ADMIN REVIEW: จอมโจรสี่สิบหน้า กับปริศนาหัวกะโหลก
.
แอดชอบอ่านงานของเอโดงาวะ รัมโป งานเขียนของรัมโปมีเสน่ห์ชวนพิศวงไปกับเรื่องราวความหมกมุ่น ตัณหาวิปริต จิตวิปลาสของมนุษย์ งานของรัมโปวางรากฐานให้แก่แวดวงนิยายสยองขวัญ ฆาตกรรม สืบสวนของญี่ปุ่น งานของรัมโปแม้จะมีเนื้อหาที่ดาร์คสยิว แต่กลับอ่านง่ายด้วยลีลาการเล่าเรื่องแบบมีลูกล่อลูกชน ชวนให้ผู้อ่านลุ้นด้วยใจระทึกว่าเหตุการณ์จะสวิงสวายลงในบั้นปลายอย่างไร
.
งานของรัมโปอาจแบ่งได้เป็น 3 หมวดใหญ่ ๆ 1. เรื่องสั้น-นิยายที่มีเนื้อหาเป็นเอกเทศจบในเล่มในตอน เข้าทำนองหนังชุด standalone 2. ชุดคดีปริศนาของยอดนักสืบอาเคจิ โคโกโร่ ซึ่งมีตั้งแต่นิยาย-เรื่องสั้น อาเคจิ โคโกโร่ เป็นนักสืบเพชรน้ำเอกแห่งแวดวงวรรณกรรมญี่ปุ่น เคียงคู่มากับคินดะอิจิ โคสุเกะ ทว่าคดีของอาเคจิ จะกระเดียดไปทางแฟนตาซีมากกว่า มีความตลกร้ายยียวนที่ไม่เน้นความสมจริง แต่พึ่งพิงรายละเอียดตัวละคร และพฤติกรรมแซบสยิว และบรรยากาศประหลาดล้ำเหลือ 3. คือชุดเจ้าหนูนักสืบไขคดีพิศวง (ชื่อภาษาญี่ปุ่น Shōnen tantei dan ภาษาอังกฤษ The Boy Detectives Club) ตีพิมพ์ครั้งแรกในเป็นตอน ๆ ลงในนิตยสารรายเดือนสำหรับเด็กผู้ชาย Shōnen Kurabu ตั้งแต่ปี 1936 เป็นเรื่องการผจญภัยของเด็กชายโคบายาชิ หนูน้อยสมองเพชร หัวหน้าชมรมนักสืบเยาวชน การรวมกลุ่มชองเด็กชายผู้รักการผจญภัยร่วมไขคดีปริศนา ด้วยความฉลาดหลักแหลมทำให้โคบายาชิกลายมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของยอดนักสืบอาเคจิ (ที่ crossover มาเป็นตัวละครในเรื่องด้วย) โดยซีรีส์ชุดนี้มีศัตรูหลักคือ จอมโจรยี่สิบหน้า บุรุษลึกลับผู้เป็นอัจฉริยะด้านการปลอมตัวคู่ปรับคนสำคัญของนักสืบหนุ่ม และเจ้าหนู ซีรีส์ชุดนี้มีทั้งหมด 26 เล่ม ถ่ายทอดการต่อสู้ระหว่างฝั่งนักสืบ และจอมโจร แต่ผู้อ่านสามารถอ่านแยกแบบไม่เรียงลำดับได้ เพราะแต่ละเล่มก็จะมีเส้นเรื่องหลักในตัวมันเอง (มีแปลไทยทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกกับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) 6 เล่ม โดยใช้ชื่อว่า "ชุดแก๊งค์จิ๋วเจาะคดี" ปัจจุบันสนพ. JClass-สำนักพิมพ์เจคลาส นำมาแปลต่ออีก 5 เล่ม และมีแผนจะนำ 6 เล่มแรกมาตีพิมพ์ใหม่ พร้อมกับเล่มที่เหลือ (อ้างอิงจากคำนำในเล่ม)
.
