#จงสร้างโลกของตัวเอง
3 สัจธรรมความสำเร็จ ของพี่ #แอ๊ดคาราบาว
…สำหรับทุกคนที่อยากสร้างตัว ให้เป็น "ตำนาน"
===
[บทความนี้ยาวนิดนะครับ
ใครอ่านจบ เก่ง👍👍😀
แต่อ่านสบายๆ กระชับ รู้เรื่องเร็ว]
-----
วันก่อนหลังจากที่เรา "แจม"ออกไลฟ์ด้วยกัน
พี่แอ๊ดก็เดินมากอดผม แล้วก็เอ่ยปากอย่างอบอุ่นว่า ...
"เรานั่งคุยกัน"
ปรากฎว่า กลายเป็น เกือบ2 ชั่วโมง ที่ผมสนุกมาก และได้มุมมองใหม่ๆ
จากคนที่สร้างสรรค์เพลงที่โดนใจ คนจำนวนมากของประเทศ
และเป็นคนที่ผมชื่นชอบ ชื่นชม ในความเป็น "ศิลปินตัวจริง" เทียบเท่ากับนักแต่งเพลง ระดับจอห์น เลนนอน, พอล แมคคาร์ทนีย์ แห่งวง The Beatles
----
ผมกับพี่แอ๊ด เจอกันครั้งแรก เมื่อประมาณ 10ปีที่แล้ว ตอนผมได้รับเชิญไปเป็นคอนดักเตอร์ คุมวง World Philharmonic Orchestra วงดนตรีกว่า 100 ชีวิต...หน้าพระที่นั่งอนันต์ ฯ
พี่แอ๊ด และวงคาราบาว เป็นหนึ่งในศิลปินที่มาแสดงร่วมกับวง
เจอกันครั้งแรกตอนซ้อม ก็ได้รับการทักทายจากพี่แอ๊ด อย่างอบอุ่น เหมือนเขารู้จักผมมาก่อนแล้ว
มาทราบที่หลังว่า พี่แอ๊ด ได้อ่านประวัติผม ผ่านหนังสือ และสื่อต่างๆ อย่างละเอียด..จนทราบเรื่องราวการต่อสู้จนได้รางวัลระดับโลก ด้านการคุมวงออร์เคสตร้า
----
กลับมาที่ "หลักคิด" บนโต๊ะอาหาร ที่เพื่อน เอาไปใช้ได้
ถ้าใครเคยอ่านหนังสือผม หรือ ฟังหนังสือเสียง หรือคอร์สของผม อาจได้ยินหลักคิดที่ผม พูดบ่อยๆ ว่า…
"เราทุกคน สร้างโลกของตัวเอง"
ซึ่งเป็นสัจธรรม และความจริง
ระหว่างผมกับพี่แอ๊ด นั่งคุยกัน. ...มีคนหนึ่งบนโต๊ะ ถามอะไรขึ้นมา (ผมจำไม่ได้) ...แต่พี่แอ๊ด ตอบว่า …
"สร้างโลกของตัวเองดีกว่า"!
ผมเห็นว่า น่าสนใจ ที่พี่แอ๊ด พูดคำนี้ จึงถามต่อ
"พี่หมายความว่าอย่างไรครับ”?
-----
พี่แอ๊ด เล่าว่า…
ตอนวัยรุ่น พ่อของเขา ไม่อยากให้เล่นดนตรี
เขาจึงต้องไปทำงานประจำ ที่การเคหะฯ ได้เงินเดือนไม่กี่พัน
แต่เขาก็ยังแอบเล่นดนตรีต่อ แต่งเพลง อัดเพลง… ไม่ละทิ้ง "โลกที่ตัวเองชอบ"
จนกระทั่ง เพลง "เมดอินไทยแลนด์" กลายเป็นเพลงฮิต ทั้งประเทศ ในช่วงนั้น
พี่แอ๊ด ก็เดินไปถามพ่อว่า …
"ผมทำเงินได้ 10 ล้านแล้ว จากเพลงเมดอินไทยแลนด์
ผมลาออกจากการเคหะฯ ได้รึยังครับ?"
คุณพ่อ ก็ให้อนุญาต!
