
จึงได้เล่าให้ภิกษุสงฆ์ฟังว่า
•
ในสมัยศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์แรก
ในภัทรกัปนี้ คือพระกกุสันโธพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเป็นชาวนา และเขตนาของข้าพเจ้า
อยู่ติดกับเขตนาที่เขาอุทิศให้เป็นของสงฆ์
ข้าพเจ้าเป็นคนละโมบเห็นแก่ได้
ไม่นึกว่าจะเป็นบาปเป็นกรรม
จึงได้ถอนเสาศิลาแบ่งเขตนา
แล้วขยับเลื่อนไปปักกินเขตแดนที่นาของสงฆ์
ล่วงเข้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยไม่นึกว่าบาปกรรมจะมีจริง
และจะเกิดผลทุกข์ทรมาน
เช่นที่ข้าพเจ้ากำลังได้รับอยู่นี่แหละ
เป็นเหมือนหลักศิลาปักแน่นเคลื่อนไหวไม่ได้
•
จากนั้นเปรตได้ยกมือขึ้นชี้บอกทางพระภิกษุ
“โน่นแน่ะ ทางไปเมืองที่พระคุณเจ้าประสงค์จะไป”
แล้วกล่าวต่อไปว่า
“เมื่อพระคุณเจ้าไปแล้ว ขอจงได้โปรดเมตตา
บอกมนุษย์ทั้งหลายด้วยว่า อย่าเอาเยี่ยงข้าพเจ้า
ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม แม้เพียงเล็กน้อยอย่าได้กระทำ
เพราะผลของบาปน่ากลัวเหลือเกิน
ดูตัวข้าพเจ้าเถิด มิเพราะความโลภดอกหรือ
จึงต้องมารับทุกข์ทรมานเช่นนี้
ความโลภอันประกอบด้วยความโง่เขลา
รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้ว่าบาปบุญมีจริง
มีความโลภอยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้
ได้เป็นเจ้าของครอบครองที่ดินสงฆ์อยู่เพียงไม่กี่ปี
แต่ครั้นตายแล้วต้องมาเสวยทุกขเวทนายาวนาน
ถึง 4 พุทธันดร ซึ่งมันไม่คุ้มกันเลย
ขอให้พระคุณเจ้าช่วยอนุเคราะห์
บอกมนุษย์ทั้งหลายว่า อันสถานที่ ที่เป็นของสงฆ์
วัดวาอาราม ที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งเขาอุทิศถวายแด่สงฆ์
เป็นสถานที่ ที่ควรเคารพ หากไปล่วงละเมิด
ก็เปรียบเสมือนไฟ เหมือนยาพิษ ใครมีความโลภ
ไปรุกรานหรือเบียดเบียนของสงฆ์แม้เพียงเล็กน้อย
ด้วยความไม่รู้ หรือด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา
มองไม่เห็นบาปที่จะตามมา ย่อมได้รับโทษร้ายแรง
เพราะเป็นสถานที่ ที่คนมีศรัทธาเขาอุทิศถวาย
ไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นการบูชาพระพุทธเจ้า
ด้วยใจ ประกอบด้วยจาคะเจตนา เลื่อมใส
ในพระพุทธศาสนา เมื่อมาทำให้บิดเบือน
กุศลเจตนาเจ้าของเดิมเสีย ย่อมได้รับโทษ
เช่นข้าพเจ้าที่กำลังได้รับอยู่นี่แหละ”
เมื่อภิกษุทั้งหลายได้ฟังคำของเปรต
ก็ได้แต่สลดสังเวช และช่วยกันนั่งสมาธิ
แผ่เมตตาให้กับเปรต เพื่อจะได้หลุดพ้น
จากอัตภาพอันแสนทุกข์ทรมานนี้
จากนั้นก็ได้อำลาไป และหลุดพ้นจากป่าออกมาได้
________________________________________
บาปแม้เพียงเล็กน้อยที่ทำเอาไว้
ไม่ได้สูญหายไปไหน ยังคงติดตามเราไป
เหมือนล้อที่หมุนไปตามรอยเท้าโค
สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด จะหลุดได้..
ก็ต่อเมื่อกรรมที่ทำเอาไว้หมดไป
อย่าได้ประพฤติผิดศีลผิดธรรม
อย่าโลภอยากได้ของคนอื่น
อย่าทำตามใจกิเลสจนคุ้น
แต่ให้ทำความดีจนเคย
จะได้ไม่ต้องพลัดไปเกิดในอบายภูมิ
________________________________________
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงและภาพประกอบจาก :
http://chanyacontainer.blogspot.com/2015/10/blog-post_27.html?m=1
https://buddha.dmc.tv/ธรรมะเพื่อประชาชน/กรรมของคนโกงที่ธรณีสงฆ์.html
________________________________________
•
ทีมงาน THE GHOST RADIO 👻
ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม
#ย้อนรอยเรื่องเล่า #Theghostradio
•
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ข้อมูลที่นำเสนอ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อ
ซึ่งแต่ละบุคคล อาจมีความเชื่อที่แตกต่างกัน
ขอให้ท่านผู้อ่าน ใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณ
ในการรับสารข้อมูล และหากมีมุมมองที่แตกต่าง
โปรดแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ความรู้อีกแง่มุม
โดยที่ไม่ก้าวล่วง ความเชื่อความศรัทธาของผู้ใด
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เลื่อมใส 在 หมอของขวัญ เลื่อมใสทิดไพรวัลย์ กล้าสึกขัดขืนการแทรกแซง 的推薦與評價
สึก = อารยะขัดขืน! ในฐานะถูกกลั่นแกล้งเหมือนกัน หมอของขวัญเผย สุด เลื่อมใส ในความกล้าของทิดไพรวัลย์ กล้าสละสมณเพศ ... ... <看更多>