วันก่อน ถูกสัมภาษณ์ออนไลน์เกี่ยวกับเรื่อง #โรคไข้หูดับ จากการบริโภคเนื้อหมู ซึ่งมีชาวบ้านที่อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตไปนับสิบราย !
โรคไข้หูดับ ยังเป็นโรคที่พบบ่อยครั้งในประเทศไทย ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็มาจากการบริโภคเนื้อหมูที่ไม่ได้ปรุงสุก ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคนี้ยังมีชีวิต และทำอันตรายกับผู้บริโภคได้ โดยมีอันตรายสูงมาก ถึงแก่ชีวิตครับ
เลยเอาคลิปให้สัมภาษณ์มาแชร์ให้ฟังกันนะ รวมทั้งขอแชร์ข้อความข่าวจากไทยรัฐและไทยพีบีเอส ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโรคไข้หูดับนี้ เพื่อเตือนให้ระมัดระวังกันด้วยนะครับ
--------
(รายงานข่าว ไทยรัฐ https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2194158)
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า
#นอกจากโควิด19 ยังมีโรคไข้หูดับอีก #ขอให้หยุดกินหมูดิบในเขตอำเภอเสิงสางด่วนที่สุดครับ-วันนี้ได้รับรายงานว่าขณะนี้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอเสิงสางแล้ว 14 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย-ขอให้งดกินหมูดิบและสัมผัสหมูดิบ ซึ่งอาจจะติดเชื้อ โดยเฉพาะเขียงหมูที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ (ลักลอบเชือด) -บ่ายนี้นายอำเภอเสิงสางจะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องด่วนที่สุดครับ เพื่อกำหนดมาตรการบางอย่าง และอาจจะกระทบกับพี่น้องชาวเสิงสาง-จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
โดยมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อความดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง และลงพื้นที่ตรวจสอบถึงกรณีดังกล่าว โดยนายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง เปิดเผยว่า
ตนได้รับรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอเสิงสางมีประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคหูดับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.-9 ก.ย. จำนวนทั้งสิ้น 15 ราย และเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวจำนวน 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายได้เสียชีวิตก่อนที่ผลตรวจจะออกมาว่าเป็นโรคหูดับ ทราบว่า 2 ใน 3 อยู่ในพื้นที่บ้านโคกสูง ม.3 ต.สระตะเคียน และบ้านซับ ม.4 ต.สิงสาง ทั้ง 2 รายได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง กล่าวถึงมาตรการแก้ไขสถานการณ์ว่า จะเร่งให้มีการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ทราบถึงโทษของการรับประทานอาหารที่เป็นหมูดิบ รวมถึงการสัมผัสหมูที่อาจจะติดเชื้อของโรคหูดับ โดยหากบุคลดังกล่าวมีบาดแผลแล้วไปสัมผัสหมูที่ติดเชื้อเชื้อโรค อาจจะเข้าทางกระแสเลือดได้
พร้อมทั้งจะมีการจัดระบบสำหรับผู้ประกอบการเลี้ยงหมูในพื้นที่ให้ถูกต้องตามกฎหมายและถูกสุขอนามัย ได้ประสานไปยังปศุสัตว์จังหวัด จากนี้จะมีหนังสือเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินการในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการในพื้นที่ที่จะสามารถนำหมูเข้าสู่โรงฆ่าสัตว์ได้อย่างถูกต้อง
โดยในพื้นที่อำเภอเสิงสางมีโรงฆ่าสัตว์ขนาดเล็กเพียงแห่งเดียว จึงทำให้มีกลุ่มลักลอบค้าหมูยังไม่ถูกต้อง จึงเกิดปัญหาหมูติดโรคหลุดรอดเข้ามาในพื้นที่ เชื่อว่ากลุ่มที่ค้าหมูที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะได้เข้ามาอยู่ในระบบที่ถูกต้อง จากนั้นได้มอบหมายให้กับ อปท.ในพื้นที่ร่วมกับปศุสัตว์อำเภอและสาธารณสุขอำเภอ ลงพื้นที่ตรวจสอบและสำรวจโรงฆ่าสัตว์ หรือโรงชำแหละ เพื่อจัดทำทะเบียนและควบคุมสอบสวนโรค พร้อมทั้งการติดตามได้ง่ายในอนาคตต่อไป
ด้านนายแพทย์มงคล เกิดแปลงทอง นายแพทย์ประจำโรงพยาบาล ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลเสิงสาง ตัวแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสิงสาง ซึ่งเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลโรคหูดับในพื้นที่ เปิดเผยว่า
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมมีผู้ป่วย 1 รายในพื้นที่ได้เดินทางเข้ามาทำการรักษาภายในโรงพยาบาลเสิงสาง โดยมีอาการของโรคปอดติดเชื้อ ก่อนที่ทีมแพทย์จะตรวจพบเชื้อของโรคหูดับในกระแสเลือด