----
ผมเล่าเป็นเวอร์ชั่นสั้นๆ เพราะถ้าเขียนยาวกว่านี้ คงจะอ่านกันไม่จบ 555 (ยุคโซเชี่ยล ไม่มีใครอ่านอะไรยาวๆ)
แต่อยากสรุปให้เคลียร์กันดังนี้
ตัวอย่างความสำเร็จของพี่แอ๊ด สนับสนุนหลักสัจธรรมความสำเร็จ ที่ว่า…
1. #จงฟังเสียงหัวใจของตัวเอง
… หนทางที่คนหมู่มากทำกัน … จะไม่ทำให้คุณสำเร็จแบบ "โดดเด่น" ...เพราะใครๆ ก็ทำกัน
2. #คุณสามารถสร้างโลกในแบบของคุณเอง"
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ "แบรนด์ต่างๆ" คิดตาม
และศิษย์ของผมทุกคนที่ผมสอนเรื่อง Personal Brand (สร้างแบรนด์บุคคล)
ก็คือ ...
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลงของคาราบาวหรือไม่ก็ตาม …
คุณปฏิเสธไม่ได้ว่า…
แบรนด์ของเขา (ทั้งตัวพี่แอ๊ด และวงคาราบาว)
มีภาพลักษณ์ชัดเจน. ไม่เหมือนใคร
มีฐานแฟนที่ชัดเจน ที่รักแบรนด์คาราบาว และสนับสนุน
จนแบรนด์พี่แอ๊ด และคาราบาว อยู่ยงคงกระพัน มา 40 ปี (หาได้ยากมาก ในโลกนี้ บอกก่อน!)
3. #ต่อยอดแบรนด์เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน
การต่อยอดเป็น "คาราบาวแดง" ...เป็นธุรกิจที่ต่อยอดจากแบรนด์ศิลปิน สำเร็จที่สุดแบรนด์หนึ่ง "ของโลก"
ย้ำ. "ของโลก" นะ!
ไม่ใช่แค่ระดับประเทศ
เพราะดูตัวเลข ยอดขาย และกำไร
ศิลปินอเมริกันดังๆ หลายคน ยังทำไม่ได้ !
แต่ถ้าเล่าเรื่องนี้ คงอีกยาว
ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้แล้วชอบ แล้วอยากรู้ความลับความสำเร็จของธุรกิจนี้
ให้เขียน. "อยากรู้" ครับ
หรือแค่เขียนให้ผมรู้หน่อย ว่าคุณเป็นคน "ไม่ธรรมดา" ทีอ่านจนจบมาถึงตรงนี้
เขียนบอกว่า "อ่านจบ"...ผมจะได้รู้ครับ
ขอบคุณมาก
ด้วยรัก
บัณฑิต อึ้งรังษี
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過27萬的網紅Kate Studio,也在其Youtube影片中提到,วันนี้แนะนำสาวกหมวกวินเท็จค่ะ ใครชอบใครรักงานของเก่า แบรนด์ต่างๆ ไปหากันให้หนำใจเลยค่ะ แล้วเรื่องสั่งซื้อและจัดส่ง ให้เกดดูแลค่ะ ปกติไม่จัดส่งหมวกให้เ...
「แบรนด์ต่างๆ」的推薦目錄:
- 關於แบรนด์ต่างๆ 在 Facebook 的最佳解答
- 關於แบรนด์ต่างๆ 在 Sp Saypan Facebook 的精選貼文
- 關於แบรนด์ต่างๆ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於แบรนด์ต่างๆ 在 Kate Studio Youtube 的最佳貼文
- 關於แบรนด์ต่างๆ 在 Pnat Beautybar Youtube 的精選貼文
- 關於แบรนด์ต่างๆ 在 รวมมิตร 'Brand Journey' ประวัติ 9 แบรนด์ดังที่ครองใจคนทั้งโลก 的評價
- 關於แบรนด์ต่างๆ 在 MarketThink - สโลแกนติดหู ของแบรนด์ต่างๆ - Facebook 的評價
แบรนด์ต่างๆ 在 Sp Saypan Facebook 的精選貼文
วันนี้นำเค้กมาให้เด็กๆ 💗🎂
ที่สถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทองค่ะ
เมื่อวาน แบรนด์ต่างๆ ส่งเค้กมาให้ป่าน 9 ก้อน
เค้กดีๆจากร้านดังๆ ทั้งนั้น
เลยมาแบ่งน้องๆทานด้วย เพราะป่านกินไม่หมดแน่นอน
ถือโอกาสนำหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า