หนังสือเรื่อง "จอมโจรสี่สิบหน้ากับปริศนาหัวกะโหลก" เป็นนิยายเล่มที่ 8 ในชุดเจ้าหนูนักสืบไขคดีพิศวง โดยเรื่องจะเริ่มจากเหตุการณ์ตอนท้ายจากเล่มก่อนที่ว่าจอมโจรยี่สิบหน้าถูกจับเข้าคุก ก่อนที่มันจะใช้กลเม็ดเด็ดพรายประกาศออกสื่อว่าจะแหกคุกออกมา พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นจอมโจรสี่สิบหน้า ยกกำลังให้รู้ว่ากูยิ่งใหญ่เกินกว่าจะมีแค่ยี่สิบหน้า!? ยัง ยังไม่พอ มันยังประกาศอีกว่าจะก่อปฏิบัติการลับที่เกี่ยวข้องกับ "หัวกะโหลกทองคำ" อีก.... นี่จึงเป็นงานหนักของนักสืบโคโกโร่ และหนูน้อยโคบายาชิ ที่จะต้องยับยั้งแผนการชั่วร้ายให้จงได้ ทั้งแผนแหกคุกสุดอหังการ์ รวมถึงไขปริศนาเรื่องหัวกะโหลกทองคำให้ได้ก่อนที่จอมวายร้ายจะจัดการสำเร็จ
.
ด้วยความที่ปกติงานของรัมโปจะมีความไหลลื่นในการเล่าอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว พอเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่เน้นเจาะกลุ่มผู้อ่านเยาวชน การดำเนินเรื่องยิ่งรวดเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว รัมโปไม่เสียเวลาในการก่อร่างสร้างบรรยากาศ พรรณนาอะไรที่ไม่จำเป็น หากแต่มุ่งทะลุไปข้างหน้าไม่ยั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความที่แรกเริ่มนิยายชุดนี้ถูกเขียนลงในนิตยสารรายเดือน จึงทำให้ความยาวในแต่ละตอนมีขนาดสั้นกระชับ และแทบทุกตอนจะต้องเกิดเหตุการณ์ใหม่ ๆ หรือปริศนาทิ้งท้ายยั่วให้นักอ่านรุ่นเยาว์อยากอ่านต่อไปเรื่อย ๆ
.
อย่างไรก็ดีแอดมินกลับพบว่าความยาวของเรื่อง เมื่อเป็นฉบับรวมเล่ม กลับค่อนข้างยาว และเยิ่นเย้อไปพอสมควร (ข้อมูลจากคำนำบอกว่านิยายเล่มนี้ใช้เวลาตีพิมพ์ในนิตยสารตั้งแต่มกราคม ถึงธันวาคมปี 1952) รัมโปเหมาะกับเรื่องสั้น เพราะเขาสามารถกำหนดทิศทาง และขยี้ประเด็นได้โดยไม่หลุดออกนอกกรอบจนเกินไป ในขณะที่พอเป็นเรื่องยาว เหมือนเขาต้องพยายามคิดหาเหตุการณ์ใหม่ ๆ โยนใส่ตลอดเวลาจนบางทีพออ่านไปก็รู้สึกได้ถึงความฟุ่มเฟื่อยของเนื้อหาที่ไม่จำเป็น ชนิดพออ่านจบก็สงสัยว่านี่กูอ่านหนังสือเล่มเดียวกับที่เปิดอ่านตอนแรกรึเปล่าวะ
.