ต่อมาในต้นเดือนกันยายน พบว่า มีผู้ป่วยจำนวน 4-5 รายเดินทางเข้ามาทำการรักษาด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง จนถึงขั้นมีอาการไตวายและระบบการหายใจล้มเหลว ทีมแพทย์ต้องใส่ท่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ต่อมามีผู้ป่วยเดินทางเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอาการดังกล่าว พร้อมทั้งมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาการหูดับตามมาเพิ่ม หลังจากนั้นแพทย์ได้รอผลการเพาะเชื้อในเลือดประมาณ 3-5 วัน ปรากฏพบว่าติดเชื้อ “สเตรปโตคอคคัส ซูอิส” (Streptococcus Suis) โดยเป็นเชื้อที่ต้องเฝ้าระวังเพราะเป็นการติดต่อจากการกินหมูดิบ หรือการสัมผัสเนื้อหมูที่เชื้อโรคสามารถติดต่อได้บาดแผล
ขณะนี้พบผู้ป่วยในพื้นที่อำเภอเสิงสางเข้าข่ายติดเชื้อทั้งหมด 15 ราย มีการยืนยันว่าติดเชื้อแล้ว 13 ราย และเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ตับวาย ไตวาย และระบบการหายใจล้มเหลวจำนวน 3 ราย
สำหรับโรคไข้หูดับสามารถติดเชื้อโดยตรงจากการที่ผู้ป่วยรับประทานหมูดิบและสามารถติดเชื้อจากการสัมผัสหมูโดยตรงหากมีบาดแผลบริเวณร่างกายเข้าสู่กระแสเลือด แม้จะไม่ได้รับประทานหมูก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยบางราย จากการสอบถามไม่มีพฤติกรรมในการรับประทานหมูดิบ แต่ชอบรับประทานหมูกระทะเป็นประจำ จึงตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะย่างหมูไม่สุกดี และใช้ตะเกียบอันเดียวกันที่ใช้คีบหมูดิบ และตะเกียบที่ใช้ย่างหมูรับประทาน ทำให้เชื้อปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้
ส่วนอีกกรณีผู้ที่ทำงานในเขียงหมู อาจจะไม่ได้รับประทานหมูดิบ แต่เป็นผู้ที่สัมผัสหมูโดยตรง หากมีบาดแผลก็สามารถติดเชื้อโรคดังกล่าวผ่านผิวหนังได้
ส่วนอาการของผู้ติดเชื้อโรคหูดับ หลังจากได้รับเชื้อภายใน 3 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 3 วัน จะพบอาการเบื้องต้นมีไข้ ถ่ายเหลว และปวดหัว หากติดเชื้อแล้วไม่ได้ทำการรักษาโดยเร็ว เมื่อเชื้อขึ้นไปถึงสมองอาจจะทำให้เสียชีวิต หรือหูดับได้
สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคหูดับมี 3 ส่วนด้วยกัน โดยต้องเริ่มจากผู้เลี้ยงหมูและผู้ขายหมู ต้องดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยให้ดีสำหรับการเลี้ยงหมู และไม่จำหน่ายหมูป่วยให้กับผู้บริโภค
ส่วนที่ 2 คือ ผู้ที่ประกอบอาหารหากมีบาดแผลต้องสวมถุงมือเพื่อป้องกันเชื้อ ส่วนที่ 3 คือ ผู้บริโภคไม่ควรรับประทานหมูดิบ เช่น เมนูลาบดิบ ก้อยดิบ หากจะรับประทานหมูควรปรุงให้สุก โดยใช้ความร้อนอย่างน้อย 10 นาทีขึ้นไป เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อดังกล่าว.
---------
(รายงานข่าว ไทยพีบีเอส https://news.thaipbs.or.th/content/307921)
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2564 นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
อ.เสิงสาง 2 สัปดาห์พบผู้ป่วย 14 คน เสียชีวิต 3 คน และหูหนวกถาวร 2 คน โดยเกิดจากการรับประทานหมูดิบ ทั้งเมนูลาบดิบ ก้อยดิบ ตับลวก ตับหวาน ส้มหมู แหนมหมู หมูกระทะ และเชื้อจากหมูผ่านผิวหนังที่เป็นแผล
#สำหรับอาการที่พบ
ในระยะเวลาหลังรับประทาน 3 ชั่วโมง ไม่เกิน 3 วันจะมีอาการ 1 ใน 3 อย่าง ให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อรักษา ได้แก่ 1.ไข้ 2.อาเจียน,ถ่ายเหลว 3.ปวดศีรษะ หากมาช้าเกิน 3 วันอาจเกิดอาการชัก หูหนวกถาวร และเสียชีวิตได้
#วิธีป้องกัน คนเลี้ยงหมูต้องสะอาดทั้งคอกและเขียง คนปรุงต้องสวมถุงมือก่อนจับหมู และคนบริโภคห้ามรับประทานหมูดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ หมูกระทะต้องแยกตะเกียบย่างกับกะเกียบกิน
ในวันเดียวกัน นายอำเภอเสิงสางพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลเสิงสาง สาธารณสุขอำเภอเสิงสาง ปศุสัตว์อำเภอเสิงสาง ตำรวจ ปลัดฝ่ายมั่งคง กำนัน ได้จัดประชุมปรึกษาหารือแนวทางการป้องกันโรคระบาดสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (โรคไข้หูดับ) เพื่อกำหนดมาตรการงดกินหมูดิบและสัมผัสหมูดิบ
ทั้งนี้ เนื่องจากอาจจะติดเชื้อ โดยเฉพาะเขียงหมูที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ ล่าสุด พบผู้ป่วยไข้หูดับ จำนวน 15 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน
#สถิติคนไทยป่วยโรคไข้หูดับ
ก่อนหน้านี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ของโรคไข้หูดับ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -11 มิ.ย.2564 พบผู้ป่วยแล้ว 243 คน เสียชีวิต 11 คน
ส่วนภาคที่มีอัตราป่วยที่สุดคือ ภาคเหนือ (พบผู้ป่วย 162 คน คิดเป็นร้อยละ 66 ของผู้ป่วยทั้งหมด) จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ลำปาง พะเยา อุตรดิตถ์ นครราชสีมา และสุโขทัย ตามลำดับ ขณะที่ปี 2563 พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 342 คน เสียชีวิต 12 คน
#รู้จักอาการโรคไข้หูดับ
สำหรับโรคไข้หูดับ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูที่กำลังป่วย สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ
1. เกิดจากการบริโภคเนื้อและเลือดหมู ที่ปรุงแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ
2. การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค จากทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา หรือสัมผัสเลือดของหมูที่กำลังป่วย
หลังจากได้รับเชื้อ 3-5 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการกินหมูดิบและสัมผัสเนื้อหมูให้ทราบเพราะหากมาพบแพทย์และวินิจฉัยได้เร็ว จะช่วยลดอัตราการเกิดหูหนวกและการเสียชีวิตได้
ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ติดสุราเรื้อรัง ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน ไต มะเร็ง หัวใจ ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น หากติดเชื้อจะมีอาการป่วยรุนแรงเนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ
#2วิธีป้องกันโรคไข้หูดับ
ทั้งนี้ วิธีการป้องกันโรคไข้หูดับ คือ
1.ควรบริโภคอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อน ทำสดใหม่ โดยเฉพาะเนื้อหมู ควรเลือกซื้อเนื้อหมูจากตลาดสดหรือห้างสรรพสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ ขอให้แยกอุปกรณ์ที่ใช้หยิบเนื้อหมูสุกและดิบออกจากกัน ไม่ใช้เขียงของดิบและของสุกร่วมกัน
2.ไม่สัมผัสเนื้อหมูและเลือดดิบด้วยมือเปล่า โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้าบู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過59萬的網紅Healthy Natural นานา สมุนไพร,也在其Youtube影片中提到,ผลของการ “ไม่กินข้าวเย็น” ส่งผลต่อร่างกายขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ไม่เคยรู้มาก่อน!! วันนี้เรามีสาระดีๆมาฝากทุกๆท่านเช่นเคย ‘ไม่กินข้าวเย็น’ เรื่องดีต้องบอกต...
「ไต คือ」的推薦目錄:
- 關於ไต คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的精選貼文
- 關於ไต คือ 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最佳貼文
- 關於ไต คือ 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最佳解答
- 關於ไต คือ 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的精選貼文
- 關於ไต คือ 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的最佳解答
- 關於ไต คือ 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的精選貼文
ไต คือ 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最佳貼文
❗️ #รายงานโควิดวันนี้ (9 ก.ย. 64)
🇭🇰 [HK] ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +2, ติดในท้องถิ่น “ไม่มี”
🇸🇬 [SG] ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด N/A, ติดในท้องถิ่น N/A
🇹🇭 [TH] ติดเชื้อใหม่ในท้องถิ่น +16,292, เสียชีวิต +220
.
====================
#ไฮไลท์
====================
🇭🇰 #ฮ่องกง
- หนึ่งในเคส import ที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ พบเชื้อสายพันธุ์เดลต้า สธ จะบังคับให้ผู้อาศัยและทำงานในตึกเดียวกันไปตรวจโควิดตามกฎหมาย (Amber Garden, 110 Blue Pool Road, Happy Valley และ Room 602, 6/F, Tesbury Centre, 28 Queen's Road East, Wan Chai)
- สถานที่ต้องตรวจโควิดตามกฎหมาย >> https://gia.info.gov.hk/general/202109/08/P2021090800764_376091_1_1631105081791.pdf
.
🇸🇬 #สิงคโปร์
- สธ ไม่เปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อที่หาต้นตอไม่ได้เป็นวันแรก และเปิดเผยรายละเอียดเพียงคลัสเตอร์ขนาดใหญ่เท่านั้น และนอกจากนี้ จะรายงานโควิดวันละ 1 ครั้งเท่านั้นในช่วงดึก #ทำให้รายงานของพี่แป๋วต้องปรับรูปแบบไปด้วย
- ผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวใน รพ มีจำนวน 664 คน ป่วยหนัก(ต้องการอ็อกซิเจน) 23 คน อยู่ใน ICU 6 คน
.
====================
🕰 #สถานการณ์ประจำวัน
====================
🇭🇰 #ฮ่องกง
- วันนี้ ไม่พบเคสในท้องถิ่น ติดต่อกันเป็นวันที่ 23
- พบเคส import 2 คน มาจาก
(1) ฟิลิปปินส์ (ฉีดไฟเซอร์ที่ฟิลิปปินส์ครบ 2 เข็มแล้วในเดือน กค ไม่มีอาการ)
(2) เกาหลีใต้ (ฉีดไฟเซอร์ที่ฮ่องกงครบ 2 เข็มแล้วในเดือน พค ไม่มีอาการ มีผลตรวจภูมิในเดือน กค)
.
🇸🇬 #สิงคโปร์
- สธ ยังไม่ประกาศรายงานโควิดประจำวันในวันนี้
- พบผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นหญิงชาวสิงคโปร์อายุ 93 ปี ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ไต ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
.
🇹🇭 #ไทย
- วันนี้ ผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นจำนวน 16,292 ราย แบ่งเป็น พบจากระบบเฝ้าระวังและบริการ ฯลฯ 12,436 ราย, พบในเรือนจำ 621 ราย, ตรวจเชิงรุกในชุมชน 2,955 ราย; มาจากต่างประเทศ 9 คน (สหรัฐอเมริกา กัมพูชา พม่า มาเลเซีย)
.