แอลกอฮอล์ และ ของใช้เด็กเล็กๆ น้อยๆ มาให้น้องๆด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกแบรนด์ที่นึกถึงป่านนะคะ 💗🙏🏻
ขออนุญาตแบ่งให้น้องๆ ทานด้วย ได้บุญไปด้วยกันค่าา
แบรนด์ต่างๆ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ทำไม ฝรั่งเศส จึงเป็นประเทศแห่ง แบรนด์หรู? ตอนที่ 2 /โดย ลงทุนแมน
ปลายศตวรรษที่ 19 ความสำเร็จจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ทำให้เหล่ามหาอำนาจในยุโรปต่างแข่งขันกันล่าอาณานิคมเพื่อตอบสนองความต้องการวัตถุดิบ
ฝรั่งเศสเติบโตจนกลายเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้อังกฤษ
อาณานิคมของฝรั่งเศสแผ่ขยายจากแอฟริกาตะวันตก ไล่ไปจนถึงคาบสมุทรอินโดจีน
กรุงปารีสที่งามสง่า ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo ในปี ค.ศ. 1889
โดยมีสัญลักษณ์ของงาน ซึ่งต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส ก็คือ “หอไอเฟล”
ฝรั่งเศสซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของยุโรปมานานตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ในเวลานี้ วัฒนธรรมฝรั่งเศสกำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก
เช่นเดียวกับวงการแฟชั่นฝรั่งเศส..
ชายคนหนึ่งจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงวิธีการนำเสนอเครื่องแต่งกาย
และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่า “การเดินแฟชั่นโชว์”
╔═══════════╗
ชอบบทความแบบนี้ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ. 2019
สั่งซื้อได้ที่ (ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม ฝรั่งเศส จึงเป็นประเทศแห่ง แบรนด์หรู? ตอนที่ 2
Charles Frederick Worth นักออกแบบชาวอังกฤษ
ผู้ข้ามมาเปิดห้องเสื้อ House of Worth ที่ปารีสตั้งแต่ปี ค.ศ. 1858
เสื้อผ้าของ Worth ล้วนตัดเย็บด้วยมือ ใช้เนื้อผ้าราคาแพง และวัสดุตกแต่งที่หรูหรา
ถึงแม้จะมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดโรงงานสิ่งทอ
แต่ลูกค้ากลุ่มที่มีฐานะ กลับต้องการเสื้อผ้าที่ตัดเย็บด้วยมือ เพื่อแสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัว และไม่อยากซ้ำกับใคร เสื้อผ้าของ Worth จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเหล่านี้
Worth ยังเป็นผู้เปลี่ยนวิธีการนำเสนอเสื้อผ้าให้กับลูกค้า
จากเดิมที่ลูกค้าจะเป็นคนแนะนำแบบของเสื้อผ้าให้กับช่างตัดเสื้อ
คราวนี้ช่างตัดเสื้อจะเป็นผู้คิดและแสดงแบบให้แก่ลูกค้าเอง โดยไม่โชว์บนหุ่นอีกต่อไป
แต่โชว์บนร่างคนจริงๆ
และนี่คือจุดเริ่มต้นของการจัดแสดงแฟชั่นโชว์เป็นครั้งแรกของโลก
การแสดงแฟชั่นโชว์ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ฤดูกาลแฟชั่น” ที่จะมีการเปลี่ยนแบบเสื้อผ้ากันปีละ 2 ถึง 4 ครั้ง ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการแฟชั่น จากชุดที่สามารถสวมใส่ได้ตลอด
ก็อาจกลายเป็นชุดที่ล้าสมัยได้เมื่อเวลาผ่านไป..