แต่อย่างไรก็ดี รัมโปมีวิธีการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งสามารถตรึงคนเขียนไว้กับเรื่องได้ นั้นคือการพูดโต้ตอบหรือเย้าแหย่ผู้อ่าน นอกจากวิธีการเล่าเรื่องแบบบุคคลที่ 3 แบบที่นิยายทั่วไปใช้กัน (ที่ผู้เขียนจะบรรยายให้คนอ่านทราบเหตุการณ์ในฐานะคนนอก) รัมโปยังเล่นสนุกโต้ตอบกับคนอ่านอยู่เป็นระยะ เช่น "มาถึงตรงนี้แล้ว คงจะสงสัยล่ะสิว่าเจ้าหนูโคบายาชิจะหาทางแก้ปริศนายังไง ซึ่งต้องบอกเลยว่ามันเป็นกลวิธีที่แม้แต่อาเคจิก็คาดไม่ถึงทีเดียว" การเล่าแบบนี้ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนผู้เขียนกำลังสนทนาอยู่กับตัวเอง คอยดึงความสนใจให้จดจ่อ ลุ้นไปกับเรื่องได้ หรือในบางขณะก็ยั่วเย้าให้คนอ่านอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวต่อด้วยการเกริ่นถึงเหตุการณ์ในอนาคตแพล่มพรายไว้ เช่น "การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้เกิดเรื่องพลิกพลันเกินคาดอันเป็นสาเหตุให้ xxx ต้องประสบเหตุการณ์น่าเศร้า ซึ่งเราจะได้รู้กันในไม่ช้า"
.
ด้วยความที่นิยายเล่มนี้เจาะกลุ่มผู้อ่านเยาวชน การดำเนินเรื่อง รวมถึงทริคระหว่างตัวเอกกับคนร้ายจึงไม่เน้นความสมจริง แต่เปิดพื้นที่ให้จินตนาการความช่างคิดอย่างเต็มที่ ซึ่งกลายเป็นดาบสองคม ในแง่ดีคือมันชวนเพลิดเพลินสุดแสนแฟนตาซีแบบ "คิดได้ไงเนี้ย!" แต่ในแง่ร้าย ถ้าคุณไม่ยอมปรับคลื่นความถี่ทางสมองก่อนอ่าน คงรู้สึกได้ว่านิยายมันช่างเลอะเทอะ มั่วมึน ประหนึ่งรัมโปดมสายระเหยขณะจรดปากกาแต่ง หลายต่อหลายเหตุการณ์เข้าขั้นโม้แหลกลาญชนิดศรีธนญชัยยังต้องขอกราบกราน
.
ยกตัวอย่างฉากสองฉากที่แอดอึ้ง
ในขณะที่หนูน้อยโคบายาชิกำลังวิ่งไล่กวดจอมโจรสี่สิบหน้าเลี้ยวเข้ามาในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง จู่ ๆ จอมโจรก็หายตัวไปอย่างปริศนา หนูน้อยไม่พบร่องรอยวายร้ายที่ตามล่า จึงต้องล้มเลิกการตามหาไปในที่สุด แต่ใครจะรู้ว่าจริง ๆ จอมโจรซ่อนกายอยู่ตรงหน้าเขา ด้วยการสวมชุดคลุมพิเศษที่ออกแบบมาให้เหมือนตู้ไปรษณีย์ แล้วยืนอำพรางตัวอยู่ข้างหน้านั้นเอง (แม่ง ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริง ๆ)
.
หรืออีกฉากนึงที่จอมโจรหนีการตามล่าของตำรวจขึ้นไปบนหอคอย ในขณะที่กำลังจนมุมบนดาดฟ้า จอมวายร้ายก็หาทางหนีด้วยการโดดเกาะบอลลูนโฆษณา แล้วลอยหนีไปในท้องฟ้ายามรัตติกาล อีห่าาา ถ้าคิดว่านี่หักมุมแล้ว ยัง ยัง ไม่จบ จริง ๆ ที่เห็นว่าจอมโจรลอยหนีไป คือหุ่นจำลองที่นางพกไว้ล่อตำรวจ ในขณะที่ตัวจริงก็ยังหลบอยู่ในตึกนี่แหละ เรียกว่าแผนการเบี่ยงเบนความสนใจระดับมหากาฬจริง ๆ
.
เรียกได้ว่าหนังสือชุดนี้ทำให้ หนังโม้หลอกเด็กอย่าง Spy Kids กลายเป็นหนังสารคดีสมจริงไปเลยทีเดียว ใครที่คิดว่าชอบสองฉากนี้ รับอะไรพวกนี้ได้ ยินดีด้วยหนังสือเล่มนี้เหมาะกับคุณแน่นอน
.
