“ผมไม่เรียนต่อมหาลัยเพราะผมเชื่อว่าจะสามารถเรียนรู้และทำธุรกิจได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งใบปริญญา” โทมัส เจคอบ ฮิลฟิเกอร์ เจ้าของ Tommy Hilfiger แบรนด์แฟชั่นระดับโลก ที่ตัดสินใจทิ้งการเรียนต่อมหาลัยแล้วหันทำตามความฝันจนในที่สุดก็ได้เป็นเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลกที่มีแต่ผู้คนชื่นชม แต่กว่าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้เส้นทางของเขานั้นไม่ง่ายเลย
.
Tommy Hilfiger เป็นแบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติอเมริกันสไตล์คลาสสิก เรียบง่าย แต่ผสมผสานความทันสมัยอย่างลงตัว ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำแบรนด์หนึ่งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในระดับโลก มีพนักงานมากกว่า 17,000 คน ในร้านค้ามากกว่า 1,400 แห่ง กว่า 90 ประเทศทั่วโลก
.
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อ โทมัส เจคอบ ฮิลฟิเกอร์ หรือ ทอมมี่ อายุได้ 18 ปี เขาตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อมหาลัยเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แต่เลือกที่จะเดินตามความฝันในวัยเด็กที่อยากจะเป็นดีไซเนอร์ด้วยการเอาเงินที่ตนและเพื่อนมีมาร่วมลงทุนกันเพื่อรับกางเกงยีนส์มาขาย น่าทึ่งที่พวกเขาขายดีจนสามารถเปิดร้านเป็นของตัวเองได้ ชื่อร้านว่า People’s Place ซึ่งกระแสตอบรับในเวลานั้นดีมากๆ ขยายสาขาจำนวนมากในเวลาไม่กี่ปี ขณะที่ธุรกิจกำลังไปได้สวย ความสุขก็ต้องจบลง เมื่อฝ่ายบัญชีได้รายงานเกี่ยวกับการเงินของบริษัทที่มีปัญหาอย่างหนัก จนทำให้เขาต้องยื่นต่อศาลเป็นบุคคลล้มละลาย
.
ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถอดใจเขาเริ่มต้นใหม่ด้วยการเดินตามความฝันในการเป็นดีไซเนอร์อย่างเต็มตัว และถือเอาความล้มเหลวในครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ปรับเปลี่ยนตัวเองที่นอกจากจะใส่ใจเรื่องความสร้างสรรค์ในผลงาน เรื่องของบัญชีก็เป็นสิ่งที่เขาจะไม่ละเลยอีกต่อไป เขาหันมาศึกษาเรื่องการเงิน การบัญชีด้วยตัวเองอย่างจริงจัง เข้มงวดเรื่องค่าใช้จ่าย และกลยุทธ์การทำธุรกิจอย่างมุ่งมั่น และได้เข้าทำงานในบริษัทแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง Calvin Klein จนได้รับการเสนอตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบและดีไซน์ แต่เขาก็ปฏิเสธเพราะต้องการที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเองมากกว่า
.
เรื่องราวไม่ได้สวยหรูเหมือนในละคร เสื้อผ้าที่เขาออกแบบนั้นถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน เพราะเสื้อผ้าที่เขาออกแบบนั้นเป็นสไตล์ที่แสนจะเรียบง่าย และไม่รู้สึกดึงดูดเหล่าดีไซเนอร์ในสมัยนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ละทิ้งความเป็นตัวเอง แต่ปรับเอาสไตล์ที่เขาชอบมาเพิ่มลูกเล่นและทำให้ดูเท่มากขึ้น แต่ยังคงความสะดวกสบายคล่องตัวในรูปแบบชุดลำลองอยู่ ในที่สุดดีไซน์ของเขาก็เตะตากับนักธุรกิจที่พร้อมจะสนับสนุนเงินทุนให้เขา และในที่สุดเขาก็ได้เปิดตัวคอลเลกชั่นแรกในปี 2528 ภายใต้ชื่อแบรนด์ Tommy Hilfiger และน่าทึ่งที่มันประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วแบบที่ใครก็ต้องตกใจ!
.