=================
💉 #สถิติฉีดวัคซีนโควิด
=================
🇭🇰 #ฮ่องกง (ณ วันที่ 7 กย 64)
#Daily
Sinovac (เข็มแรก) ~ 4,400 คน
SinoVac (เข็มที่ 2) ~ 9,200 คน
BioNTech (เข็มแรก) ~ 7,700 คน
BioNTech (เข็มที่ 2) ~ 18,700 คน
รวมฉีดทั้งสิ้น ~ 39,900 โดส
.
#Total (ตั้งแต่เริ่มโครงการในวันที่ 26 กพ 64)
Sinovac (เข็มแรก) ~ 1,558,900 คน
BioNTech (เข็มแรก) ~ 2,726,000 คน
รวม (เข็มแรก) ~ 4,284,900 คน
(~ 57% ของจำนวนประชากรทั้งหมด)
.
SinoVac (เข็มที่ 2) ~ 1,363,100 คน
BioNTech (เข็มที่2) ~ 2,319,500 คน
รวม (เข็มที่ 2) ~ 3,682,600 คน
(~ 49% ของจำนวนประชากรทั้งหมด)
.
รวมทั้งสิ้น 7,967,500 โดส แบ่งเป็น
- SinoVac 2,922,000 โดส (37%)
- BioNTech 5,045,500 โดส (63%)
.
🇸🇬 #สิงคโปร์ (ณ วันที่ 7 กย 64)
*จำนวนผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม
4,540,422
*จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว
4,391,303
*รวมวัคซีนที่ฉีดทั้งหมด
8,813,966 โดส
(* เฉพาะ Pfizer และ Moderna)
.
วัคซีนอื่นๆ (SinoVac Sinopharm)
ฉีดไปแล้ว 174,435 โดส ครอบคลุม 86,319 คน
.
อัตราการฉีดวัคซีนต่อจำนวนประชากร
83% อย่างน้อย 1 เข็ม
81% ครบ 2 เข็มแล้ว
.
🇹🇭 #ไทย (ณ วันที่ 8 กย 64)(เริ่มฉีด 28 กพ 64)
จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว
(ประจำวัน) 338,105 ราย
(ทั้งหมด) 26,292,211 ราย
(~ 38% ของจำนวนประชากรทั้งหมด)
.
จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว
(ประจำวัน) 372,592 ราย
(ทั้งหมด) 11,272,593 ราย
(~ 16% ของจำนวนประชากรทั้งหมด)
.
จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว (เริ่มฉีด 6 สค 64)
(ประจำวัน) 2,757 ราย
(ทั้งหมด) 609,943 ราย
.
รวมวัคซีนที่ฉีด
(ประจำวัน) 713,454 โดส
(ทั้งหมด) 38,174,738 โดส
.
================
📊 #สรุปตัวเลข
================
🇭🇰 #ฮ่องกง
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 12,134 (+2)
เสียชีวิต 212 (1.75%)
รักษาหาย 11,834 (97.53%)
.
🇸🇬 #สิงคโปร์
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 69,582 (+349) - ตัวเลขเมื่อวานนี้
เสียชีวิต 56 (0.08%) - ตัวเลขไม่อัพเดท
รักษาหาย 67,212 (96.59%) - ตัวเลขไม่อัพเดท
.
🇹🇭 #ไทย
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 1,338,550 (+16,031)
เสียชีวิต 13,731 (+220)(1.03%)
รักษาหาย 1,181,781 (+15,417)(88.29%)
.
🌎 #ทั่วโลก
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 223,491,125 (+697,836)
เสียชีวิต 4,611,473 (2.06%)
รักษาหาย 200,033,802 (89.50%)
.
🇭🇰 #covid19hongkong
🇸🇬 #covid19singapore
🇹🇭 #covid19thailand
#EatwithPalLi #พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง 🇸🇬🇭🇰
ไต คือ 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最佳解答
❗️ #รายงานโควิดวันนี้ (28 สค 64)
🇭🇰 [HK] ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +6, ติดในท้องถิ่น “ไม่มี”
🇸🇬 [SG] ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +121, ติดในท้องถิ่น +113
🇹🇭 [TH] ติดเชื้อใหม่ในท้องถิ่น +17,977, เสียชีวิต +292
.
====================
#ไฮไลท์
====================
🇭🇰 #ฮ่องกง
- สถานที่ต้องไปตรวจโควิดตามกฎหมาย >> https://gia.info.gov.hk/general/202108/27/P2021082700761_375361_1_1630073913512.pdf
.
🇸🇬 #สิงคโปร์
- พบพบคลัสเตอร์ใหม่ 2 แห่ง คือ
(1) Tuas South Lodge
(2) Clementi Bus Interchange staff
- พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในคลัสเตอร์ Bugis Junction อีก 25 คน รวมเป็น 176 คน
- เตรียมเปิดสนามบินชางฮีเทอร์มินัล 1 และ 3 วันที่ 1 กย นี้
- กระทรวงศึกษา อนุญาตให้นักเรียนที่เป็นผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ สามารถเข้าสอบ National exam ได้ ทั้งนี้ต้องมีผลตรวจปลอดโควิด และต้องตรวจทุกๆ 2 วัน
- เริ่ม 30 สค เตรียมฉีดซิโนฟาร์ม ผ่าน รพ และคลีนิคบางแห่ง มีค่าใช้จ่ายในการฉีด
.
====================
🕰 #สถานการณ์ประจำวัน
====================
🇭🇰 #ฮ่องกง
- ไม่พบเคสในท้องถิ่น ติดต่อกันเป็นวันที่ 11
- พบเคส import 6 คน มาจาก
(1) เบลเยี่ยม (ฉีดวัคซีน Johnson & Johnson ในเบลเยียม เมื่อเดือน มิ.ย.)