และแน่นอนด้วยความเป็นหนังสือเด็ก มันจึงไม่มีความรุนแรง และความวิปลาสบาดจิตยั่วเพศอันเป็นลายเซ็นของรัมโป แม้แต่ในฉากที่ตัวร้ายสามารถฆ่าตัวละครเอกได้ แต่ก็ไม่ยอมทำบาปเช่นนั้นเด็ดขาด ด้วยยึดว่าอุดมการณ์ตัวเองคือการขโมยของ ไม่ใช่การฆ่าคน (ซึ่งถ้าเป็นนิยายผู้ใหญ่ของรัมโป หรือนิยายคินดะอิจิ เด็กอาจถูกฆ่าปาดคอเสียบประจานทางสามแพร่งไปแล้ว) พ่อแม่ผู้ปกครองจึงสามารถซื้อให้ลูกน้อยของท่านอ่านได้โดยสบายใจ ปลอดสารพิษมอมเมายั่วยุความรุนแรง
.
คุณจะชอบนิยายเล่มนี้ ถ้าคุณชอบ: โคนัน ตอนที่มีชมรมนักสืบเยาวชน, โคนัน ตอนที่มีจอมโจรคิดส์, คุณเป็นผู้ปกครองที่กำลังมองหานิยายสืบสวนสนุก ๆ ให้ลูกวัยประถมอ่าน, จงหลีกเลี่ยงหนังสือเล่มนี้ ถ้าคุณต้องการอ่านนิยายนักสืบที่มีเนื้อหาจริงจัง ทริคสมจริง การกระทำตัวละครมีตรรกะรองรับ สมองคุณจะพังพาบให้กับนิยายชุดนี้
.
สำหรับเรา ก็อ่านได้เพลิน ๆ แต่ก็ไม่รู้สึกกระเหี้ยนกระหือรืออยากหาเล่มใหม่มาอ่านต่อ แต่ถ้าไม่มีไรเหลือให้อ่านแล้ว ก็ไม่เลวร้ายที่จะเอามาอ่านฆ่าเวลา
4 ครั้ง ภาษาอังกฤษ 在 Namiizz Nam Facebook 的精選貼文
มาต่อๆๆ จากตอนที่แล้วนะคะ...บอกตรงๆเลยว่าน้ำไม่คิดว่าจะมีคนรออ่าน ดีใจมากๆเลยค่าปริ่มมากกกกจริงๆนะ😂 (ปาดน่ำตาแพรบบ)
>>>>หลังจากที่ HR บอกผลว่า จะส่งเราไปรอบ2ความรู้สึกตอนนั้นคือ ปริ่มมากกกกก กอไก่ล้านตัวว (ใครนึกความรู้สึกไม่ออก..ให้นึกถึงตอนนางงามได้รับมงค่ะ😏😏) ตอนนั้นประมาณ11.30 น. มาที่นี่ต้องใจเย็น แคมดาวว😄😄😄
****จะบอกว่าคนที่มาสัมภาษณ์งานที่นี่ สิ่งที่ต้องพกมาด้วยคือความมั่นใจแต่ห้ามแรงเกิน มั่นหน้าได้แต่ อย่าให้เกินงาม จะมีคนคอยสังเกตเราตลอดเวลา เวลาสัมภาษณ์อย่าหลบตา! ตอบอย่างมั่นใจพรัอมรอยยิ้มรัวๆได้เลย****
พอไปถึงอีกห้องก็มีเพื่อนๆที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ มารอเพื่อสัมฯ รอบสองประมาณ4-5คน ระหว่างรอ...เข้าห้องคัดออกจากเมนเทอร์ เอ้ยยย!! รอสัมฯจากกรรมการ... เรามีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คุยกันนั้นนี่ว่า คนที่เข้ารอบนี้มาแล้วผ่านออกไปรอบที่3 คือรอบแต่งหน้ารอบสุดท้ายมีแค่5คน!! ขุ่นพระ!! ผ่านมา19 คนได้5คนบ้าแล้วววว😱😱😱 อะไรมันจะสัมฯโหดขนานนั้นนนน ตอนนั้นในใจคือตื่นเต้นมาก เพราะตอนนั่งรอก็มีเพื่อนที่ออกมาจากห้องเฉือดมาโบกมือบ้ายบายไป2-3คนแล้ว (อารมณ์แบบตอนโดนส่งไปห้องคัดออกในเดอะเฟชเลยยจิมๆ😂😂) แต่แล้วความตื่นเต้นนั้นก้หายไปเพราะเค้าไล่ไปกินข้าวค่ะ5555+ ให้เวลาในการพัก45 นาทีโดยประมาณ ตอนนั้นน่าจะเที่ยงครึ่งได้ ให้พักถึง13.15น.