ต่อมาลูกชายของ Charles ชื่อว่า Gaston Lucien Worth
เป็นผู้ผลักดันให้มีการก่อตั้งสมาคมช่างเสื้อชั้นสูง
“La Chambre Syndicale de la Haute Couture”
ซึ่งเป็นการยกระดับการตัดเย็บเสื้อผ้า จากช่างฝีมือให้กลายเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง
คำว่า Haute Couture หรือ “โอตกูตูร์” มีความหมายถึงศิลปะการตัดเย็บชั้นสูง
ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1908
ตามมาด้วยการจัดตั้งวิทยาลัยเสื้อผ้าชั้นสูง École de la Chambre Syndicale de la Couture Parisienne (ECSCP) ในปี ค.ศ. 1927
เพื่อให้เป็นสถาบันเพื่อสร้างนักออกแบบเสื้อโอตกูตูร์โดยเฉพาะ
การจะเป็นห้องเสื้อโอตกูตูร์นั้น ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ จะต้องได้รับการรับรองจากสมาคมโอตกูตูร์ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีข้อจำกัดดังต่อไปนี้
1. ต้องเป็นงานออกแบบด้วยมือทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่มีการใช้เครื่องจักรใดๆ
2. ต้องเป็นการดีไซน์แบบ Made-to-order สำหรับลูกค้าเฉพาะรายเท่านั้น
3. ต้องมี Atelier หรือสตูดิโออยู่ในกรุงปารีสเท่านั้น และใน Atelier ต้องมีพนักงานแบบทำงานเต็มเวลาอย่างน้อย 15 คน
4. ในทุกฤดูกาล จะต้องมีการโชว์ Collection อย่างน้อย 35 ดีไซน์ ทั้งชุดกลางวันและชุดราตรีสู่สาธารณชน
แบรนด์ฝรั่งเศสมี Story ของความหรูหราที่ดึงดูดลูกค้าทั่วโลกมาเป็นเวลาหลายร้อยปี
แต่การมีทั้งสมาคมรับรอง และมีโรงเรียนสอนการตัดเย็บเสื้อผ้าโอตกูตูร์
ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่กำหนดความหรูหรา ให้มี “มาตรฐาน”
และสร้างแบรนด์เสื้อผ้าฝรั่งเศสให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราอย่างเป็นทางการ
แล้วแบรนด์ฝรั่งเศส แบรนด์ไหนบ้างที่อยู่ในโอตกูตูร์?
ส่วนใหญ่แล้ว ล้วนเป็นแบรนด์ที่คนทั่วโลกคุ้นเคยกันดี
ทั้ง Chanel, Dior และ Jean Paul Gaultier
นอกจากความหรูหราแล้ว แต่ละแบรนด์ล้วนทรงอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นของโลกตลอดช่วงเวลาต่างๆ
ทศวรรษ 1920s-1930s
สงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1918 ทศวรรษนี้จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ ในขณะที่เหล่าบรรดาเศรษฐียังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ
Gabrielle Chanel เริ่มต้นเส้นทางสายแฟชั่นจากการเปิดร้านขายหมวกให้กับเหล่าบรรดาเศรษฐี ก่อนจะพัฒนามาเปิดร้านขายเสื้อผ้าในปี ค.ศ. 1913
ชื่อเสียงของ Chanel โด่งดังด้วยการนำเสนอชุดผู้หญิงที่สลัดกระโปรงยาวรุ่มร่ามในยุคก่อน
ออกไปจนหมด เปลี่ยนเป็นชุดเรียบง่าย เก๋ไก๋ และนำความเป็นผู้ชายมาประยุกต์ให้เข้ากับชุดของผู้หญิง เกิดเป็นชุดสูทของ Chanel ที่เป็นเอกลักษณ์มาจนถึงปัจจุบัน
ทศวรรษ 1940s-1950s
สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1945 โดยที่กรุงปารีสไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย เนื่องจากในตอนนั้นกองทัพนาซีเยอรมันยึดครองกรุงปารีสได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้มีการต่อสู้กันหนักในกรุงปารีส
อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่ผ่านความหดหู่และสูญเสีย ต่างคิดถึงวิถีชีวิตหรูหราช่วงก่อนสงคราม
ส่งผลให้วงการแฟชั่นฝรั่งเศสหวนกลับไปหาสไตล์ออกแบบเดิมอีกครั้ง คือ การใช้ผ้าฟุ่มเฟือย
Christian Dior ปฏิวัติวงการด้วยการนำเสนอแฟชั่น “New Look” ในปี ค.ศ. 1947
ด้วยชุดเข้ารูป เข้าเอว อวดทรวดทรง และกระโปรงสุ่มบาน
การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงหลังสงคราม ทำให้วงการแฟชั่นเติบโตขึ้น
มีการตั้งนิตยสารแฟชั่นชื่อดังของฝรั่งเศสชื่อ ELLE ในปี ค.ศ. 1945