(2) พม่า
(3) สหรัฐอเมริกา (ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในฮ่องกงครบ 2 เข็ม เมื่อเดือน เม.ย.)
(4) อาเซอร์ไบจัน
(5) ฟิลิปปินส์ (ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในฮ่องกงครบ 2 เข็ม เมื่อเดือน มิ.ย.)
(6) UAE (ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในฮ่องกงครบ 2 เข็ม เมื่อเดือน ก.ค.)
.
🇸🇬 #สิงคโปร์
- วันนี้ พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น 113 คน, 29 คน ไม่ทราบต้นตอ
- พบผู้เสียชีวิต 3 คน ทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ (70-90 ปี) ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน หัวใจ ไต ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มะเร็ง
.
🇹🇭 #ไทย
- วันนี้ ผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นจำนวน 17,977 ราย แบ่งเป็น พบจากระบบเฝ้าระวังและบริการ ฯลฯ 15,559 ราย, พบในเรือนจำ 324 ราย, ตรวจเชิงรุกในชุมชน 2,094 ราย; มาจากต่างประเทศ 7 คน (กัมพูชา พม่า อิสราเอล)
.
=================
💉 #สถิติฉีดวัคซีนโควิด
=================
🇭🇰 #ฮ่องกง (ณ วันที่ 27 สค 64)
#Daily
Sinovac (เข็มแรก) ~ 7,100 คน
SinoVac (เข็มที่ 2) ~ 11,700 คน
BioNTech (เข็มแรก) ~ 16,500 คน
BioNTech (เข็มที่ 2) ~ 27,500 คน
รวมฉีดทั้งสิ้น ~ 62,800 โดส
.
#Total (ตั้งแต่เริ่มโครงการในวันที่ 26 กพ 64)
Sinovac (เข็มแรก) ~ 1,498,700 คน
BioNTech (เข็มแรก) ~ 2,556,800 คน
รวม (เข็มแรก) ~ 4,055,500 คน
(~ 54% ของจำนวนประชากรทั้งหมด)
.
SinoVac (เข็มที่ 2) ~ 1,244,600 คน
BioNTech (เข็มที่2) ~ 2,050,700 คน
รวม (เข็มที่ 2) ~ 3,295,300 คน
(~ 44% ของจำนวนประชากรทั้งหมด)
.
รวมทั้งสิ้น 7,350,800 โดส แบ่งเป็น
- SinoVac 2,743,300 โดส (37%)
- BioNTech 4,607,500 โดส (63%)
.
🇸🇬 #สิงคโปร์ (ณ วันที่ 26 สค 64)
*จำนวนผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม
4,494,681
*จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว
4,278,869
*รวมวัคซีนที่ฉีดทั้งหมด
8,647,565 โดส
(* เฉพาะ Pfizer และ Moderna)
.
ส่วน SinoVac ฉีดไปแล้ว 163,009 โดส ครอบคลุม 85,390 คน
.
อัตราการฉีดวัคซีนต่อจำนวนประชากร
83% อย่างน้อย 1 เข็ม
79% ครบ 2 เข็มแล้ว
.
🇹🇭 #ไทย (ณ วันที่ 27 สค 64)(เริ่มฉีด 28 กพ 64)
จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว
(ประจำวัน) 547,128 ราย
(ทั้งหมด) 22,617,701 ราย
(~ 32% ของจำนวนประชากรทั้งหมด)
.
จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว
(ประจำวัน) 361,284 ราย
(ทั้งหมด) 7,221,368 ราย
(~ 10% ของจำนวนประชากรทั้งหมด)
.
จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว (เริ่มฉีด 6 สค 64)
(ประจำวัน) 7,326 ราย
(ทั้งหมด) 581,438 ราย
.
รวมวัคซีนที่ฉีด
(ประจำวัน) 915,738 โดส
(ทั้งหมด) 30,420,507 โดส
.
================
📊 #สรุปตัวเลข
================
🇭🇰 #ฮ่องกง
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 12,098 (+6)
เสียชีวิต 212 (1.75%)
รักษาหาย 11,782 (97.39%)
.
🇸🇬 #สิงคโปร์
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 67,171 (+121)
เสียชีวิต 55 (0.08%) - ตัวเลขเมื่อวานนี้
รักษาหาย 65,968 (98.39%) - ตัวเลขเมื่อวานนี้
.
🇹🇭 #ไทย
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 1,157,555 (+17,984)
เสียชีวิต 10,879 (+292)(0.94%)
รักษาหาย 964,319 (+20,535)(83.31%)
.
🌎 #ทั่วโลก
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 216,299,301 (+457,547)
เสียชีวิต 4,500,421 (2.08%)
รักษาหาย 193,279,064 (89.36%)
.
🇭🇰 #covid19hongkong
🇸🇬 #covid19singapore
🇹🇭 #covid19thailand
#EatwithPalLi #พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง 🇸🇬🇭🇰
ไต คือ 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的精選貼文
ผลของการ “ไม่กินข้าวเย็น” ส่งผลต่อร่างกายขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ไม่เคยรู้มาก่อน!!