พอตอนพักน้ำก้รีบไปหาชุดดำทันทีเลยจ้า (จริงๆพี่HR ที่ส่งเข้ามากไม่ได้ก็บอกให้เปลี่ยนนะ แค่บอกให้ยกมือไหว้กรรมการและขอโทษที่ใส่ชุดขาวมา)น้ำว่าจะคลานเข่าเข้าไปละแต่เกรงใจขุ่นแม่....😆😆 เราผิดเองที่เตรียมตัวมาไม่ดี เลยซื้อเสื้อสีดำมาใส่ทับๆไปก่อน ชุดไม่สวยช่างมัน เอาถูกจริตเค้าไว้ก่อนพอ!!✌️✌️😬😬😬 ~~และแล้วการแข่งขันรายการก็ได้เริ่มต้นขึ้น~~(ทำเสียงเหมือนเข้ารายการเดอะเฟช😏)หลังจากพักเสร็จก้มานั่งรอต่อ ยันบ่าย2 ถึงจะเริ่มเรียกอีกรอบ ตอนนี้เหลืออยุ่4คนก่อนถึงน้ำ...คนที่ไม่ผ่านนางเดินคอตกกลับมา เล่าให้ฟังคร่าวๆว่ากรรมการมีกี่คน เล่าคำถามคร่าวๆให้ฟัง สุดท้ายกรรมการบอกนางว่า "น้องยังไม่ใช่MACค่ะ " (เอาซี้ๆนี่มันเดอะเฟชไทยแลนด์ชัดๆ 😭😭)จะบอกเลยตรงนี้ว่าช่วงเวลานี้คือ เครียดสุดละ เพราะตอนแรกเรายังไม่รู้ว่ากรรมการกี่คน ถามอะไรบ้าง นั่งคุยกันไปกลัวกันไป กดดดันกันไป สนุกดี?? หราาาาา.... 😭😭
ตั้งแต่บ่าย2 โมงมีเพื่อนๆคนอื่นเขัามาเพิ่มในห้องเก็บตัวเรื่อยๆนะ พอ4โมงเย็น มีคนใหัองประมาณ14-15คนได้ มีผญ. ผ่านมา4 คน ที่เหลือไม่ต้องสืบ... ขุ่นแม่สาวสองตัวแม่ก็มา เก้งกวางตัวพ่อก็มี บางคนมามากว่า2 ครั้ง มีน้องสาวสองคนนึง มา 6 ครั้งแล้ว (ขุ่นพระ!!!นางบอกว่าจะมาจนกว่าจะได้). 😱😱😱16.15 ก็ถึงก็ถึงตาน้ำค่ะ ระหว่างนี้เพื่อนๆที่รออยู่ก่อนน้ำ ผ่านเข้ารอบไป3 คนแล้ว ...