การมีพร้อมทั้งนักออกแบบ และสื่อแฟชั่น ยิ่งตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของกรุงปารีสในช่วงทศวรรษที่ 1950
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คือ Christian Dior จากไปในปี ค.ศ. 1957 ด้วยวัยเพียง 52 ปี
โดยมีการวางตัวผู้สืบทอดคือ Yves Saint Laurent
ทศวรรษ 1960s-1970s
ท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และวิถีชีวิตที่เร่งรีบของชาวอเมริกันได้แพร่หลายไปทั่วโลก ทำให้แฟชั่นหรูหราราคาแพงอย่าง โอตกูตูร์ เริ่มไม่ตอบโจทย์กับชีวิตจริง
Yves Saint Laurent ได้ปฏิวัติวงการแฟชั่นด้วยการบุกเบิกเสื้อผ้าสำเร็จรูป Ready to Wear
หรือภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า “Prêt-à-Porter” (เพร-อา-ปอร์เต)
Prêt-à-Porter มีความสวยงาม สะดวก ราคาถูกลง แต่ยังคงความโก้เก๋ เพื่อยังครอบครองตลาดแฟชั่นส่วนใหญ่ได้
แบรนด์เนมต่างๆ จึงหันมาให้ความสำคัญกับฐานลูกค้ากลุ่มนี้ มีการนำกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมมาใช้ในการผลิตเสื้อผ้า ทำให้สามารถขยายฐานการผลิตได้มากขึ้น
และในช่วงนี้เอง โอตกูตูร์ที่มีฐานลูกค้าที่จำกัด จึงค่อยๆ หมดความสำคัญลงในแง่ของการตลาด
ทศวรรษ 1980s
การสื่อสารที่สะดวกสบายมากขึ้น ทำให้มีการนำสื่อมวลชน และดาราระดับโลกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ รูปลักษณ์และการสร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น
Jean Paul Gaultier มีการนำเสนอความยั่วยวนผ่านรูปแบบแฟชั่นที่หวือหวา เช่น การนำชุดชั้นในมาไว้ด้านนอก ผ่านดาราฮอลลีวูดชื่อดัง Madonna เป็นผู้นำเสนอแบบเสื้อผ้า
ในช่วงทศวรรษนี้ แฟชั่นฝรั่งเศสเผชิญความท้าทายมากมาย
ทั้งการแข่งขันกับเมืองอื่นๆ ในการเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของโลกทั้งมิลาน นิวยอร์ก และกรุงลอนดอน
รวมถึงแบรนด์แฟชั่นเริ่มถูกนำทางด้วยธุรกิจ ผลกำไร แทนความคิดสร้างสรรค์ที่เคยมีอย่างอิสระ ทำให้บทบาทของโอตกูตูร์ลดความสำคัญลงมามาก แบรนด์ต่างๆ เปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม การสั่งสม Story มาอย่างยาวนาน
ความพร้อมทั้งการมีสมาคมและภาคอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง
มีสถาบันการศึกษา มีนักออกแบบ มีสื่อแฟชั่นและนักวิจารณ์
ทำให้แฟชั่นฝรั่งเศสยังคงสามารถกำหนดเทรนด์แฟชั่นของโลกได้ และดึงดูดลูกค้ากระเป๋าหนักจากทั่วโลกให้มาจับจ่ายใช้สอย
เพราะในสายตาของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นคนอเมริกัน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน หรือคนไทย
เสื้อผ้าแบรนด์ฝรั่งเศสยังคงมีความหรูหรา ดูดี และมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์อยู่เสมอ
แต่รู้หรือไม่ว่า สำหรับคนฝรั่งเศสผู้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง กลับนิยมชมชอบร้านแฟชั่นท้องถิ่นมากกว่าแบรนด์เนมชื่อดัง โดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้าวินเทจ ไปจนถึงเสื้อผ้ามือสอง
ครัวเรือนชาวฝรั่งเศสใช้จ่ายเงินไปกับเสื้อผ้าคิดเป็นสัดส่วนเพียง 3.8%
ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปเกือบ 2 เท่า
แต่สิ่งที่ชาวฝรั่งเศสให้ความสำคัญมาก จนใช้จ่ายเกินค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรปก็คือ
“ค่าใช้จ่ายด้านอาหาร”
เพราะสำหรับคนฝรั่งเศสแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การมีชีวิตอยู่ ก็คืออาหารการกิน
และสาเหตุนี้เองจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพที่เราเรียกกันว่า “Chef”..
เตรียมพบกับซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ทำไมฝรั่งเศส จึงเป็นประเทศแห่ง Chef ทำอาหาร? ได้ในสัปดาห์หน้า..