วันนี้เรามีสาระดีๆมาฝากทุกๆท่านเช่นเคย
‘ไม่กินข้าวเย็น’ เรื่องดีต้องบอกต่อ ไม่อ้วน ไม่แก่ แถม หน้าเด็ก
หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า การที่เราไม่ทานข้าวเย็นนั้น มันคือเรื่องดีนะจ๊ะ ฮั่นแน่ งง งงกันอยู่เเน่ๆ มันดียังไงต้องไปดูกันเลย…
ทำอย่างไรจึงจะ “ไม่แก่ ไม่อ้วนและอายุยืน”
คำตอบคือ “กินสายกลาง ”
กินสายกลาง คือ กินมื้อเช้าและมื้อเที่ยง งดมื้อเย็น เปรียบตัวเราเป็นรถยนต์ ตื่นเช้ามาต้องเติมน้ำมันก่อน หรือกินมื้อเช้า รถจึงจะวิ่งได้ ถึงเที่ยงน้ำมันยังไม่หมด เติมอีกครั้ง ถึงเย็นก่อนนอนก็ยังไม่หมดพิสูจน์ได้ดังนี้
สมมุติกินไข่ลวก 1 ฟองโตๆ มีไข่แดงหนัก 50 กรัม ในไข่แดงมีคลอเลสเตอรอล 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่ ฉะนั้น 50 กรัม ให้พลังงาน 450 แคลอรี่ จะต้องออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงานนี้
โดยขี่จักรยานตั้งแรงต้านไว้ 1.3 ก.ก . ความเร็วที่ปั่นบันไดจักรยาน 60 รอบต่อนาที ขี่อยู่นาน 60 นาที จะเหนื่อยหอบ เหงื่อไหลท่วมตัว แต่ใช้พลังงานไปเพียง 300 แคลอรี่ ไข่ใบเดียวยังใช้ไม่หมด!!
ฉะนั้นถ้า กินมื้อเช้า มื้อเที่ยง จนถึงเย็น พลังงานยังเหลือแน่นอน ไม่จำเป็นต้องไปเติมอีก เพราะเวลานอนร่างกายจะนำพลังงานที่เหลือใช้ไปเก็บในที่ต่างๆ โดยตับ เป็นผู้ทำงานนี้ ถ้าพลังงานเหลือมาก การเอาไปเก็บในที่ต่างๆก็มาก ทำให้อ้วน และแน่นอนถ้าเก็บไม่หมดโดยเฉพาะพวกไขมันตัวโตๆ จะต้องค้างอยู่ในหลอดเลือด ถ้าค้างสะสมมากเท่าใด รูหลอดเลือดก็จะเล็กลงทุกวัน เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้น้อยลง อวัยวะทั้งหลายก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรือแก่เร็วขึ้น ถ้าวันไหนอุดตัน เช่นถ้าตันที่สมอง จะกลายเป็นคนพิการอัมพาตครึ่งซีก ถ้าอุดตันที่ไต ต้องล้างไต เปลี่ยนไต ถ้าตันที่ขา อาจต้องตัดขาทิ้ง ถ้าตันที่กล้ามเนื้อหัวใจ ก็จะไม่มีโอกาสได้สั่งลาใคร
การกินมื้อเย็นจึงเป็นมื้อที่เร่งกระบวนการเสื่อม ของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย ร่ายกายต้องใช้พลังงานอย่างหนักในการเผาผลาญอาหาร ยิ่งกินมื้อเย็นในปริมาณที่เยอะ ก็ยิ่งเร่งการเสียชีวิตให้เร็วขึ้นไปอีก “มื้อเย็น” จึงเป็นมื้ออันตราย เป็นมื้อตายผ่อนส่ง
ฉะนั้น จึงหมายความว่าการกินมื้อเย็นมาก ยิ่งผ่อนส่งมาก ตายเร็ว ถ้าไม่กินมื้อเย็น ก็จะแก่ช้า เสื่อมช้า อายุยืนการไม่กินอาหารมื้อเย็นเป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะใจตัวเองอย่างมาก ถ้าใครทำได้จะตัดทั้งกิเลส สุขภาพดี อายุยืน และมีสมาธิดี ความมุ่งมั่นสูง ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ
แต่ท่าน ต้องฝึกกระเพาะให้เกิดความเคยชินเสียก่อน
วิธีฝึกมี 4 วิธี
1. ค่อยๆลดปริมาณอาหารมื้อเย็น ทีละน้อยๆเช่นลดกินข้าวจาก 2 จาน เหลือ 1 1/2 จาน สัก 3-4 เดือน โดยมีข้อแม้ว่า หลังอาหารเย็นแล้วห้ามกินอาหารใดๆทั้งนั้นยกเว้นน้ำเปล่า พอกระเพาะชินแล้วลดเหลือ 1 จาน ต่อไปครึ่งจาน ต่อไปไม่กินข้าวเลยกินแต่กับ ต่อไปกินผักผลไม้ สุดท้ายงดอาหารเย็น
2. ร่นเวลากินอาหารเย็น เช่นจาก 2 ทุ่มมากิน 1 ทุ่ม ต่อไปเลื่อนเป็น 6 โมงเย็น 5 โมงเย็น 4 โมงเย็น 3 โมงเย็น ฯ
3. กินเม็ดแมงลักแทนมื้อเย็น ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ในถ้วยน้ำแกงหรือน้ำเปล่า ให้เม็ดแมงลักพองตัวให้เต็มที่เสียก่อนที่จะนำไปกิน ดื่มน้ำตามอีก 3- 4แก้ว
4. กินมังสะวิรัตมื้อเย็น การกินผักผลไม้ถือว่าเป็นอาหารไม่มีพิษ ร่างกายจะได้พัก ไม่ต้องทำลายพิษของอาหารเนื้อสัตว์ พิษที่สะสมไว้ก่อนก็จะถูกตับ ไต กำจัด หมดไปเองได้ ร่างกายมีเวลาถึง 18 ช.ม. กำจัดพิษที่ติดมากับมื้อเช้า มื้อเที่ยงได้ทัน ฉะนั้นการไม่กินอาหารเย็นจึงเป็นเวลาที่ตับ ไต จะสามารถกำจัดสารพิษจากอาหารมื้อเช้าและเที่ยงได้หมด ร่างกายจึงบริสุทธิ์ทุกวัน
เคล็ดลับดีๆแบบนี้ ก็อย่าลืม แชร์ให้เพื่อนๆ หรือคนที่เพื่อนๆรักและ ห่วงใยด้วยคะ..
เพราะความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือการเป็นผู้ให้ ขอให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ร่ำรวยความสุข ถ้วนหน้ากันทุกท่าน ตลอดไปเลยนะคะ..
อย่าลืม! ถ้าคุณชอบโปรดกด like. ถ้าคุณถูกใจโปรด subscribe! เพื่อเป็นกำลังใจ ให้แก่พวกเราด้วยคะ..ขอบคุณค่า..
Subscribe to Healthy Natural นานา สมุนไพร
Youtube : https://goo.gl/urmvNp
Follow us on Twitter : https://goo.gl/HKZaG4
Like us on Facebook : https://goo.gl/urmvNp
Follow us on Google Plus : https://goo.gl/E1ku0J
Follow us on pinterest : https://goo.gl/TB7RkC

ไต คือ 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的最佳解答
ระวัง! อันตรายกว่าที่คิด เส้นก๋วยเตี๋ยว เลือกไม่ดี เสี่ยงตับ-ไตพังจากสารกันบูด
คนรักสุขภาพอาจมีระแวง เพราะก๋วยเตี๋ยวถือเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ไม่มาก จึงเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ กำลังควบคุมน้ำหนัก แต่หากชอบทานเส้นก๋วยเตี๋ยวด้วยแล้ว อาจจะต้องคิดหนัก เพราะพบสารกันบูดมหาศาล จนอาจเรียกได้ว่าเกินมาตรฐานในเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ผลิตโดยผู้ประกอบการบางราย หากบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อตับ และไตได้
ทำไมเส้นก๋วยเตี๋ยว ถึงต้องใส่สารกันบูด?
เนื่องจากเส้นก๋วยเตี๋ยวสด อาจมีอายุในการเก็บรักษาได้ไม่นาน ดังนั้นผู้ประกอบการจึงมักใส่สารกันบูด เพื่อยืดอายุของเส้นก๋วยเตี๋ยวให้อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น เก็บรักษาก่อนปรุงได้นานมากยิ่งขึ้น
อันตรายของสารกันบูดที่มีต่อร่างกาย
สารกันบูดที่นิยมใช้คือ กรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิก ซึ่งหากร่างกายได้รับในปริมาณสูงเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตับและไตลดลง
เส้นก๋วยเตี๋ยวที่พบสารกันบูดมากที่สุด คือ (เรียงลำดับจากมากไปน้อย)
- เส้นเล็ก
- เส้นหมี่
- เส้นใหญ่
เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ไม่พบสารกันบูด คือ
- บะหมี่เหลือง
- วุ้นเส้น
ทั้งนี้ใช่ว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศไทยจะพบสารกันบูดในปริมาณมากกว่ามาตรฐานเสมอไปนะคะ
ดังนั้นคนที่ชอบทานก๋วยเตี๋ยว อาจจะลองเปลี่ยนเส้นที่ทานไปเรื่อยๆ หรือลองทานเป็นเส้นบะหมี่ หรือวุ้นเส้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการรับสารกันบูดเข้าร่างกายอย่างไม่ตั้งใจได้มากขึ้น หรือถ้าจะควบคุมน้ำหนักไปด้วย ก็ลองทานเป็นเกาเหลาดูบ้างก็ไม่เลวค่ะ
เคล็ดลับดีๆๆแบบนี้ ก็อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ หรือคนที่เพื่อนๆรักและ ห่วงใยด้วยคะ
เพราะความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือการเป็นผู้ให้ ขอให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ร่ำรวยความสุข ถ้วนหน้ากันทุกท่าน ตลอดไปเลยนะคะ..
อย่าลืม! ถ้าคุณชอบโปรดกด like. ถ้าคุณถูกใจโปรด subscribe! เพื่อเป็นกำลังใจ ให้แก่พวกเราด้วยคะ..ขอบคุณค่า..