น้ำมีพี่ผญ. มาพาไปส่งตัวเขัาห้องเฉือดค่ะ น้ำสูดหายใจลึกๆทำสมาธิหน้าห้อง2วิ ท่องในใจเบาๆว่า" น้ำไม่ได้มาเล่นๆนะคะ...น้ำมาเพื่อชนะ" และนึกถึงหน้าขุ่นแม่ลูกเกดเข้าไว้😏😏😏
น้ำเปิดประตูเข้าไปพร้อมรอยยิ้มสดใส ^____^ และก็คล้ายๆกับการสัมฯด่านแรกค่ะ. มีกรรมการ 2 คน แต่คำถามจะเจาะลึกกว่ารอบแรกนะ (น้ำคิดว่า?😄) หลักๆคือการแนะนำตัวทั้งไทยและ ภาษาอังกฤษ..ใครพูดได้ก็บอกกกรรมการไปโลดดด
>>>จากนั้นกรรมการก็จะถามคำถามเรา ว่าMacในแบบของเรา คืออะไร ทำไมตัองเลือกแบรนด์นี้ มันเหมาะสมกับเรายังไง. เตรียมตัวมานานมั้ย ทำไมถึงอยากเป็นBA???บลาๆๆๆ
***ทริคในการตอบคำถามของน้ำคือ "อายคอนแทค" อย่าหลบตา มั่นใจ ตอบให้เป็นตัวเอง***
>>>และเนื่องด้วยน้ำไม่ยังไม่สามารถที่จะเริ่มงานได้ในปีนี้กับMAC น้ำจึงได้แจ้งกรรมการไปค่ะว่า วันนี้ที่มาเพราะอยากมาหาประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งานในตำแหน่งนี้ เพื่อที่ปีหน้าฟ้าใหม่ จะได้เตรียมตัวมาให้มันพร้อมกว่านี้ค่ะ<<<
หลังจากกรรมการถามคำถามไปพอควรแล้ว เค้าก็ถามน้ำว่า มีอะไรอยากถามเพิ่มเติมมั้ยค่ะ?? เท่านั้นละ น้ำไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือค่าาา บอกแล้วน้ำไม่ได้มาเล่นๆ😏😏..น้ำบอกกรรมการว่า "ไหนๆน้ำก็มีโอกาสได้ผ่านมาถึงรอบนี้แล้ว น้ำก็ยังอยากมีโอกาสที่จะไปต่อในรอบสุดท้ายค่ะ น้ำอยากไปถึงรอบ3รอบสุดท้าย ถึงวันนี้น้ำยังไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่ก็ตาม พี่จะใหัโอกาสน้ำไดัมั้ยค่ะ?" เท่านั้นละ... และแล้วน้ำก็ได้ไปต่อ... การเป็นเดอะMac อยู่ข้างหน้าาแล้ววว 55555+ 🙏🙏🙏
บอกเลยว่าส่วนตัวไม่คิดว่าจะผ่านเข้ามาด้วยซ้ำเพราะ เราไม่ได้หาข้อมูลไม่ได้เตรียมตัว ไม่มีประสบการณ์ ทั้งดัานBAและการขาย ไม่มีอะไรดึงดูดให้เค้าเลือกเราเลยย นอกจากกหน้าตาอันสดสวย(เบ้ปากกก:/)😂😂ที่มาเพราะอยากลองของล้วนๆ
****ก่อนกลับในคำถามสุดท้ายของการสัมฯ คิดว่าทุกคนต้องเคยเจอคำถาม"น้องมีอะไรอยากจะถามเพิ่มเติมมั้ยค่ะ" ในขัอนี้นอกจากน้ำจะขอโอกาสไปรอบ3ไดัสำเร็จแล้ว น้ำยังถามกรรมการกลับไปอีกว่า... จากการสัมฯครั้งนี้มีอะไรที่ตัองปรับปรุงแกัไขใหัเหมาะกับแบรนด์อีกมั้ย? เพื่อที่เราจะได้เอาไปปรับปรุงในครั้งหนัา คำตอบที่ได้คือ
1. ชอบที่เราสามารถตอบคำถามได้ตรงโจทย์ที่เค้าถาม