╔═══════════╗
ชอบบทความแบบนี้ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ. 2019
สั่งซื้อได้ที่ (ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.harpersbazaar.com/uk/fashion/fashion-news/news/a31123/the-history-of-haute-couture/
-https://ec.europa.eu/eurostat/web/products-eurostat-news/-/DDN-20180103-1?inheritRedirect=true
-https://ec.europa.eu/eurostat/de/web/products-eurostat-news/product/-/asset_publisher/VWJkHuaYvLIN/content/DDN-20181204-1/pop_up?_101_INSTANCE_VWJkHuaYvLIN_viewMode=print&_101_INSTANCE_VWJkHuaYvLIN_languageId=de_DE
-ประวัติศาสตร์แฟชั่น, ศาสตราจารย์ ดร.พรสนอง วงศ์สิงห์ทอง
แบรนด์ต่างๆ 在 Kate Studio Youtube 的最佳貼文
วันนี้แนะนำสาวกหมวกวินเท็จค่ะ ใครชอบใครรักงานของเก่า แบรนด์ต่างๆ ไปหากันให้หนำใจเลยค่ะ แล้วเรื่องสั่งซื้อและจัดส่ง ให้เกดดูแลค่ะ
ปกติไม่จัดส่งหมวกให้เพราะมีปัญหาเยอะมากค่ะ แต่มีคนถามมาเยอะเลยตอบโจทย์ ดูแลให้แต่คิดค่าส่งตามปริมาตรค่ะ เพราะเราต้องแพ็คอย่างดี ไม่งั้นเสี่ยงพังค่ะ และเราต้องตรวจสภาพสินค้าให้ด้วยค่ะ เพราะเป็นมือ 2,3,4...
สนใจบริการนำเข้าสินค้าจากอเมริกาแอดไลน์ @shopplearnusa

แบรนด์ต่างๆ 在 Pnat Beautybar Youtube 的精選貼文
มีคนชมว่าช่วงนี้หน้าเด็กอาจจะเป็นเพราะ พี่นัทลองใช้เทคนิคการเเต่งหน้าจากที่ไปอบรมมาที่เกาหลี เเละ ได้ไปWorkShop กับ แบรนด์ต่างๆ เเล้วเอามาประยุกต์ใช้เป็น Everydaylook ของตัวเองจะเป็นยังไงไปลองดูกันน้าา
เครื่องสำอางที่ใช้ในคลิป
1. Cezanne Make Up Base #pink
2. Ipsa Foundation Ultimate +Brush #100
3. Chanel eye concealer #02
4. CM Pro-Edition Underflow Hydrator #01
5. Laura Mercier Loose Powder #translucent
6. Melinda Eyebrow pencil #Blackbrown
7. Esmaket+ eye brow pencil #Grey
8. Chanel eyebrow mascara #00
9. Etude House Palette Blend For 4 Eyes
10. Nyx Eyeshadow #white pearl
11. Jung Sae Moon Artist Contour Palatte
12. 3ce Cheek Blush #monopink
13. Annasui Rose Cheek Blush #300
14. Mac Beauty Blush
15. History Of Whoo Lip Gloss
16. Revlon Lips Fire&ice
17. Estes Lauder Pure Love Lipsticks #100
18. Annasui Finishing Powder #001
Personal Ig : p.nat 928
Ig review : p.nat beautybar
Facebook Fanpage : pnat beautybar
Youtube : pnat Beautybar

แบรนด์ต่างๆ 在 MarketThink - สโลแกนติดหู ของแบรนด์ต่างๆ - Facebook 的推薦與評價
สินค้าได้ดีเป็นอีกหลักการตลาดหนึ่งที่ใช้ได้ผล ทำให้เเบรนด์ต่างๆคิดทำเจ๋งๆออกมาใช้เพื่อดึงดูด ลูกค้าให้สนใจซื้อสินค้าของแบรนด์. ... <看更多>
แบรนด์ต่างๆ 在 รวมมิตร 'Brand Journey' ประวัติ 9 แบรนด์ดังที่ครองใจคนทั้งโลก 的推薦與評價
8 Minutes History เมดเลย์ อีพีนี้ พาไปสำรวจประวัติศาสตร์และเกร็ดน่ารู้ของ แบรนด์ ระดับโลก ทั้ง Nike, Gucci, Ray-Ban, Rolls-Royce ... ... <看更多>