คุณรู้หรือไม่? ความสำเร็จในครั้งนี้ ทอมมี่ ได้วางแผนมาไว้ทั้งหมดแล้ว เพราะการเปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกเขาได้ George Lois ครีเอทีฟฝีมือดีเข้ามาช่วยดูแลแคมเปญให้ด้วยการโปรโมท ประกอบกับในยุคนั้น ที่ชาวอเมริกันกำลังฮิตเสื้อผ้าแนวลำลอง และแน่นอนว่า Tommy Hilfiger ตอบโจทย์อย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น รวมเข้ากับการทำการตลาดอย่างหนักด้วยการโฆษณาแบรนด์ในบิลบอร์ดกลางสี่แยกไทม์สแควร์จึงทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักของผู้คนในระยะเวลาอันรวดเร็ว
.
หลังจากที่มีนักธุรกิจจากหลากหลายชาติเข้ามาลงทุน ทำให้การขยายตลาดไปยังยุโรปและเอเชียประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายไปสู่ระดับพันล้านเหรียญสหรัฐฯ จนในปี 2535 ทอมมี่กลายเป็นดีไซเนอร์คนแรกที่นำเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ
.
เส้นทางที่กำลังไปได้สวยกลับต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่อีกครั้ง เนื่องจากการผลิตสินค้าที่เกินความต้องการทำให้สินค้าค้างสต๊อก จนในปี 2549 ทอมมี่ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อให้บริษัทอยู่รอดด้วยการขายหุ้นให้กับบริษัทพาร์ทเนอร์ ปลดพนักงานออก ปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจและวางแผนการทำสต๊อกสินค้าใหม่ และหลังจากนั้นไม่นาน ปี 2553 บริษัทเจ้าของแบรนด์ Calvin Klein ก็ได้เข้าซื้อแบรนด์ Tommy Hilfiger และปรับเปลี่ยนตำแหน่งในบริษัทใหม่ด้วยการจ้าง CEO ให้มาดูแลตำแหน่งบริหารและให้ทอมมี่หันไปเต็มที่ในเรื่องควบคุมเรื่องของการดีไซน์สินค้าต่างๆ และทำหน้าที่เป็นหน้าตาหรือตัวแทนของบริษัทในการออกงานแฟชั่นโชว์ ซึ่งนั่นก็ทำให้สถานะการณ์ของบริษัทดีขึ้นเรื่อยๆ
.
และนี่ก็เป็นเรื่องราวของเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Tommy Hilfiger ที่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้กราฟชีวิตก็เหวี่ยงแบบขึ้นสุดลงสุด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ท้อถอยและสามารถกลับมายืนได้อีกทุกครั้ง ส่วนสำคัญที่สุดคือความไม่ท้อถอยของเขาที่ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคหนักหนาแค่ไหนก็ไม่เคยที่จะละทิ้งความฝันและความพยายามเลยสักครั้ง แต่กลับพร้อมที่จะเอาความล้มเหลวมาเป็นบทเรียนที่เรียนรู้และเป็นแรงผลักดันในการเริ่มต้นใหม่ ดังนั้นใครที่กำลังท้อแท้หรือหมดหวังอยากให้เอาเรื่องราวนี้เป็นบทเรียนและปรัชใช้ในชีวิต รวมไปถึงเรื่องของการทำธุรกิจที่ต้องอย่าละเลยเรื่องของการเงิน การทำบัญชี เพราะต่อให้ธุรกิจของเราไปได้สวยหรือขายได้ดีแค่ไหนก็สามารถพลาดได้ แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากที่จะเจอปัญหาเช่นเดียวกันนี้หรอก จริงไหม?
.
ที่มา : https://usa.tommy.com/en/ https://sites.google.com/site/tommyhilfigersnook12345/home/prawati-tommy-hilfiger
https://artstudiosalute.ru/th/tommy-hilfiger-chya-marka-istoriya-mody-kak-sozdavalsya-tommy-hilfiger-kak-vse/
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#TommyHilfiger #Business #ธุรกิจ #ไอเดียธุรกิจ #ล้มละลาย #การเงิน #ลงทุน #บัญชี #วางแผนการเงิน
แบรนด์แฟชั่นระดับโลก 在 กรุงเทพธุรกิจ - แบรนด์ไหนถูกใจคนรวย? เริ่มต้นศักราช ... 的推薦與評價
เริ่มต้นศักราชใหม่พร้อมผลการจัดอันดับความนิยม #แบรนด์หรูระดับโลก ... 8 ใน 10 ของรายชื่อเป็นแบรนด์แฟชั่น ส่วนอีก 2 แบรนด์ไม่ใช่แบรนด์แฟชั่น ... ... <看更多>