2.ชอบที่พูดจาฉะฉาน เสียงดังฟังชัด
3.การมีอายคอนแทค กับกรรมการ
4.อาจจะตัองปรับปรุงเรื่องเสื้อผ้าให้ดูProfessional มากยิ้งขึ้นค่ะ จะได้เข้ากับแบรนด์เค้า ว่างั้น☺️
>>>และแล้วก็มาถึงด่าน3 การแต่งหน้า รอบนี้ตั้งแต่เช้ามายัน16.30 มีผ่านไม่ถึง10 ตั้งแต่บ่าย2มา มีผ่าน4คนรวมน้ำด้วย เข้ามาถึงห้องเมคอัพ ในห้องมีเพื่อนผ่านมา3คน และจับคู่กัน สลับกันแต่งหน้า!!! ฟังไม่ผิดค่ะ😱😱เราต้องจับคู่กันลบเมคอัพที่แต่งมาออกใหัหมดละแต่งใหม่ (ตะเตือนใตตรงนี้😭😭😭) น้ำจับคู่กับเพื่อนเก้งหนุ่มน่อยหน้าตาละมุนนีค่ะ โจทย์ของน้ำคือ แต่งแบบMake up no Make upโชว์ผิว บอกเลยว่าลุคนี้เป็นลุคที่ยากมากสำหรับ ชะนีหน้าโบกแบบน้ำ😭😭😭 ที่สำคัญต้องแต่งให้ผช.ด้วย ยากไปอีกกกก โจทย์นี้ให้เวลาแต่งครึ่งชม.ค่ะ พี่ๆกรรมการที่เป็นเมคอัพอาร์ติส จะให้เราดูรูปที่เป็นโจทย์เรา และไปหยิบเครื่องสำอางมา เพื่อแต่งให้ใกล้เคียงกับรูปที่สุด ที่สำคัญ***การแต่งหน้าครั้งนี้ห้ามใช่มือนะจ้ะแปรงอย่างเดียวเท่านั้น!! ถามมว่าใช้แปรงถูกมั้ย ตอบเลยว่าไม่!!ค่ะ แปรงเยอะมากกก พยายามหยิบอันที่ใช่มาใช้แต่น้ำก็ไม่รู้นะว่าถูกรึเปล่า5555+☺️☺️ ระหว่างแต่งพี่ๆจะคอยสังเกต และดูเราตลอดเวลา!! น้ำใช้เวลาแต่งไป20นาทีค่ะ พอแต่งเสร็จ กรรมการก็ให้เรามานั่งมองผลงานและให้คะแนนตัวเอง และพี่เค้าก็คอมเม้นเราว่าต้องปรับปรุงแก้ไขตรงไหนบ้างอะไรยังไง...หลักๆเลยน้ำพลาดที่เน้นปกปิดมากเกินไปค่ะ. งานผิวคือต้องโชว์ผิว เห็นริ้วรอยบ้างก็ไม่เป็นไร??? 😱😱😱ไม่ถนัดค่ะบอกเลยยยย555+ ก็เป็นอันเสร็จในขั้นตอนนี้ค่ะ เวลา ณ ตอนนั้น 17.30น. ยาวนานมากๆๆเลยนะ เพราะตอนนั้นมีคนที่แต่งหน้าเสร็จแค่4คนเอง เหลือทั้งในห้องสัมภาษณ์ และ ในห้องเมคอัพอีก...ถามว่าทราบผลเลยมั้ย??ยังค่ะ วันนี้ประกาศผลไม่ทัน อีก2-3วันจะติดต่อกลับมาแจังอีกที ใครที่มีโทรศัพท์โทรเข้ามานั่นแปลว่าคุณได้ทำแน่ๆแต่ถ้าไม่มีแปลว่าไม่ได้...