Subscribe to Healthy Natural นานา สมุนไพร
Youtube : https://goo.gl/urmvNp
Follow us on Twitter : https://goo.gl/HKZaG4
Like us on Facebook : https://goo.gl/urmvNp
Follow us on Google Plus : https://goo.gl/E1ku0J
Follow us on pinterest : https://goo.gl/TB7RkC
PLEASE SHARE THIS VIDEO
Share
subscribe (สับตะไคร้) : https://goo.gl/hpKUtI
แชร์บน facebook คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/AhUxYS
แชร์บน google + คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/7LvFf3
แชร์บน twitter คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/u721Ro
แชร์บน pinterest คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/drQeXV
แชร์บน tumblr คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/yejZBN
แชร์บน reddit คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/miK5JU

ไต คือ 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的精選貼文
อยู่ห่างจากสิ่งเหล่านี้ไว้ ถ้าไม่อยาก ‘ฟอกไต’ ตอนแก่
ไม่อยาก ‘ฟอกไต’ ตอนแก่ อยู่ห่างจากสิ่งเหล่านี้ไว้ อะไรบ้างที่ไม่ควรทำ
อย่างที่รู้กันว่า ‘ไต’ เป็นอวัยวะที่สำคัญมาก สำคัญขนาด ที่มีการแอบซื้อขายไตกันอย่างผิดกฎหมาย ด้วยราคาสูงปรี๊ดด ทั้งนี้ก็เพราะถ้าไม่มีไต ชีวิตก็ต้องสะดุดลงแน่นอน ถ้าไม่อยากต้องสูญเสียไตไปก่อนวัยอันควร มาลองศึกษาวิธีการถนอมไตให้แข็งแรงตลอดไปกันดีกว่า วิธีง่ายๆดังต่อไปนี้ค่ะ
ไตเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อระบบขับถ่ายปัสสาวะ มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วแดงขนาดเท่ากำปั้น มี 2 ข้างอยู่ด้านหลังบริเวณเอว ไตทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย สร้างสารที่มีประโยชน์ ตลอดจนควบคุมสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย และช่วยขับถ่ายสารแปลกปลอมที่ร่างกายรับมา หากไตเกิดความผิดปกติหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ ของเสียต่างๆ ก็จะสะสมและคั่งค้าง จนเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ค่ะ
อาการของโรค
ระยะแรก มักจะไม่มีการแสดงอาการใดๆ เนื่องจากไตสามารถปรับการทำงานให้สมดุลได้แม้เหลือเพียง 50 เปอร์เซ็นต์จากปกติก็ตามค่ะ
ระยะที่สอง เมื่อใดที่การทำงานของไตลดเหลือ 25 เปอร์เซ็นต์ จะเริ่มแสดงอาการต่างๆ ได้แก่
– อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร
– ซีด
– คันตามตัว บวมตามใบหน้าและแขนขา
– ปัสสาวะมากตอนกลางคืน
หากมีอาการเหล่านี้ให้ต้องสงสัยไว้เลยว่าไตของคุณเริ่มถูกทำลายลงไปแล้ว
วิธีการตรวจหาความผิดปกติและป้องกันโรค
1. ตรวจร่างกายประจำปี เพื่อคัดกรองโรคไตในเบื้องต้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไต เช่น
– ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
– ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหลอดเลือดอื่นๆ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเกาต์
– ผู้ที่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคไต
– ผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำๆ หลายครั้ง
– ผู้ป่วยที่ทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
– ผู้ที่สัมผัสกับสารเคมีบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน
2. ชะลอความเสื่อมของไต
หากผู้ป่วยโรคไต รู้จักทะนุถนอมไตอย่างถูกวิธีจะทำให้พวกเขามีชีวิตยืนยาวโดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการล้างไต ฟอกเลือด และปลูกถ่ายไต วิธีการถนอมไตมีดังต่อไปนี้ ได้แก่
– ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ คือ ระดับต่ำกว่า 130/80 มิลิเมตรปรอท
– ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน
– ควบคุมและหลีกเลี่ยงอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ เพื่อไม่ให้ระดับของเสียในร่างกายเพิ่มขึ้น
– เน้นการทานโปรตีนจากเนื้อปลาและไข่ขาว เนื่องจากย่อยง่ายและมีคุณค่าทางอาหารสูง
– หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม ของหมักดอง ขนมขบเคี้ยวต่างๆ และอาหารสำเร็จรูป โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและอาการบวม
– หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน เช่น กะทิ เนื้อติดมัน ของทอด ไข่แดง อาหารทะเล เป็นต้น เพราะถ้าหากมีไขมันในเลือดสูงจะทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัวและเป็นผลเสียต่อไตค่ะ
– งดสูบบุหรี่
– ออกกำลังกายเบาๆที่จะช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น เช่น บริหารร่างกายอยู่กับที่ เดิน เป็นต้น
– ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ วันละประมาณ 8 -10 แก้ว
ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารกันนะเพื่อนๆ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารหวาน มัน เค็ม ดื่มน้ำสะอาด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ซื้อยาทานเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง จะเป็นการป้องกันที่ดีที่จะช่วยให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรง ไตแข็งแรงได้ตลอดไปค่ะแล้วก็อย่าลืมส่งต่อให้เพื่อนๆ หรือคนที่เพื่อนๆ ห่วงใยด้วยคะ..
เพราะความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือการเป็นผู้ให้ ขอให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ร่ำรวยความสุข ถ้วนหน้ากันทุกท่าน ตลอดไปเลยนะคะ..
อย่าลืม! ถ้าคุณชอบโปรดกด like. ถ้าคุณถูกใจโปรด subscribe! เพื่อเป็นกำลังใจ ใหแก่พวกเราด้วยคะ..ขอบคุณค่า..
Subscribe to Healthy Natural นานา สมุนไพร
Youtube : https://goo.gl/urmvNp
Twitter : https://goo.gl/HKZaG4
Facebook : https://goo.gl/urmvNp
Google Plus : https://goo.gl/E1ku0J
pinterest : https://goo.gl/TB7RkC
PLEASE SHARE THIS VIDEO
Share
subscribe (สับตะไคร้) : https://goo.gl/hpKUtI
แชร์บน facebook คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/UtdPES
แชร์บน google + คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/PRi6J1
แชร์บน twitter คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/ylRxib
แชร์บน pinterest คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/Q11gDb
แชร์บน tumblr คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/gtaJGj
แชร์บน reddit คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/9ukEXf