>>>ส่วนของน้ำ ทราบผลดีอยู่แล้วว่าไม่ได้แน่นอนๆ เพราะเราเหมือนได้ปฏิเสธไปกลายๆแล้วมั้ยตั้งแต่สัมภาษณ์ว่ายังเริ่มงานไม่ได้อ่ะ 😑😑
***มันช่างเป็นวันที่ยาวนานมากสำหรับการสัมภาษณ์งานตำแหน่ง BA ครั้งแรกของน้ำ
ที่มาเล่าเพราะอยากจะแชร์ให้พี่ๆเพื่อนๆน้องๆฟังว่ากว่าจะได้เป็นBA มันก็ไม่ได้ง่ายเลย เพราะต่อใหัผ่านได้งานก็อาจจะตัองทดลองงานอีกอยู่ดี 😭😭😭 จบปึ้งง!! ขอโทษด้วยนะคะที่น้ำไม่ได้ไปต่อ น้ำทำดีที่สุดแล้ว ลาก่อนค่าขุ่นแม่😂
>>>ปล.1.ที่มาแชร์เพราะน้ำอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เจอมากับตัวเอง อาจจะเขียนไม่ได้ดีมาก แต่อยากให้ทุกคนเห็นในภาพรวมๆว่าการจะไปยืน เค้าเตอร์แบรนด์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ต้องมีความ Strong!! Strong!! และ Strong!! ถึงจะอยู่รอดบนสังเวียนนั้น
>>>ปล.2 หลายคนถามว่าได้งานมั้ย น้ำคิดว่าตัวเองอาจจะไม่ได้ค่ะ 5555+
>>>ปล.3หวังว่ารายงานเล่มนี้คงจะมีประโยชน์กับท่ายผู้อ่านไม่มากก้น้อยค่ะ
**ฐาปนีย์รายงานนนน
สดจากสนามม้านางเลิ้งค่ะ! รักนะ..บัยยยยย
4 ครั้ง ภาษาอังกฤษ 在 Bookiezz Facebook 的最佳貼文
15ข้อ ที่คุณไม่รู้เกี่ยว Bookiezz ボオキズ
1. เคยไปประกวดรายการร้องเพลงชื่อดังด้วยหละ.... ได้เข้ารอบตัวแทนภาคด้วย (เกือบจะรอบขึ้นเวทีนั่นแหละนะ)
2. เคยเกือบทำบ้านไฟไหม้ 2 ครั้งด้วยกัน 55555 (ตอนเด็กๆ ชอบเล่นไฟมาก)
3. สมัยเรียนมัธยม คะแนนสังคมห่วยสุดในวิชาทั้งหมด แต่เข้ามหาวิทยาลัย ดันเข้าคณะ "รัฐศาสตร์"
4. ก็เลยเรียนเกือบจะห่วยสุดในวิชาที่เกี่ยวกับ รัฐศาสตร์ แต่วิชา Minor คะแนนดีจนเพื่อนๆอิจฉา...... ผมเรียน Minor ภาษาอังกฤษ ฮะ
5. สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เป็นประธานชมรมดนตรี ด้วยแหละฮะ
6. เคยเกือบเป็น เชียร์หลีดเดอร์ของคณะ ..... แต่ดันเลือกเป็น หลีดป่วง แทน 555555
7. เล่นเครื่องดนตรีเป็นหลายอย่างมาก แต่อ่านโน้ตไม่เป็น..... แท็บกีต้าร์ อะไรก็อ่านไม่เป็น อ่านเป็นแต่คอร์ดง่ายๆ
8. แต่งเพลงเก็บไว้ รวมทั้งสิ้นตอนนี้ 30 กว่าเพลง แต่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ออกสู่สายตาประชาชีจริงๆแค่ 6 เพลง
9. Beatbox เป็น
10. ชอบกัดเล็บ....... นิสัยแย่ๆที่แก้ไม่หายซักที ;w;
11. บ้านผมเปิดร้านกาแฟด้วยหละ ว่างๆมาลองชิมได้นะฮะ
12. ประสบอุบัติเหตุเกือบตายมา 2-3 ครั้ง
13. แพ้แมลงทุกชนิดบนโลกนี้ O[]O"
14. เคยอยู่วงคอรัสประสานเสียงสมัย ประถม ด้วยหละ ..... ตอนนั้นอยู่ในกลุ่มร้องโทนต่ำด้วย 55555
15. ............ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับผมอีกมั่งฮะ??